One Hit Wonder - Mangaka #2 : เขียนมาแทบตาย สุดท้ายดังอยู่เรื่องเดียว #2

ป.ล.บทความนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนบทความนี้เท่านั้น กรุณาใช้วิจารณญานของท่านด้วยครับ
ป.ล.นับเฉพาะนักเขียนการ์ตูนที่มีผลงานเรื่องยาวมากกว่า 2 เรื่อง
ป.ล. สำหรับเรื่องที่มีหลายภาค เราขอนับเป็นซีรี่ย์เดียว

One Hit Wonder คือศัพท์เฉพาะของวงการบันเทิงที่สื่อถึงศิลปินผู้ที่มีผลงานดังเปรี้ยงปร้างอยู่ชิ้นเดียว ชนิดที่กลบความดังผลงานอีกหลายชิ้นของศิลปินผู้นั้นซะเสียชนิด ซึ่งคำๆนี้ มักจะใช้กับศิลปินนักร้องผู้มีซิงเกิ้ลฮิตอยู่เพลงเดียว ในวงการการ์ตูนก็เช่นเดียวกัน ก็มีนักเขียนการ์ตูนจำนวนหนึ่งที่มีผลงานการ์ตูนจำนวนมาก แต่สุดท้ายก็มีซีรี่ย์ที่ฮิตติดลมบนสุดๆเพียงเรื่องเดียว

โดยบทความนี้ ถือเป็นภาคต่อจากบทความแรกที่เราเคยเขียนไว้มานานแล้ว ซึ่งคราวนี้เราก็ได้รวบรวมลิสต์นักเขียนการ์ตูนที่เข้าข่าย One Hit Wonder เพิ่มเติม ซึ่งก็มีรายนามต่อไปนี้ :


ทาคาชิ ฮาชิงุจิ

One Hit  Wonder  Serie :  Yakitate Japan / แชมเปี้ยนขนมปังสูตรดังเขย่าโลก

ก่อนที่ อ.ฮาชิงุจิ จะมาสร้างชื่อกับการ์ตูนทำขนมปังขายรีแอ็คชั่น อย่าง Yakitate Japan หรือ แชมเปี้ยนขนมปังสูตรดังเขย่าโลก นั้น เขาก็มีผลงานการ์ตูนมาจำนวนหนึ่ง หลังจากคว้ารางวัลนักเขียนการ์ตูนหน้าใหม่ เมื่อปี 1987 ซึ่งผลงานของเขาส่วนใหญ่ก็ออกไปทางโนเนม จะมีที่พอคุ้นหูคุ้นตากันบ้างหน่อยก็คือ Super Yo-Yo การ์ตูนดวลลูกดิ่ง ที่ต่อมาได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี เรียกได้ว่า Super Yo-Yo น่าจะเป็นผลงานสร้างชื่อในเส้นทางนักเขียนการ์ตูน ของ อ.ฮาชิงุจิ เลยก็ว่าได้

หลังจาก Super Yo-Yo จบลงไป เขาได้สร้างสรรค์ Yakitate Japan หรือ "เจปัง" ให้ผู้อ่านได้เอร็ดอร่อย ฮาก๊ากไปกับมุกตลกอันไหลลื่น(มากกว่าเรื่องใดๆ) จนทำให้ผลงานเรื่องนี้ของเขา กลายเป็นผลงานที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในชีวิต ชนิดที่หากพูดถึงผลงานการ์ตูนของเขา หลายคนคงจะนึกถึง เจปัง เป็นเรื่องแรก!! แถมเรื่องนี้ยังสามารถคว้ารางวัลมังงะยอดเยี่ยมของสนพ.โชกะกุกัง เมื่อปี 2004 ไปประดับเกียรติยศ และได้ทำอนิเมทีวีในเวลาต่อมา ทว่า หลังจากนั้น ดูเหมือนว่า เขาจะมั่นใจไปกับมุกตลกของตัวเองมากจนเกินไป ซะจนทำเอาเรื่องราวของเจปังในช่วงท้ายๆ ทะลุออกทะเลจนน่าปวดหัว แถมยิ่งเขียนไป "เจปัง"ของอาสุมะ กลายเป็นไอเท็มอภินิหาร ทำเอาคนกินไม่สามารถกลับคืนร่างเดิมได้อีก เลยทำให้มังงะเรื่องนี้จบแบบไม่สวยเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม อ.ฮาชิงุจิ ได้พยายามจะลดทอนความตลก และเน้นความจริงจังในเนื้อเรื่องมากขึ้น กับเรื่อง Saijō no Meii หรือ คมมีด ความฝัน ศัลยแพทย์ แต่ก็เป็นผลงานที่ไม่ค่อยจะโด่งดังนัก เมื่อเทียบกับ เจปัง (แม้ว่าจะได้รับการดัดแปลงในรูปแบบละครซีรี่ย์ ก็ตาม) และหลังจากมังงะ Saijō no Meii - King of Neet จบลงไป ก็ไม่มีใครทราบข่าวคราวเกี่ยวกับผลงานเรื่องต่อๆไปของเขาอีกเลย


