บอกเล่าข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 9-15 มีนาคม 2563

บอกเล่าสรุปข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ กลับมาอีกครั้ง .......ในช่วงเวลาที่เรียกว่าทั่วโลกกำลังตกอยู่ในวิกฤติการระบาดของ COVID-19 และที่สำคัญ ก็เริ่มมีบุคคลผู้มีชื่อเสียงทยอยกันติดเชื่อนี้กันมากขึ้น และยังส่งผลให้บรรดาคอกีฬาพากันเซ็ง เมื่อฟุตบอลลีกยุโรปพากันหยุดแข่งชั่วคราว เช่นเดียวกับ บาส NBA ของอเมริกา ก็หยุดแข่งด้วยเช่นกัน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เชื้อไปแพร่ระบาดไปกว่านี้ และจากสิ่งที่เกิดขึ้น ขอให้เป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ทั่วโลก ต่อสู้กับไวรัสตัวร้ายนี้กันอย่างอยู่หมัด เช่นเดียวกับเราๆท่านๆ ที่ต้องดูแลสุขภาพตัวเองอย่างเคร่งครัด ทั้งสวมหน้ากาก , กินร้อน , ใช้ช้อนกลาง , เลี่ยงไปสถานที่แออัด , ใครไปสถานที่สุ่มเสี่ยงติดเชื่อ ก็ต้องยอมกักตัวเองอยู่ที่พัก ห้ามออกไปไหนเพ่นพ่าน ส่วนภาครัฐเราเอง ก็ขอให้แก้ปัญหาให้ตรงจุด ให้ถูกให้ควร ไม่ใช่มัวแต่พูดให้มั่นใจในรบ. อย่างเดียว ทั้งที่ๆไม่ออกมาปฏิบัติอะไรให้ปชช.ได้เห็นชัดว่า พวกคุณได้ทำงานกันจริงๆ!!!! (มีแต่สร้างเรื่อง สร้างปัญหา ซะจนปชช.ยากที่จะมั่นใจล่ะ) ส่วนสื่อและฟากการเมืองตรงข้าม ตอนนี้ จะทำอะไรก็ต้องช่วยๆกัน ควรให้คำแนะนำที่มีประโยชน์โดยรวมบ้าง ไม่ใช้คิดแต่จะปล่อยข่าวสร้างความวิตก หวั่นกลัว แตกแยก หรือ คิดจะจ้องล้มรบ.อยู่อย่างเดียว!!!!!!

สำนักข่าว K-D News (kartoon-discovery.com)
สามารถอัพเดทข่าวสารเว็บเราได้ผ่าน Twitter และ Facebook


หากนำข่าวจากเราไปเผยแพร่ที่อื่น รบกวนใส่เครดิตให้กับทางเราด้วยครับ ขอบคุณครับ

New Release Comics of the Week : แผนการแรกของคู่พี่น้อง กับ ผ่าพิภพไททัน 30

การ์ตูนออกใหม่ ประจำสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่มีเรื่องน่าสนใจเพียงน้อยนิด

เริ่มจาก ผ่าพิภพไททัน เล่ม 30 แผนการที่จี๊คมอบหมายให้เอเลนทำ คือการทำให้ชาวเอลเดียทุกคนตายอย่างสงบ ผู้ที่กำกุญแจของแผนการนั้นอยู่ก็คือเอเลนผู้มีพลังของไททันผู้เป็นบรรพบุรุษแรกเริ่ม กับจี๊คซึ่งเป็นไททันที่สืบทอดสายเลือดของราชวงศ์ จี๊คซึ่งฝ่าวงล้อมของกองทหารทีมสำรวจของพวกรีไวมาได้จนได้รับอิสรภาพ แต่กองทัพเมอเร่ก็ปรากฏตัวขึ้นในตอนนั้น จี๊คกับเอเลนจะสามารถสัมผัสตัวกันได้สำเร็จหรือไม่.....

Spy x Family เล่ม 2 ตระกูลฟอเจอร์สอบเข้าโรงเรียนดัง เพื่อทำภารกิจปกป้อง ความสงบสุขระหว่างออสทาเนียและเวสทาลิส แต่เพื่อเข้าใกล้เป้าหมายเดสมอนต์ อาเนียจะต้องเป็นนักเรียนดีเด่นให้ได้!! สนธยาจึงเริ่มปฏิบัติการ "แผนตีสนิทชิดเชื้อ"...!?

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ:

xxxHOLiC Rei เล่ม 4 , กะแล้วชีวิตรักวัยรุ่นของผมมันต้องไม่สดใสเลยสักนิด -monologue- เล่ม 10 ,ถักทอฝันสู้รันเวย์ เล่ม 5 , นิยาย Strike The Blood ราชันย์โลหิตรัตติกาล เล่ม 8

รูปภาพหน้าปก : amazon.co.jp



หนี COVID-19... อนิเม Re:ZERO ซีซั่น 2 เลื่อนฉายทางทีวี ในเดือน ก.ค. 2020 แทน

ไวรัส COVID-19 ยังคงส่งผลกระทบต่อการผลิต และ การออกอากาศอนิเมญี่ปุ่นกันอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด มีการยืนยันจากเว็บไซต์หลักของอนิเม Re:ZERO รีเซทชีวิต ผ่าวิกฤติต่างโลก ว่า อนิเมซีซั่น 2 ของเรื่องนี้ จะเลื่อนการออกอากาศ ปรับเปลี่ยนช่วงฤดูกาลของตัวเอง จากเดิมที่มีกำหนดฉายในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เดือนเม.ย. 2020 ที่จะถึงนี้ ไปเป็นช่วงฤดูร้อน ในเดือน ก.ค. 2020 แทน

ทีมงานผู้ผลิต Re:ZERO ได้ออกมาชี้แจงบนเว็บไซต์ว่า เนื่องด้วยการระบาดของ coronavirus ไปทั่วโลก จนส่งผลกระทบอย่างหนักต่อตารางการผลิตอนิเม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการที่อนิเมเรื่องนี้ ได้ใช้ outsource จากประเทศจีน มาร่วมด้วยช่วยผลิตอนิเมด้วย เฉกเช่นเดียวกับงาน AnimeJapan 2020 ที่ได้ประกาศยกเลิกไปเช่นกัน ซึ่งทางทีมผู้สร้างกำลังวางแผนที่จะออกอากาศอนิเมชุดนี้ ในเดือน ก.ค. 2020 แทน ส่วนข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดตามกันได้ทางเว็บไซต์และสื่อโซเชียลหลักของอนิเม

นอกจากอนิเมต่างโลกเรื่องดังเรื่องนี้ จะเลื่อนการออกอากาศซีซั่น 2 แล้ว ยังส่งผลทำให้ แผ่นซีดีเพลงเปิด-ปิดของอนิเมซีซั่น 2 Re:ZERO อันประกอบด้วย Realize" ของ Konomi Suzuki และ เพลงปิด "Memento"
ของ nonoc จะเลื่อนการวางจำหน่ายออกไปอย่างไม่มีกำหนด จากเดิมที่มีกำหนดวางขายในวันที่ 26 ส.ค. 2020 กับ 2 ก.ย. 2020 ตามลำดับ


แหล่งข่าว :  Re:ZERO 's website , Crunchyroll

 



