บอกเล่าข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 13-19 กุมภาพันธ์ 2560

บอกเล่าสรุปข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ กลับมาอีกครั้ง .......ในช่วงเทศกาลความรักที่เพิ่งผ่านพ้นไป ซึ่งเหตุการณ์ข่าวสารบ้านเมืองของเรายังคงเผ็ดร้อนเหมือนเคย เริ่มจากข่าวลุงวิศวะกับเด็กโจ๋ ได้ข้อสรุป จากการที่ตัวละครสำคัญอย่างคนขับรถตู้โผล่ออกมาซะที แถมยิ่งให้การไปมา กลายเป็นว่า ทั้งคนขับและกลุ่มเด็กๆจนมุมซะเอง (หลักฐานมัดตัวแน่นซะขนาดนั้น) สุดท้ายเลยยอมมอบตัวสารภาพทุกข้อกล่าวหา จากนั้นเป็นข่าวบันเทิง กับ การตรวจค้นเข้ายานแม่ ณ วัดจานบิน กันอย่างจริงๆจังๆ ซะที (หลักจาก DSI เล่นปาหี่มานาน.....ป่านนี้หลวง J หนีไปไหนต่อไหนแล้ว) แล้วก็สุดท้าย เป็นความขัดแย้งกระทบกระทั่งกันระหว่าง รบ. กับ ปชช. ท้องถิ่น เกี่ยวกับเรื่องของการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าถ่านหิน ซึ่งแต่ละฝั่งต่างก็มีเหตุผลที่พอรับฟังได้ คือ ฝั่งหนึ่งอยากให้มีพลังงานไฟฟ้าให้ใช้เพียงพอ ส่วนอีกฝั่งก็เกรงกลัวเรื่องของผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม อาจส่งผลต่อทัศนียภาพและการท่องเที่ยว จนยากที่จะตัดสินใจว่าใครถูกหรือผิด.....ซึ่งเรื่องนี้ก็อยากให้ทั้งสองฝ่ายพูดคุยกันให้เข้าใจถ่องแท้กันในทุกแง่มุม แล้วก็ขอให้รับฟังข้อเห็นต่างกันด้วย ไม่ใช่เอะอะอะไรไม่ยอมท่าเดียว กรูจะเอาแบบโน้นแบบนี้ให้ได้ แล้วข้อพิพาทที่เกิดขึ้นมันจะจบเมื่อไหร่กัน?

สำนักข่าว K-D News (kartoon-discovery.com)
สามารถอัพเดทข่าวสารเว็บเราได้ผ่าน Twitter และ Facebook


หากนำข่าวจากเราไปเผยแพร่ที่อื่น รบกวนใส่เครดิตให้กับทางเราด้วยครับ ขอบคุณครับ

New Release Comics of the Week: ผ่าพิภพตบหงส์ขาวถล่มแผง กับ ไททัน + ไฮคิว 21

การ์ตูนออกใหม่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มจาก ผ่าพิภพไททัน เล่ม 21 จัดเป็นมังงะอีกเรื่องที่ค่าย V โชว์ฟอร์มดีต่อเนื่อง ออกวางขายบนแผงอย่างไวสมใจ (ส่วนเรื่องที่ขยันดอง ก็ดองกันต่อไป)...การต่อสู้อันดุเดือดของกองทหารทีมสำรวจกับไรเนอร์, เบลทรูท และ "ไททันสัตว์" เอลวินกับอาร์มินเสี่ยงชีวิตของตัวเองเพื่อให้รีไวกับเอเลนสามารถปราบศัตรูได้ สิ่งที่คนที่เหลือรอดได้รับมาโดยแลกกับความเสียสละเพื่อนพ้องคือ...!?

ไฮคิว!! คู่ตบฟ้าประทาน เล่ม 21 ออกวางแผงอย่างไม่ทันตั้งตัว กับ ศึกตัดสินระหว่าง อีกาดำ คาราสุโนะ กับ หงส์ขาว ชิราโทริซาวะ (ไม่ใช่ Swansea นะ :P) .......ศึกชิราโทริซาวะเข้าสู่เซ็ตสุดท้ายคือเซ็ตที่ 5 อาการบาดเจ็บของสึกิชิมะ ทำให้คาราสุโนะ ขาดเสาหลักแนวป้องกัน ทีมจึงเปลี่ยนมาเล่มเกมรุก และจ้องทำแต้มแบบกัดไม่ปล่อยแถม!! ศึกดุเดือดที่ผู้เล่นต่างทุ่มพลังจนหมดตัวและก้าวข้ามขีดจำกัดไป กำลังเข้าสู่ฉากสุดท้าย ใครกันที่จะได้พืนบน "จุดสูงสุด" ของศึกคัดเลือกตัวแทนจังหวัดครั้งนี้!?

Gangsta เล่ม 1 นิลกับวอริคทำงานเป็น "นักรับจ้างสารพัด" อยู่ในเออกัสทูลัม เมืองที่ปกครองโดยมาเฟีย อเล็กซ์ อดีตโสเภณีที่เข้ามาร่วมกลุ่มด้วย จากเหตุการณ์หนึ่งเกิดความสนใจในความสัมพันธ์และความเป็นมาของทั้งสองคน เมืองอันดำมืด ยาลึกลับและเหล่าผู้คนที่ถูกเรียกว่าทไวไลท์... การ์ตูนแนวมาเฟียแฟนตาซีเปิดม่านแล้ว !

นักเขียนหน้าตาย นายโนซากิคุง เล่ม 4 "โนซากิ อุเมะทาโร่" วางแผน "ซากุระ จิโยะ" ใจเต้น เพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงในการเขียนการ์ตูนสาวน้อย ทว่าผลที่ออกมากลับเป็น ... !? พอคิดว่าจะเป็นการเล่นเกมจีบหนุ่มที่มีแต่พวกเด็กผู้ชาย & อีเวนต์ค้างคืนแต่ฉากกลับตาลปัตร กลายเป็นเทศกาลฤดูร้อนแห่งความรักไปซะได้ นอกจากนั้นน้องชายของโนซากิก็ยังปรากฏตัวเป็นครั้งแรกอีกด้วย !

Skip Beat! เล่ม 36 เคียวโกะได้พบกับคอนที่เป็นเจ้าชายภูตอีกครั้งบนเกาะกวม สิ่งที่คอนทำทิ้งไว้ก่อนจะจากไปทำให้เคียวโกะคิดหนักจนไม่กล้ารายงานเรน แต่แล้วในที่สุดก็...?ฝ่าฟันอนาคตที่เธอเลือกแล้วไปให้ได้ซะ ที่ญี่ปุ่น ชายผู้น่าเคียดแค้นคนนั้นตั้งท่ารอเคียวโกะอยู่ในที่ที่ไม่คาดคิด! พร้อมกับยังทิ้งข่าวของบุคคลซึ่งทำให้ใจเคียวโกะต้องหมองหม่นกับคำพูดที่ฟังดูมีความหมายลึกซึ้งเอาไว้...?

 

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ:

Ore Monogatari ไม่หล่อแต่เร้าใจ เล่ม 9,สโนไวท์ผมแดง เล่ม 13,โนรางามิ เทวดาขาจร เล่ม 12, K2 เล่ม  22 ,เกมเทวดา โครงการ 2 เล่ม 14,หงสาจอมราชันย์  เล่ม 58 ,GURREN LAGANN อภินิหารหุ่นทะลวงสวรรค์ เล่ม 9 , Prison School เล่ม 9,โอตาคุปั่นสะท้านโลก เล่ม 10

รูปภาพหน้าปก : amazon.co.jp



 Jiro Taniguchi นักเขียนการ์ตูนดีกรีรางวัลยอดเยี่ยมหลายสถาบัน ลาโลก ด้วยวัย 69 ปี

อ. Jiro Taniguchi นักเขียนการ์ตูนรุ่นเก๋า ผู้มีผลงานหลากหลายเรื่อง ทั้ง The Times of Botchan กับ Kodoku no Gourmet ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ ด้วยวัย 69 ปี เมื่อ 11 ก.พ. 2017

อ.Taniguchi เกิดที่เมืองทตโตริ ทางภาคตะวันตกของญี่ปุ่น เมื่อปี 1947 หลังจากประกอบอาชีพขายส่งเสื้อผ้าที่เกียวโต เขาก็ย้ายไปที่โตเกียว เพื่อตามรอยความฝันเป็นนักเขียนการ์ตูน ต่อมา อ.Taniguchi วัย 24 ปี ได้เปิดตัวผลงานการ์ตูนเรื่องแรก กับ Kareta Heya จากนั้นเขาได้พัฒนาฝีมือตนเองจนได้ลายเส้นอันเป็นเอกลักษณ์ รวมถึง การแรเงาโดยไม่ใช้หมึก เขามีผลงานการ์มากมายหลายเรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเจาะกลุ่มผู้อ่านวัยโต และจะนำเสนอเรื่องราวชีวิตประจำวันของผู้คนธรรมดา เป็นหลัก

