บอกเล่าข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 6-12 ตุลาคม 2557

บอกเล่าสรุปข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ กลับมาอีกครั้ง....กับอากาศที่เริ่มเย็นลงอันสายฝน และ ลมหนาวที่เริ่มพัดผ่านเข้ามา แต่ถึงกระนั้น ก็มีอยู่บางที่ที่ยังคงร้อนรุมอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเกาะ ต. ที่คดีฆาตกรรมคู่หนุ่มสาวฝรั่ง ดูจะไม่นิ่ง แม้ว่าจะจับตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้วก็ตาม แต่จากการที่หลักฐานต่างๆออกจะคลุมเคลืออยู่ จนยากจะปักใจเชื่อว่าพวกเขาเป็นคนร้ายจริงๆ มีสิทธิ์เป็นแพะสัญชาติเพื่อนบ้านสูง!!! ถึงกระนั้นคดีนี้ได้รับความสนใจจากใครหลายคน ถึงขนาดสวมรอยเป็น "โคนัน" "คินดะอิจิ" มาแกะรอยไขคดีปริศนาโต้ตอบกันไปตามจำนวนหลักฐานไหวพริบที่มี จากเรื่องที่เกิดขึ้น ก็ขอให้ทุกคนใช้ใจที่เป็นกลางในการรับฟังข้อมูลในเรื่องของคดีที่เกิดขึ้น ส่วนเรื่องนอกเหนือจากนี้ ก็พิจารณาเองล่ะกัน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเด็นชวนทะเลาะเรื่องการเมือง)

สำนักข่าว K-D News (kartoon-discovery.com)
สามารถอัพเดทข่าวสารเว็บเราได้ผ่าน Twitter และ Facebook


หากนำข่าวจากเราไปเผยแพร่ที่อื่น รบกวนใส่เครดิตให้กับทางเราด้วยครับ ขอบคุณครับ

New Release Comics of the Week: ยมบาล เจ้าขาาาาาาา กับ ยุ่งนักหนา เลขาพญายม

การ์ตูนออกใหม่ประจำสัปดาห์ที่ผ่านมา รับปิดเทอมแรกของน้องๆหลายคนกันด้วยบรรดาซีรี่ย์เรื่องใหม่ๆที่ยกขบวนวางแผงเล่มแรกในบ้านเรา เริ่มจาก ยุ่งนักหนา เลขาพญายม  เล่ม 1 ซีรี่ยการ์ตูนตลกร้ายแบบคันๆ ที่เป็นที่รู้จักจากฉบับอนิเมที่เคยโดนใจสาวๆในญี่ปุ่นมาแล้ว ... ซึ่งเรื่องนี้เป็นหนึ่งในการ์ตูนไม่กี่เรื่องของค่ายแถวพระโขนง ที่ไม่มี "กันสาด" มาบังปก!!!!! ในโลกแห่งนั้นมีสวรรค์กับนรกอยู่ นรกนั้นแบ่งออกเป็น "มหานรกแปดขุม" กับ "นรกเย็นแปดขุม" นอกจากนี้ยังแบ่งย่อยออกเป็น 272 ขุม นรกที่กว้างใหญ่ขนาดนั้น เทพอสูรก็ยังทำงานได้อย่างราบรื่น เพราะมีนักบริหารจัดการที่เก่งกาจเขาคนนั้นคือ "โฮสึกิ" ผู้ช่วยอันดับหนึ่งของท่านพญายม วันเวลาอันแสนสนุกในนรกของโฮสึกิเป็นคนเย็นชา และซาดิสม์สุดๆ กับคนอื่นๆ อีกมากมาย


World Trigger เล่ม 1
ซีรี่ย์ไซไฟเน้นคุยเยอะ ที่เพิ่งมีอนิเมซีรี่ย์ออกฉายไปไม่นาน.....เมืองมิคาโตะตกอยู่ใต้การจู่โจมอันน่าสะพรึงกลัวของผู้รุกราน "เนเบอร์" ที่มาจากต่างมิติ มิคุโตะ โอซามุ เด็กม.ต้นผู้มีจิตใจรักความถูกต้องซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองนั้น ได้พบกับคุกะ ยูมะ ชะตากรรมของโอซามุที่ต้องเข้าไปพัวพันกับยูมะจะเป็นเช่นไร!?

Soul Catcher(S) เล่ม 1 คามิเนะ โชตะ เอาแต่หลีกหนีจากคนอื่นมาตลอด เนื่องจากเขามีความสามารถในการ "มองเห็น" จิตใจคน วันหนึ่งเขาได้พบกับนักเป่าแซ็กซ์อัจฉริยะ โทคิซากะ ฮิบิกิ จนจิตใจต้องสั่นคลอนจากพลังเสียงอันยิ่งใหญ่ที่ได้ยิน...!? ผลงานของอัจฉริยะไฮเปอร์เคสตร้ากราฟฟิตี้--------เริ่มเปิดม่านแล้ว!!

ผู้กล้าแห่งอัสลัน เล่ม 2 เมืองหลวงถูกเผา เหลือเพียงหนึ่งเจ้าชายและหนึ่งอัศวิน กองทัพพารุสที่ถูกทำลายล้างเกือบสิ้นซาก มีเพียงอัศวินและเจ้าชายอัสลันเพียงสองคนเท่านั้นที่หนีรอดออกมาได้ เพื่อหาทางรอดจากความสิ้นหวัง และหาทางกอบกู้ประเทศคืนมา ทั้งสองจึงบากหน้าไปหา "นาร์ซัส" เสนาธิการอัจฉริยะแห่งยุค และในที่สุดก็ได้รับการยอมรับ อาณาจักรที่หายไป กับความหวังที่จุดประกายขึ้นมา ชะตากรรมของเจ้าชายอัสลันที่ถูกตราหน้าว่า"อ่อนแอ" จะเป็นเช่นไรกัน!?

JoJoLion - JoJo ล่าข้ามศตวรรษ Part 8 เล่ม 6 ยาสึโฮะได้ล่วงรู้ว่า โจนี่ โจสตาร์ ผู้เป็นบรรพบุรุษของคิระ ได้เสียชีวิตอย่างพิลึกพิลั่นที่เมืองโมริโอแห่งนี้ในอดีต เธอจึงมุ่งหน้าไปยังบ้านฮิงาชิคาตะเพื่อจะบอกเรื่องนี้กับโจสุเกะ แต่กลับโดนฉุดลงไปในหลุมของโคน "ต้นสนภาวนา" ซะได้! และผู้ที่อยู่ในหลุมก็คือ...!?

รักโรคจิต เล่ม 5 ในฐานทัพลับที่สร้างไว้ตรงริมแม่น้ำ คะสุกะกับนากามุระเริ่มลงมือสร้าง"ฟากโน้น" ที่อยู่ภายในเมือง อีกด้านซาเอกิที่ระแคะระคายการกระทำของทั้งสองคน ก็ออกค้นหาฐานทัพลับร่วมกับเพื่อนสนิท ซาเอกิอิจฉาในความสัมพันธ์ที่สนิทสนมของคะสุกะกับนากามุระ "คะสุกะคุงเป็นคนแรกที่มองตัวตนที่แม้จริงของฉัน" ซาเอกิทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อแย่งชิงตัวเขากลับคืนมา แต่ทว่า...!?


เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ:

PASTEL เล่ม 5,Giant Killing เล่ม 10,คุณหนูปากร้าย x จิ้งจอกปิศาจ เล่ม 10,07-GHOST เซเว่นโกสต์ เล่ม 17 (จบ) ,คันนางิ KANNAGI Crazy Shrine Maidens เล่ม 6 ,Übel Blatt  ดาบคลั่งทวงแค้น เล่ม 14,Code Geass - Oz the Reflection เล่ม 2,NO.6 [โลกใหม่หมายเลขหก] เล่ม 5




รูปภาพหน้าปก : amazon.co.jp



 

นารุโตะ นินจาคาถาโอ้โอเฮะ เตรียมปิดฉากในอีก 5 สัปดาห์

หลังจาก อ.มาซาชิ คิชิโมโตะ เคยพูดเปรยๆมาตั้งนาน ราวซักปีสองปีก่อน ว่า นารุโตะ กำลังเข้าสู่เนื้อหาไคลแมกซ์ - คิดตอนจบไว้ในใจแล้ว รวมถึง ซีรี่ย์การ์ตูนจะจบอีกราวปีครึ่งอีก.... แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เห็นสัญญาณว่าจะจบซักทีนั้น จนในที่สุด งานเลี้ยงของนารุโตะและชาวหมู่บ้านโคโนฮะก็ถึงคราต้องเลิกลากันของจริง!! เมื่อมีการยืนยันจากเว็บไซต์หลักของนิตยสารโชเน็นจัมป์ว่า นารุโตะ กำลังจะอวสานลงในอีก 5 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งนั่นหมายความว่า ซีรี่ย์การ์ตูนเรื่องนี้ มีกำหนดตีพิมพ์ตอนสุดท้ายในโชเน็นจัมป์ ฉบับที่ 50 ที่จะออกวางขายในวันที่ 10 พ.ย.2014 นี้ หลังจากที่นารุโตะได้ดำเนินการต่อสู้เพื่อสันติสุขในโลกนินจาอย่างอืดๆ นับตั้งแต่ปี 1999 เป็นต้นมา

ซีรี่ย์การ์ตูนนินจาสุดฮิตของ อ.คิชิโมโตะ ได้ถูกนำไปดัดแปลงในหลายรูปแบบ อาทิ อนิเมซีรี่ย์,หนังอนิเม,OVA และ วีดีโอเกม อย่างไรก็ตาม แฟนๆของเจ้าโตะ ยังสามารถติดตามอนิเมภาค Naruto Shippūden กันได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึง ติดตามบทสรุปนารุโตะกันต่อ กับ The Last -Naruto the Movie- หนังอนิเมชุดสุดท้ายของเรื่องนี้ ที่มีกำหนดออกฉายในวันที่ 6 ธ.ค. 2014 และ ฉบับรวมเล่ม 71 ของนารุโตะ มีกำหนดวางขายที่ญี่ปุ่นวันที่ 4 พ.ย. 2014

(ภาพล่าง ภาพที่วาดขึ้นโดย Inio Asano ที่วาดเพื่อเป็นการรำลึกถึง นารุโตะ ที่กำลังจะจบเร็วๆนี้)


แหล่งข่าวและรูปภาพ : crunchyroll.com,animenewsnetwork.com


นารุโตะ ระเบิดความมันส์กันต่อ ในรูปแบบละครเวที มี.ค. 2015

นอกจากจะมีหนังจอเงิน The Last -Naruto the Movie- มาให้แฟนๆดูช่วงปลายปี 2014 แล้ว โปรเจ็คปลอบขวัญแฟนๆ ฉลองซีรี่ย์นารุโตะจบ ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ ล่าสุด นิตยสารโชเน็นจัมป์ ฉบับที่ 46 ได้แจ้งว่า นารุโตะ เตรียมถูกทำในรูปแบบละครเวที มีกำหนดเปิดการแสดงที่ AiiA Theater กรุงโตเกียว ในเดือน มี.ค. 2015 ซึ่งโปรเจ็คดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของ Naruto Shin Jidai Kaimaku Project (โปรเจ็คเปิดยุคสมัยใหม่ของนารุโตะ) ที่จะมีมาอย่างต่อเนื่อง หลังซีรี่ย์การ์ตูนจบลงในเดือน พ.ย. 2014

แหล่งข่าว : animenewsnetwork.com

 


ผู้แต่ง GTO จะมีซีรี่ย์ใหม่(อีกแล้ว) ในนิตยสาร Hero

อ.โทรุ ฟูจิซาวะ ผู้แต่ง GTO ยังคงสรรหางานเข้าตัวเองอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด นิตยสาร Hero ของสนพ.โชกะกุกัง ฉบับ พ.ย. ได้แจ้งว่า เขากำลังจะมีผลงานการ์ตูนเรื่องใหม่ให้กับนิตยสารดังกล่าว เพียงแต่ยังไม่มีการระบุชื่อเรื่อง กับ วันเวลาที่ลงตีพิมพ์

ปัจจุบัน อ.ฟูจิซาวะ มีผลงานเรื่อง Soul Reviver ตีพิมพ์ในนิตยสาร Hero เช่นกัน โดยตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 2011 ซึ่งผลงานการ์ตูนของเรา กับ อ.มานาบุ อากิชิเงะ เรื่องนี้ ได้รับการดัดแปลงในรูปแบบหนังออลลิวู้ดแล้ว อีกทั้ง เขายังมีผลงานเรื่อง Oishii Kamishama ให้กับสนพ.โชกะกุกัง ซึ่งตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Shonen Sunday อีกด้วย อย่างไรก็ตาม เขายังมีผลงานภาคต่อของ GTO ชุด GTO: Paradise Lost ในนิตยสาร Young Magazine ในเครือสนพ.โคดันฉะ อีกเช่นกัน


แหล่งข่าว : animenewsnetwork.com


โปรเจ็คใหญ่ฉลอง 10 ปีของผู้แต่งนิยายซีรี่ย์ Index ยังไม่หมดเท่านี้!!

คาซึมะ มิกิ ผู้ดูและและโปรดิวเซอร์อนิเม ได้รายงานจากอีเว้นต์ Dengeki Bunko Aki no Saiten 2014 ผ่านทางรายการ Niconico Live Corner ว่า โปรเจ็คใหญ่ฉลอง 10 ปี ในฐานะนักเขียนนิยายของ คาซึมะ คามาจิ ผู้แต่งนิยายซีรี่ย์ To Aru Majutsu no Index จะยังไม่หมดเพียงเท่านี้ จะมีการประกาศเพิ่มเติมอีกในอนาคตอันใกล้ หลังจากที่มีการประกาศโปรเจ็คเฉลิมฉลองคามาจิ ทั้ง 10 อย่าง กันในงานดังกล่าว

งานฉลองครบรอบ 10 ปีของ คามาจิ หลักๆก็เน้นฉลองความสำเร็จของนิยายซีรี่ย์ Index ที่ทำให้เขาแจ้งเกิดอย่างเต็มตัว ซึ่งมีตั้งแต่ วีดีโอโปรโมท , แผ่นภาพสเก็ตช์+ข้อความแสดงความยินดีจากบรรดาเพื่อนร่วมวงการและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา , หนังสืออาร์ตบุ๊คเล่ม 2 ของ คิโยทากะ ไฮมุระ ผู้วาดภาพประกอบให้กับนิยาย Index , เปิดตัวนิยายใหม่ของคามาจิ อย่าง Mitō Shōkan://Blood Sign , ฟิกเกอร์ มิซากิ โชคุโฮ , ไลน์ล็อตเตอร์รี่ 10 ปีของ คามาจิ ,เรื่องราวครอสโอเวอร์ตัวละครของเขา ช่วงฤดูหนาวนี้ ,แคมเปญร่วมมือกันระหว่าง Index กับ สโมสรฟุตบอล Tokyo Verdy ,บุคเล็ตพิเศษที่เป็นการรวมตัวกันระหว่างตัวละครของเขา รวมถึง นิยายไลท์โนเวลของเขาชุด Heavy Object ได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี เช่นกัน



แหล่งข่าว : Yara-On!,animenewsnetwork.com


คินดะอิจิ กับ คดีฆาตกรรมปริศนา R หยุดตีพิมพ์ 5 ตอนรวด!!!!

