บอกเล่าข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ - 3 มีนาคม 2562

บอกเล่าสรุปข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ กลับมาอีกครั้ง หลังห่างหายไป 1 อาทิตย์.......กลับมาอีกที อากาศบ้านเราก็เริ่มร้อนมากขึ้นๆ อันเป็นการต้อนรับเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ ถึงกระนั้น จิตใจของมนุษย์บางจำพวก ก็ดันร้อนตามสภาพอากาศ อันเป็นการบ่งชี้ว่า นับวันคนเราเอาแต่เห็นแก่ตัวกันมากขึ้น แทนที่จะคิดถึงส่วนรวม จากกรณีที่แก๊งงานบวชเข้าไปทำร้ายร่างกายครูและนักเรียนที่กำลังสอบอยู่ จากความไม่พอใจที่ถูกขอร้องไม่ให้ส่งเสียงดังรบกวนน้องๆนักเรียนที่กำลังทำข้อสอบ และจากเคสที่เกิดขึ้นนี้ บรรดาคนก่อเหตุควรจะคิดซักนิดว่า สิ่งที่ตัวเองก่อ ไม่เพียงจะสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นแล้ว ยังแปรเปลี่ยนงานบุญให้กลายเป็นงานบาปโดยไม่รู้ตัว (สงสัยคงได้แรงบันดาลใจจากเด็กโรงเรียนโฮเซ็น จากเรื่อง "อีกา" แหงๆ......แต่โทษทีเถิด โฮเซ็น เค้าจะมีเรื่องกับพวกนักเรียนนักเลงโรงเรียนอื่นๆ เค้าไม่ไปมีเรื่องกับพวกเด็กเรียน กับ คนนอก มั่วซั่ว เหมือนพวกเวงพวกนั้นหรอก)

สำนักข่าว K-D News (kartoon-discovery.com)
สามารถอัพเดทข่าวสารเว็บเราได้ผ่าน Twitter และ Facebook


หากนำข่าวจากเราไปเผยแพร่ที่อื่น รบกวนใส่เครดิตให้กับทางเราด้วยครับ ขอบคุณครับ

New Release Comics of the Week : ร้านคุณยูโกะ เปิดให้บริการอีกครั้ง กับ xxxHOLiC: Rei

การ์ตูนออกใหม่ สั้งลาเดือนเก่า ต้อนรับเดือนใหม่ เริ่มจาก xxxHOLiC: Rei เล่ม 1 กับเรื่องราวภาคต่อของ xxxHOLiC ที่ไม่มีใครคาดคิดว่า ยังจะมีต่ออีกหรือ? กับการกลับมาอีกครั้งของวาตานุกิ กับ คุณยูโกะ ที่เนื้อหานั้นก็ย้อนอดีตกันไปพอสมควร ส่วนใครที่ลืมเลือนเนื้อหาไปแล้ว ก็ไปทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในภาคแรกเสียใหม่นะ

ยอดนักปรุงโซมะ เล่ม 32 ขณะที่ติดตามคดีที่มีผู้เสียหายจากโชะคุเกคิ ตามที่ต่างๆ พวกเอรินะก็ค้นหาตัวจริงของ "ไซบะ" ที่เป็นคนครัวยามค่ำ อีกด้านหนึ่ง โซมะ เด็กผู้ชาย ชื่อซึสึกิที่มาเป็นวิทยากรชั่วคราวในโรงเรียนโทสึคิ ท้าแข่งโชะคุเกคิ

Kingdom เล่ม 49 หลี่มู่รับศึกสองสถานเพื่อต้านการรุกคืบสู่เขตนครหลวงแดนจ้าวของทัพฉิน ซิ่น เหมิงเถียน และหวังเจี่ยนมุ่งสู่สมรภูมิทุ่งจู่ไห่ หยางตวนเหอและปี้มุ่งสู่สมรภูมิเลียวหยาง
และหวนฉีล้อมเย่ซึ่งปิดเมืองตั้งรับ ที่ทุ่งจู่ไห่ เหมิงเถียนประจำอยู่ในปีกซ้ายได้สำแดงวีรกรรมห้าวหาญ แต่แล้วก็ต้องเจอกับการตอบโต้หนึ่งกระบวนท่าของหลี่มู่!?

นิยาย ไฮคิว!! คู่ตบฟ้าประทาน เล่ม 3 คาราสุโนะจะได้ท้าทายการเข้าค่ายแข่งวอลเลย์บอลทางไกลครั้งแรกกับคู่แข่งที่เป็นโรงเรียนยอดแข็งแกร่ง ซึ่งก็คือ โรงเรียนเนโคมะ ฟุคุโรดานิ ชินเซ็น และอุบุกาวะ สิ่งที่กำลังรอพวกเขาเหล่านั้นอยู่คือ "การแลกเปลี่ยน" หลายอย่างกับโรงเรียนคู่แข่ง!? เบื้องหลังการเข้าค่ายที่ไม่ได้ปรากฏในภาคหลักถูกเปิดเผยในฉบับนิยาย!!

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ:

BERSERK เล่ม 35,อิซากายะต่างโลกโนบุ เล่ม 7,รีไววัลย้อนอดีตไขปริศนา เล่ม 4,MOBILE SUIT GUNDAM AGGRESSOR เล่ม 4,โตเกียวองเมียวจิ Tokyo Ravens เล่ม 9,VIGILANTE -MY HERO ACADEMIA ILLEGALS- เล่ม 3,อะโห ยัยโง่ เล่ม 6 ,นิยาย คุณแม่ที่มีสกิลพื้นฐานเป็นการโจมตีหมู่ฯ เล่ม 4

รูปภาพหน้าปก : amazon.co.jp



ไร้เทียมทาน...ไม่พลิกโผ......Spider-Verse คว้า Oscar หนังอนิเมชั่นยอดเยี่ยม

ค่ำคืนวันที่ 24 ก.พ. 2019 ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ ได้มีการประกาศผลรางวัล Academy Awards หรือ Oscar ครั้งที่ 91 ในทุกสาขารางวัล โดยไฮไลท์เด่นประจำครั้งนี้ คงหนีไม่พ้น Bohemian Rhapsody หนังอัตชีวประวัติของ Freddie Mercury นักร้องนำวง Queen ที่กวาดรางวัลมากที่สุดถึง 4 สาขารางวัล รวมไปถึง Green Book ที่สามารถคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประจำครั้งนี้ไปครอง

ในส่วนของรางวัลสาขาหนังอนิเมชั่นยอดเยี่ยม ประจำครั้งนี้นั้น พลพรรคฮีโร่มนุษย์แมงมุมจากหลากจักรวาล Spider-Man: Into the Spider-Verse ที่ยังคงแสดงความไร้เทียมทานอย่างต่อเนื่อง ด้วยการคว้ารางวัลชนะเลิศสาขานี้ไปครอง เหนือ Incredibles 2 , Isle of Dogs , Mirai และ Ralph Breaks the Internet ซึ่งถือเป็นการคว้าชัยในสาขาหนังอนิเมชั่นอย่างต่อเนื่อง หลังจากประกาศศักดาบนเวที ลูกโลกทองคำ ครั้งที่ 76 , Critics' Choice Movie Awards ครั้งที่ 24 และ Annie Awards ครั้งที่ 46 อีกทั้ง หนังอนิเมชั่นดังจากค่าย Sony Pictures เรื่องนี้ ยังสามารถหยุดสถิติของ Disney หลังจากพาหนังอนิเมชั่นของพวกเขาผูกปีคว้ารางวัลสาขานี้มาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา (จากเรื่อง Brave)

ขณะเดียวกัน Bao สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ สาขาหนังอนิเมชั่นขนาดสั้นยอดเยี่ยม ประจำปีนี้ไปครอง โดยเอาชนะคู่แข่งอย่าง Animal Behaviour , Late Afternoon , One Small Step และ Weekends

แหล่งข่าว :  https://oscar.go.com/

 



พลาด Oscar แล้วไง!!!?......Mirai คว้ารางวัลอนิเมชั่นแห่งปี ตุ๊กตาทองญี่ปุ่น ครั้งที่ 42

จากรางวัลตุ๊กตาทองต้นฉบับ ก็ขอข้ามฟากไปยังรางวัลตุ๊กตาทองในแบบฉบับญี่ปุ่นมั่ง กับ Japan Academy Prizes ครั้งที่ 42 ที่เพิ่งมีการประกาศผลรางวัลทุกสาขา เมื่อค่ำคืนวันที่ 1 มี.ค. 2019 ที่ผ่านมา โดยในสาขา Animation of the Year หรือ อนิเมชั่นแห่งปี ซึ่งเป็นสาขารางวัลใหญ่สำหรับหนังอนิเมชั่นญี่ปุ่น ปรากฏว่า Mirai no Mirai / Mirai ผลงานหนังอนิเมเรื่องล่าสุดของผกก. Mamoru Hosoda สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศสาขานี้ มาประดับตู้โชว์ได้สำเร็จ หลังจากเพิ่งอกหักจากเวที Oscar ครั้งที่ 91 ไปเมื่อไม่นาน โดยเอาชนะคู่แข่งสำคัญอย่าง Dragon Ball Super: Broly, penguin highway, Detective Conan: Zero the Enforcer, และ Okko's Inn

