บอกเล่าข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 13-19 เมษายน 2563

บอกเล่าสรุปข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ กลับมาอีกครั้ง.....ในช่วงที่สถานการณ์การระบาดของโรคนี้ในบ้านเรา เริ่มที่จะทรงตัว พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ รายวัน ราว 30 คน ในทุกวัน จนมองเห็นแสงแห่งความหวังว่า บ้านเราอาจกลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็วได้ แต่ถึงกระนั้น ก็ขอให้อย่าเพิ่งประมาทกัน อดทนช่วยสู้ต่ออีกซักหน่อยนึง มีน้ำจิตน้ำใจ ช่วยแจกของช่วยเหลือในยามยากได้ แต่ก็ต้องจัดระเบียบการห่างกันในสังคมด้วย ไม่ใช่ปล่อยให้อยู่ใกล้ชิดกัน เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดอีก หากเป็นเช่นนั้น สิ่งที่ผ่านมา แทบจะสูญเปล่าเลย

แต่เหนือสิ่งอื่นใด คงจะเป็นมาตรการการเยียวยาจากภาครัฐนี่ล่ะ ที่ดูแล้วยังมีความ Error อยู่ ดันจัดทำระบบรับเงินเยียวยา ยังกะ เล่มเกมกาชา ไปซะงั้น!? รวมไปถึง เรื่องของการสื่อสารของรัฐบาล ที่ยังคงสร้างความคลุมเครือ จนมีผลต่อภาพลักษณ์ของรบ.ชุดนี้ ตามที่หลายคนได้เห็นในสื่อต่างๆ......

สำนักข่าว K-D News (kartoon-discovery.com)
สามารถอัพเดทข่าวสารเว็บเราได้ผ่าน Twitter และ Facebook


หากนำข่าวจากเราไปเผยแพร่ที่อื่น รบกวนใส่เครดิตให้กับทางเราด้วยครับ ขอบคุณครับ

New Release Comics of the Week : เรียกขวัญกำลังใจยามเหงาๆ กับ จิฮายะ 27

การ์ตูนออกใหม่ ท่ามกลางวิกฤติ COVID-19 ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งก็มีเรื่องไฮไลต์ออกมาเพียงเล็กน้อย จากค่ายที่ไม่ใหญ่มาก

จิฮายะ เล่ม 27 อาราตะกับไทจิแข่งขันกันในการแข่งชิงถ้วยทาคามัตสึโนะมิยะ แม้จะเป็นระดับ A เหมือนกัน ทว่าก็ยังเผยให้เห็นถึงความต่างชั้นอันรู้ได้จากประสบการณ์ที่สั่งสม จิฮายะจึงจัดการแข่ง “ถ้วยไทจิ” ขึ้นอย่างไม่เป็นทางการเพื่อเรียกรอยยิ้มของไทจิกลับคืนมา ผู้คนที่มาร่วมงานต่างเป็นคนที่รักในคารุตะและคอยเกื้อหนุนไทจิมาตลอด หลายวันหลังจากนั้น จิฮายะกับไทจิบังเอิญเจอกันที่ห้องชมรม เมื่ออยู่กันตามลำพังท่ามกลางสายลมฤดูใบไม้ผลิพัดรำเพย ไทจิก็เผยความในใจที่มีหลังได้เจอกับจิฮายะออกไป ทว่านั่นเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายอื่นด้วยเช่นกัน

นิยาย คงจะดีถ้ามีน้องสาวสักคน เล่ม 9 ผลงานของเหล่าผู้ได้รับรางวัลนักเขียนหน้าใหม่ครั้งที่ 15 ทยอยตีพิมพ์ต่อจากไอโอย อุย
คาซามัตสึ อาโอบะที่ชื่นชมมายุตะเดบิวต์สำเร็จ แต่สิ่งที่รออยู่กลับกลายเป็นพายุค่าก่นด่า
ฮิสึกิพูดให้กำลังใจอาโอบะเพราะเห็นภาพของเธอซ้อนกับตนเองสมัยเดบิวต์
อีกด้านหนึ่ง งานสร้างอนิเม "ทุกสิ่งของน้องสาว" ที่กำลังจะออกอากาศก็เกิดปัญหา
ไม่หยุดหย่อน มิยาโกะเริ่มออกหางาน และคู่แข่งที่ไม่ใช่หุ่นยนต์ทำความสะอาดแต่เป็นมนุษย์
ก็ปรากฏตัวเบื้องหน้าจิฮิโระ

นิยาย อาชีพกระจอกแล้วทำไมยังไงข้าก็เทพ เล่ม 10 บททดสอบของมหาวงกตแห่งสุดท้าย ‘ถ้ำน้ำแข็ง’ ยังคงดำเนินต่อไป ยูเอะเองก็ได้ต่อสู้ กับภาพเสมือน สิ่งที่ถูกขุดออกมาจากความทรงจำซึ่งละทิ้งไปแล้ว คือความลับที่กระทั่ง ตนเองยังไม่รู้และ ‘ความขัดแย้ง’ เชียโดนบังคับให้นึกถึงโศกนาฏกรรมในอดีต ทีโอถูกเปิดโปงความรู้สึกผูกพยาบาทที่คุกรุ่นอยู่ในใจ ส่วนคาโอริก็ถูกความร้อนรนและ ความริษยามาราวี… ถึงกระนั้นพวกเธอก็ต้องเผชิญหน้ากับบททดสอบ เพื่อก้าวข้ามตนเองและคว้าอนาคต ที่จะได้เดินร่วมทางกับคนรักที่สุด—!


รูปภาพหน้าปก : amazon.co.jp



Bessatsu Shonen Magazine และ นิตยสารการ์ตูนรายเดือนเล่มอื่นๆ ของเครือ Kodansha เลื่อนวางจำหน่ายอย่างไม่มีกำหนด

สถานการณ์การระบาดของ Covid-19 ในญี่ปุ่น ณ ตอนนี้ ต้องเรียกได้ว่า 3 สนพ.การ์ตูนยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ทั้ง Shueisha , Shogakukan และ Kodansha ต่างประสบกับผลกระทบกันถ้วนหน้า ครบทุกแห่งหน นับตั้งแต่มีการรายงานว่า พบผู้ป่วย COVID-19 ณ สนพ. Shogakukan ยันจนถึง พนักงานในกองบก. นิตยสาร Shonen Jump ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่า อาจติดเชื้อไวรัสดังกล่าว จนทำเอา กองบก. Jump ของสนพ. Shueisha ถึงคราวุ่น จนพนักงานในสังกัดต่างพากันทำงานจากที่บ้าน และ ยังทำเอาหนังสือการ์ตูน และ Shonen Jump ฉบับถัดไป ต้องเลื่อนการวางจำหน่ายออกไป ตามที่เราได้รายงานไปก่อนหน้านี้

ล่าสุด จากการที่สถานการณ์การระบาดของ Covid-19 ในญี่ปุ่น ทวีความรุนแรงขึ้น รวมถึง รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศญี่ปุ่น เมื่อ 16 เม.ย. 2020 ซึ่งก็ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อบรรดาสนพ.ต่างๆ ในแง่ของการตีพิมพ์และจัดจำหน่ายหนังสือ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ...... และด้วยเหตุนี้ สนพ. Kodansha ได้ออกมาแจ้งว่า นิตยสาร Bessatsu Shonen Magazine นิตยสารการ์ตูนรายเดือนของพวกเขา ที่ตีพิมพ์ซีรี่ย์การ์ตูนเรื่องดังๆอย่าง Attack on Titan ผ่าพิภพไททัน , The Heroic Legend of Arslan ตำนานผู้กล้าอัสลัน , UQ Holder! ฯลฯ จะเลื่อนการวางจำหน่ายฉบับเดือน มิ.ย. 2020 ออกไป อย่างไม่มีกำหนด จากเดิมที่มีกำหนดจะวางขายในวันที่ 9 พ.ค. 2020

แม้ในขณะนี้ จะยังไม่มีการรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อ Covid ในสนพ. Kodansha ก็ตาม แต่จากวิกฤติที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ไม่เพียงแค่ Bessatsu Shonen Magazine จะเลื่อนการวางจำหน่ายออกไปแล้ว ก็ยังมีนิตยสารการ์ตูนรายเดือนหัวอื่นๆ ของ Kodansha ได้ประกาศเลื่อนวางจำหน่ายออกไปอีกเช่นกัน :