นักพากย์สาว Megumi Ogata ขอร้องแฟนๆ ให้เข้าใจทีมผู้สร้างอนิเม จากกรณี COVID-19 ระบาดอย่างหนัก

ต่อเนื่องจากข่าวข้างบน จากการระบาดของ COVID-19 ได้ส่งผลกระทบต่อการผลิตอนิเม ในแง่ของ การผลิต และ การจัดส่งวัตถุดิบ (ซึ่งมาจาก outsource ต่างประเทศ เช่น จีน หรือ เกาหลี เป็นต้น) จนส่งผลต่อเนื่องถึงการออกอากาศอนิเมทีวีจำนวนหนึ่ง ที่จำต้องเลื่อนการออกอากาศตอนล่าสุด หรือ ย้ายซีซั่นไป อาทิ To Aru Kagaku no Railgun T , Infinite Dendrogram , Re:ZERO และ The Misfit of Demon King Academy ไม่เพียงเท่านั้น ยังส่งผลไปถึงหนังอนิเมบางเลื่อน ที่ต้องเลื่อนการฉายบนโรงในญี่ปุ่น อย่างไม่มีกำหนด อาทิ including Eiga Doraemon: Nobita no Shin Kyoryū (Doraemon the Movie: Nobita's New Dinosaur) , Shimajirō to Sora Tobu Fune (Shimajirō and the Flying Ship) และ Movie PreCure Miracle Leap: A Wonderful Day with Everyone เป็นต้น ซึ่งจากข้างต้น ก็คงทำเอาคออนิเมบางส่วน รู้สึกเซ็ง หัวเสีย กันไปบ้าง

และเพื่อให้แฟนๆอนิเม ได้ทำความเข้าใจกับวิกฤติที่เกิดขึ้น ซึ่งทำเอาตารางการออกอากาศอนิเมถึงคราปั่นป่วนไปหมด Megumi Ogata นักพากย์สาวจาก Evangelion กับ Toilet-Bound Hanako-kun จึงได้ออกมาโพสต์ชี้แจงถึงเรื่องนี้บน twitter ของตัวเอง พร้อมกับขอร้อง ไม่ให้แฟนๆได้ตื่นตระหนก หรือ ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ใดๆ

ถึง ทุกคน ผู้รักอนิเม

ชั้นคิดว่า มันมีหลากหลายความรู้สึกที่เกิดขึ้นในตอนนี้ แต่ได้โปรดอย่าพูดในทำนอง "sakuga hōkai" ( คุณภาพอนิเมตกลง) หรือ "อยู่กับที่" ออกมาเลยนะ ซึ่งจากสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งใน จีน เกาหลี และประเทศอื่นๆ มันช่างน่าเหลือเชื่อนะ ที่ยังมีเรื่องที่ยังสามารถออกอากาศได้ ในขณะเดียวกัน การหยุดทำการผลิตเนี่ย มันได้สร้างความเจ็บปวดให้กับทุกคนที่ร่วมทำงานด้วยกัน เช่นกัน ซึ่งเรากำลังพยายามทำงานกันอย่างหนักให้ได้มากที่สุด เท่าที่เราจะทำได้


แหล่งข่าว : Anime News Network


ในความโชคร้าย ก็มีข่าวดี....เมื่อ Railgun T จะกลับมาฉายตอนที่ 8 ตามปกติ 20 มี.ค. 2020

ในขณะที่การระบาดของ COVID-19 ทำเอาอนิเมทีวี กับ หนังอนิเม จำนวนหนึ่ง ต้องเลื่อนการออกอากาศไป เช่นเดียวกับ อนิเม To Aru Kagaku no Railgun T อนิเมทีวีซีซั่นที่ 3 ของ Railgun ที่เจอผลกระทบจากไวรัสร้าย ซะจนต้องเลื่อนการออกอากาศถึง 2 ครั้ง ในตอนที่ 7 และ ตอนที่ 8 โดยที่อนิเมดังกล่าว เลือกที่จะฉายรายการพิเศษ 2 สัปดาห์ติดกัน ในช่วงที่ตอนที่ 8 ยังไม่ได้ออกอากาศ

อย่างไรก็ตาม แฟนคลับของสาวน้อยเปรี้ยะๆ ก็ได้ยิ้มออก เมื่อมีการยืนยันว่า Railgun T จะกลับมาฉายตอนที่ 8 ตามปกติ ในวันที่ 20 มี.ค. 2020 ส่วนตอนอื่นๆหลังจากนี้ จะฉายตามปกติหรือไม่นั้น ก็ต้องติดตามข่าวกันต่อไป


แหล่งข่าว :  Crunchyroll



มุ่งหน้าสู่ Koshien บนจอ Only!!!....... NHK รีรันอนิเมทีวี MAJOR 2nd ซีซั่นแรก แทนการถ่ายทอดสด ศึกเบสบอลชิงแชมป์ม.ปลายญี่ปุ่น

COVID-19 กำลังระบาดอย่างหนักทั่วโลก ซะจนตอนนี้ มีบุคคลในวงการกีฬาโลกส่วนหนึ่ง ได้ทยอยติดเชื่อกัน และทำให้หลายประเทศได้ประกาศหยุดทำการแข่งขันกีฬาอาชีพต่างๆ เช่น ฟุตบอลลีก หรือ บาสเก็ตบอลลีก เช่นเดียวกับญี่ปุ่น ที่ได้มีการหยุดจัดการแข่งขันกีฬาประเภทต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดของเชื่อไวรัส COVID-19 ไปมากกว่านี้ ทั้งฟุตบอลเจลีก ยันจนถึง ทัวร์นาเม้นท์ชิงแชมป์เบสบอล รร. ม.ปลาย ระดับประเทศญี่ปุ่น ครั้งที่ 92 ได้ประกาศยกเลิกการแข่งขันกันเป็นที่เรียบร้อย จากเดิมที่มีกำหนดแข่งขันกัน ณ สนาม Hanshin Koshien จ.เฮียวโก ในวันที่ 19 มี.ค. 2020 และมีกำหนดจะจัดการแข่งขันถึง 13 วัน

อย่างไรก็ตาม แม้ทัวร์นาเม้นท์เบสบอล ม.ปลาย จะถูกยกเลิก แต่ทางช่อง NHK General TV ยังคงให้บรรดาเด็ก-เยาวชนชาวญี่ปุ่น มีแรงบันดาลใจในการสานความฝันสู่สนาม Koshien!! (ตามที่มังงะเบสบอลหลายเรื่อง มักชอบกล่าวถึง) กันอย่างต่อเนื่อง ด้วยการออกอากาศรีรัน อนิเมแนวเบสบอลเรื่อง MAJOR 2nd ซีซั่นแรก ตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนจบ ในช่วงวันที่ 19-22 มี.ค. 2020 เวลา 13.05 -14.55 น. (โดยจะฉายวันละ 4 ตอน ยกเว้นวันที่ 21 มี.ค. 2020 ที่จะฉายแค่ 2 ตอน ในตอนที่ 9 และ 10 เท่านั้น) ซึ่งเป็นการเรียกน้ำย่อย ก่อนอนิเมซีซั่น 2 ของเรื่องนี้ จะออกอากาศต่อ ทางช่อง NHK Educational TV เริ่ม 4 เม.ย. 2020