อนึ่ง Isao Takahata ผกก.หนังอนิเมชั่นจาก Grave of the Fireflies, Only Yesterday, The Tale of the Princess Kaguya เป็น 1 ใน 6 คน ที่ได้รับรางวัลพิเศษซึ่งเป็นการเชิดชูเกียรติให้แก่บุคคลผู้ล่วงลับไปแล้ว

โดย Japan Academy Prizes เป็นรางวัลที่จัดขึ้นโดยสถาบัน Nippon Academy-Sho ซึ่งเทียบเคียงกับ Academy of Motion Picture Arts and Sciences ผู้จัดรางวัล Oscar ของสหรัฐ ซึ่งผู้เข้าชิงรางวัลของ Japan Academy Prizes ในครั้งนี้ ต่างเป็นหนังที่เข้าฉายในญี่ปุ่น ช่วง 16 ธ.ค. 2017 - 15 ธ.ค. 2018 อีกทั้ง ผู้เข้าชิงรางวัลในแต่ละสาขา จะได้รับรางวัลยอดเยี่ยม ทั้งหมด (แต่ผู้ชนะเลิศแต่ละสาขา มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น) โดยสาขา อนิเมชั่นแห่งปี จัดเป็นสาขารางวัลใหม่ของรางวัลตุ๊กตาทองญี่ปุ่น โดยจัดตั้งขึ้นมาครั้งแรกเมื่อ 12 ปีที่แล้ว

แหล่งข่าวและรูปภาพ : Comic Natalie , MAL


Radiant อนิเมจากคอมิคแดนน้ำหอม ประกาศทำอนิเมซีซั่น 2

Radiant อนิเมซีรี่ย์ดัดแปลงจากผลงานการ์ตูนสัญชาติฝรั่งเศสของ Tony Valente ก็แสดงความไม่ธรรมดาให้ประจักษ์ ด้วยการประกาศทำอนิเมซีรี่ย์ต่อ ซีซั่นที่ 2 แล้ว โดยมีกำหนดออกอากาศช่วงฤดูใบไม้ร่วง 2019 ข่าวดังกล่าวมีการยืนยันจากอนิเมตอนที่ 21 ซึ่งเป็นตอนจบซีซั่นแรกของเรื่องนี้ โดยอนิเมซีซั่น 2 ของเรื่องนี้ จะมีทั้งหมด 21 ตอน เช่นเคย

Radiant ตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา และ ออกวางจำหน่ายฉบับรวมเล่มที่ 11 ในฝรั่งเศส เมื่อ ก.พ. 2019 ที่ผ่านมา รวมถึงมีกำหนดออกวางจำหน่ายฉบับรวมเล่ม 10 ในญี่ปุ่น มี.ค. 2019 นี้

แหล่งข่าวและรูปภาพ :    Radiant 's Official Twitter , MAL


Ryan Reynolds ทุ่มสุดตัว แทบจะตัดขาดกับครอบครัว เพื่อสวมบทบาทเป็นนักสืบ Pikachu ให้สมจริงยิ่งขึ้น

Ryan Reynolds ผู้พากย์เสียงเป็น Pikachu ในหนังคนแสดงของ Detective Pikachu ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับบทบาทที่เขาได้รับในหนังดังกล่าว ซึ่งในระหว่างการให้สัมภาษณ์ เขาได้เปิดเผยถึงความจริงจังในการรสวมบทบาทในครั้งนี้ โดยเขาได้ใช้ชีวิต ได้หายใจไปกับ Pikachu ไปตลอดทั้งปี จนทำให้เขากลายเป็นตัวละครตัวนี้ไปแล้ว

จากนั้น Reynolds ยอมรับว่า ทุกวินาทีของพลังงานของเขาถูกนำไปใช้ "ในการทำให้ตัวละครตัวนี้มีชีวิตชีวา ด้วยมาตรฐานอันเข้มงวด ซึ่งแฟนๆสามารถรับรู้และคาดหวังได้" พร้อมกับแชร์เรื่องราวของเขา “ในตอนที่ผมกำลังจะไปรับลูกสาวจากโรงเรียน พอผมทราบข่าวว่า ผมได้รับบทนี้ เล่นเอาผมแทบจะไม่ได้มาโรงเรียน ก็เพราะ Detective Picachu ซึ่งเขา (Pikachu) ไม่รู้ว่าด้วยซ้ำว่า เด็กผู้หญิงตัวน้อยสองคนนี้คือใคร” ขณะเดียวกัน Blake Lively ภรรยาของ Reynolds ได้ออกมาลั่นว่า :“ พวกเธอเหล่านี้เป็นลูกสาวของพวกเรานะ เขาก็แค่จากพวกเราไป เท่านั้นล่ะ”

Reynolds อธิบายต่อไปว่า เขาหมกมุ่นในการเล่นบทนักสืบ Pokemon อย่างสมบูรณ์ ทั้งอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเขา , อาศัยอยู่ที่ระดับความสูงของเขา และพยายามลดน้ำหนักลงถึง 182 ปอนด์ เพื่อให้เข้ากับน้ำหนักของเขา จนกว่าแพทย์จะเข้ามาแทรกแซง “ ประเด็นก็คือ ลูกสาวของกระผม อาจไม่เคยเห็นพ่อของพวกเธออีกเลย แต่คุณมั่นใจได้เลยว่า พวกเธอทั้งคู่จะมองไปที่หน้าจอนั้นในช่วงฤดูร้อนนี้ และพวกเขาจะได้เห็นนักสืบ Pikachu” จากนั้นเขาก็หัวเราะลั่น

ภาพยนตร์ชุดนี้ กำกับโดย Rob Letterman (Goosebumps) เป็นเรื่องราวเกิดขึ้นใน Ryme City เมืองที่มนุษย์และ Pokemon อาศัยอยู่ร่วมกัน นำเสนอเรื่องราวของเด็กหนุ่ม (แสดงโดย Justice Smith จาก Jurassic World: Fallen Kingdom) ที่พยายามออกตามหาคุณพ่อซึ่งเป็นตำรวจ โดยได้รับความช่วยเหลือจาก นักสืบ Pikachu .....โดยตัวหนังมีกำหนดเข้าฉายบนโรงที่สหรัฐ วันที่ 10 พ.ค. 2019 ขณะที่ บ้านเรา จะได้รับชมหนังเรื่องนี้ก่อนสหรัฐ แค่ 1 วันเท่านั้น

แหล่งข่าว :  Entertainment Weekly


อนิเมช่วยส่ง.... "ผู้กล้าโล่ผงาด" มียอดตีพิมพ์ 4 ล้านเล่มในญี่ปุ่น

ข่าวดีที่มาพร้อมกับการวางจำหน่าย เล่มที่ 21 ของ ไลท์โนเวล Tate no Yuusha no Nariagari หรือ ผู้กล้าโล่ผงาด เมื่อ 28 ก.พ. 2019 เมื่อมีการยืนยันจากบลอกทางการของ Aneko Yusagi ผู้แต่งไลท์โนเวลเรื่องดังกล่าวว่า ซีรี่ย์แฟนตาซีของเขาเรื่องนี้ มียอดตีพิมพ์ในญี่ปุ่น ทะลุถึง 4 ล้านเล่มแล้ว นับตั้งแต่วางขายครั้งแรก เมื่อ ส.ค. 2013 อย่างไรก็ตาม ยอดตีพิมพ์ 4 ล้านเล่มของเรื่องนี้ ได้รวมยอดตีพิมพ์ฉบับมังงะของเรื่องนี้ ที่มีจำนวนทั้งหมด 1 ล้านเล่ม เข้าไปด้วย........ซึ่งจากยอดตีพิมพ์ที่เพิ่มสูงขึ้นของซีรี่ย์ดังกล่าว ต้องยกเครดิตให้กับฉบับอนิเมทีวีของเรื่องนี้ ที่ออกฉายที่ญี่ปุ่น ตั้งแต่ 9 ม.ค. 2019 เป็นต้นมา

ผู้กล้าโล่ผงาด เผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ Shosetsuka ni Narou เมื่อ ต.ค. 2012 และได้รับการตีพิมพ์ในแบบรูปเล่มโดย MF Books ในเครือ Kadokawa วางขายเมื่อ ส.ค. 2013 อีกทั้ง เรื่องนี้ยังมีการเขียนไลท์โนเวลภาคแยกชุด The Reprise of the Spear Hero ที่ปัจจุบันวางขายถึงเล่ม 3 แล้ว เช่นกัน

ขณะเดียวกัน ฉบับมังงะของเรื่องนี้ วาดภาพโดย Aiya Kyu ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Comic Flapper ตั้งแต่ มี.ค. 2014 และมีฉบับรวมเล่มถึง 12 เล่มแล้ว ขณะที่ The Reprise of the Spear Hero ก็มีการจัดทำในแบบมังงะ โดยได้ Neet เป็นผู้วาดภาพ ปัจจุบัน วางจำหน่ายถึงเล่ม 3 เช่นกัน

