Cartoon Short Focus -- บาร์บาปาป้า(Babarpapa)






 
   เรามาประเดิมหัวข้อย่อยใหม่ประจำหมวดFocus อย่าง Short Focus ด้วยการ์ตูนฝรั่งเรื่องหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากในบ้านเราเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ซึ่งก็คือ:
 บาร์บาปาป้า (Barbapapa)

  บาร์บาปาป้านั้น เป็นผลงานการแต่งของชาวฝรั่งเศส2ท่าน คือ Annette Tison & Talus Taylor
บาร์บ้าปาป้า ถือกำเนิดในปี 1970 ในรูปแบบของหนังสือสำหรับเด็ก ต่อมาก็ถูกตีพิมพ์เผยแพร่ออกไปมากกว่า 30 ภาษาทั่วโลก ซึ่งปัจจุบัน ยังคงตีพิมพ์อยู่ ในรูปแบบ Library Series, Board book, Paper Back, Educational Series, Comic Book และ TV TIE-IN-BOOKS
สำหรับบาร์บาปาป้าในรูปแบบการ์ตูนอนิเมชั่นทางทีวีนั้น เริ่มผลิตในปี 1975 มีทั้งหมด 45 ตอน ความยาว 5 นาที โดยออกฉายทางทีวีมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก รวมถึงในบ้านเราทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 และ ช่อง 11
ในปี2000 ที่ญี่ปุ่นก็นำบาร์บาปาป้า กลับมาปัดฝุ่นทำใหม่ ในชื่อชุด Barbapapa around the world ซึ่งเป็นการ์ตูนอนิเมชั่น และ คอมิค ที่เน้นการส่งเสริมการเรียนรู้แก่กลุ่มเด็กก่อนวัยเรียน มีทั้งหมด 50 ตอน ความยาว 5 นาทีเช่นกัน เป็นเรื่องราวของการเดินทางออกไปได้เรียนรู้เกี่ยวกับพันธุ์พืช และ สัตว์ต่างๆที่อยู่อาศัยตามแหล่งธรรมชาติทั่วทุกมุมโลก ของครอบครัวบาร์บาปาป้า ระหว่างการเดินทาง พวกเขาก็ต้องคอยช่วยเหลือสัตว์ต่างๆให้ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง โดยเบื้องหลังผลงานชิ้นนี้นั้น ผู้แต่งทั้ง2 ถึงกับลงทุนออกเดินทางรอบโลก เพื่อศึกษาลักษณะของสิ่งมีชีวิต ทั้งสัตว์และพืชตามท้องถิ่นต่างๆ

  ลักษณะ ตัวละคร
  เจ้าตัวบาร์บาปาป้านั้นก็เป็นสิ่งมีชีวิตสีชมพูประเภทหนึ่ง ที่ดูจะคล้ายๆตัวสไลม์ที่เคยเห็นในเกมส์แนวRPG ซึ่งสามารถแปลงร่างกายให้มีรูปร่างคล้ายๆกับสิ่งของอะไรก็ได้ตามที่เขาต้องการ ส่วนคนที่เคยดู ก็จะจำได้ว่า ตอนจะแปลงร่างนั้น จะต้องมีการท่องคาถา หรือ พูดคำว่า "คลิก กะ ดิก คลิ๊ก บาร์บ้า คลิ๊ก" ซึ่ง บาร์บาปาป้านั้น ก็เป็นคำที่มาจากรากศัพท์ภาษาฝรั่งเศสจากคำว่า barbe a papa ซึ่งแปลว่า ขนมสายไหมนั่นเอง

  โดยเริ่มเรื่องแต่แรกนั้น บาร์บาปาป้า จะอยู่ตัวคนเดียวก่อน ต่อมาก็พบกับเด็กอีก2คน บาร์บาปาป้าก็เลยตามเด็กทั้ง2นั่นไป จนกระทั่งวันหนึ่ง บาร์บาปาป้า ก็พบเจอกับ บาร์บามาม่า(Barbamama) ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทเดียวกับเขา แต่เป็นผู้หญิง สีดำ และ ทั้งบาร์บาปาป้าและบาร์บามาม่า ก็ตกลงใจอยู่กินด้วยกัน และทั้ง2 ก็มีครอบครัวด้วยกัน อาศัยอยู่ในปราสาทกลางป่า โดยมีลูกด้วยกันทั้ง 7 ตัว ซึ่งแต่ละตัวก็มีชื่อ และ ลักษณะนิสัยดังนี้