MAJOR 2nd เป็นมังงะ-อนิเมภาคต่อของ MAJOR โดยเคยออกอากาศอนิเมซีซั่นแรกไป ในช่วงเดือน เม.ย. - ก.ย. 2018 ทางช่อง NHK Educational TV เป็นเรื่องราวของ Shigeno Daigo บุตรชายของ Shigeno Goro พระเอกของภาคแรก ซึ่ง Daigo เป็นเด็กชั้นประถม ผู้อยากจะตามรอยคุณพ่อ ผู้เคยไปเล่นเบสบอลอาชีพระดับ Major League สหรัฐ ด้วยการเข้าร่วมทีม Mifune Dolphins ทีมในระดับลีกเยาวชน แต่ทว่า ความจริงมันช่างโหดร้าย เพราะเค้ามิอาจใช้ชีวิตด้วยความคาดหวังของใครต่อใคร จากการที่ตนเป็นลูกของนักเบสบอลอาชีพ เขาจึงตัดสินใจเลิกเล่นเบสบอลไป แต่ทว่า จากการมาของ Sato Hikaru นักเรียนแลกเปลี่ยนจากอเมริกา ผู้เป็นบุตรของ Sato Toshiya อดีตนักเบสบอล Major League และเป็นเพื่อนสนิทของ Goro ก็ทำให้โชคชะตาของ Daigo เปลี่ยนไปอีกครั้ง



แหล่งข่าว : NHK ,  Crunchyroll

 



 

Hiroshi Abe ยังคงแสดงนำ ในละครคนแสดงภาคใหม่ของ Dragon Zakura "นายซ่าท้าเด็กแนว"

Dragon Zakura Two มังงะภาคต่อของ Dragon Zakura หรือ นายซ่าท้าเด็กแนว ได้ตามรอยมังงะภาคแรก ด้วยการประกาศจัดทำในรูปแบบละครซีรี่ย์คนแสดง มีกำหนดออกอากาศทางช่อง TBS ช่วงซัมเมอร์ 2020 โดยละครซีรี่ย์ภาคใหม่นี้ ยังคงได้ Hiroshi Abe (Still Walking, Thermae Romae) มาแสดงนำในบทบาทของ Kenji Sakuragi อดีตนักซิ่ง ผู้ผันตัวเป็นอาจารย์ ผู้มีเทคนิคแพรวพราวในการติว-แนะแนวทางการศึกษา ให้แก่นักเรียน ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย เช่นเคย ซึ่งละครชุดนี้ จะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น 10 ปีให้หลัง จากละครซีรี่ย์ชุดแรกสุด

อ.Norifusa Mita ได้เขียนมังงะ Dragon Zakura Two ลงในนิตยสาร Morning ตั้งแต่ ม.ค. 2018 เป็นต้นมา เป็นเรื่องราวของ Sakuragi ที่คัมแบ็คมายังโรงเรียน Ryuzan อีกครั้ง เพื่อกอบกู้วิกฤติการศึกษาที่เกิดขึ้นในโรงเรียน โดยได้ Mizuno อดีตลูกศิษย์ของเขา มาร่วมด้วยช่วยต่อสู้กับปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในโรงเรียนแห่งนี้ ที่มาจากนักเรียนผู้ไม่แยแส กับ "จักรพรรดินี" หรือ ตัวแทนผู้บริหารโรงเรียน ผู้ใช้อำนาจเกินของเขต ซึ่งรับรองได้ว่ามังงะภาคนี้ จะช่วยให้คนอ่านสามารถสอบเข้า ม.โตเกียว ได้อย่างง่ายดาย ไม่แพ้ภาคแรก

ส่วน Dragon Zakura ภาคแรก อ.Mita เขียนขึ้นเมื่อปี 2003-2007 โดยสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศของ Kodansha Manga Award มาครองได้ ซึ่งต่อมาถูกสร้างเป็นละครซีรี่ย์ เมื่อปี 2005 กับ 2010 รวมถึงฉบับคนแสดงของ Angel Bank: Dragon Zakura Gaiden มังงะภาคสปินออฟของเรื่องนี้ เมื่อปี 2010 ไม่เพียงแต่จะถูกดัดแปลงเป็นละครซีรี่ย์ญี่ปุ่นแล้ว เรื่องนี้ยังเคยถูกสร้างเป็นละครซีรี่ย์เกาหลี เมื่อปี 2010 รวมถึง ละครซีรี่ย์จีน โดยกลุ่มยริษัท Alibaba ที่เคยมีการรายงานเมื่อปี 2015 .... โดยฉบับมังงะของเรื่องนี้ ครั้งนึงเคยมีลิขสิทธิ์ในบ้านเรา ของ สนพ.เนชั่นฯ

แหล่งข่าว : Comic Natalie , Anime News Network



ฝาท่อตัวละคร Lucky Star ฉลองครบรอบ 10 ปี เมือง Kuki

เมืองต่างๆในญี่ปุ่น ต่างก็มีการตกแต่งฝาท่อระบายน้ำในเมือง ให้มีลวดลายโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ อันเป็นสัญลักษณ์เฉพาะตัวที่บ่งบอกถึงเมืองนั้นๆ อย่างไรก็ตาม ก็มีบางเมืองที่ได้หยิบเอาตัวการ์ตูนจากมังงะ-อนิเม ที่ถูกนำไปใช้เป็นฉากหลัง มาประดับฝาท่อด้วย เช่นกัน ซึ่งตัวการ์ตูนที่ได้รับเกียรติให้กลายเป็นฝาท่อประจำเมือง ประกอบด้วย Pokemon , JoJo และ Love Live! Sunshine (ซึ่งเรื่องหลัง เคยถูกพวกแอนตี้ เอาสเปรย์มาฉีดบบฝาท่อ จนได้รับความเสียหาย มาแล้ว)

ล่าสุด เมือง Kuki จ.ไซตามะ ได้เฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 10 ปี ของการควบรวมเมืองกัน ระหว่าง Shobu, Kurihashi และ Washimiya ด้วยการหยิบเอาตัวละครจาก Lucky Star มังงะ-อนิเม ที่มีถิ่นกำเนิดที่เมืองนี้ (รวมถึง ศาลเจ้าที่ปรากฏในเรื่อง) มาประดับประดาบนฝาท่อของเมือง ซึ่งทาง Akihiro Kamijo นักการเมืองท้งถิ่นประจำเมืองแห่งนี้ ได้แชร์ภาพฝาท่อ ซึ่งเป็นภาพของ Kagami Hiiragi กับ Tsukasa Hiiragi ลงบนสื่อโซเชียลตัวเอง

Lucky Star จัดเป็นอนิเมที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของกิจกรรมการท่องเที่ยวตามรอยอนิเม จากการที่ศาลเจ้า Washinomiya ศาลเจ้าเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในเขตปริมณฑลกรุงโตเกียว ได้ถูกใช้เป็นฉากหลังของอนิเมดาวโชคดี ซะจนทำเอาแฟนๆนับแสนคน ต่างเดินทางมาท่องเที่ยว เยี่ยมเยียน สักการะ ศาลเจ้าแห่งนี้กันอย่างคับคั่ง ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา




แหล่งข่าวละทวีต : Otakomu , Anime News Network



365 Days to the Wedding ผลงานมังงะเรื่องใหม่ล่าสุดของผู้แต่ง "เซียนเกมรัก ขอเป็นเทพนักจีบ"

นิตยสาร Big Comic Spirits ฉบับที่ 15 ได้แจ้งว่า อ.Tamiki Wakaki นักเขียนมังงะ ผู้เป็นที่รู้จักจากผลงานเรื่อง The World God Only Knows หรือ เซียนเกมรัก ขอเป็นเทพนักจีบ กำลังจะมีผลงานมังงะเรื่องใหม่ล่าสุด กับ Kekkon Surutte, Hontō desu ka?: 365 Days To The Wedding (Are You Really Getting Married?: 365 Days To The Wedding) หรือเรียกชื่อไทยอย่างสั้นๆกระชับว่า "365 วัน สู่วันวิวาห์" มีกำหนดตีพิมพ์ตอนแรกในนิตยสารดังกล่าว ฉบับที่ 16 ที่จะวางขายในวันที่ 16 มี.ค. 2020 ซึ่งผลงานเรื่องใหม่นี้ เป็นแนวโรแมนติคคอเมดี้ ว่าด้วยเรื่องราวของหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่มีเวลาเพียง 1 ปี ในการเตรียมเข้าสู่ประตูวิวาห์ ซึ่งตลอดระยะเวลาการเตรียมใช้ชีวิตข้าวใหม่ปลามัน ทั้งคู่ก็ได้ตั้งคำถามต่างๆมากมาย ทั้ง "แต่งงานแล้ว จะมีความสุขจริงหรือ?" "และถ้าหากไม่แต่งงาน จะเกิดความเสียงอย่างงั้นเหรอ?"

หลังจาก เซียนเกมรัก ขอเป็นเทพนักจีบ จบลงไปเมื่อปี 2014 อ.Wakaki ก็มีผลงานการ์ตูนออกมาจำนวนหนึ่ง ซึ่งรวมไปถึง King of idol ซึ่งเคยตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Shonen Sunday ช่วงปี 2017-2018

แหล่งข่าว : Big Comic Spirit , Anime News Network



Update ผลงานมังงะเรื่องใหม่ของผู้แต่ง "ไอด้อลสุดซ่าส์ ป๊ะป๋าสั่งลุย" และ ผู้แต่ง "รักโรคจิต"

นิตยสาร Young Magazine ฉบับที่ 15 ได้แจ้งว่า อ.Jasmine Gyuh ผู้แต่งเรื่อง Back Street Girls หรือ ไอด้อลสุดซ่าส์ ป๊ะป๋าสั่งลุย จะมีผลงานมังงะเรื่องใหม่ล่าสุด ที่มีชื่อว่า Kenshirō ni Yoroshiku (Give My Regards to Kenshirō) โดยมีกำหนดตีพิมพ์ 2 ตอนแรก ลงในฉบับที่ 16 ของนิตยสารดังกล่าว ที่จะวางขายในวันที่ 16 มี.ค. 2020

โดยผลงานเรื่องใหม่ดังกล่าว ยังคงเป็นแนวตลกสไตล์โหดๆ บ๊องๆ บวมๆ เหมือน Back Street Girls เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มผู้สาบานว่าจะแก้แค้นพวกยากูซ่าให้ได้ เขาก็เลยพยายามเรียนรู้วิชา "หมัดสังหาร" ตามวิธีของเขา (หากดูจากชื่อเรื่องนี้ คงจะเดากันออกล่ะ ว่า เลียนแบบ ลุง Kenshiro แหงๆ) จนกระทั่งโตมาเป็นผู้ใหญ่ เขาจึงรับรู้มาจากอีกคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้เชี่ยญชาวศิลปะการต่อสู้ ว่า วิชาเพลงหมัดของเขา มันไม่สามารถฆ่าคนได้!!


ขณะเดียวกัน นิตยสาร Bessatsu Shōnen Magazine ฉบับ เม.ย. ได้แจ้งว่า อ. Shūzō Oshimi ผู้แต่งมังงะ Aku no Hana หรือ รักโรคจิต มีผลงานมังงะเรื่องใหม่ล่าสุด ที่มีชื่อว่า Okaeri Alice (Welcome Back Alice) ในนิตยสารดังกล่าว ฉบับเดือน พ.ค. ที่จะวางขายในวันที่ 9 เม.ย. 2020

โดยมังงะเรื่องนี้ เป็นแนวตลก นำเสนอผ่านตัวละคร Yōhei, Kei, และ Yui ซึ่งล้วนเป็น เด็ก ม.ต้น ขี้อาย โดยทั้ง 3 คนนี้รู้จักกันและอยู่ด้วยกันมาตลอดตั้งแต่สมัยอนุบาล จนกระทั่ง Yōhei เริ่มรู้ตัวว่า แท้จริงแล้ว Yui เป็นเด็กผู้หญิง นั่นก็ทำให้เขาได้รู้เห็นในฉากหรือเหตุการณ์ต่างๆอันสุดแสนจะเหลือเชื่อ!!


แหล่งข่าวและรูปภาพ : Anime News Network #1 , Anime News Network #2


เผย Hayao Miyazaki ไม่รู้จักบริการสตรีมมิ่ง !?

Hayao Miyazaki ผู้ร่วมก่อตั้งและผกก.มือทองแห่ง Studio Ghibli แม้ว่าจะเป็นผกก.ที่สร้างสรรค์ผลงานหนังอนิเมเรื่องเยี่ยม หลายต่อหลายเรื่อง จนคออนิเมทั่วโลก ต่างให้การยอมรับ แต่ตัวเขานั้น ก็ยังขึ้นชื่อลือชาว่า เป็นคนที่ไม่ค่อยรู้จัก และ ไม่สนใจในเทคโนโลยีสมัยใหม่เท่าไหร่ด้วยเช่นกัน ... และดูท่าว่าเสียงลือเสียงเล่าอ้างอันหลังต้นนั้น ก็ค่อนข้างจะเป็นจริงซะด้วย เพราะได้มีการเปิดเผยมาจาก Toshio Suzuki โปรดิวเซอร์ของ Ghibli จากกิจกรรมบนเวที ในงานนิทรรศการหนังสือภาพที่เล่าเรื่องราวของพิพิธภัณฑ์ Ghibli เมื่อ 7 มี.ค. 2020 ที่ผ่านมา ซึ่ง Suzuki ได้ตอบคำถามจากแฟนๆหลายอย่าง ซึ่งรวมไปถึงประเด็นที่พวกเขาตัดสินใจยินยอมให้เอาผลงานหนังของสตูดิโอ ไปฉายสตรีมลง Netflix กับ HBO MAX กันเสียที

Suzuki ผู้ช่ำชองในด้านธุรกิจของ Ghibli ได้อธิบายถึงสาเหตุที่พวกเขาได้ยกเลิกแบนการเผยแพร่ผลงานของพวกเขาในแบบดิจิตอล นั่นก็เพื่อเป็นการทำรายได้เพิ่มเติม เพื่อที่จะใช้ในการทำหนัง จากนั้นเขาได้กล่าวถึง Hayao Miyazaki ผู้ซึ่งกลับมาทำหนังอย่างเต็มตัว หลังจากประกาศรีไทร์ หลังจากเสร็จสิ้นการถ่ายทำหนัง The Wind Rises ด้วยการกำลังง่วนทำโปรเจ็คหนังอนิเมเรื่อว How Do You Live? ซึ่งขณะนี้ ตัวหนังเสร็จไปเพียง 15% เท่านั้น ซึ่ง Suzuki ได้กล่าวว่า “Hayao Miyazaki กำลังทำหนังอยู่ แต่มันต้องใช้เวลามาก และแน่นอนว่า ก็ต้องใช้เงินมากเช่นกัน”

