บอกเล่าข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 21-27 มกราคม 2562

บอกเล่าสรุปข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ กลับมาอีกครั้ง .......กับบรรยากาศละอองฝุ่น PM 2.5 ที่ปกคลุมกันไปทั่ว ซึ่งต้องเฝ้าดูสถานการณ์วันต่อวัน ไปพร้อมๆกับหามาตรการต่างๆ เพื่อไม่ให้ปชช.ได้รับอันตรายมากกว่านี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่พึงควรกระทำ มากกว่าที่จะออกข่าวเท็จ โดยอ้างในทำนอง "ไม่พบสิ่งผิดปกติ" ...... อย่างไรก็ตาม ก็มีสิ่งหนึ่งที่น่ายินดี คือ ในที่สุดก็ได้ "วันเลือกตั้ง" ซะที หลังจากเลื่อนลอยมานานเหลือเกิน!!!!!

สำนักข่าว K-D News (kartoon-discovery.com)
สามารถอัพเดทข่าวสารเว็บเราได้ผ่าน Twitter และ Facebook


หากนำข่าวจากเราไปเผยแพร่ที่อื่น รบกวนใส่เครดิตให้กับทางเราด้วยครับ ขอบคุณครับ

New Release Comics of the Week : รวมตี้ ออกดวล ปกป้องอาหารจีน อีกครั้ง กับ ยอดกุ๊กแดนมังกร! ภาค พิชิตฉงชิ่ง

การ์ตูนออกใหม่ ประจำสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีเรื่องไฮไลต์น้อยนิด เริ่มจาก ยอดกุ๊กแดนมังกร! ภาค พิชิตฉงชิ่ง KIWAMI เล่ม 1 การกลับมาอีกครั้งของซีรี่ย์ดวลแข่ง (และปกป้อง) อาหารจีน ของหลิวเหมาชิง และสหาย กับภาคใหม่ล่าสุด ที่มีการเปลี่ยนแปลง การแปลชื่อตัวละครเสียใหม่ ตามครรลองคลองธรรม.........ประเทศจีนช่วงปลายราชวงศ์ชอง เหมา เด็กหนุ่มอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ได้เป็น (พ่อครัวพิเศษ) ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของคนทำอาหาร ความฝันใหม่ของเขาคือ (ศึกษาอาหารชนิดใหม่ที่ยังไม่เคยเห็นมาก่อนให้ลึกซึ้งและสร้างสะพานแห่งรสชาติให้กับผู้คน) !! เพื่อที่จะเข้าร่วมการทำบุญครบรอบวันตายของ "พ่อครัวในตำนาน" เหมากับพวกพ้องจึงไปยังบ้านเกิดที่มณฑลซื่อชวน (เสฉวน) ด้วยความตื่นเต้น แต่สิ่งที่รออยู่ก็คือปริศนาและแผนการซึ่งเกี่ยวข้องกับ "พ่อที่ตายไปแล้ว"

My Hero Academia เล่ม 20 งานรื่นเริงในฝันงานวัฒนธรรม!! ที่จะมีการจัดขึ้นปีละครั้งซึ่งในการจัดงาน ที่อัดแน่นไปด้วยความคิดของเหล่านักเรียน ก็มีพวกที่กำลังรอจะได้ร่วมสนุกอย่าง เต็มที่และพวกที่มีในใจมีความมืดมิดเก็บงำเช่นนั้นแล้ว การทำให้เหล่านั้น ทุกคอยมีรอยยิ้ม นั่นล่ะคือ ฮีโร่!



เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ:

รักสุดใจคนวัยซ่า เล่ม 13 , สามพลัง (ป่วน) พิทักษ์โลก เล่ม 45 ,โหด•ไม่ถามชื่อ The Fable เล่ม 12 ,ล่าอสูรกาย ฉบับสมบูรณ์ เล่ม 11,เทวทูตแห่งโลกมืด Seraph of the end เล่ม 17,BERSERK เล่ม 32,แมงมุมแล้วไงข้องใจเหรอคะ เล่ม 3,FULLMETAL ALCHEMIST แขนกลคนแปรธาตุ (Limited) เล่ม 15,ACCEL WORLD แอคเซลเวิลด์ เล่ม 8 (จบ),Heavy Object S เล่ม 2,BNK48 COMIC Most Dream เล่ม 2 ,นิยาย ยัยกรรไกรใจร้ายกับนายหมาดวงซวย เล่ม 9 , นิยาย อาจารย์เวทมนต์ไม่เอาไหน กับ ตำนานปราสาทลอยฟ้า เล่ม 6

รูปภาพหน้าปก : amazon.co.jp



หนึ่งเดียวจากญี่ปุ่น!!.....Mirai ลุ้นชิง Oscar ครั้งที่ 91 สาขา หนังอนิเมชั่นยอดเยี่ยม

Academy of Motion Picture Arts and Sciences คณะผู้จัดรางวัล Academy Awards หรือ Oscar ได้ประกาศรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัล Oscar ครั้งที่ 91 ในทุกสาขารางวัลแล้ว เมื่อ 22 ม.ค. 2019 ตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐ โดยในผู้เข้าชิงสาขาหนังอนิเมชั่นยอดเยี่ยมประจำครั้งนี้ ปรากฏว่า Mirai หนังอนิเมชั่นของผกก. Mamoru Hosoda กลายเป็นหนังอนิเมชั่นสัญชาติญี่ปุ่นเพียง 1 เดียว ที่สามารถติดโผเป็นผู้เข้าชิงรางวัล Oscar ครั้งที่ 91 ได้ โดยมีคู่แข่งสำคัญ ซึ่งเป็นเรื่องหน้าเดิมๆจากเวที ลูกโลกทองคำ ครั้งที่ 76 และ Critics' Choice Awards ครั้งที่ 24 ประกอบด้วย Isle of Dogs , Ralph Breaks the Internet , Incredibles 2 รวมไปถึง Spider-Man: Into the Spider-Verse ที่กวาดรางวัลชนะเลิศมาแล้วทั้ง 2 เวทีก่อนหน้า

จากการที่ Mirai เข้าชิงรางวัล Oscar ในสาขาดังกล่าว ทำให้หนังเรื่องนี้ กลายเป็นหนังเรื่องแรกของ ผกก.Hosoda ที่สามารถเข้าชิง Oscar ได้ รวมถึง ยังเป็นหนังอนิเมชั่นญี่ปุ่นที่ไม่ได้มาจาก Studio Ghibli เป็นเรื่องแรก ที่เข้าชิงในสาขาดังกล่าวของ Oscar ครั้งที่ 91 ซึ่ง Mirai นั้น เข้าฉายบนโรงที่ญี่ปุ่นครั้งแรก เมื่อ 20 ก.ค. 2018 และทำรายได้ในญี่ปุ่นทั้งสิ้น 2.88 พันล้านเยน

โดย Hosoda กล่าวถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นว่า "ผมรู้สึกเซอร์ไพรส์ที่ทราบข่าวว่า Mirai ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง Academy Awards ครั้งที่ 91 ผมรู้สึกว่า มันช่างมีความหมายอันยิ่งใหญ่ และ สำคัญสำหรับความจริงในแง่ที่ว่า ภาพยนตร์แสนน่ารักเรื่องนี้ที่คอยบอกเล่าชีวิตประจำวันและการเติบโตขยอย่างเงียบๆของเด็กๆ ได้รับเลือกพร้อมกับหนังเรื่องอื่นๆที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับวีรบุรุษโดยเฉพาะ และด้วยการถูกเสนอชื่อในครั้งนี้ในฐานะจุดเริ่มต้น ผมจะมีความสุขมากๆ หากผู้คนจำนวนมากต่างสนุกเพลิดเพลินไปกับ MIRAI กันอย่างลึกซึ่งทั่วถึงกันครับ"

