บอกเล่าข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 15-21 เมษายน 2562

บอกเล่าสรุปข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ กลับมาอีกครั้ง ....... หลังหยุดเทศกาลสงกรานต์ 1 สัปดาห์ โดยสงกรานต์ที่ผ่านมา หลายคนก็คงจะสนุกสนาน ได้หยุดพักผ่อนกัน สำหรับใครที่กำลังเดินทางกลับจสกหยุดสงกรานต์ ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพครับ........ถึงกระนั้น เทศกาลดังกล่าว นับวันก็เริ่มแสดงให้เห็นสันดานดิบของมนุษย์บางกลุ่ม ที่เอาแต่คึกคะนองเข้าว่า ซะจนเป็นการสร้างความวุ่นวายให้แก่ผู้คนรอบข้าง นำไปสู่ความเสียหายต่างๆ ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งภาครัฐเค้าก็พยายามรณรงค์แล้ว แต่ก็ไม่คิดจะมีจิตสำนึกกันบ้างเลย แทนที่จะได้เย็นสบายไปกับสายน้ำที่สาด กลับต้องมาร้อนลุ่มไปตามอากาศที่นับวันชักร้อนมากยิ่งขึ้น

สำนักข่าว K-D News (kartoon-discovery.com)
สามารถอัพเดทข่าวสารเว็บเราได้ผ่าน Twitter และ Facebook


หากนำข่าวจากเราไปเผยแพร่ที่อื่น รบกวนใส่เครดิตให้กับทางเราด้วยครับ ขอบคุณครับ

New Release Comics of the Week : ????

การ์ตูนออกใหม่ หลังสงกรานต์ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ก็เป็นสัปดาห์เบาๆ เพราะ ไม่ค่อยมีหนังสือออกมากนัก โดยไฮไลท์น่าสนใจ ก็อยู่ที่ ค่าย NED ที่กลับมาวางขายหนังสือการ์ตูนบนแผงร้านทั่วไปอีกครั้ง หลังห่างหายไปนาน กับ โดราเอมอน ตอน ฝันแฟนตาซี และ โดราเอมอน ตอน โดรามีกุ๊กกิ๊ก

ขณะที่ค่ายนกย่าง Phoenix ก็เข็น MOBILE SUIT GUNDAM IRON-BLOODED ORPHANS ฉบับมังงะ กับ เล่ม 1-2 รวมถึง นิยาย เล่มที่ 4 ของ GAMERS!

 


Berserk กลับมาตีพิมพ์อีกครั้ง หลังหยุดยาว 8 เดือน

ข่าวดีรับช่วงสงกรานต์ของแฟนๆน้า Guts แห่ง Berserk (แต่ก็มีแฟนๆหลายคนมองว่า มันเป็นเรื่องปกติของเรื่องนี้ไปแล้ว ไม่ต่างจาก Hunter x Hunter เลย) ล่าสุด นิตยสาร Young Animal ฉบับที่ 8/2019 ได้แจ้งว่า Berserk จะกลับมาตีพิมพ์อีกครั้ง หลังหยุดหายไปยาว 8 เดือน นับตั้งแต่ ส.ค. 2018 โดยมีกำหนดตีพิมพ์ลงในฉบับที่ 9-10/2019 ของนิตยสารดังกล่าว ที่จะวางขายวันที่ 26 เม.ย. 2019

Berserk ตีพิมพ์มาตั้งแต่ปี 1989 เป็นต้นมา ปัจจุบันกลายสภาพเป็นซีรี่ย์ที่ตีพิมพ์รายสะดวก โดยวางจำหน่ายมังงะเล่มที่ 40 ไปเมื่อ 28 ก.ย. 2018 ต่อมาได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเมหลายเวอร์ชั่น ประกอบด้วย อนิเมทีวี 25 ตอนของสตูดิโอ OLM เมื่อปี 1997 , หนังอนิเมไตรภาค โดย Studio 4°C และ อนิเมทีวี 2 ซีซั่น โดย Millepensee กับ GEMBA ช่วงปี 2016-2017

แหล่งข่าว :   Young Animal , MAL

 


ตามคาด!! จอเงินใหม่ Conan เปิดตัวอันดับ 1 Box Office ญี่ปุ่น พร้อมทำลายสถิติรายได้เปิดตัวสูงที่สุด

อันดับหนังทำเงิน Box Office ที่ญี่ปุ่น ช่วงวันที่ 13-14 เม.ย. 2019 โดยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ตรงกับเทศกาลสงกรานต์บ้านเรานั้น ก็เป็นไปตามความคาดหมายของหลายๆคน ที่หนังอนิเมชุดล่าสุด ชุดที่ 23 ของยอดนักสืบจิ๋ว Conan ชุด Konjyou no Fist/The Fist of Blue Sapphire (หรือชื่อไทย ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน : ศึกชิงอัญมณีสีคราม) สามารถหยุดสถิติครองอันดับ 1 ยาวของ Doraemon: Nobita's Chronicle of the Moon Exploration หนังอนิเมภาคล่าสุดของ Doraeman และผองเพื่อนลงได้ โดยสามารถเปิดตัวสุดสัปดาห์แรก ด้วยอันดับ 1 Box Office ญี่ปุ่น ด้วยรายได้ 1.464 พันล้านเยน จากยอดจำหน่ายตั๋ว 1.145 ล้านใบ ซึ่งถือเป็นการสร้างสถิติรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงที่สุด ในบรรดาหนังอนิเมของ Conan ทุกภาค โดยทำรายได้เหนือกว่าราย Zero the Enforcer หรือ ปฏิบัติการสายลับเดอะซีโร่ หนังภาคที่แล้วของ Conan ที่สามารถทำรายได้ช่วงสุดสัปดาห์แรก 1.296 พันล้านเยน เมื่อปี 2018

ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน : ศึกชิงอัญมณีสีคราม เข้าฉายทั่วญี่ปุ่นวันแรก เมื่อ 12 เม.ย. 2019 โดยตัวหนังสามารถทำลายสถิติรายได้เปิดตัววันแรกสูงที่สุด ในบรรดาหนัง Conan ทุกภาค ด้วยจำนวน 422,465,000 เยน จากยอดขายตั๋ว 313,724 ใบ .... ที่น่าสนใจก็คือ จากการที่ตัวหนังทำรายได้เปิดตัวดีงามพระราม 8 เช่นนี้ จะดีพอที่จะกลายเป็นหนังอนิเม Conan ชุดที่ 7 ที่สามารถทำลายสถิติรายได้สูงสุดติดต่อกัน แทนที่ของ ปฏิบัติการสายลับเดอะซีโร่ ที่ทำรายได้ในญี่ปุ่นอย่างสูงลิ่วถึง 9.18 พันล้านเยน เมื่อปี 2018 หรือไม่!?

โดยแฟนๆนักสืบเด็กแว่นโตยาก จะได้รับชมหนังภาคนี้กันบนโรงหนังบ้านเรา ในวันที่ 8 ส.ค. 2019

ขณะเดียวกัน Doraemon: Nobita's Chronicle of the Moon Exploration หนังอนิเมของ Doraemon ที่เพิ่งจบสถิติอันดับ 1 Box Office ญี่ปุ่น 6 สัปดาห์รวด สามารถทำรายได้รวมกันมากกว่า 4.69 พันล้านเยน จากการฉายบนโรง 7 สัปดาห์ และกลายเป็นหนังญี่ปุ่นที่ทำรายได้สูงสุดในปี 2019 ในขณะนี้ แซงหน้า Masquerade Hotel หนังสืบสวน ที่ได้ Takuya Kimura แสดงนำ ที่ทำรายได้ไว้ถึง 4.58 พันล้านเยน

 

อันดับหนัง Box Office ญี่ปุ่น (13-14 เม.ย. 2019)
(วัดอันดับจากยอดขายตั๋ว)

1 (new). "Detective Conan: The Fist of Blue Sapphire"

2 (1). "Doraemon the Movie 2019 Nobita's Chronicle of the Moon Exploration"

3 (new). "Hunter Killer"

4 (2). "Dumbo"

5 (3). "Tonde Saitama"

6 (4). "Captain marvel"

7 (new). "Halloween"

8 (9). "Green Book"