แหล่งข่าว : crunchyroll.com


Alita ล็อคถล่ม!! เสียท่าให้ Tonde Saitama บน Box Office ญี่ปุ่น

อันดับหนัง Box Office ญี่ปุ่น ประจำวันที่ 23-24 ก.พ. 2019 ปรากฏว่า Alita: Battle Angel หนังดัดแปลงจากมังงะเรื่อง GUNNM ของ อ.Yukito Kishiro ก็ส่อท่าจะล่มไม่เป็นท่า ไม่สมกับการรอคอย ไม่เพียงแค่ตัวหนังจะทำรายได้ต่ำกว่าเป้าในสหรัฐแล้ว ล่าสุด ตัวหนังทุ่นสร้างกว่า 200 ล้านดอลล่าร์เรื่องนี้ สามารถเปิดตัวเข้าฉายที่ญี่ปุ่นสุดสัปดาห์แรกได้เพียงอันดับ 2 เท่านั้น โดยพ่ายให้กับ Tonde Saitama หนังทุนต่ำดัดแปลงจากมังงะแนวตลกชื่อเดียวกันของ อ.Mineo Maya ที่สามารถทำรายได้และยอดตั๋วช่วงสุดสัปดาห์ดังกล่าว ที่ 259 ล้านเยน กับ 191,000 ใบ ในขณะที่ Alita ที่เข้าฉายด้วยจำนวนโรงหนังมากกว่า Tonde Saitama อยู่ 40 โรง สามารถทำรายได้และยอดตั๋วช่วงสุดสัปดาห์ดังกล่าวเพียง 248 ล้านเยน กับ 152,000 ใบ เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม หากนับรายได้และยอดตั๋วจากการเข้าฉาย 3 วันแรกของหนังทั้ง 2 เรื่อง (นับตั้งแต่ฉายวันแรก 22 ก.พ. 2019) พบว่า Alita สามารถโกยรายได้มากกว่า ถึง 342.66 ล้านเยน เฉือน Tonde Saitama ที่ทำรายได้ทั้งสิ้น 330,949,400 เยน ซึ่ง 59.9% ของรายได้หนัง Alita มาจากการฉายบนโรงแบบพรีเมี่ยม รวมถึง โรงหนังระบบ IMAX, 3D, และ MX4D

แม้ว่า รายได้ของ Alita ที่สหรัฐ กับ ญี่ปุ่น จะไม่ไฉไลนัก แต่สำหรับที่จีนนั้น ตัวหนังมีกระแสการตอบรับที่ดีเยี่ยมมากๆ โดยสามารถทำรายจากการเข้าฉายสุดสัปดาห์แรกในแดนมังกร ได้ถึง 62.3 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ จากการรายงานของ Fox ( 64.8 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ จากการรายงานของสื่อจีน) และกลายเป็นหนังของค่าย Fox ที่ทำรายได้เปิดตัวในจีนสูงที่สุด ในบรรดาหนังของ Fox เรื่องใดๆ

อันดับหนัง Box Office ญี่ปุ่น (23-24 ก.พ. 2019)
(วัดอันดับจากยอดขายตั๋ว)

1 (new). "Tonde Saitama"

2 (new). "Alita: Battle Angel"

3 (new). "My Girlfriend is a Wizard"

4 (1). "Fortuna no Hitomi"

5 (4). "Masquerade Hotel"

6 (3). "Nanatsu no Kaigi"

7 (2). ""Aquaman"

8 (5). "City Hunter The Movie: Shinjuku Private Eyes"

9 (7). "Bohemian Rhapsody"

10 (6). "Code Geass: Lelouch of the Re;surrection"


แหล่งข่าว : eiga.com , Pixxiin.com , crunchyroll.com



 

มาอย่างเรียบๆเรื่อยๆ.......จอเงิน Love Live! Sunshine!! โกยตังค์ทะลุ 1 พันล้าน แล้ว

Love Live! Sunshine!! The School Idol Movie Over the Rainbow หนังอนิเมจอเงินของ Love Live! Sunshine!! สามารถทำรายได้ ถึงหลัก 1 พันล้านเยน ได้สำเร็จ เมื่อ 22 ก.พ. 2019 ที่ผ่านมา หลังจากตัวหนังจากซีรี่ย์อนิเมไอด้อลสาววัยใส เข้าฉายบนโรงหนังที่ญี่ปุ่น ถึง 8 สัปดาห์แล้ว นับตั้งแต่ฉายครั้งแรก เมื่อ 4 ม.ค. 2019 ซึ่งก็ทำให้หนังชุดนี้ กลายเป็นหนังอนิเมเรื่องที่ 3 ประจำปี 2019 ที่สามารถทำรายได้ทะลุ 1 พันล้านเยน ต่อจาก Fate/stay night: Heaven's Feel II. lost butterfly (1.5 พันล้านเยน ) ที่ฉายครั้งแรก เมื่อ 12 ม.ค. 2019 และ City Hunter: Shinjuku Private Eyes (1 พันล้านเยน) ที่ฉายครั้งแรก เมื่อ 8 ก.พ. 2019

โดยในสัปดาห์ที่ 9 ของการฉายหนัง Love Live! Sunshine!! ชุดนี้ จะมีการแจกโปสเตอร์สมาชิกทั้ง 9 ของ Aqours ที่วาดโดย Yuhei Murota คนออกแบบตัวละครประจำอนิเมเรื่องนี้ ให้แก่ผู้เข้าชมหนังเรื่องนี้บนโรงด้วย อย่างไรก็ตาม ในบรรดาโปสเตอร์ที่มีการแจกผู้ชมหนังนั้น ก็จะมีโปสเตอร์แบบ SSR ( Super Special Rare) ที่มีลายเซ็นของนักพากย์ยูนิต Aqours ปะปนเข้าไปด้วย โดยจะมีแค่ 1 ใบ ต่อ 1 โรงภาพยนตร์ที่ออกฉายหนังเรื่องนี้ เท่านั้น

แหล่งข่าว : Mantan Web , crunchyroll.com


จากรุ่นสู่รุ่น.....นักพากย์จาก Touch ร่วมพากย์เสียงอนิเม MIX

อย่างที่แฟนๆผลงานของ อ. Mitsuru Adachi ทราบเป็นอย่างดีว่า MIX ผลงานมังงะเบสบอลเรื่องปัจจุบันของเขา ก็มีเนื้อหาที่เกิดขึ้นบนจักรวาลเดียวกับเรื่อง Touch ผลงานการ์ตูนสร้างชื่อของเขา โดยเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลัง Touch อีกหลายสิบปีด้วยกัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใจใดๆที่ฉบับอนิเมของ MIX จะได้นักพากย์จาก Touch มาร่วมพากย์เสียงด้วย

ล่าสุด มีการยืนยันว่า Ryusei Nakao (Freeza - Dragon Ball, Caesar Clown - One Piece) ผู้เคยพากย์เสียงเป็น Isamu Nishimura คู่ปรับคนสำคัญของ Tatsuya Uesugi จากเรื่อง Touch จะร่วมพากย์เสียงให้กับเรื่อง MIX ในบทบาทของ Nishimura อีกครั้ง โดย Nakao ได้กล่าวเพียงสั้นๆถึงการกลับมารับบทบาทนี้อีกครั้งหนึ่งว่า รู้สึกตื่นเต้นที่กลับมาพากย์เสียงตัวละครตัวนี้ พร้อมกับคอยติดตามที่จะพบกับ Nishimura อีกครั้ง ในรอบ 34 ปี

MIX นอกจากจะดำเนินเรื่องราวในจักรวาลเดียวกับ Touch แล้ว พล็อตเรื่องก็ยังคล้ายคลึงกัน คือ เป็นเรื่องราวของ 2 พี่น้อง ที่พยายามช่วยกันพาทีมเบสบอลโรงเรียน Meisei (โรงเรียนเดียวกับ Touch) ฝ่าฟันสู่ Koshien อีกครั้ง โดยฉบับอนิเมซีรี่ย์ของ MIX มีกำหนดฉายตอนแรกในวันที่ 6 เม.ย. 2019 นี้

แหล่งข่าว : , Comic Natalie , crunchyroll.com


"พันธสัญญาเนเวอร์แลนด์" ถูกเสนอเข้าชิงรางวัล Tezuka Cultural Prize อีกปี

คณะกรรมการรางวัล Osamu Tezuka Cultural Prize หนึ่งในรางวัลสำคัญของวงการการ์ตูนญี่ปุ่น ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อมอบให้แก่ผลงานการ์ตูนที่สืบสานเจตนารมณ์ของ อ.Osamu Tezuka ปรมาจารย์ผู้ถือกำเนิดมังงะญี่ปุ่นสมัยใหม่ ได้มีการประกาศผลงานมังงะที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลชนะเลิศ ในครั้งที่ 23 แล้ว ซึ่งมีทั้งหมด 11 เรื่องด้วยกัน โดยหนึ่งในนั้นก็มี The Promised Neverland หรือ พันธสัญญาเนเวอร์แลนด์ ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

Areyo Hoshikuzu โดย Sansuke Yamada

Umimachi Diary โดย Akimi Yoshida

Astra Lost in Space โดย Kenta Shinohara

A Minimum Healthy and Cultural Life โดย Haruko Kashiwagi
Good-Bye My Miniskirt โดย Aoi Makino

Jitterbug the Forties โดย Shinobu Arima

Daru-chan โดย Remon Haruna

Fragile - The Finds of Pathologist Keiichiro Kishi โดย Bin Kusamizu และ Saburo Megumi

Mashiro no Oto โดย Marimo Ragawa

The Promised Neverland โดย Kaiu Shirai และ Posuka Demizu

นับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา Tezuka Cultural Prize มีการมอบรางวัลถึง 4 สาขารางวัล ได้แก่ รางวัลชนะเลิศ , รางวัลนักเขียนหน้าใหม่ , ผลงานสั้นยอดเยี่ยม และ รางวัลพิเศษ

