โก นากาอิ |
|||
ประวัติ |
|||
โก นากาอิ เป็นนักเขียนการ์ตูนที่มีชื่อเสียงมากในยุค 70 ด้วยผลงานการ์ตูนแนวแอ็คชั่น ไซไฟ อิงเรื่องราวในอนาคตเป็นหลัก และมีผลงานมากมายหลายสิบเรื่อง อีกทั้งผลงานของเขา จะเสริมความอิโรติค เข้าไปด้วย โก นากาอิ ผู้ซึ่งมีชื่อจริงว่า คิโยชิ นากาอิ เกิดวันที่ 6 กันยายน 1945 ณ จ.อิชิคาว่า 1 เดือนให้หลังนับจากเหตุการณ์ที่สหรัฐฯได้ทิ้งระเบิดปรมาณู ที่เมืองฮิโรชิมา วัยเด็กเขาอยู่อาศัยกับครอบครัวที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เมื่อเหตุการณ์ภายในญี่ปุ่นสงบลง พวกเขาจึงย้ายกลับไปยังกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตัวเขานั้นชื่นชอบในผลงานของ อ.โอซามุ เท็ตซึกะ และ ผลงานการประพันธ์ของ กุสตาโว โดเร่ หลังจบการศึกษาระดับ ม.ปลาย เขาเข้าสู่วงการการ์ตูน และด้วยการช่วยเหลือของ ยาสุทากะ พี่ชายของเชา ทำให้เขาได้ผลงานการ์ตูนชิ้นแรกในชีวิต ซึ่งผลงานดังกล่าวก็ได้ไปสะดุดตา อ.โชทาโร่ อิชิโนโมริ (ไอ้มดแดง,Cyborg 009) เข้า ทำให้เขาได้ร่วมงานกับ อ.อิชิโนโมริ ในปี 1965 ในฐานะผู้ช่วยของอ.อิชิโนโมริ เขาได้เริ่มต้นสร้างสรรค์ผลงานการ์ตูน โดยเริ่มจากเรื่องสั้นแนวขำขันเรื่อง Meakashi Polikichi แต่ก่อนหน้านั้นเขาได้เขียนต้นฉบับเรื่อง Kuro No Shishi ซึ่งต่อมา Kuro No Shishi ได้ตีพิมพ์อย่างเป็นทางการในปี 1978 หลังจากได้เปิดตัวในวงการการ์ตูน ทำให้เขาเริ่มมีชื่อเสียง และได้รับการทาบทามให้ไปเขียนการ์ตูนลงในนิตยสารต่างๆ จนกลายเป็นนักเขียนการ์ตูนที่ทำงานหนักที่สุดคนนึงในช่วงเวลานั้น และในผลงานเรื่อง Harenchi Gakuen ซึ่งเคยลงในโชเน็นจัมป์ ช่วงปี 1968–1972 เขาได้เสริมเติมแต่งความรุนแรงและความอิโรติก ฉากวาบหวิว (หรือที่เรียกกันว่า Fan Service) ลงในการ์ตูน ซึ่งเอกลักษณ์ดังกล่าวจึงกลายเป็นรูปแบบในผลงานเรื่องหลังๆของเขา และกลายเป็นนักเขียนการ์ตูนผู้บุกเบิกฉากอิโรติคในการ์ตูนอีกด้วย โดย Harenchi Gakuen เคยถูกนำไปสร้างเป็น OVA และวางขายในช่วงกลางปี 1990 ต่อมาก็ถูกนำไปดัดแปลงเป็นละคร-หนังคนแสดงอีกด้วย อย่างไรก็ตามผลงานเรื่องนี้ทำให้เขาโดนวิพากย์วิจารณ์อย่างหนักของบรรดาผู้ปกครองรวมถึงคุณครูและสมาคมผู้ปกครองและครูในสมัยนั้นด้วย ปี 1969 โกกับพี่ชายของเขาได้ตั้งบริษัท Dynamic Productions เพื่อสานผลงานการ์ตูนของเขาเอง จากนั้นเขาได้ เคน อิชิคาว่า ซึ่งเคยเป็นผู้ช่วยเขาจาก Harenchi Gakuen มาร่วมงานด้วย และในผลงานเรื่องสั้นชุด Oni -2889 Nen no Hanran- เมื่อปี 