・Morning Two (เดิมมีกำหนดวางจำหนาย 22 เม.ย. 2020)
・Ane Friend (เดิมมีกำหนดวางจำหนาย 1 พ.ค. 2020)
・Young Magazine the 3rd (เดิมมีกำหนดวางจำหนาย 7 พ.ค. 2020)
・good! Afternoon (เดิมมีกำหนดวางจำหนาย 7 พ.ค. 2020)
・Gekkan Young Magazine (เดิมมีกำหนดวางจำหนาย 20 พ.ค. 2020)
・HatsuKiss (เดิมมีกำหนดวางจำหนาย 25 พ.ค. 2020)
・comic tint (เดิมมีกำหนดวางจำหนาย 5 มิ.ย. 2020)
・Honey Milk (เดิมมีกำหนดวางจำหนาย 10 มิ.ย. 2020)
・Magazine R (เดิมมีกำหนดวางจำหนาย 20 มิ.ย. 2020)

โดยแถลงการณ์ของ Kodansha ได้ระบุว่า พวกเขาไม่สามารถที่จะจัดพิมพ์หนังสือได้ตามปกติในช่วงเวลาหลังจากนี้ ซึ่งจากการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน (ซึ่งในแถลงการณ์ของสนพ.ในตอนนั้น ยังประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินแค่ 7 จังหวัดในญี่ปุ่น รวมถึง กรุงโตเกียว) ได้ส่งผลกระทบต่อการตีพิมพ์ในรูปแบบต่างๆ ทั้งการตัดต่อ แก้ไข , ผลิต และ การจัดจำหน่าย ซึ่งไม่เพียงแค่นิตยสารในฉบับรูปเล่มที่ต้องประสบปัญหาแล้ว นิตยสารในรูปแบบออนไลน์ ก็เจอผลกระทบนี้ด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม สำหรับ Shonen Magazine ซึ่งเป็นนิตยสารการ์ตูนรายสัปดาห์ของพวกเขา (ต้นสังกัดของ ก้าวแรกสู่สังเวียน , Edens Zero ฯลฯ) ยังคงวางจำหน่ายตามปกติ



แหล่งข่าว :  Crunchyroll

 



เราไม่ทิ้งกัน......3 นิตยสารการ์ตูน ในเครือ Hakusensha เลื่อนการวางจำหน่ายเช่นกัน

นอกจาก สนพ. Kodansha จะเจอผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของ COVID-19 + สถานการณ์ฉุกเฉิน จนต้องเลื่อนการวางจำหน่ายนิตยสารการ์ตูนรายเดือนจำนวนหนึ่งของพวกเขาออกไปนั้น ล่าสุด สนพ. Hakusensha กลายเป็นสนพ.การ์ตูนรายล่าสุด ที่ได้มีการประกาศเลื่อนวางจำหน่ายนิตยสารการ์ตูนในสังกัดของพวกเขา จำนวน 3 หัว ได้แก่ Hana to Yume, Young Animal, และ MOE

โดย Hana to Yume กับ Young Animal ฉบับที่วางขายในเดือน เม.ย. 2020 (Hana to Yume #10-11 กับ Young Animal #9-10 ) จะวางจำหน่ายตามปกติ ในวันที่ 20 เม.ย. 2020 กับ 24 เม.ย. 2020 ตามลำดับ ส่วนฉบับหลังจากนั้น จะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการวางจำหน่ายเป็นฉบับควบแทน จากเดิมที่จะวางขายในฉบับเล่มเดี่ยว โดย Hana to Yume #12-13 กับ Young Animal #11-12 จะวางขายในวันที่ 20 พ.ค. 2020 กับ 22 พ.ค. 2020 ตามลำดับ ส่วน Hana to Yume #14-15 กับ Young Animal #13-14 จะวางขายในวันที่ 20 มิ.ย. 2020 กับ 26 มิ.ย. 2020 ตามลำดับ

ส่วน MOE จะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการวางจำหน่ายเป็นฉบับควบแทน เหมือนกับ นิตยสาร 2 หัวข้างต้น โดย MOE ฉบับ ก.ค.-ส.ค. 2020 จะวางขายในวันที่ 3 ก.ค. 2020


แหล่งข่าว : Hakusensha , Comic Natalie , Anime News Network


COVID-19 ระบาด ตำนานนักมวยปล้ำยอดมนุษย์ ยังมิอาจทน ..... เมื่อ Kinnikuman จะงดตีพิมพ์ยาว 1 เดือน

COVID-19 ยังคงสร้างผลกระทบต่อการตีพิมพ์มังงะซีรี่ย์อย่างต่อเนื่อง.....โดย Kinnikuman มังงะซีรี่ย์ฮีโร่นักมวยปล้ำพลังข้าวหน้าเนื้อ 300 ปี กลายเป็นมังงะเรื่องล่าสุด ที่จะงดเขียนเป็นเวลา 1 เดือน อันเนื่องจากสถานการณ์การระบาดของ Covid-19 รวมไปถึง การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในญี่ปุ่น ซึ่งมังงะเรื่องนี้ จะงดลงตอนใหม่ ตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย. 2020 เป็นต้นไป

โดย Yudetamago คู่หูผู้แต่งมังงะมวยปล้ำพิทักษ์โลกเรื่องดังในอดีต ได้อธิบายว่า พวกเขา กับ เหล่าทีมผู้ช่วย จะเดินทางออกจากบ้านพัก ไปทำงานกันที่สตูดิโอของพวกเขา เป็นประจำทุกสัปดาห์ ซึ่งในการทำงานเขียนเรื่องนี้นั้น ยังคงใช้กรรมวิธีแบบเก่า คือ ใช้กระดาษ กับ ปากกา วาดเท่านั้น ไม่ได้มีการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าช่วยเลย (นอกจากการอัพไฟล์การ์ตูนตอนที่เขียนเสร็จลงเว็บ) โดยใช้เวลาในการทำงานกันอยู่หลายชั่วโมงทีเดียว แถมทีมงานของเขาอีกจำนวนหนึ่ง ยังคงอาศัยอยู่ร่วมกับสมาชิกในครอบครัว ซึ่งเป็นผู้สูงอายุ อยู่หลายคนเลย ซึ่งการระบาดของไวรัสชนิดนี้ ได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการเขียนมังงะเรื่องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องของการเดินทางไปทำงาน ทำให้พวกเขาได้ปรึกษากับ Shueisha สนพ.ต้นสังกัด เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น จนนำไปสู่การตัดสินใจดังกล่าว

Yudetamago ยังกล่าวอีกว่า มังงะ Kinnikuman มีแผนจะกลับมาเผยแพร่ตามปกติ ในวันที่ 18 พ.ค. 2020 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ยังไม่แน่นอน ซึ่งก็ทำให้กำหนดการต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งพวกเขาจะแจ้งให้แฟนๆได้รับทราบกันอีกที อีกทั้ง นักเขียนคู่นี้ยังได้ฝากทิ้งท้ายให้แฟนๆ ให้ช่วยกันพิชิตเจ้าไวรัสวายร้ายชนิดนี้ ด้วยพลังแห่งมิตรภาพของพวกเรา!!!

