คุนิมิตซึ คนจริงจอมกะล่อนนั้น ก็เป็นผลงานชิ้นที่ 2 ของ 2 คู่หู ยูมะ อันโด และ มาซาชิ อาซากิ ที่เคยฝาก ไซโคเมทเลอร์ เอย์จิ ซึ่งเป็นผลงานดังก่อนหน้านี้ในบ้านเราด้วย โดยคุณสามารถติดตามเรื่องล่าสุดได้ในนิตยสาร เคซี วีคลี่ย์(เกือบ)ทุกสัปดาห์ และได้ข่าวว่าที่ญี่ปุ่นใกล้จะจบลงแล้วด้วย ส่วนที่บ้านเรายังตามอ่านได้ต่อไป
สำหรับคุนิมิตซึนั้น ถ้าจะพูดไปนั้น พระเอกของเรา(คุนิมิตซึ)ก็เคยโผล่หน้ามาให้เราเห็นบ้างใน ไซโคเมทเลอร์ เอย์จิ แต่เขาก็ไม่ได้เป็นตัวละครเด่นแต่อย่างใด แต่สำหรับเรื่องนี้ คุนิมิตซึ ก็กลายสภาพมาเป็นตัวละครเอกของเรื่องนี้
ถ้าดูจากชื่อภาษาไทยนั้น มันจะดูเหมือนกับเรื่องตลกๆออกนักเลงๆ พออ่านแล้ว มันก็ใช่แต่ก็ไม่เหมือนอย่างที่หลายๆคนคิดซะทีเดียว หากคุณได้เห็นรูปรัฐสภาญี่ปุ่น หรือ อ่านปกหลังของเล่มแรก ซึ่งบ่งบอกว่า ชายผู้นี้จะเปลี่ยนแปลงการเมืองของญี่ปุ่นให้ดีขึ้นเองนั้น ก็แสดงให้เห็นถึงว่า การ์ตูนเรื่องนี้ได้เอาเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้องด้วย ทำให้ดูแล้วน่าจะไปเน้นที่สังคมและการเมืองมากกว่า
ส่วนเนื้อเรื่องนั้น น่าจะเรียกได้ว่าต่อเนื่องจากเอย์จิได้(มั้ง) เพราะ เริ่มเรื่องนั้น มุโต้ คุนิมิตซึ ที่เป็นลูกชายเจ้าของร้านโซบะร้านหนึ่ง แต่เขาก็ได้ทำงานให้กับนักการเมืองซึ่งเป็น พ่อของเอกาว่า โทรุ จาก ไซโคเมทเลอร์ เอย์จิ นั่นเอง อยู่มาวันหนึ่ง คุนิมิตซึก็ได้รับมอบหมายให้ไปที่เมือง ชินชิบะกะซากิ เพื่อไปฝึกงานเป็นเลขาส่วนตัวของ ซากากามิ เรียวมะ อดีตสจ. ซึ่งปัจจุบันตกเป็นหนี้เป็นสินจำนวนมาก และงานที่คุนิมิตซึจำเป็นต้องทำก็คือ ทำให้ ซากากามิ เรียวมะ เป็นผู้ว่าฯของเมืองนี้ให้ได้
ในขณะเดียวกัน ซาวะ มาซึมิ นักข่าวสาวจากหนังสือพิมพ์สดทุกเช้า ก็ถูกส่งมายังที่เมืองนี้ เพื่อมาทำข่าวเกี่ยวกับเมืองนี้ ซึ่งขึ้นชื่อว่าโกงกันสะบั้นหั่นแหลก ก็เพราะ สส.อุจิมุระ ชูโซ และ โกคิตะ ซึซึมุ ผู้ว่าฯคนปัจจุบัน ที่นำเงินไปถลุงเล่น สร้างอะไรต่ออะไรโดยไม่จำเป็นทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน คุนิมิตซึก็ได้รับรู้เรื่องราวของเมืองนี้จากปากของ ซากากามิ อาซึกะ ลูกสาวของเรียวมะ ทำให้คุนิมิตซึจำเป็นที่จะต้องปฏิรูปเมืองนี้ ไม่ให้มันเน่าเหม็นไปมากกว่านี้
จากเนื้อเรื่อง ก็จะเห็นได้ว่า เรื่องนี้จะเน้นถึงการเมืองในระดับท้องถิ่นซะมากกว่า เพราะถึงจะเป็นแค่การเมืองในท้องถิ่น แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะ มันเป็นการเมืองในระดับเริ่มต้นเลยทีเดียว ถ้าการเมืองในระดับท้องถิ่นนั้นยังโกงกันถึงเพียงนี้ แล้วการเมืองในระดับประเทศเนี่ย มันจะแย่ซะขนาดไหน ซึ่งดูแล้วมันไม่ต่างไปจากการเมืองของบางประเทศเลย รวมไปถึงเรายังได้เรียนรู้ว่า การเมืองนั้นมันสำคัญมาก เพราะมันได้ครอบคลุมกับเรื่องอื่นๆด้วย อย่างเช่น การเลือกตั้งประธานนักเรียน ซึ่ง อาสึมะ มิตซึอากิ หรือ เจ้าแสงสว่าง ที่เป็นเสนาธิการ หรือ นักวางแผนการเลือกตั้งของ อ.