จากนั้น Suzuki ได้เผยต่อว่า “Hayao Miyazaki ไม่รู้จักแม้กระทั่งบริการสตรีมมิ่ง ว่ามันคืออะไร อีกทั้ง เขาเองก็ไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์ หรือ สมาร์ทโฟน ซะด้วยซ้ำ” ตรงจุดนี้ Suzuki จึงได้ออกมาแนะนำเขา ให้ยกเลิกการแบนการเผยแพร่แบบดิจิตอล และ นำหนังอนิเมของพวกเขา ไปขายผ่านบริการสตรีมมิ่ง กับ บริษัทข้างนอก

ต่อจากนั้น Suzuki ได้อธิบายถึงเหตุผลที่เลือก Netflix ในการนำหนังไปฉายสตรีมทั่วโลก นอกจาก ญี่ปุ่น กับ อเมริกาเหนือ (อเมริกาเหนือ จะสตรีมหนังของ Ghibli ผ่าน HBO MAX ซึ่งได้รับลิขสิทธิ์จาก GKIDS อีกที) เขากล่าวว่า ทั้งที่เขาเป็นคนแก่คนนึง แต่เป็นคนแก่ที่ชื่นชอบในเทคโนโลยี และ สนใจในหนังเรื่องใหม่ที่ Netflix เป็นผู้ผลิต ซึ่งดูเหมือนว่า หนังเรื่องใหม่ๆนี้ ถูกสร้างมาเพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของบริการของ Netflix โดยเฉพาะ และในบานะผู้สร้างหนัง เขาคิดว่า โรงภาพยนตร์ กับ DVD มีความสำคัญในการออกฉายหนัง และยังคิดว่า การเผยแพร่แบบดิจิตอล ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ด้วย

Netflix เริ่มฉายสตรีมมิ่งหนังอนิเมของ Ghibli เมื่อ 1 ก.พ. 2020 กับ 1 มี.ค. 2020 รวมถึง มีกำหนดฉายสตรีม Howl's Moving Castle ในวันที่ 1 เม.ย. 2020 ขณะที่ HBO MAX จะเริ่มฉายสตรีมมิ่งหนังของ Ghibli ในอเมริกาเหนือ ช่วงเดือน พ.ค. 2020

แหล่งข่าว : Huffington Post Japan , Yahoo! News Japan , Crunchyroll

 


จัดรูทอวยอย่างทั่วถึง!!!!.........มังงะ "เรื่องนี้ตำราไม่มีสอน" จะเริ่มเข้าสู่บท "คู่ขนาน"

Bokutachi wa Benkyou ga Dekinai หรือ เรื่องนี้ตำราไม่มีสอน มังงะแนวโรแมนติคคอเมดี้ ติวรักติวหนังสือ ของ อ.Taishi Tsutsui ได้ดำเนินเรื่องราวสู่ตอนสุดท้ายของบท X=Hakugin no Shikkoku Ningyo-hime Hen (X=Shimmering Ebony Mermaid Princess Arc) ซึ่งถือเป็นเส้นเรื่องหลักของเรื่องนี้ ในนิตยสาร Shonen Jump ฉบับที่ 15 ที่เพิ่งวางขายไปเมื่อ 9 มี.ค. 2020 ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม อ.Tsutsui ก็ได้เตรียมทำในสิ่งที่เรียกได้ว่า เป็นการเอาอกเอาใจบรรดากองอวยสาวๆทุกหมู่เหล่า ไม่ให้ชีช้ำกะหล่ำปลีกันเกินไป ด้วยการเขียนเรื่องราวบทใหม่ ซึ่งเป็นบทคู่ขนาน ที่ได้จับคู่ให้ Nariyuki Yuiga ไปลงเอยกับตัวละครสาวๆ คนอื่นๆ ในเรื่อง ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 4 รูท ด้วยกัน ซึ่งแต่ละรูทนั้น จะมีจุดเริ่มต้น ณ ช่วงเหตุการณ์ดอกไม้ไฟในงานโรงเรียน โดยจะประเดิมเรื่องราวคู่ขนานรูทแรกกัน ใน Jump ฉบับที่ 16 ที่จะวางขายในวันที่ 16 ม.ค. 2020

โดย อ.Tsutsui ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ไว้บนส่วนคอมเม้นต์ผู้เขียนของ Jump เล่ม 15 ว่า "นี่ยังไม่ใช่ตอนสุดท้ายอย่างแท้ทรูหรอก ผมคงจะดีใจเอามากๆ หากคุณได้ไปติดตามกันต่ออีกซักเล็กน้อยนะ"

เรื่องนี้ตำราไม่มีสอน ตีพิมพ์ลงใน Jump ตั้งแต่ ก.พ. 2017 เป็นต้นมา เป็นเรื่องราวของ Nariyuki Yuiga เด็กหนุ่มจากครอบครัวฐานะยากจน ผู้ซึ่งพยายามที่จะขอทุนการศึกษาจากโรงเรียน เพื่อไปศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งทางผอ.โรงเรียนอนุมัติ แต่ก็มาพร้อมกับเงื่อนไขที่ให้เขาต้องไปเป็นติวเตอร์ให้กับ Rizu กับ Fumino สองสาวผู้ตั้งใจจะเรียนต่อในคนล่ะสาย ขัดกับรูปลักษณ์ภายนอกโดยสิ้นเชิง

ต่อมาเรื่องนี้ถูกดัดแปลงเป็นอนิเมซีรี่ย์ 2 ซีซั่น ออกอากาศเมื่อ เม.ย. 2019 กับ ต.ค. 2019 ตามลำดับ รวมถึง ถูกจัดทำในรูปแบบ OVA จำนวนหนึ่งแถมมากับมังงะรวมเล่ม แล้วก็ ฉบับนิยายอีก 2 ชุด ด้วยกัน

แหล่งข่าว : Anime News Network


มังงะเล่ม 23 ของ Golden Kamuy จะมาพร้อมกับ OAD ชุดที่ 4 ของเรื่อง

มีการเปิดเผยว่า มังงะฉบับรวมเล่มที่ 23 แบบ limited edition ของ Golden Kamuy จะมีการแถม OAD ตอนที่ 4 ของเรื่องนี้ ซึ่งมีเนื้อหาที่ดัดแปลงมาจากบท "Shiton Animal Chronicles" จากฉบับมังงะ ซึ่งยังคงได้ Geno Studio สตูดิโอผู้ผลิตฉบับอนิเมทีวีของเรื่องนี้ รับหน้าที่ผลิตให้เช่นเคย โดยฉบับรวมเล่มดังกล่าว ของซีรี่ย์ล่าขุมทรัพย์ฟัดกับหมี แบบ limited edition จะจำหน่ายในราคา 3,600 เยน สามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันนี้ - 14 ก.ค. 2020 ก่อนที่จะมีการจำหน่ายจริง (พร้อมกับฉบับรวมเล่ม 23 แบบปกติ) ในญี่ปุ่น วันที่ 18 ก.ย. 2020