ผลงานเรื่องอื่นๆที่นานๆจะพูดถึง : Combat Teacher ,Kinniku Kurabu ,Chie-Baachan No Chiebukuro ,Suto Ii Bashuko! Yon-Koma Gag Gaiden ,Caster Mairu Zo ,Windmill ,Super Yo-Yo ,Scissors ,Saijō no Meii Series

 

ชินจิ ไซโจ้

One Hit  Wonder  Serie :  จอมโหดกระทะเหล็ก Series

อ.ชินจิ ไซโจ้ เป็นที่รู้จักและคุ้นเคยของนักอ่านบ้านเราหลายคน จาก จอมโหดกระทะเหล็ก (Tetsu Nabe no Jan / Iron Wok Jan ) กับสไตล์แอ็คชั่นการทำอาหารที่ดุเดือด ชวนหิว ไปพร้อมๆกับสไตล์ลายเส้นตัวละครอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่ง อ.ไซโจ้ นั้น ก่อนหน้านี้ ก็มีผลงานการ์ตูนมากมายหลายเรื่อง มีหลากหลายแนว ทั้งแนวแอ็คชั่นซามูไร , เขย่าขวัญ ,หมากรุกญี่ปุ่น รวมถึงแนววาบหวาม!!!! (คงเป็นที่มาของ หน้าอก "มะละกอ GMO" ของสาวๆ จากผลงานเขาทุกเรื่อง!!!) โดยผลงานของเขาจำนวนหนึ่งนั้น เคยออกวางจำหน่ายในบ้านเราด้วย (แต่ตอนนี้คงหายากแล้วล่ะ)

แต่จากการที่ผลงานเรื่องอื่นๆของเขานั้น ไม่เป็นที่จดจำนัก หนำซ้ำ บรรดาตัวละครจากผลงานเรื่องอื่นๆของเขา ยังสลัดภาพลักษณ์ "อากิยามะ จาง" ไม่พ้นเลย จนบางทีคนอ่านสับสน คิดว่ามันคือ "จอมโหดกระทะเหล็ก ภาคใหม่" และด้วยเหตุนี้ อ.ไซโจ้ คงรู้ดีว่า เขียนมังงะแนวอื่นๆ เรื่องอื่นๆ คงไปไม่รุ่ง เลยตัดสินใจกลับมาสืบสานเรื่องราวของพ่อครัวจางต่อ กับ จอมโหดกระทะเหล็ก R และ Tetsu Nabe no Jan 2nd ภาคล่าสุดของเรื่องนี้ ซึ่งเป็นบทรุ่นลูกของจาง รวมถึง Tetsupai no Jan! เป็นภาคแยก เมื่อจางเปลี่ยนบรรยากาศมาเล่นไพ่นกกระจอกแทน!!!!


ผลงานเรื่องอื่นๆที่นานๆจะพูดถึง : MONKEY MONEY นักตุ๋นขั้นเทพ,365 Ho no Yuuki!!! , Daitouryou , Devil 17 - Hokago no Kusenshi,Minagoroshi no Strut - Sanada Yukimura Ibunroku,Menou Futatsuki!(สูตรเด็ดจ้าวยุทธจักรราเม็ง) , Shifuku no Boutai Recipe ,Kigata ga Kita! - "Kyoufu Shinbun" yori


เอย์จิ โนนากะ

One Hit  Wonder  Serie :  คุโรมาตี้ โรงเรียนคนบวม

นักเขียนสายติสต์จอมกวนผู้นี้ เป็นที่รู้จักจากผู้อ่าน จากมังงะแนวเด็กเกบั่นทอนสติปัญญาผู้อ่าน "คุโรมาตี้ โรงเรียนคนบวม" ที่เคยสร้างกระแสบั่นทอนใครต่อใคร บนเว็บบอร์ดการ์ตูนหลายแห่ง เมื่อหลายสิบปีก่อน ซึ่งทำให้หลายคนได้เห็นว่า กลุ่มเด็กๆเหล่านี้ หน้าตาเหมือนจะหาเรื่อง แต่ดันกลับคุยเรื่องไร้สาระอย่างเอาจริงเอาจังเฉย (555+) นำไปสู่ catchphrase จากเรื่องนี้หลายอย่าง ทั้ง "ปู~~~" , "คามิยามะ มาเยือน" , "จตุราชา แต่มี 5 คน" , "ไอ้นั่น" , "แบงค์พันเยน ซ่อนหลังตู้" ฯลฯ ซึ่งชวนเอาคนอ่านได้หัวร่องอหายไปตามๆกัน (ไปพร้อมกับเสียงยี้ โดยเฉพาะกับคนที่ไม่ค่อยจะเก็ตมุกตลกของเรื่องนี้นัก) ถึงกระนั้น เรื่องนี้ก็มีความไม่ธรรมดา ตรงที่ เคยคว้ารางวัลชนะเลิศ สาขาการ์ตูนโชเน็น ของสนพ.โคดันฉะ เมื่อปี 2002 ก่อนจะทำในรูปแบบอนิเมทีวี แล้วก็ หนังคนแสดง มาแล้ว