ซากากามิ ก็ได้บอกไว้ว่า การที่เราขาดความใส่ใจในการเลือกตั้งในระดับโรงเรียน อาจมีผลต่อจำนวนผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งในระดับประเทศที่นับวันน้อยลง หรือจะเป็น เรื่องทุจริตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ที่ทิ้งขยะ การทำถนน ก่อสร้างตึกราบ้านช่อง การเกษตรกรรม การจัดซื้อยา หรือ อุปกรณ์ในโรงพยาบาล หรือจะเป็น การจัดระเบียบการสอนในโรงเรียนเป็นต้น ซึ่งล้วนเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเมืองระดับประเทศทั้งสิ้น
นอกจากนี้ เราจะได้เรียนรู้ถึง กลยุทธต่างๆไม่ว่าจะเป็นการเรียกร้องให้คนเข้ามาเป็นสนับสนุนนักการเมือง หรือกลยุทธ การกำจัดคู่แข่งทางการเมืองซึ่งมีหลากหลายวิธี เป็นการห่ำหั่นกันทางความคิดการวางแผนการเลือกตั้งให้ประสบผลสำเร็จ ทั้งวิธีของคุนิมิตซึและอาสึมะ หรือ วิธีของคู่แข่งแต่ละคน ทั้งฝ่ายของ ฟูวะ ชุนอิจิ, เสนาธิการเงา อาชูระ หรือ มัตซึชิโระ มากิ แม้กระทั่ง เจ้าลัทธิชื่อยาวๆ ก็มีวิธีที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงกลยุทธการโกงการทุจริต ในเรื่องต่างๆ
และ ชายที่ชื่อ คุนิมิตซึ เนี่ย ถ้าจะเปรียบกันจริงๆ ก็จะคล้ายๆกับ คุณครูโอนิซึกะ จากเรื่อง GTO คือ เขาไม่ได้มีแค่กำลังเท่านั้น แต่เขายังเป็นนักคิดนักพัฒนาที่ดีคนหนึ่ง และเขาก็ใช้วิธีที่ไม่เหมือนใครอีกด้วย จนทำให้คนที่ไม่ศรัทธาต่อนักการเมืองหลายๆคน ยอมเข้ามาเป็นพวกสนับสนุนอาจารย์เรียวมะอีกแรง ซึ่งสังคมเรานั้นต้องการคนที่มีแนวคิดดีๆ แบบคุนิมิตซึ อย่างมากเลยทีเดียว
พออ่านเรื่องนี้จบลง ก็เป็นไปตามหัวข้อเลย ว่าเป็นการ์ตูนการเมืองที่ดูเหมือนจะเครียดๆหนักๆ กลับอ่านแล้วไม่เครียดเลย ถึงตัวหนังสือจะเยอะไปหน่อยก็เถอะ แต่ก็เพราะ การนำเสนอของผู้แต่ง โดยใช้ มุขตลกแบบคุนิมิตซึ แถมมีฉากต่อสู้แบบสไตล์นักเลงๆ ซึ่งใครที่ชอบการ์ตูนแนวต่อสู้แบบนักเลงจริง ก็ไม่น่าพลาด(แถมได้ความรู้ประดับสมองอีก)รวมถึงมีฉากโรแมนติกเล็กๆน้อยๆระหว่าง ซาวะจัง กับ คุนิมิตซึ รวมถึงลายเส้นตัวการ์ตูนที่ดูแล้วสบายตา ในสไตล์เฉพาะตัวซึ่งใกล้เคียงจากเรื่องก่อนหน้านี้ และ หน้าตาตัวละครบางตัวก็บ่งบอกถึงนิสัยของตัวละครได้เป็นอย่างดี เด็กๆเห็นอาจกลัวได้(ฮา) แถมได้สาระอีกเพียบ เป็นการ์ตูนอีกเรื่องที่รับรองว่า ไม่มีพิษมีภัย เหมาะสมกับผู้อ่านที่เป็นผู้ใหญ่ด้วย(ในส่วนของ ฉากservice และฉากละเลงเลือดของคุนิมิตซึ ก็มองข้ามไปบ้างก็ได้นะ แค่จุดเล็กจุดน้อยเอง)
|