บอกเล่าข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 1-7 กรกฎาคม 2562

บอกเล่าสรุปข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ กลับมาอีกครั้ง ....... กับต้นเดือนใหม่ เดือนที่ 7 ของปี อันเป็นการเตือนเราทั้งหลายว่า ได้เข้าสู่ครึ่งปีหลังล่ะ แต่ถึงกระนั้น นอกจากจะเปียกปอนไปกับสายฝน จนรถติด และป่วยไปตามๆกันแล้ว เรื่องราวรอบตัวเราก็ยังคงน่าปวดหัวกันไม่เลิก ทั้งเรื่องปัญหา Grab ที่ทำเอาบรรดาโชเฟอร์ผู้วิเศษวิโส(แต่บริการไม่ได้เรื่อง) พากันโวย แล้วก็เรื่องบนสภา ที่พวกนักกินเมือง...เอ้ย!!! นักการเมือง ขยันกันแก่งแย่งความเป็นเจ้าของกระทรวงนั้นๆ.....เฮ้อ!!! ถ้าพวกพี่เก่งจริง มีความสามารถตามที่ปชช.เลือก ก็ควรจะทำงานได้ทุกกระทรวงล่ะนะ.....อย่างไรก็ตาม แม้การเมืองจะเป็นเรื่องน่าปวดหัว แต่เราก็ควรจะมีสติกับเรื่องนี้บ้าง อย่าบ้าคลั่งกันจนเลยเถิด จนถึงขนาดไประรานเพจอื่นๆ ที่เค้าไม่ได้นำเสนอถึงเรื่องนี้ ดีไม่ดี อาจมีสิทธิ์ตกงานได้ทุกเมื่อ เช่นกัน!!!

สำนักข่าว K-D News (kartoon-discovery.com)
สามารถอัพเดทข่าวสารเว็บเราได้ผ่าน Twitter และ Facebook


หากนำข่าวจากเราไปเผยแพร่ที่อื่น รบกวนใส่เครดิตให้กับทางเราด้วยครับ ขอบคุณครับ

New Release Comics of the Week : ทุ่มสุดตัวเพื่อคนที่รัก กับ act-age 5

การ์ตูนออกใหม่ ประจำสัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มจาก act-age ดารายอดอัจฉริยะ เล่ม 5 โยนางิที่รู้ถึงช่วงเวลาชีวิตที่เหลืออยู่ของอิวาโอะจนส่งผลให้เธอไม่สามารถดำดิ่งลงสู่การแสดงได้ แต่เพราะได้คำแนะนำจากคุโรยามะ โยนางิก็เลยเข้าใจถึงความตั้งใจของอิวาโอะที่ฝากไว้กับเธอ จนค้นพบว่าควรทำสิ่งใดเพื่อเพื่อนในคณะละครเวที แต่ว่าในวันแสดงจริง อาการของอิวาโอะก็ทรุดลงก่อนเริ่มการแสดงอย่างกะทันหัน


Edens Zero เล่ม 4 เพื่อช่วยเหลือรีเบคก้า พวกชิคิได้ขึ้นเรือไปยังดาวเคราะห์กิลสโต รังของเหล่าวายร้ายและเปิดศึกกับโร้กเอาต์ กองทหารรับจ้างซึ่งเป็นผู้ก่อคดีลักพาตัว
แถมหัวหน้ากองทหารนี้ยังอ้างชื่อว่า "ซิสเตอร์" 1 ใน 4 ดาวประกายแสงของราชาปีศาจที่พวกชิคิกำลังตามหาอยู่...ในระหว่างนั้นเองก็ได้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้น!! "ตัวเขมือบเวลา" ปีศาจอวกาศที่กลืนกินเวลาได้ตรงมายังกิสสโตกะทันหัน จุดจบไล่ต้อนกิลสโตทุกขณะ...ชะตากรรมของพวกชิคิจะเป็นยังไง!? และความจริงที่ "ซิสเตอร์" ซุกซ่อนไว้คืออะไร!?