เรื่องราวของ OVA ชุดดังกล่าว จะเป็นเรื่องราวของพวกสัตว์ป่าในเขต Kotan ของเผ่าไอนุ ถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม โดยมี Shiton Anehata เป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นฆาตกร และ เป็นนักโทษที่หลบหนีออกไป อย่างไรก็ตาม Tanigaki ผู้ถูก Anehata ขโมยปืนไป กลับถูกเข้าใจผิดว่าเป็นฆาตกรและโดนรวบตัวไป ทำให้ทางฝั่งไอนุ จึงออกมาเรียกร้องให้ Sugimoto ช่วยตามจับคนร้ายตัวจริงให้ได้ภายใน 3 วัน

แหล่งข่าวและทวีต:  Golden Kamuy 's twitter , Crunchyroll


AKIRA จะรีรันบนโรงใหญ่ ในระบบ 4K เริ่ม 3 เม.ย. 2020

ในช่วงเวลาที่โปรเจ็คหนังคนแสดงของ Akira หยุดไปยาวๆ และเพื่อที่จะให้คนรุ่นใหม่ได้ทำความรู้จักกับอนิเมไซไฟนักบิดแห่งตำนานเรื่องนี้ ก็เลยทำให้ Akira หนังอนิเมดังของ อ.Katsuhiro Otomo จะกลับมาฉายบนโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นอีกครั้ง ในระบบ 4K ที่มีภาพและเสียงที่คมชัดกว่าเก่า โดยมีกำหนดฉายบนโรงหนัง IMAX จำนวน 36 แห่งในญี่ปุ่น ในวันที่ 3 เม.ย. 2020 ซึ่งหนัง Akira ในระบบ 4K นี้ เดิมที มีกำหนดฉายในงาน Tokyo Anime Award Festival 2020 แต่งานดังกล่าวก็ถูกยกเลิก เนื่องจากการระบาดของ COVID-19 แต่ถึงกระนั้น ทางทีมงานเลือกที่จะ move on ด้วยการนำหนังไปฉายบนโรงหนังแทน

โดยหนัง Akira แบบ 4K จะถูกจัดจำหน่ายในรูปแบบ Ultra HD Blu-ray กับ Blu-ray ในวันที่ 24 เม.ย. 2020 ซึ่งในเซ็ต Blu-ray ดังกล่าว จะบรรจุฟุตเทจสารคดี "AKIRA SOUND MAKING 2019" ที่จะเป็นการพูดคุยกับผู้ที่อยู่เบื้องหลังหนังอนิเมเรื่องนี้ ซึ่งมีกำหนดออกอากาศทางช่อง TOKYO MX ในวันที่ 28 มี.ค. 2020 อีกด้วย

หนัง Akira ความยาว 124 นาทีนี้ ดัดแปลงมาจากมังงะชื่อเดียวกันของ อ.Katsuhiro Otomo ที่เคยตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Young Magazine ฉายครั้งแรกเมื่อ 16 ก.ค. 1988 และทำรายได้เพียง 750 ล้านเยน ในญี่ปุ่น เท่านั้น จากทุนสร้างทั้งหมด 1 พันล้านเยน แต่ถึงกระนั้น ตัวหนังก็ค่อยๆสร้างกระแสเป็นที่รู้จักและยกย่องของผู้ชมทั่วโลก ในเวลาต่อมา

แหล่งข่าว :  "AKIRA" 4K remaster edition , Crunchyroll

 


One Piece Stampede โกยตังค์ทั่วโลกมากกว่า 10 พันล้านเยน

Mayumi Tanaka กับ Kappei Yamaguchi สองนักพากย์จากอนิเม One Piece ผู้พากย์เสียงเป็น Luffy กับ Usopp ตามลำดับ ได้พร้อมใจกันแจ้งว่า One Piece Stampede หนังอนิเมชุดล่าสุดของ One Piece สามารถทำรายได้จากการฉายทั่วโลกเกิน 10 ล้านเยนแล้ว โดย Tanaka กล่าวว่า เธอไม่สามารถเข้าใจได้ถึงจำนวน 10 พันล้านเยน อันแสนน่าทึ่งนี้ แต่นั่นก็หมายความว่า Monkey D. Luffy กลายเป็น ราชาแห่งภาพยนตร์ แล้ว

ส่วน Yamaguchi เสริมว่า เขาไม่เคยเห็นเงินสดจำนวน 10 พันล้านเยนเลย เขารู้ดีว่า เงินจำนวนนี้ มันเหมือนกับสิ่งที่ Usopp มักชอบพูดโกหกอยู่บ่อยๆ แต่คราวนี้เป็นการยืนยันด้วยเสียงหัวเราะอย่างหนักแน่นว่า นี่ไม่ใช่เรื่องโกหกแล้วนะ

One Piece Stampede หนังอนิเมฉลอง 20 ปี ของ One Piece ฉบับอนิเม ฉายครั้งแรกในญี่ปุ่นเมื่อ 9 ส.ค. 2019 โดยสามารถทำยอดขายตั๋ววันแรก 356,052 ใบ ซึ่งถือเป็นหนังที่ทำยอดตั๋ววันแรกสูงสุดในปี 2019 ซึ่งตัวหนังสามารถทำรายได้ในญี่ปุ่น ได้ทั้งสิ้น 5.53 พันล้านเยน เมื่อ ธ.ค. 2019 และต่อมาตัวหนังได้ทยอยฉายใน จีน , อเมริกาเหนือ และ ประเทศอื่นๆ ในยุโรป และ เอเชีย (รวมถึง ไทย)

แหล่งข่าวและรูปภาพ : Mantan Web , Anime News Network



ผู้แต่ง JoJo ล่าข้ามศตวรรษ แชร์ปรัชญา ในการออกแบบตัวร้ายของเรื่อง

อ.Hirohiko Araki ผู้แต่งมังงะ JoJo ล่าข้ามศตวรรษ ได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Kotoba ฉบับฤดูใบไม้ผลิ 2020 ซึ่งในบทสัมภาษณ์ดังกล่าว อ.Araki ได้เล่าถึงวิธีการในการออกแบบ-เขียนเรื่องราวของพวกตัวร้ายในเรื่องให้มีความน่าจดจำ ซึ่งเขายังได้บอกถึงคีย์หลักหลายประการ ในการสร้างสรรค์ Dio Brando ตัวร้ายคนดังประจำซีรี่ย์ JoJo

รากเหง้าแห่งความชั่วร้ายที่แฝงอยู่ในความน่ากลัว :
Dio เป็นวายร้ายผู้น่าเกรงขาม ก็เพราะความแค้นที่เขามีต่อ Joestar จากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งเขาเป็นแวมไพร์อมตะ และไม่ว่าเขาจะพ่ายแพ้ก็ตาม แต่เขาก็กลับมาหลอกหลอนลูกหลานของ Jonathan Joestar เสมอ อ.Araki ระบุว่า เขาเคยถามตัวเองว่าสิ่งที่ทำให้เขากลัวที่สุด นั่นคือคำสาปที่กินเวลามากกว่าศัตรูที่มีพลังอยู่ยงคงกระพันหรืออารมณ์รุนแรง

