Sket Dance: ทุกปัญหาในรั้วโรงเรียน คลี่คลายได้ด้วยมือพวกเรา!!!

  ช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่น้องๆวัยเรียนต่างก็ทยอยปิดเทอมหนึ่งกัน พอผ่านไปซักเดือนเดียว ก็ต้องกลับไปเจอเพื่อนๆที่โรงเรียนกันอีกครั้งหนึ่งในช่วงเทอมสอง ซึ่งเป็นภาคเรียนสุดท้ายของแต่ละชั้นปี แต่สำหรับน้องๆบางคน โดยเฉพาะคนที่อยู่ ม.6 เทอมสองก็คงเป็นเทอมสุดท้ายที่จะได้ใช้ชีวิต ทำอะไรสนุกๆที่โรงเรียนร่วมกับเพื่อนๆ ด้วยกัน (ซึ่งน้อง ม.3 บางคนก็ต้องประสบกับเหตุการณ์แบบนี้เช่นกัน) และเพื่อที่จะได้คิดถึงบรรยากาศในวันวานที่เคยใช้ชีวิตสนุก สร้างวีรกรรมในโรงเรียนมาด้วยกันกับเพื่อนๆ เราจึงขอแนะนำการ์ตูนเรื่องหนึ่ง ซึ่งเข้ากับบรรยากาศนี้พอดี นั่นคือ Sket Dance

  Sket Dance เป็นผลงานของ อ.เคนตะ ชิโนฮาระ ลงประจำในนิตยสารโชเน็นจัมป์ในญี่ปุ่น ต่อมาก็ลงในนิตยสารบูมในบ้านเรา ในปี 2007 และเพิ่งจะมีฉบับรวมเล่มออกวางขายในบ้านเราเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นการ์ตูนแนวเบาสมอง เกี่ยวกับการใช้ชีวิตในโรงเรียน ผ่านตัวละครหลักสามคน ซึ่งรวมทีมกันเป็น "สเก็ต ดัน" ชมรมสนับสนุนการใช้ชีวิตในโรงเรียน ประจำโรงเรียนไคเมย์ สมาชิกประกอบไปด้วย ฟูจิซาคิ ยูสึเกะ "บอสเซน" หัวหน้าทีมจอมเหวอ รั่ว สวมหมวกไหมพรมทรงแปลกเป็นเอกลักษณ์ เมื่อเขาสวมแว่นตาว่ายน้ำที่คาดไว้บนหมวกเมื่อไหร่ สมองจะปลอดโปร่ง คิดไวทันที,โอนิซึกะ ฮิเมะ "โอนิฮิเมะ" หรือ ฮิเมโกะ อดีตสาวซ่า จอมชงมุข ผู้ชอบอมอมยิ้มรสชาติแปลกประหลาด เด่นด้านการใช้กำลัง มีไม้ฮ็อคกี้ "ไซโคลน" เป็นอาวุธคู่ใจ และ อุซุย คาซึโยชิ "สวิตช์" หนุ่มแว่นผู้ใช้โปรแกรมสังเคราะห์เสียงบนโน้ตบุ้คพูดแทนปาก และเป็นมันสมองประจำทีม ทั้งสามคนนี้ต้องช่วยเหลือผู้คนในโรงเรียนที่มีเรื่องทุกข์ใจในเรื่องต่างๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งการตามไขปริศนาเรื่องราวลึกลับในโรงเรียน รวมถึงเรื่องเล็กน้อยทั่วไป......

  อ่านมาถึงตรงนี้ ก็จะพบกับข้อสังเกตุว่า ทั้งตัวละคร และ รายละเอียดพล็อตเรื่องนั้น มันช่างคล้ายๆกับการ์ตูนตลกรุ่นพี่ในจัมป์ อย่าง กินทามะ เลย ไม่ว่าจะเป็นตัวละครหลักที่มี 3 คนเหมือนกัน แถมคาแร็คเตอร์ก็คล้ายๆกัน อย่างเช่น บอสเซน = กินโทกิ,สวิตช์ =ชินปาจิ และ ฮิเมโกะ = คางุระ ไม่เว้นแม้แต่ พวกสภานักเรียนซึ่งเป็นคู่ปรับของพวกสเก็ตดันนั้นก็เทียบได้กับกลุ่มชินเซ็นงุมิจากเรื่องโน้นเลย แถมยังมีตัวละครเสริมคนอื่นๆซึ่งล้วนมีความรั่ว และ บ้า เป็นเอกลักษณ์มาสร้างสีสันเช่นกัน ส่วนพล็อตเรื่องนั้นก็มีทั้งเน้นฮา ซึ้ง เรื่อยเปื่อย มีตอนยาวสับกับตอนสั้นเหมือนกัน ต่างกันตรงที่บรรยากาศของSket Danceนั้น จะเน้นเรื่องราวในโรงเรียนล้วนๆ ไม่เหมือนกับกินทามะที่เน้นธีมเอโดะโบราณสมัยใหม่ที่มีมุษย์ต่างดาวมาเยือน(อิงประวัติศาสตร์จริงเล็กน้อย) อีกทั้งตัวละครและมุขตลกของSket Danceนั้น ยังไม่บ้าสุดขั้วเท่า ก็อาจทำให้รู้สึกฝืดๆไปบ้าง แต่เมื่อพอชินกับตัวละครแต่ละตัวในเรื่อง รวมถึงชินกับมุขตลกที่เคยอ่านในกินทามะ ก็คงทำให้อ่านเรื่องนี้ได้ฮายิ่งขึ้น แต่อย่างน้อยลายเส้นตัวละคร ก็ชวนดึงดูดให้อยากอ่านเรื่องนี้บ้างเหมือนกัน (สาวๆหน้าตาดีเยอะครับ เรื่องนี้ ฟันธง!!)