ผลงานขึ้นชื่อของ อ.Taniguchi ประกอบด้วย The Times of Botchan ที่เขาได้ร่วมงานกับ Natsuo Sekikawa ที่เป็นการเล่าเรื่องราวชีวิตจริงของ Soseki Natsume ผู้แต่งนิยาย Botchan ตัวจริง สามารถคว้ารางวัลยอดเยี่ยมของสมาคมนักเขียนการ์ตูนญี่ปุ่น รวมถึง รางวัลชนะเลิศ Tezuka Osamu

ส่วนอีกเรื่องหนึ่งก็คือ Kodoku no Gourmet ที่ได้ Masayuki Kusumi มาร่วมงาน ในฐานะผู้แต่งเรื่อง เป็นเรื่องราวของเซลส์แมน นาม Gorō Inagashira ที่ตระเวนเดินทางไปทั่วญี่ปุ่น คอยชิมอาหารท้องถิ่นแถวมุมถนน โดยเรื่องนี้ ถูกดัดแปลงเป็นละครคนแสดงถึง 6 ซีซั่น ด้วยกัน

ส่วนผลงานอื่นๆ ก็มี Guardians of the Louvre (Les Gardiens du Louvre), The Summit of the Gods, A Distant Neighborhood , The Walking Man, A Zoo in Winter, The Ice Wanderer, The Quest for the Missing Girl, Samurai Legend, Hotel Harbour View, และ Benkei in New York ซึ่งเรื่องเหล่านี้มีการตีพิมพ์วางขายภาษาต่างประเทศ และบางเรื่องถูกนำไปดัดแปลงในรูปแบบคนแสดงด้วย เช่น The Summit of the Gods, A Distant Neighborhood เป็นต้น

อ.Taniguchi ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นนักเขียนการ์ตูนผู้มีผลงานเข้าชิงรางวัลระดับนานาชาติมากมาย โดยผลงานเขาเคยเข้าชิงรางวัล Ignatz Award เมื่อปี 2010 รวมถึง Eisner Award ช่วงปี 2007 - 2010 อีกทั้งเคยได้รับเครื่องอิสริยาภรณ์ชั้น Ordre des Arts et des Lettres ของรัฐบาลฝรั่งเศส ในฐานะที่สร้างคุณประโยชน์ในด้านศิลปศาสตร์และอักษรศาสตร์ เมื่อปี 2011 ซึ่งตัวเขายังได้รับการเคารพนับถือจาก Guillermo del Toro ผกก. หนัง Pacific Rim รวมถึงเคยร่วมงานกับศิลปินนาม Moebius กับผลงานเรื่อง Icaro (Icare)


แหล่งข่าว : Mainichi , Hachima Kikō , animenewsnetwork.com

 


ผู้แต่ง Kaiji กลโกงมรณะ เตรียมปิดฉากมังงะไพ่นกกระจอก Akagi หลังตีพิมพ์ยาวถึง 27 ปี

แม้จะเป็นมังงะเรื่องที่บ้านเราไม่ค่อยรู้จักนัก แต่ด้วยความเก่าแก่ขึ้นกรุรวมถึงเป็นผลงานของนักเขียนที่พอเห็นลายเส้นแล้วร้องอ๋อ ก็เลยนำมาเสนอกันซะหน่อย....ล่าสุด มีการแจ้งว่า Akagi -Yami ni Oritatta Tensai- ผลงานการ์ตูนแนวไพ่นกกระจอกของ อ.Nobuyuki Fukumoto ผู้แต่งเรื่อง Kaiji กลโกงมรณะ กำลังจะอวสานลงแล้ว ในวันที่ 1 ก.พ. 2018 หลังตีพิมพ์มาอย่างยาวนานต่อเนื่องถึง 27 ปีด้วยกัน!!!! ข่าวดังกล่าวมีการแจ้งมาจากโปสเตอร์ที่ติดตามสถานีรถไฟสาย Yamanote ขนาดใหญ่ 15 สถานี ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

Akagi เป็นเรื่องราวเกิดขึ้นในคืนพายุโหมกระหน่ำ เมื่อ Nangō ได้ดวลไพ่นกกระจอกกับแก๊งยากูซ่าเจ้าถิ่น และเขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่อง และหากเขาพ่ายอีก เขาจะต้องชดใช้ด้วยชีวิตของเขา จนกระทั่ง มีเด็กหนุ่มลึกลับนาม Shigeru Akagi ปรากฏตัวขึ้นแล้วขอสู้แทน และด้วยความสามารถของเด็กหนุ่มผู้นี้ ก็ช่วยให้ Nangō ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้ ตำนานบทใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้น....เรื่องนี้ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Kindai Mahjong ตั้งแต่ปี 1991 เป็นต้นมา ปัจจุบันออกวางขายฉบับรวมเล่มถึง 33 เล่ม และมียอดขายถึง 12 ล้านเล่ม ทั่วโลก ต่อมาถูกนำไปดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี เมื่อปี 2005 รวมถึง ละครซีรี่ย์ เมื่อปี 2015

แหล่งข่าวและรูปภาพ : Mantan Web , animenewsnetwork.com


New Game! เตรียมออกปฏิบัติการเล่นเกมต่อ กับซีซั่น 2

จากงานอีเว้นต์ New Game! Fan Thanks Event ~Next Level~ เมื่อ 12 ก.พ. ที่ผ่านมา ได้มีการแจ้งข่าวเซอร์ไพรส์แฟนๆอนิเม New Game! ว่า อนิเมสาวน้อยสร้างเกมจากมังงะของ Shōtarō Tokunō ได้รับไฟเขียวให้ทำซีซั่น 2 แล้ว

New Game! ตีพิมพ์ในนิตยสาร Manga Time Kirara Charat ตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา เป็นเรื่องราวของ Aoba Suzukaze ที่ตัดสินใจทำงานในบริษัทเกม Eaglejump หลังเรียนจบ ม.ปลาย ซึ่งที่นั่นเธอได้ร่วมงานกับสาวๆหลายคน ซึ่งรวมถึงคนที่เคยทำเกมสุดโปรดให้ Aoba ตั้งแต่ตอนที่เธอยังเรียนอยู่ มาเป็นพนักงานรุ่นพี่ของเธอที่บริษัทแห่งนี้

โดยอนิเมซีซั่นแรก จำนวน 12 ตอน ของเรื่องนี้ ออกฉายเมื่อ ก.ค. 2016 อย่างไรก็ตาม หากใครซื้อ BD/DVD ของอนิเมเรื่องนี่ครบทั้ง 6 แผ่น ก็จะได้รับใบสั่งซื้อ OVA ชุดใหม่ ซึ่งถือเป็นตอนที่ 13 ของอนิเมเรื่องนี้



แหล่งข่าว : Comic Natalie , Hachima Kikō , animenewsnetwork.com


Robomasters The Animated Series โปรเจ็คอนิเมร่วมสร้างระหว่าง ญี่ปุ่น-จีน

Da-Jiang Innovations (DJI) บริษัทผู้ผลิตโดรนรายใหญ่ของจีนจากเสิ่นเจิ้น ได้จับมือกับ Dandelion สตูดิโออนิเมจากญี่ปุ่น ด้วยการร่วมด้วยช่วยทำโปรเจ็คอนิเมชุด Robomasters The Animated Series

อนิเมดังกล่าวอิงมาจากการแข่งขันประดิษฐ์หุ่นยนต์ระดับนักเรียน นักศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่ง DJI เป็นผู้จัด ซึ่งการประกวดปี 2016 จัดขึ้นที่เสิ่นเจิ้น เป็นเวลา 5 วัน เมื่อ ก.ย. 2016 โดยผู้ชนะการประกวด ได้รับทั้งเงินรางวัลแล้วก็โอกาสเข้าร่วมงานกับ DJI อนึ่ง การแข่งในปี 2017 นี้ ถือเป็นการแข่งครั้งที่ 3 แล้ว

ส่วนเนื้อหาของอนิเม เป็นเรื่องเหล่าของเหล่านักศึกษาเด็กเนิร์ดที่กำลังเตรียมตัวเพื่อเข้าแข่งขันทัวร์นาเม้นต์ประดิษฐ์หุ่นยนต์ ซึ่งพวกเขาได้รวมพลังกันค้นหาความกล้า สิ่งที่พวกเขาเรียกร้อง ที่อยู่เบื้องหลังของกงล้อที่กำลังหมุนเดินอยู่ โดยจะเน้นนำเสนอในรูปแบบ CG เป็นหลัก

Dandelion ก่อตั้งเมื่อปี 2007 มีผลงานอนิเมมากมาย รวมถึง March comes in like a lion กับ หนังอนิเม Popin Q อีกทั้งยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง 3DCG ให้กับอนิเม Haikyu!!, Miss Hokusai, The Empire of Corpses อีกด้วย



แหล่งข่าวและรูปภาพ : animeanime.jp , animenewsnetwork.com

 

 