ผู้เข้าชิงสาขาอื่นๆที่น่าสนใจของ Oscar ครั้งที่ 91 ประกอบด้วย Black Panther จัดเป็นหนังฮีโร่ที่ได้เข้าชิงหลายสาขา ทั้ง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม , ตัดต่อเสียงยอดเยี่ยม , มิกซ์เสียงยอดยี่ยม, Production Design ยอดเยี่ยม, ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม, เพลงประกอบยอดเยี่ยม และ ออกแบบคอสตูมยอดเยี่ยม ในขณะที่ Avengers: Infinity War, Christopher Robin, First Man, Ready Player One, และ Solo: A Star Wars story ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในสาขา Visual Effects ยอดเยี่ยม


แหล่งข่าว VarietyStudio Chizu, crunchyroll.com


หนังคนแสดง Touken Ranbu เปิดตัวครั้งแรก อันดับ 5 , บท 2 ของ Fate/stay Night: Heaven's Feel ทะลุรายได้พันล้านเยนแล้ว

อันดับหนัง Box Office ญี่ปุ่น ประจำวันที่ 19-20 ม.ค. 2019 ปรากฏว่า Touken Ranbu หนังคนแสดงดัดแปลงจากซีรี่ย์เกมป่วยดาบขวัญใจสาวๆของค่าย Nitroplus กับ DMM Games สามารถเปิดตัวสุดสัปดาห์แรก ด้วยการเข้ามาในอันดับ 5 บน Box Office ญี่ปุ่น นับตั้งแต่ออกฉายวันแรกเมื่อ 18 ม.ค. 2019

ขณะที่ Fate/stay night: Heaven's Feel II. lost butterfly หนังอนิเมบทที่ 2 ของ Fate/stay night: Heaven's Feel ก็ร่วงลงจากอันดับ 1 เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า สู่อันดับ 3 ในสัปดาห์ล่าสุด ถึงกระนั้น ตัวหนังสามารถทำรายได้ทะลุ 1 พันล้านเยน จากการออกฉายบนโรงเพียง 12 วัน นับตั้งแต่เข้าฉายบนโรงที่ญี่ปุ่นวันแรก เมื่อ 12 ม.ค. 2019

ส่วน Dragon Ball Super:Broly ที่ออกฉายบนโรงที่ญี่ปุ่นเมื่อ 14 ธ.ค. 2018 สามารถทำรายได้จากการออกฉายรวมกัน 3.7 พันล้านเยน จากยอดจำหน่ายตั๋ว 2.9 ใบ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่ตัวหนังจะทุบสถิติรายได้สูงสุดของหนังอนิเม Dragon Ball ทุกภาค แทนที่ Dragon Ball Z: Resurrection 'F ' ที่เคยทำไว้ 3.74 พันล้านเยน เมื่อปี 2015

ขณะเดียวกัน Love Live! Sunshine!! The School Idol Movie Over The Rainbow ที่เข้าฉายบนโรงที่ญี่ปุ่น เป็นสัปดาห์ที่ 3 ก็ขยับอันดับขึ้นไปอีก 1 ขั้น ณ อันดับ 7 โดยขณะนี้ตัวหนังสามารถทำรายได้รวมกันมากกว่า 442,975,476 เยน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น้อยกว่าครึ่งนึงของรายได้ในช่วง 9 วันแรกของ Love Live! The School Idol Movie เมื่อปี 2015 เสียอีก


อันดับหนัง Box Office ญี่ปุ่น (19-20 ม.ค. 2019)
(วัดอันดับจากยอดขายตั๋ว)

1 (new). "Masquerade Hotel"

2 (2). "Bohemian Rhapsody"

3 (1). "Fate/stay night: Heaven's Feel II. lost butterfly"

4 (3). "Ralph Breaks the Internet"

5 (new). "Touken Ranbu: The Movie"

6 (4). "Dragon Ball Super: Broly"

7 (8). "Love Live! Sunshine!! The School Idol Movie Over the Rainbow"

8 (new). "Taxi 5"

9 (5). "Konna Yofuke ni Banana kayo Kanashiki Jitsuwa"

10 (10). "Kamen Rider Heisei Generations FOREVER"

แหล่งข่าว : eiga.com , crunchyroll.com


 

จะออกมาเป็นไง!?....เมื่อ Joshi Kausei มังงะปราศจากประโยคพูด ได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเม

Joshi Kausei ผลงานมังงะแนวชีวิตประจำวันของเด็กสาวม.ปลาย ของ อ.Ken Wakai ที่ได้นำเสนอความแนว ด้วยการเน้นนำเสนอภาพเพียวๆ ไม่มีกรอบคำพูดใดๆ (ยกเว้น เสียงเอฟเฟ็ค) ได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเมทีวีแล้ว มีกำหนดออกฉายในเดือน เม.ย. 2019 .......ที่น่าสนใจก็คือ แม้ว่า ต้นฉบับมังงะเรื่องนี้ จะเน้นความเงียบสงบ แต่ในฉบับอนิเมของเรื่องนี้ กลับมีการใช้บริการนักพากย์ มาพากย์เสียงตัวเอกหลักทั้ง 3 คน ประกอบด้วย Rika Tachibana (Momoko Futo) , Tomomi Mineuchi (Shibumi Shibusawa) และ Yurika Kubo (Mayumi Koi)

Noriyoshi Sasaki ผกก.จาก Holmes of Kyoto จะรับหน้าที่เป็น ผกก.และคนเขียนบทให้กับอนิเมชุดนี้ ผลิตโดย EAST FISH STUDIO, โดยมี Kyohei Yamamoto episode animation director จาก Anima Yell! รับหน้าที่ออกแบบตัวละคร

Joshi Kausei ลงเผยแพร่บนเว็บไซต์ Web Comic Action ของ สนพ. Futabasha ตั้งแต่ ก.ย. 2013 เป็นต้นมา ปัจจุบัน ออกวางขายฉบับรวมเล่มถึง เล่มที่ 8 แล้ว ในญี่ปุ่น โดยเป็นเรื่องราวชีวิตประจำวันของสาวๆ ม.ปลายทั้ง 3 คน ประกอบด้วย Momoko สาวสวยผู้อับโชค , Shibumi สาวขรึมผู้เยือกเย็น และ Mayumi สาวผู้ไร้เดียงสา

แหล่งข่าวและรูปภาพ : crunchyroll.com 


ผู้จัด Comiket ประกาศกร้าว "ไม่ใช่สถานที่สำหรับ Hate Speech" หลังพบสติ๊กเกอร์ต่อต้านชาวจีนและเกาหลี บนเซอร์เคิ่ลโดจินชิ