GOLDEN KAMUY เล่ม 11 สุกิโมโต้ตรงไปที่คุชิโระเพื่อหลบหนีจากสุรุมิหน่วยข่าวกรองที่เป็นกบฎในอีกด้าน กองพลที่เจ็ดที่นำโดยสึรุมิซึ่งไล่ตามข่าวลือ รอยสักหนังมนุษย์มุ่งหน้าไปที่โอตารุ แต่ที่รออยู่คือหัวขโมยสายฟ้าที่รวดเร็วปานสายฟ้าแลบและงูแมวเซาซาโอกินางูพิษ พราวเสน่ห์กองทหารที่แข็งแกร่งที่สุดใส ภาคเหนือ vs คู่สามีภรรยาสุดโฉด บนหัวขโมยสายฟ้าเริ่มต้นขึ้น! ทั้งพิษทั้งงูแมวเซาและสายฟ้าทั้งหมดตุ๋นรวมกันในหม้อไฟแบบญี่ปุ่นสไตล์เวสท์เทิร์น! เล่ม 11 ที่จะทำให้คุณต้องประทับใจจนต้องเป็นเหน็บชา!!!


ไซเบอร์เพชฌฆาต GUNNM Last Order - New Edition เล่ม 3 นางฟ้าเหล็กกล้าผู้แข็งขืนต่อชะตากรรมกล้าท้าสู้โลกทั้งใบ ได้ออกร่ายรำอย่างงดงามท่ามกลางสนามรบแห่งใหม่!! เมื่อการให้กำเนิดบุตรถือเป็นอาชญากรรม เด็กไม่มีสิทธิมนุษยชน การที่สังคมในระบบสุริยจักรวาล มีวิทยาการทำให้คนไม่แก่ไม่ตายได้อย่างแพร่หลาย เป็นเหตุให้มีประชากรเพิ่มขึ้นจนหยุดไม่อยู่ กระทั่งต้องออกนโยบายสกัดกั้นการให้กำเนิดบุตรแบบรุนแรงสุดขั้ว แม้พวกกัลลีหนีตายจากเยรูมาได้ แต่ก็ต้องพบกับสภาพความเป็นจริง ที่เด็กน่อยต้องพากันถูกสังหารเพื่อความบันเทิง


ส่วนค่าย Luckpim ก็ไม่รู้จะออกอะไร นอกจากเอาใจสาวๆสาวกป่วยดาบ กับมังงะซีรี่ย์ชุด ศึกระบำดาบเทวะ -ONLINE- Anthology ที่วางแผงกันที 5 บท ด้วยกัน : ทัพแรก , ยุทธการศึก ,ออกรบ ,ฤดูกาลศึก และ ทัพหลวง



เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ:
เกาะกระหายเลือด ฝ่า 48 วันโลกวิกฤติ... เล่ม 15, นักเรียนพี่เลี้ยงเด็ก เล่ม 17, มหาเวทย์ผนึกมาร เล่ม 2 , คุจาคุ ภาค คำสาปเซ็นโกคุ เล่ม 4,หลานจอมปราชญ์ เล่ม 6,Kagerou Daze -in a daze- เล่ม 9,Karneval ล่าทรชน เล่ม 13,คันนางิ KANNAGI Crazy Shrine Maidens เล่ม 10,คงจะดีถ้ามีน้องสาวสักคน บทแยก คงจะดีถ้าได้เป็นน้องสาว! ,นิยาย อาเรียกระสุนแดงเดือด เล่ม 15

รูปภาพหน้าปก : amazon.co.jp

 


Sailor Moon ปล่อยมังงะดิจิตอล 10 ภาษา + หนังจอเงินชุดใหม่ ปี 2020

จากงานอีเว้นต์ Usagi Special Birthday Party 2019 ของการ์ตูน Sailor Moon ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อ 30 มิ.ย. 2019 ได้มีการประกาศโปรเจ็คใหม่ล่าสุดของเหล่าอัศวินเซเลอร์ทั้งหลายให้แฟนๆได้รับทราบกัน

เริ่มจาก ฉบับมังงะต้นฉบับของเรื่องนี้ ได้รับการจัดทำในรูปแบบดิจิตอล 10 ภาษา โดยเริ่มปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2019 ที่ผ่านมา (แหล่งข่าววงในระบุว่า มีเวอร์ชั่นภาษาไทยด้วย แต่ยังไม่ระบุออกมาว่า จะวางขายเมื่อไหร่)

