Bakuman:ชีวิตสานฝันสู่เส้นทางคน(เขียน)การ์ตูน






ผู้แต่ง
ทสึงุมิ โอบะ (เนื้อเรื่อง)
ทาเคชิ โอบาตะ (ภาพ)
ประเภท
ดราม่า
รวมเล่ม
20 เล่ม (จบ)
สำนักพิมพ์
เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนต์


  


  ในชีวิตตอนเด็กของแต่ละคนนั้น ย่อมที่จะมีความฝันในเรื่องอนาคตของตนที่แตกต่างกันไป บ้างก็อยากจะศึกษาต่อในโรงเรียน มหาวิทยาลัยดีๆ,อยากจะทำงานดีๆไปพร้อมๆกับการไต่เต้าในสายงานให้ได้ตำแหน่งสูงขึ้นๆ พร้อมกับได้เงินเดือนสูงๆ พอที่จะ เลี้ยงตนได้ แต่ก็มีบ้างที่ไม่เลือกเดินตามความฝัน แต่กลับเลือกที่จะใช้ชีวิตไปวันๆ โดยที่ขาดความมุ่งมั่น อย่างไรก็ตาม ก็มีบางส่วนเลือกที่จะฝันอยากลองทำงานที่ตนเองรัก ทั้งๆที่อาชีพนั้น กลับไม่ได้เป็นงานที่คนส่วนใหญ่ยกย่อง มิหนำซ้ำ กลับเป็นงานที่คนส่วนใหญ่มองว่าไม่น่าจะไปรอด ซึ่งเชื่อเหลือเกินว่า สำหรับคนอ่านการ์ตูนอย่างเราๆ บางท่านนั้น ตอนเด็กๆก็เคยคิดฝันอยากจะเป็นนักวาดการ์ตูนเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่ความฝันการเป็นนักเขียนการ์ตูนมักจะหยุดลงตรงนั้น เมื่อผู้ใหญ่มองว่าอาชีพนี้ไม่มั่นคง ไม่น่าจะหาเลี้ยงชีพตนได้ เหมือนกับ ข้าราชการ,แพทย์,วิศวกร ฯลฯ แต่อย่างน้อย เพราะความใจรักในการ์ตูน ก็มีคนที่จะท้าทายกับสายอาชีพอันไม่มั่นคงนี้ เพื่อมุ่งมั่นที่จะตามความฝันสู่จุดสูงสุดในสายอาชีพคนเขียนการ์ตูน ซึ่งการ์ตูนเรื่องที่เราจะแนะนำต่อไปนี้ จะทำให้เราได้เห็นถึงความฝันของตัวละครไปพร้อมๆกับได้รู้เรื่องเกี่ยวกับชีวิตการทำงานของนักเขียนการ์ตูน ที่มีหลากหลายอารมณ์ ซึ่งการ์ตูนเรื่องที่ว่านี้ก็คือ Bakuman วัยซนคนการ์ตูน นั่นเอง

  Bakuman วัยซนคนการ์ตูน เป็นผลงานเรื่องล่าสุดของ อ.ทสึงุมิ โอบะ กับ อ.ทาเคชิ โอบาตะ ผู้ซึ่งเคยมีผลงานดังอันคุ้นตาอย่าง เดธโน้ต ซึ่งลงตีพิมพ์ในนิตยสารโชเน็นจัมป์ของญี่ปุ่นเมื่อปี 2008 และ ในปลายปีเดียวกัน ก็ลงตีพิมพ์ในนิตยสารบูมของบ้านเรา ซึ่งเรื่องนี้ได้ลดโทนเรื่องอันตึงเครียด มืดมน หลอน ไปเป็นแนวชีวิตวัยรุ่นธรรมดาๆ ที่อิงโลกแห่งความจริงเป็นหลัก และเรื่องนี้ก็เหมือนกับผลงานเรื่องที่แล้ว คือ อ.โอบะ เป็นคนแต่ง ส่วน อ.โอบาตะ เป็นผู้สร้างสรรค์ลายเส้นเหมือนเคย

  สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นใน Bakuman นั้น ก็ดำเนินเรื่องผ่านตัวละครเอก 2 คน คือ มาชิโระ โมริทากะ กับ อาคิโตะ ทาคากิ ซึ่งทั้งสองคนนั้นต่างก็มีนิสัยที่แตกต่างกันสุดขั้วในช่วงแรกของเรื่อง นั่นคือ มาชิโระ หรือ ไซโค เป็นคนที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ ไม่มีจุดหมายในชีวิต ในขณะที่ ทาคากิ หรือ ชูจิน นั้น เป็นคนเรียนเก่งระดับท็อปของห้อง หากดูจากนิสัยดูเหมือนว่าทั้งสองน่าจะไปด้วยกันไม่ได้ แต่ทว่าด้วยความที่ชูจินสนใจในเรื่องราวของการ์ตูนอยู่แล้ว แถมเขานั้นก็ได้พบกับพรสวรรค์ด้านการวาดภาพของไซโค จากการที่เขาเก็บสมุดของไซโค ที่มีรูปสเก็ตช์ของ อาซึกิ มิโฮะ เด็กสาวที่ไซโคหลงรัก จึงทำให้ชูจินพยายามที่จะทาบทามไซโคให้สานฝันอาชีพนักเขียนการ์ตูนด้วยกัน แต่ไซโคกลับเอาแต่ปฏิเสธท่าเดียว อย่างไรก็ตาม ในคืนวันหนึ่ง ชูจินได้โทรไปชวนไซโคให้ไปที่บ้านของอาซึกิ ซึ่งที่นั่นก็ทำให้ไซโคได้รับรู้ความจริงว่า ตัวของอาซึกิเองนั้นก็ใฝ่ฝันที่จะเป็นนักพากย์มืออาชีพ ตรงจุดนี้เองทำให้ ไซโค กับ อาซึกิ ได้สัญญาร่วมกันว่า เขาและเธอจะทำความฝันของตนเองให้เป็นจริง นั่นคือ ไซโค จะทำผลงานการ์ตูนของตัวเองให้ได้เป็นอนิเมชั่น (ซึ่งภายหลังทั้งชูจิน-ไซโค ตั้งใจที่จะให้ผลงานตัวเองเป็นอนิเมก่อนอายุ 18 ปี) ซึ่งอนิเมชั่นของเขานั้นจะให้อาซึกิร่วมพากย์ด้วย และสุดท้ายหากความฝันของสองคนนี้เป็นจริงก็จะลงเอยด้วยการแต่งงาน!!!! เพียงแต่ว่า ในระหว่างนี้ ทั้งไซโค กับ อาซึกิ จะไม่มีการพูดคุยกัน จนกว่าทั้งสองจะทำความฝันของตนเองเป็นจริง ....และจากคำมั่นสัญญาของไซโคที่มีต่อสาวคนรักนั่นเอง ก็เป็นการจุดประกายทำให้ ไซโค กับ ชูจิน มีไฟที่จะทำงานสานฝันอาชีพนักเขียนการ์ตูน และด้วยความมุ่งมั่นของพวกเขาจะช่วยให้พวกเขาก้าวไปสู่เส้นทางนักเขียนการ์ตูนไปจนถึงจุดสูงสุดดังที่หวังหรือไม่?...........