งาน Comic Market (Comiket) 95 ที่เพิ่งผ่านพ้นไปไม่นาน ก็มีประเด็นปลีกย่อยเกิดขึ้นมามากมาย นอกจากเรื่องของความกังวลในหมู่ของผู้จัดทำ-จำหน่าย โดจินชิ ในงาน หลังกฎหมายลิขสิทธิ์ของเขตการค้าเสรีภูมิภาคแปซิฟิก (Trans-Pacific Partnership / TPP) มีผลบังคับใช้ในญี่ปุ่น เมื่อ 31 ธ.ค. 2018 แล้ว ล่าสุด ก็ถึงคราวผู้จัดงานได้ปวดหัวเพิ่มเติม เมื่อพบว่า มีเซอร์เคิ่ล หรือ บูธ จัดจำหน่ายโดจินชิ บางเจ้า ได้แปะสติ๊กเกอร์ที่มีข้อความเชิงต่อต้านชาวจีนกับชาวเกาหลี ไม่ให้มาเข้ามายุ่งเกี่ยวที่บูธพวกเขา และจากสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เอง ทำให้ทางผู้จัดงานออกมาประกาศว่า งาน Comiket "ไม่ใช่สถานที่สำหรับ Hate Speech" หรือ การพูดปราศรัยในเชิงสร้างความเกลียดชัง

เรื่องราวดังกล่าว ได้มีการรายงานครั้งแรกจากผู้ใช้ twitter หลายราย เมื่อ 31 ธ.ค. 2018 แม้ว่าจะไม่มีการแชร์ภาพถ่ายไปทั่ว แต่ก็มีผู้ใช้ twitter รายหนึ่ง อ้างว่า เซอร์เคิ่ลเจ้าปัญหานี้ ตั้งอยู่ที่บริเวณหอประชุมฝั่งตะวันออกใก้ลแถวที่ l46b

หลังจากผู้จัดได้รับรายงานถึงดังกล่าว พวกเขาก็เผยว่า ไม่ได้รับรู้ถึงสติ๊กเกอร์ปัญหานี้ ในช่วงที่งาน Comiket กำลังจัดอยู่ ซึ่งรายงานยังระบุอีกว่า ผู้กระทำผิดในเคสนี้ แม้จะไม่ได้ทำผิดกฎหมายญี่ปุ่น แต่เซอร์เคิ่ลที่ติดสติ๊กเกอร์ดังกล่าว ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ความรับผิดชอบของ Comiket ใดๆ อย่างไรก็ตาม หลังจากมีการพิจารณาแล้ว ทางคณะกรรมการได้ข้อสรุปว่า พวกเขาจะไม่ยอมให้มีการเลือกปฏิบัติใด ๆ ใน "พื้นที่จัดงาน" นั่นคือ Comiket หากมีสถานการณ์ที่คล้ายกันเกิดขึ้นอีกครั้ง ทางคณะกรรมการจะดำเนินการโดยทันที

เมื่อปี 2016 ทางสภาไดเอทของญี่ปุ่น ได้ออกกฎหมายว่าด้วยการปราศรัยในเชิงสร้างความเกลียดชัง เพื่อให้สอดคล้องกับ "อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติทุกรูปแบบ" ของสหประชาชาติ อย่างไรก็ตาม กฎหมายไม่ได้มีบทลงโทษสำหรับผู้กระทำความผิดในข้อหา Hate Speech แต่อย่างใด

แหล่งข่าว : Comic Market , Otakomu , animenewsnetwork


เสริมสร้างภาพลักษณ์ดีต่อชาวโลก.......ร้านสะดวกซื้อญี่ปุ่น ร่วมใจ วาง "นิตยสารผู้ใหญ่" ออกจากร้าน

ร้านค้าสะดวกซื้อชั้นนำของญี่ปุ่น ทั้ง 7-Eleven, Lawson รวมถึง FamilyMart ได้พร้อมใจกัน เตรียมจะหยุดวางจำหน่ายนิตยสารผู้ใหญ่ในร้าน ตั้งแต่ฤดูร้อน 2019 นี้ เป็นต้นไป ...ซึ่งเหตุผลหลักๆที่พวกเขาตัดสินใจหยุดขายนิตยสารแนวผู้ใหญ่ในร้านสะดวกซื้อ ก็เพื่อเป็นเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาชาวโลก รับมหกรรมกีฬาโอลิมปิค 2020 ที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพนั่นเอง อีกทั้งยังเป็นการจัดการร้านเพื่อดึงดูดลูกค้าผู้หญิงและเด็กๆ ให้มากขึ้น ซึ่งกลุ่มผู้หญิงนั้น จัดเป็นกลุ่มลูกค้าสำคัญของร้านสะดวกซื้อ ราว 50% ด้วยกัน

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการระบุว่า ทางร้านค้าจะหยุดการจัดเก็บนิตยสารการ์ตูนสำหรับผู้ใหญ่ และ จะจัดให้อยู่ในหมวด seijin-muke zasshi (นิตยสารสำหรับผู้ใหญ่) หรือไม่ แต่ทางร้านกำลังใช้คำจำกัดความเกี่ยวกับนิตยสารสำหรับผู้ใหญ่ ตามมาตรฐานความสมัครใจของผู้เผยแพร่โฆษณาในเครือของ 7-Eleven โดยการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น จะมีผลต่อร้านจำนวนราว 20,000 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งทาง 7-Eleven ได้แจ้งถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นต่อสนพ.ต่างๆแล้ว เมื่อ 21 ม.ค. 2019

นิตยสารผู้ใหญ่ มียอดขายตามร้านสะดวกซื้อน้อยกว่า 1% เท่านั้น ซึ่งขึ้นอยู่กับสาขาของร้านบางแห่งว่า จะหยุดสต๊อกนิตยสารจริง ๆ หรือไม่ แต่สิ่งพิมพ์แนวผู้ใหญ่จะไม่ได้รับการแนะนำจากสำนักงานใหญ่ของร้านสะดวกซื้อแต่ละแห่งอีกต่อไป คาดว่า ร้านค้าเกือบทั้งหมดจะหยุดจัดจำหน่ายนิตยสารประเภทนี้ ภายในเดือน ส.ค. 2019

 

แหล่งข่าว : Nikkei , Yaraon , animenewsnetwork


"เมื่อวานเจ๊ทานอะไร?" อิ่มอร่อยกัน ในรูปแบบละครทีวี

มีรายงานว่า ผลงานมังงะของ อ.Fumi Yoshinaga (Antique Bakery, Ooku: The Inner Chambers) ชุด Kinou Nani Tabeta? หรือ เมื่อวานเจ๊ทานอะไร? กำลังจะได้รับการดัดแปลงเป็นละครคนแสดง ออกฉายทางช่อง TV Tokyo ช่วงรายการ Drama 24 ในเดือน เม.ย. 2019

เมื่อวานเจ๊ทานอะไร? ผลงานมังงะแนวทำอาหารผสมชูรสไปกับความรักแบบชาวสีม่วง ของ อ.Yoshinaga เรื่องนี้ ตีพิมพ์ประจำในนิตยสาร Morning ตั้งแต่ปี 2007 ปัจจุบันออกวางขายฉบับมังงะรวมเล่มถึง เล่มที่ 14 แล้วในญี่ปุ่น และมียอดตีพิมพ์มากกว่า 5 ล้านเล่ม ด้วยกัน .... เป็นเรื่องราวของ Shiro Kakei ทนายความหนุ่ม ผู้ซึ่งมาสวมรอยเป็นพ่อครัวในยามค่ำคืน ซึ่งเขาอาศัยอยู่ร่วมชายคากับ Kenji Yabuki คู่ขาของเขา ซึ่งเป็น ช่างตัดผม ในขณะที่ทั้งคู่กำลังใช้ชีวิตตามแบบฉบับของชาวเกย์สมัยใหม่ Kenji มักจะจัดอาหารมืออร่อยให้ Shiro ได้ลิ้มรสทุกตอน

ในส่วนนักแสดง ได้ Hidetoshi Nishijima (Kiro Honjo จาก The Wind Rises) นักแสดงหนุ่มใหญ่วัย 47 ปี มารับบทเป็น Shiro, ขณะที่ Seiyou Uchino (Alan Smithee จาก Lupin the Third vs. Detective Conan: The Movie) นักแสดงหนุ่มใหญ่วัย 50 ปี รับบทเป็น Kenji ขณะที่ อ. Yoshinaga ผู้แต่งมังงะเรื่องนี้ กล่าวถึงตัวนักแสดงในเรื่องว่า "ทั้งคู่เนี่ย ใช่เลย ตามที่ชั้นคิดไว้ นับตั้งแต่ที่เรื่องนี้ได้ถูกจัดทำในแบบคนแสดง ก็คงไม่จำเป็นที่จะต้องจับตาอย่างใกล้ชิดแบบนี้....ชั้นรู้สึกเซอร์ไพรส์มากๆ ชั้นนี่เฝ้ารอติดตามชมเลย!"