ปัจจุบัน Kinnikuman ลงเผยแพร่ประจำบนเว็บไซต์ Shū Play News ของนิตยสาร Weekly Play Boy ตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา (ก่อนหน้านี้เคยตีพิมพ์ลงใน Shonen Jump ช่วงปี 1979 - 1987) ในระหว่างนั้น Kinnikuman เคยมีตอนพิเศษลงในนิตยสาร Grand Jump เมื่อปี 2015 รวมถึง ตอนพิเศษ 1 ตอนจบ ฉลองการกลับมาตีพิมพ์ลงใน Shonen Jump ครั้งแรกในรอบ 11 ปี เมื่อ มิ.ย. 2019 นี้เอง


แหล่งข่าว : Shueisha , Anime News Network



ผกก.อนิเม Eiichi Kuboyama เปรย COVID-19 จะทำให้การผลิตอนิเม ไม่สามารถไปต่อได้

ด้วยฤทธิ์การระบาดของ COVID-19 / Coronavirus ไปพร้อมกับ การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศญี่ปุ่น ก็ได้สร้างความสั่นสะเทือนถึงวงการอนิเมญี่ปุ่น ถึงคราวปั่นป่วนและอ่วมกันไปยกใหญ่ ซึ่งขณะนี้ ได้มี อนิเมทีวี และ หนังอนิเมจำนวนหนึ่ง พากันเลื่อนกำหนดการฉาย เพื่อหลีกหนีจากสถานการณ์ COVID-19 ไปให้พ้นๆ

และจากการที่กรุงโตเกียว เป็นที่ตั้งของสตูดิโออนิเมมากมาย ซึ่งการมาของประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ก็ย่อมส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการผลิตอนิเมหลากหลายเรื่อง ในทุกขั้นตอนเลยทีเดียว!!.... จากตรงนี้ หากสถานการณ์ต่างๆยังไม่ดีขึ้น ก็ทำเอาวงการอนิเมญี่ปุ่นถึงคราวิกฤติ เช่นกัน

ล่าสุด Eiichi Kuboyama ผกก.อนิเม ผู้ทำงานในส่วนของ Episode Director ให้กับ Monogatari Second Season ตอนที่ 19 กับ 25, Unit Director ให้กับ Hanamonogatari , และ Episode Director ให้กับ Didn't I say to make my abilities average in the next life ตอนที่ 5 กับ 12 ได้ออกมาแสดงทรรศนะ บน twitter ส่วนตัว เกี่ยวกับภาวะการระบาดของโรคร้ายนี้ไปทั่วโลก ซึ่งส่งผลกระทบอย่างหนัก ต่อการผลิตอนิเม เข้าอย่างจัง

"หลายคน กำลังบอกว่า อนิเมบางเรื่องที่ต้องหยุดผลิตกลางคัน เพียงเพราะมาจากปัญหาการบันทึกเสียงพากย์ ซึ่งผมไม่เห็นด้วยเลย เอาตรงๆนะ การที่สตูดิโออนิเมปิดเนี่ย มันไม่ได้สร้างผลกระทบมากมายเท่าไหร่ แต่ถ้าหากสตูดิโอถ่ายภาพ (จัดลำดับภาพ) ปิดไปล่ะก็ โปรเจ็คอนิเมต่างๆที่ควรจะทำแล้วเสร็จ ก็จะหยุดชะงักไปเลย ไม่สามารถที่จะไปต่อได้

แล้วก็นะ แม้แต่ อนิเมบางเรื่อง ที่ได้เลื่อนออกอากาศ จาก เม.ย. ไปเป็น ก.ค. เนี่ย ผมสงสัยจังว่า เอาเข้าจริงจะได้ฉายอยู่มั๊ย หากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ มันยังคงอยู่ ผมรู้สึกเช่นนั้นนะ"

โดย สตูดิโอถ่ายภาพ ที่ Kuboyama ได้พูดถึงข้างต้นนั้น คือ สตูดิโอที่มีบทบาทสำคัญในขั้นตอนสุดท้ายของการผลิตอนิเม ซึ่งก้คือ การนำเอาภาพที่วาดแล้วไปสแกนลงคอม พร้อมจัดแต่ง รวบรวมไว้เข้าด้วยกัน จนกลายเป็นงานอนิเมชั่น โดยสตูดิโอบางแห่ง ที่ต้องทำงาน โดยขึ้นกับขั้นตอนการทำงาน ก็จะจัดการวาดภาพในแบบดิจิตอลทั้งหมด โดยที่ไม่ต้องมีการสแกนลงคอมแต่อย่างใด ซึ่งสตูดิโอส่วนใหญ่นั้น ยังคงมีการวาดภาพอนิเมชั่นลงกระดาษอยู่ และยังจำเป็นต้องสแกนภาพผ่านเครื่องสแกนเนอร์แบบพิเศษ โดย กระดาษ กับ ปากกานั้น สามารถพกพากลับไปบ้านอย่างง่ายดาย ในขณะที่สแกนเนอร์นั้น ไม่สามารถทำแบบนั้นได้ อย่างไรก็ตาม ก็มีสตูดิโอบางแห่งที่สามารถทำงานจากที่บ้านได้ แต่สำหรับบริษัท outsource หรือ บริษัทบางแห่งนั้น กลับมีอุปกรณ์พิเศษเฉพาะ ซึ่งไม่เอื้อต่อการทำงานแบบ Work from Home ซักเท่าไหร่

อีกทั้ง Kuboyama ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับการบันทึกเสียงพากย์ในช่วงวิกฤตินี้ ไม่ว่าจะเป็นการให้นักพากย์มาบันทึกเสียงที่สตูดิโอแบบ 1 ต่อ 1 หรือ จะบันทึกเสียงพากย์มาจากที่บ้าน ซึ่งเขาก็ตอบว่า



"ถ้าคุณลองทำแบบนั้น คุณก็ต้องไปฆ่าเชื้อโรคที่ห้องพากย์ของนักพากย์แต่ละคนด้วย แล้วก็นะ วิธีนี้ มันก็อันตรายมากๆ เพราะว่า ผกก. และ คนกำกับเสียง เขาต้องอยู่ที่นั่นตลอดเวลา ในขณะเดียวกัน การบันทึกเสียงพากย์จากที่บ้านนั้น ผมมองว่า คุณภาพเสียงที่ได้ออกมานั้น ไม่ค่อยดีนักหรอก "


แหล่งข่าว :  Otakomu , Crunchyroll

 



 

หนังคนแสดง Tokyo Revengers พักกองยาว อันเนื่องจากการระบาดของ COVID-19

หนังคนแสดง Tokyo Revengers ที่ดัดแปลงมาจากผลงานมังงะเด็กโจ๋ทะลุมิติชื่อเดียวกันของ อ.Ken Wakui ได้ประกาศหยุดการถ่ายทำอย่างไม่มีกำหนด เนื่องมาจากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ในญี่ปุ่น โดย twitter หลักของหนังได้ระบุว่า พวกเขาได้คำนึงถึงความสำคัญด้านสุขภาพของนักแสดงและทีมงานเป็นหลัก จึงได้ตัดสินใจพักกองเป็นการชั่วคราว โดยตัวหนังนั้น ได้ถ่ายทำมาตั้งแต่ช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมานี้เอง (ม.ค.-มี.ค. 2020)

หนังชุดนี้้ กำกับการแสดงโดย Tsutomu Hanabusa ( Kakegurui, Miseinen dakedo Kodomo ja Nai) มีถ่ายทำมาตั้งแต่ช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมานี้เอง (แต่เพิ่งประกาศข่าวอย่างเป็นทางการ เมื่อ ก.พ. 2020) โดยมีกำหนดฉายบนโรงทั่วญี่ปุ่น วันที่ 9 ต.ค. 2020

นักแสดง
Takumi Kitamura รับบท Takemichi Hanagaki
Yuki Yamada รับบท Ken Ryūgūji
Yosuke Sugino รับบท Naoto Tachibana
Nobuyuki Suzuki รับบท Masataka Shimizu
Hayato Isomura รับบท Atsushi Sendō
Shotaro Mamiya รับบท Tetta Kisaki
Ryō Yoshizawa รับบท Manjirō Sano

Tokyo Revengers ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Shonen Magazine ตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา ปัจจุบันวางจำหน่ายถึงฉบับรวมเล่มที่ 15 ในญี่ปุ่น และมียอดตีพิมพ์มากกว่า 3 ล้านเล่ม ด้วยกัน (ส่วนบ้านเราหาซื้อฉบับแปลภาษาไทยได้ ของสนพ.VBK) เป็นเรื่องราวของ Takemichi Hanagaki ที่ทราบข่าวว่า Hinata Tachibana แฟนสาวของเขาเมื่อตอนม.ต้น ถูกฆ่าตายโดยพวกแก๊งอันธพาลนาม Tokyo Manji Gang ในขณะเดียวกัน ตัวเขาก็ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก และถูกปฏิบัติอย่างไม่ใยดีจากบอสที่มีอายุอ่อนกว่าเขา 6 ปี จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาได้พลัดมิติ ย้อนเวลาไปยังอดีตเมื่อ 12 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่เขากำลังเรียนอยู่ ม.ต้น และเพื่อเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตตัวเองให้ดีขึ้น รวมถึง ช่วยชีวิต Hinata ไปพร้อมกัน เขาจึงตั้งเป้าที่จะเป็นตัวท็อปประจำแก๊งเด็กเกสุดน่ากลัวอันดับ 1 แห่งภูมิภาคคันโต