Chiisakobee, Rikon Club คว้ารางวัลจากงานเทศกาลการ์ตูนนานาชาติ Angoulême ครั้งที่ 44

งานเทศกาลการ์ตูนนานาชาติ Angoulême ครั้งที่ 44 ได้มีการประกาศผลรางวัลชนะเลิศในสาขาต่างๆแล้ว เมื่อ ม.ค. 2017 ที่ผ่านมา ปรากฏว่า ในครั้งนี้ มีผลงานการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง Rikon Club ของ อ.Kazuo Kamimura คว้ารางวัลชนะเลิศในสาขา Best Heritage Comic (คอมิคควรค่าแห่งการมรดกตกทอด) ในขณะที่ ฉบับรวมเล่มเล่ม 4 ของเรื่อง Chiisakobee ของ อ. Minetarō Mochizuki คว้ารางวัลในสาขา Fauve D'Angoulême - Prix de la Série (Prize for a Series) ซึ่งเป้นรางวัลที่มอบให้แก่ผลงานการ์ตูนยอดเยี่ยมที่สุด โดยเอาชนะคู่แข่งอย่าง Inuyashiki, My Brother's Husband (Otōto no Otto),และ Sunny

ขณะที่ Hozunde! Papamokko กับ My Hero Academia ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสาขาคอมิคสำหรับเยาวชนยอดเยี่ยม

งานเทศกาลการ์ตูนนานาชาติ Angoulême จัดเป็นงานเทศกาลการ์ตูนนานาชาติที่เก่าแก่ที่สุดในโลก โดยจัดขึ้นตั้งแต่ปี 1974 เป็นต้นมา ซึ่ง อ.Katsuhiro Otomo ผู้แต่ง Akira จัดเป็นนักเขียนชาวญี่ปุ่นคนเดียวที่เคยคว้ารางวัล Grand Prix d'Angoulême รางวัลใหญ่ที่สุดของงานดังกล่าว เมื่อปี 2015 รวมถึงยังเป็นนักเขียนการ์ตูนชาวต่างชาติ(นอกเหนือฝรั่งเศส) 1 ใน 5 คน ที่เคยค้ารางวัลดังกล่าวอีกด้วย

ซ้าย Rikon Club , ขวา Chiisakobee


แหล่งข่าว : animenewsnetwork.com

 


Free! ลงสระต่อ กับฉบับนิยายชุดล่าสุด

Kyoto Animation ได้แจ้งข่าวดีให้แก่แฟนคลับหนุ่มนักว่ายน้ำจ้าวสระ Free! ว่า Free! กำลังจะมีการตีพิมพ์ในรูปแบบนิยาย ภายใต้แบรนด์ KA Esuma Bunko มีกำหนดออกวางขายในเดือน มิ.ย. นี้ นิยายชุดดังกล่าวจะได้ Masahiro Yokotani คนเขียน-ดูแลบท ให้กับฉบับอนิเมของ Free! รับหน้าที่แต่งเรื่องหลัก ขณะที่ Futoshi Nishiya คนออกแบบตัวละครฉบับอนิเม เป็นผู้วาดภาพประกอบ อีกทั้ง นิยายชุดใหม่นี้จะมีการเสริมเรื่องราวไซด์สตอรี่ใหม่ๆ รวมถึง ภาพประกอบใหม่ๆ เข้าไปด้วย

อนิเม Free! ดัดแปลงมาจากนิยายชุด High Speed! ของ Kōji Ōji ซึ่งภายหลังนิยายต้นฉบับของ Ōji ยังได้รับการดัดแปลงเป็นหนังอนิเมชุด High Speed! -Free! Starting Days- ออกฉายเมื่อ ธ.ค.2015...ขณะที่ อนิเม Free! ถูกทำเป็นอนิเมซีรี่ย์ทางทีวี 2 ซีซั่น ออกฉายเมื่อปี 2013 กับ 2014 (Free! Eternal Summer) ตามลำดับ

อนึ่ง เรื่องราวของ Free! จะเป็นเรื่องราวของบรรดาตัวเอกตอนอยู่ม.ปลาย ขณะที่ High Speed! จะเป็นเรื่องราวของบรรดาตัวเอกสมัยอยู่ ม.ต้น




แหล่งข่าวและคลิป : animenewsnetwork.com



ช็อค!!! Fumika Shimizu นักแสดงนำหญิงจากคนแสดง Tokyo Ghoul ประกาศลาวงการบันเทิง
อุทิศตัวเข้าร่วมลัทธิ Happy Science

ข่าวสุดเซอร์ไพรส์ต้อนรับวาเลนไทน์ของวงการบันเทิงญี่ปุ่น(และวงการการ์ตูนอนิเม) เมื่อ Fumika Shimizu นักแสดงสาววัย 22 ปี ผู้กำลังจะมีบทบาทในหนังคนแสดง Tokyo Ghoul จากบทบาทของ Touka Kirishima ได้ประกาศอำลาวงการบันเทิงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับเรียกร้องให้บริษัทเอเจนซี่ต้นสังกัด ยกเลิกสัญญาของเธอ เช่นกัน ตามรายงานระบุว่า ทางต้นสังกัดไม่ปฏิเสธในการเรียกร้องค่าเสียหาย ในกรณีที่เธอปฏิเสธไม่ทำงานที่เธอได้รับ

อีกทั้ง Shimizu ยังออกมายอมรับว่า เธอเป็นหนึ่งในสาวกของลัทธิความเชื่อ Happy Science หรือ ศาสตร์แห่งความสุข ตั้งแต่วัยเด็ก ซึ่งเป็นช่วงที่พ่อแม่ของเธอหย่าร้างกัน โดยทั้งโฆษกของลัทธิดังกล่าว รวมถึง ทนายความ ได้ร่วมแถลงข่าวนี้ไปพร้อมกับแสดงหลักฐานคือจดหมายระบายความรู้สึกที่เธอเป็นผู้เขียน

เนื้อความในจดหมาย ได้ระบุว่า :

"ชั้นอยู่ในวงการบันเทิงมานาน 8 ปี แต่ในใจลึกๆของชั้นนั้นรู้สึกไม่ชอบใจกับงานที่ทำนัก ชั้นไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตได้อย่างถูกต้อง แถมยังทำให้ชั้นรู้สึกตึงเครียดทุกวัน ดั้งนั้น ชั้นอยากจะออกบวชค่ะ"

การตัดสินใจของเธอครั้งนี้ เธอยอมรับว่า ผู้คนรอบข้างรวมถึงผจก.ส่วนตัว ต่างก็คัดค้านกับการตัดสินใจของเธอ แต่เธอก็กล่าวว่า "ชั้นอยากจะเชื่อในสิ่งที่ยังไม่สามารถยืนยัน หรือ มีการพบเห็น อย่างเช่น พระผู้เป็นเจ้า , พระพุทธเจ้า แล้วก็ ชีวิตหลังความตาย และชั้นอยากจะอุทิศชีวิตของชั้นให้กับพระเจ้า หลังจากที่ชั้นได้ตัดสินใจไปแล้ว ชีวิตของชั้นคงจะสงบสุขยิ่งขึ้นไปค่ะ"

โดยทางลัทธิดังกล่าวอ้างว่า พวกเขาได้จัดการตั้งชื่อใหม่ของเธอ ภายใต้ลัทธินี้เรียบร้อยแล้ว เช่นกัน

หมายเหตุ : แหล่งข่าวจาก crunchyroll ไม่ได้ระบุชื่อลัทธิศาสนาที่ Shimizu เข้าร่วม ระบุเพียงว่า เป็นลัทธิศาสนาที่ตั้งอยู่ในกรุงโตเกียว ขณะที่สื่อญี่ปุ่นต้นทาง รวมถึงสื่อต่างประเทศหลายแห่ง ต่างระบุว่า เป็นลัทธิ Happy Science

แหล่งข่าว : oricon , crunchyroll.com


หนังคนแสดง Tokyo Ghoul ทั้ง 2 ภาค ส่อเค้าสะดุด จากการประกาศลาวงการของ Fumika Shimizu !?

