รักไร้เสียง : สื่อรักเงียบกริบ สะท้อนชีวิตเทาๆของเด็กวัยรุ่นญี่ปุ่น




ผู้แต่ง
โยชิโทคิ โออิมะ
ประเภท
ดราม่า,ชีวิตรักวัยรุ่น
รวมเล่ม
5 เล่ม (ญี่ปุ่น 7 เล่มจบ)
สำนักพิมพ์
รักพิมพ์


ห่างเหินจากการวิจารณ์หนังสือการ์ตูนกันมานานนับปี มาอุ่นเครื่องกันกับเรื่องนี้ดีกว่า ซึ่งก็เข้ากับช่วงเปิดเทอมใหม่ของใครหลายคนพอดี ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เวลาขึ้นชั้นเรียนใหม่ ย้ายโรงเรียนใหม่ จะต้องพบเจอสิ่งแวดล้อมอะไรใหม่ที่เราไม่คุ้นกัน หากใครสามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งใหม่ๆได้ หรือ พบเจอแต่เรื่องประทับใจจากผองเพื่อนในชั้น ก็เป็นเรื่องดีไป แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยเลย ที่ต้องประสบกับเรื่องราวร้ายๆ เจอพี่น้องผองเพื่อนร่วมชั้นพากันรับน้องจัดหนักกันโดยตลอด ถึงขั้นเลยเถิดกลายเป็นการกลั่นแกล้งแบบไร้เหตุผลไปซะแล้ว ซึ่งก็ส่งผลกระทบต่อจิตใจอย่างร้ายแรงของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการกลั่นแกล้ง เช่นกัน ซึ่งซีรี่ย์การ์ตูนที่เราจะพูดถึงอยู่นี้ ก็เกี่ยวข้องกับประเด็นหลังล้วนๆ กับ "รักไร้เสียง"

รักไร้เสียง หรือ Koe no Katachi ผลงานการ์ตูนดีกรีรางวัล Tezuka Osamu Cultural Prize ครั้งที่ 19 ในสาขาศิลปินหน้าใหม่ ของ อ.โยชิโทคิ โออิมะ ลงตีพิมพ์ในนิตยสาร Shonen Magazine ช่วงปี 2013-2014 มีจำนวน 7 เล่มจบ ปัจจุบัน หาอ่านได้ในบ้านเราของ สนพ.รักพิมพ์ และกำลังจะถูกทำเป็นอนิเมจอเงินในเร็วๆนี้เช่นกัน........โดยเป็นซีรี่ย์การ์ตูนรักโรแมนติค ชีวิตวัยรุ่น ที่ค่อนข้างจะสะท้อนสังคมญี่ปุ่นสมัยนี้หลายๆประเด็น ทั้งเรื่องของการใช้ชีวิตของคนไม่ครบ 32 ในสังคมปัจจุบัน แล้วก็ปัญหาการกลั่นแกล้งในโรงเรียน ที่ถือเป็นหนึ่งในปัญหาสังคมที่เด็กๆ เยาวชนญี่ปุ่น กำลังเผชิญกันอยู่ ซึ่งในเรื่องนี้ก็ได้เอาปัญหานี้มาตีแผ่ซะส่วนหนึ่ง เพราะประเด็นการกลั่นแกล้งนั้น มันเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดในเรื่องนี้ โดยเฉพาะกับ อิชิดะ โชยะ กับ นิชิมิยะ โชโกะ คู่พระนางประจำเรื่อง