แหล่งข่าว : Anime News Network



น้ำใจในยามยาก.....Studio Ghibli แจกภาพแบ็คกราวด์ ให้แฟนๆใช้ประดับฉากหลัง สำหรับการสื่อสารทางไกลบนจอ

จากวิกฤติ COVID-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลกนี้ แม้ว่าจะสร้างความยากลำบากในการเดินทาง หรือไปพบปะผู้คน ในช่วงเวลานี้ แต่ถึงกระนั้น ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ก็ได้ช่วยให้ผู้คนสามารถสื่อสารทางไกล พบปะ พูดคุย กับใครต่อใคร ในช่วงเวลานี้ได้ ผ่านทางหน้าจอออนไลน์ โดยที่ไม่ต้องออกจากบ้าน และแน่นอนว่า กิจกรรมการพบปะกันทางไกลผ่านทางออนไลน์นี้ ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับ การเรียนการสอนต่างๆ ในยามที่สถาบันการศึกษาต่างๆ ยังคงปิดอยู่ รวมไปถึง การทำงาน และ การประชุม ขององค์กร , บริษัท ต่างๆ เพื่อไม่ให้คนในองค์กรต้องมารับความเสี่ยงในการติดเชื้อโรค เป็นต้น

จากข้างต้น แน่ล่ะว่า การสื่อสารทางไกลออนไลน์ ในขณะนี้ ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันในยามที่โรคร้ายกำลังระบาด ซึ่งปัจจุบันนี้ ก็มีโปรแกรม หรือ แอพ ต่างๆ สำหรับใช้ในการประชุมออนไลน์ จำนวนมากมายให้ได้เลือกสรรกันตามเหมาะสม โดยในจำนวนนี้ มีบางโปรแกรม สามารถให้เราได้เลือกเอาภาพแบ็คกราวด์สวยๆ มาใช้ประดับประดาเป็นฉากหลังของเราได้ เพื่อเพิ่มความสนใจ ไม่ให้ดูน่าเบื่อจนเกินไป (แถมยังเป็นการปกปิด ไม่ให้ใครได้เห็นสภาพห้องพักตัวเอง ในขณะไลฟ์ 555+)

ด้วยเหตุนี้ ทาง Studio Ghibli เล็งเห็นว่า การพบปะกันผ่านทางไลฟ์ กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ พวกเขาก็เลยแจกภาพแบ็คกราวด์ต่างๆ จากหนังอนิเมดังของพวกเขา ทั้ง Nausicaa of the Valley of the Wind, Castle in the Sky, Princess Mononoke, Spirited Away, Howl's Moving Castle, Ponyo, The Secret World of Arrietty, และ The Tale of the Princess Kaguya ให้แฟนๆได้โหลดฟรี เพื่อเอาไปใช้ประกอบเป็นฉากหลัง ในการประชุมผ่านไลฟ์ของตัวเอง ซึ่งทาง Ghibli ได้เน้นย้ำว่า ภาพฉากหลังของพวกเขานั้น สามารถนำไปใช้เพื่อการส่วนตัวเท่านั้น ไม่อนุญาตให้นำไปเผยแพร่ซ้ำ หรือ นำภาพไปใช้ประกอบโฆษณา หรือ เชิงพาณิชย์ ใดๆ โดยเด็ดขาด

สามารถดาวน์โหลดกันได้ที่นี่



แหล่งข่าวและรูปภาพ : Anime! Anime!Studio Ghibli , Crunchyroll



Comiket เวอร์ชั่นออนไลน์ อุบัติขึ้น แทน Comiket 98

ในช่วงแห่งการระบาดของ COVID-19 ก็ทำเอาใครต่อใคร หรือ องค์กรต่างๆ พากันปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แม้ว่าในช่วงเวลานี้ จะไม่สามารถจัดงานอีเว้นต์ขนาดใหญ่ที่รวมตัวคนหมู่มากได้ก็ตาม แต่ถึงกระนั้น สำหรับบางอีเว้นต์นั้น ก็ยังสามารถดำเนินต่อได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องให้คนออกเดินทางนอกบ้านไปรวมตัวกัน ดั่งเช่น งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติของบ้านเรา ครั้งล่าสุด ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงาน ให้เป็นแบบออนไลน์แทน

จากข้างต้น คาดว่า ทางผู้จัดงาน Comic Market (Comiket) คงได้แรงบันดาลใจคล้ายๆกัน ก็เลยทำให้พวกเขาตัดสินใจที่จะจัดงาน Comiket ขึ้นมาอีกครั้ง โดยจะจัดในลักษณะที่เรียกว่า "Air Comiket" หรือ Comiket รูปแบบออนไลน์ ครั้งแรกในประวัติศาตร์!!! แทนที่ Comiket 98 ที่เพิ่งประกาศยกเลิกไป โดย Comiket เวอร์ชั่นออนไลน์นี้ เป็นการผนึกกำลังกัน ระหว่าง ผู้จัดงาน Comiket กับ Nico Nico Net Cho Kaigi จะมีขึ้นในช่วงวันที่ 1-5 พ.ค. 2020 ซึ่งเป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกับ Comiket 98 ที่เดิมมีกำหนดจัดขึ้นช่วงวันที่ 2-5 พ.ค. 2020

เกี่ยวกับเบื้องลึกเบื้องหลังของการกำเนิด Comiket รูปแบบออนไลน์นั้น Kōichi Ichikawa ตัวแทนคณะผู้จัดงาน Comiket ได้เปิดเผยผ่านไลฟ์สดของ Nico Nico เมื่อ 12 เม.ย. 2020 ว่า ทางผู้จัดได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับการยกเลิกการจัดงาน Comiket 98 เมื่อปลายเดือน ก.พ. 2020 ในช่วงที่รัฐบาลญี่ปุ่นขอความร่วมมือไม่ให้มีการจัดงานอีเว้นต์ขนาดใหญ่ขึ้น และจากมาตราการ Social Distancing ที่แนะนำให้ผู้คนเว้นระยะห่างกันทางสังคม ประกอบกับ การพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในโตเกียว ตั้งแต่ มี.ค. 2020 เป็นต้นมา ซึ่งกลายเป็นฟางเส้นสุดท้าย ที่ทำให้ต้องยกเลิกจัด Comiket 98 ไปโดยปริยาย.....พร้อมกันนี้ Ichikawa ยังหวังว่า แฟนๆจะสามารถรวมเอากระตือรือร้น ไปให้กับงาน Comiket ฉบับออนไลน์ครั้งแรก เฉกเช่นเดียวกับ งาน Comiket แบบปกติ โดยเขาได้กล่าวทิ้งท้ายว่า "ผมอยากจะตื่นนอนตอนตีสี่ ในวันที่มี Comiket ทุกวัน เหมือนกับที่ผมทำอยู่ทุกปี และได้นำเอาพลังงานทั้งหมดของกระผม ทุ่มลงไปหมดแล้ว”

โดย Comiket ฉบับออนไลน์ดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม "Ganbarō Dōjin!" (พยายามเข้านะ, Dōjin!) ซึ่งมีจุดประสงค์ในการช่วยส่งเสริมผู้สร้างสรรค์ผลงานโดจินชิ ทางออนไลน์ ไปในตัว ซึ่งทางผู้จัด Comiket ได้เปิดรับผลงานโดจินชิสร้างสรรค์ของแฟนๆ ทางสื่อโซเชียลต่างๆ ทั้ง Twitter, Instagram, YouTube, Nico Nico Doga, และ Nico Nico Livestreaming เมื่อช่วงวันที่ 12-19 เม.ย. 2020 ที่ผ่านมา โดยผู้จัด Comiket จะนำเอาผลงานที่ส่งมาเหล่านี้ ในการช่วยโปรโมทผลงานนักวาดโดจินทางออนไลน์ ในระหว่างการจัดงาน Air Comiket