ก็ไม่รู้ว่า พ่อนักสืบหนุ่มหางม้า คินดะอิจิ จะออกเดินทางไปสืบคดีที่เกาะเต่าหรือยังไง !? เลยทำให้ ซีรี่ย์การ์ตูนของเขาชุด คินดะอิจิ กับ คดีฆาตกรรมปริศนา R (Returns) จะงดตีพิมพ์ยาวในนิตยสาร Shōnen Magazine ถึง 5 เล่มติดต่อกัน โดยจะเริ่มตั้งแต่ Magazine ฉบับที่ 46 เป็นต้นไป และจะกลับมาอีกครั้งใน Magazine ฉบับที่ 51 ที่จะออกวางขายวันที่ 19 พ.ย. นี้ ส่วนเหตุผลแท้จริงที่คินดะอิจิหยุดหายไปยาวนั้น ก็เป็นเหตุผลสุดฮิต นั่นคือ อ.ผู้แต่งการ์ตูนชุดนี้ (อ.โยซาบุโร่ คานาริ กับ อ.เซย์มารุ อามางิ) หยุดพักไปรวบรวมข้อมูลเขียนการ์ตูนนั่นเอง

ซีรี่ยืการ์ตูนดังกล่าว เป็นซีรี่ย์ภาคต่อของ คินดะอิจิ กับ คดีฆาตกรรมปริศนา ตีพิมพ์ขึ้นตั้งแต่ปี 2013 และเพิ่งวางจำหน่ายเล่ม 3 ไปเมื่อ ก.ย. ที่ผ่านมา ในส่วนฉบับอนิเมซีรี่ย์นั้น เพิ่งฉายจบไปเมื่อ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา เช่นกัน


แหล่งข่าว : animenewsnetwork.com

 


ผู้กล้าแห่งอัสลัน กำลังจะมีประกาศครั้งสำคัญ!!!

เพิ่งจะวางขายเล่ม 2 อย่างรวดเร็วในบ้านเรา ดูเหมือนว่าแฟนๆของเรื่องนี้ก็เตรียมจะได้ฟังข่าวดีกันเร็วๆนี้ เมื่อ นิตยสาร Bessatsu Shōnen Magazine ฉบับ พ.ย. ได้แจ้งว่า Arslan Senki หรือ ผู้กล้าแห่งอัสลัน ผลงานของ อ.ฮิโรมุ อาราคาวะ กับ อ.โยชิกิ ทานากะ กำลังจะมีประกาศใหญ่สำคัญที่ทำเอา "แผ่นดินสะเทือน" (นิตยสารว่ามาอย่างงั้นจริงๆ) ในฉบับถัดไปของนิตยสารดังกล่าว ที่จะวางขายในวันที่ 9 พ.ย. นี้

ผู้กล้าแห่งอัสลัน ดัดแปลงมาจากนิยายชื่อเดียวกันของ อ.ทานากะ และนิยายชุดนี้เคยถูกสร้างเป็น OVA มาแล้ว ช่วงปี 1991-93 เป็นเรื่องราวของ Daryoon ทหารหนุ่ม ผู้ถูก King Andragoras สั่งเนรเทศ เนื่องจากมีความเห็นไม่ลงรอยกัน เขาจึงทำภารกิจใหม่ นั่นคือ การปกป้องเจ้าชาย Aslan บุตรชายเพียงคนเดียวของกษัตริย์ Andragoras ให้ปลอดภัย ซึ่งทั้ง Daryoon และ Aslan ต่างออกไปทำภารกิจกันด้วยตนเอง แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้โดดเดี่ยวเดียวดาย เพราะได้ Lord Narsus กับ Elam มาเป็นสหายร่วมรบด้วย และกองกำลังจำนวนอันน้อยนิดของ Arslan จะสามารถรับมือกับ กองทัพฝั่งตรงข้ามที่มีจำนานมากถึง 300,000 คน ได้หรือไม่


แหล่งข่าว : animenewsnetwork.com

 


Psycho-Pass ผุดภาคแยกแนวเฮฮา กับ Gakuen Psycho-Pass / จอเงิน Psycho-Pass มีกำหนดออกฉายมากกว่า 100 โรงในญี่ปุ่น

อ.ชิอินะ โซงะ นักเขียนการ์ตูนจาก Necromancer, Shōkoku no Altair-san ได้เขียนตอนแรกของซีรี่ย์การ์ตูนภาคแยกของ Psycho-Pass ชุด Gakuen Psycho-Pass ลงบนเว็บไซต์ของนิตยสารออนไลน์ Comic Blade ของค่าย Mag Garden เมื่อ 6 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งการ์ตูนภาคแยกดังกล่าว มีโทนเรื่องที่คลายเครียด บรรเทาเครื่องในกว่าฉบับอนิเมออริจินอล โดยเป็นซีรี่ย์การ์ตูนแก๊กแบบตัวละคร SD เป็นเรื่องราวชีวิตประจำวันแบบขำๆของเหล่าบรรดาตัวละครที่เรียนอยู่ในโรงเรียน Psycho-Pass ที่บริหารจัดการโดย Sibyl ซึ่ง อากาเนะ ทสึเนโมริ ได้เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการด้านจริยธรรมสาธารณะ และได้พบกับ ชินยะ โคกามิ และ อื่นๆ

ขณะเดียวกัน หนังจอเงินของ Psycho-Pass ที่มีกำหนดจะออกฉายในวันที่ 9 ม.ค. 2015 นั้น มีการยืนยันมาจากเว็บไซต์หลักของอนิเมชุดนี้ว่า หนังอนิเมจอเงินเรื่องนี้ จะออกฉายในโรงหนังทั่วญี่ปุ่น มากกว่า 100 แห่งเลย ซึ่งถือเป็นหนังจอเงินจากอนิเมรอบดึกจำนวนน้อยเรื่อง ที่ได้เข้าฉายในโรงหนังจำนวนหลายแห่งถึงขนาดนี้ อีกทั้ง เว็บไซต์ดังกล่าวยังประกาศว่า จอเงินชุดนี้จะได้สต๊าฟจากอนิเมซีรี่ย์ครบครัน อาทิ คัตซึยูกิ โมโตฮิโระ มารับหน้าที่เป็นหัวหน้าผกก., นาโอโยชิ ชิโอทานิ รับหน้าที่กำกับ โดยที่มี มาโคโตะ ฟุคามิ กับ เก็น อุโรบุจิ รับหน้าที่เขียนบท และ นาโอยูกิ อนดะ รับหน้าที่ออกแบบตัวละคร กับ หัวหน้าผกก.อนิเมชั่น ผลิตโดย Production I.G

นอกจากนี้ Psycho-Pass กำลังจะมีซีรี่ย์มังงะชุด Psycho-Pass 2 ลงใน Comic Garden ฉบับเดือน ธ.ค. ที่จะวางขายใน วันที่ 5 พ.ย. นี้ ซึ่งการ์ตูนดังกล่าว ได้ อ.ซารุ ฮาชิโนะ เป็นผู้วาดภาพ โดยอิงคอนเซ็ปต์เนื้อเรื่องของ เก็น อุโรบุจิ โดยอนิเม Psycho-Pass 2 เพิ่งออกฉายตอนแรกไปเมื่อ 9 ต.ค. ที่ผ่านมา และ กำลังจะมีฉบับหนังโรงออกฉาย ม.ค. 2015

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ Psycho-Pass เคยมีมังงะชุด Kanshikan Tsunemori Akane (Inspector Akane Tsunemori) กับ Psycho Pass: Kanshikan Kōgami Shinya (Psycho-Pass: Enforcer Shinya Kogami) ซึ่งการ์ตูนชุดแรก มียอดตีพิมพ์มากกว่า 380,000 เล่ม ด้วยกัน



แหล่งข่าวและรูปภาพ : Comic Natalie,animenewsnetwork.com

 


Alice in Borderland กำลังมีภาคแยกลงใน Shonen Sunday

นิตยสาร Shonen Sunday ฉบับที่ 45 ได้แจ้งว่า ผลงานการ์ตูนของ อ.ฮาโระ อาโซ่ ชุด Alice in Borderland หรือ อลิสในแดนมรณะ กำลังจะมีซีรี์ภาคแยกชุด Chi no Kyokuchi - Daiya no King-hen ลงใน Sunday ฉบับที่ 46 ที่จะวางขายที่ญี่ปุ่น วันที่ 15 ต.ค. นี้ ซึ่งภาคแยกดังกล่าว เป็นเรื่องราวของ จิชิยะ ได้ท้าเล่นไพ่นกกระจอกกับ Jack of Diamonds จนเกิดเป็นการดวลไหวพริบครั้งสุดยอดขึ้น!!