เรื่องราวของทั้งคู่นี้ เริ่มต้นกันตั้งแต่สมัยประถม เมื่อ อิชิดะ เด็กหัวโจกจอมแสบประจำห้องเรียน กับผองเพื่อนได้ต้อนรับนักเรียนผู้เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ ซึ่งก็คือ นิชิมิยะ นั่นเอง โดยสาวน้อย นิชิมิยะ นั้น เป็นเด็กพิเศษ คือ เป็นคนหูหนวก ไม่สามารถเปล่งเสียงพูดออกมาได้ เธอทำได้แค่เขียนข้อความลงบนสมุดเพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารกับเพื่อนร่วมเท่านั้น และการมาของสาวใบ้ผู้มีนั้น ก็ทำเอาอิชิดะเกิดอาเพศ คึกคะนอง (หรือ เกรียน ) เลยจัดการต้อนรับน้องใหม่ผู้ไม่เหมือนใคร ด้วยการกลั่นแกล้งเธออย่างสารพัดแทบจะทุกวัน จนกระทั่งเหตุการณ์นั้นมาถึงจุดเปลี่ยน เมื่อ อาจารย์ได้รู้ว่า เครื่องช่วยฟังของนิชิมิยะ ได้รับความเสียหายบ่อยครั้ง โดยฝีมือของอิชิดะ กอปรกับการที่ อิชิดะ กับ นิชิมิยะ เกิดทะเลาะกันอย่างรุนแรง จนทำให้ นิชิมิยะ ย้ายออกจากโรงเรียนไป จากสิ่งที่เกิดขึ้น ทำเอาอิชิดะ กลายสภาพจากหัวโจกประจำห้อง ตกไปเป็นเป้าของการถูกกลั่นแกล้งลงโทษของเพื่อนร่วมห้องซะ จนเรียกได้ว่า เขานั้นกลายเป็นหมาหัวเน่าไปโดยปริยาย จากที่เคยมีเพื่อนสนิทรอบข้าง ก็ถูกเมินเฉยทิ้งไปอย่างไม่ใยดี และจากสิ่งที่เกิดขึ้น กลายเป็นเหตุการณ์สมัยประถมที่อิชิดะ อยากจะลืมเลือนเสียจริง....

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น เรื่องราวก็ได้ข้ามไปยังช่วงม.ปลาย อิชิดะ เด็กหนุ่มผู้ใช้ชีวิตไปวันอย่างว้าเหว่โดดเดี่ยว ก็ได้พบเจอะเจอกับ นิชิมิยะ ที่เติบโตขึ้นเป็นเด็กสาวม.ปลายอีกครั้ง และการพบกันของเขาและเธอในหนนี้ ก็ดูท่าจะเริ่มต้นใหม่ได้ดี เมื่อฝ่ายชายได้สำนึกผิดกับสิ่งที่ตนเคยทำกับเธอ และแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างอดีตหนุ่มหัวโจกผู้มืดมน กับ สาวน้อยไร้เสียง ก็ค่อยๆพัฒนาขึ้นทีละเล็กทีละน้อย ผ่านภาษามือ และ ผู้คนรอบข้าง.................