แหล่งข่าวและทวีต :   crunchyroll.com


Rumiko Takahashi คว้ารางวัลชนะเลิศ จากงานเทศกาลการ์ตูนนานาชาติ Angoulême ครั้งที่ 46

อ.Rumiko Takahashi นักเขียนมังงะคนดัง เจ้าของผลงานเรื่อง Maison Ikkoku, Ranma 1/2, Urusei Yatsura , InuYasha และ RIN-NE กลายเป็นนักเขียนการ์ตูนชาวญี่ปุ่นรายล่าสุด ที่สามารถคว้ารางวัลใหญ่จากเวทีต่างประเทศได้ กับ รางวัลชนะเลิศ จากงานเทศกาลการ์ตูนนานาชาติ Angoulême ครั้งที่ 46 ที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อ 23 ม.ค. 2019 โดยรางวัลดังกล่าว จัดเป็นรางวัลใหญ่ที่สุดของงาน ซึ่งมอบให้เป็นเกียรติสำหรับความสำเร็จในอาชีพนักเขียนการ์ตูน โดยสามารถเอาชนะคู่แข่งหลัก 2 คน ประกอบด้วย , Chris Ware และ Emmanuel Guibert

ก่อนหน้านี้ มีนักเขียนการ์ตูนชาวญี่ปุ่น เคยคว้ารางวัลใหญ่ของงานดังกล่าวได้ นั่นคือ อ.Katsuhiro Otomo (Akira) เมื่อปี 2015


แหล่งข่าว :   Comics Beat , crunchyroll.com


"Hi no Tori วิหคเพลิง" บินไปกับภาคต่อ ในรูปแบบนิยาย

ข่าวดีของบรรดาคนที่ชื่นชอบผลงานของ อ.Osamu Tezuka เมื่อ นสพ. Asahi ได้รายงานว่า Hi no Tori วิหคเพลิง หนึ่งในผลงานการ์ตูนสุดคลาสสิคของ อ.Tezuka กำลังจะมีการเขียนภาคต่อในรูปแบบนิยาย ที่มีชื่อชุดว่า Shōsetsu Hi no Tori Daichi-hen โดยจะยึดเอาเค้าโครงเรื่องเดิมที่ อ.Tezuka เคยเขียนไว้ มาต่อยอดเขียนเป็นนิยายชุดนี้ โดยได้ Kazuki Sakuraba (Gosick, Fusé: Memoirs of a Huntress) นักเขียนดีกรีรางวัล Naoki Prize มารับหน้าที่แต่งเรื่อง ขณะที่ Seitarō Kuroda รับหน้าที่วาดภาพประกอบ มีกำหนดตีพิมพ์ลงในนสพ. Asahi เป็นประจำทุกเสาร์ ในเดือน เม.ย. 2019

นิยายชุดนี้ เป็นเรื่องราวเกิดขึ้นในช่วงสงครามระหว่างจีน-ญี่ปุ่น โดยเริ่มต้นเรื่องราว ณ ทะเลทราย Taklamakan อันเคว้งคว้างไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่ง อ.Tezuka ได้เขียนโครงเรื่องต้นฉบับเอาไว้จำนวน 2 หน้ากระดาษที่อัดแน่นไปด้วยตัวอักษรญี่ปุ่น 400 ตัว ซึ่งต้นฉบับดังกล่าวจัดเก็บเอาไว้ที่ห้องเก็บของในออฟฟิศของ Tezuka Production โดยจากข้อมูลของ Hajime Tanaka หนึ่งในทีมงานของ Tezuka Production ได้ระบุว่า อ. Tezuka เขียนต้นฉบับนี้เมื่อปี 1988 หลังจากได้รับข้อเสนอให้มีการจัดทำ Hi no Tori ในรูปแบบละครเพลง และจากการที่โปรเจ็คละครเพลงอยู่ในระหว่างการจัดทำในอนาคต ทำให้ อ.Tezuka ตัดสินใจหยุดเขียนเรื่องนี้ และหันไปเขียนอีกเรื่องนึงแทน

อ.Tezuka เริ่มเขียน Hi no Tori ในบท "รุ่งอรุณ" ลงในนิตยสาร Manga Shonen ช่วงปี 1954-55 แต่ไม่สามารถเขียนจบ เนื่องจาก นิตยสารหยุดตีพิมพ์เสียก่อน ก่อนที่มังงะ 3 บทที่เหลือ (Egypt, Greece, and Rome) ปรากฏในนิตยสาร Shojo Club เมื่อปี 1956 แต่ไม่สามารถเขียนจบได้เช่นกัน จนกระทั่ง อ.Tezuka กลับมาเขียนบทรุ่งอรุณต่อ (โดยมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางส่วน) ในนิตยสาร COM เมื่อปี 1967 ซึ่งมังงะดังกล่าวถือเป็นบทนำร่องของเรื่องนี้ ที่มีการเขียนเรื่องราวต่ออีกหลายบท นำเสนอเรื่องราวหลากหลายยุคสมัย จนกระทั่งถึงบท "พระอาทิตย์" เมื่อปี 1988 ซึ่งเป็นเวลา 1 ปี ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต

มังงะเรื่องนี้ ถูกดัดแปลงเป็นหนังอนิเมและ OVA จำนวนหนึ่ง ช่วงปี 1978-87 รวมถึง อนิเมทีวี เมื่อปี 2004

แหล่งข่าวและรูปภาพ : Asahi Shimbum , animenewsnetwork



Toei ปัดข่าว ตอนใหม่ของ Dragon Ball Super

เป็นข่าวที่ทำเอาแฟนๆ Dragon Ball ทั่วโลก พากันหลงดีใจ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อเว็บไซต์ WorldScreen ได้รายงานข่าว โดยอ้างว่า Toei เตรียมจะทำอนิเมตอนใหม่ของ Dragon Ball Super เพิ่มเติม ....อย่างไรก็ตาม หลังจากข่าวนี้เผยแพร่ออกไปไม่นาน ทาง Toei Animation ได้ออกมาปฏิเสธข่าวนี้ทันควัน โดยกล่าวว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริงในช่วงเวลานี้ ซึ่งทาง WorldScreen พอได้รับการทักท้วงจาก Toei ปุ๊บ พวกเขาก็ได้แก้ข่าวทันที โดยกล่าวว่า ทาง Toei ยังไม่มีแผนการทำอนิเมตอนใหม่ของ Dragon Ball Super แต่อย่างใด ในช่วงเวลานี้