โดยการ์ตูนเนื้อหาหลักของเรื่องนี้ เป็นเรื่องราวของ เรียวเฮ อาริสุ เด็กหนุ่มม.ปลายขี่หงุดหงิดง่าย พร้อมผองเพื่อนเด็กเกอย่าง คารุเบะ กับ โจเบะ ได้หลุดเข้ามายังโลกมิติหนึ่ง ซึ่งทั้ง 3 ต้องเข้าร่วมเล่นเกมหนีเอาตัวรอด และต้องหาทางในการกลับสู่โลกเดิมให้จงได้ ปัจจุบัน เรื่องนี้ตีพิมพ์ใน Shonen Sunday S ตั้งแต่ปี 2010 และได้ถูกดัดแปลงเป็น OAD แถมมากับ ฉบับรวมเล่มที่ 12-14 ซึ่งเล่ม 12 มีกำหนดวางขาย 12 ต.ค. นี้


แหล่งข่าว : animenewsnetwork.com

 


แฟนๆญี่ปุ่น ร่วมโหวต ของวิเศษโดราเอมอน ที่มีประโยชน์คุ้มค่ามากที่สุด

สำหรับคนอ่านโดราเอมอนนั้น เชื่อว่า 100 ทั้ง 100 อยากจะลองใช้ของวิเศษของโดราเอมอนขึ้นมาจริงๆ เพื่ออำนวยความสะดวกต่างๆในชีวิตประจำวัน ที่นับวันเร่งด่วน แข่งขันกันมากยิ่งขึ้น....แต่ที่แน่ๆ การมาของโดราเอมอน และของวิเศษจำนวนหลากชิ้นของเขานั้น ทำเอาชีวิตของโนบิตะ เปลี่ยนแปลงไปอย่างนับไม่ถ้วนจริงๆ ถึงแม้ว่า จุดประสงค์หลักที่โนบิตะขอยืมของวิเศษของโดราเอมอนบ่อยๆ นั้น ก็เพียงเพราะอยากแก้แค้นไจแอ้นท์คืนเสียเป็นส่วนใหญ่ก็เถอะ แต่ก็ปฏิเสธมิได้ว่าของวิเศษจำนวนหลากหลายชิ้นได้สร้างคุณประโยชน์ในแง่ของความสะดวกใช้สอยด้วยเช่นกัน จากแบบสอบถามล่าสุดจากเว็บไซต์ LiveDoor ที่ได้สอบถามแฟนๆชาวญี่ปุ่นจำนวน 428 คน ในหัวข้อที่ว่า ของวิเศษของโดราเอมอนชิ้นไหน ที่คิดว่ามีประโยชน์ใช้สอยมากที่สุด และคำตอบยอดฮิต 5 อันดับแรก มีดังนี้

Dokodemo Door (ประตูสารพัดที่) - 230 votes (53.7%)
Anki-pan (ขนมปังช่วยจำ) - 40 votes (9.3%)
Honyaku Konnyaku (วุ้นแปลภาษา) - 27 votes (6.3%)
Time Machine - 14 votes (3.3%)
Small Light (ไฟฉายย่อส่วน) กับ Moshimo Box (ตู้โทรศัพท์ติ๊ต่าง) - 11 votes (2.6%)

อย่างไรก็ตาม ในจำนวนนี้ เป็นที่สังเกตว่า คนกลับไม่ค่อยโหวต คอปเตอร์ไม้ไผ่ (Bamboo Copter) หนึ่งในของวิเศษอันเป็นเอกลักษณ์เด่นของโดราเอมอน กันมากเท่าไหร่นัก (ไม่แปลก เพราะมีของวิเศษประเภทเดินทาง อย่าง ประตูสารพัดที่ มาดักไว้อยู่แล้ว)

ส่วนเหตุผลที่แฟนๆเลือก ประตูสารพัดที่ มาเป็นอันดับ 1 นั้น ก็เพราะว่า มันสะดวกในการเดินทางข้ามประเทศ หรือ ไปมาหาสู่กันได้อย่างรวดเร็ว บ้างก็บอกว่า ช่วยเดินทางไปห้องน้ำได้อย่างรวดเร็ว ในกรณีที่ทำงานอยู่ในสถานที่ห่างไกลจากห้องน้ำ , ในส่วนของคนที่เลือกของวิเศษชนิดอื่นๆ ได้ให้เหตุผลประกอบว่า ขนมปังช่วยจำนี้มีประโยชน์มากสำหรับคุณหมอ ในการจดจำรายละเอียดที่เขียนไว้ในใบสั่งยา , วุ้นแปลภาษา มีประโยชน์ในการสื่อสารพูดคุย หรือ อ่านอีเมล์ กับ ชาวต่างชาติ , หรือจะเป็น ไทม์แมกชีน ที่มีประโยชน์ในการกลับไปแก้ไขสิ่งผิดพลาดของตนเองในอดีต เป็นต้น


แหล่งข่าว : Otakomu,animenewsnetwork.com

 


Ao Haru Ride จะมี OAD มากับฉบับรวมเล่ม 12

นิตยสาร Bessatsu Margaret ฉบับ พ.ย. ได้แจ้งว่า ฉบับรวมเล่ม 12 ของ Ao Haru Ride หรือ บันทึกใสหัวใจวัยฝัน จะแนบ OAD ตอน Page.13 มากับฉบับรวมเล่มดังกล่าวด้วย โดยมีกำหนดวางขายในเดือน ธ.ค. 2014 ซึ่ง OAD ดังกล่าว มีเรื่องราวต่อจากตอนที่ 12 ของฉบับอนิเมซีรี่ย์ ซึ่งเป็นตอนสุดท้ายที่ออกฉายทางทีวี

Ao Haru Ride ซีรี่ย์การ์ตูนขายดีของ อ.อิโอะ ซาคิซากะ เรื่องราวของ ฟุตาบะ สาวน้อยผู้ตกหลุมรัก โค ทานากะ เมื่อตอน ม.ต้น แต่ด้วยความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นกับทั้งคู่ ทำให้ความสัมพันธ์ของคนทั้ง 2 จบลง โดยที่ โค ย้ายโรงเรียนออกไปเมื่อช่วงปิดเทอมหน้าร้อน จวบจนกระทั่ง ช่วง ม.ปลาย ชีวิตรักของฟุตาบะ กลับมาอีกครั้ง เมื่อเธอได้พบกับ โค อีก เพียงแต่ โคผู้นี้ มีนามสกุลว่า มาบุจิ


แหล่งข่าว : animenewsnetworkcom


หนุ่มหล่อเฟี้ยว แปลงโฉมสาว เตรียมอวสานในอีก 3 ตอน

จัดเป็นซีรี่ย์การ์ตูนตาหวานที่อยู่คู่กับนักอ่านสาวมานานพอสมควรเหมือนกัน สำหรับ Yamato Nadeshiko Shichihenge หรือ หนุ่มหล่อเฟี้ยว แปลงโฉมสาว ซึ่งข่าวนี้คงจะทำเอาแฟนๆเรื่องนี้รู้สึกใจหายไปบ้าง เมื่อมีการยืนยันจากนิตยสาร Bessatsu Friend ฉบับ พ.ย. ว่า อ.โทโมโกะ ฮายาคาวะ เตรียมจะจบ หนุ่มหล่อเฟี้ยว แปลงโฉมสาว ในอีก 3 ตอนเท่านั้น หลังจากที่หนุ่มๆช่วยกันเสริมสวยผู้หญิงคนเดียว มาอย่างยืดยาว ถึง 14 ปีด้วยกัน และหากเรื่องนี้มีการลงตีพิมพ์อย่างต่อเนื่อง คาดว่า มีกำหนดจะตีพิมพ์ตอนสุดท้ายในฉบับ ก.พ. 2015 ของนิตยสารดังกล่าว ที่จะวางขายวันที่ 13 ม.ค. 2015