แม้ลายเส้นตัวการ์ตูนของเรื่องนี้ อาจดูไม่ดึงดูดเท่าไหร่ แต่เนื้อหาสาระสำคัญในเรื่องนี้ น่าสนใจจริงๆ โดยเสน่ห์ของเรื่องนี้ ก็ตามชื่อเรื่องนี้เลย คือ เป็นความสัมพันธ์ระหว่าง คนธรรมดา กับ คนพิเศษผู้ที่ไม่มีประสาทสัมผัสในการรับรู้เสียง โดยจะแบ่งเป็นสองช่วงหลักๆ คือ สมัยประถม กับ สมัยม.ปลาย ซึ่งพอลองเปรียบเทียบดูแล้ว ก็พบว่า สมัยประถม ความสัมพันธ์ของพระนางคู่นี้ ก็ไม่ดีเอามากๆ กล่าวคือ ฝ่ายชายชอบกลั่นแกล้ง ทำร้ายจิตใจเธออย่างไม่ยั้งคิด ซะจนทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัว และไม่ประทับใจในตัวเขาอย่างแรง แต่ถึงกระนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นตอนประถม อย่าว่าแต่จะส่งผลต่อนิชิมิยะเลย ยังส่งผลต่อสภาพจิตใจของอิชิดะด้วย เพราะเขาเองก็ถูกเพื่อนร่วมชั้นลงโทษเอาคืนเช่นกัน เลยส่งผลถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ของทั้งคู่ในตอน ม.ปลาย เมื่อทั้งสองคนกลับมีโอกาสมาสานสัมพันธ์กันใหม่อีกครั้ง โดยที่ฝ่ายชายสำนึกผิดในการกระทำของตนเอง ส่วนฝ่ายหญิงนั้น ก็ไม่ได้ติดใจเอาความเขาแต่อย่างใด เท่านั้นไม่พอ ฝ่ายชายยังได้เรียนภาษามือเพิ่มเติม เพื่อที่จะสามารถขอโทษขอโพย ติดต่อสื่อสารกับเธอได้อย่างสะดวกขึ้น และแน่นอน นั่นคือ ต้องการที่จะเป็นเพื่อนกับเธออย่างจริงใจด้วย ซึ่งฉากการสื่อสารระหว่างพระนางคู่นี้ อาจมีอะไรที่ต่างฝ่ายอาจเข้าใจคลาดเคลื่อนบ้าง แต่ก็ถือเป็นส่วนที่น่ารักอีกมุมหนึ่งที่ปรากฏในเรื่องนี้ แบบว่าไม่เหมือนใครดี

อย่างไรก็ตาม เนื้อหาหลักที่เรื่องนี้ต้องการนำเสนอนั้น ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องรักๆใคร่ๆ แบบวัยรุ่น แต่เป็นการสะท้อนสังคมในด้านมัวๆของวัยรุ่นญี่ปุ่นในปัจจุบันต่างหาก ซึ่งตัวละครในเรื่องนี้ทุกตัวก็ออกจะเทาๆทั้งนั้น สามารถจับต้องได้จริง ....... โดยในเรื่องจะนำเสนอปัญหาที่เกิดขึ้นของแต่ละคน ทั้งคู่พระนางในเรื่องนี้ ยังรวมถึงตัวละครตัวอื่นๆ ที่ต่างก็มีปมในใจกันทั้นนั้น อาทิ ไม่เปิดใจกับใคร , เจ็บปวดกับความพิการของตนเอง, ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับใครได้ , กลัวเป็นเหยื่อในการถูกกลั่นแกล้ง , ความไม่มั่นใจในตัวเอง เป็นต้น นอกจากกลุ่มเหล่านี้แล้ว ก็ยังนำเสนอถึงกลุ่มตัวละครอีกกลุ่มหนึ่ง ที่แม้ภายนอกจะดูเหมือนปกติ ไม่มีอะไรด่างพร้อย แต่ในใจลึกๆนั้น ก็ดันเป็นพวกเสแสร้ง ตีสองหน้า ซะงั้น (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อนพระเอกตอนประถม) โดยกลุ่มคนเสแสร้งเหล่านี้ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นกลุ่มคนที่พบเห็นได้เยอะสุดในสังคมปัจจุบัน แต่ถึงกระนั้น ก็อย่าลืมนะว่า แม้คนเราจะมีปมด้อยมากแค่ไหน แต่เราก็สามารถที่จะก้าวข้ามมันไปได้ หากเรามีความกล้า กล้าเผชิญหน้ากับข้อเสีย หรือ ความกลัวของตนเอง พร้อมกับหาทางเรียนรู้ แก้ไขอยู่สม่ำเสมอ ก็จะมีผลทำให้เราสามารถใช้ชีวิตบนโลกอันบิดเบี้ยวได้อย่างสงบสุข โดยที่ไม่ต้องไปยึดติดกับสิ่งที่ตนกลัวอีกต่อไป .... ซึ่งในส่วนตรงนี้ เราก็จะได้เห็นพระนางคู่นี้ พยายามที่จะต่อสู้กับมัน ตลอดทั้งเรื่อง