Dragon Ball Super ออกฉายครั้งแรกที่ญี่ปุ่น ทางช่อง Fuji TV และช่องเครือข่าย ช่วง ก.ค. 2015 จนถึง มี.ค. 2018 ต่อมามีหนังอนิเมชุด Dragon Ball Super: Broly ซึ่งเป็นหนังอนิเม Dragon Ball เรื่องแรก ที่มาภายใต้ชื่อ Dragon Ball Super ออกฉายที่ญี่ปุ่น ตั้งแต่ 14 ธ.ค. 2018 เป็นต้นมา

แหล่งข่าว :  I Miss Bionix , animenewsnetwork



 ไลท์โนเวล Infinite Dendrogram ประกาศทำเป็นอนิเมทีวี

Infinite Dendrogram ผลงานไลท์โนเวลแนวแฟนตาซีของ Sakon Kaidou (เนื้อเรื่อง) กับ Taiki (ภาพ) กำลังจะถูกดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี ซึ่งโปรเจ็คอนิเมทีวีของเรื่องนี้ จัดเป็นส่วนหนึ่งของการฉองครบรอบ 50 ปีของ Hobby Japan ต้นสังกัดของไลท์โนเวล เรื่องนี้

ไลท์โนเวลเรื่องนี้ เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น ในปี 2043 เมื่อ Infinite Dendrogram เกมแนว VRMMO เต็มรูปแบบ ได้เปิดให้เล่นอย่างเป็นทางการ ซึ่งเกมดังกล่าวมีความสามารถในการจำลองประสาทสัมผัสทั้งห้าอย่างสมบูรณ์แบบ ไปพร้อมๆกับฟีเจอร์น่าทึ่งมากมายเสร็จสรรพ รวมถึงตัวเกมยังนำเสนอให้ผู้เล่นได้ประสบกับความเป็นไปได้ต่างๆอย่างไม่จำกัด จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบ 2 ปี Reiji Mukudori ชายหนุ่มผู้กำลังจะเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ได้ซื้อแผ่นเกมนี้มาเล่น และจากความช่วยเหลือของ Shuu พี่ชายของเขา กับ Embryo คู่หูของเขา ทำให้เขาสามารถเข้าไปผจญภัยในโลกของ Infinite Dendrogram ได้สำเร็จ โดยเขาจะสามารถค้นพบความสมจริงอันน่าทึ่งบนโลกเกมนี้ รวมไปถึง ความเป็นไปได้ต่างๆที่เกิดขึ้นในเกมนี้ ล้วนแล้วแต่ไม่มีที่สิ้นสุดสมชื่อ หรือไม่?

ตัวละคร-นักพากย์
Ray Starling (Reiji Mukudori): Souma Saitou (Rokka no Yuusha)
Nemesis: Yuuko Oono (Ulysses: Jehanne Darc to Renkin no Kishi)
Shu Starling: Satoshi Hino (Overlord)
Rook Holmes: Makoto Koichi (Nurse Witch Komugi-chan R)
Babylon: Yuuki Takada (Yagate Kimi ni Naru)
Hugo Lesseps: Ayumu Murase (D.Gray-man Hallow)
Cyco: Yui Ogura (Tsurezure Children)
Marie Adler: Yoko Hikasa (Hataraku Maou-sama!)

Kaidou เขียนนิยายชุดนี้ลงบนเว็บไซต์ Shousetsuka ni Narou เมื่อ ต.ค. 2015 ก่อนจะได้รับการจัดพิมพ์เป็นรูปเล่มโดย Hobby Japan (ซึ่งได้ Taiki มาเป็นผู้วาดภาพประกอบ) ในเวลาต่อมา โดยฉบับนิยายเล่ม 9 ของเรื่องนี้ กำลังจะวางขายที่ญี่ปุ่นในวันที่ 1 ก.พ. 2019 ปัจจุบัน ไลท์โนเวลเรื่องนี้มียอดขายรวมกัน 440,000 เล่ม และได้รับการจัดพิมพ์วางขายฉบับภาษาไทย โดย DEXPRESS รวมถึง คว้าอันดับ 3 ไลท์โนเวลน่าอ่าน จากหนังสือ Kono Light Novel ga Sugoi 2018

อีกทั้ง เรื่องนี้มีการเขียนในรูปแบบมังงะโดย Kami Imai (Needless) ลงบนเว็บไซต์ Comic Fire ในเดือน ธ.ค. 2016 และเพิ่งวางจำหน่ายฉบับรวมเล่ม 4 ไปเมื่อ 26 ม.ค. 2019

แหล่งข่าว : Otakomu  , crunchyroll.com



"คอนเสิร์ตแดง-ขาว" เวอร์ชั่นนักพากย์ เตรียมอุบัติขึ้นครั้งแรก

นอกจากเราจะได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการประชันเสียงร้องของนัร้องนักดนตรีญี่ปุ่น กันในรายการ NHK Kouhaku Utagassen หรือ คอนเสิร์ตแดง-ขาว กันทุกสิ้นปีแล้ว ที่ญี่ปุ่นก็กำลังจะผุดคอนเสิร์ตแดง-ขาว เวทีใหม่ล่าสุด ที่จะให้นักพากย์ระดับชั้นนำของญี่ปุ่นมาจัดทีมแข่งกันโดยเฉพาะ กับ Seiyu Kouhaku Utagassen 2019 ที่มีกำหนดจัดขึ้น ณ Maihama Amphitheater เมือง อุรายาสุ จ.จิบะ ในวันที่ 14 เม.ย. 2019 เวลา 17.30 น. โดยสนนราคาตั๋วเข้าชมคอนเสิร์ต 9,500 เยน

โดยนักพากย์ญี่ปุ่น ที่มีการยืนยันว่าจะร่วมลงศึกประลองเพลงครั้งนี้ ประกอบด้วย:

ทีมแดง (นักพากย์หญิง) :
Kikuko Inoue, Honoka Inoue, Junko Iwao, Hiroko Kasahara, Mikako Komatsu, Shoko Nakagawa, Chisa Yokoyama ฯลฯ

ทีมขาว (นักพากย์ชาย) :
Naoya Uchida, Akio Ōtsuka, Tomokazu Seki, Shunsuke Takeuchi, Toshiyuki Toyonaga, Kenyu Horiuchi ฯลฯ

แหล่งข่าว :  OtasukeSeiyu Kouhaku Utagassen   , crunchyroll.com



Yoshiyuki Tomino แสดงความเห็นถึงหนังไตรภาคของ Gundam: Hathaway's Flash

Yoshiyuki Tomino บิดาผู้ให้กำเนิดซีรี่ย์ Gundam ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับ Mobile Suit Gundam: Hathaway's Flash ผลงานนิยายของเขาที่ได้รับการดัดแปลงเป็นหนังอนิเมไตรภาค

"เป็นเวลา 30 ปี หลังจากที่ผมเขียนนิยายชุดนี้ ในที่สุดก็ได้รับการดัดแปลงเป็นหนัง ในฐานะที่ผมเป็นผู้แต่ง ผมรู้สึกมีความสุขมากๆ"

Tomino ยังได้อธิบายถึงธีมหลักของนิยายชุดนี้ ซึ่งก็คือ "การตัดสินใจอะไร ที่จำเป็นสำหรับสังคมสมัยใหม่?" เพราะว่า เวลามันผ่านไปนานพอสมควร นับตั้งแต่ตีพิมพ์ครั้งแรก เขาได้อ่านผลงานของเขาอีกครั้ง และพบว่าตัวเองรู้สึกแปลกใจที่ "โลกแห่งความจริงยังไม่คืบหน้าและอาจจะถดถอยไป เพราะแฟน ๆ ของ Gundam ที่มอบโอกาสให้ได้เรื่องราวของเรื่องนี้กลับมาอีกครั้ง ซึ่งธีมของมัน สามารถทะลุผ่านสังคมในทุกวันนี้ได้"