หนุ่มหล่อเฟี้ยว แปลงโฉมสาว ตีพิมพ์ขึ้นตั้งแต่ปี 2000 และเพิ่งกลับมาตีพิมพ์อีกครั้ง หลังจากหยุดหายไปยาว เมื่อ เม.ย. 2014 ที่ผ่านมา เป็นเรื่องราวของ หนุ่มหล่อทั้ง 4 คน ที่มาอาศัยอยู่รวมกัน ณ คฤหาสน์แห่งหนึ่ง ซึ่งพวกเขาได้รับภารกิจอันหนักอึ้ง นั่นคือ จะต้องเปลี่ยนแปลงโฉม สุนาโกะ หลานสาวเจ้าของคฤหาสน์ที่เอาแต่เก็บตัว อยู่แต่ที่มืด ให้กลายเป็นกุลสตรีให้ได้ ภายในระยะเวลา 3 ปี โดยเรื่องนี้เคยถูกดัดแปลงเป็นอนิเมซีรี่ย์ 25 ตอน ออกฉายช่วงปี 2006-2007 และ ละครซีรี่ย์ เมื่อปี 2010

แหล่งข่าวและรูปภาพ : animenewsnetwork.com



Square Enix โต้ ซีรี่ย์การ์ตูน Hi Score Girl ไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์ตัวละครของ SNK Playmore

ก็เป็นข่าวใหญ่มาได้พักหนึ่ง สำหรับกรณีพิพาทที่เกิดขึ้นระหว่าง Square Enix กับ SNK Playmore สองบริษัทผู้ผลิตเกมรายใหญ่ในญี่ปุ่น จากการที่ SNK อ้างว่า ซีรี่ย์การ์ตูนเรื่อง Hi Score Girl ของ Square Enix นั้น มีการละเมิดลิขสิทธิ์ตัวละครของ SNK โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพวกเขา พร้อมกับขอร้องให้ทาง Square Enix หยุดตีพิมพ์และจำหน่ายการ์ตูนเรื่องดังกล่าวทันทีนั้น ล่าสุด Square Enix ได้ออกมาโต้กลับบนชั้นศาลว่า ซีรี่ย์การ์ตูนดังกล่าวของพวกเขา ไม่ได้ตั้งใจละเมิดลิขสิทธิ์จาก SNK แต่อย่างใด พร้อมขอร้องขอความเป็นธรรมบนชั้นศาลด้วย

SNK ได้ดำเนินคดีทางกฏหมายกับ Square Enix โดยกล่าวอ้างว่า Hi Score Girl มีการละเมิดลิขสิทธิ์ตัวละครจากเกมแนวต่อสู้ของค่าย SNK ที่ประกอบด้วย The King of Fighters, Samurai Spirits (Samurai Shodown) และเกมต่อสู้เกมอื่นๆในสังกัด จำนวนนับ 100 คน เมื่อ ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งต่อมา ทางหัวหน้าบก.ของนิตยสาร Big Gangan ได้ประกาศว่า ทางนิตยสารจะงดตีพิมพ์เรื่องนี้เป็นการชั่วคราว พร้อมกับเรียกคืนฉบับรวมเล่มของเรื่องนี้จากร้านหนังสือต่างๆ รวมถึง หยุดวางจำหน่ายเรื่องนี้ในทุกช่องทาง ทั้ง รูปแบบตีพิมพ์ กับ ดิจิตอล แล้วก็ หนังสือ fanbook

Hi Score Girl ผลงานของ อ.เร็นสุเกะ โอชิคิริ ตีพิมพ์ขึ้น เมื่อปี 2010 ปัจจุบัน มีฉบับรวมเล่มถึง 5 เล่มด้วยกัน โดยเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อปี 1991 สมัยที่เกมวีดีโอแนวต่อสู้ 2 มิติ กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง เมื่อ ฮารุโอะ เด็ก ป.6 มักจะใช้เวลาทั้งวันในการอยู่ร้านเกม ได้พบเจอกับ อากิระ สาวน้อยเพื่อนร่วมชั้นที่เป็นคนเรียนดีและออกแนวเป็นคุณหนูไฮโซ ที่กำลังป้วนเปี้ยนในร้านเกม ซึ่งหารู้ไม่ว่าเธอผู้นี้เป็นเกมเมอร์ฝีมือเซียนคนหนึ่ง และแล้ว ทั้งคู่ได้มาดวลเกม Street Fighter II กัน และ อากิระ เป็นฝ่ายชนะแทบทุกตา และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสอง พัฒนาขึ้นโดยไม่รู้ตัว ผ่านการดวลเกม!!


แหล่งข่าว : Game Watch,animenewsnetwork.com

 


คุโรโกะ นายจืดพลิกสังเวียนบาส จะมีต่อ กับการ์ตูนชุดใหม่ ใน Jump Next ธ.ค. 2014

สำหรับใครคนไหนที่ยังฟินไม่จุใจกับบทสรุปของนักบาสคุโรโกะนั้น ก็ได้กรี๊ดลั่นห้องกันเพิ่มเติม เมื่อนิตยสาร Jump Next ฉบับที่ 5 ได้ประกาศว่า อ.ทาดาโทชิ ฟูจิมากิ เตรียมจะเขียน Kuroko no Basket หรือ คุโรโกะ นายจืดพลิกสังเวียนบาส กันต่อ กับการ์ตูนชุดใหม่ (ที่แหล่งข่าวยังไม่ระบุว่าเป็นเรื่องสั้น หรือ เรื่องยาว) ใน Jump Next ฉบับที่ 6 ที่จะออกวางขายต้อนรับปีใหม่ 2015 กัน ในวันที่ 29 ธ.ค. 2014 นี้ โดยตอนแรกของการ์ตูนชุดใหม่นี้ จะได้หน้าเปิดสี พร้อมกับขึ้นปกนิตยสารฉบับดังกล่าว

การ์ตูนดังกล่าว มีเนื้อหาที่เกิดขึ้นหลังจากตอนสุดท้ายของคุโรโกะ ที่ตีพิมพ์ลงในโชเน็นจัมป์ไปเมื่อ 1 ก.ย. 2014 โดยจะเน้นเรื่องราวความเป็นไปของเหล่านักบาสรุ่นมหัศจรรย์แต่ละคน หลังจากเสร็จสิ้นกับศึกสุดท้ายในภาคหลัก ซึ่งนิตยสารดังกล่าวได้ขึ้นคำโปรยว่า " 1 ก.ย. 2014 การเดินทางของพวกเขาได้รูดม่านปิดฉากลง...แต่เดี๋ยวก่อน!! ความมหัศจรรย์น่ะ มันยังไม่จบสิ้นหรอก! "

คุโรโกะ ตีพิมพ์ครั้งแรกในโชเน็นจัมป์ เมื่อปลายปี 2008 มีกำหนดออกวางขายฉบับรวมเล่ม 30 เล่มจบของเรื่องนี้ ในเดือน ธ.ค. ปัจจุบัน เรื่องนี้มียอดขายมากกว่า 27 ล้านเล่ม และถูกนำไปดัดแปลงเป็นอนิเมถึง 3 ซีซั่นด้วยกัน โดยอนิเมซีซั่น 3 มีกำหนดออกฉายต้นปี 2015



แหล่งข่าว : The Tokusatsu Network,animenewsnetwork.com


Soul Eater Not! เตรียมปิดฉากทางการ พ.ย. 2014

ซีรี่ย์เขมือบวิญญาณ Soul Eater ก็ถึงคราได้ปิดตำนานกันอย่างของจริง เมื่อ นิตยสาร Shonen Gangan ฉบับ พ.ย. ได้แจ้งว่า Soul Eater Not! ซีรี่ย์ภาคแยกของ Soul Eater มีกำหนดตีพิมพ์ตอนสุดท้ายในฉบับหน้าของนิตยสารดังกล่าว ที่จะออกวางขายในวันที่ 10 พ.ย. นี้ โดยซีรี่ย์ดังกล่าวตีพิมพ์ขึ้นเมื่อปี 2011 โดยเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อน Soul Eater ภาคหลัก รวมถึงมีธีมเรื่องที่เบากว่าภาคหลักด้วยเช่นกัน


แหล่งข่าว : animenewsnetwork.com

 


นอนยัน!!!!.....Tokyo Ghoul ซีซั่น 2 มา ม.ค. 2015 / เผยซีรี่ย์การ์ตูนภาคต่อกับ Tokyo Ghoul:re