อนึ่ง Tezuka Cultural Prize เคยมอบรางวัลสาขา Reader Prize สาขานักอ่าน ให้แก่ อ. Chuuya Koyama จากผลงานเรื่อง Space Brothers สองสิงห์อวกาศ เมื่อปี 2014 ด้วย

โดย Osamu Tezuka Cultural Prize ครั้งที่ 23 จะมีการประกาศผลผู้ชนะเลิศ บนหน้าหนังสือพิมพ์ Asahi Shimbun ช่วงปลายเดือน เม.ย. 2019 ก่อนจะมีพิธีมอบรางวัลอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 6 มิ.ย. 2019

แหล่งข่าว : Anime!Anime! , crunchyroll.com


Saki พับกระดานไพ่นกกระจอกชั่วคราว จนถึง พ.ค. 2019

กลายเป็นเรื่องปกติสำหรับซีรี่ย์ไพ่นกกระจอกสาวน้อย Saki เมื่อนิตยสาร Young Gangan ได้เปิดเผยว่า มังงะ Saki จะหยุดตีพิมพ์ในนิตยสารดังกล่าวอีกครั้ง ในฉบับที่ 7 จนถึง ฉบับที่ 10 โดยมีกำหนดกลับมาตีพิมพ์อีกครั้งในฉบับที่ 11 ที่จะวางขายต้อนรับเปิดเทอมบ้านเรา ในวันที่ 17 พ.ค. 2019

ก่อนหน้านี้ เรื่องนี้เคยหยุดตีพิมพ์ยาว 2 เดือน บ่อยครั้ง และหยุดเขียนครั้งล่าสุด เมื่อ ส.ค. - ต.ค. 2018

Saki ผลงานมังงะดังของ อ.Ritz Kobayashi ตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 2006 เป็นต้นมา และถูกนำไปเขียนเป็นมังงะสปินออฟจำนวน 5 ชุด ซึ่งมังงะภาคหลักของเรื่องนี้ ได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี , รวมถึง ละคร-หนัง คนแสดง เช่นเดียวกับ มังงะสปินออฟชุด Saki Achiga-hen episode of side-A ที่ได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเมและละคร-หนังคนแสดง แล้วก็ Saki Biyori ที่ได้รับการดัดแปลงเป็น OAD เช่นกัน

แหล่งข่าวและรูปภาพ :   animenewsnetwork


"ช่วยที She ติดเกาะ?" ติดเกาะบนจอ รูปแบบอนิเม

บรรดาเว็บไซต์ร้านค้าปลีกจำนวนหนึ่งในญี่ปุ่น ต่างเผยแพร่ข้อมูลที่ปรากฏบนปกของนิตยสาร Young Magazine ฉบับที่ 14 ซึ่งได้มีการประกาศว่า ผลงานมังงะของ อ.Kentarō Okamoto กับ อ.Riri Sagara เรื่อง Sōnan desuka? หรือ ช่วยที She ติดเกาะ? ได้รับไฟเขียวให้ดัดแปลงในรูปแบบอนิเมแล้ว โดยนิตยสารดังกล่าว มีกำหนดวางจำหน่ายจริง วันที่ 4 มี.ค. 2019 นี้ ซึ่งก็สอดคล้องกับข้อมูลของ Young Magazine ฉบับก่อนหน้านี้ ที่เปิดเผยว่า จะมีการแจ้งข่าวสำคัญของมังงะ ช่วยที She ติดเกาะ? ด้วย

"ช่วยที She ติดเกาะ?" ตีพิมพ์ในนิตยสารดังกล่าว ตั้งแต่ ม.ค. 2017 โดยตีพิมพ์แบบเดือนเว้นเดือน เป็นเรื่องราวของเด็กนักเรียนสาวจำนวนหนึ่งที่รอดชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตก ซึ่งพวกเธอเหล่านี้จะต้องทำทุกวิธีทาง (และพยายามเขมือบทุกอย่าง) เพื่อที่จะอยู่รอดบนเกาะทะเลทรายแห่งนี้ให้จงได้ โดยบ้านเรา สามารถหาอ่านเรื่องนี้ได้ โดย VBK....อนึ่ง เรื่องนี้ เคยได้รับการดัดแปลงเป็นละครเวที เปิดการแสดงเมื่อ พ.ย. 2018

แหล่งข่าว :   HMV , Honya Club , animenewsnetwork


Kami-sama no Koibito ผลงานการ์ตูนเรื่องใหม่จากคู่หูผู้สร้าง "สิงห์สนาม"

หลังจากปิดตำนานลูกหนัง Knight in the Area หรือ สิงห์สนาม ไปได้เพียง 2 ปี อ.Kaya Tsukiyama กับ อ.Hiroaki Igano คู่หูผู้สร้างมังงะสิงห์สนาม กำลังจะกลับมาอีกครั้ง กับ ผลงานมังงะเรื่องใหม่ล่าสุด ที่มีชื่อว่า Kami-sama no Koibito ซึ่งมีกำหนดตีพิมพ์ตอนแรก พร้อมหน้าเปิดสี่สี ลงในนิตยสาร Young Magazine ฉบับที่ 14 ที่จะวางขายในวันที่ 4 มี.ค. 2019

ผลงานดังกล่าว จะเปลี่ยนแนวจากฟุตบอล ไปเป็นแนวสืบสวน โดยเป็นเรื่องราวเกิดขึ้นช่วงยุคอนาคต ที่มีการจำลองยุคสมัยปีโชวะที่ 64 (ค.ศ. 1989 ; ปีสุดท้ายของยุคโชวะ - ปีแรกของยุคเฮย์เซย์) บนโลก VR ซึ่งโลก VR แห่งนี้ ได้จำลองบรรยากาศความเก่าแก่คร่ำครึตามยุคสมัยดังกล่าว ซึ่งก็มาพร้อมกับตัวเอกที่ต้องมาพัวพันกับคดีปริศนา พร้อมกับคำถามที่ว่า โลกที่พวกเขาเห็นอยู่นั้น อันไหนคือของจริง หรือ ถูกสร้างขึ้นโดย VR กันแน่?

อนึ่ง อ.Igano จัดเป็นนักเขียนการ์ตูนเจ้าของนามปากกาหลากหลายชื่อ ซึ่งผลงานของเขาก็ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่คอการ์ตูนบ้านเราคุ้นเคยกัน (โดยเฉพาะแฟนๆมังงะของค่าย VBK บ้านเรา) ตั้งแต่ Tadashi Agi (The Drops of God) , Ryō Ryūmon (Bloody Monday), Seimaru Amagi (Kindaichi Case Files) และ Yuma Ando (Psychometrer, Psychometrer Eiji, Sherlock Bones) เป็นต้น

แหล่งข่าวและรูปภาพ : animenewsnetwork



หมดยุคสิ่งพิมพ์.......นิตยสาร Dengeki G's Comic ประกาศยุติฉบับรูปเล่ม หันไปเผยแพร่แบบออนไลน์แทน

สื่อสิ่งพิมพ์กลายเป็นสิ่งที่อยู่รอดยากในยุคสมัยที่เน้นการเข้าถึงสื่ออย่างรวดเร็วและฉับไว เมื่อล่าสุด นิตยสาร Dengeki G's Comic ซึ่งเป็นนิตยสารแยกของ Dengeki G's Magazine ฉบับเดือน เม.ย. ที่เพิ่งวางขายไป เมื่อ 28 ก.พ. 2019 ว่า พวกเขาจะยุติการจัดพิมพ์นิตยสารฉบับรูปเล่ม โดยมีกำหนดวางจำหน่ายฉบับรูปเล่ม ฉบับสุดท้าย ในฉบับเดือน พ.ค. ที่มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 30 มี.ค. 2019 นี้ แต่ถึงกระนั้น นิตยสารดังกล่าว จะเปลี่ยนลักษณะการเผยแพร่มังงะ ในรูปแบบออนไลน์ แทน ผ่านทาง ComicWalker ของ Kadokawa แล้วก็ Niconico Seiga

ทางนิตยสารได้กล่าวเหตุผลถึงการตัดสินใจครั้งนี้ ด้วยเหตุผลในเรื่องของสภาพการตลาดในปัจจุบัน รวมไปถึง วิธีการอ่านมังงะที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย

Dengeki G's Comic เริ่มต้นด้วยการเผยแพร่ในรูปแบบดิจิตอล ฉบับที่ 0 เมื่อ ส.ค. 2012 ก่อนที่จะตีพิมพ์ในแบบรูปเล่ม เมื่อ เม.ย. 2014 โดยเคยตีพิมพ์มังงะที่ดัดแปลงมาจากเกม,อนิเม,ไลท์โนเวล และ สื่ออื่นๆ ประกอบด้วย Love Live!, Charlotte, Angel Beats!, Release the Spyce, Ro-Kyu-Bu!, Garakowa -Restore the World-, Punch Line, Yuki Yuna Is a Hero, Tenka Hyakken, Little Busters!, Boogiepop and Others, Seishun Buta Yarō wa Bunny Girl-senpai no Yume wo Minai, Plastic Memories, Sword Art Online, Rewrite, และ Tenshi no 3P!