อีกทั้ง ทางผู้จัดงาน จะสำรวจความเป็นไปได้ในการรวบรวมผลงานโดจินชิ และ เซอร์เคิล ที่ระบุไว้ในหนังสือแคตตาล็อกของงาน พร้อมกับระบุลิ้งค์ไปยังเว็บไซต์ขายของออนไลน์ ให้แฟนๆได้เลือกซื้อโดจินที่ชื่นชอบ ไม่เพียงเท่านั้น พวกเขามีแผนที่จะให้มีการนำเสนอผลงานทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์สตรีมมิ่ง Nico Nico Doga ด้วย

ขณะนี้ มีรายงานว่า Comic Toranoana กับ Melon Books ได้ประกาศโปรโมชั่นพิเศษของพวกเขา ในงาน Air Comiket ออกมาแล้ว นั่นคือ พวกเขาจะแถมถุงผ้า (ที่เดิมทีจัดทำขึ้นสำหรับ Comiket 98) ให้กับคนที่ซื้อหนังสือรวมกันเกิน 3,000 เยน อีกทั้ง ทั้งสองร้านนี้ นำรายได้จากการจำหน่ายหนังสือแคตตาล็อกของ Comiket 98 ที่เพิ่งเริ่มขายไปเมื่อ 11 เม.ย. 2020 ให้แก่ผู้จัดงาน Comiket (ซึ่งใครซื้อแคตตาล็อกจาก 2 ร้านดังกล่าว จะได้รับของแถมคือ ภาพวาดพิเศษจากนักวาดโดจิน และ ของแถมอื่นๆ)

แหล่งข่าว : Kai-You , Anime News Network



ลาก่อยชั่วคราว.......หนังอนิเม Evangelion 3.0+1.0 เลื่อนฉายออกไป หนีวิกฤติ COVID-19

การมาของ COVID-19 ยังทำเอาบรรดาสาวกอนิเม Evangelion ต้องรอการมาของหนังภาคสุดท้ายกันต่อไป หลังจากตั้งหน้าตั้งตารอ มานานกว่า 8 ปี นับตั้งแต่ Evangelion: 3.0 You Can (Not) Redo ออกฉายเมื่อปี 2012

ล่าสุด Studio Khara สตูดิโอผู้สร้างหนังอนิเม Evangelion: 3.0+1.0: Thrice Upon A Time หนังอนิเมภาคสุดท้ายของซีรี่ย์ Rebuild of Evangelion ได้ประกาศเลื่อนฉายหนังชุดนี้ออกไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ไปทั่วทุกมุมโลก จากเดิมที่จะฉายในวันที่ 27 มิ.ย. 2020 ส่วนตัวหนังจะได้ฉายเมื่อไหร่นั้น จะมีการแจ้งให้ทราบในภายหลังบนเว็บไซต์หลัก กับ สื่อโซเชียลหลัก ของหนังอนิเม อีกทั้ง ตั๋วหนังที่มีการจัดจำหน่ายล่วงหน้าไปแล้วนั้น สามารถนำไปใช้ในการรับชมหนังในวันและเวลาใหม่ได้

เว็บไซต์หลักของ Evangelion ได้ระบุว่า ทีมผู้สร้างพยายามทำอย่างเต็มที่ เพื่อที่จะให้งานเสร็จทันตามกำหนดการ สำหรับแฟนๆทุกคนที่กำลังรอติดตาม ซึ่งประกาศดังกล่าวนั้น ได้ออกมา 1 วันให้หลัง หลังจากที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินครอบคลุมทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่น เมื่อ 16 เม.ย. 2020 และจากประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินนี้ ทำให้รัฐบาลท้องถิ่นของแต่ละจังหวัด สามารถพิจารณาที่จะสั่งปิดธุรกิจบางประเภทได้ ซึ่งขณะนี้ มีโรงภาพยนตร์หลายแห่งในโตเกียว กับ โอซาก้า ได้ปิดให้บริการ เพื่อเป็นการสกัดกั้นการระบาดของไวรัสชนิดนี้

หนังอนิเมซีรี่ย์ Rebuild of Evangelion ของ Evangelion เริ่มต้นด้วย Evangelion: 1.0 You Are (Not) Alone เมื่อปี 2007 ซึ่งเป็นหนังที่รีเมคมาจากฉบับอนิเมทีวี ตามด้วยหนังภาคต่อๆมา ซึ่งดำเนินรูทต่างจากฉบับอนิเมทีวี ประกอบด้วย Evangelion: 2.0 You Can (Not) Advance เมื่อปี 2009 และ Evangelion: 3.0 You Can (Not) Redo เมื่อปี 2012 ส่วน Evangelion 3.0+1.0 แรกเริ่มเดิมที มีกำหนดฉายในปี 2015 แลต่จนแล้วจนรอด ก็เจอโรคเลื่อนมาโดยตลอด จากการที่ ผกก. Hideaki Anno กำลังติดพันกับโปรเจ็คหนัง Godzilla ภาคใหม่ รวมถึง ปัญหาด้านสุขภาพจิตใจที่เกิดขึ้นกับเขา และ เหตุผลอื่นๆอีกหลายประการ ยันจนถึง ปัญหาโรคระบาดที่เกิดขึ้น ในขณะนี้

จนถึงขณะนี้ ได้มีอนิเมทีวี กับ หนังอนิเม เรื่องล่าสุด ที่ได้มีการประกาศเลื่อนฉายออกไปแล้ว ประกอบด้วย Love Me, Love Me Not (หนังอนิเม) , Given (หนังอนิเม) , The Millionaire Detective (อนิเมทีวี) , Words Bubble Up Like Soda Pop (หนังอนิเม), Hokago Teibo Nisshi (อนิเมทีวี) , IDOLiSH7 ซีซั่น 2 (อนิเมทีวี) , Shokugeki no Soma: The Fifth Plate (อนิเมทีวี) , Appare-Ranman! (อนิเมทีวี) , Omoi, Omoware, Furi, Furare (หนังอนิเม) , Cardfight!! Vanguard Gaiden: If (อนิเมทีวี)



แหล่งข่าวและรูปภาพ : Evangelion 's Twitter , Crunchyroll


COVID-19 สะเทือนโลก ทำเอา San Diego Comic-Con ประกาศยกเลิกจัดงานประจำปี 2020

ข้ามฝากวิกฤติ COVID-19 บนแผ่นดินสหรัฐอเมริกา ที่กำลังเจอวิกฤติอย่างหนักหน่วง จนมีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ เข้าป้ายอันดับ 1 ของโลก ในขณะนี้ และจากการระบาดของไวรัสชนิดนี้ ก็ส่งผลต่อบรรดางานอีเว้นต์การ์ตูนอนิเมในอเมริกา หลากหลายงาน ที่ไม่สามารถจัดได้ในช่วงเวลานี้ และพากันประกาศแคนเซิลไปตามๆกัน

ซึ่งจากวิกฤติโรคระบาดทั่วโลกที่มีแนวโน้มว่าจะยังไม่คลี่คลายในเร็ววัน ก็ได้ส่งผลต่องานอีเว้นต์การ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่ งานใหญ่ที่สุดของสหรัฐ อย่าง San Diego Comic-Con เข้าอย่างจัง เพราะล่าสุด ทางผู้จัดงานดังกล่าวได้ประกาศยกเลิกการจัดงาน Comic-Con 2020 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากเดิมที่งานดังกล่าว มีกำหนดจัดขึ้นช่วงวันที่ 23-26 ก.ค. 2020 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี ที่ทาง Comic-Con ได้ประกาศงดการจัดงานประจำปี โดยทางผู้จัดยังระบุว่า สำหรับใครที่ซื้อป้ายเข้างาน Comic-Con 2020 ไปแล้ว สามารถที่จะขอคืนเงิน หรือ โอนสิทธิ์ไปใช้ในการเข้างานครั้งถัดไป ที่จะมีขึ้นใน ช่วงวันที่ 22-25 ก.ค. 2021