หลังจาก คุโรมาตี้ (ตัด) จบอย่างงงๆ เมื่อปี 2006 อ.โนนากะ ก็มีผลงานการ์ตูนเรื่องอื่นๆ ทั้งสายการ์ตูนวัยรุ่น และการ์ตูนผู้ใหญ่ อยู่หลายเรื่อง จะมีเรื่องที่บ้านเราพอคุ้นเคยหน่อย ก็คือ Double-J ที่ถูกขนานนามว่าเป็น "คุโรมาตี้ เวอร์ชั่นโมเอะ" ซึ่งได้ อ.โนนากะ รับหน้าที่เป็นคนแต่ง-เกลามุก แต่ได้นักเขียนคนอื่น มาวาดภาพแทน (แถมยังเคยทำเป็นอนิเมด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ ลายเส้นสุดแทนจะโมเอะน่ารักของเรื่องนี้ มันดันไม่ค่อยเข้ากับมุกตลกของ อ.โนนากะ ซะนี่ เลยทำให้กลายเป็นผลงานสุดแป้ก(ทั้งมุก + ความนิยม) ของเขาไป

 

ผลงานเรื่องอื่นๆที่นานๆจะพูดถึง : Super Baseball Club , Mirai chonaikai,Double-J ,The Toughest! FANTA: Legend of a Band


คาซุโร่ อิโนอุเอะ

One Hit  Wonder  Serie :  มือขวากับขาโจ๋

อ.คาซุโร่ อิโนอุเอะ เคยคว้ารางวัลนักเขียนการ์ตูนดาวรุ่ง จากผลงานเรื่อง Dream Security Mao มาก่อน ก่อนที่จะได้รับการฝึกสกิลนักเขียนการ์ตูนอาชีพจาก อ.คาซึฮิโระ ฟูจิตะ (ล่าอสูรกาย) ในฐานะผู้ช่วย จนทักษะของเขาเพียงพอที่จะแยกตัวออกไปโซโล่เดี่ยว ในฐานะนักเขียนการ์ตูนเต็มตัว

ผลงานการ์ตูนของเขาก็มีมากมายหลายเรื่อง แต่ส่วนใหญ่จะออกแนวการ์ตูนสาวน้อยเอาใจนักอ่านชายเป็นหลัก ซึ่งผลงานการ์ตูนของเขาที่เป็นที่รู้จักในหมู่นักอ่านมากที่สุด คงหนีไม่พ้น Midori no Hibi / Midori Days หรือ มือขวากับขาโจ๋ ที่ได้นำเสนอเรื่องราวของสาวขี้อายคนหนึ่ง ที่กลายมาเป็นมือขวาของเด็กหนุ่มคนที่ตนหลงรัก ซึ่งเรื่องนี้ก็ผสมผสานในส่วนความตลก แล้วก็ ดราม่า เข้ากันได้อย่างลงตัว จนเรียกว่าเป็นผลงานของเขาที่นักอ่านหลายต่อหลายคนชื่นชอบมากมาย และได้ทำเป็นอนิเมทีวีตามมา

หลังจากเรื่องราวของมือขวากับขาโจ๋ จบลง อ.อิโนะอุเอะ ก็มีผลงานการ์ตูนที่พอคุ้นหูในบ้านเราบ้าง กับ Ai Kora / ไอคอล , Undead , Mahō no Iroha! / แม่มดสาวพลังป่วน อิโรฮะ! เป็นต้น โดยปัจจุบัน เขากำลังมีผลงานเรื่อง Ane Comi ในนิตยสาร Young Animal Island เครือ Hakusensha

 

ผลงานเรื่องอื่นๆที่นานๆจะพูดถึง : Heat Wave , Ai Kora ,Undead ,Ane Comi ,Mahō no Iroha! ,Maria-san wa Toumei Shoujo