9 (8). "PreCure Miracle Universe"

10 (4). "Bumblebee"

แหล่งข่าว : eiga.com , crunchyroll.com

 


ปิดตำนาน "Monkey Punch" ผู้สร้างสรรค์มังงะ "จอมโจรลูแปง"

ข่าวเศร้าวงการการ์ตูนญี่ปุ่นในช่วงสงกรานต์ เมื่อมีรายงานว่า อ.Kazuhiko Katou นักเขียนการ์ตูนเจ้าของนามปากกา Monkey Punch ผู้ให้กำเนิดมังงะซีรี่ย์ Lupin III (ลูแปง ที่ 3) หรือ จอมโจรลูแปง มังงะแนวแอ็คชั่นโจรกรรมอันลือเลื่อง ได้เสียชีวิตลงแล้ว ด้วยวัย 81 ปี จากอาการปอดบวม เมื่อ 11 เม.ย. 2019

Monkey Punch เกิดที่ จ.ฮ็อกไกโด เมื่อ 26 พ.ค. 1937 มีผลงานการ์ตูนตีพิมพ์เรื่องแรกในชีวิต กับ Playboy Nyuumon ในนิตยสาร Manga Story ของสนพ. Futabasha ซึ่งในขณะนั้น เขาใช้นามปากกา Eiji Gamuta ในการเขียนมังงะเรื่องดังกล่าว จนกระทั่ง อีก 2 ปีต่อมา เขาได้เปลี่ยนนามปากกาเป็น Monkey Punch และได้สร้างสรรค์ผลงานการ์ตูนที่ดังที่สุดในชีวิตเขา กับ Lupin III ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรก ลงในนิตยสาร Manga Action ของ Futabasha ฉบับแรกสุด และเรื่องนี้ได้ตีพิมพ์อย่างต่อเนื่องจนถึงปี 1972 ซึ่งมีจำนวนฉบับรวมเล่มทั้งหมด 14 เล่มด้วยกัน ต่อมา Lupin III ได้รับการดัดแปลงเป็น อนิเมทีวี , หนังอนิเม , OVA , อนิเมชุดพิเศษ และ วีดีโอเกม จำนวนหลายชุด รวมถึง ได้รับการดัดแปลงเป็นหนังคนแสดง อีกด้วย

ตลอดอาชีพนักเขียนการ์ตูนของ Monkey Punch เขาคว้ารางวัลความสำเร็จมากมาย รวมไปถึง รางวัล INKPOT award จากงาน San Diego Comic-Con , ROMICS Award จาก Rome Comics Festival , AMD Achievement Award, และ Tokyo Anime Award นอกจากนี้ เขายังเป็นวิทยากรให้แก่มหาวิทยาลัยหลายแห่งอีกด้วย

แหล่งข่าว :  Mantan Web , MAL

 



Kazuo Koike ผู้แต่งมังงะ "ซามูไรพ่อลูกอ่อน" ลาโลกแล้ว

จัดเป็นช่วงหลังสงกรานต์วิปโยคที่เกิดขึ้นกับวงการมังงะญี่ปุ่นในช่วงเวลานี้.....หลังจาก อ.Monkey Punch (Kazuhiko Katō) ผู้แต่งมังงะ Lupin III หรือ จอมโจรลูแปง เพิ่งเสียชีวิตไปไม่นาน...ล่าสุด มีรายงานว่า อ.Kazuo Koike นักเขียนการ์ตูนรุ่นดึกระดับตำนาน ผู้แต่งมังงะเรื่อง Lone Wolf & Cub หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ซามูไรพ่อลูกอ่อน" ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ ด้วยวัย 82 ปี จากอาการปอดบวม เมื่อ 17 เม.ย. 2019 หลังจากที่ อ.Koike เข้ารับการรักษาตัวที่ รพ. มาเป็นเวลานาน โดยพิธีศพของเขาจะจัดขึ้นเฉพาะสมาชิกในครอบครัว ตามความปรารถนาของ อ.Koike เท่านั้น

อ.Koike เกิดที่ จ.Akita เมื่อ 8 พ.ค. 1936 โดยเขาได้สร้างสรรค์ผลงานอย่างสารพัด ทั้ง นิยาย , มังงะ , บทละคร-หนัง และ เนื้อเพลง ซึ่งเขาได้ก่อตั้ง Studio Ship หรือ Koike Shoin Corporation สตูดิโอส่วนตัวของเขา เมื่อปี 1972 ก่อนที่จะก่อตั้งโรงเรียนสอนเขียนการ์ตูน Koike Gekiga Sonjuku ขึ้น เมื่อปี 1977 ซึ่งโรงเรียนดังกล่าวได้สร้างคนในวงการมังงะมากมาย ทั้ง อ.Rumiko Takahashi (Urusei Yatsura, Ranma ½, InuYasha) , อ.Tetsuo Hara (Fist of the North Star / หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ) และ อ.Keisuke Itagaki ( Baki ) เป็นต้น จนกระทั่งปี 2000 เขารับหน้าที่เป็นอาจารย์ประจำคณะศิลปะ แห่งมหาวิทยาลัยศิลปะโอซาก้า และดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารภาควิชาออกแบบตัวละคร เมื่อปี 2005 และคอยเป็นที่ปรึกษาให้แก่โปรเจ็คต่างๆ

ในส่วนผลงานการ์ตูน เขาได้สร้างสรรค์ผลงานการ์ตูนมากมายหลายเรื่อง (แต่เนื้อหาออกแนวให้ผู้ใหญ่อ่านมากกว่า) โดยมีเรื่องที่สร้างชื่อเสียงให้เขามากที่สุด คือ ซามูไรพ่อลูกอ่อน ซึ่งเขาเป็นผู้แต่งเนื้อเรื่อง โดยมี อ.Goseki Kojima เป็นผู้วาดภาพ เคยตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Manga Action ช่วงปี 1970-1976 และได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในช่วงเวลานั้น จนได้รับการดัดแปลงเป็นละครซีรี่ย์ , หนังคนแสดง และ ละครเวที ตามมา (ฉบับละครทีวีเรื่องนี้ เคยฉายทางทีวีบ้านเราด้วย) ซึ่งเรื่องนี้ มีข่าวว่า Paramount ได้คว้าลิขสิทธิ์ในการนำมังงะเรื่องนี้ไปจัดทำในรูปแบบหนังคนแสดงภาษาอังกฤษแล้วเช่นกัน

ส่วนผลงานการ์ตูนเรื่องอื่นๆของเขา ที่นักอ่านบ้านเราพอจะรู้จักบ้าง ประกอบด้วย Mad Bull 34 (บ้านเรารู้จักกันในชื่อ มือปราบปืนโหด - สนพ.หมึกจีน) ที่ได้ อ.Noriyoshi Inoue เป็นผู้วาดภาพ และ Crying Freeman น้ำตาเพชฌฆาต ที่ได้ อ.Ryoichi Ikegami เป็นผู้วาดภาพประกอบ

ที่น่าสนใจก็คือ ก่อนที่ อ.Koike จะเสียชีวิตเพียง 1 วัน twitter ส่วนตัวของ อ. ได้โพสต์ว่า ทั้งเขากับ อ.Monkey Punch ต่างเป็นคู่แข่งกันมานานกว่า 40 ปี จากการที่ ผลงานมังงะของทั้งคู่ตีพิมพ์ลงใน Manga Action ด้วยกัน (แถมทั้งคู่ยังเสียชีวิตด้วยอาการเดียวกัน ในช่วงเวลา-อายุไล่เลี่ยกันอีกด้วย)

อนึ่ง อ.Koike กับ อ.Monkey Punch เคยร่วมงานกัน กับมังงะเรื่องสั้นชุด Secretary Bird ใน Manga Action เมื่อ ก.ย. 1970 เช่นกัน