ต่อเนื่องจากข่าวประกาศอำลาวงการบันเทิงอย่างสายฟ้าแลบของ Fumika Shimizu นักแสดงสาววัย 22 ปี ผู้รับบทเป็น Touka ในหนังคนแสดง Tokyo Ghoul ที่มีกำหนดจะออกฉายช่วงฤดูร้อน 2017 นั้น ได้ส่งผลกระทบถึงทีมผู้สร้างหนัง Tokyo Ghoul เข้าอย่างจัง เพราะล่าสุด มีการเปิดเผยว่า หนังคนแสดงจากการ์ตูนแอ็คชั่นเขย่าขวัญเรื่องดังของ อ.Sui Ishida มีแผนการทำหนังภาคต่อด้วย โดยแหล่งข่าวจาก นสพ.Daily Sports ฉบับวันวาเลนไทน์ ระบุว่า Shimizu อยู่ในระหว่างการเจรจาให้กลับมารับบทเป็น Touka ในหนังภาคต่อของ Tokyo Ghoul ด้วย ซึ่งข่าวภาค 2 ของหนังคนแสดง Tokyo Ghoul ถูกทางทีมงานเก็บเอาไว้เป็นความลับ และมีแผนเปิดเผยข่าวนี้อย่างเป็นทางการ หลังจากหนังภาคแรกของเรื่องนี้ออกฉายบนโรงที่ญี่ปุ่น 29 ก.ค. 2017

จากการอำลาวงการของ Shimizu นี้เอง ก็อาจส่งผลต่อหนังคนแสดงทั้ง 2 ภาค ของ Tokyo Ghoul เข้าอย่างจัง โดยเฉพาะกับภาคสองนั้น อาจมีสิทธิ์ล้มพับได้เช่นกัน (ส่วนภาคแรก อาจมีปัญหาบ้าง ในส่วนของการเดินสายโปรโมทหนัง) อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการประกาศเลื่อนฉาย หรือ ยกเลิก หนังคนแสดงทั้ง 2 ภาคของ Tokyo Ghoul แต่อย่างใด ซึ่งทวิตเตอร์หลักของหนัง ได้พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ว่า

เราจะรอดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกันอย่างใกล้ชิด พร้อมกับปรึกษาพูดคุยกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยจะมีการประกาศกันบนเว็บไซต์ของตัวหนังอย่างเร็วที่สุด เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทุกท่านเข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นของเรา

ทีมงานผู้สร้างหนัง Tokyo Ghoul

นอกจาก Tokyu Ghoul แล้ว Shimizu จะมีบทบาทการแสดงในหนังเรื่อง Ankoku Joshi กัน Warau Manekineko ที่มีกำหนดเข้าฉายในญี่ปุ่น วันที่ 1 เม.ย. กับ 29 เม.ย. นี้ ตามลำดับ โดยเฉพาะกับ Warau Manekineko นั้น ยังถ่ายทำไม่เสร็จ และเป็นการยากที่จะเรียกเธอให้กลับมาแสดงในฉากที่เหลือของหนังได้
รวมถึงหนัง Dorobou Yakusha (Theif Actor)  ที่มีรายงานว่า Shimizu เข้าฉากถ่ายทำช่วงวันที่ 26 ม.ค. - 3 ก.พ. 2017 เท่านั้น นอกนั้นก็หายตัวออกไปจากกองถ่ายเลย ซะจนทีมงานของหนังดังกล่าว ตัดสินใจเปลี่ยนตัวนักแสดง เป็น Anna Ishibashi แทน และจะมีการถ่ายทำแก้ไขใหม่ โดยเฉพาะกับฉากที่ Shimizu ปรากฏตัว ซึ่งคาดว่ามูลค่าความเสียหายจากการที่เธอเบี้ยวกองถ่ายหนังเรื่องนี้ ก็ราวๆ 10 ล้านเยนด้วยกัน

แต่ถึงกระนั้น อนิเมสั้น 2 ตอนจบชุด The Dragon Dentist ที่เธอได้มีส่วนร่วมในการพากย์เสียงเป็น Nonoko Kishii ยังคงมีแผนออกฉายในวันที่ 18 กับ 25 ก.พ. ตามเดิม


แหล่งข่าว :  เว็บไซต์หลักหนังคนแสดง Tokyo Ghoul , Daily Sport , crunchyroll.com

 



ประตูสารพัดที่ จาก โดราเอมอน ได้รับการทดสอบ ผ่านระบบ VR...เตรียมเปิดสาธิตแก่คนทั่วไป เร็วๆนี้

ความฝันของมวลมนุษย์ที่จะได้สัมผัสกับการไปไหนมาไหนสะดวกรวดเร็วขึ้นผ่าน ประตูสารพัดที่ จากการ์ตูน โดราเอมอน ก็เริ่มใกล้เคียงความจริงมากขึ้น เมื่อ Bandai Namco Entertainment ได้โพสต์วีดีโอ ซึ่งเป็นตัวอย่างการสาธิตการใช้ ประตูสารพัดที่ ของพี่ม่อน ด้วยระบบ VR โดยการทดลองดังกล่าวเป็นหนึ่งในโปรเจ็ค Project i Can project ของ Bandai Namco ที่มีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ณ DiverCity Tokyo Plaza เม.ย. นี้

การสาธิตดังกล่าว เกิดขึ้น เมื่อ ธ.ค. 2016 และจะเปิดโอกาสให้ผู้คนทั่วไป (อายุ 13 ปีขึ้นไป) มาร่วมสาธิต ช่วงวันที่ 20 ก.พ. - 14 เม.ย. 2017 (ยกเว้นวันอังคาร , 18-20 มี.ค.2017) โดยผู้ร่วมสาธิตจะสวมแว่นตา VR และอุปกรณ์ข้างเคียง เพื่อมองเห็นฉากรอบๆตัว กลายเป็นห้องของโนบิตะ และพอมองไปที่ประตูสารพัดที่ที่กำลังเปิดอยู่ ก็พบว่า ประตูได้พาเราไปยังขั้วโลกใต้ แถมขั้วโลกใต้(ภาพ VR) ก็มีการจำลองการสั่นไหวจากลมและเสียงด้วย ซึ่งการสาธิตในครั้งนี้ ยังเป็นการโปรโมทหนัง Eiga Doraemon: Nobita no Nankyoku Kachi Kochi Daibōken (Doraemon the Movie 2017: Great Adventure in the Antarctic Kachi Kochi) หนังชุดที่ 37 ของโดราเอมอน ไปในตัว เช่นกัน

หนัง Eiga Doraemon: Nobita no Nankyoku Kachi Kochi Daibōken มีกำหนดออกฉายที่ญี่ปุ่น 4 มี.ค. 2017 และเพื่อเป็นการโปรโมทหนังภาคดังกล่าว ทางห้าง Tokyo Solamachi ได้จัดกิจกรรมโปรโมทหนังต่างๆ ทั้งในส่วนของ ไอซ์สเก็ต ช่วง 4 ก.พ. - 5 มี.ค. 2017 แล้วก็ ร้านคาเฟ่เฉพาะกิจ ( Doraemon Kachi Kochi Cafe) ช่วง 4 ก.พ. - 7 พ.ค. 2017





แหล่งข่าวและคลิป : animenewsnetwork.com

 


In This Corner of the World โกยตังค์ทะลุ 2 พันล้านเยนแล้ว

Kono Sekai no Katasumi ni หรือ In This Corner of the World หนึ่งในหนังอนิเมเรื่องเยี่ยมที่ไม่ได้มีกระแสหวือหวามากนัก แต่ก็เป็นหนังที่ได้รับการตอบรับอย่างเรียบๆเคียงๆ อย่างต่อเนื่อง จนในที่สุด หนังอนิเมจากมังงะของ อ.Fumiyo Kouno เรื่องนี้ สามารถทำเงินได้ทะลุ 2 พันล้านเยนแล้ว เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (11-12 ก.พ. 2017) หลังจากออกฉายบนโรงที่ญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง 14 สัปดาห์ติดต่อกัน นัยตั้งแต่ฉายวันแรก 12 พ.ย. 2016 ปัจจุบัน ตัวหนังรั้งอันดับ 8 บน Box Office ญี่ปุ่น ช่วงสุดสัปดาห์ล่าสุด และยังไม่เคยตกจาก 10 อันดับแรก บน Box Office เลย

10 อันดับหนังทำเงิน Box Office ญี่ปุ่น วันที่ 11-12 ก.พ. 2017

1 (new). "Aibou-Gekijyoban IV-"

2 (new). "Survival Family"

3 (1). "Miss Peregrine's Home for Peculiar Children"

4 (3). "Kiseki - Ano Hi no Sobito"

5 (2). "Doctor Strange"

6 (4). "Kimi no Na wa."