Tomino ได้เน้นย้ำถึงความปรารถนาของเขา ที่ ข้อความเกี่ยวกับความคาดหวังต่างๆในเรื่อง สามารถส่งผ่านไปยังคนรุ่นต่อไป ที่จะกลายเป็นผู้ริเริ่มในอนาคต เขารำพึงว่าบางทีแฟน ๆ ที่โตมากับ Gundam ต่างตระหนักว่า พวกเขาไม่สามารถฝ่าฟันความถดถอยและความรู้สึกสิ้นหวังในโลกแห่งความเป็นจริง เลยต้องส่งต่อให้แก่คนรุ่นหลัง

เขาจึงสรุปว่า "ทีมงานโปรดักชั่นต่างเป็นคนรุ่นใหม่ และผู้ชมนั้น ต่างก็เป็นหนุ่มสาวอายุน้อยยิ่งกว่า ผมเชื่อว่า คนรุ่นใหม่ๆนี้ ซักวันหนึ่ง จะสามารถปูทางไปสู่ปฏิรูปเหล่ามนุษย์ชาติ เพื่อ Newtype ได้"

หนังอนิเมไตรภาค Mobile Suit Gundam: Hathaway's Flash จัดเป็นโปรเจ็คที่ 2 ของ "UC NexT 0100 Project" ที่นำเสนอเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอนาคต ในช่วงไทมไลน์ UC ซึ่งโปรเจ็คแรกของ UC NexT 0100 ก็คือ หนังอนิเม Mobile Suit Gundam Narrative (Kidō Senshi Gundam NT) โดย Yoshiyuki Tomino เป็นผู้เขียนฉบบับนิยายทั้ง 3 เล่มของ Mobile Suit Gundam: Hathaway's Flash ช่วงปี 1989-1990 ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น ณ ศักราช UC0105 นำเสนอผ่าน Hathaway Noa บุตรชายของ Bright Noa ผู้ซึ่งเคยปรากฏตัวในหนังอนิเม Mobile Suit Gundam: Char's Counterattack โดยจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังต่อจากตอนจบของ Char's Counterattack


แหล่งข่าว :Comic Natalie ,  animenewsnetwork



ชัวร์หรือมั่วนิ่ม.......Yamakan เปรย เตรียมลาวงการอนิเม (อีกครั้ง)

Yutaka "Yamakan" Yamamoto ผกก.อนิเมปากจัด เกรียนคีย์บอร์ด จาก Kannagi , Wake Up, Girls! ได้ออกมาระบายเรื่องส่วนตัวบนบลอกตัวเองอีกครา เมื่อ 23 ม.ค. 2019 โดยมีใจความว่า เขากำลังพิจารณาที่จะอำลาวงการอนิเม ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 5 แล้ว ที่ Yamakan ได้ประกาศทำนองนี้ออกไป แต่เขาก็ยอมรับว่า มันมีเหตุปัจจัยอื่นๆที่ทำให้เขาไม่สามารถลาวงการได้ ตามที่ตนเคยลั่นไว้ก่อนหน้านี้

Yamakan ได้อธิบายต่อว่า ในหมู่สต๊าฟในวงการอนิเม ก็มีคนที่ดีๆเหมาะสมเพียงน้อยนิด แต่สำหรับแฟนๆนั้น กลับแย่มาก และมีแนวโน้มที่จะเลวร้ายลงทุกปี เขาเสริมว่า เขาไม่อยากให้ใครต่อใครมาหยุดยั้งเขาจากการออกจากงาน นอกเสียจากว่า พวกเขาพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงวงการอย่างสมบูรณ์ ซึ่งเขาอธิบายว่า มีแต่พวก "คนบ้า" เต็มไปหมดเลย

Yamakan ได้ทิ้งท้ายไว้ในโพสต์ของเขา "ที่นั่น มันไม่มีเหตุผลที่จะใชีชีวิตต่อ นอกจาก การที่ชั้นกลืนยาเข้าไป" และเขาต้องการที่จะลาออกจากการทำอนิเม ก่อนที่เขาจะเป็นบ้าไปมากกว่านี้

นับตั้งแต่โพสต์ที่เกี่ยวข้องกับการลาวงการ Yamakan ก็ยังได้อัพเดทบลอกส่วนตัวอย่างต่อเนื่อง โดยใจความส่วนใหญ่มาในเชิงต่อต้าน พวกโอตาคุสาย hater และ วิธีการที่เขารับรู้ว่า พวกโอตาคุกลุ่มนี้จะทำลายอนิเม , ความเลวร้ายของ 2channel, Twitter, LINE และแอพโซเชียลมีเดียอื่น ๆ นอกจากนี้ เขายังได้อัพเดทเกี่ยวกับภาพยนตร์อนิเมเรื่อง Twilight เพื่อให้แฟนๆรู้ว่า มันไม่ใช่ภาพยนตร์สำหรับโอตาคุ และมีสโลแกนของมันคือ "การปฏิเสธโอตาคุ" เขาเสริมในโพสต์ว่า พวก"นักวิจารณ์เลวทราม" ถูกแบนจากภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งเขาได้พาดพิงถึงนักวิจารณ์ทั้ง 4 คน ที่วิจารณ์หนังเขาอย่างเสียๆหายๆว่า หากพวกเขาพยายามจะชมหนัง เขาจะใช้ "ตัวชี้วัดทางกายภาพ" เป็นหลัก เพื่อป้องกันพวกเขา หรือ ใช้มาตรการทางกฎหมาย หากพวกเขาสามารถรับชมหนังได้สำเร็จ

Yamakan นั้น ขึ้นชื่อว่าเป็นคนวงการอนิเม ที่ชอบออกมาวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่น (โดยเฉพาะพวกโอตาคุ) อย่างรุนแรง ไม่ไว้หน้าใคร จนเกิดดราม่ายิบย่อยต่างๆตามมา ส่งผลให้บัญชี twitter ส่วนตัว รวมถึงบัญชี twitter ของ Twilight Studio สตูดิโอของเขา ถูกแบนไป เมื่อปี 2018

แหล่งข่าว :   Yutaka Yamamoto's blog , Hachima Kikō , animenewsnetwork

 


ผู้แต่ง "หน้ากากแก้ว" เผยมุมมองที่มีต่อ นักอ่านฉบับภาษาอังกฤษ

มาถึงข่าวคราวเกี่ยวกับซีรี่ย์การ์ตูนที่ไม่รู้ว่าจะได้เห็นตอนจบกันในปี พ.ศ. ไหน สำหรับ หน้ากากแก้ว ...ล่าสุด อ.Suzue Miuchi ผู้แต่งมังงะเรื่องนี้ ได้ร่วมพูดคุย ณ งานอีเว้นต์หนึ่งที่ คิจิโจจิ เมื่อ 7 ธ.ค. 2019 และเมื่อเธอถูกซักถามถึงความรู้สึกเกี่ยวกับความนิยมของการ์ตูนเรื่องนี้ในต่างประเทศ ซึ่งเล่นเอา อ.Miuchi ถึงกับสับสนไปเลย