แหล่งข่าว : Comic Natalie


อนิเมจอเงิน High School Fleet ได้ฤกษ์เดินเรือ(ซะที) ต้นฤดูใบไม้ผลิ 2020

หลังจากโปรเจ็คอนิเมจอเงินของ High School Fleet ต้องประสบพบเจอกับความไม่แน่นอน หลังจาก Production IMS สตูดิโอผู้สร้างอนิเมทีวีของเรื่องนี้ ประสบภาวะล้มละลาย เมื่อปี 2018 ....อย่างไรก็ตาม ในงานอีเว้นต์ฉลอง 3 ปีของเรื่องนี้ เมื่อ 14 เม.ย. 2019 ที่ผ่านมา แฟนๆของอนิเมสาวน้อยเดินเรือรบ ก็รู้สึกใจชื้นขึ้นไปตามๆกัน เพราะจะได้รับชมฉบับหนังจอเงินของเรื่องนี้กันอย่างแน่นอน จากการที่มีการเปิดเผยรายนามสต๊าฟ , นักพากย์ (ใช้นักพากย์ชุดเดิมจากอนิเมทีวี) , ภาพวิชวล และ เทรลเลอร์ของตัวหนัง ในงานดังกล่าว โดยตัวหนังมีกำหนดเข้าฉายบนโรงทั่วญี่ปุ่น ช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ 2020

สต๊าฟ
Chief Director: Yuu Nobuta* (High School Fleet)
Director: Jun Nakagawa (Demi-chan wa Kataritai episode director)
Script: Takaaki Suzuki* (High School Fleet original creator), Kunihiko Okada* (Ao no Kanata no Four Rhythm)
Character Design, Chief Animation Director: Naoto Nakamura* (Egao no Daika)
Sub-character Design: Keisuke Watanabe (Ore no Imouto ga Konnani Kawaii Wake ga Nai. chief animation director)
Mechanical Design: Kenji Teraoka (Aldnoah.Zero)
Prop Design: Toujima Hisashi (Sword Art Online Alternative: Gun Gale Online animation director)
Color Design: Hitomi Ikeda* (Strike Witches)
Art Setting: Hideyasu Narita (Saenai Heroine no Sodatekata ♭)
Art Director: Shingo Kanai (Monster Musume no Iru Nichijou background art)
3DCG Director: Shinichi Miyakaze* (SSSS.Gridman)
3DCG Animation Director: Kazuma Nakatou (Persona 5 the Animation)
3DCG Modeling Director: Isao Matsunaga* (Classroom Crisis)
Director of Photography: Koujirou Hayashi* (Akiba's Trip the Animation)
Editing: Masato Yoshitake* (Kishuku Gakkou no Juliet)
Music: Shigeo Komori* (Shinsekai yori)
Sound Director: Hiroto Morishita* (Island)
Studio: A-1 Pictures
Distribution: Aniplex
Production: Shin Kaijou Anzen Seibi-kyoku (New Maritime Safety Development Bureau)

* สต๊าฟจากฉบับอนิเมทีวี

อนิเมทีวี High School Fleet จำนวน 12 ตอน ที่ได้ Takaaki Suzuki (Last Exile: Ginyoku no Fam script) เป็นผู้คิดคอนเซ็ปต์ ออกอากาศเมื่อช่วงฤดูใบไม้ผลิ 2016 ก่อนจะได้รับการจัดทำเป็น OVA อีก 2 พาร์ท แถมมากับ Blu-ray กับ DVD ที่วางขายช่วง พ.ค. 2017 อีกทั้งยังได้รับการดัดแปลงเป็นมังงะจำนวน 3 เวอร์ชั่น รวมถึง ได้รับการโหวตให้ติด 1 ใน 10 อันดับ อนิเมทีวีซีรี่ย์ยอดเยี่ยม ของ Newtype Anime Awards ประจำปี 2016

แหล่งข่าวและรูปภาพ :    Comic Natalie , MAL


"หนึ่งหวาน หนึ่งซน คนมีรัก" เตรียมอวสาน พ.ค. 2019 พร้อมกับประกาศข่าวสำคัญ

นิตยสาร Bessatsu Margaret ฉบับ พ.ค. ที่วางขายไปเมื่อ 12 เม.ย. 2019 ที่ผ่านมา ได้แจ้งว่า ผลงานมังงะของ อ.Io Sakisaka เรื่อง Omoi, Omoware, Furi, Furare หรือ หนึ่งหวาน หนึ่งซน คนมีรัก กำลังจะอวสานลง ในฉบับหน้าของนิตยสารดังกล่าว ที่จะวางขายในวันที่ 13 พ.ค. 2019 พร้อมกันนี้ ใน Bessatsu Margaret ฉบับหน้า นอกจากจะขึ้นปก + หน้าเปิดสี่สี ของมังงะเรื่องนี้แล้ว ก็จะมีการประกาศข่าวสำคัญของมังงะเรื่องนี้ เป็นการส่งท้าย อีกด้วย

หนึ่งหวาน หนึ่งซน คนมีรัก ตีพิมพ์เมื่อ มิ.ย. 2015 เป็นเรื่องราวของเด็กสาว 2 คน ผู้มีแนวคิดเกี่ยวกับความรักที่ตรงข้ามกัน โดย Yuna ต้องการให้ความรักเป็นเหมือนดั่งความฝัน ส่วน Akari มองว่าเธอสามารถมีความรักได้ดีขึ้น และมีความสมจริงจนเธอเข้าใกล้ได้ เรื่องราวของเธอทั้งสอง จะอยู่ข้างตัวละครหลักชายสองคน ประกอบด้วย Kazuomi ผู้ไม่เข้าใจความรัก ขณะที่ Rio จะไม่ปฏิเสธใครก็ตามที่มาหาเขา ตราบใดที่คนๆนั้นน่ารัก

ก่อนหน้านี้ อ.Sakisaka เคยมีผลงานมังงะเรื่อง Strobe Edge ที่ได้รับการดัดแปลงเป็นหนังคนแสดง เมื่อ มี.ค. 2015 แล้วก็ มังงะเรื่อง Ao Haru Ride บันทึกใสจากวัยฝัน ที่ได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี , OAS และ หนังคนแสดง ตามมา

แหล่งข่าว :  animenewsnetwork



 

"MAO" ผลงานการ์ตูนใหม่ล่าสุดของ Rumiko Takahashi

หลังจากมีการเปรยมาซักพักใหญ่ๆเกี่ยวกับผลงานการ์ตูนเรื่องถัดไปของ อ.Rumiko Takahashi (Urusei Yatsura / ลามู , Maison Ikkoku / บ้านพักอลเวง , Ranma 1/2, Inuyasha เทพอสูรจิ้งจอกเงิน , RIN-NE) หลังจากเขียนเรื่อง RIN-NE จบลงอย่างเงียบๆ เมื่อ ธ.ค. 2017 รวมถึงเพิ่งคว้ารางวัลชนะเลิศจากงานเทศกาลการ์ตูนนานาชาติ Angoulême ครั้งที่ 46 เมื่อ ม.ค. 2019 ที่ผ่านมา

ล่าสุด ก็มีการเปิดเผยซีรี่ย์การ์ตูนเรื่องใหม่ล่าสุดของ อ.Takahashi ออกมาแล้ว ในนิตยสาร Shonen Sunday ฉบับที่ 20/2019 กับซีรี่ย์ที่มีชื่อสั้นๆ จำง่ายๆ ว่า "MAO" (ชื่อชั่วคราว) มีกำหนดตีพิมพ์ตอนแรกใน Sunday ฉบับที่ 23 ที่จะวางขายที่ญี่ปุ่น วันที่ 8 พ.ค. 2019 ซึ่งทาง Sunday ได้อธิบายเนื้อหาคร่าวของมังงะชุดนี้ว่า เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น ณ ดินแดนที่เชื่อม 2 โลกเข้าไว้ด้วยกัน นำไปสู่เรื่องราวโรแมนติคระหว่างหนุ่มสาว ที่โชคชะตานำพาให้พบกัน

[ข้อความข้างใต้นี้ เป็นมุมมองส่วนตัวของผู้แปล]

คำว่า MAO สามารถอ่านพ้องเสียงได้ว่า Ma-Ou ซึ่งแปลว่า จอมมาร ในภาษาญี่ปุ่น (ฟังจากตรงนี้ ไม่รู้ว่าต่อจากนี้ จะมาแนวอิหรอบเดียวกับ Inuyasha หรือเปล่านะ !!!?)