7 (new). "Allied"

8 (7). "Kono Sekai no Katasumi ni"

9 (5). "Kimi to Hyakkaime no Koi"

10 (6). "Koisaika Miyampoto"


แหล่งข่าว :   crunchyroll.com



Makoto Shinkai ยกย่องสตูดิโอจากแดนกิมจิ ในฐานะหนึ่งในเบื้องหลังสำคัญของการผลิตอนิเมญี่ปุ่น

Makoto Shinkai ผกก.อนิเมจาก your name., 5 Centimeters Per Second, The Garden of Words ได้ไปเยือนเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2017 เพื่อมาปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์ทางช่อง SBS ของแดนกิมจิ ในวันรุ่งขึ้น ก่อนที่จะปรากฏตัวในงานแถลงข่าวที่กรุงโซล วันที่ 19 ก.พ. นี้ โดยในระหว่างการเยี่ยมเยือนเกาหลีใต้ Shinkai ได้กล่าวถึงความสำคัญของสตูดิโอของเกาหลีใต้ ที่มีต่ออนิเมญี่ปุ่น ซึ่ง ผกก.Shinkai ได้ตอบคำถามจากพิธีกรรายการทีวีดังกล่าว เกี่ยวกับการที่มีชื่อคนเกาหลีปรากฏอยู่ในเครดิตหนัง your name งานล่าสุดของเขา :

สาวเกาหลีผู้นี้ คือ หนึ่งในสต๊าฟหลักของสตูดิโอของผมมาเป็นเวลาถึง 10 ปีแล้ว ผมอยากจะบอกว่าอนิเมชั่นญี่ปุ่นไม่สามารถที่จะแยกห่างจากสตูดิโออนิเมชั่นของเกาหลีได้ หากไม่มีสตูดิโอจากเกาหลี การสร้างอนิเมชั่นหนึ่งเรื่องจะกลายเป็นงานยากทันที ซึ่งทางเกาหลีได้แบกรับส่วนสำคัญของอนิเมญี่ปุ่นเอาไว้บนบ่าแล้ว

แม้ว่าจะเป็นเรื่องปกติที่อนิเมญี่ปุ่นหลายต่อหลายเรื่องต่างใช้บริการทีมงานสต๊าฟชาวเกาหลีใต้เป็นจำนวนมาก แต่พวกเขาเหล่านี้กลับเป็นที่รับรู้น้อยมากในญี่ปุ่น แถมอนิเมที่ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัทเกาหลีใต้ล้วนๆ ก็ไม่ได้รับความนิยมในญี่ปุ่นอย่างกว้างขวางเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม นสพ.Sankei Shimbun เพิ่งจะตีพิมพ์บทความวิพากษ์วิจารณ์หนังคนแสดงจากเกาหลีใต้เรื่อง Gunkanjima (Battleship Island) ในเชิงแง่ลบ โดยระบุว่าเป็นหนังต่อต้านญี่ปุ่น ซึ่งหนังดังกล่าว แสดงโดย Song Joong-ki และ So Ji-sub มีกำหนดออกฉายในเดือน ก.ค.นี้ โดยเป็นเรื่องราวของพลเรือนชาวเกาหลีใต้ที่ถูกเกณฑ์ให้ไปทำงานเหมืองถ่านหินที่ตั้งบนเกาะ Hashima จ.Nagasaki ของญี่ปุ่น ช่วงปี 1930 จนสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 (ภายหลังเกาะ Hashima ก็กลายสภาพเป็นเกาะร้างที่ขึ้นชื่อในความน่ากลัว จนถูกนำไปสร้างเป็นหนังเขย่าขวัญหลายเรื่องในเวลาต่อมา)

เกี่ยวกับประเด็นหนังข้างต้น Shinkai ได้ตอบกลับว่า เขาไม่ค่อยรู้จักหนังเรื่องนี้ดีนัก แต่ "ผมคิดว่า เราควรจะเริ่มต้นด้วยหลักแนวคิดมนุษยนิยม แล้วพูดในทำนองว่า 'ประเทศญี่ปุ่นไม่ยินยอม แต่ผมชื่นชอบวัฒนธรรม' หรือ 'ประเทศเกาหลีไม่ยินยอม แต่ผมชื่นชอบหนังเกาหลีนะ' "

จากนั้น ผกก.Shinkai ได้กล่าวถึงแฟนๆชาวเกาหลีใต้:

พวกเราใช้ชีวิตอยู่ใกล้ๆกันจริงๆนพ ราวกับประเทศเพื่อนบ้านเลย และผมคิดว่า เราได้แบ่งปันคุณค่าอะไรต่อมิอะไรหลายอย่างร่วมกันนะ สิ่งที่คนในเกาหลีคิดว่าอร่อย สิ่งที่พวกเขาคิดว่ามันสวยงาม ซึ่งที่นั่นก็มีสิ่งสวยๆงามๆคล้ายๆกัน มันก็เหมือนกับหนังที่เราคิดว่ามันสนุกนะแหละ ผมมั่นใจว่า ด้วยผลงานชิ้นนี้แหละ (your name) ที่ทำให้ชาวเกาหลีสามารถสนุกไปกับมัน เช่นกัน

เกาหลีใต้ได้ยกเลิกแบนหนังญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี 1998 เป็นต้นมา โดย your name สามารถทำยอดขายตั๋วได้มากกว่า 3.5 ล้านใบ ในเกาหลีใต้ ซึ่งถือเป็นหนังญี่ปุ่นที่ทำยอดขายสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเกาหลีใต้ เท่าที่เคยมีมา โดย Shinkai ได้เดินทางกลับไปที่เกาหลีใต้อีกครั้ง เพราะเขาได้รับปากว่า จะมาที่นี่อีก หากหนัง your name ทุบสถิติยอดขายตั๋ว 3.1 ล้านใบ ของ Howl's Moving Castle ในเกาหลีใต้ลงได้

your name. ออกฉายที่เกาหลีใต้ เมื่อ 4 ม.ค. 2017 สามารถขายตั๋วได้ 1.18 ล้านใบ และรายได้ 8.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วง 5 วันแรกของการออกฉายหนัง โดยครองอันดับ 1 Box Office แดนกิมจิ 2 สัปดาห์รวด ซึ่งตัวหนังสามารถโกยรายได้อันดับ 1 ในวันแรกของการออกฉายที่เกาหลีใต้ ด้วยรายได้ 100 ล้านเยน ซึ่งก่อนหน้านี้ มี Howl's Moving Castle เป็นอนิเมจากญี่ปุ่นที่เคยขึ้นถึงอันดับ 1 ที่เกาหลีใต้ เมื่อปี 2004 อีกทั้ง your name ออกฉายครั้งแรกในเกาหลีใต้ถึง 555 โรง ซึ่งถือเป็นสถิติหนังญี่ปุ่นที่มีจำนวนรอบสูงที่สุดในเกาหลีใต้ เช่นกัน

your name ยังได้ออกฉายในงานเทศกาลหนังอนิเมชั่นนานาชาติ Bucheon ครั้งที่ 18 เมื่อ ต.ค. 2016 โดยคว้ารางวัลในสาขา Special Distinction Prize และ Audience Prize ซึ่งถือเป็นหนังอนิเมชั่นเรื่องแรกที่สามารถคว้ามาได้ทั้ง 2 รางวัลดังกล่าว

แหล่งข่าว : news yahoo , yaraon! , animenewsnetwork.com



Hiroyuki Takei ล้มเลิกแผนทำอนิเมชุดใหม่ Shaman King รับไม่ได้ที่นักพากย์กับดนตรีประกอบไม่เหมือนเดิม

ในเมื่อมังงะเรื่องนี้มีการเปลี่ยนฉากจบ (ปาหมอน)ในตำนานไปแล้วทั้งที จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่แฟนๆอนิเม Shaman King หรือ ราชันย์แห่งภูต หวังอยากจะเห็นอนิเมชุดใหม่ล่าสุด หรือ ฉบับรีเมคใหม่ ดีกว่าเดิม ของเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน.....ทว่า จากทวีตล่าสุดของ อ. Hiroyuki Takei ผู้แต่ง Shaman King คงทำให้แฟนๆของ อาซากุระ โย กับ พรรคพวก แห่งปาหมอนคิง เอ้ย!!! Shaman King ถึงกับฝันสลายล้มครืน เมื่อเขาเผยว่า เขาได้ล้มเลิกแผนการทำอนิเมชุดใหม่ของ Shaman King เนื่องจากตัวอนิเมจะไม่สามารถใช้บริการนักพากย์คนเดิม รวมถึง ดนตรีประกอบเดิมได้ ถึงกระนั้น เขายังคงมีความหวังกับโอกาสในครั้งต่อๆไป

เรียนตามตรงนะครับ ก็มีการพูดคุยเกี่ยวกับอนิเม( Shaman King) ฉบับรีเมคกันอย่างจริงจังแล้ว แต่....พอมารู้ว่า เราไม่สามารถที่จะใช้นักพากย์ กับ ดนตรีประกอบ จากอนิเมชุดเก่าได้ ผมก็เลยบอกปฏิเสธไป จนกระทั่งถึงตอนนี้ ถือเป็นเรื่องดีที่ยังมีโอกาสในครั้งต่อๆไปครับ

มังงะ Shaman King ตีพิมพ์ช่วงปี 1998-2004 ก่อนจะมีการนำไปจัดพิมพ์ใหม่โดยเปลี่ยนตอนจบตำนานให้เป็นตอนจบที่แท้จริง เมื่อปี 2009 ต่อมาถูกนำไปดัดแปลงเป็นอนิเมทีวีจำนวน 64 ตอน ออกฉายช่วงปี 2001-2002 โดยเรื่องนี้ มีการเขียนต่อกับซีรี่ย์รวมเรื่องสั้นชุด Shaman King 0 ตีพิมพ์ในนิตยสาร Jump Xเมื่อ พ.ย. 2011 และ Shaman King Flowers ช่วงปี 2012 - 2014