อีกทั้งสถานการณ์ COVID-19 ยังส่งผลกระทบต่องานปรับปรุงอาคารรัฐบาลกลางของ Balboa Park ซึ่งจะถูกใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ Comic-Con ที่จะมีการเปิดตัวครั้งใหญ่ ในช่วงฤดูร้อนปี 2021 อีกด้วย

ขณะเดียวกัน Eric Garcetti นายกเทศมนตรี นคร Los Angeles ได้ให้สัมภาษณ์กับ CNN เมื่อ 15 เม.ย. 2020 ว่า ทางเมืองอาจงดการจัดงานที่เป็นการรวมตัวของคนจำนวนมาก จนถึงปี 2021 ซึ่งเขาออกมายอมรับว่า มันเป็นการยากที่จะได้เห็นการรวมตัวของคนเยอะๆในช่วงเวลานี้ จนกระทั่ง มีการค้นพบวัคซีน , เวชภัณฑ์ หรือ มีการเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคในระดับชุมชน ซึ่งก็พ้องกับความเห็นของ Gavin Newsom ผู้ว่าการรัฐ California ที่ได้กล่าวไว้ว่า งานอีเว้นต์ขนาดใหญ่ในรัฐดังกล่าว ช่วง มิ.ย. - ส.ค.2020 ไม่น่าจะจัดขึ้นได้ ซึ่งโอกาสในการรวมตัวกันของฝูงชนนั้น ยังไม่สำคัญ จนกว่า ผู้คนจะมีภูมิต้านทานของโรคนี้ แล้วก็ วัคซีน

ส่วนงานการ์ตูนอนิเมในต่างประเทศ ที่ได้มีการประกาศยกเลิกไปแล้ว เช่นกัน ประกอบด้วย Anime Expo 2020 ของสหรัฐ , Japan Expo 2020 ประเทศฝรั่งเศส , Gamescom 2020 ประเทศเยอรมนี ,งานเทศกาลภาพยนตร์อนิเมชั่นนานาชาติ Annecy ประเทศฝรั่งเศส (จัดในรูปแบบออนไลน์แทน) เป็นต้น


แหล่งข่าว : San Diego Comic Con , Anime News Network

 


Aria ยกพลพายเรืออีกครั้ง รูปแบบหนังอนิเม ฉลองครบรอบ 15 ปี

Aria ซีรี่ย์การ์ตูน-อนิเม สาวน้อยพายเรือนำเที่ยวตามน้ำคลอง ของ อ. Kozue Amano กำลังจะมีโปรเจ็คฉลองครบรอบ 15 ปี ของฉบับอนิเมของเรื่องนี้ ซึ่งก็คือ หนังอนิเม ที่มีกำหนดฉายในช่วงฤดูหนาวนี้ โดยจะได้ Rina Satou นักพากย์สาวจาก Toaru Kagaku no Railgun, Sunohara-sou no Kanrinin-san มาพากย์เสียงเป็นตัวละคร Athena Glory แทนที่ Tomoko Kawakami นักพากย์สาวผู้ล่วงลับ

ซีรี่ย์มังงะสุดฟีลกู้ดของ อ.Amano เรื่องนี้ ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Monthly Stencil เมื่อปี 2001 ในชื่อของ Aqua ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น Aria และย้ายไปตีพิมพ์ในนิตยสาร Comic Blade เมื่อ ก.พ. 2002 โดยฉบับมังงะรวมเล่มทั้ง 14 เล่มของเรื่องนี้ มียอดขายรวมกัน 4.2 ล้านเล่ม........ เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น ณ Neo Venezia นครแห่งสายน้ำ ที่ตั้งอยู่บนดาวเคราะห์ Aqua (หรือ ดาวอังคาร เดิม) ซึ่งเมืองดังกล่าวมีความละม้ายคล้าย Venice จากดาว Manhome (หรือ โลก) จนได้รับความสนใจจากผู้คน ที่อยากจะมาเยี่ยมเยือนเมืองแห่งนี้ ซึ่งที่นั่นเอง ก็มีบริษัท Aria เป็นหนึ่งในบริษัทท่องเที่ยว ที่จะคอยพานักท่องเที่ยวล่องเรือชมความสวยงามของเมืองนี้ ซึ่งมีสาวๆ Undine ที่คอยมารับหน้าที่เป็นไกด์ท่องเที่ยวพทเที่ยวเฉพาะ โดยนำเสนอเรื่องราวชีวิตประจำวันที่เกิดขึ้น ณ Neo Venezia ผ่าน Akari Mizunashi สาวชาว Manhome ผู้ซึ่งเป็น Undine ฝึกหัด ให้กับ บ. Aria

ต่อมามังงะเรื่องนี้ ถูกดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี 3 ซีซั่น กับ OVA อีก 1 ชุด โดยผกก.Junichi Satou (Bishoujo Senshi Sailor Moon, Princess Tutu) และ สตูดิโอ Hal Film Maker ออกอากาศเมื่อ ฤดูใบไม้ร่วง 2005 , ฤดูใบไม้ผลิ 2006, ฤดูใบไม้ร่วง 2007, และ ฤดูหนาว 2008 อีกทั้ง Satou ยังเป็นผกก.ให้กับอนิเมชุด Aria the Avvenire ให้กับสตูดิโอ TYO Animations เมื่อ ก.ย. 2015 อีกด้วย


แหล่งข่าว : Oricon , MAL


Hataraku Saibou Black มังงะสปินออฟ เซลล์ขยันพันธุ์เดือด จะได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี ออกอากาศไล่เลี่ยกับ อนิเมทีวี ซีซั่น 2

ในเดือน ม.ค. 2021 แฟนๆของ Hataraku Saibou / Cells at Work! หรือ เซลล์ขยันพันธุ์เดือด คงจะได้ฟินกันเต็มอิ่มล่ะ เพราะนอกจากจะได้ชมอนิเมทีวี ซีซั่น 2 ของเรื่องนี้แล้ว ก็ยังจะได้รับชมอนิเมดัดแปลงจากมังงะภาคแยกของเรื่องนี้ ชุด Hataraku Saibou Black / Cells at Work! Code Black กันอีกด้วย!!! ซึ่งอนิเมจากภาคแยกของเรื่องนี้ จะออกอากาศในเดือน ม.ค. 2021 เช่นกัน

Hataraku Saibou Black เป็นมังงะที่เขียนโดย อ.Shigemitsu Harada (เนื้อเรื่อง) และ อ.Issei Hatsuyoshi (ภาพ) ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Morning ตั้งแต่ ก.ค. 2018 เป็นต้นมา และกำลังจะวางจำหน่ายฉบับรวมเล่ม 6 ในวันที่ 23 เม.ย. 2020 เป็นเรื่องราวของ ตัวละครเม็ดเลือดแดง และ เม็ดเลือดขาว คู่ใหม่ (คนละตัวกับ มังงะภาคหลัก) ที่ต้องมารับมือกับสภาวะสุขภาพร่างกายไม่ดีของมนุษย์ อันเนื่องมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันอย่างไม่ถูกไม่ควร อาทิ ดื่มเหล้า , สูบบุหรี่ , การหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เป็นต้น

โดยเวอร์ชั่นอนิเมของมังงะชุดนี้ กำกับโดย Hideyo Yamamoto (Strike The Blood), เขียนบทโดย Hayashi Mori (Space Dandy) ,ออกแบบตัวละครโดย Eiji Abiko (Last Hope) และ ผลิตอนิเมโดย LIDEN FILMS (Magical Sempai)

Junya Enoki (The 8th Son? Are You Kidding Me?) จะพากย์เสียงเป็น เม็ดเลือดแดง ขณะที่ Yoko Hikasa (Mio Akiyama จาก K-ON!) จะพากย์เสียงเป็น เม็ดเลือดขาว (Neutrophil) โดยมี Kenjiro Tsuda (Seto Kaiba จาก Yu-Gi-Oh!) รับหน้าที่เป็นผู้บรรยาย