แหล่งข่าวและรูปภาพ :  Comic Natalie


ไมค์กับผืนผ้าใบช่างเข้ากันได้.....นักพากย์สาว Suzuko Mimori กับ นักมวยปล้ำหนุ่ม Kazuchika Okada ประกาศแต่งงานกันแล้ว

ข่าวฮือฮาไปทั่ววงการนักพากย์อนิเม และ มวยปล้ำญี่ปุ่น เมื่อ นักพากย์สาว Suzuko Mimori กับ Kazuchika Okada ยอดนักมวยปล้ำหนุ่มจากค่าย NJPW (New Japan Pro Wrestling) ได้พร้อมใจกันประกาศผ่านสื่อโซเชี่ยลส่วนตัวว่า ทั้งคู่ได้จดทะเบียนสมรสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ทั้งคู่ได้ประกาศคบหาดูใจกันมา เมื่อปี 2018 โดยทั้งคู่ต่างยืนยันว่า จะร่วมด้วยช่วยกันสร้างครอบครัวให้สุขสันต์ พร้อมกับกล่าวขอบคุณ แฟนคลับ ที่สนับสนุนผลงานของทั้งคู่มาโดยตลอด

Mimori เข้าสู่วงการนักพากย์เมื่อปี 2010 เป็นที่รู้จักจากการพากย์เสียงเป็น Umi Sonoda จากอนิเม Love Live! รวมไปถึง Sherlock Shellingford จากอนิเม Tantei Opera Milky Holmes ส่วนผลงานการพากย์อื่นๆ ประกอบด้วย Himawari Furutani จาก Yuru Yuri, Nanami Momozono จาก Kamisama Hajimemashita, Kanae Shinjou จาก Teekyuu นอกจากนี้ เธอยังพากย์เสียงให้กับอนิเม Shoujo☆Kageki Revue Starlight, SSSS.Gridman, และ Hulaing Babies เป็นต้น

ขณะที่ Okada นักมวยปล้ำเจ้าของท่าไม้ตายสุดเทพ Rainmaker และมีดีกรีแชมป์โลก IWGP Heavyweight (แชมป์เส้นใหญ่ที่สุดของ NJPW) ถึง 5 สมัย (แถมยังทำสถิติครองเข็มขัดเส้นนี้ ด้วยจำนวนวันมากที่สุดในประวัติศาสตร์) ก็เคยมีผลงานพากย์เสียงให้กับอนิเมเรื่องอื่นๆด้วย อาทิ World Trigger และ Future Card Buddyfight Hundred

อีกทั้ง Mimori ยังได้พากย์เสียงเป็นตัวละคร Haruna Takaoka / Spring Tiger จากอนิเม Mask Tiger W หรือ หน้ากากเสือ W ที่เพิ่งฉายจบทางช่อง MCOT หรือ ช่อง 9 ในบ้านเรา ไปเมื่อต้นปี ซึ่งอนิเมหน้ากากเสือภาคดังกล่าวนั้น Okada ยังได้ปรากฏตัวในเรื่องด้วย (Okada ในเรื่อง พากย์เสียงโดย Masakazu Morita)

อย่างไรก็ตาม จากการที่ Bushiroad ผู้ผลิตการ์ดเกมซีรี่ยดังอย่าง Milky Holmes , Future Card Buddyfight เป็นบริษัทต้นสังกัดของ Mimori และยังเป็นเจ้าของค่ายมวยปล้ำ NJPW ที่ Okada สังกัดอยู่ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจใดๆ ที่ทั้งคู่จะได้พบเจอ ร่วมงาน และเริ่มคบหากันอย่างจริงๆจังๆ

แหล่งข่าว : KAI-YOU , MAL


มังงะ My Hero Academia ครองชาร์ตหนังสือการ์ตูนขายดีในสหรัฐเกือบครึ่งนึง!!!

NPD BookScan ได้รายงาน 20 อันดับหนังสือกราฟิคโนเวล หรือ หนังสือการ์ตูน ขายดี ในสหรัฐ ประจำเดือน มี.ค. 2019 โดยชาร์ตดังกล่าว ก็มีมังงะจากญี่ปุ่น สามารถรุกคืบได้ถึง 13 เรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ My Hero Academia ผลงานมังงะแนวฮีโร่ฝึดหัดของ อ.Kohei Horikoshi สามารถพาเหรดกันครองชาร์ตดังกล่าว ได้ถึง 9 เล่มด้วยกัน!!!! (โดยรวมเอามังงะ My Hero Academia: Vigilantes มังงะสปินออฟของเรื่องนี้ เข้าไปด้วย) ....อันเป็นการบ่งบอกกลายๆว่า ชาวอเมริกันยังคงนิยมชมชอบการ์ตูนแนวฮีโร่กันอย่างไม่เสื่อมคลาย

1. The Umbrella Academy Vol. 1

2. My Hero Academia Vol. 18

3. The Walking Dead Vol. 31

4. My Hero Academia Vol. 1

5. Detective Comics: 80 Years of Batman Deluxe Hardcover

6. My Hero Academia Vol. 17

7. Rick and Morty vs. Dungeons & Dragons

8. The Umbrella Academy Vol. 2

9. My Hero Academia Vol. 2

10. Berserk Deluxe Vol. 1 Hardcover

11. My Hero Academia Vol. 3

12. My Hero Academia Vol. 16

13. The Life-Changing Manga of Tidying Up: A Magical Story

14. Boruto Vol. 5

15. My Hero Academia Vol. 4

16. My Hero Academia: Vigilantes Vol. 4

17. My Hero Academia Vol. 15

18. The Handmaid's Tale: The Graphic Novel Hardcover

19. The Adventure Zone: Here There Be Gerblins

20. Tokyo Ghoul Vol. 1

ชาร์ตดังกล่าว รวบรวมสถิติยอดขายมาจากร้านหนังสือต่างๆ (ทั้งร้านหนังสืออิสระขนาดเล็ก จนถึง ร้านหนังสือขนาดใหญ่ อย่าง Barnes & Noble) มากกว่า 16,000 ร้าน ทั่วอเมริกา

แหล่งข่าว : ICV2


TV Tokyo ออกแถลงการณ์ขออภัย จากกรณีโปรดิวเซอร์ Kemono Friends 2 แสดงความไม่เป็นมืออาชีพ

Kemono Friends 2 อนิเมสิงสาลาสัตว์โมเอะชุดที่ 2 ของ Kemono Friends เพิ่งฉายจบไปเมื่อ 2 เม.ย. 2019 ที่ผ่านมา ซึ่งกระแสโดยรวมของอนิเมภาคนี้นั้น นอกจากจะไม่ปังเท่ากับภาคแรกแล้ว แถมยังมีดราม่าเกิดขึ้นบนโลกโซเชียลหลังอนิเมจบอีก ซะจนร้อนถึง สถานีทีวี TV Tokyo ต้องออกแถลงการณ์ออกมา

ล่าสุด TV Tokyo ได้ออกแถลงการณ์ขออภัยผู้ชม และผู้เกี่ยวข้องกับอนิเม Kemono Friends 2 บนหน้าเว็บไซต์หลักของอนิเม เมื่อ 15 เม.ย. 2019 ที่ผ่านมา จากกรณีที่มีพนักงานของ TV Tokyo ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับอนิเมดังกล่าวบนสื่อโซเชียล ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจ และยังเป็นการแสดงออกถึงความไม่เป็นมืออาชีพ ในสายตาของผู้ชม ซึ่งผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Kemono Friends 2 ควรจะน้อมรับการแสดงความคิดเห็นของผู้ชม ซึ่งพวกเขาเชื่อว่ามันคือสิ่งสำคัญในการผลิตอนิเมชุดนี้ พร้อมกับได้กล่าวขออภัยอย่างสุดซึ้ง เป็นการทิ้งท้าย