1970 นั้น ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของผลงานเขา โดยเปลี่ยนจากการ์ตูนฮาเน้นเซอร์วิส ไปเป็นการ์ตูนแนวไซไฟ หลังจากนั้นเขาเริ่มบุกเบิกการ์ตูนแนวซุปเปอร์โรบ็อต (หุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนโดยตัวเอกของเรื่อง) ด้วยการให้กำเนิดซีรี่ย์หุ่นยนต์ตระกูล Mazinger Z (Mazinger Z ,Great Mazinger, Grendizer, Mazinkaiser) เมื่อปี 1972 การมาของ Mazinger ทำให้เขาประสบความสำเร็จอย่างงดงาม และในปี 1974 เขา กับ เคน อิชิคาว่า ได้ร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานซุปเปอร์โรบ็อตเรื่อง Getter Robo ซึ่งก็ได้กระแสการตอบรับเป็นอย่างดีเช่นกัน หลังจากนั้น เขาแต่งเรื่อง เดวิลแมน ซึ่งเป็นเรื่องราวการต่อสู้ของพระเอกผู้ซึ่งรวมร่างกับปีศาจ เพื่อต่อกรกับเหล่าปีศาจร้ายที่หมายจะยึดครองโลก ต่อมาเขาก็ยังแต่ง Devilman Lady ซึ่งเป็นภาคคู่ขนานของเดวิลแมน โดยให้ผู้หญิงมารวมร่างกับปีศาจแทน โดยเดวิลแมนนั้น ก็เป็นหนึ่งในผลงานที่ขึ้นชื่อไปทั่วโลกของโกอีกด้วย นอกจากนี้ หนึ่งในงานของโก ที่จะอดพูดถึงไม่ได้เลย นั่นก็คือ คิวตี้ ฮันนี่ ซึ่งผลงานชิ้นนี้ก็ว่ากันว่า มีอิทธิพลให้กับผลงานการ์ตูนเรื่องหลังๆอย่าง เซเลอร์มูน ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้เขายังแต่งการ์ตูนแนวสาวน้อยเวทมนตร์อย่าง Majokko Tickle ด้วยเช่นกัน ปี 1980 เขาได้รับรางวัลการ์ตูนแนวโชเน็นยอดเยี่ยม ของสนพ.โคดันฉะ จากเรื่อง Susa-no-O นอกจากนี้ เขาก็ยังร่วมงานกับ โชทาโร่ อิชิโนโมริ และ เคน อิชิคาว่า ในผลงานอีกหลากเรื่อง ซึ่งผลงานการ์ตูนของเขานั้น ได้ถูกดัดแปลงเป็นอนิเม และ หนังคนแสดง เป็นจำนวนหลายเรื่องด้วยกัน................... |
|||
ผลงาน |
|||
ผลงานการ์ตูน Abashiri Ikka Allah-kun Battle Hawk Black Lion Cutey Honey Delinquent in Drag Demon Lord Dante Devilman Lady Dororon Enma-kun CB Go Nagai world Getter Robo Getter Robo G Getter Robo: Armageddon In this series, Shin Getter Robo is introduced. Gloizer X Hanappe Bazooka Harenchi Gakuen ("Shameless School") Iron Virgin Jun Jushin Liger Kama Sutra Kekko Kamen Kotetsu Jeeg Majokko Tickle Machine Saurer Mazinger Z Great Mazinger Mazinkaiser Pro-Wres No Hoshi Astekaizer Shuten Douji UFO Robot Grendizer Venger Robo Violence Jack X Bomber Wild Cardz
|
|||
อ้างอิงจาก |
http://en.wikipedia.org/wiki/Go_Nagai |