หลังจากที่เว็บจีนได้เกี่ยวกับอนิเมซีซั่นใหม่ของ Tokyo Ghoul ออกมาให้แฟนๆได้ตามลุ้นมาก่อนหน้านี้นั้น ล่าสุดก็มีการยืนยันอย่างเป็นทางการกันเสียที จากนิตยสาร Young Jump ฉบับที่ 46 ว่า Tokyo Ghoul จะมีอนิเมซีซั่น 2 ออกฉายอย่างชัวร์ๆ ไม่มั่วนิ่ม ในเดือน ม.ค. 2015 เท่านั้นไม่พอ แฟนๆจะได้ติดตามผลงานการ์ตูนใหม่ของ อ.อิชิดะ ที่มีการประกาศกันมาก่อนหน้านี้ ซึ่งก็คือภาคใหม่ล่าสุดของเรื่องนี้ กับ Tokyo Ghoul:re ที่เพิ่งลงตอนแรกในนิตยสารฉบับดังกล่าวด้วยเช่นกัน!!! ซึ่งการ์ตูนดังกล่าวจะมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของตัวเอกของเรื่องด้วย

Tokyo Ghoul ผลงานการ์ตูนของ อ.ซุย อิชิดะ เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น ณ กรุงโตเกียวที่เต็มไปด้วยผีวิญญาณร้ายที่คอยกัดกินมนุษย์ จนทำเอามนุษย์ต่างพากันหวาดกลัว จนกระทั่ง นักศึกษาหนุ่ม คาเนกิ ได้พบเจอกับ ริเสะ สาวหนอนหนังสือ ณ คาเฟ่ร้านประจำ ซึ่งการพบเจอกันของทั้งคู่ ทำให้ คาเนกิ รู้ว่าชะตาของตนกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดทั้งคืน ซีรี่ย์เรื่องนี้ตีพิมพ์เมื่อปี 2011 และเพิ่งจบภาคแรกไปเมื่อไม่นานมานี้


แหล่งข่าวและรูปภาพ : animenewsnetwork.com

 


นิตยสาร Comic Earth Star ประกาศหยุดตีพิมพ์

Comic Earth Star นิตยสารรายเดือนของสนพ.Earth Star Entertainment ในฉบับ พ.ย. ได้แจ้งข่าวร้ายแก่นักอ่านว่า นิตยสารหัวนี้เตรียมจะหยุดตีพิมพ์แล้ว โดยมีกำหนดออกวางจำหน่ายฉบับสุดท้าย ฉบับเดือน ธ.ค. ที่จะวางขายในวันที่ 12 พ.ย. นี้ อย่างไรก็ตาม ทางกองบก.ของนิตยสารดังกล่าว ก็มีแผนที่จะเผยแพร่นิตยสารนี้ในรูปแบบดิจิตอลแทน ช่วงฤดูหนาวที่จะถึงนี้ รายละเอียดเพิ่มเติมจะมีการแจ้งให้ทราบในฉบับสุดท้ายของนิตยสารดังกล่าว ซึ่งกองบก.ได้เสริมอีกว่า นิตยสารในรูปแบบดิจิตอลนั้นจะเพิ่มเรื่องใหม่ และ พัฒนาให้มันดีขึ้นเรื่อยๆ รวมถึง จะลงซีรี่ย์การ์ตูนดังประจำนิตยสารหัวนี้ต่อไป ทั้งในส่วนของการ์ตูนภาคแยก และ รูปแบบอื่นๆ ซึ่งนิยายใหม่ที่มีการยืนยันว่าจะลงในนิตยสารรูปแบบดิจิตอล อาทิ

Slime na Dungeon kara Tenka o Torou to Omou. โดย Saitō (ผู้แต่ง) กับ Yū Shiina (ผู้วาด)
Kyoto Tashuzoku Anzen Kikō โดย writer Kōsuke Akai (ผู้แต่ง) กับ Ryō Ueda (ผู้วาด)
Ossan ga Bijo. โดย Maru Yamada (ผู้แต่ง) กับ Kaori Fujita (ผู้วาด)
Daimaō ga Taosenai โดย Tsuyoshi Fujitaka (ผู้แต่ง)

Comic Earth Star ลงตีพิมพ์ซีรี่ย์การ์ตูนที่ดังในระดับหนึ่ง (อาจไม่เปรี้ยงปร้างนัก) และในจำนวนนี้เคยถูกดัดแปลงเป็นอนิเมด้วย อาทิ Yama no Susume (Encouragement of Climb), Nobunagun, Teekyū, Holy Holy, Encouragement of Climb , Pupa, Wanna Be the Strongest in the World และ Mangirl!


แหล่งข่าวและรูปภาพ : animenewsnetwork.com

 


Shaman King Flowers จบลงในเดือน ต.ค. 2014 นี้

เรียกได้ว่าเป็นสัปดาห์แห่งซีรี่ย์การ์ตูนจบเยอะกันจริงๆนะแหละ.....ซึ่งซีรี่ย์หมอผีปาหมอนเรื่องนี้ก็เช่นกัน!! ล่าสุด มีการยืนยันว่า Shaman King Flowers ซีรี่ย์ภาคต่อของ Shaman King ราชันย์แห่งภูต ได้ตีพิมพ์ตอนสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในนิตยสาร Jump X (Jump Kai) ฉบับล่าสุด ที่เพิ่งวางจำหน่ายไปเมื่อ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าซีรี่ย์การ์ตูนดังของ อ.ฮิโรยูกิ ทาเคอิ ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ เพราะนิตยสารได้ขึ้นคำโปรยว่า "โปรดติดตามข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรเจ็คในอนาคตของ Shaman King กันต่อไป" โดยฉบับรวมเล่ม 6 ฉบับรวมเล่มสุดท้ายของ Shaman King Flowers มีกำหนดวางขายที่ญี่ปุ่น วันที่ 19 ธ.ค.นี้

Shaman King Flowers ตีพิมพ์ขึ้นเมื่อปี 2012 หลังจาก Jump X เริ่มออกวางจำหน่ายไปก่อนหน้าปีนึง โดยจะเป็นเรื่องราวของรุ่นลูก ซึ่งก็คือ อาซากุระ ฮานะ บุตรชายของ โย กับ แอนนา ซึ่งฮานะ จะต้องพิสูจน์ตนเองว่า ตนมีพลังเหนือกว่าคุณพ่อแล้ว ... นอกจากนี้ อ.ทาเคอิ ยังมีเรื่องสั้นเกี่ยวกับบรรดาตัวละครหลักใน Shaman King ภาคแรก ซึ่งเป็นเนื้อหาที่ไม่เคยมีการบอกเล่ามาก่อนในภาคหลัก ตีพิมพ์ใน Jump X อีกด้วย



แหล่งข่าว : animenewsnetwork.com

 


ปัญหาสุขภาพผู้แต่ง ทำเอา "พักนี้น้องสาวของพี่ดูแปลกไป" ต้องหยุดตีพิมพ์ชั่วคราว

ฝ่ายบก.ของนิตยสาร Dragon Age ได้แจ้งข่าวบนนิตยสารดังกล่าว ฉบับ พ.ย. ที่เพิ่งออกวางขายไปเมื่อ 9 ต.ค. ที่ผ่านมาว่า ผลงานการ์ตูนของ อ.มาริ มัตซึซาวะ เรื่อง Saikin, Imōto no Yōsu ga Chotto Okashiin Da Ga หรือ พักนี้น้องสาวของพี่ดูแปลกไป จะงดตีพิมพ์ชั่วคราว อันเนื่องจาก อ.มัตซึซาวะ กำลังประสบปัญหาสุขภาพ ซึ่งตอนนี้อ.มัตซึซาวะ กำลังอยู่ในช่วงพักฟื้นร่างกายอยู่ ทางนิตยสารเลยออกมาขออภัยนักอ่าน พร้อมขอร้องให้แฟนๆช่วยกันอดใจรอการกลับมาของซีรี่ย์การ์ตูนเรื่องนี้