แหล่งข่าวและรูปภาพ :   animenewsnetwork



ผู้แต่ง Chihayafuru เปรย มังงะจะยังไม่จบอย่างน้อย ต.ค. 2019

สืบเนื่องจากการที่อนิเมซีรี่ย์ซีซั่นที่ 3 ของ Chihayafuru หรือ จิฮายะ ได้ประกาศเลื่อนการออกอากาศไปเป็นช่วง ต.ค. 2019 จากเดิมที่มีกำหนดจะฉายในช่วงฤดูใบไม้ผลิ 2019 นี้ (ราว เม.ย. 2019) และจากประกาศที่เกิดขึ้นนี้เอง ทำให้ อ. Yuki Suetsugu ผู้แต่งมังงะดวลไพ่คำกลอนเรื่องนี้ ได้ออกมาเปิดเผยผ่าน twitter ส่วนตัว ว่า มังงะเรื่องนี้จะยังไม่จบลง จนกว่าจะถึง ต.ค. 2019 นี้ เป็นอย่างน้อย ซึ่งเป็นช่วงเวลาคาบเกี่ยวกับ อนิเมซีซั่น 3 ของเรื่องนี้ ที่จะออกอากาศพอดี (อนิเมซีซั่น 3 ของเรื่องนี้ จะออกฉายยาวถึง 2 ไตรมาส ด้วยกัน)

อ.Suetsugu กล่าวอีกว่า อนิเมซีซั่น 3 ได้เริ่มถกกันมาเป็นเวลาหลายปี ซึ่งเธอได้รับแจ้งว่า อนิเมซีซั่น 3 จะยังไม่ออกฉาย จนถึงปี 2019 จากนั้น เธอได้ถูกซักถามเป็นการส่วนตัวว่า มังงะจะยังคงดำเนินต่อไป ในปี 2019 หรือไม่? ซึ่งในตอนนั้น เธอคิดว่า มังงะคงจะจบลงในช่วงฤดูใบไม้ผลิ 2019 นี้ เธอเสริมอีกว่า การที่จะยื้อเรื่องราวของมังงะต่อไป จนกว่า อนิเมซีซั่น 3 จะออกฉายเนี่ย มันช่าง "เหมือนกับเป็นความฝัน" เลย

Chihayafuru ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Be-Love ของ Kodansha ตั้งแต่ ธ.ค. 2007 เป็นต้นมา ต่อมาถูกดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี 2 ซีซั่น ออกฉายช่วงปี 2011-2013 รวมถึง หนังคนแสดงจำนวน 3 ชุด ช่วงปี 2016-2018 แล้วก็ ละครซีรี่ย์จำนวน 5 ตอน ชุด Chihayafuru -Tsunagu- ฉายทาง Hulu Japan เมื่อ ก.พ. 2018

แหล่งข่าว : Karice67 , animenewsnetwork



จำคุก 15 ปี อดีตบก.นิตยสาร Morning จากคดีฆาตกรรมภรรยา

อัยการศาลโตเกียว ได้พิพากษาให้ จำคุก Jong Hyon Pak อดีตรอง บก.นิตยสาร Morning เป็นเวลา 15 ปี จากคดีฆาตกรรม Kanako ภรรยาของตนเอง เมื่อปี 2016

Pak ถูกฟ้องร้องเมื่อ ม.ค. 2017 เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าเป็นคนลงมือบีบคอภรรยาของเขาจนเสียชีวิต แล้วจึงผลักร่างของเธอลงจากบันได ที่บ้านพักของพวกเขา ณ กรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2016 ซึ่งทางอัยการได้ตอบโต้ว่า เขา "ได้ก่อคดีฆาตกรรมโดยเจตนาอย่างทันทีทันใด หลังจากภรรยาของเขาออกมาบ่นตัวเขาที่ไม่ค่อยช่วยดูแลบ้านและเลี้ยงลูกมากเท่าที่ควร รวมถึง พูดถึงแม่ของเขาในทางที่ไม่ดี " ซึ่ง Pak ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา พร้อมกับอ้างว่าภรรยาของเขาฆ่าตัวตายเอง

Pak ร่วมงานกับ Kodanshaเมื่อ เม.ย. 1999 นอกเหนือจากการทำหน้าที่เป็นรองบก.ของนิตยสาร Morning ในการดูแลมังงะ Space Brothers, Cooking Papa แล้ว เขายังเป็นผู้ก่อตั้งนิตยสารการ์ตูนรายเดือน Bessatsu Shōnen Magazine ต้นสังกัดของ Attack on Titan, Flying Witch อีกด้วย

แหล่งข่าวและรูปภาพ :  Mainichi Shimbun , Japan Times , animenewsnetwork



มังงะ ผ่าพิภพไททัน : Before the Fall จบ มี.ค. 2019

นิตยสาร Shonen Sirius ฉบับ เม.ย. ที่เพิ่งวางขายไปเมื่อ 26 ก.พ. 2019 ได้แจ้งว่า ฉบับมังงะของ ผ่าพิภพไททัน : Before the Fall ที่เขียนโดย อ.Ryo Suzukaze และ อ.Satoshi Shiki กำลังจะอวสานลงในฉบับหน้าของนิตยสารดังกล่าว ที่จะวางขายในวันที่ 26 มี.ค. 2019 หลังจากดำเนินเรื่องราวเข้าสู่บทสุดท้ายเมื่อ ก.ค. 2018

ผ่าพิภพไททัน : Before the Fall ดัดแปลงมาจากนิยานชื่อเดียวกันของ อ.Suzukaze กับ THORES โดยมีเนื้อหาเกิดขึ้นก่อนมังงะภาคหลักของ ผ่าพิภพไททัน ซึ่งฉบับมังงะของนิยายชุดนี้ตีพิมพ์ใน Shonen Sirius ตั้งแต่ปี 2013 และวางจำหน่ายฉบับรวมเล่มถึงเล่มที่ 16 ในญี่ปุ่น เมื่อ 7 ธ.ค. 2018

แหล่งข่าว :  animenewsnetwork

 


Übel Blatt ดาบคลั่งทวงแค้น ยุติความแค้นแต่เพียงเท่านี้ ในเดือน มี.ค. 2019

นิตยสาร Big Gangan ฉบับที่ 3 ได้แจ้งว่า Übel Blatt ดาบคลั่งทวงแค้น ผลงานมังงะของ อ.Etorouji Shiono จะอวสานลงในฉบับหน้าของนิตยสารดังกล่าว ที่จะวางขายในวันที่ 25 มี.ค. 2019 โดยตอนสุดท้ายของเรื่องนี้ จะได้หน้าเปิดสี่สีเป็นการส่งท้าย

Übel Blatt เป็นเรื่องราวของ Koinzell เด็กหนุ่มผู้ถูกส่งให้ไปสู้รบกับศัตรูของจักรพรรดิ พร้อมกับกลุ่ม Fourteen Lances ทว่า เขากลับถูกหักหลังโดยสหายศึกกลุ่มดังกล่าว เขาจึงตัดสินใจที่จะแก้แค้นคนกลุ่มนี้ผู้ซึ่งพยายามอวดอ้างว่าเป็น "Seven Heroes"

Übel Blatt ตีพิมพ์เมื่อปี 2004 เป็นต้นมา ในนิตยสาร Young Gangan ก่อนจะมีการหยุดเขียนในช่วงสั้นๆ เมื่อปี 2009-2011 และ กลับมาตีพิมพ์เรื่องนี้อีกครั้งใน Big Gangan ตั้งแต่ปี 2011 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งก็มาพร้อมกับมังงะไซด์สตอรี่ชุด Übel Blatt Gaiden ในนิตยสาร Young Gangan Big เมื่อปี 2011

แหล่งข่าว :  animenewsnetwork

 


ส่วนผสมที่เข้ากันได้อย่างลงตัว!! ไปกับ "เกิดใหม่ทั้งที ก็กลายเป็น Kosaku Shima ไปซะแล้ว"

ไม่น่าเชื่อว่า จะเป็นการครอสโอเวอร์ ที่สามารถไปด้วยกันได้ ระหว่าง Tensei Shitara Slime Datta Ken หรือ เกิดใหม่ทั้งที ก็กลายเป็นสไลม์ไปซะแล้ว ผลงานไลท์โนเวล-มังงะแนวแฟนตาซีมาแรงที่กำลังได้รับการกล่าวขวัญของคนอ่าน กับ Kosaku Shima มังงะแนวธุรกิจจัดการองค์กรเนื้อหาจริงจัง ที่อยู่คู่กับคนอ่านชาวญี่ปุ่น มาตั้งแต่ปี 1983 เป็นต้นมา

อย่างที่ทราบกันดีว่า คุณน้า Kosaku Shima แกเป็นมาทุกอย่างแล้ว นับตั้งแต่ หัวหน้าแผนก ในมังงะชุดแรกสุดของเรื่องนี้ จนได้ขยับขยายตำแหน่งหน้าที่การงานของตัวเองสูงขึ้น ในมังงะภาคต่อๆมา กับ หัวหน้าฝ่าย , กรรมการบริหาร , กรรมการผู้จัดการ บลาๆๆๆๆๆ จนกระทั่งก้าวขึ้นเป็นตำแหน่งประธานบริษัท ในมังงะภาคล่าสุดที่วางขายในญี่ปุ่น!!!!