  และสำหรับงานจากคู่หูผู้สร้างเดธโน้ตคู่นี้ ก็ยังคงเส้นคงวาในเรื่องของคำพูด ตัวหนังสือ ที่ให้คนอ่านอย่างเราๆได้เหนื่อยกันอีกรอบ แต่พออ่านๆไปก็พบว่า เรื่องนี้กลับไม่มีความตึงเครียด มืดมน ชวนงง เหมือนผลงานก่อนหน้า (แน่ล่ะ) ทำให้มีความรู้สึกอ่านได้เรื่อยๆ และได้อรรถรสเต็มเปี่ยม รู้สึกเพลิดเพลินสำหรับคนที่สนใจ หรือ ชื่นชอบในเรื่องราวของการ์ตูนอยู่แล้ว ซึ่งเรื่องนี้ก็คอยตีแผ่เบื้องหลังของคนที่ทำอาชีพนี้เป็นหลักและในเล่มต่อๆไปนั้น เราจะได้เห็นถึง แนวคิด วิธีการทำงานของนักเขียนการ์ตูนแต่ละคน ไม่เพียงแค่ชูจิน กับ ไซโค เท่านั้น ยังรวมถึงนักเขียนคู่แข่ง(แต่เป็นมิตร)คนอื่นๆด้วย อีกทั้งยังได้ทำความรู้จักกับการทำงานของผู้คนในกองบรรณาธิการของสำนักพิมพ์การ์ตูน โดยเฉพาะกับกองบก.นิตยสารจัมป์ ที่ตีแผ่เจาะลึกกันให้ทุกซอกทุกมุม รวมไปถึงทำให้ได้เรียนรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะทำงาน ที่จะต้องมีการกระทบกระทั่งกันระหว่างนักเขียนและบก. ที่มักจะเกิดขึ้นอยู่เสมอเป็นปกติ แม้กระทั่งการแก้ปัญหาที่จะทำให้ผลงานการ์ตูนของตนออกมาดีเยี่ยม ได้รับความนิยมจากคนอ่านได้เยอะๆ เพียงพอที่จะทำให้ซีรี่ย์ของตนไม่โดนตัดจบได้ จากที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้เราได้รู้ว่า กว่าจะได้การ์ตูน 1 ตอนนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ต้องยอมเสียเวลาในการแก้เนม หรือ สตอรี่บอร์ด หลายต่อหลายครั้ง ให้บก.หรือผู้ดูแลให้พอใจมากที่สุด ต่อจากนั้นก็ไปวัดความนิยมจากคนอ่านกันอีกที ซึ่งถึงแม้ว่าโดยรวมเรื่องนี้อ่านๆไปอาจคล้ายกับสารคดีเจาะลึกนักเขียนการ์ตูนของนิตยสารจัมป์ซะจนคนที่รักความตื่นเต้นแบบเดธโน้ตอาจรู้สึกเบื่อๆไปบ้าง แต่รับรองว่าอ่านแล้วไม่เบื่อแน่ เพราะนอกจากจะได้ตามลุ้นไปกับสถานการณ์ของคู่ดูโอไฟแรงที่มีทั้ง ความเป็นความตายของซีรี่ย์ตนเอง รวมถึงชีวิตการทำงานของตนเองแล้ว ยังคอยมีมุขตลกคอยเบรกคั่น รวมถึงเรื่องราวอันโรแมนติคนิดๆระหว่างคู่หนุ่มสาวเรื่องนี้ไปด้วย และที่สำคัญยังได้สาระน่ารู้แฝงด้วย เรียกได้ว่า อ่านเรื่องนี้ได้อารมณ์ราวกับกำลังชมละครดราม่าชวนไพรม์ไทม์เลย

  แต่สำหรับลายเส้นของเรื่องนี้ อาจดูดร็อปลงไปจากงานก่อนในความรู้สึกของบางคน แต่ลายเส้นแบบในบาคุแมนเนี่ย ก็ดูเข้ากันดีกับธีมเรื่องที่เน้นเรื่องราวของการใช้ชีวิตของบรรดานักเขียนการ์ตูน รวมไปถึงการใช้ชีวิตของวัยรุ่น ที่มีอยู่หลากอารมณ์ หลากสีสัน ทั้งเฮฮา ทำหน้าเหวอ ตลก อาย เศร้า โรแมนติก แตกต่างกันไป แต่ที่แน่ๆ ถึงแม้ว่า 2 คู่หูอาจมีหน้าตาไม่ดึงดูดเท่าไหร่ แต่ยังได้ อาซึกิ ที่ออกแบบตัวละครได้ถูกใจเหลือหลาย จนอาจเป็นสาวน้อยในฝันของหนุ่มๆที่อ่านเรื่องนี้ไปบางส่วน(ฮา)

  นอกจากนี้ เรื่องนี้ก็เด่นในแง่ของการเชื่อมโยงผูกเรื่องราวได้อย่างลงตัว ทำให้มีความน่าสนใจยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับการผูกเรื่องราวของไซโค กับ อาซึกิ ที่ได้ให้คำมั่นสัญญาเกี่ยวกับความฝันของตนเอง ซึ่งก็ไปโยงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างคุณอาของไซโคที่เป็นนักเขียนการ์ตูน กับ คุณแม่ของอาซึกิ ที่เคยทำอาชีพนักพากย์ ซึ่งทั้งสองคนนั้นก็เคยหลงรักกัน แม้ว่าความรักของคุณอาไซโคนั้นจบลงด้วยความไม่สมหวัง แต่ก็ช่วยเพิ่มความน่าลุ้นมากขึ้นว่าในรุ่นหลานที่เกิดเหตุการณ์คล้ายๆกัน จะมีความรักที่สมหวังหรือไม่