พักนี้น้องสาวของพี่ดูแปลกไป ซีรี่ย์การ์ตูนน้องสาวสุดเรตไม่แคร์สื่อ เป็นเรื่องราวของ มิตซึกิ ที่อาศัยอยู่ร่วมกับ ยูยะ พี่ชายต่างสายเลือดของเธอ หลังจากที่คุณแม่ของเธอได้แต่งงานใหม่ วันหนึ่ง เธอได้ถูกวิญญาณของ ฮิโยริ โคโตบุกิ เด็กสาวที่หลงรักยูยะ เข้าสิง
จนทำให้มิตซึกิเปลี่ยนไป จนเกิดความสัมพันธ์วุ่นๆจนเกินพี่น้องเข้า......ซึ่งทั้งฉบับการ์ตูนกับอนิเมของเรื่องนี้ ต่างก็มีลิขสิทธิ์ในบ้านเราแล้ว โดย รักพิมพ์ และ Rose Media ตามลำดับ

แหล่งข่าว : animenewsnetwork.com


อาราตะ ตำนานเทพแห่งดาบ เตรียมคัมแบ็ค ในปี 2015

อ.ยู วาตาเสะ ก็ได้ออกมายืนยันกับแฟนๆผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า Arata Kangatari หรือ อาราตะ ตำนานเทพแห่งดาบ ผลงานเรื่องปัจจุบันของเธอ จะกลับมาลงตีพิมพ์อีกครั้งในปี 2015 นี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ อ.วาตาเสะ เคยแจ้งว่า ซีรี่ย์เรื่องนี้ที่งดตีพิมพ์ไปตั้งแต่ ก.พ. 2014 นั้น จะกลับมาตีพิมพ์อีกครั้งในเดือน ต.ค. 2014 แต่จนแล้วจนรอด อ.วาตาเสะได้ตัดสินใจเลื่อนการคัมแบ็คของเรื่องนี้ออกไปจนถึงปีหน้าแทน

ปัจจุบัน อ.วาตาเสะ กำลังแก้ไขต้นฉบับของอาราตะ เพื่อที่จะใช้ในการตีพิมพ์ฉบับรวมเล่ม ในรูปแบบ deluxe edition โดยเล่ม 4 ของอาราตะ ในเวอร์ชั่น deluxe มีกำหนดวางขายในเดือน ต.ค. นี้


แหล่งข่าว : animenewsnetwork.com


คอลัมนิสต์มะกัน อ้าง ความนิยมคอสเพลย์ ทำเศรษฐกิจสหรัฐตกต่ำ

James Pethokoukis นักเขียนบทความอิสระ กับ DeWitt Wallace Fellow แห่งสถาบันวิจัยเชิงนโยบายอนุรักษ์นิยม American Enterprise ได้ร่วมด้วยช่วยกันเขียนบทความหนึ่ง ซึ่งพูดถึง กิจกรรมการคอสเพลย์ที่กำลังได้รับความนิยมในอเมริกา จนเกิดผลกระทบด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับระบบเศรษฐกิจของอเมริกัน ซึ่งบทความดังกล่าวได้ลงบนเว็บไซต์ของ The Week ซึ่งเป็นนิตยสารข่าวสารการเมืองของอังกฤษ และ สหรัฐฯ

บทความดังกล่าว มีหัวข้อว่า "เหตุไฉน ความนิยมของคอสเพลย์ จึงส่งสัญญาณไม่ดีต่อเศรษฐกิจของสหรัฐ" Pethokoukis ได้เขียนเกริ่นนำ โดยเปรียบเปรยกันระหว่าง ตลาดงานอันซบเซาของญี่ปุ่น กับ กิจกรรมคอสเพลย์ในญี่ปุ่น ก่อนที่จะมาวกกลับพูดถึง กิจกรรมคอสเพลย์ที่กำลังเป็นที่สนใจและได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในหมู่ชนชาวอเมริกัน ซึ่งจากการที่มีจำนวนนักคอสเพลย์เพิ่มมากขึ้นในสหรัฐนั้น ก็กำลังส่งสัญญาณถึงผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในสหรัฐด้วยเช่นกัน แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม การแต่งกายเลียนแบบ Doctor Who (ละครซีรี่ย์สัญชาติอังกฤษ) นั้น ยังไงซะมันก็คงจะดีกว่า การพยายามหางานทำในตำแหน่งไม่สูงเสียอีก

Pethokoukis ยังได้กล่าวถึงสังคมเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ที่กำลังอยู่ในช่วงขาลงมานาน โดยบอกว่า หนุ่มสาววัยทำงานชาวญี่ปุ่นสมัยนี้ต่างอยู่อาศัยกับพ่อแม่ ผู้ปกครองตนเองเป็นเวลานาน ซะจน ไม่ยอมแต่งงาน และไม่ยอมมีบุตรหลานของตน แม้กระนั้น ถึงพวกเขาจะไม่สามารถหางานเลี้ยงชีพให้ตัวเองได้ แต่พวกเขาก็ยังมีเวลาว่างมากพอที่จะไปแต่งกายเลียนแบบ สาวน้อยชุดปกกะลาสีถือคฑา หรือจะเป็น ทหารนักเล่นแร่แปรธาตุ จากโลกการ์ตูนอนิเมมังงะอันสดใส ซึ่งพวกเขาเหล่านี้พยายามที่จะค้นหาเรื่องเติมแต่งจินตนาการ เพื่อที่จะหลบหนีความจริงบนโลกใบนี้

และความนิยมในกิจกรรมคอสเพลย์ของคนอเมริกันที่มีมากขึ้น ยังส่งสัญญาณถึงการล่มสลายของระบบการเงินของสหรัฐที่กำลังงวดเข้ามาทุกทีด้วยเช่นกัน เห็นได้จาก เหล่าคนที่เรียนจบระดับอุดมศึกษาในสหรัฐส่วนหนึ่ง ทยอยหลีกหนีจากโลกแห่งความจริง เข้าสู่โลกแฟนตาซีและทำกิจกรรมคอสเพลย์กันมากยิ่งขึ้นในทุกๆวัน แทนที่พวกเขาจะหันมาเผชิญหน้ากับสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกแห่งความเป็นจริง

"หากคุณขจัดภาพลาง ด้วยการมองเห็นความจริงที่เกิดขึ้นกับชีวิตก่อนเข้าสู่ผู้ใหญ่ของคุณแล้ว การแต่งกายเลียนแบบ Doctor Who นั้น มันทำให้คุณรู้สึกดูดี และ ดูดียิ่งกว่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า คนที่ชื่นชอบคอสเพลย์ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่หางานลำบาก แค่เพียงบอกว่า การที่ผู้คนหลีกหนีจากโลกแห่งความจริงเข้าสู่โลกแฟนตาซีมากขึ้นๆ เป็นการย้ำเตือนให้เห็นถึงปัญหาที่มาพร้อมกับความเป็นจริงของเราในหลายๆด้านด้วย "

ซึ่ง Pethokoukis ยังได้กล่าวทิ้งท้ายถึงขั้นตอนที่สหรัฐจะหยุดยั้งปัญหาเศรษฐกิจซบเซาอย่างต่อเนื่อง แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือ "ยังหาทิศทางที่แน่นอนไม่เจอ" ซึ่งตรงกันข้ามกับ แรงงานอเมริกันส่วนใหญ่ที่ดูเหมือนจะทำงานหนัก แต่ยังคงสนุกสนานไปกับสิ่งบันเทิงที่ตนสนใจมากกว่า "อย่างเช่น การใช้ Yelp (แอพมือถือที่ใช้ค้นหาบริษัท ธุรกิจท้องถิ่น สถานที่ ที่มาพร้อมกับคะแนนรีวิว) ในการค้นหาอาหารอร่อยราคาถูก หรือจะเป็นการใช้เวลาขลุกแต่ social network เป็นชั่วโมงๆ รวมถึง การเพิ่มเสน่ห์ เพิ่มจุดสนใจของตนเอง ด้วยการแต่งคอสเพลย์ด้วย " ซึ่งต้องขอขอบคุณสภาพเศรษฐกิจอันย่ำแย่ที่ทำให้พวกเขาเหมือนกับสิ่งที่ญี่ปุ่นประสบมาก่อนด้วยเช่นกัน