อ.Takei ยังมีผลงานเรื่องอื่นๆ อาทิ Ultimo กับ Jumbor ปัจจุบันกำลังมีผลงานการ์ตูนเรื่อง Nekogahara

แหล่งข่าว :  animenewsnetwork.com

 


'การผจญภัยของคิโนะ' กำลังจะถูกเขียนในรูปแบบมังงะครั้งแรก มี.ค. 2017

นิตยสาร Shonen Magazine Edge ฉบับ มี.ค ได้แจ้งว่า ไลท์โนเวลของ Keiichi Sigsawa กับ Kouhaku Kuroboshi ชุด Kino no Tabi - the Beautiful World หรือ การผจญภัยของคิโนะ กำลังจะถูกนำไปเขียนในรูปแบบมังงะครั้งแรก โดย อ.Iruka Shiomiya มีกำหนดตีพิมพ์ลงในนิตยสารดังกล่าว ฉบับ เม.ย. ที่จะวางขายวันที่ 17 มี.ค. 2017

การผจญภัยของคิโนะ เป็นเรื่องราวของ คิโนะ ผู้เดินทางร่อนเรไปที่ไหนมาไหน เพื่อสำรวจวัฒนธรรมกับชีวิตผู้คนท้องถิ่นนั้น โดยมี Hermes มอเตอร์ไซต์พูดได้ เป็นเพื่อนร่วมเดินทาง ซึ่งในการเดินทางแต่ละหนแห่งของเธอ เธอมีเวลาอยู่เที่ยวเพียง 3 วัน เท่านั้น

ไลท์โนเวลชุดนี้ ตีพิมพ์ครั้งแรก เมื่อปี 2000 ในนิตยสาร Dengeki HP และเพิ่งวางขายฉบับรวมเล่ม 20 ไป เมื่อ ต.ค. 2016 ต่อมาถูกนำไปดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี 13 ตอน ออกฉายเมื่อปี 2003 และภาพยนตร์ 2 ชุด เมื่อปี 2005 กับ 2007 อีกทั้งยังมีการตีพิมพ์นิยาย spin-off ชุด Gakuen Kino ช่วงปี 2006-2011 ซึ่ง Gakuen Kino ถูกนำไปเขียนเป็นมังงะลงนิตยสาร Dengeki G's Festival Comic เมื่อปี 2010


แหล่งข่าวและทวีต : Keiichi Sigsawa's Twitter , animenewsnetwork.com


ประธาน AT-X เปรย AI จะมีบทบาทแทนที่มนุษย์ ในการสร้างอนิเม

เมื่อ 9 ก.พ. 2017 Keisuke Iwata ประธานของสถานีทีวี AT-X ได้มางานเสวนาที่จัดขึ้น ณ มหาวิทยาลัย Digital Hollywood กรุงโตเกียว โดยเขาได้พูดถึงแนวโน้มที่จะมีการเปลี่ยนแปลงไปใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ในการสร้างอนิเมมากขึ้น หลังจากที่ AI เข้ามามีบทบาทในวงการอนิเมมานานถึง 1 ทศวรรษ ซึ่ง Iwata กล่าวว่า "มีความเป็นไปได้ที่ขั้นตอนการผลิตอนิเมจะถูกแทนที่ด้วย AI ทั้งหมด"

Iwata ผู้เคยเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับอนิเมดังหลายเรื่อง อาทิ Pokémon, Prince of Tennis, และ Shaman King โดยเข้าร่วมทำงานให้กับ TV Tokyo บริษัทแม่ของ AT-X เมื่อปี 1979 ซึ่งในขณะนั้น ใช้ชื่อช่องว่า Tokyo Channel 12 ได้กล่าวว่า เขาเชื่อว่า มีความเป็นไปได้ที่ AI จะเข้ามาแทนที่กำลังแรงงานของมนุษย์ ในการผลิตอนิเมขั้นตอนต่างๆ โดยความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ถือเป็นกุญแจสำคัญ ในการจัดการขั้นตอนต่างๆของการสร้างอนิเม อย่างไรก็ตาม ด้วยเทคโนโลยี AI ที่ล้ำสมัยขึ้น สามารถเปลี่ยนรูปแบบการผลิตอนิเมชั่นในอนาคตได้ ซึ่งหลักการ Deep learning ที่เป็นการให้เครื่องจักรกลสามารถเรียนรู้ด้วยอัลกอริทึ่มที่เป็นรูปแบบข้อมูล abstract เป็นหลัก คือหนึ่งในเทคนิคที่ AI สามารถนำไปใช้ในการผลิตเนื้องานที่ละเอียดซึ่งใกล้เคียงกับแรงงานของมนุษย์

ย้อนไปเมื่อปี 2016 มีบริษัทหลายแห่ง ได้เริ่มค้นคว้า AI ในการมีส่วนร่วมเข้ามามีบทบาทการทำงานกราฟิก งานอนิเม เช่น Microsoft กับ Dutch bank ING ได้ร่วมกันจัดทำโปรเจ็ค The Next Rembrandt AI แล้วก็ โปรแกรม 346 paintings ที่ช่วยผลิตงานศิลปะสไตล์การระบายสียุคศตวรรษที่ 17

อย่างไรก็ตาม ก็มีเทคโนโลยีรูปแบบใกล้เคียง ที่จะเป็นการให้ AI จัดทำผลงานอนิเมให้ได้สไตล์ใกล้เคียงกับ Hideaki Anno ผกก.จาก Neon Genesis Evangelion, Shin Godzilla ฯลฯ ซึ่ง Iwata เชื่อว่า Ai อาจเข้ามาแข่งขันกับมนุษย์ ในด้านความคิดสร้างสรรค์เช่นกัน
"AI พร้อมที่รุกล้ำพื้นที่แห่งการสร้างสรรค์ ดูเหมือนว่า AI สามารถสนับสนุนขั้นตอนต่างๆได้ ทั้งในส่วนของ การออกแบบตัวละคร , สตอรี่บอร์ด , ออกแบบศิลป์ ,พื้นหลัง ,จัดทำเสียง และ การจัดสี ขณะที่ฝั่งมนุษย์ ผู้มีฟังก์ชั่นในการลืมเลือน และขับเคลื่อนวิวัฒนาการไปด้วยสมอง หากคุณจัดระเบียบสมองของคุณให้ดีลพก็ คุณก็จะสามารถแสดงความคิดสร้างสรรค์ได้ไม่แพ้ AI เลย"

Iwata เคยทำนายไว้เมื่อปี 2009 ว่า " ตลาดอนิเมญี่ปุ่นของทั่วโลกจะลดลงตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นไป " ไม่ว่าการทำนายของเขาจะถูกต้องหรือเปล่านั้น ตลาดอนิเมยังคงมีวิวัฒนาการต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันสภาพการทำงานของคนในวงการอนิเม ยังคงสามารถเข้ามามีบทบาทในการผลิตอนิเมต่อไป

วงการอนิเมญี่ปุ่น ปัจจุบัน กำลังประสบปัญหาเรื่องค่าจ้างต่ำ , สภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่ดีนัก และ ชั่วโมงการทำงานอันเกินขีดจำกัดจนเกินไป โดย สมาคมผู้สร้างอนิเมชั่นญี่ปุ่น (JAniCA) ได้จัดทำรายงานเมื่อปี 2015 ว่า อนิเมเตอร์มีรายได้เฉลี่ย 28,000 เหรียญสหรัฐ เมื่อปี 2013 โดยอนิเมเตอร์ระดับเริ่มต้น มีรายได้ต่อปีในญี่ปุ่น 9,200 เหรียญสหรัฐ เท่านั้น ถ้าหากการทำงานในวงการอนิเมญี่ปุ่น ยังไม่เป็นที่พึงพอใจของเหล่าอนิเมเตอร์ AI ก็ย่อมสามารถเข้ามาทำงานผลิตอนิเมแทนที่มนุษย์ เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ก็มีคนวงการอนิเมญี่ปุ่นส่วนหนึ่ง ที่ไม่ปลื้มกับการทำงานของ AI ในการผลิตอนิเมชั่น เห็นได้จาก Hayao Miyazaki แห่ง Studio Ghibli ที่มองว่า การให้ AI มาผลิตอนิเมชั่น CG ถือเป็นการดูถูกชีวิตตัวมันเอง ในระหว่างการสาธิต AI ณ ห้องทดลอง AI ของสตูดิโอ Dwango ซึ่งการสาธิตครั้งดังกล่าวได้ออกฉายบนรายการทีวี รายการพิเศษ ที่ออกฉายไปเมื่อ 13 พ.ย. 2016 โดยมีเนื้อหานำเสนอรายละเอียดข่าวคราวของผกก. Miyazaki แล้วก็ หนังอนิเมชั่น CG Kemushi no Boro ของเขา


แหล่งข่าว : IT Media , Yaraon! , animenewsnetwork.com


สาวเปรู บันทึกสถิติลง Guinness Book ในฐานะครอบครองของสะสมจาก Card Captor Sakura มากที่สุดในโลก