ถัดมา เป็นโปรเจ็คหนังอนิเมชุดใหม่ล่าสุดของเรื่องนี้ จำนวน 2 พาร์ทจบ กับ Bishoujo Senshi Sailor Moon Eternal ที่มีเนื้อหาต่อจากอนิเมซีรี่ย์ Sailor Moon Crystal (และจะครอบคลุมเนื้อหาบท 'ความฝัน' ตามต้นฉบับมังงะ) มีกำหนดฉายทั่วญี่ปุ่นในปี 2020 .......โดย Sailor Moon Eternal จัดเป็นโปรเจ็คอนิเม Sailor Moon ฉบับรีบู้ตชุดที่ 4 ของ Toei ต่อจาก Sailor Moon Crystal ทั้ง 3 ซีซั่น ซึ่งมีการประกาศครั้งแรกเมื่อ ม.ค. 2017 ซึ่งในตอนนั้น ระบุเพียงว่า เป็นโปรเจ็คฉลอง 25 ปีของ Sailor Moon ในขณะนั้น

หนังอนิเมชุดใหม่ดังกล่าว ได้ Chiaki Kon ผกก. Sailor Moon Crystal ซีซั่น 3 มาขึ้นแท่นกำกับหนังใหญ่ ขณะที่ Kazuko Tadano คนออกแบบตัวละครจาก Sailor Moon เวอร์ชั่นดั้งเดิมปี 1992 มารับหน้าที่ออกแบบตัวละครเช่นเคย อีกทั้ง อ. Naoko Takeuchi ผู้แต่งมังงะต้นฉบับของเรื่องนี้ เป็นผู้ดูแลโปรเจ็คหนังโดยตรง รวมถึง ได้นักพากย์จาก Sailor Moon Crystal กลับมาร่วมพากย์เสียงอีกครั้ง

ส่วนโปรเจ็คอื่นๆของ Sailor Moon ประกอบด้วย โชว์สเก็ตน้ำแข็ง ที่ได้ Evgenia Medvedeva นักฟิกเกอร์สเก็ตสาวชาวรัสเซีย (ผู้เป็นแฟนตัวยงของ Sailor Moon) มาแสดงนำ มีกำหนดเปิดการแสดง มิ.ย. 2020 , จับมือกับแบรนด์เสื้อผ้าดัง อย่าง Uniqlo และ Samantha Thavasa , คาเฟ่ธีม Sailor Moon และ งานดนตรีคลาสสิค เป็นต้น


แหล่งข่าวและรูปภาพ :   MAL

 


อนิเมซีซั่นสุดท้ายของ "ผ่าพิภพไททัน" ได้ฤกษ์ล้มยักษ์บนจอ ฤดูใบไม้ร่วง 2020

อนิเมช่วงครึ่งหลังของผ่าพิภพไททัน ซีซั่น 3 ได้ดำเนินมาถึงตอนสุดท้ายแล้ว กับตอนที่ 10 ซึ่งในตอนดังกล่าว มีการประกาศว่า อนิเมซีซั่นสุดท้ายของเรื่องนี้ มีกำหนดออกอากาศทาง NHK General ช่วงฤดูใบไม้ร่วง 2020

ผ่าพิภพไททัน ดัดแปลงมาจากมังงะชื่อเดียวกันของ อ.Hajime Isayama ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Bessatsu Shounen Magazine ตั้งแต่ ก.ย. 2009 เป็นต้นมา ปัจจุบัน กำลังจะวางขายฉบับรวมเล่ม 29 ในวันที่ 9 ส.ค. 2019 และมียอดขายทั่วโลกราว 90 ล้านเล่ม ด้วยกัน อีกทั้งเรื่องนี้มีการจัดพิมพ์ในหลากหลายภาษา ทั้ง อังกฤษ , ฝรั่งเศส , อิตาลี , เยอรมัน , สเปน , โปรตุเกส , โปแลนด์ ,จีน และ ไทย เป็นต้น ซึ่งเรื่องนี้คว้ารางวัลชนะเลิศ Kodansha Manga Awards ครั้งที่ 35 ในสาขาการ์ตูนโชเน็น และได้เข้าชิงรางวัล Manga Taisho ครั้งที่ 4 , เข้าชิงรางวัล Tezuka Osamu Cultural Prize ครั้งที่ 16 กับ 18 และ คว้าอันดับ 6 ในลิสต์มังงะการ์ตูนวัยรุ่นชายของ Kono Manga ga Sugoi! ปี 2014