แม้ว่าแถลงการณ์ข้างต้น จะไม่ได้ระบุถึงชื่อบุคคลใด แต่หลายฝ่ายต่างปักใจเชื่อว่า คงจะสื่อถึง Nobuyuki Hosoya โปรดิวเซอร์ของ TV Tokyo ผู้มีส่วนสำคัญในการว่าจ้าง Ryuichi Kimura ให้มากำกับ Kemono Friends 2 ซึ่ง Hosoya ได้ออกมาตอบโต้แฟนๆผู้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์อนิเมชุดนี้บนโซเชียล ด้วยการทวีตรัวๆ โดยกล่าวหาว่า แฟนๆกลุ่มนี้ไม่สามารถเข้าถึงอนิเมชุดนี้ได้ และคงไม่เคยติดตามอนิเมซีซั่นแรกมาก่อน เท่านั้นไม่พอ ก็มีหลายฝ่ายเชื่อว่า เขายังเป็นเจ้าของบัญชี twitter Hyōmura Faneru (@Palis12832142) (ปัจจุบันถูกลบไปแล้ว) ไว้คอยโจมตี TATSUKI ผกก. Kemono Friends ซีซั่นแรก ที่ได้ประกาศถอนตัวจากโปรเจ็คอนิเมซีซั่น 2 ไปพร้อมๆกับสตูดิโอ Yaoyorozu ซึ่งแฟนๆหลายคนต่างวิเคราะห์ว่า ทั้งบัญชี twitter Hyōmura Faneru กับ บัญชี twitter ของ Hosoya มีลักษณะการโพสต์ที่คล้ายคลึงกันมากจนน่าสงสัย แถมข้อมูลที่โพสต์มาจากบัญชี Hyōmura Faneru ก็เป็นข้อมูลที่มีแต่คนวงในเท่านั้น ที่สามารถล่วงรู้ได้ อีกด้วย

แหล่งข่าว :   animenewsnetwork


Aho Genome: Samuzaka Satanic Hair ผลงานการ์ตูนเรื่องใหม่ล่าสุดของผู้แต่ง "มือขวากับขาโจ๋"

หลังจาก Midori no Hibi หรือ มือขวากับขาโจ๋ จบลงไป อ.Kazurou Inoue ผู้แต่งมังงะเรื่องนี้ ก็มีผลงานการ์ตูนเรื่องอื่นๆ ออกสู่สายตามากมาย แต่ก็ไม่มีเรื่องไหนที่จะปังเท่า....ล่าสุด อ.Inoue ยังคงมีไฟที่จะสร้างสรรค์ผลงานการ์ตูนต่อไป จากการที่เขากำลังจะมีผลงานการ์ตูนเรื่องใหม่ล่าสุด กับ Aho Genome ~Samuzaka Satanic Hair~ มีกำหนดตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Young King Ours ฉบับ ก.ค. ที่จะวางขายที่ญี่ปุ่น วันที่ 16 พ.ค. 2019 โดยเป็นเรื่องราวของเด็กสาวผู้หนึ่ง นาม Gureko Samuzaka ผู้ได้รับพลังพิเศษราวเทพเจ้า

มือขวากับขาโจ๋ ผลงานการ์ตูนที่สร้างชื่อให้กับ อ.Inoue มากที่สุด ตีพิมพ์ลงใน Shounen Sunday ช่วงปี 2002-2004 และได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี เมื่อปี 2004 ...โดยก่อนหน้านี้ เขาเพิ่งจบมังงะซีรี่ย์เรื่อง Shitei Bouryoku Shoujo Shiomi-chan ใน Sunday เมื่อ ต.ค. 2018

แหล่งข่าวและรูปภาพ: MAL



Ultraman Taiga ซีรี่ย์ชุดล่าสุดของ Ultraman เตรียมพิทักษ์โลกบนจอ ก.ค. 2019

Tsuburaya Productions ได้เปิดตัวซีรี่ย์ Ultraman เรื่องใหม่ล่าสุด ถัดจาก Ultraman R/B แล้ว กับ Ultraman Taiga (คนล่ะตัวกับ Ultraman Tiga / ทีก้า) โดยมีกำหนดออกอากาศตอนแรกทางช่อง TV Tokyo ช่วง 9 โมงเช้า ของวันที่ 6 ก.ค. 2019 โดยซีรี่ย์ดังกล่าวจัดเป็น ซีรี่ย์เรื่องที่ 7 ของ ซีรี่ย์ Ultraman "ยุคใหม่" แถมยังเป็นซีรี่ย์ Ultraman เรื่องแรก ที่ฉายในยุคสมัยเรวะของญี่ปุ่นอีกด้วย

Ultraman Taiga ก็มีเนื้อหาคล้ายๆกับซีรี่ย์ภาคก่อนๆคือ พวกสัตว์ประหลาดต่างดาวเข้ามาบุกโลก ร้อนถึง พระเอกชาวโลกที่ต้องแปลงร่างเป็น Ultraman เพื่อปกป้องสันติสุขของโลก โดยพระเอกประจำภาคนี้ คือ Hiroyuki Kudo เขาทำงานให้กับองค์กรพิทักษ์โลก E.G.I.S. ที่คอยดูแลเคสที่เกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตต่างดาว ซึ่งเขาก็มีความลับหนึ่งที่เพื่อนๆในองค์กรไม่เคยรู้ นั่นคือ เขาสามารถแปลงร่างเป็น Ultraman Taiga ผู้เป็นบุตรของ Ultraman Taro ได้

ซึ่งภาคนี้ ยังจัดเป็น Ultraman ภาคแรกที่พระเอกสามารถแปลงร่างเป็น Ultraman ได้ถึง 3 ร่างด้วยกัน ประกอบด้วย Ultraman Taiga (กลาง), Ultraman Titas (ซ้าย), และ Ultraman Fuma (ขวา) โดยมี Ultraman Tregear Ultraman ชั่วร้ายที่เคยปรากฏในหนัง Gekijōban Ultraman R/B Select! Kizuna no Crystal (Ultraman R/B The Movie Select! The Crystal of Bonds) จะปรากฏตัวในซีรี่ย์ชุดนี้ เช่นกัน

แหล่งข่าวและรูปภาพ   animenewsnetwork



อนิเมซีรี่ย์ "ดาบพิฆาตอสูร" จะมีทั้งหมด 26 ตอน

เป็นข้อมูลที่มีการเปิดเผยมาจาก twitter หลักของอนิเม Kimetsu no Yaiba หรือ ดาบพิฆาตอสูร ซึ่งระบุว่า อนิเมซีรี่ย์ดัดแปลงจากผลงานมังงะแนวแอ็คชั่นปราบอสูรของ อ.Koyoharu Gotōge จะฉายครอบคลุมถึง 2 คอร์ ( 2 ไตรมาส) จำนวนทั้งสิ้น 26 ตอนด้วยกัน

พร้อมกันนี้ยังมีการแจ้งว่า เรื่องนี้กำลังจะอีเว้นต์พิเศษในงาน Machi ★ Asobi vol. 22 ซึ่งได้นักพากย์หลักของอนิเมชุดนี้ปรากฏตัวทั้ง Natsuki Hanae, Akari Kitō, และ Hiro Shimono ในวันที่ 5 พ.ค. 2019 อีกทั้ง อีเว้นต์พิเศษดังกล่าว จะมีการฉายทาง AbemaTV อีกด้วย

ดาบพิฆาตอสูร เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในยุคสมัยไทโชของญี่ปุ่น เมื่อ Tanjiro เด็กหนุ่มผู้ดำรงชีวิตด้วยการขายถ่าน ได้พบว่า ครอบครัวของเขาถูกสงหารโดยพวกอสูร ที่เลวร้ายไปกว่านั้น Nezuko น้องสาวของเขาที่เป็นผู้รอดชีวิตหนึ่งเดียว กลับถูกสาปให้กลายเป็นอสูรไปอีกคน ทำให้ Tanjiro ตัดสินใจที่จะกลายเป็นนักปราบอสูร เพื่อกำราบอสูรที่พรากชีวิตคนในครอบครัวเขา รวมถึง แก้คำสาปทำให้น้องสาวของเขากลายเป็นปกติอีกครั้ง

แหล่งข่าว : Comic Natalie , crunchyroll.com



ผกก.Shinkai ตอบแฟนๆ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ ที่หนังอนิเม Weathering With You เข้าฉายในแดนภารตะ