Sofia Pichihua สาวชาวเปรู ได้รับการบันทึกสถิติลง Guinness Book of World Records ในฐานะที่เธอเป็นบุคคลผู้มีของสะสมจากการ์ตูน Card Captor Sakura มากที่สุดในโลก ซึ่งสถิติดังกล่าวมีการรับรองอย่างเป็นทางการ เมื่อ 11 ธ.ค. 2016

Pichihua ริเริ่มสะสมของรักของหวงจากการ์ตูน-อนิเม Card Captor Sakura ตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน จวบจนทุกวันนี้เธอก็ยังสะสมอยู่มานานกว่า 17 ปี จนมีของสะสมจาก Sakura ทั้งสิ้น 1,086 ชิ้น ซึ่งรวมถึง เกม , เทรดดิ้งการ์ด , ฟิกเกอร์ , ปฏิทิน , สติ๊กเกอร์ , หนังสือการ์ตูน , DVD แล้วก็ ตุ๊กตา ซึ่งในช่วงเวลานี้เป็นช่วงแห่งการเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปีของ Sakura ของสะสมของเธอไม่หมดแต่เพียงเท่านี้แน่นอน

และเพื่อให้ได้ของสะสมบางชิ้นจากเรื่องนี้มา เธอถึงขั้นออกเดินทางไปซื้อกันถึงเม็กซิโก รวมถึงสั่งซื้อของนำเข้าจากอเมริกา กับ ญี่ปุ่น โดยในบรรดาของที่ระลึกจาก Sakura ที่เธอมีอยู่นั้น อันที่หามาได้อย่างยากลำบากที่สุด ก็คือ นิตยสาร Nakayoshi ฉบับที่ตีพิมพ์ตอนแรกของมังงะ Sakura ซึ่งของสะสมบางชิ้นมีราคาราว 200-500 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 6,000 - 15,000 บาท) โดยของสะสมจาก Sakura ที่เธอมีนับพัน มีมูลค่ารวมกันราว 15,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 450,000 บาท)

ก่อนหน้านี้ เพื่อนร่วมชาติของเธออย่าง Jorge Luis Vásquez Flores ได้รับการบันทึกสถิติลง Guinness Book ในฐานะที่เขามีของสะสมจาก Saint Seiya มากที่สุดในโลก เมื่อปี 2016 เช่นกัน....เรียกได้ว่า หนุ่มสาวชาวเปรู เป็นพวกหลงรักจริงไรจริงกันอย่างสุดๆ เลยนะเนี่ย!!

ชมของสะสมของ Pichihua ที่นี่


แหล่งข่าวและรูปภาพ : animenewsnetwork.com


ไม่ได้หลอก......."จะรักหรือจะหลอก" ประกาศทำอนิเม โดยทีมผู้สร้างอนิเม "ยามาดะคุงกับแม่มดทั้ง 7"

นิตยสาร Shōnen Magazine ฉบับที่ 12 ได้รายงานว่า มังงะของ Musawo เรื่อง Koi to Uso / Love and Lies หรือ "จะรักหรือจะหลอก" กำลังจะถูกดัดแปลงเป็นอนิเม ออกฉายทางทีวีช่วงฤดูร้อน 2017 นี้ โดยจะได้ทีมงานผู้อยู่เบื้องหลังอนิเมซีรี่ย์ Yamada-kun and the Seven Witches หรือ ยามาดะคุงกับแม่มดทั้ง 7 มาร่วมงานในโปรเจ็คนี้ ทั้ง Seiki Takuno ( Poco's Udon World, Sekkō Boys) มารับหน้าที่ผลิต และ สตูดิโอ LIDEN FILMS มารับหน้าที่ผลิต อนิเมดังกล่าว มีคำโปรยระบุว่า "วันหนึ่ง เราจะก่อร่างสร้างความรักด้วยกัน"

จะรักหรือจะหลอก เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นยุคอนาคต ที่เรื่องโกหกเป็นเรื่องต้องห้าม แต่ความรักกลับเป้นสิ่งต้องห้ามยิ่งกว่า......เมื่อรัฐบาลมีนโยบายคลุมถุงชน ด้วยการจับคู่สมรสให้กับหนุ่มสาวอย่างเบ็ดเสร็จ เมื่อหนุ่มสาวผู้นั้นมีอายุ 16 ปี แน่ล่ะว่า มันเป็นการสมรสที่ไม่ได้มาจากความรักแท้จริง ทว่า Yukari Nejima เด็กหนุ่มวัย 15 ปี ผู้ไม่เอาไหนทั้งเรื่องการเรียน และ กีฬา ก็ได้ปกปิดเรื่องความหลงใหลในความรักของตนเองไว้ในใจ .......ณ บนโลกที่ความรักกลายเป็นเรื่องต้องห้าม ชะตาชีวิตของเด็กหนุ่มผู้ตกหลุมรักใครซักคนผู้นี้ จะเป็นเช่นไร!?

มังงะเรื่องนี้ เผยแพร่ลงบนแอพ Manga Box ตั้งแต่ ส.ค. 2014 ซึ่งนับเป็นการ์ตูนที่มียอดวิวสูงที่สุดของแอพนี้ โดยมียอดผู้ชมมากถึง 3.5 ล้านคน ปัจจุบันออกวางจำหน่ายฉบับรวมเล่มถึง 6 เล่ม ในญี่ปุ่น โดยบ้านเราสามารถหาอ่านได้ของสนพ.รักพิมพ์

 


แหล่งข่าวและรูปภาพ : animenewsnetwork.com


Dick Bruna ผู้ให้กำเนิดตัวการ์ตูน Miffy เสียชีวิตแล้ว

Dick Bruna นักเขียนและนักวาดชาวดัตช์ ผู้ให้กำเนิดตัวการ์ตูนขวัญใจเด็กๆ อย่างเจ้ากระต่าย Miffy ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ เมื่อ 16 ก.พ. 2017 ที่ผ่านมา ด้วยวัย 89 ปี

Bruna ได้ถือกำเนิด Miffy หรือ Nijntje ตามภาษาดัตช์ เป็นครั้งแรก เมื่อปี 1955 ปัจจุบัน หนังสือ Miffy สามารถขายได้มากกว่า 80 ล้านเล่มทั่วโลก และมีการนำไปแปลเป็นภาษาต่างๆมากกว่า 50 ภาษาด้วยกัน โดยเฉพาะที่ญี่ปุ่นนั้น เจ้า Miffy ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จนถูกนำไปสร้างเป็นอนิเมชั่นของเนเธอร์แลนด์ แล้วก็ อนิเมญี่ปุ่นชุด Anime Bruna no Ehon (Bruna's Picture Book Anime) ของผกก.Toshio NIshiuchi กับสตูดิโอ Product Team Sarah อนิเมญี่ปุ่นดังกล่าว ออกฉายทางช่อง NHK อีกทั้ง ยังมีการเปิดคาเฟ่ธีม Miffy ณ กรุงโตเกียว เมื่อปี 2016 เช่นกัน

แต่เนื่องจาก Miffy มีรูปร่างหน้าตาคล้ายๆกับ Kathy ตัวละครกระต่ายของ Sanrio นี่เอง เลยทำให้เกิดกรณีพิพาทเรื่องลิขสิทธิ์ตัวละคร ระหว่าง Mercis bv ผู้ดูแลลิขสิทธิ์ของ Miffy กับ Sanrio แต่ภายหลัง ทั้งสองบริษัทได้หยุดฟ้องร้องทางกฎหมาย อันเนื่องมาจากเหตุกาณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อ 11 มี.ค. 2011 โดยทั้งสองบริษัทต่างก็ช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยร่วมกัน เช่นเดียวกับ Bruna ได้วาดภาพ Miffy เป็นการส่งสาส์นแสดงความเสียใจแก่ชาวญี่ปุ่นที่ประสบเหตุภัยพิบัติดังกล่าว

Bruna ได้เขียนการ์ตูน Miffy เล่มสุดท้าย เมื่อปี 2011 ก่อนจะวางมืออย่างเป็นทางการเมื่อปี 2014 ปัจจุบัน มีพิพิธภัณฑ์ Miffy เปิดทำการที่เนเธอร์แลนด์ บ้านเกิดของ Bruna ณ ขณะนี้


แหล่งข่าวและรูปภาพ : BBC News , The Guardian , Otakomu , animenewsnetwork.com


จอเงิน Sword Art Online: Ordinal Scale ส่งสัญญาณ 'SAO จะกลับมา'

อนิเมจอเงิน Sword Art Online: Ordinal Scale ได้เพิ่งออกฉายบนโรงหนังทั่วญี่ปุ่นไปเมื่อ 18 ก.พ. 2017 ที่ผ่านมา ซึ่งในตอนจบของตัวหนัง ได้ปรากฏทีเซอร์ชวนให้แฟนๆได้ติดตามโปรเจ็คของ SAO กันต่อไป โดยมีข้อความระบุว่า "SAO จะกลับมาอีกครั้ง"

