Aku no Hana : รักจิตๆ ดิบๆ แปรเปลี่ยนเป็นความโรแมนซ์แบบมืดๆไม่เหมือนใครของเหล่าวัยสะรุ่น |
||||||||
|
||||||||
|
||||||||
ในช่วงที่ละครซีรี่ย์วัยรุ่น Hormones กำลังออกฉายและมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายในหมู่วัยรุ่น-ผู้ใหญ่ ในแง่ของการนำเสนอที่เน้นความ Real ของปัญหาสังคมวัยรุ่นที่ไม่เหมือนใคร จนกลายเป็นซีรี่ย์ยอดนิยมในหมู่วัยรุ่นชนชาวอาเซียนนั้น ในช่วงขณะนั้นเอง บ้านเราก็ได้ออกวางขายการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องหนึ่ง ที่หยิบเอาเรื่องราวสะท้อนสังคมวัยรุ่นเหมือนกัน แถมเป็นเรื่องที่กำลังถูกกล่าวถึงและพูดถึงในหมู่วัยรุ่นเป็นอย่างมาก ไม่ใช่ในแง่ของความสนุก แต่เป็นความจิต นำเสนอด้านมืดของวัยรุ่นกันอย่างซาบซ่าเต็มที่ (เผลอๆจะจิตกว่าละครเรื่องนั้นด้วย) ซะจนเกิดกลายเป็นการนำเสนอเรื่องราวความรักแบบดิบๆ จิตวิปริต ไม่ได้สดใสหวานแหววเหมือนการ์ตูนวัยรุ่นเรื่องอื่นๆ เลยกลายเป็นซีรี่ย์การ์ตูนอีกเรื่องหนึ่งที่หลายคนจับตามอง ไปพร้อมๆกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากผู้อ่านอย่างหลากหลายตั้งแต่ญี่ปุ่น ยันจนถึงเมืองไทย ซึ่งเรื่องที่กล่าวมานี้ไม่ใช่เรื่องอื่นไกล นั่นคือ Aku no Hana หรือ รักโรคจิต นั่นเอง รักโรคจิต เป็นผลงานของ อ.ชูโซ โอชิมิ โดยหยิบเอาประสบการณ์การถูกกลั่นแกล้งในโรงเรียนที่เขาเคยประสบ มาดัดแปลงกลายเป็นเนื้อเรื่องของเรื่องนี้ ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Bessatsu Shonen Magazine ปี 2009 และได้รับการกล่าวขวัญจากผู้อ่านที่ญี่ปุ่นอย่างสูง จนได้ถูกนำไปดัดแปลงเป็นอนิเมซีรี่ย์เมื่อปี 2013 นี่เอง ซึ่งในฉบับอนิเมของเรื่องนี้นั้น ก็มีคนพูดถึงกันเยอะไม่แพ้ฉบับการ์ตูนเลย (แต่เป็นฟีดแบ็คด้านลบเกี่ยวกับงานภาพฉบับอนิเมที่ต่างกับฉบับการ์ตูนอย่างสุดขั้ว อย่างกะเป็นคนละเรื่องกันเลย) และด้วยความแรงดาร์กและฉาวซะขนาดนี้ ก็ทำเอาบรรดานักอ่านบ้านเราได้อึ้ง ที่ไม่น่าเชื่อว่า จะมีคนกล้าเอาเรื่องนี้มาตีพิมพ์วางขายในบ้านเราด้วย!! โดยบ้านเราสามารถอ่านได้โดยสนพ.วิบูลย์กิจ การ์ตูนเรื่องนี้ก็มีจุดเด่นตั้งแต่หน้าปกกันเลย โดยเฉพาะกับ 3 เล่มแรก ที่จะเน้นคำพูดของบรรดาตัวละครให้ตัวใหญ่ชัด(กว่าชื่อเรื่อง) โดยเฉพาะกับเล่ม 1 ในแบบเวอร์ชั่นแปลไทยนั้น หากใครมองปกผ่าน คิดว่า เรื่องนี้มีชื่อว่า "ไอ้ตัวสกปรก" กันแน่แท้!!! (ซึ่งจริงๆมันเป็นแค่คำพูดของสาวหน้าตาน่ารักบนปกต่างหาก) ซึ่งหากจะว่ากันจริง ชื่อญี่ปุ่นของรักโรคจิต หรือ Aku no Hana เนี่ย หากแปลความหมายตรงๆ ก็คือ ดอกไม้ปีศาจ ซึ่งสื่อถึงนิยายเรื่อง Les Fleurs du mal นิยายอันขึ้นชื่อของ Charles Baudelaire นักประพันธ์ชาวฝรั่งเศส ซึ่งหากดูเนื้อหานั้น ก็ต้องบอกว่า เหมาะสมกับชื่อนี้ด้วยประการทั้งปวง !!! (ไม่เว้นแม้แต่ชื่อไทย ที่หลายคนมองว่า ชื่อที่สนพ.