Tenki no Ko/Weathering With You ผลงานหนังอนิเมเรื่องล่าสุดของ ผกก. Makoto Shinkai ที่กำลังจะเข้าฉายที่ญี่ปุ่นในวันที่ 19 ก.ค. 2019 ก็ได้รับความสนใจจากแฟนอนิเมทั่วโลก ซะจนอยากจะให้เข้ามาฉายบนโรงหนังที่ประเทศของพวกเขาเหลือเกิน ซึ่งแฟนๆอนิเมชาวอินเดีย ก็เป็นหนึ่งในนั้น พวกเขามีความต้องการที่จะอยากจะให้มีการนำหนังอนิเมชุดนี้เข้าฉายในเมืองโรตีกันอย่างถูกต้อง ซะจนมีการร้องเรียนบนเว็บไซต์ Change.org มาตั้งแต่ ก.พ. 2019 ซึ่งปัจจุบันมีผู้ลงชื่อมากกว่า 25,000 รายแล้ว

Dainell Jackson บุคคลผู้เป็นตัวตั้งตัวตี ในการเสนอข้อร้องเรียนนี้ ได้กล่าวว่า "มีกลุ่มชาวอินเดียที่สนุกสนานกับการรับชมอนิเม ทั้งหนังและรายการทีวี ซึ่งก็มาพร้อมกับความกังขาเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ พวกเราทั้งหมดต้องการจะเป็นพวกชาตินิยมและหยุดการกระทำเหล่านี้ ด้วยการรับชมหนังที่มีการซื้อลิขสิทธิ์อย่างถูกต้อง"

อย่างไรก็ตาม ก็มีแฟนอนิเมชาวอินเดียผู้หนึ่งได้เข้าไปสอบถาม Shinkai บน twitter ถึงความเป็นไปได้ที่จะได้รับชมตัวหนังเรื่องนี้อย่างถูกต้อง ในประเทศอินเดีย Shinkai จึงตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งแปลได้ว่า

"ขอบคุณสำหรับเสียงอันอบอุ่นของคุณครับ ผมคงดีใจมากๆที่ผมสามารถนำหนัง Tenki no ko เข้าฉายในอินเดียได้ ซึ่งตัวผมเองไม่มีอำนาจในการตัดสินใจเรื่องนี้ แต่ผมจะลองไปพูดคุยกับบริษัทผู้จัดจำหน่ายหนังของญี่ปุ่น นะครับ"

แหล่งข่าว :  crunchyroll.com



Violet Evergarden The Movie มีกำหนดฉาย ม.ค. 2020 มาพร้อมหนัง spin-off ชิมลางพลางๆ ก.ย. 2019

เว็บไซต์หลักของอนิเม Violet Evergarden อนิเมดัดแปลงจากไลท์โนเวลดีกรีรางวัลชนะเลิศสาขานิยายของ Kyoto Animation Award ครั้งที่ 5 ของ Kana Akatsuki ได้มีการโพสต์คีย์วิชวล และ ตัวอย่างหนังอนิเม Violet Evergarden The Movie ออกมาแล้ว โดยมีกำหนดเข้าฉายบนโรงที่ญี่ปุ่น 10 ม.ค. 2020

อย่างไรก็ตาม ก่อนจะได้รับชมตัวหนัง Violet Evergarden The Movie เรื่องนี้ก็มีการจัดทำหนังอนิเม spin-off ของเรื่องนี้ชุด Violet Evergarden: Gaiden - Eien to Jidou Shuki Ningyou - (Violet Evergarden: Spin-Off - Eternity and Auto Memory Doll -) ที่ได้ Haruka Fujita (Sound! Euphonium, episode director จาก Myriad Colors Phantom World ) เป็นผกก. มีกำหนดฉายจำกัดโรง ช่วง 2 อาทิตย์ ระหว่างวันที่ 6-19 ก.ย. 2019

อนิเมทีวี Violet Evergarden จำนวน 13 ตอน จัดทำโดย Kyoto Animation ออกอากาศเมื่อช่วง ม.ค.-เม.ย. 2018 ซึ่ง Taichi Ishidate (Beyond the Boundary) ผกก.จากฉบับอนิเมทีวี ได้ขึ้นแท่นกำกับฉบับหนังอนิเมของเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน

แหล่งข่าวและรูปภาพ :   Anime! Anime! , crunchyroll.com

 

 

ผกก.อนิเม Yu-Gi-Oh! ยืนยันที่มาของมีม 'Joey Chin' / Jounouchi โหมดคางยื่น มาจากนักมวยปล้ำ Antonio Inoki

ในอนิเมซีรี่ย์ Yu-Gi-Oh! เกมกลคนอัจฉริยะ ได้มีการนำเสนอ Jounouchi Katsuya (หรือ Joey Wheeler ตามการเรียกของฝรั่ง) ในโหมดตลกหน้าแปลกพิลึก ที่มากับคางอันแหลมยื่น กันอยู่เนืองๆ ซึ่งโหมดดังกล่าว ได้กลายเป็นมีมให้แฟนๆอนิเมทั่วโลกพากันล้อเลียน พากันตัดต่อตัวละครอนิเมตัวอื่นๆให้มีคางยื่นเหมือนๆกันด้วย

จากข้างต้น คงจะมีคนสงสัยล่ะว่า ที่มาของ Jounouchi โหมดคางยื่น นี้ มาจากไหนกันแน่!? ซึ่งก็มีแฟนอนิเมรายหนึ่ง ได้อ้างว่า ข้อมูลที่เขาได้รับมานี้ มีการยืนยันจาก Takahiro Kagami หนึ่งในผกก.อนิเม Yu-Gi-Oh! ว่า มีม Joey Chin หรือ Jounouchi คางยื่น ได้แรงบันดาลใจจาก Antonio Inoki นักมวยปล้ำระดับตำนานของญี่ปุ่น ผู้เคยต่อสู้กับ Mohammad Ali ยอดนักมวยระดับโลก (ในแมตช์ชวนง่วงนอน) มาแล้ว!!!!

Inoki เข้าร่วมสมาคมมวยปล้ำ Tokyo Pro Wrestling เมื่อปี 1966 และเลิกปล้ำอาชีพเมื่อปี 1998 โดยในช่วงที่เขายังขึ้นสังเวียนมวยปล้ำ เขาได้มีโอกาสประลองกับ Muhammad Ali มาแล้ว เมื่อปี 1976 ซึ่งในปี 1989 เขาได้หันเหชีวิตไปเส้นทางการเมือง โดยได้รับเลือกเป็นสส.ญี่ปุ่น ก่อนที่เขาจะได้รับเลือกเป็น สส.อีกครั้ง เมื่อปี 2013 ... ซึ่ง Inoki นั้น มีเอกลักษณ์เด่นตรงที่มีคางอันยาวแหลมยื่น ซะจนถูกนำไปล้อเลียนมากมาย (ไม่เฉพาะแค่ Yu-Gi-Oh!)

ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2012 Kagami เคยยืนยันบน twitter ว่า Inoki เป็นแรงบันดาลใจให้กับ Joey chin : "อันนี้ มันไม่ใช่สิ่งที่ผมคิดโดยพลการนะ ตอนที่ผมได้อ่านต้นฉบับของอ. Takahashi (ผู้แต่งมังงะ Yu-Gi-Oh!) ผมคิดว่า 'ตัวละครนี้ มันมีบุคลิกแบบนี้ จึงอาจทำสิ่งนี้ได้นะ' อย่างเช่น: Joey / Jounouchi เป็นตัวละคร 'พี่ใหญ่' เลือดร้อน -> เขาอาจชอบศิลปะการต่อสู้ -> ฉันคิดว่าเขาชอบมวยปล้ำ -> ฉันคิดว่าเขาชอบ Inoki -> คาง! นั่นล่ะ คือวิธีที่เราจะใช้

"Joey Chin" ปรากฏตัวในตอนที่ 7, 91, 134, 153, และอื่นๆ ของอนิเม Yu-Gi-Oh!