และจากความเก่งกาจของเขา จึงไม่แปลกใจที่จะมีคนที่อยากจะเป็นยอดนักธุรกิจเช่นเดียวกับเขา จึงได้เกิดมังงะภาคพิสดารนี้ขึ้น!! กับ Tensei Shitara Shima Kōsaku Datta Ken หรือเรียกชื่อไทยอย่างโก้ๆ คือ "เกิดใหม่ทั้งที ก็กลายเป็น Kosaku Shima ไปซะแล้ว" ซึ่งได้นำเสนอเรื่องราวความแปลกใหม่ เมื่อตัวเอกจาก เกิดใหม่ทั้งที ก็กลายเป็นสไลม์ไปซะแล้ว ซึ่งเป็นพนักงานออฟฟิศ ได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง โดยคราวนี้ ไม่ได้เป็นสไลม์ แต่กลายมาเป็น คุณน้า Kosaku เลย ..... มังงะชุดนี้ เป็นการร่วมมือกันทำ ระหว่าง อ.Kenshi Hirokane ผู้แต่ง Kosaku Shima กับ Fuse ผู้แต่งเกิดใหม่ทั้งที ก็กลายเป็นสไลม์ไปซะแล้ว แล้วก็ อ.Taiki Kawakami ศิลปินจาก เกิดใหม่ทั้งที ก็กลายเป็นสไลม์ไปซะแล้ว ฉบับมังงะ มีกำหนดตีพิมพ์ตอนแรกในนิตยสาร Evening ฉบับที่จะวางขาย วันที่ 12 มี.ค. 2019

อย่างไรก็ตาม การครอสโอเวอร์ครั้งนี้ ไม่ได้มีแค่มังงะชุดนี้ชุดเดียว เพราะ ตัวน้า Kosaku เอง ก็จะไปเกิดใหม่เป็นอัศวินยุคกลางบนโลกแฟนตาซี ด้วย (พูดง่ายๆคือ สลับโลกกันนั่นเอง) กับ มังงะสปินออฟอีกชุด ที่จะตีพิมพ์ในนิตยสาร Comic Zero Sum วันที่ 28 มี.ค. 2019 นี้ ด้วยเช่นกัน

แหล่งข่าวและรูปภาพ :  Comic Natalie , animenewsnetwork

 

 

 


ดราม่า ผู้แต่ง-ผู้วาดภาพ ส่งผลให้ Onna yūsha ถูกพิพากษาตัดจบเข้าอย่างจัง!!!

Dash X Bunko ผู้จัดตีพิมพ์นิยายไลท์โนเวลค่ายหนึ่งในญี่ปุ่น ได้ประกาศเมื่อ 22 ก.พ. 2019 ที่ผ่านมาว่า ไลท์โนเวลเรื่อง Onna yūsha ni jibun no seidorei ni naranai to party wo tsuihō suru to odosareta no de ridatsu wo sentaku shimasu (I Chose to Leave Because I Was Threatened with Expulsion from the Party Unless I Became the Sex Slave of the Female Hero) ได้ถูกยกเลิกการตีพิมพ์และวางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อย รวมไปถึง ล้มเลิกแผนการฉบับมังงะของเรื่องนี้ หลังจากพวกเขาพบว่า Nozomi Ginkyoku ผู้แต่งไลท์โนเวลชื่อยาวเรื่องดังกล่าว ได้ออกมาดูถูกดูแคลน Monety คนวาดภาพประกอบให้กับเรื่องนี้ บน twitter

ทาง Dash X Bunko ระบุว่า การกระทำอันไม่เหมาะสมของผู้แต่งบนสื่อโซเชียล เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ไลท์โนเวลชุดนี้ถูกตัดจบ แถมพวกเขากล่าวอีกว่า ตัวผู้แต่งไลท์โนเวลชุดนี้ชอบไปต่อว่าผู้อื่นบน twitter มานาน ไม่เพียงแค่ Monety เพียงคนเดียว นั่นจึงเป็นเหตุผลที่พวกเขาต้องออกโรงลงโทษในครั้งนี้

ขณะเดียวกัน Ginkyoku ได้ออกมาขอโทษ Monety บน Twitter เมื่อ 15 ก.พ. 2019 โดยกล่าวว่า พวกเขาเข้าใจผิดในสิ่งที่ Monety ได้ทวีตไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งมีใจความที่ไม่เหมาะสมก่อให้เกิดความขัดแย้ง ผลที่ตามมาคือ Ginkyoku ได้ทวีตข้อความเชิงดูถูกเหยียดหยามเกี่ยวกับ Monety ลงในบัญชีย่อยของพวกเขา แล้วทำการรีทวีตบนบัญชีหลักของพวกเขา ซึ่ง Ginkyoku เขียนว่า "ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ สำหรับคำพูดอันเลวทรามที่ชั้นได้ก่อขึ้น."

Ginkyoku ได้ดำเนินการลบทวีตออกจากบัญชีตัวเองออกไปจนหมด จนแทบไม่มีใครที่จะทราบข้อความอันเป็นชนวนให้เกิดดราม่านี้ขึ้นมา ถึงกระนั้น ก็มีแฟนๆบน twitter จำนวนหนึ่ง ได้คาดการณ์กันว่า ที่ Ginkyoku ได้ออกมาทวีตแสดงความไม่พอใจจำนวนหนึ่ง หลักๆมาจากการที่เขาไม่สบอารมณ์กับทวีตของ Monety เมื่อ 9 ก.พ. 2019 ที่ผ่านมา ซึ่ง Monety ได้โพสต์ไปว่า "ชั้นว่า มันได้เวลาสำหรับชั้น ในการวาดการ์ตูนแนวข่มขืน แล้ว หลังจากวาดภาพหลายภาพที่ไม่ได้แนบไว้ในซอง คงต้องแบ็คอัพกันหน่อยแล้ว" ก่อนที่ Monety จะเขียนตอบกลับอีกว่า "ชั้นล่ะเบื่อที่จะต้องมาวาดภาพล่อแหลมแบบเซฟๆ" และจากทวีตดังกล่าว ก็คาดว่า Ginkyoku คงจะตีความหมายอย่างเตลิด เข้าใจว่า Monety กำลังดูถูกไลท์โนเวลชุดนี้อยู่

ไลท์โนเวลชุดนี้ เป็นเรื่องราวของ Rem เด็กหนุ่มวัย 12 ปี ผู้เลือกที่จะทิ้งพรรคพวกร่วมตี้ หลักจาก ผู้กล้าหญิงได้สั่งให้เขาไปเป็นทาสทางเพศของเธอ Rem กลับมาที่บ้านเกิด แต่กลับถูกหักหลังโดยคนที่เขาไว้ใจ เขาจึงออกเดินทางไปยังเขาวงกต และ ได้ช่วยเหลือเด็กสาวนาม Alicia จากการถูกปิดผนึก ซึ่ง Alicia ได้เรียกเขาว่า "เจ้านาย" พร้อมกับทำพันธสัญญาการเป็นทาสทางเพศด้วยกัน.......โดยเรื่องนี้ได้วางจำหน่ายเล่ม 1 แล้ว เมื่อ พ.ย. 2018 และเดิมทีมีกำหนดจะวางขายเล่ม 2 ในวันที่ 22 ก.พ. 2019 ทว่า ไลท์โนเวลดังกล่าวได้ถูกประกาศยกเลิกในวันดังกล่าว

แหล่งข่าว :  animenewsnetwork



ชื่อยาวจัดนัก.......แฟนคลับไลท์โนเวลบน twitter จัดทำข้อมูลความยาวชื่อไลท์โนเวลญี่ปุ่น

ไลท์โนเวลญี่ปุ่นในยุคหลังๆนั้น ต่างมีเอกลักษณ์เด่นที่บรรดาผู้อ่านจดจำได้ดี นั่นก็คือ ชื่อเรื่องที่ค่อนข้างจะยาว จดจำชื่อเต็มๆได้ยาก (นอกจากชื่อย่อ) ซึ่งบางเรื่องนั้นก็ตั้งชื่อซะยาวเป็นกิโลๆ ใช้ตัวอักษรญี่ปุ่นมากเป็นสิบๆตัว จนแน่นหน้าปก (แถมบางเรื่องนั้น พอมาแปลชื่อเป็นภาษาไทย ก็ดันแปลซะยาวตามไปด้วย บางทีอ่านแล้วก็รู้สึกตลกกับชื่อที่แปลออกมาชะมัด)

และด้วยชื่อเรื่องของไลท์โนเวลที่นับวันจะยาวเหยียด เลยทำให้มีผู้ใช้ twitter รายหนึ่ง นาม @GenreCodeLovers ได้จัดทำข้อมูลสถิติความยาวชื่อเรื่อง (จำนวนตัวอักษร) ของไลท์โนเวลแต่ล่ะเรื่อง ที่มีความสัมพันธ์กับช่วงเวลา โดยเขาได้รวบรวมข้อมูลมาจากเว็บไซต์ Ranobe Mori (Light Novel Forest) เป็นหลัก พร้อมจัดทำออกมาเป็นข้อมูลกราฟต่างๆ ซึ่งพบว่า ความยาวของชื่อเรื่องโดยเฉลี่ย มีการเพิ่มขึ้นทุกปี แถม ช่วงระยะความยาวของชื่อเรื่องนั้น ก็มีช่วงความกว้างมากขึ้นด้วยเช่นกัน