แหล่งข่าวและรูปภาพ :  Crunchyroll


มะเร็งคร่าชีวิต Keiji Fujiwara นักพากย์ผู้พากย์เสียงเป็น ผู้พัน Hughes , คุณพ่อของ Shinchan

วงการนักพากย์ญี่ปุ่น ได้สูญเสียบุคลากรฝีมือดีระดับชั้นแนวหน้าของวงการ เมื่อ AIR AGENCY บริษัทเอเย่นต์นักพากย์ ได้แจ้งข่าวว่า Keiji Fujiwara นักพากย์หนุ่มรุ่นใหญ่ วัย 55 ปี ผู้ก่อตั้ง และ ดำรงตำแหน่งตัวแทนผู้บริหารบริษัทดังกล่าว ได้เสียชีวิตลงแล้ว เมื่อ 12 เม.ย. 2020 หลังจากต่อสู้กับโรคมะเร็งมาอย่างยาวนาน

Fujiwara มีประสบการณ์ในวงการนักพากย์ญี่ปุ่นมานานกว่า 30 ปี โดยมีผลงานพากย์เสียงให้กับ อนิเม , เกม และ ภาพยนตร์ มากมาย โดยเริ่มเข้าสู่วงการอนิเม เมื่อช่วงยุค 90 ด้วยการทำงานเป็นนักพากย์ ภายใต้สังกัด Ken Production และได้แจ้งเกิดจากบทบาทการพากย์เป็น Hiroshi Nohara หรือ คุณพ่อของ Shinchan จาก Crayon Shin-chan ก่อนจะสร้างชื่อเสียงเพิ่มเติม จากการพากย์เสียงเป็น Maes Hughes หรือ ผู้พัน Hughes จาก Fullmetal Alchemist , Captain Hannes จาก Attack on Titan, รวมไปถึง การพากย์เสียงเป็น Tony Stark/Iron Man ในหนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องต่างๆของ Marvel ในเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่น ด้วย ส่วนอนิเมเรื่องอื่นๆ ที่เขาได้ร่วมพากย์เสียง ประกอบด้วย Mobile Suit Victory Gundam, Rurouni Kenshin, The Vision of Escaflowne, Hikaru no Go, , Death Note, Baccano!, Eureka Seven, Naruto, Gintama, Nodame Cantabile, Fairy Tail,Dr. STONE, One Piece ฯลฯ

Fujiwara ได้ก่อตั้ง AIR AGENCY ขึ้นเมื่อปี 2006 และมีผลงานการพากย์เสียงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งปี 2016 เขาได้หยุดทำงานพากย์เสียง เนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพ โดย Fujiwara ได้ฝากบทบาทการพากย์ครั้งสุดท้ายในชีวิตของเขา กับบทบาทของ Reno ตัวละครจากเกม Final Fantasy VII Remake ที่เพิ่งวางขายไปเมื่อเร็วๆนี้ นั่นเอง (ตัวละครดังกล่าว เขาพากย์เสียงให้กับเกม Final Fantasy VII Advent Children อีกด้วย)


 

แหล่งข่าวและรูปภาพ :  Air Agency ,  Oricon ,  Crunchyroll

 


ตามเทรนด์กันไป.........Yuruyuri คลับบ้าฮาต๊อง ผุดมังงะภาคต่างโลก

ในเมื่อเทรนด์พล็อต "ต่างโลก" กับ "แฟนตาซี" ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะหมดไป....จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยที่จะมีมังงะบางเรื่อง อดใจไม่ไหว ที่อยากจะลองละเลงเรื่องราวในธีมทำนองนี้มั่ง!!

ล่าสุด นิตยสาร Comic Yuri Hime ฉบับ มิ.ย. 2020 ได้แจ้งว่า Yuruyuri หรือ คลับบ้าฮาต๊อง ผลงานมังงะแนวสาวน้อยมุกเปิ่นของ อ.Namori กำลังจะมีมังงะสปินออฟ ที่มาในธีมแฟนตาซีต่างโลก ที่มีชื่อว่า Tensei Shitara Akari dake ga Slime Datta Ken ...มังงะดังกล่าว อ.Namori ได้เครดิตในฐานะเจ้าของผลงานต้นฉบับ ส่วน อ. Naya Minadori รับหน้าที่วาด ซึ่งจะมีกำหนดลงเผยแพร่บนเว็บไซต์ Nico Nico Seiga ในส่วนของ Suiyōbi no Sirius (Wednesday Sirius)

...ฟังจากชื่อแล้ว แน่นอนล่ะว่า ล้อเลียนมาจากชื่อไลท์โนเวล-มังงะดังของ Fuse ชุด Tensei Shitara Slime Datta Ken หรือ เกิดใหม่ทั้งทีก็เป็นสไลม์ไปซะแล้ว (พูดง่ายๆคือ มังงะสปินออฟชุดนี้ คงจะมีชื่อไทยประมาณ "เกิดใหม่ทั้งที อาคาริก็เป็นสไลม์ไปซะแล้ว"!!) โดยหยิบเอาบรรดาสายน้อยจาก Yuruyuri มาแต่งองค์ทรงเครื่องเป็นผู้กล้าตะลุยโลกแฟนตาซี เว้นเสียแต่ Akari นางเอกร่างโปร่งแสงประจำเรื่องนี้ ยังคงได้รับบทอาภัพไม่ต่างจากมังงะภาคหลัก ด้วยการกลายเป็นตัวสไลม์ สมชื่อเรื่อง!!!!!

อย่างไรก็ตาม twitter หลักของ Yuruyuri ได้ระบุว่า มังงะชุดนี้ จัดทำขึ้นอย่างหยอกๆ ต้อนรับวัน April Fool เมื่อ 1 ม.ค. 2020 ก่อนจะนำไปเขียนกันอย่างจริงๆจังๆ ในเวลาต่อมา ซึ่งในขณะเดียวกัน มังงะภาคหลัก Yuruyuri ก็จะวางขายฉบับรวมเล่ม 18 ในญี่ปุ่น วันที่ 27 พ.ค. 2020

Yuruyuri ตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา และถูกนำไปดัดแปลงเป็นอนิเมซีรี่ย์ 3 ซีซั่น , OVA 2 ชุด และ อนิเมบนเน็ตชุด Miniyuri เมื่อ ก.ย. 2019

แหล่งข่าว และ รูปภาพ : Anime News Network



นิตยสาร Ultra Jump จัดประกวดแต่งพล็อตมังงะ ธีม "ต่างโลก x วาบหวิว"

นิตยสาร Ultra Jump นิตยสารการ์ตูนสำหรับนักอ่านผู้ใหญ่ในเครือ Shueisha มีความต้องการอยากได้มังงะแนวต่างโลกที่กำลังอินเทรนด์ มาประดับเล่ม โดยมีการผสมผสานกับความวาบหวิว ให้เข้ากับกลุ่มคนอ่านนิตยสารหัวนี้ รวมถึง อยากได้ไอเดียใหม่ๆที่ต่างไปจากเดิม และจากข้างต้นนี้ ก็นำไปสู่การจัดประกวดแต่งพล็อตมังงะ ธีม ต่างโลก x วาบหวิว ของ Ultra Jump ที่จัดร่วมกับ Novel Up+ เว็บไซต์นิยายออนไลน์ของ Hobby Japan

ไม่เพียงแต่ธีมดังกล่าว ที่จะต้องทำออกมาอย่างมีชีวิตชีวา เท่านั้น แต่ทางฝ่ายบก.ของ Ultra Jump ก็กำลังตามหาเรื่องราวกับตัวละครที่มีความน่าสนใจด้วย ซึ่งธีมเรื่องอาจมาแนววาบหวิว แต่พวกเขาไม่เพียงมองหาเรื่องราวตามสถานการณ์แบบนั้น พวกเขาอยากจะอ่านเรื่องราวที่ตัวละครกับความสัมพันธ์ต่างๆ ที่เติบโตมากขึ้นเป็นลำดับด้วย! อีกทั้ง ไม่จำเป็นต้องใส่ ภาพกราฟิกหรือเนื้อหา ที่ส่อไปทางทางเพศ ชัดเจน ซึ่งบก. Ultra Jump ได้หยิบเอานิยายแนวดังกล่าวในสังกัด เช่น World’s End Harem: Fantasia, และ Magatsu Wanashi no Yūshagari เป็นแนวทางในการสร้างสรรค์ผลงาน

