ลางสังหาร : คุณตำรวจหน้าเด็กกับการสะสางคดีป่วนโหดจาก"เยาวชน"

  ลางสังหาร หรือ Shibatora นั้น เป็นผลงานการ์ตูนเรื่องล่าสุดของคู่หูคู่นี้ อย่าง อ.ยูมะ อันโด และ อ.มาซาชิ อาซากิ ผู้ซึ่งเคยฝากผลงานที่คอการ์ตูนในบ้านเราเคยสัมผัส และ ผ่านตากันมาบ้างแล้ว อย่าง Psychometrer Eiji และ คุนิมิตซึ คนจริงจอมกะล่อน อีกทั้งตัว อ.มาซากิ เอง ยังเคยมีผลงานเรื่องสั้นเรื่อง I.W.G.P ผ่าแดนเดือด ด้วยเช่นกัน ปัจุบัน ลางสังหาร ลงประจำในนิตยสาร KC Weekly

  ซึ่งผลงานเรื่องนี้ กลับมาเป็นเนื้อเรื่องแนวสืบสวนอีกครั้งเช่นเดียวกับPsychometrer Eiji แต่ก็ยังคงเป็นการ์ตูนแนวสะท้อนสังคมเหมือนเช่นเรื่องที่ผ่านๆมา โดยจะเน้นถึงสภาพสังคมอันฟอนเฟะ ซึ่งเกิดขึ้นด้วยน้ำมือของกลุ่มคนที่เรียกว่า "เยาวชน" ซึ่งนับวันประพฤติตัวเหลวแหลกมากขึ้น ทำชาวบ้านชาวช่องเดือดร้อน จนเกิดภัยสังคมตามมา และปัญหานี้ยังเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ และในสังคมที่เน่าเฟะนั้น ย่อมจะต้องมีคนขจัดปัดเป่าความมืดให้กลายเป็นแสงสว่าง ซึ่งคนที่จะต้องคอยกำราบเยาวชนกลุ่มนี้ นั่นก็คือ ชิบาตะ ทาเคโทระ ตัวเอกของเรื่องนี้นั่นเอง

  ชิบาตะ ทาเคโทระ เป็นตำรวจหนุ่มผู้หนึ่ง มาถึงประโยคนี้ สำหรับคนที่ไม่เคยอ่าน คงจะคิดว่า เขาเป็นตำรวจหนุ่มรูปร่างกำยำ เท่ห์ สมาร์ท กันแน่ๆ แต่แท้จริงแล้วตรงกันข้ามเลยต่างหาก เพราะเขามีรูปร่างหน้าตาราวกับเด็กประถม-มัธยมต้น ทำให้เขาถูกมองว่าเป็นเด็กมากกว่า แทบไม่มีใครเชื่อว่า เขาเป็นผู้ใหญ่หรือเป็นตำรวจเลย จึงถูกแก๊งวัยรุ่นไถตังค์ หรือ ถูกตำรวจสาวๆแกล้งเล่นเป็นประจำ
  เขานั้นก็มีจุดมุ่งหมายในชีวิต คือ การได้เป็นตำรวจแผนกเด็กและเยาวชน เพื่อที่จะทำให้เยาวชนกลุ่มนี้กลับตัวกลับใจเสียใหม่ แต่กว่าจะได้ถูกบรรจุเข้าแผนกเยาวชนนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ในเล่มแรก เขาได้รับบททดสอบด้วยการคลี่คลายคดีที่ โฮโซ มิสึกิ เด็กสาวผู้อ้างว่าตนเป็นฆาตกรฆ่าคนตาย ทั้งๆที่เธอไม่ได้เป็นคนฆ่า ซึ่งชิบาตะนั้น ก็ต้องคลี่คลายคดีนี้ให้ได้ โดยได้รับความช่วยเหลือจาก ฟูจิคิ โคจิโร่ เพื่อนสนิท อดีตอันธพาล ที่คอยช่วยเหลืออยู่เสมอ

  และที่พิเศษไปกว่านั้น เขามีความสามารถพิเศษในการมองเห็นวิญญาณมือนับร้อยอยู่รอบๆตัวคนๆนั้น ซึ่งหมายถึง คนๆนั้น กำลังถูกพรากเอาชีวิตไป ซึ่งชิบาตะมองเห็นมือเหล่านั้นอยู่รอบๆมิสึกิ และ คุณพ่อผู้ติดยาบ้าของเธอด้วย ชิบาตะจึงต้องทำทุกวิธีทางเพื่อป้องกันไม่ให้ 2 คนนั้นได้รับอันตรายถึงชีวิต