โยโกะ คามิโอะ

One Hit  Wonder  Serie :  สาวแกร่งแรงเกินร้อย

เป็นนักเขียนการ์ตูนหญิงคนเดียว ที่ติดทำเนียบของเราในตอนที่ 2 นี้ โดย อ.คามิโอะ มีชื่อเสียงจากการสร้างสรรค์เรื่องราวของสาวน้อยสุดแกร่ง ผู้อยู่ท่ามกลางฮาเร็มหนุ่มหล่อรวย 'F4' แห่งโรงเรียนสุดแสนไฮโซ จากมังงะ Hana Yori Dango หรือ สาวแกร่งแรงเกินร้อย ซึ่งผลงานมังงะเรื่องนี้เอง นอกจากจะคว้ารางวัล Shogakukan Manga Award ครั้งที่ 41 ในสาขาการ์ตูนแนวโชโจ แล้ว ยังได้สร้างชื่อให้เธอกลายเป็นนักเขียนการ์ตูนแนวโชโจที่ขายดิบขายดีที่สุดตลอดกาล ด้วยยอดขาย 61 ล้านเล่ม เมื่อปี 2015 แถมเรื่องนี้ ยังได้รับการต่อยอดในรูปแบบอนิเมทีวี , อนิเมจอเงิน แล้วก็ ละครซีรี่ย์ในหลายๆประเทศ ทั้ง ญี่ปุ่น , เกาหลี , อินโดนีเซีย , ตุรกี , อินเดีย และ ไต้หวัน ซึ่ง "รักใสๆ หัวใจ 4 ดวง" ละครในฉบับไต้หวันนั้น เป็นเวอร์ชั่นที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในบ้านเรา ชนิดที่ละครไทยในช่วงไพรม์ไทม์ ศุกร์-อาทิตย์ ยังต้องหลีกทางให้ และแน่ล่ะว่า ทำให้เกิดกระแสฟีเวอร์หนุ่มๆวง F4 ของไต้หวัน ในหมู่สาวๆ ยุคนั้นด้วย!!!!

หลังจากเรื่องราวของสาวแกร่งฯ ปิดตำนานลง อ.คามิโอะ ก็มีผลงานการ์ตูนเรื่องเด่นอีกเรื่อง อย่าง Cat Street แต่ก็ได้รับความนิยมไม่มากเท่ากับสาวแกร่งฯ จนกระทั่ง อ.คามิโอะ ตัดสินใจที่จะเขียนสาวแกร่งฯ ต่ออีกครั้ง กับ เรื่องราวซีซั่นที่ 2 บนแอพ Jump+ ตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา

ผลงานเรื่องอื่นๆที่นานๆจะพูดถึง : Ano Hi ni Aitai ,Sayonara o Arigatō ,Suki Suki Daisuki,Merii-san no Hijitsu ,Cat Street ,Matsuri Special ,Tora to Okami ,Crown of Thorns


ชูอิจิ ชิเงโนะ

One Hit  Wonder  Serie : Initial-D

หลังจาก อ.ชิเงโนะ ได้ฝึกปรือทักษะการเขียนการ์ตูนอาชีพ ด้วยการเป็นผู้ช่วยให้กับ อ.โจจิ โมริคาวะ ผู้เขียนมังงะ"ก้าวแรกสู่สังเวียน" เขาก็ได้ริเริ่มสร้างสรรค์ผลงานการ์ตูนแนวประลองความเร็วบนท้องถนน ตามที่เขาชอบและถนัด กับ เรื่อง Bari Bari Densetsu การ์ตูนแนวซิ่งมอเตอร์ไซต์ ที่เขียนมาอย่างยาวนาน ในช่วงปี 1983-1991 ก่อนจะขยับขยายฐานะสูงยิ่งขึ้น กับการสร้างตำนานรถขนเต้าหู้ดริฟต์ลงเขาอากินะ Initial-D จนเป็นจ้าวแห่งถนน มานานถึง 18 ปี ในช่วงปี 1995-2013 และได้รับการจัดทำในหลากหลายรูปแบบ จนเรียกได้ว่า เป็นผลงาน signature ของเขา ที่ข่มผลงานเรื่องอื่นๆซะมิด

โดยผลงานการ์ตูนของเขา หลังจาก Initial-D ประกอบด้วย Amazing Hana ,Sailor Ace ซึ่งเป็นเรื่องที่ตีพิมพ์เพียงไม่ยาวนานนัก เมื่อเทียบกับ Initial-D รวมไปถึง MF Ghost ผลงานการ์ตูนแข่งรถเรื่องใหม่ล่าสุดของเขา ที่พยายามจะตามรอย Initial-D ซึ่งก็ต้องติดตามต่อไปว่า ผลงานเรื่องใหม่นี้จะประสบความสำเร็จอย่างสูงหรือไม่?