พล็อตเรื่องที่จะส่งเข้าประกวดนั้น จะต้องเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่น ที่มีจำนวนตัวอักษร 3,000 ตัว โดยต้องเขียนพล็อตเรื่องแบบเนื้อหารวมๆ พร้อมกับบทสรุปของเหตุการณ์ใน 3 ตอนแรก รวมถึง การแนะนำตัวละคร ซึ่งผู้เข้าประกวด สามารถส่งผลงานประกวด มากกว่า 1 งานได้

โดยผู้เข้าประกวด สามารถส่งผลงานได้ ตั้งแต่ 13 เม.ย. - 12 มิ.ย. 2020 ซึ่งผู้ชนะเลิศ จะได้รับรางวัลเป็นเงินสด 300,000 เยน และ พล็อตของพวกเขาก็จะถูกนำไปตีพิมพ์ลงใน Ultra Jump ขณะที่ รองชนะเลิศ จะได้รับรางวัลเป็นเงินสด 200,000 เยน และ พล็อตของพวกเขา จะถูกนำไปใช้ในการเขียนเป็นมังงะเรื่องสั้น โดยจะมีการประกาศผลรางวัลกัน ในช่วงสิ้นเดือน ส.ค. 2020

แหล่งข่าว : Comic Natalie , Anime News Network



 อายุเป็นเพียงแค่ตัวเลข....กับผลงานมังงะใหม่ล่าสุด จากนักเขียนการ์ตูน วัย 91 ปี !!!!

จากพาดหัวข่าว ก็เป็นไปตามนี้จริงๆ เพราะ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงอายุใด แต่หากยังมีไฟ ยังมีใจรัก หรือ แพชชั่น ในสิ่งที่ตนรัก ก็ย่อมจะมีพลังในสร้างสรรค์ผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง....ล่าสุด อ.Masako Watanabe วัย 91 ปี ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารของสมาคมนักเขียนการ์ตูนญี่ปุ่น จัดเป็นนักเขียนการ์ตูนอาชีพที่มีอายุมากที่สุดของญี่ปุ่น จากการที่ อ.Watanabe กำลังมีผลงานการ์ตูนเรื่องใหม่ล่าสุด ที่มีชื่อว่า Himegoto ลงบนแอพ Manga Mee ของสนพ. Shueisha

Himegoto เป็นเรื่องราวของ Miya สาวผู้ซึ่งมีความสุขจากการแต่งงานและใช้ชีวิตในอพาร์ทเม้นต์ ที่ย่าน Shirokanedai ของกรุงโตเกียว ทว่า ชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไป หลังจากได้พบกับ Itoko เพื่อนสมัยม.ต้น อีกครั้ง

อ.Watanabe ได้ออกมาแสดงความรู้สึกว่า "พอมองกลับไป เป็นเวลาหลายปี ที่มีภูเขากับหุบเขา มาเป็นอุปสรรคขวางกั้น แต่ชั้นไม่เคยคิดว่า การวาดมังงะ มันเป็นงานที่ยาก ช่างน่าแปลกใจเหลือเกิน มันคือความเห็นแก่ตัวของชั้นงั้นหรือ? มีอยู่หลากหลายเรื่องราวบนสมุดสเก็ตช์ของชั้น ที่ชั้นอยากจะวาด ซึ่งมันไม่มีสิ่งไหนที่สนุกไปยิ่งกว่าการได้สร้างสรรค์ผลงานของคุณ ชั้นมีช่วงเวลาชีวิตที่มีความสุข ไปกับ การได้ข้องเกี่ยวและใช้ชีวิตไปกับมังงะ ถึงพระเจ้า ,พระพุทธเจ้า และ แฟนๆของชั้นทุกคน ชั้นรู้สึกขอบคุณจริงๆ "

อีกทั้ง เธอยังได้กล่าวขอบคุณเหล่าผู้ช่วยของเธอ ที่ช่วยทำให้ Himegoto เสร็จสมบูรณ์ โดยไม่มีปัญหาใดๆ

อ.Watanabe จัดเป็นนักเขียนผู้มีประสบการณ์ในอาชีพนักเขียนการ์ตูนมาอย่างยาวนานเกือบ 70 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับมังงะสายโชโจ กับ โจเซ (การ์ตูนสำหรับวัยรุ่นหญิง กับ การ์ตูนสำหรับผู้หญิงวัยทำงาน) เปิดตัวผลงานเรื่องแรก กับ Suama-chan ของสนพ. Wakagi-shobou เมื่อปี 1952 ก่อนจะคว้ารางวัลชนะเลิศ Shogakukan Manga Award ครั้งที่ 16 จากผลงานเรื่อง Glass no Shiro (Glass Castle) เมื่อปี 1971 ต่อมา ผลงานเรื่อง Hitori Matsuri เมื่อปี 1985 ของเธอ ถูกดัดแปลงเป็นละครทีวี จนกระทั่งปี 2002 เธอคว้ารางวัลของกระทรวงศึกษาธิการ , วัฒนธรรม ,กีฬา วิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยี จาก งานประกาศรางวัลสมาคมนักเขียนการ์ตูนญี่ปุ่น ครั้งที่ 31 รวมถึง กลายเป็นนักเขียนการ์ตูนหญิงคนแรกที่ได้รับเครื่องราชย์อิสริยาภรณ์ ชั้น Order of the Rising Sun ที่มอบให้แก่บุคคลผู้ทำคุณประโยชน์ด้านวัฒนธรรมญี่ปุ่น เมื่อปี 2006



แหล่งข่าวและรูปภาพ : Mantan Web , Anime News Network

 


10 อันดับ ตัวละครอนิเม จอมทรยศหักหลัง โดย goo Ranking

การ์ตูน-อนิเม หลากหลายเรื่อง ก็มักมีฉากการทรยศหักหลังอยู่เนืองๆ ซึ่งหนึ่งในนั้น ก็เป็นฉากการหักหลังที่ช็อคตราตรึงในหมู่ผู่อ่านผู้ชม อันนำไปสู่จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของเรื่องราว และ ตัวละครผู้ที่ได้รับบทให้หักหลังชาวบ้านชาวช่อง ก็ย่อมที่จะได้รับการจดจำในหมู่แฟนๆมากยิ่งขึ้น เช่นกัน

โดย goo Ranking ได้ลงผลสำรวจ ตัวละครอนิเมจอมทรยศหักหลัง ออกมาแล้ว โดยตัวละครที่ได้รับการโหวตจากแฟนๆ สูงสุด 10 อันดับแรก มีดังนี้

10. Nina Purpleton, Mobile Suit Gundam 0083: Stardust Memory

9. Reccoa Londe, Mobile Suit Z Gundam

8. Buriburizaemon, Crayon Shin-chan

7. Gin Ichimaru, Bleach

6. Char Aznable, Mobile Suit Gundam

5. Sasuke Uchiha, Naruto

4. Reiner Braun, Attack on Titan

3. Sosuke Aizen, Bleach

2. Fujiko Mine, Lupin the 3rd

1. Kaede Kayano, Assassination Classroom

 


แหล่งข่าว : Goo Ranking , Crunchyroll


 


 

10 อันดับมังงะขายดีที่ญี่ปุ่น โดย Oricon : 6-12 เม.ย. 2020

(อันดับ / เรื่อง-เล่ม / ยอดขายประจำสัปดาห์)

01. One Piece #96 (363,174 เล่ม)

02. Attack on Titan ผ่าพิภพไททัน #31 (333,139 เล่ม)

03. Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร #19 (147,035 เล่ม)

04. Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร #18 (144,061 เล่ม)

05. Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร #8 (134,073 เล่ม)

06. Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร #7 (130,059 เล่ม)

07. Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร #15 (124,955 เล่ม)

08. Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร #16 (124,348 เล่ม)

09. Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร #14 (124,025 เล่ม)

10. Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร #11 (122,820 เล่ม)


แหล่งข่าว : Oricon

 


 
free hit counter javascript