ตั้งมาเนี่ย มันดิบๆ ไม่สละสลวย ไม่แรงโดนใจเลย) โดยเรื่องราวของเรื่องนี้ เป็นเรื่องของ คะสุกะ ทาคาโอะ เด็กหนุ่มอ่อนแอ ผู้ชื่นชอบนิยายของ Baudelaire เป็นชีวิตจิตใจ รวมไปถึง ได้แอบชื่นชอบ ซาเอกิ นานาโกะ เด็กสาวคนงาม ผู้ซึ่งเป็นดาวประจำชั้น อีกด้วย และแล้วจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดได้เกิดขึ้น เมื่อ คะสุกะ ได้เผลอขโมยชุดพละของซาเอกิ ไป ทว่า นากามุระ ซาวะ สาวน้อยเพื่อนร่วมชั้นผู้ถูกคนทั้งชั้นรังเกียจ กลับเห็นการกระทำของเขาเข้า เลยออกมาขู่แบล็คเมล์สารพัด พร้อมกับบีบบังคับให้คะสึกะทำสัญญากับเธอ หากไม่อยากให้ความลับนี้รั่วไหลถึงทุกคน ทำเอาเขาจำต้องทำสัญญากับเธออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และในระหว่างนั้น เขาได้เผชิญหน้าและได้พูดคุยกับซาเอกิมากขึ้นอีกต่างหาก และแล้วเรื่องราวความสัมพันธ์แบบแปลกๆของเด็กหนุ่มวัยรุ่นผู้อ่อนแอปวกเปียก กับ เด็กสาว 2 คน ผู้มีลักษณะนิสัยแตกต่างราวกับฟ้า-เหว ก็ได้ดำเนินต่อไป ชนิดที่เดาบทสรุปกันอย่างแสนลำบาก...... สำหรับนักอ่านคนไหนที่หวังอยากจะเห็นฉากรักใสๆ หวานแหวว ปนคอเมดี้ จากเรื่องนี้ แนะนำว่า ให้ไปหาเรื่องอื่นอ่านเถอะ ปล่อยให้เรื่องนี้อยู่ชั้นหนังสือต่อไป เพราะเรื่องนี้มีการนำเสนอเรื่องราวด้านมืดของวัยรุ่นอย่างถึงพริกถึงขิง ค่อนข้างจะแรงมาก ซะจนหาความจรรโลงใจยาก และอาจทำให้นักอ่านบางส่วน (โดยเฉพาะพวกโลกสวย) รับกันไม่ได้เลย ฉะนั้น เรื่องนี้จึงไม่เหมาะสำหรับนักอ่านอายุน้อยๆ รวมไปถึง นักอ่านบางส่วนที่เป็นพวกผู้ดีดัดจริต แยกแยะอะไรไม่เป็น ด้วยเช่นกัน ซึ่งสิ่งสำคัญที่ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องที่เขาพูดถึงกันแบบปากต่อปาก ก็คงจะหนีไม่พ้นการนำเสนอที่ไม่เน้นความใสของชีวิตมนุษย์ แต่เน้นความจริงที่เกิดกับสังคมวัยรุ่นในสมัยนี้ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในสังคมสมัยนี้มีวัยรุ่นที่คิดผิดทำผิดทำอะไรไม่ค่อยคิดเป็นจำนวนมาก จนเกิดปัญหาอื่นๆตามมา และก็เพราะความดิบๆที่เกิดขึ้นในเรื่องนี้ล่ะ คนเขียนก็เลยจับเอานิสัยด้านมืดของตัวละครในเรื่อง มานำเสนอเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่าง 1 หนุ่ม กับ สาว ๆ (ในตอนหลังๆ จะมีสาวคนใหม่อีกคนเข้ามาอีก) ให้มีความน่าสนใจน่ารักน่าลุ้นพร้อมจะหักมุมไปได้หลายทิศทางในทุกๆตอน จนเกิดความโรแมนติคแปลกใหม่ที่ไม่เหมือนใคร ไม่มีใครเหมือน สมกับเป็น "รักโรคจิต" ซึ่งตรงนี้ ก็เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงนิสัยใจคอของมนุษย์หลายๆคน ที่ตัวตนจริงๆของเขาหรือเธอนั้น ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดหรือเห็นหรอก (ต้องติดตามกันให้ดีๆ โดยเฉพาะกับสาวๆทั้ง 2 คนนั้น พอเฉลยที เล่นเอาหักมุมกันไปข้างเลย) แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนจากเรื่องนี้คือ บรรดาตัวละครวัยรุ่นทั้ง 3 คน ต่างก็พยายามดิ้นรนที่จะหาสิ่งที่เติมเต็มให้กับชีวิตตน ซึ่งแต่ละคนต่างก็มีสิ่งที่ขาดหายแตกต่างกันไป