โยชิยูกิ ซาดาโมโตะ กับ ฮิเดอากิ อันโนะ

  สำหรับบทความประวัติบุคคลสำคัญในวงการการ์ตูนบทความนี้ มีความพิเศษตรงที่ เราจะลงประวัติพร้อมกัน 2 คนในบทความเดียวกัน ซึ่ง 2 ท่านนี้เป็นผู้สร้างสรรค์ทำให้ Neon Genesis Evangelion กลายเป็นอนิเมไซไฟโด่งดัง และ เป็นที่พูดถึงของบรรดาคออนิเมจนถึงปัจจุบัน ซึ่ง 2 ท่านนั้นก็คือ โยชิยูกิ ซาดาโมโตะ ผู้แต่ง Evangelion ฉบับมังงะ กับ ฮิเดอากิ อันโนะ ผู้กำกับ Evangelion ฉบับอนิเม

  โยชิยูกิ ซาดาโมโตะ
  สำหรับซาดาโมโตะ ผู้แต่ง Evangelion ฉบับมังงะ แถมเขายังเป็นคาแร็คเตอร์ดีไซเนอร์ รวมถึงเป็นหนึ่งผู้ก่อตั้งสตูดิโอ Gainax นั้น เขาเกิดเมื่อวันที่ 29 ม.ค. 1962 ณ เมืองโทคุยาม่า (หรือ ชูนัน ในปัจจุบัน) จ.ยามากุจิ โดยงานแรกของซาดาโมโตะ ในวงการอนิเม นั้นคือ เป็นคาแร็คเตอร์ดีไซเนอร์ หรือ คนออกแบบตัวละครให้กับสตูดิโอ Gainax เรื่อง Royal Space Force: The Wings of Honneamise ที่ออกฉายในปี 1987 จากนั้นเขาก็ขยับขยายทำงานเป็นอนิเมเตอร์ให้กับสตูดิโอแห่งนี้ กับเรื่อง Gunbuster และ Nadia: The Secret of Blue Water จากนั้นเขาก็ได้ทำงานในฐานะนักเขียนการ์ตูนเต็มตัวเรื่องแรก ซึ่งก็เรื่อง Evangelion และในขณะเดียวกันเขาก็ทำหน้าที่ออกแบบตัวละครให้กับการ์ตูนเรื่องดังกล่าวในฉบับอนิเมด้วย และด้วยผลงานเรื่องดังกล่าว กลายเป็นงานที่สร้างชื่อเสียงให้แก่เขา และทำเงินให้กับเขาอย่างมหาศาล

  นอกเหนือจากนี้ เขายังทำหน้าที่ออกแบบตัวละครให้กับอนิเมเรื่องอื่นๆ เช่น Nadia, FLCL, .hack//Sign, Diebuster และ The Girl Who Leapt Through Time อีกทั้งเขายังออกหนังสือ artbook รวบรวมผลงานของเขา ในชื่อ Alpha ซึ่งรวบรวมผลงานการดีไซน์ตัวละครจากอนิเมเรื่องต่างๆของเขา ก่อนที่เขาจะเขียนเรื่อง Evangelion รวมไปถึงหนังสือ artbook อื่นๆ ในชื่อ Der Mond ( "The Moon" ในภาษาเยอรมัน), Die Sterne ( "The Stars" ในภาษาเยอรมัน) และ Groundwork of FLCL.

  นอกจากนี้ เขายังได้แต่งการ์ตูนเรื่องสั้นเรื่อง Route 20 รวมถึงเคยแต่งนิยายสั้นๆ 2 เล่มเรื่อง Dirty Work กับ System of Romance ปัจจุบัน เขายังคงทำหน้าที่เป็นคาแร็คเตอร์ดีไซเนอร์ให้กับอนิเม และ เกม โดยเฉพาะกับซีรี่ย์ เกมวีดีโอ .hack นอกจากนี้ยังเคยออกแบบปกอัลบั้ม Pilgrim ของ Eric Clapton อีกด้วย

  โดย ซาดาโมโตะ ได้รับการยกย่องจาก ยาสึโอะ โอตซึกะ อนิเมเตอร์รุ่นเก๋าจากโตเอะ และ Ghibli ผู้เคยแนะนำสั่งสอน ซาดาโมโตะ ในสมัยที่ซาดาโมโตะเพิ่งเข้าสู่วงการใหม่ๆ ในฐานะที่เป็นบุคคลในวงการการ์ตูนที่มีทักษะ และ มีความตั้งใจในการทำงานเขียนการ์ตูนและวาดภาพสูงคนหนึ่งเลยทีเดียว

  ฮิเดอากิ อันโนะ
  อนิเมเตอร์ และ ผู้กำกับการ์ตูนอนิเมจาก Evangelion ฯลฯ เขาเป็นคนบ้านเดียวกับ ซาดาโมโตะ คือ จ.ยามากุจิ แต่เกิดที่เมือง อุเบะ เมื่อวันที่ 22 พ.ค.1960 หลังจากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปะ โอซาก้า เขาได้ก้าวสู่เส้นทางสายอาชีพอนิเมเตอร์ ด้วยการเป็นอนิเมเตอร์ให้กับเรื่อง The Super Dimension Fortress Macross ต่อจากนั้นในปี 1984 เขาได้ร่วมงานกับ ฮายาโอะ มิยาซากิ แห่ง Studio Ghibli กับผลงานเรื่อง Nausicaa of the Valley of the Wind ซึ่งในขณะที่กำลังทำเรื่องนี้อยู่นั้น อนิเมเตอร์กลับมีไม่พอ จึงต้องประกาศรับสมัครอนิเมเตอร์ผ่านทางนิตยสาร Animage และตัวของอันโนะเอง สนใจในงานนี้มาก จึงปรี่ตรงเข้าไปที่สตูดิโอ และด้วยความสามารถของอันโนะนั้น ทำให้มิยาซากิประทับใจมาก จึงได้ว่าจ้างเขาให้ทำหน้าที่ให้วาดฉากในช่วงท้ายเรื่อง