ผลงานเรื่องอื่นๆที่นานๆจะพูดถึง : Bari Bari Densetsu ,Tunnel Nuketara Sky*Blue ,Shō ,DO-P-KAN ,Amazing Hana ,Sailor Ace ,MF Ghost

 

 

ทามิกิ วากากิ

One Hit  Wonder  Serie :  เซียนเกมรัก ขอเป็นเทพนักจีบ

สำหรับ อ.ทามิกิ วากากิ ผู้นี้ ก็เคยผ่านร้อนผ่านหนาวในชีวิตนักเขียนการ์ตูนมาพอสมควร นับตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นในสายอาชีพเขียนการ์ตูน เขาพยายามส่งมังงะเสนอให้กับสนพ.หลายต่อหลายเรื่อง แต่ไม่ได้รับการยินยอมจากสนพ.ซักเรื่องนึงเลย ซะจนทำให้เค้ารู้สึกท้อแท้ และใช้ชีวิตอย่างเก็บตัว กลายเป็นนีท ผู้ไม่ทำงานทำการ แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงสู้ต่อไป เพื่อที่จะได้โอกาสในการมีซีรี่ย์การ์ตูนของตัวเองได้รับการตีพิมพ์อย่างเต็มตัว และแล้วความพยายามของเขาก็สัมฤทธิ์ผล จากการที่ผลงานการ์ตูน Holy Crystal Albatross (ศึกศิลามหัศจรรย์ อัลบาทรอส - สนพ.บูรพัฒน์) ได้รับการตีพิมพ์เป็นเรื่องยาว แม้จะได้ตีพิมพ์เพียงไม่กี่เล่มก็ตาม

หลังจาก Albatross จบลง ชีวิตของเขาก็มีปัญหาอีกครั้ง โดยเฉพาะเรื่องของเงินๆทองๆที่ไม่พอใช้ แต่ถึงกระนั้น เขายังกัดฟันสู้ต่อไป ด้วยการเข็น The World God Only Knows หรือ เซียนเกมรัก ขอเป็นเทพนักจีบ กลายเป็นผลงานใหม่เรื่องต่อไป ซึ่งผลงานเรื่องดังกล่าว เป็นการนำเอาประสบการณ์การใช้ชีวิตสมัยเป็นนีทของเขา ที่เอาแต่เล่นเกมจีบสาวทั้งวัน มาสร้างสรรค์กลายเป็นผลงานการ์ตูนเรื่องนี้ และผลงานเรื่องนี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตเขา เพราะกลายเป็นผลงานที่ได้รับความนิยมเกินความคาดหมายในหมู่บก.นิตยสาร Shonen Sunday และถูกทำเป็นอนิเมทีวี ในเวลาต่อมา

หลังจาก เซียนเกมรักฯ อวสานลง เมื่อปี 2014 ที่มาพร้อมกับกระแสตอบรับตอนจบ ทั้งฟิน ทั้งยี้ ในหมู่แฟนๆ พอๆกัน เขาก็มีผลงานการ์ตูนเรื่องต่อๆมา อย่าง Nanoha Yōgashiten no Ii Shigoto , Neji no hitobito (คนกวนเกลียว ไขปรัชญา - สนพ.Beyond Manga) แล้วก็ K.O.I (King of Idol) ซึ่งเป็นผลงานเรื่องล่าสุดของเขา แต่ก็ยังไม่มีเรื่องไหนที่จะโด่งดังเท่า เซียนเกมรักฯ เลย

   ผลงานเรื่องอื่นๆที่นานๆจะพูดถึง : Holy Crystal Albatross ,Nanoha Yōgashiten no Ii Shigoto ,Neji no hitobito ,K.O.I (King of Idol)


มาโคโตะ ไรคุ

One Hit  Wonder  Serie :  กั๊ช

อ.มาโคโตะ ไรคุ จัดเป็นลูกศิษย์เอกมากฝีมืออีกคนหนึ่งของ อ.คาซึฮิโระ ฟูจิตะ (ล่าอสูรกาย) ซึ่งเขาก็ถนัดนักกับการเขียนการ์ตูนที่มีเนื้อหาเข้าถึงเด็กๆ และ คนอ่านวัยอื่นๆ ที่สามารถเข้าถึงง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ กับ Konjiki no Gash! หรือ กั๊ช / กั๊ชเบล ซึ่งเป็นผลงานที่นักอ่านหลายคนชื่นชอบ ประทับใจ อย่างสูง ทั้งในส่วนของแอ็คชั่นสนุกสนาน แล้วก็ เรื่องราวมิตรภาพดราม่า อันสุดซึ้งจนน้ำตาไหลไปตามๆกัน นำไปสู่รางวัลชนะเลิศ สาขาโชเน็น ของ Shogakukan Manga Award ครั้งที่ 48 เมื่อปี 2003