ส่วนจะเติมเต็มแบบไหนอย่างไรนั้น ก็ต้องติดตามกันต่อไป..... แม้ว่าการนำเสนอของเรื่องนี้จะดำมืดไปบ้าง แต่ก็ได้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาสังคมที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกับปัญหาเรื่องการกลั่นแกล้งในโรงเรียนเนี่ย ค่อนข้างจะชัดเจนมากในเรื่องนี้ เห็นได้จาก คะสุกะ ผู้อ่อนแอ ที่มักถูกนากามุระบีบบังคับให้ทำนู่นทำนี่สารพัด แบบไม่แคร์สื่อ แต่เขาก็จำยอมทำตามที่เธอสั่ง เพราะหากเขาไม่ทำตาม เขาอาจถูกเธอแฉในเรื่องที่เขาไปขโมยชุดพละของซาเอกิก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม นอกจากปัญหาการกลั่นแกล้งกันในโรงเรียนแล้ว ยังได้สะท้อนปัญหาด้านครอบครัว ซึ่งครอบครัวนั้นถือเป็นสถาบันสำคัญของชีวิตมนุษย์ ซึ่งมนุษย์จะเติบโตไปยังทิศทางใดนั้น ขึ้นกับครอบครัวเป็นหลัก เห็นได้ความสัมพันธ์ระหว่างคะสุกะกบคุณพ่อคุณแม่ที่ดูจะห่างเหินกัน หรือจะเป็นนิสัยก้าวร้าวของนากามุระ ที่สาเหตุหลักๆที่เธอเป็นแบบนั้น อาจมาจากปัญหาครองครัวของเธอเองก็เป็นได้ เป็นต้น อีกทั้ง เรื่องนี้ก็มีเอกลักษณ์เด่นๆ คือ ตรงที่มีการพยายามเอานิยาย Les Fleurs du mal ของ Baudelaire มาผูกกับเนื้อเรื่องโดยตลอด เห็นได้จากในเรื่องนี้มีการพูดถึง ดอกไม้ปีศาจของ Baudelaire ออกมาเป็นระยะๆ ซึ่งเขามักเรียกหาดอกไม้ตาเดียวนี้ ในการมอบพลังความกล้าในเขาสามารถทำสิ่งนั้นให้บรรลุ หรือจะเป็นการบอกให้ดอกไม้ดอกนี้ให้ช่วยชี้แนะแนวทางให้ ...ก็ไม่รู้ว่าจนถึงขณะนี้ ดอกไม้ดอกนั้นจะช่วยชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องอย่างแท้จริงให้กับเขาหรือเปล่า แต่ก็พอบ่งบอกได้ว่า สิ่งนี้แหละคือสิ่งเดียวที่เด็กคนนี้ใช้เป็นที่พึ่งจริงๆ!! .... อย่างไรก็ตาม นิยาย Les Fleurs du mal ของจริงนั้น จะเป็นการนำเสนอเรื่องราวของ ความรู้สึกนึกคิด ความทุกข์ ความรัก ความปรารถนา มาเชื่อมโยงกับประสาทสัมผัสต่างๆ จนเป็นบทกวีที่ยากแก่ความเข้าใจในยุคนั้น ซึ่งในจุดเด่นที่นิยายชุดนี้มีนั้น ก็ได้ถูกนำไปใส่ในการ์ตูนเรื่องนี้ด้วย โดยเฉพาะกับ ความทุกข์ ความรัก ความปรารถนา ของตัวละครในเรื่อง ที่ดูจะเน้นมากเป็นพิเศษ ส่วนเรื่องอื่นๆ นั่น ในแง่ลายเส้น ตัวละครในเล่มแรกๆอาจวาดสัดส่วนเพี้ยนมากหน่อย เล่มหลังๆจะลงตัวมากขึ้น ส่วนในเรื่องการแปลภาษาไทยนั้น ก็โดนวิจารณ์มากเป็นพิเศษ ในแง่ของการแปลแบบหน่อมแน้ม คำพูดคำด่าที่แรงๆในต้นฉบับก็ดันแปลออกมาไม่แรงโดนใจ เท่านั้นไม่พอ ยังมีการแปลประโยคคำพูดผิดอีกต่างหาก ซึ่งตรงนี้ก็พอเข้าใจทางสนพ. ที่ต้องแปลแบบไม่ให้หยาบคายจนเกินไป เพราะไม่อยากให้คนอ่านได้ซึมซับหยิบเอาไปพูดกันมากนัก (แต่ไหนๆก็ไหนๆ เรื่องนี้สนพ.อุตส่าห์จัดเรตไม่ให้คนอายุต่ำกว่า 18 ปีอ่าน ก็น่าจะปรับๆให้คำพูดมันแรงขึ้นบ้างไม่ได้เหรอ) ส่วนการแปลผิดนี่ก็นะ........... ก็หวังว่าเล่มหลังๆคงจะปรับปรุงจุดนี้กันมากขึ้นนะครับ!! และสุดท้ายนี้ เชื่อว่า :
|
||||||||
อายุที่เหมาะสม : 18 ปี ตามสนพ. |