"ชั้นไม่เคยเซ็นสัญญาอนุญาตให้จัดทำเรื่องนี้ในภาษาอังกฤษเลยนะ" เธอตอบกลับ "แสดงว่า ใครที่อ่าน หน้ากากแก้ว ในแบบภาษาอังกฤษ จะต้องอ่านแบบเวอร์ชั่นไม่มีลิขสิทธิ์ สินะ"

“ชั้นได้รับคำถามมากมายจากสื่อต่างประเทศ แต่ชั้นพบว่ามันยากที่จะตอบพวกเขา เพราะพวกเขารู้จักผลงานของชั้นจากการอ่านฉบับเถื่อน มันทำให้ชั้นรู้สึกสับสนน่ะ”

จากนั้น เธอได้หยิบยกกรณีที่เธอได้พูดคุยกับแฟนต่างชาติกลุ่มหนึ่ง ผู้ซึ่งอ้างว่า ได้อ่าน หน้ากากแก้ว เป็นภาษาญี่ปุ่น เพื่อศึกษาภาษาโดยเฉพาะ แต่พวกเขาดันบอกเธอว่า พวกเขาได้อ่านมังงะเวอร์ชั่น "ดิจิตอล" ซึ่งในขณะนั้น ยังไม่มีการจัดทำมังงะเวอร์ชั่นดิจิตอลอย่างเป็นทางการใดๆ

อ.Miuchi ยังได้พูดถึง หน้ากากแก้วฉบับแปลภาษาอิตาเลียน รวมถึงเรื่องนี้ยังมีการวางจำหน่ายในหลายประเทศในเอเชีย ดังนั้นความสงสัยของเธอ จึงไม่มีผลกับแฟน ๆ ทุกคน แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศที่เข้าใจได้ง่าย ก็เลยทำให้แฟนๆ ชาวต่างประเทศหลายคน ต่างก็ใช้มันเพื่ออ่าน หน้ากากแก้ว โดยเฉพาะ

อย่างไรก็ตาม อ.Miuchi รู้สึกปลื้มใจที่ผลงานของเธอสามารถอยู่เหนือกว่าพรมแดนได้ "มันทำให้ ชั้นอยากจะสร้างสรรค์ผลงานที่น่าสนใจต่อไป” เธอกล่าว

แม้ว่า มังงะหน้ากากแก้วจะไม่เคยตีพิมพ์ในฉบับภาษาอังกฤษอย่างเป็นทางการ แต่ฉบับอนิเมออริจินอลของเรื่องนี้ ได้ออกฉายสตรีมออนไลน์ไปยังแถบประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก รวมถึง ละตินอเมริกา โดย HIDIVE ภายใต้ชื่อ Glass Mask 1984 อีกทั้ง หน้ากากแก้ว ถูกนำไปดัดแปลงเป็นอนิเมฉบับรีเมค ออกฉายช่วงปี 2005-2006 , ละครคนแสดง 2 ชุด และ OVA

นอกจากนี้ อ.Miuchi ยังกล่าวว่า เธอกำลังทำงานหนักในการที่จะเคลียร์เรื่องราวของหน้ากากแก้วให้เสร็จสมบูรณ์ โดยก่อนหน้านี้ เมื่อ พ.ค. 2018 เธอได้เปิดเผยผ่าน twitter ส่วนตัวว่า เธอมีแผนจะเขียนหน้ากากแก้วต่อไปจนจบ ถึงแม้ว่า นิตยสาร Bessatsu Hana to Yume ต้นสังกัดของมังงะเรื่องนี้ จะหยุดตีพิมพ์ไปแล้วก็ตาม

แหล่งข่าว :  animenewsnetwork



ผลรางวัล Mainichi Film Awards ครั้งที่ 73

รางวัล Mainichi Film Awards ครั้งที่ 73 รางวัลที่มอบให้แก่วงการภาพยนตร์ญี่ปุ่น ที่จัดขึ้นโดย Mainichi Shimbun กับ Sports Nippon Shimbun 2 นสพ.รายใหญ่ของญี่ปุ่น ได้มีการประกาศผลแล้ว เมื่อ 23 ม.ค. 2019 ที่ผ่านมา ปรากฏว่า มีหนังอนิเม 2 เรื่อง ที่สามารถคว้ารางวัลกลับบ้านไปได้ ประกอบด้วย Wakaokami wa Shougakusei! ในสาขาหนังอนิเมชั่นยอดเยี่ยม และ Liz to Aoi Tori ในสาขา Noburou Oofuji award ที่มอบให้แก่ผลงานหนังที่แสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์มากที่สุด

Wakaokami wa Shougakusei! ดัดแปลงจากนิยายของ Hiroko Reijou กับ Asami ที่ได้ Madhouse กับ DLE ร่วมด้วยช่วยกันผลิต ภายใต้การกำกับของ Kitarou Kousaka ผกก.อนิเมชั่นจาก Howl no Ugoku Shiro ตัวหนังเข้าฉายครั้งแรกที่ญี่ปุ่น จำนวน 248 โรง เมื่อ 21 ก.ย. 2018 สามารถทำรายได้ทั้งสิ้นราว 3,566,060,100 yen เยน

ส่วน Liz to Aoi Tori หนึ่งในหนังอนิเมของ Hibike! Euphonium (Sound! Euphonium) เข้าฉายบนโรง จำนวน 73 แห่ง ในญี่ปุ่น สามารถทำรายได้จากการออกฉายช่วงสุดสัปดาห์แรก 53,573,900 เยน

แหล่งข่าวและรูปภาพ : Mantan Web , MAL


ผลรางวัล Shogakukan Manga Awards ครั้งที่ 64

คณะกรรมการ Shogakukan Manga Awards ได้ประกาศผลรางวัล Shogakukan Manga Awards ครั้งที่ 64 ออกมาแล้วในทุกสาขารางวัล

สาขามังงะทั่วไปยอดเยี่ยม
- Hibiki: Shousetsuka ni Naru Houhou โดย Mitsuharu Yanamoto
- Kenkou de Bunkateki na Saiteigendo no Seikatsu โดย Haruko Kashiwagi

สาขาการ์ตูนโชเน็น (วัยรุ่นชาย) ยอดเยี่ยม
Dr. Stone โดย Riichiro Inagaki & Boichi

สาขาการ์ตูนโชโจ (วัยรุ่นหญิง) ยอดเยี่ยม
Suteki na Kareshi โดย Kazune Kawahara

สาขาการ์ตูนเด็ก (วัยรุ่นชาย) ยอดเยี่ยม
12-sai. (12 Years) โดย Nao Maita

สนพ.Shogakukan ได้จัดตั้งรางวัลนี้ ตั้งแต่ปี 1956 เป็นต้นมา โดยเปิดโอกาสให้มังงะจากทุกสนพ.ในญี่ปุ่น มีโอกาสเข้าร่วมชิงชัย ในทุกสาขารางวัล โดยพิจารณาจากมังงะที่ออกวางขายในปีก่อนหน้าเป็นหลัก

แหล่งข่าว :   MAL



ลิสต์รายชื่อผู้เข้าชิงรางวัล Manga Taisho ครั้งที่ 12

คณะกรรมการตัดสินรางวัล Manga Taisho ครั้งที่ 12 ได้ประกาศรายชื่อผลงานการ์ตูน 13 เรื่อง ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลประจำปีนี้ ซึ่งมีทั้งหมด 13 เรื่อง ด้วยกัน