จากบทความดังกล่าว เนื่องจากเป็นมุมมองของคนๆเดียว ก็ขอให้ใช้วิจารณญาณในการอ่านกันด้วยนะครับ (ส่วนตัวคิดว่า คนเขียนบทความนี้ ค่อนข้างจะอคติคอสเพลย์ไป(ไม่)หน่อยล่ะนะ)




แหล่งข่าว : The Week , animenewsnetwork.com

 


ผลรางวัล Newtype Awards 2014

งาน Machi Asobi Vol.13 เมื่อ 11 ต.ค. ที่ผ่านมา ได้มีการประกาศผลรางวัล Newtype Awards 2014 ซึ่งรางวัลดังกล่าว เป็นรางวัลเกี่ยวกับวงการการ์ตูนอนิเมที่ตัดสินมาจากคะแนนโหวตของนักอ่านนิตยสาร Newtype ที่ได้เข้าไปลงคะแนนกันบนเว็บไซต์หลักของนิตยสารดังกล่าว โดยซีรี่ย์อนิเมที่เข้าชิงในทุกสาขานั้น ล้วนเป็นเรื่องที่ออกฉายช่วงปี 2013-2014 ทั้งสิ้น ซึ่งในปีนี้ ถือเป็นปียอดเยี่ยมของอนิเม Kill La Kill กับ The iDOLM@STER Movie ที่คว้ามาได้คนละ 4 สาขา เท่ากัน โดย Kill La Kill คว้ารางวัลอันดับ 1 ใน สาขาออกแบบตัวละคร , อนิเมซีรี่ย์, บท และ เสียงยอดเยี่ยม ขณะที่ The iDOLM@STER Movie คว้ารางวัลอันดับ 1 ในสาขา ภาพยนตร์อนิเม, ตัวละครหญิง ( Haruka Amami ) , เพลงประกอบ และ ผู้กำกับยอดเยี่ยม

ออกแบบตัวละครยอดเยี่ยม:

3) Kazuaki Morita (Arpeggio of Blue Steel: Ars Nova)

2) Nishigori Atsushi (The iDOLM@STER Movie)

1) Sushio (Kill la Kill)

 

ออกแบบเครื่องกลยอดเยี่ยม

3) Gundam UC

2) Aldnoah.Zero

1) Arpeggio of Blue Steel

 

ภาพยนตร์อนิเมยอดเยี่ยม

3) Tiger & Bunny The Rising

2) Madoka Magica: The Rebellion Story

1) The iDOLM@STER Movie

 

อนิเมซีรี่ย์ยอดเยี่ยม

3) Love Live!

2) Arpeggio of Blue Steel

1) Kill la Kill

 

มาสค็อตยอดเยี่ยม

3) Senketsu (Kill la Kill)

2) Hamzou (The iDOLM@STER)

1) Kirishima (Arpeggio of Blue Steel)

 

ตัวละครชายยอดเยี่ยม

3) Chihaya Gunzo (Arpeggio of Blue Steel)

2) Producer (The iDOLM@STER Movie)

1) Kirito (Sword Art Online)

ตัวละครหญิงยอดเยี่ยม

3) Mako Mankanshoku (Kill la Kill)

2) Ryuko Matoui (Kill la Kill)

1) Haruka Amami (The iDOLM@STER Movie)

นักพากย์ชายยอดเยี่ยม

3) Mamoru Miyano

2) Yoshitsugu Matsuoka

1) Yuki Kaji

นักพากย์หญิงยอดเยี่ยม

3) Sora Amamiya

2) Manami Numakura

1) Eriko Nakamura

สตูดิโอยอดเยี่ยม

3) Sanzigen

2) Trigger

1) A-1 Pictures

เขียนบทยอดเยี่ยม

3) Nishigori Atsushi

2) Gen Urobuchi

1) Kazuki Nakajima (Kill La Kill)

 

เสียงยอดเยี่ยม

3) Love Live!

2) The iDOLM@STER Movie

1) Kill la Kill

 

เพลงประกอบยอดเยี่ยม

3) Tiger & Bunny The Rising

2) Kill la Kill

1) The iDOLM@STER Movie

ผู้กำกับยอดเยี่ยม

3) Akiyuki Shinbo (Nisekoi and Monogatari)

2) Hiroyuki Imaishi (Kill la Kill)

1) Nishigori Atsushi (The iDOLM@STER Movie)




แหล่งข่าว : SGCafe Gigazine , Yaraon,crunchyroll.com

ฟินฝุดๆ!!!! ....ไฮคิว!! คู่ตบฟ้าประทาน เหมาอันดับ 1 ทั้งชาร์ตการ์ตูน และ ไลท์โนเวลขายดีของ oricon !!!

เว็บไซต์ Oricon ได้เปิดเผยว่า ฉบับการ์ตูนรวมเล่มที่ 13 ของ ไฮคิว!! คู่ตบฟ้าประทาน และ ฉบับนิยายของไฮคิว ชุด Haikyu!! Shosetsuban ในเล่ม 4 ต่างพากันครองอันดับ 1 ในชาร์ตการ์ตูนขายดีที่ญี่ปุ่นของ oricon และ ชาร์ตนิยายไลท์โนเวลขายดีที่ญี่ปุ่นของ oricon ในช่วงวันที่ 29 ก.ย. - 5 ต.ค. 2014 ตามลำดับ ซึ่งทั้งฉบับการ์ตูนและนิยาย ต่างออกวางจำหน่ายในญี่ปุ่นวันแรก พร้อมกัน ในวันที่ 3 ต.ค. 2014 และทำยอดขายในช่วง 3 แรกได้ 347,210 เล่ม กับ 69,837 เล่ม ตามลำดับ ซึ่งถือเป็นซีรี่ย์การ์ตูนเรื่องแรกในรอบ 2 ปี (กับ 4 เดือน) ที่สามารถครองอันดับ 1 ได้ทั้ง 2 ชาร์ตดังกล่าวพร้อมกันอีกด้วย

โดยก่อนหน้านี้ ซีรี่ย์การ์ตูนที่เคยพาฉบับรวมเล่ม และ นิยาย ครองอันดับ 1 ทั้ง 2 ชาร์ต พร้อมกันก็มี กินทามะ ทั้งการ์ตูนเล่ม 39 และ นิยายชุด Gintama Kaettekita 3-nen Z-gumi Ginpachi-sensei Returns Keiketsu Shinsuke Takasugi-kun เมื่อ เม.ย. 2011 , Blue Exorcist กับการ์ตูนฉบับรวมเล่ม 7 กับ นิยายชุด Ao no Exorcist Weekend Hero เมื่อ ก.ย. 2011 และ บลีช กับ ฉบับการ์ตูน เล่ม 55 กับนิยายชุด Bleach 1 Spirits Are Forever With You เมื่อ มิ.ย. 2012

10 อันดับ การ์ตูนขายดีที่ญี่ปุ่นของ oricon ในช่วงวันที่ 29 ก.ย. - 5 ต.ค. 2014 :


(อันดับ / ยอดขายประจำสัปดาห์ / ยอดขายรวม / เรื่อง - เล่มที่)

*1. 347,210 *,347,210 Haikyuu!! คู่ตบฟ้าประทาน เล่ม 13
*2. 300,220 *,300,220 Kuroko no Basket คุโรโกะ นายจืดพลิกสังเวียนบาส เล่ม 29
*3. 285,226 *,285,226 Ansatsu Kyoushitsu / Assassination Classroom เล่ม 11
*4. 205,159 *,205,159 Bleach เทพมรณะ เล่ม 65
*5. 137,264 *,137,264 Gintama เล่ม 56
*6. 136,030 *,136,030 Nisekoi รักลวงป่วนใจ เล่ม 14
*7. 120,232 *,322,444 Kyou wa Kaisha Yasumimasu. สักวันที่ฉันมีเธอ เล่ม 7
*8. *69,982 *,*69,982 World Trigger เล่ม 8
*9. *66,579 *,*66,579 Soredemo Machi wa Mawatteiru เมืองวุ่น คนวาย และสาวเมด เล่ม 13
10. *64,101 *,338,108 Uchuu Kyoudai สองสิงห์อวกาศ เล่ม 24



แหล่งข่าว : Oricon,Tohan


 
free hit counter javascript