ก่อนที่เขาจะมีผลงานการ์ตูนเรื่องต่อไป ต่อจาก กั๊ช ที่จบไปเมื่อปี 2007 นั้น เขากลับต้องสู้คดีบนชั้นศาลกับ สนพ.โชกะกุกัง จากกรณีที่สนพ.ทำภาพสีต้นฉบับเรื่องกั๊ซของเขา สูญหายถึง 5 ภาพ และจากคดีที่เกิดขึ้นนี้เอง ทำให้ อ.ไรคุ ประกาศตัดความสัมพันธ์ ไม่ขอทำธุรกิจใดๆกับ โชกะกุกัง อีกต่อไป พร้อมกับย้ายไปเขียนการ์ตูนค่ายใหม่ ให้กับ โคดันฉะ กับผลงานเรื่อง จิ๋วน้อยผจญภัย (Dobutsu no Kuni) ซึ่งยังคงสไตล์น่ารัก เข้ากับคนอ่านทุกเพศทุกวัย จนสามารถคว้ารางวัล Kodansha Manga Award ครั้งที่ 37 ในสาขาการ์ตูนเด็ก .... ถึงกระนั้น ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า หากจะพูดถึงผลงานการ์ตูนดังของ อ.ไรคุ .....หลายคนยังคงนึกถึงเรื่อง กั๊ช มากกว่าเรื่องอื่นๆ อยู่ดี

หลังจาก ผลงานเรื่อง Vector Ball ของเขา จบลงเมื่อปี 2017 ก็ไม่มีใครรับรู้ข่าวสารเกี่ยวกับผลงานใหม่ของเขาออกมาเลย

 

ผลงานเรื่องอื่นๆที่นานๆจะพูดถึง : Bird Man,Newtown Heroes ,Genmai Blade ,Grief Warrior Hero Ba-Ban,Aosora ,Class Room ,Oyaju Rider ,Dobutsu no Kuni ,Vector Ball


นาคาบะ ซึซึกิ

One Hit  Wonder  Serie :  ศึกตำนาน 7 อัศวิน

อ.ซึซึกิ ผู้นี้ เป็นตัวอย่างที่ดี สำหรับคนที่มีความพยายามอย่างไม่ท้อถอย ในการสร้างสรรค์ผลงานการ์ตูนให้กลายเป็นเรื่องโด่งดังซักเรื่องหนึ่งในชีวิต เพราะก่อนหน้าที่เขาจะเขียนซีรี่ย์ "7 บาป" ออกมานั้น เขามีผลงานการ์ตูนให้กับสนพ.ชั้นนำของญี่ปุ่นจำนวนหลายเรื่อง แต่ก็เป็นเรื่องที่ไม่ดังซักเรื่อง ทั้ง Rising Impact การ์ตูนกอล์ฟที่เคยตีพิมพ์ลงใน Shonen Jump ยันรวมถึง Kongo Bancho หรือ บันโจ หมัดเหล็ก (ตีพิมพ์นิตยสาร Shonen Sunday) ที่มีฉบับรวมเล่มมากถึง 12 เล่ม แต่นักอ่านบ้านเราก็ไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไหร่ จนกระทั่งการมาของ ศึกตำนาน 7 อัศวิน / Nanatsu no Taizai ผลงานการ์ตูนเรื่องล่าสุดของเขา ที่เป็นแนวแอ็คชั่นแฟนตาซี ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในอาชีพนักเขียนการ์ตูนของเขา อันเป็นผลมาจากการที่เขาได้นำประสบการณ์จากผลงานเรื่องก่อนๆหน้า มาขัดเกลาปรับปรุง แทรกเข้าไปในเรื่องนี้ จนทำให้ซีรี่ย์ 7 บาป กลายเป็นมังงะสายหลักอีกเรื่องที่ได้รับความนิยมอย่างสูง จากผู้อ่านสมัยใหม่นี้......

 

ผลงานเรื่องอื่นๆที่นานๆจะพูดถึง : Rising Impact ,Ultra Red ,Boku to Kimi no Aida ni ,Blizzard Axel ,Kongo Bancho


โคเฮย์ โฮริโคชิ

One Hit  Wonder  Serie :  My Hero Academia

สำหรับนักเขียนการ์ตูนหนุ่มไฟแรงผู้นี้ ก็มาแนวเดียวกันกับ อ.ซึซึกิ คือ กว่าจะมาโด่งดังกับผลงานเรื่องปัจจุบันของเขา อย่าง My Hero Academia นั้น ก็เคยล้มลุกคลุกคลานกับผลงาน 2 เรื่องก่อนหน้า ซึ่งประกอบด้วย Oumagadoki Dobutsuen (โอมากะโดกิ สวนสัตว์หลุดโลก) กับ Sensei no Bulge (บัลจ์ The Star Warriors) ทั้งสองเรื่องนี้แม้จะโดนตัดจบใน Shonen Jump อย่างรวดเร็ว (แถมยังทำเอานิตยสาร Boom บ้านเราในตอนนั้น พลอยถูกคนอ่านแซวไปด้วย ในฐานะเป็นนิตยสารอาถรรพ์ ชอบเอาเรื่องตัดจบมาลง) แต่เขาได้นำเอาประสบการณ์ความผิดพลาดจาก 2 เรื่องแรก ไปแก้ไขปรับปรุงใหม่ในส่วนของการดำเนินเรื่อง ไปผสมผสานกับทักษะการออกแบบตัวละครของเขา ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่เขามีมาแต่เดิม เลยทำให้ My Hero ผลงานการ์ตูนแนวโรงเรียนฮีโรของเขา สามารถจุดไฟติด กลายเป็นเรื่องดังอันดับต้นๆของ Shonen Jump และถูกนำไปทำเป็นอนิเมทีวี ถึง 3 ซีซั่น ด้วยกัน