ต่อมาถูกดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี โดย Wit Studio ออกอากาศอนิเมซีซั่นแรก เมื่อช่วงฤดูใบไม้ผลิ 2013 ก่อนจะฉายอนิเมซีซั่น 2 ตามมา ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ 2017 แล้วก็ อนิเมซีซั่น 3 ช่วงครึ่งแรก เมื่อช่วงฤดูร้อน 2018 แล้วก็ซีซั่น 3 ช่วงครึ่งหลัง เมื่อ 29 เม.ย. 2019

แหล่งข่าว :   Moca News , MAL

 


หนังอนิเม Weathering With You อาจแบ่งแยกความคิดของผู้ชมอย่างหลากหลาย

Makoto Shinkai ผกก.หนังอนิเม ผู้กำลังจะมีผลงานหนังเรื่องล่าสุดอย่าง Tenki no Ko/Weathering With You เข้าฉายบนโรงทั่วญี่ปุ่น ในวันที่ 19 ก.ค. 2019 (และทยอยเข้าฉายประเทศอื่นๆ ร่วม 140 ประเทศ) ได้กล่าวถึงผลงานหนังชุดล่าสุดนี้ ในระหว่างการแถลงข่าว เมื่อ 2 ก.ค. 2019

เขาได้กล่าวถึงความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมของหนังเรื่องใหม่ของเขา "ในฐานะของหนังทุนสร้างสูง ผมอยากจะทำบางสิ่งที่มันสนุกจริงๆ และไม่เป็นสาเหตุของการขาดทุน" เขาเผยต่ออีกว่า "ผมคิดว่า ตัวหนังอาจแบ่งแยกความคิดของผู้ชมอย่างหลากหลายนะ ผมกำลังทำหลายๆสิ่งที่แตกต่างจากสิ่งที่ผู้คนยอมรับในความคลาสสิค ซึ่งตัวหนังได้ตั้งคำถามให้แก่ผู้ชมแล้ว 'คุณจะทำอะไร?' "

ขณะเดียวกัน เขาได้ชื่นชม Kotaro Daigo กับ Nana Mori สองนักพากย์ตัวละครหลัก ผู้พากย์เสียงเป็น Hodaka Morishima) กับ Hina Amano ตามลำดับ "พวกเขามีเนื้อเสียงที่น่าฟัง สามารถทำให้คุณคิดว่า พวกเขาทั้งคู่คือหนุ่ม-สาวที่คุณอยากจะสนับสนุน คอยเป็นกำลังใจ นับตั้งแต่มีการเปิดออดิชั่นร่วม 2,000 คน พวกเขาพวกเขาส่งเสียงเหมือนยกมือขึ้น เหมือนกำลังจะบอกว่า 'หันมามองที่ชั้นซะ!' พวกเขาได้แสดงออกให้เราได้ประจักษ์ว่า ทั้งสองคนนี้มาที่นี่ เพื่อหนังเรื่องนี้"

แหล่งข่าว : Comic MarketNijimenanimenewsnetwork

 


ผู้แต่ง Dr.Stone ปลื้ม เมื่อโฆษณาอนิเมทีวีของเรื่องนี้ ปรากฏที่ย่าน Time Square มหานคร New York

เป็นเรื่องไม่ง่ายนัก ที่จะมีสื่อบันเทิงต่างชาติ ปรากฏอยู่บนแผงโฆษณาในย่าน Time Square ย่านที่พลุกพล่านคึกคักที่สุด ของมหานคร New York สหรัฐ ก่อนหน้านี้ บางคนอาจพอทราบข่าวว่า บนแผงบิลบอร์ดที่ย่านนี้ ก็เคยอวยพรวันเกิดให้สมาชิกของวง Black Pink จากเกาหลี รวมถึง ขึ้นโฆษณาโปรโมทอนิเม Fruit Basket เสน่ห์ข้าวปั้น เวอร์ชั่นล่าสุด กันไปแล้วนั้น