บาร์บาซู(Barbazoo)
สีเหลือง เพศชาย มีนิสัยรักสัตว์ รักธรรมชาติ เขามักชอบช่วยเหลือผู้อื่นและรักที่จะปกป้องรักษาธรรมชาติ ที่สมบูรณ์เอาไว้
บาร์บาลาล่า(Barbalala)
สีเขียว เพศหญิง รักในเสียงดนตรี มีพรสวรรค์ในการเล่นเครื่องดนตรีได้หลายประเภท อีกด้านหนึ่ง เธอก็สนใจเรื่องธรรมชาติเหมือนกับบาร์บาซูเช่นกัน
บาร์บาลิบ(Barbalib)
สีส้ม เพศหญิง หนอนหนังสือประจำบ้าน มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดเลยรู้คำตอบสำหรับทุกๆเรื่อง เธอมักจะแย่งชิงความเป็นผู้นำกลุ่มกับบาร์บาบราโวอยู่บ่อยๆ เธออาจดูเป็นคนน่ากลัวในสายตาพี่น้องของเธอ แต่เธอก็เป็นคนมีอารมณ์ขันใช้ได้
บาร์บาโบ(Barbabeau)
สีดำเหมือนแม่ แถมเป็นตัวเดียวที่มีขน เพศชาย เป็นศิลปินประจำบ้าน เลยมีความคิดสร้างสรรค์ ที่ดีเลิศ แต่เขาก็มีจุดอ่อนตรงที่เป็นคนที่อ่อนไหวง่าย โดยเฉพาะกับคำวิจารณ์ของบาร์บาลิบ ผู้เป็นพี่สาว
บาร์บาเบลล์(Barbabelle)
สีม่วง เพศหญิง รักความสวยงาม เธอชอบเครื่องประดับอัญมณี รวมไปถึงน้ำหอม แต่มักจะกลัวสิ่งมีชีวิตมีขนอย่าง ตะขาบ และ แมงมุม จนถูก บาร์บาโบ ว่าบ่อยๆว่าไร้สาระ
บาร์บาไบรท์(Barbabright)
สีน้ำเงิน เพศชาย นักประดิษฐ์ประจำบ้าน เขาบ้าการทดลองวิทยาศาสตร์มาก และ เขาก็มักก่อเรื่องวุ่นวายอันเนื่องมาจากสิ่งประดิษฐ์อันล้มเหลว ต้องให้ บาร์บาซู ต้องช่วยอยู่บ่อยๆ
บาร์บ้าบราโว่(Barbabravo)
สีแดง เพศชาย มีนิสัยเหมือนเด็กผู้ชายทั่วๆไป คือ รักการผจญภัย ชอบความแข็งแกร่ง ชอบเล่นกีฬา และกินเก่งมาก และที่สำคัญ เขาชอบทำตัวเป็นผู้นำเสมอ และมักสวมบทเป็นนักสืบจำเป็น โดยทำตัวเลียนแบบ เชอร์ล็อก โฮล์ม มี โลลิต้า (Lolita) สุนัขคู่ใจ เป็นผู้ช่วย

  สำหรับคนที่เคยดู ถ้าใครได้ฟังเพลงเปิดตัวของเรื่องในช่วงท้ายๆเพลงนั้น ก็จะเป็นเสียงพูดรัวๆ ฟังก็ไม่เคยทันสักที แต่ก็พอจับใจความได้ว่า เป็นการแนะนำตัวละครในครอบครัวของบาร์บาปาป้านั่นเอง


  จุดเด่นของการ์ตูนเรื่องนี้
  หากใครที่ได้ดูเรื่องนี้(คาดว่า อายุน่าจะมากกว่า20 ปี) ก็จะสังเกตเห็นว่า บาร์บาปาป้า เป็นการ์ตูนที่เน้นในเรื่องสถาบันในครอบครัวมาก โดยสอนให้คนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ ญาติพี่น้อง ให้รู้จักรักสามัคคี และ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จากในเรื่อง เราจะเห็นได้ว่า ครอบครัวนี้อบอุ่นมาก แทบจะไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งกันรุนแรงเลย แถมการ์ตูนเรื่องนี้มีประโยชน์สำหรับเด็กเล็กๆ ในแง่ของการเรียนรู้สิ่งต่างๆโดยเฉพาะ การได้รู้จักกับธรรมชาติของสัตว์ พืช และ สิ่งแวดล้อมต่างๆ และได้ปลูกฝังให้เรารู้จักรักษาสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติให้คงอยู่ต่อไปตราบนานเท่านาน และ ด้วยเหตุผลเหล่านี้ก็ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้ เป็น 1 ใน การ์ตูนโปรดในดวงใจของคนในยุคนั้นๆ และเป็นการ์ตูนน้ำดีที่ดูกันได้ทั้งครอบครัว ถึงแม้ว่าอาจเป็นเรื่องน่าเสียดายไปสักนิดที่ผู้ชมในบ้านเรารุ่นหลังๆไม่มีโอกาสได้รู้จักการ์ตูนเรื่องนี้ แต่อย่างน้อยก็มีสินค้าเกี่ยวกับบาร์บาปาป้ามาวางขายที่บ้านเราด้วยนะ

อ้างอิงจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Barbapapa
  http://www.barbapapa.fr

 
     
free hit counter javascript