1122
โดย Peko Watanabe

Ikoku Nikki (Foreign Country Diary)
โดย Tomoko Yamashita

Astra Lost in Space (Kanata no Astra)
โดย Kenta Shinohara

Kengōji-san wa Mendōkusai (Kongōji-san is Annoying)
โดย Minoru Toyoda

Golden Gold
โดย Seita Horio

Sazan to Suisei no Shōjo (Sazan and the Comet Girl)
โดย Yuriko Akase

Delicious in Dungeon (Dungeon Meshi / สูตรลับตำรับดันเจี้ยน)
โดย Ryōko Kui

Nagi no Oitoma (Nagi's Long Vacation)
โดย Misato Konari

Hakumei & Mikochi - Tiny Little Life in the Woods (Hakumei to Mikochi)
โดย Takuto Kashiki

The Blue Period.
โดย Tsubasa Yamaguchi

Go with the Clouds, North by Northwest (Hokuhokusei ni Kumo to Ike)
โดย Aki Irie

Mystery to Iu Nakare (Do not say mystery)
โดย Rui Morita

Metamorphose no Engawa (The Balcony of Metamorphose)
โดย Kaori Tsurutani

ผู้เข้าชิงรางวัลดังกล่าวในแต่ละเรื่อง จะพิจารณามาจากบรรดาพนักงานร้านหนังสือผู้รับผิดชอบในส่วนของหนังสือการ์ตูนเป็นหลัก โดยแต่ละเรื่อง เป็นเรื่องที่ออกวางขายในปี 2018 และมีจำนวนฉบับรวมเล่มน้อยกว่าหรือเท่ากับ 8 เล่ม เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้กับซีรี่ย์มังงะน้องใหม่ ที่มีศักยภาพพอที่จะกลายเป็นเรื่องดังในอนาคต

โดยการโหวตรอบ 2 เพื่อตัดสินหาผู้ชนะเลิศ Manga Taisho 2019 จะมีพิธีประกาศผลช่วงปลาย มี.ค. 2019 หรือ ต้น เม.ย. 2019

รายนามมังงะชนะเลิศ Manga Taisho ครั้งที่ผ่านๆมา

2018 - BEASTARS โดย Paru Itagaki
2017 - Hibiki: Shōsetsuka ni Naru Hōhō โดย Mitsuharu Yanamoto
2016 - Golden Kamuy โดย Satoru Noda
2015 - Kakukaku Shikajika โดย Akiko Higashimura
2014 - A Bride's Story โดย Kaoru Mori
2013 - Umimachi Diary โดย Akimi Yoshida
2012 - Silver Spoon โดย Hiromu Arakawa
2011 - March comes in like a lion โดย Chika Umino
2010 - Thermae Romae โดย Mari Yamazaki
2009 - Chihayafuru โดย Yuki Suetsugu
2008 - Gaku - Minna no Yama โดย Shinichi Ishizuka

แหล่งข่าว : Manga Taisho , Oricon News , animenewsnetwork.com


10 อันดับ มังงะที่แฟนๆอยากเห็นในรูปแบบอนิเมมากที่สุด โดย goo ranking

goo ranking ได้สำรวจแฟนอนิเมญี่ปุ่นในหัวข้อ มังงะซีรี่ย์ที่พวกเขาอยากเห็นในรูปแบบอนิเมมากที่สุด ในช่วงวันที่ 1-15 ธ.ค. 2018 และจากความเห็นของแฟนๆผู้ตอบแบบสอบถาม จำนวน 3,240 คน ได้มังงะที่ได้รับการโหวตสูงสุด 10 อันดับแรก ดังนี้

10.) Moriarty the Patriot, written by Ryousuke Takeuchi, illustrated by Hikaru Miyoshi, and based on characters created by Sir Arthur Conan Doyle. (68 votes)

09.) Petals of Reincarnation, by Mikihisa Konishi. (69 votes)

08.) Delicious in Dungeon, by Ryoko Kui. (74 votes)

07.) Komi Can't Communicate, by Tomohito Oda. (84 votes)

06.) Yotsuba&!, by Kiyohiko Azuma. (112 votes)

05.) Sesuji o Pin! to - Shikakou Kyougi Dance-bu e Youkoso, by Takuma Yokota. (122 votes)

04.) Mobile Suit Crossbone Gundam, written by Yoshiyuki Tomino and illustrated by Yuichi Hasegawa. (160 votes)

03.) Uramichi Onisan, by Gaku Kuze. (177 votes)

02.) Bachi Bachi, by Takahiro Sato. (242 votes)

01.) Detective Conan Zero's Tea Time, by Takahiro Arai, based on characters created by Gosho Aoyama. (397 votes)

แหล่งข่าว :   Goo Ranking , crunchyroll.com

 


 

10 อันดับ มังงะ - ไลท์โนเวล ขายดีที่ญี่ปุ่น โดย Oricon : 14-20 ม.ค. 2019

มังงะ

(อันดับ / ยอดขายประจำสัปดาห์ / ยอดขายรวม / เรื่อง - เล่มที่)

*1. 338,843 *,338,843 Kingdom เล่ม 53
*2. 184,289 *,184,289 Nanatsu no Taizai ศึกตำนาน 7 อัศวิน เล่ม 35
*3. 101,851 *,101,851 Diamond no Ace / Ace of Diamond Act II เล่ม 15
*4. *88,587 *,*88,587 Skip Beat! เล่ม 43
*5. *81,746 *,*81,746 Kaguya-sama wa Kokurasetai: Tensai-tachi no Renai Zunousen เล่ม 13
*6. *76,997 *,404,387 Yakusoku no Neverland พันธสัญญาเนเวอร์แลนด์ เล่ม 12
*7. *68,925 *,*68,925 Bakemonogatari ปกรณัมของเหล่าภูต เล่ม 4
*8. *53,600 *,*71,113 Hakumei to Mikochi เล่ม 7
*9. *43,224 *,*43,224 Kanojo, Okarishimasu เล่ม 8
10. *41,974 *,*56,932 Hokuhokusei ni Kumo to Ike เล่ม 3

ไลท์โนเวล

(อันดับ / ยอดขายประจำสัปดาห์ / ยอดขายรวม / เรื่อง - เล่มที่)

*1. 21,802 *32,166 Dungeon ni Deai wo Motomeru no wa Machigatteiru Darou ka Gaiden: Sword Oratoria
                                    มันผิดหรือไง? ถ้าใจอยากจะพบรักในดันเจี้ยน : Sword Oratoria เล่ม 11
*2. *9,206 *26,435 Eromanga-sensei น้องสาวของผม เป็นอาจารย์เอโระมังงะ เล่ม 11
*3. *6,746 *30,634 Yakusoku no Neverland พันธสัญญาเนเวอร์แลนด์ : Mama-tachi no Tsuisoukyoku
*4. *6,153 **6,153 Sengoku Komachi Kuroutan เล่ม 10
*5. *5,583 207,054 Sword Art Online เล่ม 21
*6. *5,142 **5,142 Rokudenashi Majutsu Koushi to Memory Records เล่ม 4
*7. *4,992 *20,928 Kumo desu ga, Nani ka? เล่ม 10
*8. *4,973 **4,973 Ikinokori Renkinjutsushi wa Machi de Shizuka ni Kurashitai เล่ม 5
*9. *4,492 *13,967 Ookami to Koushinryou เล่ม 21
10. *4,484 **6,953 Tensai Ouji no Akaji Kokka Saiseijutsu เล่ม 3


แหล่งข่าว : Oricon , MAL


 
free hit counter javascript