"ความชั่วร้าย" นั้น ดึงดูดใจถึงผู้อ่าน เมื่อรู้สึกไม่สามารถเข้าใจได้ :
มีการดึงดูดความสนใจ ในความพยายามที่จะเข้าใจในปรัชญา ที่ผู้ร้ายคนหนึ่งกระทำ ซึ่งยากที่จะคาดเดาได้ เรื่องราวการผจญภัยเกี่ยวกับความลึกลับและสิ่งอื่นๆ ที่ดูเหมือนเกินกว่าความเข้าใจของผู้คนในสังคมปกติ ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่คนร้ายซึ่งเป็นตัวแทนของอุปสรรคที่จะต้องเอาชนะให้ได้นั้น เต็มไปด้วยความลึกลับ

อ.Araki ยังกล่าวถึงสื่อบางส่วนที่มีอิทธิพลต่อการสร้างสรรค์เรื่องราวของ JoJo ล่าข้ามศตวรรษ และได้ช่วย "กำหนดฉาก" เพื่อพูดสำหรับคนร้ายในสไตล์ของ อ.Araki ที่สามารถเข้าถึงผู้คนทั่วไป อย่างเช่น The Silence of the Lambs กำกับโดย Jonathan Demme เป็นเรื่องเกี่ยวกับฆาตกรต่อเนื่องที่มีชีวิตอยู่อย่างน่ากลัว เพราะมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเวลาที่เขาจะฆ่าอีกครั้งกับสิ่งที่เป็นแรงจูงใจอย่างแท้จริงที่ทำให้เขาต้องออกมาฆ่า แล้วก็ มังงะซีรีส์เรื่อง Ushijima the Loan Shark ที่บรรยายคาแร็คเตอร์ของคนร้ายให้มีเสน่ห์ชนิดที่ผู้อ่านไม่ปฏิเสธ แต่ก็หมกมุ่นอยู่กับการกระทำของพวกเขาในทุกขั้นตอน

อ.Araki กล่าวถึง คนร้ายหลายคนในสื่อ ที่สร้างผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเขา โดยเขาเน้นหนักถึงภาพยนตร์เรื่อง Frost / Nixon ที่กำกับโดย Ron Howard เพื่อแสดงให้เห็นถึงประธานาธิบดี Richard Nixon อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ในฐานะบุคคลประเภทหนึ่งที่ใช้เกมแนวความคิดเพื่อพยายามกำจัดตัวเองจากการกระทำผิด สำหรับ อ.Araki ตัวละครนี้เป็น "ความชั่วร้ายที่ทรงพลังซึ่งปรากฏให้เห็น" นอกจากนี้เขายังยกย่อง Hereditary ที่กำกับโดย Ari Aster เพื่อแสดงให้เห็นถึงความกลัวที่มีอยู่ ซึ่งเกิดจากคำสาปเหนือธรรมชาติที่หลอกหลอนได้ แม้แต่คนที่กล้าพูดถึง และในท้ายที่สุด เขาออกมายกย่อง Joker ที่กำกับโดย Todd Phillips เพื่อแสดงให้เห็นถึงความชั่วร้ายในฐานะผลผลิตของสังคมที่มาจากการอธิบายว่ามันเป็น "สัญลักษณ์" ของยุคปัจจุบัน

ก่อนหน้านี้ อ.Araki เคยสัมภาษณ์ Kotoba เกี่ยวกับอิทธิพลที่เขาได้รับจากนิยาย Sherlock Holmes ของ Sir Arthur Conan Doyle โดย อ.Araki กล่าวว่าเขาได้เรียนรู้พื้นฐานของการเล่าเรื่องจาก Sherlock Holmes โดยเฉพาะโครงสร้างการเล่าเรื่องและวิธีการสร้างตัวละครให้มีเสน่ห์


แหล่งข่าว : Anime News Network



 กฎหมายลิขสิทธิ์ญี่ปุ่นฉบับปรับปรุงใหม่ จะครอบคลุมถึง มังงะ , นิตยสาร และ ผลงานวิชาการ


อัพเดทสาระสำคัญที่เพิ่มเติมของกฎหมายลิขสิทธิ์ของญี่ปุ่น ที่มีการยื่นเสนอร่างกฎหมายฉบับปรับปรุงใหม่ล่าสุด ซึ่งได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลญี่ปุ่นแล้ว โดยกฎหมายลิขสิทธิ์ฉบับปรุงปรุงใหม่นี้ จะขยายบทลงโทษให้กว้างขึ้น จากเดิมที่จะเอาผิดเฉพาะ คนที่อัพโหลด-ดาวน์โหลด ดนตรี กับ วีดีโอ อย่างผิดกฎหมาย เท่านั้น แต่ในฉบับปรับปรุงใหม่นี้ จะเพิ่มบทลงโทษให้ครอบคลุมถึง ผู้ที่ทำการอัพโหลด สื่อจำพวก มังงะ , นิตยสาร และ ผลงานทางวิชาการ โดยไม่ได้รับอนุญาต รวมไปถึง เอาผิดกับบรรดาเว็บไซต์ประเภท leech site ที่ส่งแต่ลิ้งค์ที่เข้าถึงสื่ออย่างผิดกฎหมาย ด้วยเช่นกัน โดยกฎหมายลิขสิทธิ์ฉบับแก้ไขใหม่ของญี่ปุ่น จะเริ่มมีผลบังคับใช้ ในวันที่ 1 ม.ค. 2021

อย่างไรก็ตาม กฎหมายลิขสิทธิ์ฉบับปรับปรุงใหม่ จะอนุญาตให้เผยแพร่ช่องการ์ตูนที่ตัดมาจากมังงะ หรือ ภาพถ่าย ที่มังงะไม่ได้เป็นจุดสนใจของภาพ (อย่างเช่น เงาสะท้อน) ได้ รวมถึง จะไม่ลงโทษคนที่ดาวน์โหลดผลงานที่แฟนๆทำกันเอง อย่างเช่น โดจินชิ หรือ นิยายแฟนฟิค เป็นต้น

คณะอนุกรรมการ ของหน่วยงานวัฒนธรรมญี่ปุ่น ได้เห็นชอบให้มีการแก้ไขกฏมายลิขสิทธิ์ ให้ประชาชนได้รู้และเข้าใจ ถึงโทษของดาวน์โหลดสื่อจากอินเตอร์เน็ตอย่างผิดกฎหมาย เมื่อ ก.พ. 2019 อย่างไรก็ตาม แผนการดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วง ในแง่ของการจำกัดเสรีภาพในการแสดงออกของผู้ใช้อินเตอร์เน็ต ทำให้หน่วยงานดังกล่าวจึงได้เรียกบุคคลจากวงการต่างๆ เข้าร่วมหารือถึงการปรับปรุงข้อกฎหมายฉบับนี้ เมื่อ พ.ย. 2019

แหล่งข่าว: Nikkei , Anime News Network



Nanatsu no Taizai "ศึกตำนาน 7 อัศวิน" เตรียมปิดฉากการต่อสู้ถาวร 25 มี.ค. 2020

หลังจากมีข่าวออกมาซักระยะ เกี่ยวกับมังงะ Nanatsu no Taizai หรือ ศึกตำนาน 7 อัศวิน ที่มีการระบุไว้ก่อนหน้านี้ ในฉบับรวมเล่มที่ 40 ที่เพิ่งวางจำหน่ายในเดือน กพ. 2020 ที่ผ่านมาว่า ซีรี่ย์นักสู้ 7 บาป ของ อ. Nakaba Suzuki กำลังจะจบลงในฉบับรวมเล่มที่ 41 นั้น