 

ผลงานเรื่องอื่นๆที่นานๆจะพูดถึง : Oumagadoki Dobutsuen , Sensei no Bulge


สึคาสะ ฟุคุจิ

One Hit  Wonder  Serie :  ผ่ากฎอลเวง / อุเอคิ แสบซ่าผ่ากฎเทพ

อ.ฟุคุจิ เคยคว้ารางวัลชนะเลิศจากการประกวดเขียนการ์ตูนระดับมหาวิทยาลัยมาก่อน ซึ่งจุดนี้เอง กลายเป็นใบเบิกทางให้เขาเข้าสู่วงการนักเขียนการ์ตูนอาชีพเต็มตัว และเขาเปิดตัวผลงานการ์ตูนยาวเรื่องแรกในชีวิตเขาอย่าง The Law of Ueki (Ueki no Hōsoku) ที่มีชื่อภาษาไทยเรียกหลายเวอร์ชั่น ทั้ง ผ่ากฎอลเวง แล้วก็ อุเอคิ แสบซ่าผ่ากฎเทพ ซึ่งผลงานการ์ตูนเรื่องแรกของเขา ที่ว่าด้วย การต่อสู้ของเหล่าคนใช้พลังในการเปลี่ยนสิ่งของสิ่งหนึ่ง ให้กลายเป็นสิ่งหนึ่ง เพื่อแย่งชิงความเป็นพระเจ้า นั้น ได้รับความนิยมอย่างสูง จนมีการเขียนมังงะภาคต่อกับ The Law of Ueki Plus แล้วก็ ฉบับอนิเมทีวี ตามมา........ทว่า หลังจาก อุเอคิ จบลง อ.ฟุคุจิ ก็มีผลงานการ์ตูนเรื่องอื่นๆ แต่ไม่มีผลงานเรื่องไหน น่าจดจำเท่ากับอุเอคิอีกแล้ว

 

ผลงานเรื่องอื่นๆที่นานๆจะพูดถึง : Takkoku!!! (ปิงปองแบ๊ว) ,Anagle Mole (สายลับตุ่นลุ้นครองโลก) ,Saike Once Again (ไซเกะ คนเปลี่ยนโลก)


อากิระ มิยาชิตะ

One Hit  Wonder  Serie :  Sakikage Otokojuku / โรงเรียนลูกผู้ชาย Series

มาถึงนักเขียนการ์ตูนรุ่นเก๋า ที่มีสไตล์การวาดภาพตัวละครหนุ่มเข้ม หน้าลุง กล้ามเนื้อเป็นมัด จนเป็นเอกลักษณ์ โดยเขาเป็นผู้แต่งเรื่อง Sakikage Otokojuku ที่มีชื่อภาษาไทยหลากหลายชื่อ ทั้ง ขุนพลประจัญบาน , โรงเรียนนายร้อยเดนตาย จนถึง โรงเรียนลูกผู้ชาย ซึ่งเป็นชื่อเรื่องที่ใช้ในสมัยมังงะยุคลิขสิทธิ์ในบ้านเรา โดย อ.มิยาชิตะ ได้สร้างสรรค์เรื่องราวการต่อสู้ของ ซึรุกิ โมโมทาโร่ ผู้กล้าหือกับเหล่าคณาจารย์ในโรงเรียน (นำโดย เอดาจิมะ เฮย์ฮาจิ ผอ.โรงเรียน!!) อย่างยาวนาน จากรุ่นสู่รุ่น และทุกวันนี้ เรื่องนี้ยังมีการเขียนต่อเนื่องในหลายภาค รวมถึง ภาคไซต์สตอรี่ ซะจน ผู้เขียนไม่คิดจะเขียนการ์ตูนเรื่องอื่นๆ อีกต่อไปแล้ว!!!! (และเป็นเรื่องที่นักอ่านหลายคนรู้จักกันมากที่สุด) ซึ่งผลงานการ์ตูนเรื่องอื่นๆของเขา ที่บ้านเราพอจะรู้จักบ้างก็คือ Bakudan หมัดดินระเบิด การ์ตูนต่อยมวย ที่เคยตีพิมพ์ลงในนิตยสาร BOOM ยุคแรกๆ