โดยไลท์โนเวลที่เป็นเจ้าของสถิติชื่อยาวที่สุด ที่ถูกระบุไว้ในฐานข้อมูลของเว็บไซต์ Ranobe Mori นั่นคือ Danshi Kōkōsei de Urekko Light Novel Sakka o Shiteiru Keredo, Toshishita no Classmate de Seiyū no Onnanoko ni Kubi o Shimerareteiru. ( I'm A High School Boy and a Successful Light Novel Author, But I'm Being Strangled By A Female Classmate Who's A Voice Actress And Is Younger Than Me) ของ Keiichi Sigsawa ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลที่ปรากฏบนเว็บไซต์ DDNavi เมื่อปี 2014 เลย โดยไลท์โนเวลชื่อยาวเรื่องนี้ ปัจจุบันวางจำหน่ายในบ้านเราแล้ว ในชื่อ "เมื่อหนุ่ม ม.ปลายนักเขียนไลท์โนเวลถูกนักพากย์สาวเพื่อนรวมชั้นอายุน้อยกว่าบีบคอเข้าแล้ว!" ของสนพ.Animag

โดย @GenreCodeLovers ยังได้จัดทำชาร์ทแสดงวามยาวของชื่อเรื่องไลท์โนเวลเรื่องใหม่ๆ ในแต่ละปี ซึ่งพบว่า Sword Art Online Alternative Gun Gale Online หนึ่งในผลงานไลท์โนเวลของ Sigsawa อีกเรื่อง เป็นไลท์โนเวลชื่อยาวที่สุดในปี 2016 ผิดกับ Kino's Journey (การเดินทางของคิโนะ) เป็นไลท์โนเวลที่ใช้ตัวอักษรญี่ปุ่นแค่ 4 ตัวเท่านั้น ซึ่งจัดเป็นหนึ่งในไลท์โนเวลที่มีขนาดชื่อสั้นที่สุดอีกด้วย

การค้นคว้าของ @GenreCodeLovers ต่างได้รับการยืนยันโดยกลุ่มแฟนๆที่ได้ศึกษาในเรื่องเดียวกัน แสดงให้เห็นว่า ค่าเฉลี่ยความยาวโดยเฉลี่ยของชื่อไลท์โนเวล จะเพิ่มขึ้น ไปตามกาลเวลา ซึ่ง Blogger คนหนึ่งได้พบว่า ความยาวชื่อเรื่องเฉลี่ยของไลท์โนเวล ได้เพิ่มขึ้นทุกสามตัวอักษร ในช่วงระหว่างปี 2015 และ 2017 โดยเขาได้เน้นย้ำว่า ไม่ควรข้ามไปสู่ข้อสรุปที่ว่าไลท์โนเวลที่มีชื่อยาวทั้งหมด จะต้องเป็นไปตามเทรนด์ชื่อในเชิง "clickbait" ที่ชักจูงให้อยากเปิดอ่าน ขณะที่ไลท์โนเวลบางเรื่อง เช่น Only Sense Online นั้น มีขนาดชื่อยาวเพียงเพราะเขียนด้วยตัวอักษรคาตาคานะ หรือ ตัวอักษรโรมัน ซึ่งเป็นการจะเพิ่มจำนวนตัวอักษรในภาษาญี่ปุ่นเข้าไปอีก อย่างไรก็ตาม ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ชื่อของไลท์โนเวลนั้น นับวันมีความยาวมากยิ่งขึ้น จริงๆ

แหล่งข่าว :  Ota Quest , animenewsnetwork



ไม่น่าเชื่อว่าจะมีวันนี้..........มังงะ D.N.Angel เดินหน้าสู่บทไคลแมกซ์

นิตยสาร Asuka ฉบับ เม.ย. ที่วางขายไปเมื่อ 23 ก.พ. 2019 ได้เปิดเผยว่า D.N.Angel ผลงานมังงะคู่แฝดทิ้งช่วงยาวของ อ. Yukiru Sugisaki กำลังดำเนินเรื่องราวเข้าสู่บทไคลแมกซ์แล้ว หลังจากมังงะกลับมาเขียนอีกครั้ง หลังหยุดยาวนานไป 7 ปี เมื่อปี 2018 อีกทั้ง นิตยสารดังกล่าว ยังได้ประกาศจัดพิมพ์มังงะเรื่องนี้ ในแบบ Complete Edition ขนาดหน้ากระดาษ A5 มีกำหนดวางจำหน่ายในปี 2020 จำนวน 10 เล่มจบ โดยแต่ละเล่มในแบบ Complete Edition จะมีความยาว 330 หน้า พร้อมกับหน้าปกใหม่ แล้วก็ มังงะตอนใหม่ที่เป็นการเพิ่มบทสรุปที่ค้างๆคาๆ ในฉบับรวมเล่มภาคปกติ

D.N.Angel ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 1997 ก่อนจะหยุดเขียนไปในปี 2005 และกลับมาเขียนอีกครั้งในปี 2008 ก่อนที่จะกลับไปหยุดยาวเป็นคำรบสอง เมื่อปี 2011 และกลับมาเขียนอีกครั้ง เมื่อ พ.ค. 2018 ที่ผ่านมา ซึ่งทาง Kadokawa เตรียมจะตีพิมพ์ ฉบับรวมเล่มที่ 16 ในแบบปกติของเรื่องนี้ ซึ่งถือเป็นของแถมของนิตยสาร Asuka ฉบับ พ.ค. ที่จะวางขายในวันที่ 23 มี.ค. 2019 (เล่มดังกล่าว ทาง Kadokawa ได้วางจำหน่ายแบบดิจิตอลแล้ว เมื่อ 24 ม.ค. 2019 ที่ผ่านมา)

D.N.Angel เป็นเรื่องราวของ Daisuke Niwa เด็กหนุ่มผู้ที่พยายามจะสารภาพรักกับเด็กสาวที่เค้าชอบ แต่ก็ล้มเหลวมาตลอด ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่เค้าคิดถึงเด็กสาวคนนี้ เขาจะกลายร่างเป็น Dark Mousy จอมโจรในตำนาน ....ต่อมา เรื่องนี้ได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเมทีวีโดย Xebec เมื่อปี 2003

แหล่งข่าว :  animenewsnetwork



สมาคมอนิเมชั่นญี่ปุ่น เผย หนุ่มสาวในวงการอนิเม มีรายได้น้อยกว่า เงินเดือนโดยเฉลี่ยของชาวญี่ปุ่น

ข่าวสารเรื่องปัญหาปากท้องของคนวงการอนิเมญี่ปุ่น ก็เกิดขึ้นอย่างเนืองๆ ล่าสุด สมาคมผู้สร้างอนิเมชั่นญี่ปุ่น (JAniCA) ได้เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับสภาพการทำงานของอนิเมเตอร์ประจำปี 2018 เมื่อ 23 ก.พ. 2019 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า คนหนุ่มสาววงการอนิเมยังคงต้องเผชิญกับสภาพการทำงานอันเลวร้ายต่อไป แม้ว่า สภาพการทำงานในปัจจุบันจะมีการปรับปรุงให้เอื้อต่อคนอายุเยอะในวงการ ก็ตาม

รายงานดังกล่าว JAniCA ได้รวบรวมข้อมูลจากผู้ตอบแบบสอบถาม ซึ่งเป็นคนในวงการอนิเม จำนวน 382 คน ซึ่งมีรายได้โดยเฉลี่ยต่อปี ที่ 4,410,000 เยน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่ารายได้โดยเฉลี่ยที่ JAniCA เคยสำรวจไว้เมื่อ 5 ปีก่อน ราว 1 ล้านเยนด้วยกัน ขณะที่ รายได้เฉลี่ยของแต่ละตำแหน่งงานในวงการอนิเม กลับเพิ่มขึ้นจนถึงอย่างน้อย 90,000 เยน เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนหนุ่มสาวในวงการอนิเม ช่วงอายุ 20-24 ปี ยังคงได้รับค่าจ้างที่น้อยกว่าที่ควรจะเป็น โดยพวกเขามีรายได้เฉลี่ยต่อปี 1,550,000 เยน ซึ่งน้อยกว่า เงินเดือนเฉลี่ยของชาวญี่ปุ่นวัยเดียวกัน อยู่ที่ราว 1 ล้านเยน

ขณะที่ กลุ่มผู้สูงอายุในวงการอนิเม กลับมีรายได้ที่ดีกว่า รายได้โดยเฉลี่ยของชาวญี่ปุ่น พบว่า คนวงการอนิเมวัย 60-64 ปี มารายได้เฉลี่ยต่อปี ที่ 5,920,000 เยน มากกว่า รายได้เฉลี่ยของชาวญี่ปุ่นอยู่ถึง 1,960,000 เยน อีกทั้ง รายได้เฉลี่ยของคนวงการอนิเมทุกกลุ่มอายุ จำนวน 4,410,000 เยนนั้น ก็มากกว่า รายได้เฉลี่ยของชาวญี่ปุ่น เพียงเล็กน้อย ที่ 88,000 เยน อย่างไรก็ตาม JAniCA ระบุว่า งานวาดภาพและอนิเมชั่นจำนวนมากในอุตสาหกรรมอนิเมนั้น ต่างรับหน้าที่โดยกลุ่มคนหนุ่มสาวช่วงอายุ 20 ปี ผู้มีรายได้ต่ำ การค้นพบครั้งนี้ ทำให้เกิดการอภิปรายเกี่ยวกับความยากลำบากในการฝึกอบรมอนิเมเตอร์หนุ่มสาว พร้อมกับการพยายามรักษาคนกลุ่มนี้ให้อยู่ในวงการนี้ต่อไป