ล่าสุด ก็มีการยืนยันว่า มังงะเรื่องนี้ เตรียมจะอวสานลง ในนิตยสาร Shounen Magazine ฉบับที่ 17 ที่มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 25 มี.ค. 2020 ซึ่งซีรี่ย์ 7 บาป จะได้ขึ้นปกนิตยสารฉบับดังกล่าว พร้อมกับหน้าสีจำนวน 8 หน้า อันเป็นการปิดฉากการต่อสู้ยาวนาน 8 ปีเต็ม ของมังงะเรื่องนี้

อนึ่ง มังงะฉบับรวมเล่มที่ 41 เล่มสุดท้ายของเรื่องนี้ มีกำหนดวางขายที่ญี่ปุ่น ในวันที่ 15 พ.ค. 2020

แหล่งข่าว : Jump World



"สารภาพรักกับคุณคางุยะซะดีๆ" คว้ารางวัลชนะเลิศ มังงะยอดเยี่ยม ของ Book Walker Grand Prix Award 2019

Book Walker ร้านหนังสือออนไลน์ขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น ได้ประกาศผลรางวัง Book Walker Grand Prix Award 2019 ออกมาแล้ว โดยรางวัลดังกล่าว จะวัดเกณฑ์จากผลโหวตของผู้ใช้ ที่เข้ามาโหวตเลือก มังงะเรื่องต่างๆ ที่ติดทำเนียบขายดีที่สุดของร้าน ซึ่งเป็นเรื่องที่วางจำหน่ายในปี 2019

โดยมังงะที่สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศในครั้งนี้ไปครอง ตกเป็นของ Kaguya-sama: Love Is War หรือ สารภาพรักกับคุณคางุยะซะดีๆ สงครามประสาทความรักของเหล่าอัจฉริยะ ผลงานการ์ตูนแนวโรแมนติคคอเมดี้เฉือนคมของ อ.Aka Akasaka ที่ตีพิมพ์ประจำในนิตยสาร Young Jump ของ สนพง Shueisha และถูกดัดแปลงเป็นอนิเม 2 ซีซั่น กับ หนังคนแสดง

อ.Akasaka ได้กล่าวขอบคุณนักอ่านบน twitter ส่วนตัว "ชั้นชนะเลิศ BOOK WALKER Grand Prix Awards! มันทำให้ชั้นได้มีกำลังใจในการทำงานหนังยิ่งขึ้น ชั้นล่ะปลาบปลื้มไปกับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากพวกคุณจริงๆ!"

สาขารางวัลอื่นของ Book Walker Grand Prix Award 2019
(ในวงเล็บ คือ ชื่อผู้แต่ง / สนพ.ต้นสังกัด)

BOOK WALKER Second Grand Prix:

"The Quintessential Quintuplets" เจ้าสาวผมเป็นแฝดห้า (Negi Haruba / Kodansha)

BOOK WALKER Special Prize (มังงะแนวผู้หญิง):

"Kusuriya no Hitorigoto" เสียงรำพึงจากหมอยา บันทึกไขปริศนาแห่งวังหลังของเหมาเหมา (เรื่อง: Natsu Hyuga & Ikki Hanao, ภาพ: Nekokurage / Square Enix)

BOOK WALKER Special Prize (มังงะ จาก ไลท์โนเวล):

"Ascendance of a Bookworm" การปฏิวัติของสาวน้อยหนอนหนังสือ (เรื่อง: Mira Kazuki, ภาพ: Suzuka / TO Books)

BOOK WALKER Special Prize (วรรณกรรม/นิยาย):

"Amarimonogatari" (Nisio Isin / Kodansha)

Doujinshi/Private Publishing Prize:

"JK Haru wa Isekai de Shoufu ni Natta summer" (Ko Hiratori / Yasou no Aonekotei)


แหล่งข่าว : Japan Academy Prize , Anime News Network , Crunchyroll



ผลรางวัล Japan Media Arts Festival ครั้งที่ 23

ประเภทอนิเมชั่น

ชนะเลิศ
Kaijuu no Kodomo (Children of the Sea) by Ayumu Watanabe (ญี่ปุ่น)

รางวัลยอดเยี่ยม
Aru Nihon no Egaki Shounen (A Japanese Boy Who Draws) by Masayoshi Kawajiri (ญี่ปุ่น)
Gongitsune (Gon, the Little Fox) by Takeshi Yashiro (ญี่ปุ่น)
Tout en haut du monde (Long Way North) by Rémi Chayé (ฝรั่งเศส/เดนมาร์ก)
La tête dans les orties (Nettle Head) by Paul Cabon (ฝรั่งเศส)

รางวัลหน้าใหม่
Mukau Nezumi (Wandering Mouse) by Tsukiji Nohara (ญี่ปุ่น)
Yokujou no Zou (Elephant in the Bath House) by Jialin Cheng (จีน/ญี่ปุ่น)
Dcera (Daughter) by Daria Kashcheeva (รัสเซีย/เชค)

รางวัลส่งเสริมอิทธิพลต่อโซเชียล
Tenki no Ko (Weathering With You) by Makoto Shinkai (ญี่ปุ่น)

 

ประเภทมังงะ

ชนะเลิศ
Robo Sapiens Zenshi (Prehistory of Robo Sapiens) by Toranosuke Shimada (ญี่ปุ่น)

รางวัลยอดเยี่ยม
Ashita Shinu ni wa (To Die Tomorrow) by Sumako Kari (ญี่ปุ่น)
Double by Ayako Noda (ญี่ปุ่น)
Bikacho Shinshi Kaikoroku (Memoirs of Amorous Gentlemen) by Moyoco Anno (ญี่ปุ่น)
L'Arabe du futur (The Arab of the Future: A Childhood in the Middle East, 1978-1984) by Riad Sattouf (ฝรั่งเศส / ซีเรีย)

รางวัลหน้าใหม่
Otona ni Nareba (If You Become an Adult) by Atsushi Itou (ญี่ปุ่น)
Hana to Hoho (Flower and Cheek) by Kei Itoi (ญี่ปุ่น)
Muchuu sa, Kimi ni. (There Is No Other) by Yama Wayama (ญี่ปุ่น)

รางวัลส่งเสริมอิทธิพลต่อโซเชียล
Yamikin Ushijima-kun (Ushijima the Loan Shark) by Shohei Manabe (ญี่ปุ่น)


แหล่งข่าว : Japan Media Arts Festival , MAL



 

10 อันดับมังงะขายดีที่ญี่ปุ่น โดย Oricon : 2-8 มี.ค. 2020

(อันดับ / เรื่อง-เล่ม / ยอดขายประจำสัปดาห์)

01. My Hero Academia #26 (288,727 เล่ม)

02. Haikyu!! คู่ตบฟ้าประทาน #42 (267,517 เล่ม)

03. The Promise Neverland พันธสัญญาเนเวอร์แลนด์ #18 (265,221 เล่ม)

04. Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร #14 (164,982 เล่ม)

05. Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร #13 (164,874 เล่ม)

06. Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร #1 (162,264 เล่ม)

07. Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร #2 (161,282 เล่ม)

08. Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร #3 (158,502 เล่ม)

09. Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร #4 (155,539 เล่ม)

10. Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร #5 (154,787 เล่ม)



แหล่งข่าว : Oricon

 

 


 
free hit counter javascript