แต่สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เรื่องนี้ได้เน้นโฟกัสไปที่ปัญหาการกลั่นแกล้งในโรงเรียนด้วย ซึ่งเป็นปัญหาหนึ่งที่ยังแก้ไขไม่ตกในสังคมญี่ปุ่น โดยมูลเหตุของการกลั่นแกล้งนั้น ก็มีอยู่หลายสาเหตุ แต่ที่แน่ๆ ใครคนไหนที่อ่อนแอ มีอะไรผิดแผกกว่าคนอื่นๆเนื่อ ก็จะตกเป็นเหยื่อระบายอารมณ์จากการถูกกลั่นแกล้งเรื่อยไปทันที เห็นได้จาก นิชิมิยะ สมัยตอนเด็กที่ถูกกลั่นแกล้งบ่อยๆแทบทุกวัน......แต่ถึงกระนั้น ในเรื่องนี้ก็ได้นำเสนอถึงผลลัพธ์จากการถูกกลั่นแกล้งออกมาด้วย ซึ่งก็คือ คนที่ตกเป็นเหยื่อของการถูกกลั่นแกล้งก็จะรู้สึกชอกช้ำทั้งกายและใจ แม้กระทั่ง คนก่อเรื่อง อย่าง อิชิดะ ก็โดนลงโทษจากเพื่อนร่วมชั้นอย่างอย่างสาสม (หลังจากเรื่องแดงขึ้น) ซึ่งนั่นก็ทำให้รู้ซึ้งถึงผลร้ายที่ได้รับจากการกลั่นแกล้งผู้อื่น เช่นกัน อีกทั้ง ผลลัพธ์จากการถูกกลั่นแกล้งนั้น สำหรับบางคนนั้นส่งผลกระทบต่อจิตใจยาว ซะกลายเป็นคนซึมเศร้า เก็บตัว เลวร้ายที่สุดก็ปลิดชีพตัวเอง บ้างก็กลายเป็นคนเดียดแค้น ซะจนเกิดการทำร้ายร่างกายกันจนบาดเจ็บล้มตายก็มี ดั่งที่เคยปรากฏจริงในสังคมญี่ปุ่น......แม้เหตุการณ์การกลั่นแกล้งนั้น ก็มีอยู่หลายเคสที่มีคนนอกรู้เห็นด้วย แต่คนนอกกลุ่มนั้น กลับเลือกที่จะอยู่เฉย ปล่อยให้การกลั่นแกล้งนั้นเกิดขึ้นต่อไปโดยไม่คิดจะขัดขวาง เพราะต่างฝ่ายต่างเกรงกลัวที่จะตกเป็นเหยื่อของการกลั่นแกล้งเสียเอง จึงไม่แปลกที่ปัญหาการกลั่นแกล้งในหมู่เด็กวัยรุ่นญี่ปุ่นจึงไม่มีวันจบสิ้น.....

 


ลายเส้น 4/10
เนื้อเรื่อง 9/10
ความสนุกประทับใจ 8/10
พิเศษ 9/10

อายุที่เหมาะสม : 15 ปี ขึ้นไป


ระดับความโม้ (1) / ไม่โม้ (5): อิงความเป็นจริงมาก (5)


quote: รักนิดๆ สะท้อนสังคมหนักๆ เหมาะสำหรับนักอ่านสายเรียล ส่วนใครที่ชอบเสพแบบรักๆใคร่ๆ กุ๊กกิ๊กๆ อาจไม่เหมาะกับเรื่องนี้
.........สำหรับใครต่อใครที่สัมผัสกับเรื่องนี้ จะหยอกล้อกลั่นแกล้งก็เอาแต่พองามขำๆ อย่าเลยเถิดจนเกินไปดั่งพฤติกรรมตัวละครที่ปรากฏในเรื่อง


 
free hit counter javascript