Yasuhiro Irie ผกก.จาก Fullmetal Alchemist: Brotherhood และเป็นตัวแทนของ JAniCA ได้กล่าวว่า "แม้ว่า การสำรวจครั้งนี้จะบ่งบอกถึงการปรับปรุงพัฒนาที่เกิดขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แต่ก็มีหลายคนที่ยังคงไม่ได้รับสวัสดิการที่ดีเท่าที่ควร ผมอยากจะสร้างวงการนี้ให้เป็นสถานที่สำหรับผู้คนให้เข้ามาทำงานมากยิ่งขึ้นอย่างง่ายดาย"

แหล่งข่าว :  NHK News Web , JAniCA report , animenewsnetwork


สิ้น Yasuta Sato ผู้ก่อตั้ง Takara บริษัทของเล่นยักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่น

สำนักข่าว NHK ได้รายงานข่าวเศร้าของวงการของเล่นญี่ปุ่นว่า Yasuta Sato ผู้ก่อตั้ง Takara บริษัทของเล่นรายใหญ่ในญี่ปุ่น ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ จากโรคชรา ด้วยวัย 94 ปี โดยพิธีศพของเขาจะจัดขึ้นเฉพาะสมาชิกในครอบครัวเท่านั้น และจะมีการจัดพิธีอำลาอาลัยดวงวิญญาณของเขาอย่างเป็นทางการในภายหลัง

Sato เกิดที่ จ.ฟุคุชิมะ และเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท TAKARA Co., Ltd. (Satoh Vinyl Industries, Ltd.) เมื่อปี 1955 ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น Takara ในปี 1967 โดยมีสินค้าหลักคือแบรนด์ของเล่นดังจำนวนหนึ่ง อาทิ ตุ๊กตา "Licca-chan" , บอร์ดเกม "LIFE", และ รถของเล่นมินิคาร์ "Choro-Q" (Penny Racers) ต่อมา Takara ได้เข้าสู่ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เมื่อปี 1986

หลังจาก Sato ได้ประกาศเกษียณตัวเองจากบริษัทอีกครั้ง เมื่อปี 2002 (ก่อนหน้านี้ เคยประกาศเกษียณเมื่อปี 1994 ก่อนจะกลับมาดำรงตำแหน่งประธาน และ CEO ของ Takara อีกครั้ง ช่วงปี 1999-2000) เขาสามารถคว้าปริญญาเอกสาขาวิศวกรรม จากมหาวิทยาลัยยามางาตะ และเป็นอาจารย์พิเศษสอนวิชาด้านการจัดการธุรกิจที่มหาวิทยาลัยดังกล่าว

ต่อมา Takara ได้ควบรวมกิจการกับ Tomy หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตของเล่นรายใหญ่ของญี่ปุ่น ภายใต้ชื่อ Takara Tomy (หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ Tomy Co. ในต่างประเทศ ) เมื่อปี 2006 ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว Tomy จัดเป็นผู้ผลิตของเล่นรายใหญ่ในญี่ปุ่นเป็นอันดับ 2 เป็นรองแค่ Bandai ในขณะที่ Takara เป็นผู้ผลิตของเล่นรายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น ซึ่ง Takara Tomy เป็นผู้ดูแลแบรนด์ของเล่นนานาชนิด อาทิ Transformers, Zoids, Duel Masters Trading Card Game, WIXOSS, และ Pokémon รวมไปถึง ได้ร่วมงานกับ syn Sophia ในการผลิตสินค้าของเล่นของ Pretty Rhythm โดยมีสตูดิโออนิเม เป็นบริษัทลูกของ Takara Tomy นับตั้งแต่ที่ทั้ง 2 บริษัทรวมตัวกัน เมื่อปี 2006 อีกทั้ง Takara Tomy ยังเป็นผู้สร้างของเล่น และ สื่อผสมของ Shinkalion และ Tomica Hyper Rescue Drive Head Kidō Kyūkyū Keisatsu อีกด้วย

แหล่งข่าว :  NHK News Web , Kyudo News , Transformers World 2005 , Helen McCarthy , animenewsnetwork



ผลรางวัล Tokyo Anime Awards 2019

Animation of the Year / อนิเมชั่นแห่งปี
Detective Conan Movie 22: Zero The Enforcer (ภาพยนตร์)
Zombieland Saga (โทรทัศน์)

Fan Award
Banana Fish (Television)

รางวัลประเภทบุคคล
ผู้กำกับยอดเยี่ยม : Yoshiaki Kyougoku (Yuru Camp△)
บท / เนื้อหาต้นฉบับ ยอดเยี่ยม : Jukki Handa (Kyoukai no Kanata series)
อนิเมเตอร์ยอดเยี่ยม : Hitomi Kariya (Brade Smash game animation movie)
แสดงและขับร้องยอดเยี่ยม : Mamoru Miyano (Ajin series)

รางวัลชมเชย
Character Designer: Kunio Okawara (Gundam Build Divers)
อนิเมเตอร์ : Osamu Kobayashi (Mahou no Tenshi Creamy Mami), Tsuneo Ninomiiya (Nanako SOS)
เขียนบท : Akiyoshi Sakai (Cyborg 009 (TV)), Kazuo Fukazawa (Haha wo Tazunete Sanzenri)
นักพากย์ : Kazuko Sugiyama (Alps no Shoujo Heidi)
โปรดิวเซอร์ : Shigehito Takahashi (Alps no Shoujo Heidi)
กำกับภาพ : Hirokata Takahashi (Lupin III: Cagliostro no Shiro)
ผู้กำกับ : Hisayuki Toriumi (Kagaku Ninja-tai Gatchaman series)
นักร้อง : Mitsuko Horie (Himitsu no Akko-chan 2)

detective conan : zero the enforcer

แหล่งข่าว :  Tokyo Anime Awards



ผลรางวัล Japan Media Arts Festival Award ครั้งที่ 22

ประเภทอนิเมชั่น

รางวัลชนะเลิศ
La Chute by Boris Labbe (ฝรั่งเศส)

รางวัลยอดเยี่ยม
Otona no Tame no Grimm Douwa: Te wo Nakushita Shoujo by Sébastien Laudenbach (ฝรั่งเศส)
Hisone to Maso-tan by Shinji Higuchi (ญี่ปุ่น)
Penguin Highway by Hiroyasu Ishida (ญี่ปุ่น)
Wakaokami wa Shougakusei! Movie by Kitarou Kousaka (ญี่ปุ่น)

รางวัลหน้าใหม่
Toumei Ningen by Akihiko Yamashita (ญี่ปุ่น)
Am I a Wolf? by Amir Houshang Moein (อิหร่าน)
The Little Ship by Anastasia Makhlina (รัสเซีย)

ประเภทมังงะ

รางวัลชนะเลิศ
Origin by Boichi (เกาหลีใต้)

รางวัลยอดเยี่ยม
Uchuu Senkan Tiramisù by Satoshi Miyagawa and Kei Itou (ญี่ปุ่น)
Nagi no Oitoma by Misato Komari (ญี่ปุ่น)
Momo to Manji by Sawa Sakura (ญี่ปุ่น)
Yuugure e by Nazuna Saitou (ญี่ปุ่น)

รางวัลหน้าใหม่
Kiiroi Enban by Tenshin Kijima (ญี่ปุ่น)
Mienai Chigai: Watashi wa Asperger by Julie Dachez and Mademoiselle Caroline; Translation by Masato Hara (ฝรั่งเศส)
Metamorphose no Engawa by Kaori Tsurutani (ญี่ปุ่น)

 

แหล่งข่าว :  Japan Media Arts Festival Award



 

10 อันดับ มังงะ ขายดีที่ญี่ปุ่น โดย Oricon : 11-17 ก.พ. 2019

มังงะ

(อันดับ / ยอดขายประจำสัปดาห์ / ยอดขายรวม / เรื่อง - เล่มที่)

*1. 132,560 *,142,239  Mix เล่ม 14
*2. 125,609 *,125,609   The Quintessential Quintuplets เล่ม 8
*3. 111,282 *,497,799  My Hero Academia เล่ม 22
*4. 109,965 *,109,965  Karakai Jōzu no Takagi-san แกล้งนัก รักนะ รู้ยัง? เล่ม 10
*5. *95,430 *,464,621  Haikyu!! คู่ตบฟ้าประทาน เล่ม 36
*6. *89,835 *,*89,835  Karakai Jōzu no (Moto) Takagi-san เล่ม 4
*7. *60,914 *,265,620  Rurouni Kenshin ซามูไรพเนจร : Hokkaido Arc เล่ม 2
*8. *56,967 *,229,634  D.Gray-man เล่ม 26
*9. *56,110 *,*56,110  Boarding School Juliet รักลับๆ ข้ามหอ ของนายหมากับน้องแมว เล่ม 12
10. *49,415 *,*49,589  Nobunaga Concerto เล่ม 18


แหล่งข่าว : Oricon


 
free hit counter javascript