  พออ่านเล่มหนึ่งจบปุ๊ป รับรองได้เลยว่า เรื่องนี้มีความน่าสนใจ และ ถูกใจคอการ์ตูนแนวสืบสวนอย่างแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้ยังคงมีกลิ่นอายของ Psychometrer Eiji อยู่นิดๆ ตรงเนื้อเรื่องออกแนวธริลเลอร์ ลึกลับ พร้อมกับความสามารถเหนือธรรมชาติของพระเอก คือ ของเอย์จิจะเป็นพลัง Psychometrer (เมื่อแตะวัตถุชิ้นไหน ก็จะบ่งชี้ถึงหลักฐาน เหตุการณ์ที่คนร้ายกระทำ) ส่วนชิบาตะ เป็นความสามารถมองเห็นวิญญาณที่กำลังคร่าชีวิตของคนๆนั้น

  แต่สิ่งที่เรื่องนี้แตกต่างจากเอย์จินั่นก็คือ เรื่องนี้จะเน้นสะท้อนสังคมในแง่ของปัญหาเด็กและเยาวชน ซึ่งปัญหาดังกล่าวมีมากขึ้นทุกๆวัน ซึ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกที และ เกิดขึ้นทุกมุมโลก โดยปัญหาเด็กและเยาวชนที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ ทำให้เกิดผลลัพธ์น่ากลัวก็คือ เด็กๆต่างก็ประพฤติตัวเหลวแหลก ไร้กฎระเบียบ ต่างคนต่างอยู่กันมากขึ้น และเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ ทำให้พวกเขาต้องกระทำความผิดด้วยการใช้กำลัง ลักทรัพย์ ก่อให้เกิดคดีอาชญากรรมตามมา จนเกิดผลเสียต่อสังคมโดยรวมในภายหลัง ทำให้โลกใบนี้ไม่น่าอยู่เหมือนแต่ก่อน ซึ่งปัญหาเหล่านี้เกิดจากสาเหตุหลายประการ เช่น สังคมที่มีการแก่งแย่งแข่งขันมากขึ้น เน้นวัตถุนิยมมากขึ้น, การขาดการอบรมเลี้ยงดูจากผู้ปกครอง, ความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจจากผู้ใหญ่ หรือ เพื่อนฝูง หรือจะเป็นการใช้กำลังความรุนแรงในการตัดสินปัญหา เป็นต้น ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้บอกเล่าปูมหลังของตัวละครเหล่านี้ได้อย่างดี โดยให้รายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้พวกเขาเป็นแบบนี้ ซึ่งในเล่มหนึ่งได้สะท้อนถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับมิสึกิ ที่มีบาดแผลตามร่างกายจากการที่โดนคุณพ่อใช้ความรุนแรงกับเธอ ทำให้เธอไม่อยากกลับบ้าน และการที่คุณพ่อต้องทำกับเธอแบบนั้น ก็มีสาเหตุมาจาก พิษภัยของยาเสพย์ติด ซึ่งเขานั้นติดยาบ้าอย่างหนัก อันเนื่องมาจากต้องการระบายความเครียดที่หางานทำไม่ได้ พอติดหนักเข้า หากวันไหนไม่ได้เสพย์มัน ก็รู้สึกโมโหและมาระบายอารมณ์กับเธอ ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดทั้งกายและใจ ตรงจุดนี้ก็เป็นข้อเตือนใจสำหรับเยาวชนที่กำลังหลงผิดในบ้านเราได้อย่างดีว่า ยาเสพย์ติดไม่ได้ให้ประโยชน์อะไรเลย นอกจากความสูญเสียในหลายด้าน.........

  ซึ่งในเรื่องนี้ก็ได้ตีแผ่ถึงปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นกับเด็กเยาวชน ยิ่งเพิ่มจำนวนเล่มมากขึ้น คงจะได้เห็นปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นกับพวกเขามากขึ้น ทำให้เราได้ตระหนักถึงปัญหาของพวกเขา และต้องแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้ได้โดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมา ซึ่งในเรื่องนี้ก็แสดงให้เห็นถึงหลักการและวิธีการแก้ปัญหาเหล่านี้ของชิบาตะว่า ต้องเชื่อใจพวกเขามากที่สุด ให้โอกาสพวกเขาได้กลับตัวกลับใจเร็วที่สุด แล้วก็ หากพวกเด็กเจ้าปัญหาเหล่านั้นไม่กลัวเขา เขาก็จะไม่กลัวพวกเขาด้วย เมื่อเป็นอย่างนั้น ซักวันหนึ่งพวกเขาคงจะรับฟังคำกล่อมของเขาเอง......