ส่วนบ้านเรา คอยติดตามชมตัวหนัง บนโรงภาพยนตร์เครือ Major วันที่ 23 ก.พ. 2017

SAO เป็นเรื่องราวเกิดขึ้นบนโลกอนาคตที่ผู้เล่นสามารถเล่นเกมแนว VRMMORPG (Virtual Reality Massively Multiplayer Online Role Playing Game) ที่มีชื่อว่า Sword Art Online ได้ ผ่านทางอุปกรณ์ NerveGear ที่ใช้คลื่นสมองของผู้เล่น สามารถเข้าไปผจญภัยบนโลกของเกมนี้....ทว่า ตัวเกม SAO ดันเกิดข้อผิดพลาดขึ้น เมื่อไม่มีปุ่ม log out เลยทำให้ผู้เล่นหลายต่อหลายคนติดค้างในเกม มีอยู่หนทางเดียวที่จะสามารถรอดพ้นจากวิกฤตินี้ ก็คือ การเคลียร์เกมให้จบ (หรือก็คือ พิชิต Aincrad ทั้ง 100 ชั้น) อย่างไรก็ตาม หากใครคนไหน game over กลางคัน นั่นก็หมายถึง การสูญเสียชีวิตของผู้เล่นบนโลกแห่งความจริง เช่นกัน

ปัจจุบัน SAO มีการจัดทำในรูปแบบอนิเมทีวี 2 ชุด , อนิเมพิเศษ , มังงะ , เกม รวมถึง การสาธิตระบบ VR ในญี่ปุ่น อีกทั้ง มีแผนที่จะทำในรูปแบบละครคนแสดงของช่อง Skydance ในอเมริกาด้วย



แหล่งข่าว : animenewsnetwork.com

 


Acma:Game เกมทรชน เคลียร์เกมจบ ในเล่ม 22

ฉบับรวมเล่ม 21 ของมังงะ Acma:Game หรือ เกมทรชน ที่เพิ่งวางขายไปเมื่อ 17 ก.พ. 2017 ได้มีการเปิดเผยว่า มังงะแนวชิงไหวชิงพริบของ อ.Kōji Megumi กับ Meebu กำลังจะจบลง ในฉบับรวมเล่มที่ 22 ซึ่งมีกำหนดวางขายในญี่ปุ่น 17 เม.ย.นี้

Acma:Game ตีพิมพ์ประจำในนิตยสาร Shōnen Magazine ตั้งแต่ เม.ย. 2013 เป็นเรื่องราวของ Teruaki Oda หนุ่มม.ปลายปีสุดท้าย ผู้อุดมไปด้วยพรสวรรค์, หน้าตา และ เงินทอง และดูเหมือนว่าเด็กหนุ่มผู้เป็นทายาทแห่ง Oda Group ตระกูลผู้มีอิทธิพลของญี่ปุ่น กำลังติดอยู่กับเกมเดิมพันสุดฝันร้าย พร้อมกับ ลูกชายของเจ้าพ่อมาเฟียแก๊ง Belmont ......บ้านเราสามารถติดตามเรื่องนี้ได้ของสนพ. วิบูลย์กิจ

อนึ่ง อ.Megumi เป็นที่รู้จักจากผลงานเรื่อง Bloody Monday ทั้ง 3 ภาค ในฐานะของผู้วาดภาพ และว่ากันว่า เธอเป็นพี่สาวของ Hiroyuki นักเขียนการ์ตูนโดจิน เจ้าของผลงานเรื่อง Aho Girl ลงตีพิมพ์ในนิตยสาร Shōnen Magazine เช่นกัน (ปัจจุบัน Aho Girl ย้ายไปตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Bessatsu Shōnen Magazine เมื่อ มิ.ย. 2015 ) ซึ่งหาได้น้อยมากที่นักเขียนการ์ตูนผู้เป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกัน จะมีผลงานการ์ตูนตีพิมพ์ลงในนิตยสารเล่มเดียวกัน โดยก่อนหน้านี้ ก็มี อ. Tetsuya Chiba (Ashita no Joe) กับ อ.Tarō Nami น้องชายของเขา ต่างมีผลงานเรื่อง Ashita Tenki ni Naare กับ Hakkeyoi ตามลำดับ ลงตีพิมพ์ใน Shōnen Magazine ช่วงปี 90



แหล่งข่าว : animenewsnetwork.com


10 อันดับ อนิเม-มังงะ ศูนย์รวมตัวละครหน้าตาพิมพ์เดียว!!!!

โพลฮาๆ จาก Goo Ranking ที่ว่าด้วยอนิเม-มังงะ ที่ขึ้นชื่อเข้าข่ายเป็น "same face syndrome" หรือพูดง่ายๆให้เห็นภาพก็คือ เป็นอนิเม-มังงะที่อุดมไปด้วย ตัวละครหน้าตาเหมือน-คล้ายกันเป็นพิมพ์เดียวเต็มไปหมด!!!!! ต่างกันแค่เพียงทรงผม หรือ การแต่งตัว เท่านั้นเอง โดยแฟนอนิเมราว 5,001 คน ได้ช่วยกันโหวตเลือกอนิเม-มังงะ ที่มีแต่ตัวละครหน้าตาโหลๆ มากที่สุด 10 อันดับแรก ดังนี้ โดยโพลดังกล่าว มีการสอบถามช่วงวันที่ 8-22 ม.ค. 2017

0.) Sword Art Online (119 votes)

 

 

09.) CLANNAD (124 votes)

 

 

08.) Love Live! School Idol Project (139 votes)

 

 

07.) Attack on Titan (187 votes)

 

 

06.) Sazae-san (279 votes)

 

 

05.) Touch (378 votes)
*ไม่แปลกใจที่ติด เพราะงานของอ.Mitsuru Adachi ขึ้นชื่อว่า วาดหน้าพระเอก-นางเอก ตัวประกอบ เหมือนกันแทบทุกเรื่อง จนยากที่จะแยกออก 55+

 

04.) Captain Tsubasa (381 votes)

 

 

03.) YuruYuri (403 votes)

 

 

02.) Mr. Osomatsu (542 votes)

 

 

01.) K-On! (564 votes)
*อันดับ 1 ของโพล สมควรอยู่ เพราะทุกวันนี้ก็โดนแฟนๆเอาไปล้อว่าเป็น Engine เป็นแม่แบบของตัวละครหลายคนจากอนิเมเรื่องหลังๆของ KyoAni




แหล่งข่าว : Goo Ranking , Yaraon!crunchyroll.com


10 อันดับมังงะ - ไลท์โนเวลขายดีที่ญี่ปุ่น โดย Oricon : 6-12 ก.พ. 2017

มังงะ

(อันดับ / ยอดขายประจำสัปดาห์ / ยอดขายรวม / เรื่อง - เล่มที่)

*1. 546,021 2,046,469 One Piece เล่ม 84
*2. 151,543 *,335,087 Boku no Hero Academia / My Hero Academia เล่ม 12
*3. *87,730 *,*87,730 Yowamushi Pedal เล่ม 49
*4. *68,829 *,147,029 Boku dake ga Inai Machi รีไววัล ย้อนอดีตไขปริศนา เล่ม 9
*5. *65,938 *,139,521 Platinum End เล่ม 5
*6. *63,277 *,*63,277 Karakai Jouzu no Takagi-san เล่ม 5
*7. *41,905 *,*41,905 Trinity Seven: 7-nin no Masho Tsukai เล่ม 16
*8. *40,413 *,*40,413 Mahouka Koukou no Rettousei ปริศนาพี่น้องโรงเรียนเวท : Natsuyasumi-hen เล่ม 1
*9. *37,726 *,*78,409 Yakusoku no Neverland / The Promise Neverland เล่ม 2
10. *36,724 *,*36,724 Kishuku Gakkou no Juliet รักลับๆ ข้ามหอ ของนายหมากับน้องแมว เล่ม 4

ไลท์โนเวล

(อันดับ / ยอดขายประจำสัปดาห์ / ยอดขายรวม / เรื่อง - เล่มที่)

*1. 104,221 *,104,221 Sword Art Online เล่ม 19
*2. *84,382 *,*84,382 Mahouka Koukou no Rettousei เล่ม 21
*3. *15,587 *,*15,587 Netgame no Yome wa Onna no Ko ja Nai to Omotta? เล่ม 13
*4. *13,431 *,*13,431 Kumo desu ga, Nani ka? เล่ม 5
*5. *12,380 *,*12,380 Hataraku Maou-sama!: High School N!
*6. **9,779 *,*98,576 Youjo Senki เล่ม 1
*7. **9,098 *,**9,098 86
*8. **8,214 1,407,809 Kimi no Na wa. (Kadokawa Bunko)
*9. **7,979 *,*21,659 Boku no Hero Academia: Yuuei Hakusho เล่ม 2
10. **7,466 *,**7,466 Seijou no Maryoku wa Bannou desu

แหล่งข่าว : Oricon , MAL


 

 
free hit counter javascript