  และสิ่งที่สำคัญที่เราพบเจอในเรื่องนี้ จนต้องบอกว่าไม่ควรพลาดเรื่องนี้ด้วยประการทั้งปวง ก็คงจะหนีไม่พ้น แนวคิด การสร้างแรงบันดาลใจในการทำสิ่งต่างๆของแต่ละคน จนทำให้เกิดความมุ่งมั่น ตั้งใจในการทำสิ่งๆนั้นให้เป็นความจริงอย่างที่ตนหวัง ซึ่งตรงจุดนี้ก็เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือ ไซโค ในช่วงแรกๆ ที่มีท่าทางซังกะตาย ใช้ชีวิตไปแบบวันๆ อย่างเฉื่อยแฉะ ทั้งๆที่ตนเองมีพรสวรรค์ด้านการวาดภาพ แถมตัวไซโคเองก็ได้รับรู้เรื่องราว(แบบผิดๆ)ของคุณอาตัวเอง จนเลิกคิดเป็นนักเขียนการ์ตูน ซึ่งผิดกับ ชูจิน ที่เรียนเก่งมากซะจนมีทางเลือกในอนาคตอยู่หลากหลายทาง แต่ด้วยการที่ชูจินชื่นชอบในการ์ตูนมาก เขาจึงตัดสินใจเลือกที่จะเสี่ยงดวงกับสิ่งที่เขารัก แม้ว่างานที่เขาเลือกนั้นจะเป็นงานที่ไม่มั่นคงในสายตาของคนส่วนใหญ่ แต่พอไซโค ได้รับแรงกระตุ้นจากชูจิน ,ได้รับรู้เรื่องราวความฝันของอาซึกิ รวมถึง ได้รับรู้ความจริงเกี่ยวกับการตายของคุณอาของตนในภายหลัง จึงทำให้ไซโค เกิดความมุ่งมั่น อยากเป็นนักเขียนการ์ตูน อยากมีผลงานการ์ตูนที่มีคนยอมรับและให้ได้ทำเป็นอนิเมก่อนอายุ 18 ปี ดั่งที่ตนหวัง ซึ่งรวมไปถึงความรักที่สมหวังกับอาซึกิอีกด้วย...........ถึงแม้ว่าคำมั่นสัญญาระหว่าง ไซโค กับ อาซึกิ ฟังๆแล้ว อาจดูเหมือนเป็นการฝันเฟื่อง เพ้อฝัน ไปซักหน่อย แต่ถ้าเราตั้งใจทำสิ่งนั้นให้มันเป็นจริงได้ เรื่องความฝัน คำมั่นสัญญานั้น ย่อมไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันอย่างแน่นอน!!!......ซึ่งเราสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับชีวิตของตนเองได้ หากรู้ว่า ความฝัน หรือ อนาคตของตนเองนั้นคืออะไร?

  สุดท้ายนี้ ก็ไม่มีอะไรมาก หากใครเปิดอ่านในฉบับรวมเล่ม คุณก็จะเห็นหน้าพิเศษซึ่งเป็นเนมของอ.ผู้แต่งทั้งสองท่านนี้ หากใครได้เห็นเนมของอ.โอบะ ก็คงไม่ต้องบอกล่ะครับว่า อ.โอบะ กับ อ.ฮิโรชิ กาโม่ ผู้แต่ง ลัคกี้แมน นั้น มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร?!!!!!!!!



ลายเส้น 8/10
เนื้อเรื่อง 9/10
ความสนุกประทับใจ 8.5/10
พิเศษ 9.5/10



quote:เพลิดเพลินสำหรับคนที่สนใจ ในเรื่องราววงการการ์ตูนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่อาจน่าเบื่อหน่อยสำหรับคนที่ชื่นชอบอะไรที่มันโลดโผน.....โดยรวมคนที่ชื่นชอบผลงานจากคู่หูผู้แต่งเดธโน้ต ไม่ควรพลาด!!!


 
free hit counter javascript