 

ผลงานเรื่องอื่นๆที่นานๆจะพูดถึง : Aa!! Bishamon Koukou,Bakudan ,Baramon no Kazoku,Bogi: The Great,Seikimatsu Bakurouden Saga,Sora yori Takaku,Minmei Shobou Taizen

 

เอตสึชิ โอกาวะ

One Hit  Wonder  Serie :  ยอดกุ๊กแดนมังกร Series

สำหรับ อ.โอกาวะ ผู้นี้ ขึ้นชื่อว่า เป็นนักเขียนการ์ตูนผู้ชื่นชอบและถนัดแนวทำอาหาร เลยทำให้ผลงานการ์ตูนของเขานั้น จะเป็นแนวชวนคนอ่านน้ำลายสอ อิ่มอร่อยไปกับอาหารแทบทุกเรื่อง แต่ก็ไม่มีเรื่องไหนที่จะโด่งดังเท่ากับ Chūka Ichiban! / Cooking Master Boy หรือ ยอดกุ๊กแดนมังกร ซึ่งเป็นผลงานการ์ตูนสร้างชื่อให้กับเขา อีกแล้ว

ส่วนผลงานเรื่องหลังๆของเขา ก็มี Tenshi no Frypan หรือ คู่พยัคฆ์ กระทะร้อน ที่เคยคว้ารางวัลชนะเลิศ สาขาการ์ตูนเด็กของ Kodansha Manga Award ครั้งที่ 31 แล้วก็ Sushi Ichi! หรือ ยอดกุ๊กจ้าวซูชิ เป็นต้น จนกระทั่งล่าสุด อ.โอกาวะ ได้ตัดสินใจกลับมาดำเนินเรื่องราวการผจญภัยของ หลิวเหมาซิง และผองเพื่อนอีกครั้ง กับ ภาคใหม่ล่าสุดของ ยอดกุ๊กแดนมังกร ที่จะลงบนแอพ Magazine Pocket ของสนพ.โคดันฉะ ในเดือน พ.ย. 2017 ในชื่อ Chūka Ichiban! Kiwami

 

ผลงานเรื่องอื่นๆที่นานๆจะพูดถึง : Jipangu Hououden ,Food Hunter Futaraiden ,Bakumatsu Futaraiden ,Tenshi no Frypan ,Astraia no Tenbin ,Asakusa-bito


โอซามุ อาคิโมโตะ

One Hit  Wonder  Serie :  Kochikame

นักเขียนการ์ตูนรายนี้ ได้สร้างสถิติอันน่าทึ่งให้กับวงการการ์ตูนญี่ปุ่น จากการที่เขาได้เขียนเรื่องราวชีวิตประจำวันสุดฮาป่วนของ คุณลุงตำรวจป้อมยาม เรียวซัง (คันคิจิ เรียวทสึ) แห่ง Kochikame / Kochira Katsushika-ku Kameari Kōen-mae Hashutsujo มาอย่างยาวนานถึง 40 ปี พร้อมกับฉบับรวมเล่มอีก 200 เล่ม จนได้รับการบันทึกสถิติลง Guiness Book ฐานะ มังงะซีรี่ย์ที่มีจำนวนฉบับรวมเล่มมากที่สุดในโลก ....มาถึงขนาดนี้ เชื่อว่า หลายคนคงคิดว่า อ.ผู้นี้ คงมีผลงานการ์ตูนเรื่องนี้เพียงเรื่องเดียวเป็นแน่!? ....ซึ่งถือเป็นความคิดที่ผิดถนัด!!!......แท้จริงแล้ว อ.อาคิโมโตะ มีผลงานการ์ตูนเรื่องยาวเรื่องอื่นๆจำนวนหนึ่ง โดยหนึ่งในนั้น มีเรื่อง Mr. Clice ที่เคยตีพิมพ์และออกวางขายในไทยโดย สนพ.VBK ภายใต้ชื่อ Mr. Clice พยัคฆ์ร้ายกลายพันธุ์ ด้วย ถึงกระนั้น ก็ต้องยอมรับว่า Kochikame คือผลงานที่สร้างตำนานให้กับชีวิตของเขา และยากที่จะมีผลงานการ์ตูนเรื่องอื่นๆของเขา มาทำสถิติเทียบเคียง!!!!!!!!!!

ผลงานเรื่องอื่นๆที่นานๆจะพูดถึง : Mr. Clice ,Time... ,Vocalo,Arii yo Jū wo Ute! ,Kyoto Jogakuin Monogatari -Finder- ,Black Tiger ,Ii Yu Da Ne!

 


kartoon-discovery.com
Nov 2017


 
free hit counter javascript