แหล่งข่าว :  @YamiArtio,  Takahiro Kagami's Twitter , Time-Wasting Info Blog , animenewsnetwork


Toshio Suzuki แห่ง Ghibli แจงถึงสาเหตุที่สตูดิโอไม่เติบโตไปกว่านี้

Yahoo! News ได้ลงบทสัมภาษณ์ของ Toshio Suzuki ผู้ร่วมก่อตั้ง Studio Ghibli และ อดีตโปรดิวเซอร์ของสตูดิโอ เมื่อ 5 เม.ย. 2019 โดยบทสัมภาษณ์ดังกล่าว มีใจความเกี่ยวกับทัศนคติของเขาที่มีต่อการจำหน่ายสินค้าและแนวโน้มของวงการอนิเมในปัจจุบัน รวมถึง ได้ชี้แจงถึงเหตุผลที่ Ghibli ไม่เติบโตไปกว่านี้แล้ว

"ผมไม่รู้นะ หากบัญชีการเงินของ Ghibli มีการเปิดเผยให้คนทั่วไปได้รับทราบทั่วกัน แต่เมื่อคุณลองมาดูที่ตัวเลขเหล่านี้...มันเยอะไปหมดเลย พอคุณคิดว่า สตูดิโอจะหยุดพัก 1 ปี ปีหน้าจะทำตัวเลขให้เป็น 1 ใน 10 ของรายได้ ซึ่งบริษัทหลายแห่งในทุกวันนี้ ทุกคนมักคิดกันว่า 'มาตั้งเป้าหมายเติบโต 10% ในปีหน้านะ' ซึ่งผมไม่สามารถคิดอย่างนั้นได้ ทำไมคุณถึงต้องเติบโตกันล่ะ? " Suzuki กล่าว

นี่ไม่ใช่วิธีคิดแบบดั้งเดิม Suzuki กล่าว เมื่อตอนที่เขาทำงานให้กับสนพ. Tokuma Shoten เป็นครั้งแรกในปี 1972 แม้แต่ประธาน บริษัท ก็ไม่รู้ว่ายอดขายรายปีเป็นอย่างไร "เมื่อผมได้ร่วมงานที่ Ghibli สิ่งแรกที่ผมคิดคือ 'เราต้องไม่ทำให้บริษัทใหญ่โต' ในเมื่อ บริษัทมีขนาดใหญ่โต จะทำให้หลายสิ่งหลายอย่างมันน่าเบื่อ

"ทุกวันนี้ มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะทำเงินจากสินค้า DVD และ การสตรีมมิ่งออนไลน์ แต่โดยพื้นฐานแล้ว ผมต้องการสร้างรายได้จากการสร้างหนัง ผ่านทางตังหนังเอง และด้วยวิธีทางนั้น สิ่งอื่นๆ ก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป"

Suzuki เปิดเผยว่า เขามักถูกถามบ่อยครั้งว่า ทำไม หนังของ Ghibli จึงไม่ถูกเผยแพร่ลงใน Netflix และเว็บไซต์สตรีมมิ่งอื่น ๆ “ เขากล่าวว่า "ผมไม่ต้องการ เพราะหนังเหล่านี้จะได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นสินค้าราคาถูกๆ”

Ghibli เอง ก็ต่อต้านการค้าขายสินค้าที่ระลึกจากหนังเช่นเดียวกัน Suzuki อธิบายว่า ตุ๊กตา My Neighbor Totoro ตัวแรกนั้น ผลิตได้เพียงสองปี หลังจากที่หนังอนิเมออกฉายไป Sun Arrow บริษัทผู้ผลิตตุ๊กตา ได้จัดทำตัวอย่างสินค้าคุณภาพสูง ที่แม้แต่ Miyazaki ซึ่งเป็นอีกคนที่ตายด้านจากสินค้าที่ระลึกจากหนังของเขา ก็ออกมายอมรับฝีมือของบริษัทเจ้านี้เช่นกัน

“เกี่ยวกับสินค้า เราตัดสินใจไม่ให้ทำเงินมากกว่า 10 พันล้านเยน หากเกินกว่านั้น เราจะเรียกบริษัทที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และตำหนิบุคคลที่รับผิดชอบต่อหน้าคนทั้งหมดจริง ๆ มีครั้งนึงที่ ทุกคนๆผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในเคสนี้ ได้กล่าวว่า 'คุณต้องขายเพิ่ม' ซึ่งก็มีบางคนจากบริษัทหนึ่ง ได้กล่าวว่า 'เราสามารถเพิ่มยอดขายเป็น 2 แสนล้านเยนได้ด้วยตัวเอง' ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องตลกเลย หากพวกเขาทำเช่นนั้น จะทำให้ตัวละครของ Ghibli ตายทันทีทันใด ผมต้องการให้ตัวละครของ Ghibli มีอายุยืนยาว"

"ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผมไม่ได้เข้าร่วมการประชุม พวกเขาเริ่มทำเงินมากกว่า 10 พันล้านเยน และพวกเขาเก็บงำไว้เป็นความลับ มันทำให้ผมรู้สึกโกรธมาก เพราะมันไม่โอเคเลยที่จะทำให้บริษัทมันใหญ่ขึ้น ทุกๅคยเริ่มทำแต่สิ่งของตัวเอง ซะจนมันไม่ใช่เรื่องตลกแล้ว "

Suzuki ได้แบ่งปันความเชื่อของเขาว่า มีสองสิ่งที่สำคัญในการเผยแพร่ ประกอบด้วย การไม่ถูกจำกัดโดยระบบ และ การแสดงความเป็นตัวเองอย่างอิสระ "เมื่อคุณมีสองสิ่งนี้ คุณสามารถสร้างบางสิ่งที่น่าสนใจ ราวกับภาพยนตร์"

ก่อนหน้านี้ Suzuki ได้เปิดเผยในระหว่างสัมภาษณ์กับ Bungeishunjū เมื่อปี 2002 ว่า Disney และ Warner Bros. ได้เข้าหา Ghibli ด้วยแนวคิดของการเป็นหุ้นส่วน จากการที่หนังอนิเม Spirited Away เปิดตัว และ Ghibli ได้ปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว

แหล่งข่าว :   Yahoo! News , Yara-on! ,animenewsnetwork


Toho ลงทุนหุ้นบริษัทลูกในอเมริกาเพิ่มเติม

TOHO บริษัทจัดจำหน่ายภาพยนตร์รายใหญ่ของญี่ปุ่น ได้แจ้งว่า พวกเขาได้เข้าไปลงทุนในหุ้นส่วนของ TOHO International บริษัทลูกของพวกเขา ที่ตั้งอยู่ในนคร Los Angeles สหรัฐ เพิ่มเติมอีก 1.383 ล้านหน่วย กลายเป็นมูลค่า 15.446 พันล้านเยน ซึ่งเพิ่มจากของเดิมที่มีหุ้นอยู่เพียง 3,000 หน่วย เท่านั้น

การลงทุนครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผน TOHO Vision 2021 ที่เกี่ยวข้องกับการร่วมมือกับบริษัทต่างชาติ ในการผลิตร่วมกัน รวมไปถึง การเจาะธุรกิจคาแร็คเตอร์ไปยังต่างแดน ซึ่งแผนดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการเป็นพันธมิตรกับบริษัทหนังรายใหญ่ของฮอลลิวู้ด ที่จะเกี่ยวพันกับสื่อต่างๆของญี่ปุ่น ซึ่งรวมไปถึง หนัง Godzilla: King of the Monsters และ Pokémon: Detective Pikachu ที่กำลังจะฉายในอีกไม่นานด้วย

TOHO ก่อตั้ง TOHO International เมื่อปี 1953 แต่บริษัทลูกดังกล่าวมักจะทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก และมีรายได้เพียง 12,000 ดอลล่าร์สหรัฐ ในช่วง 3 ปีหลัง เท่านั้น

ก่อนหน้านี้ TOHO ได้เข้าไปลงทุนบริษัท AlphaBoat บริษัทสร้างสรรค์สื่อของ SC Digital Media เมื่อ มิ.ย. 2018

แหล่งข่าว :   Animation Business Journal , animenewsnetwork



Bunshun Magazine เผย สตูดิโอ ufotable กำลังติดหนี้ภาษี 400 ล้านเยน

รายงานจาก Bunshun Digital นิตยสารรายสัปดาห์ ของ Bungeishunju เมื่อ 12 เม.ย. 2019 ที่ผ่านมา ได้ระบุว่า สตูดิโออนิเมชั่น ufotable กำลังติดหนี้ภาษีจำนวน 400 ล้านเยน ซึ่งนิตยสารรายนี้ได้อ้างแหล่งข่าวจากสำนักจัดเก็บภาษีประจำภูมิภาคโตเกียว รายงานยังระบุด้วยว่า ufotable ถูกสงสัยว่ามีการยักยอกเงินประมูลเพื่อการกุศลในเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ณ ภูมิภาคโตโฮคุ เมื่อปี 2011 ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายอาญาที่มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี

Bunshun Digital ยังได้อ้างถึงแหล่งข่าวจากภายใน ufotable ว่า Hikaru Kondo ผู้ก่อตั้งบริษัท ,ตัวแทนผู้บริหาร และประธานของสตูดิโอแห่งนี้ กำลังอาศัยอยู่ที่บ้านและได้ปรึกษากับทนายความของเขาทุกวัน นับตั้งแต่มีรายงานการสอบสวน แต่คาดว่าจะกลับมาทำงานที่ สตูดิโอ Suginami ของบริษัทแห่งนี้ ราวสองสัปดาห์

อีกทั้ง Bunshun Digital ได้รายงานเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อนว่า สำนักจัดเก็บภาษีประจำภูมิภาคโตเกียว ได้ทำการตรวจค้นสำนักงานของ ufotable เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2019 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสืบสวนของบริษัทที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำการหลบเลี่ยงภาษี โดยพวกเขาได้เข้าไปค้นหาข้อมูลในร้านคาเฟ่ของพวกเขาที่ Kōenji และ Tokushima รวมถึงสตูดิโออนิเมชั่นใน Shimoigusa ในเขต Suginami ของโตเกียว ตามรายงานระบุว่า Kondo ถูกกล่าวหาว่า เขาได้รับรายได้บางส่วนโดยตรง ซึ่งมาจากการขายสินค้าของสตูดิโอ จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการเรียกค่าปรับแก่ Kondo หรือ ufotable แต่อย่างใด

Kondo ก่อตั้ง ufotable ขึ้นเมื่อปี 2000 และสตูดิโอแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี จากผลงานอนิเมซีรี่ย์ตระกูล Fate ของ Type-Moon ซึ่งรวมไปถึง Fate / Zero และ Fate / stay night: Unlimited Blade Works ขณะนี้ สตูดิโอกำลังจัดทำหนังอนิเมไตรภาคของ Fate / stay night: Heaven's Feel โดยหนังชุดที่ 2 จากไตรภาคนี้ เปิดตัวเมื่อ 12 ม.ค. 2019 ที่ญี่ปุ่น อีกทั้งสตูดิโอแห่งนี้ ยังเป็นผู้สร้างอนิเม The Garden of Sinners ของ Type-Moon , Katsugeki: Touken Ranbu รวมไปถึง Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร ที่เพิ่งฉายทางทีวีไปเมื่อ 6 เม.ย. 2019

อีกทั้ง สตูดิโอแห่งนี้ยังผลิตและจำหน่ายสินค้าให้กับอนิเมหลายเรื่อง รวมถึงเปิดกิจการร้านคาเฟ่จำนวนหนึ่งเพื่อจำหน่ายสินค้าบางส่วน อีกทั้งยังเป็นผู้จัดงานอีเว้นต์ Machi Asobi ใน จ. Tokushima ที่มีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 1 ล้านคน นับตั้งแต่จัดขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อปี 2009

แหล่งข่าว : Bunshun Online, Yara-on!, animenewsnetwork



IG Port รายงานการคาดการณ์รายได้ฉบับปรับปรุง พร้อมผลประกอบการ

IG Port บริษัทแม่ของสตูดิโออนิเมชั่น Productio IG, Wit Studio, XEBEC, Signal.MD และสำนักพิมพ์ Mag Garden ได้เปิดเผยข้อมูลการคาดการณ์กำไรใหม่ เมื่อจบปีงบประมาณปัจจุบัน (สิ้นสุดวันที่ 31 พ.ค. 2019 ) พร้อมกับรายงานผลประกอบการรายได้ผ่านไตรมาสที่ 3 ของปี (สิ้นสุดเมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2019) เมื่อ 12 เม.ย. 2019 ที่ผ่านมา

IG Port ได้ปรับการคาดการณ์กำไรสำหรับปีงบประมาณ จากยอดขายรวม 9.751 พันล้านเยน เป็น 9.062 พันล้านเยน รวมถึงยังได้ปรับปรุงการคาดการณ์ผลขาดทุนจาก 157 ล้านเยน เป็น 434 ล้านเยน แล้วก็ ผลขาดทุนสุทธิจาก 200 ล้านเยน เป็น 209 ล้านเยน โดยสาเหตุหลักที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนการคาดการณ์ให้ลดลงจากเดิม เนื่องมาจากความล่าช้าในการส่งมอบวิดีโอบางรายการไปยังไตรมาสถัดไป และยอดขายของการ์ตูนบางเรื่องที่คาดว่าจะลดลงไปจากเดิม

บริษัท รายงานยอดขายรวม 6.696 พันล้านเยน ในช่วง 9 เดือน เมื่อสิ้นสุด ณ วันที่ 28 ก.พ. 2019 โดยขาดทุนจากการดำเนินงาน 517 ล้านเยน ซึ่งเป็นผลขาดทุนปกติ 518 ล้านเยน และขาดทุนสุทธิ 507 ล้าน

ธุรกิจวิดีโอของ IG Port ทั้งในส่วน live-action และ อนิเม มียอดขายรวม 4.691 พันล้านเยน ในช่วง 9 เดือน เมื่อสิ้นสุด ณ วันที่ 28 ก.พ. 2019 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 4.4% แต่ขาดทุนจากการดำเนินงาน 531 ล้านเยน บริษัทให้เหตุผลในการสูญเสียต้นทุนการผลิต CG และต้นทุนการจ้างเอาต์ซอร์ส รวมถึง การขาดแคลนพนักงานทำให้การผลิตเพิ่มขึ้น

ธุรกิจสำนักพิมพ์ของ IG Port มียอดขายรวม 778 ล้านเยน ในช่วง 9 เดือน เมื่อสิ้นสุด ณ วันที่ 28 ก.พ. 2019 ซึ่งลดลงจากปีก่อน 39.8% และมีกำไรจากการดำเนินงาน 54 ล้านเยน ซึ่งลดลงจากเดิม 84.5%

ธุรกิจการจัดการสิทธิ์ของ IG Port มียอดขายรวม 1.053 พันล้านเยน ในช่วง 9 เดือน เมื่อสิ้นสุด ณ วันที่ 28 ก.พ. 2019 ซึ่งลดลงจากปีก่อน 20.1% โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน 36 ล้านเยน ซึ่งลดลงจากเดิม 94.7%

IG Port กับ NTT Plala ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ได้ประกาศการเป็นพันธมิตรด้านเงินทุนเมื่อ พ.ค. 2018 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตเนื้อหาใหม่ ในฐานะส่วนหนึ่งของการเป็นหุ้นส่วน NTT Plala ได้เข้าซื้อหุ้นที่ของ IG Port เป็นจำนวนร้อยละ 4.98

Production I.G และ Wit Studio ปัจจุบันเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ครอบคลุมกับ Netflix ด้วยการร่วมผลิตอนิเมซีรี่ย์ พร้อมกับฉายสตรีมในอีก 190 ประเทศทั่วโลก

เมื่อเร็ว ๆ นี้ IG Port ได้โอนกิจการของสตูดิโอ Xebec (ในส่วนของการผลิตอนิเมชั่น) ให้กับ Sunrise เมื่อ 1 เม.ย. 2019 เป็นมูลค่าถึง 300 ล้านเยน ซึ่งสตูิโอ Xebec เตรียมจะยุติการดำเนินกิจการอย่างถาวรในวันที่ 31 พ.ค. 2019 ซึ่งในส่วนแผนกที่เหลืออยู่ (และไม่ได้ถูกขาย) ของ Xebec จะแยกย้ายไปสังกัดภายใต้สตูดิโออื่นๆในเครือของ IG Port โดยที่ IG Port จะกลายเป็นผู้ดูแลลิขสิทธิ์ผลงานต่างๆของ Xebec แทน

แหล่งข่าว : Animation Business Journal , animenewsnetwork



 
free hit counter javascript