  หากพิจารณาตรงพล็อตเรื่อง และ การดำเนินเรื่อง ก็อย่างที่บอก เรื่องนี้ก็มีทั้งตอนสั้นสับกับตอนยาวต่อเนื่อง มีหลากอารมณ์ ทั้งฮาบ้าง ซึ้งบ้าง แต่ออกแนวเรื่อยเปื่อยมากกว่า ซึ่งตรงนี้ อาจทำให้คนที่ชอบการ์ตูนที่มีการดำเนินเรื่องอย่างมีจุดมุ่งหมายชัดเจนนั้น คงไม่ประทับใจเอาซะเลย แต่ก็อย่างว่าละครับ เรื่องนี้เขาเน้นเรื่องราวการใช้ชีวิตในโรงเรียนมากกว่า จึงไม่ค่อยมีฉากบู๊มากนัก (แต่ก็บู๊นานๆที) แถมอารมณ์ก็ออกมาครึ่งๆกลางๆอีก ทำให้ไม่ขำมากอย่างใจนึก ก็ขอแนะนำเลยว่า เวลาอ่าน ให้ตัดความคาดหวังว่าจะตลกฮาน้ำมูกน้ำตาไหลออกไป ให้นึกถึงแค่ความสนุกเพลินเพลิดที่ได้จากการอ่านเรื่องนี้ ซึ่งบางตอนนั้นก็พอจะนึกถึงเรื่องราว วีรกรรม สนุกๆที่เราเคยได้ทำร่วมกับเพื่อนๆในสมัยที่เรียนม.ปลายด้วยกัน ไปได้บ้าง.......

  ในส่วนของมุขตลกนั้น ก็เพลิดเพลินพอควร แต่การได้ตัวละครอย่าง ชินโซ หนุ่มซามูไรพีเรียด ,โรมัน สาวชมรมการ์ตูนจอมยิงมุขเห่ย(มุขการ์ตูนผู้หญิงตาหวาน) หรือจะเป็น เรย์โกะ สาวหน้าหลอน ผู้บ้าเรื่องลึกลับ ฯลฯ ก็เป็นตัวละครช่วยเสริมความฮาในเรื่องนี้ได้มากขึ้น ส่วนฉากซึ้งดราม่าก็ทำได้ดีพอควร (บอกไว้ก่อนว่า ให้คอยจับตาดูอดีตของสวิตซ์ให้ดี.....ทำเอาอึ้งกันไปเลย ซึ่งจะได้อ่านในเล่มต่อๆไปแน่นอน) ในส่วนของการแปลก็ OK ตามแบบของการ์ตูนแนวฮาหลายเรื่องของค่ายNED โดยเฉพาะการใส่ลูกเล่นสำเนียงภาษาเหนือที่ฮิเมโกะชอบอู้(พูด)บ่อยๆ เป็นจุดเด่น หากใครที่เป็นคนภาคเหนือ หรือ อู้คำเมืองเป็น เห็นคำเหล่านี้แล้วก็คงจะขำเหมือนกัน แต่สำหรับคนอ่านที่ไม่เคยชินกับสำเนียงภาษาเหนือเลย ก็คงจะอ่านคำพูดของฮิเมโกะลำบากไปบ้าง แถมอ่านไม่รู้เรื่องอีก(แม้ว่าจะมีคำแปลกำกับไว้บ้างก็ตาม) ซึ่งตรงจุดนี้ก็เป็นดาบสองคมที่มีผลต่อความสนุกของเรื่องนี้ไปได้เหมือนกัน...............

  *เกร็ดเล็กน้อย คำว่า SKET ของพวกสเก็ตดันนั้น เป็นการนำตัวอักษรตัวแรกของคำเหล่านี้มารวมกันคือ Support,Kindness,Encouragement และ Troubleshoot