  ต่อจากนั้นในปีเดียวกัน เขาได้ร่วมจัดตั้งสตูดิโอ Gainax ในเดือนธ.ค. 1984 และทำงานในฐานะผู้กำกับอนิเมเรื่องแรก จากเรื่อง Royal Space Force: The Wings of Honneamise (1987),จนกระทั่งมาแจ้งเกิดในฐานะผู้กำกับอนิเมอย่างเต็มตัวจาก Gunbuster (1988) และ Nadia: The Secret of Blue Water (1990–1991) หลังจากจบเรื่อง Nadia เขากลับต้องประสบกับชีวิตอันหดหู่มายาวนานตลอด 4 ปี ก่อนที่เขาจะกลับมาอีกครั้งด้วยการสร้างชื่อจาก Evangelion

  ในปี 1995 เขาได้กำกับอนิเมซีรี่ย์ทางโทรทัศน์เรื่อง Neon Genesis Evangelion ซึ่งดัดแปลงมาจากผลงานการ์ตูนของ ซาดาโมโตะ และ Evangelion กลายเป็นผลงานที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง และเป็นหนึ่งในอนิเมที่มีอิทธิพลสูงสุดตลอดกาลเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งเรื่องนี้มีจุดเด่นในการกลับไปใช้สไตล์การวาดและการแต่งเรื่องแบบเก่า พร้อมกับมีการเสริมองค์ประกอบบางอย่างให้ตัวอนิเมมีคุณค่าสูงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับพล็อตเรื่องที่มีความมืดมนในทุกๆตอน หลายฝ่ายเชื่อว่า จากประสบการณ์หดหู่ ตลอดช่วง 4 ปีของเขานั้น ทำให้เขาได้ระบายสิ่งที่เขาอั้นอั้นลงไปในเนื้อเรื่องและตัวละครของ Evangelion ด้วย ซึ่งทำให้ตัวละครในเรื่องต่างมีการแสดงอารมณ์และความนึกคิด โดยเฉพาะกับความมืดมน หรือ สิ้นหวัง ที่ทำให้ผู้ชมต่างก็รับรู้และอินไปตามๆกัน

  โดยแรกเริ่มเดิมที Evangelion เคยออกฉายในช่วงเวลาที่ออกฉายรายการสำหรับเด็ก ซึ่งอันโนะ ให้เหตุผลว่า ผู้ชมควรจะได้รับรู้ความจริงของชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย ทว่า ตอนออกฉายกลับมีเรตติ้งไม่ดีนัก จึงต้องมีการย้ายเวลาออกฉายเรื่องนี้ ไปฉายในช่วงเวลารายการที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มวัยรุ่น และ ผู้ใหญ่ ซึ่งก็ทำให้บรรดาผู้ชมกลุ่มดังกล่าวต่างก็ติดใจเรื่องนี้ และ ได้รับความนิยมไปทั่วญี่ปุ่น และทั่วโลก ด้วยความสำเร็จของ Evangelion ฉบับทีวีซีรี่ย์ ทำให้อันโนะได้รับจดหมาย อีเมล์ ติชมมิขาดสาย จนนำไปสู่ ฉบับหนังจอเงินของ Evangelion ในปี 1997 ในชื่อ The End of Evangelion และ Revival of Evangelion ในปี 1998

  ซึ่งอนิเมที่อันโนะได้กำกับไปนั้น ต่างก็คว้ารางวัล Anime Granprix ของนิตยสาร Animage มาแล้ว จากเรื่อง Nadia: The Secret of Blue Water ในปี 1990, Neon Genesis Evangelion ในปี 1995 -1996, และ The End of Evangelion ในปี 1997.

  หลังจาก Evangelion เขามีผลงานกำกับอนิเมเรื่องอื่นๆ อาทิ Kareshi Kanojo no Jijo หรือ Karekano (เรื่องธรรมดาของเธอกันฉัน) ,OVA Re: Cutie Honey นอกจากนี้ เขายังกำกับภาพยนตร์ เรื่อง Love & Pop , Shiki-Jitsu ซึ่งเขาเคยคว้ารางวัล ผู้กำกับหน้าใหม่ยอดเยี่ยม จากเรื่อง Love & Pop จากเทศกาลภาพยนตร์ Yokohama Film Festival ปี 1998 และ รางวัล Best Artistic Contribution Award จากเรื่อง Shiki-Jitsu จากTokyo International Film Festival รวมถึง Cutie Honey ในปี 2004

  ปี 2002 เขาได้แต่งงานกับ โมโยโกะ อันโนะ นักเขียนการ์ตูน ผู้แต่งเรื่อง Sugar Sugar Rune และนอกจากนี้ เขามักจะโผล่แจมในภาพยนตร์บางเรื่อง โดยในปี 2004 เขามีบทบาทเป็นนักแสดงเต็มๆในหนังจอเงินเรื่อง Funky Forest

  ในปี 2006 เขาได้ก่อตั้งสตูดิโอ Khara โดยทำงานร่วมกับ Gainax ในการนำ Evangelion ไปรีเมคใหม่ในรูปแบบอนิเมชั่นจอเงินไตรภาค โดย Evangelion 1.0: You Are (Not) Alone ออกฉายเมื่อปี 2007 และ Evangelion 1.0: You Can (Not) Advance ออกฉายในปี 2009