ล่าสุด ถึงคิวของ อนิเม Dr.Stone ที่ได้มีโอกาสโปรโมทฉบับอนิเมของตัวเอง บนบิลบอร์ดขนาดยักษ์ในย่านนี้ด้วย ซึ่งก็สร้างความสนใจให้แก่ผู้ที่เดินผ่านไปมาบริเวณนี้จำนวนหนึ่ง แต่คนที่รู้สึกเซอร์ไพรส์ยิ่งกว่าใครๆ คงหนีไม่พ้น อ.Riichiro Inagaki ผู้แต่งเรื่องนี้ (ทำงานร่วมกับ Boichi ผู้รับหน้าที่วาดภาพให้มังงะเรื่องนี้) ที่พอได้เห็นป้ายฉบับอนิเมขนาดยักษ์ของเรื่องนี้ ที่จัดทำโดย Crunchyroll ก็ได้โพสต์คลิปพร้อมเขียนข้อความกำกับว่า "ห๊ะ? นี่ไม่ใช่เรื่องหลอกลวงสินะ? ว้าว! [Ariga-stone gozaimasu!] "
(ประโยคหลัง ล้อเลียนจากคำว่า Arigatou gozaimasu! แปลว่า ขอบคุณมาก!)

แหล่งข่าวและทวีต :  Riichiro Inagaki , crunchyroll.com

 


ผกก. Final Fantasy VIII อธิบายเหตุผลที่ตัวเกมฉบับรีมาสเตอร์ถึงประกาศช้านัก

จากสัปดาห์ก่อนที่ได้อธิบายประเด็นหน้าอกอันไม่บึ้มของ Tifa ในเกม Final Fantasy VII ฉบับรีเมค ไปแล้วนั้น ล่าสุด ก็ถึงข่าวคราวของเกมซีรี่ย์ FF ภาคที่จัดว่าโด่งดังไม่แพ้ภาค 7 ในยุคนั้น อย่าง Final Fantasy VIII ที่แฟนๆจำนวนหนึ่งต่างรอคอยกับเวอร์ชั่นจัดทำใหม่อยู่เช่นกัน ล่าสุด Square Enix ได้เปิดเผยถึงเรื่องนี้ ในงาน E3 เมื่อ มิ.ย. 2019 ที่ผ่านมาว่า FFVIII กำลังจะมีการจัดทำในแบบรีมาสเตอร์ ในชื่อ Final Fantasy VIII Remastered โดยจะลงบนเครื่อง PlayStation 4, Xbox One, Switch, และ PC ผ่าน Steam ภายในปี 2019 นี้ ซึ่งประกาศดังกล่าวก็ให้แฟนๆรอคอยมาเป็นปี หลังจาก FF VII, IX, X/X-2 HD, และ XII ต่างประกาศจัดทำในแบบรีมาสเตอร์หมดแล้ว

จากข้างต้น ทำให้บรรดาแฟนๆของ FF ต่างสงสัยว่า เหตุไฉน FF VIII ถึงประกาศเวอร์ชั่นรีมาสเตอร์ล่าช้ากว่าเวอร์ชั่นอื่นๆ ทำให้ Yoshinori Kitase ผกก. FF VIII ได้ออกมาไขข้อข้องใจผ่านบทสัมภาษณ์ของ Famitsu ว่า เป็นเพราะ ตัวเกมอยู่ในช่วงระหว่างการปรับปรุงด้านกราฟิก เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปี ของเกมภาคนี้

"อย่างแรก แผนการเดิม คือ การวางจำหน่ายเกมลงคอนโซลรุ่นปัจจุบัน ด้วยการใช้กราฟิกที่เราเคยทำมาก่อนหน้านี้ แต่อย่างไรก็ตาม เป็นเพราะเกมดังกล่าว ครบรอบ 20 ปี พอดิบพอดี และมีการปรับความคมชัดจาก SD เป็น HD เราจึงตัดสินใจที่จำเป็นต้องปรับปรุงคุณภาพของตัวละครด้วย"

จากการตัดสินใจดังกล่าว Kitase กล่าวว่า มันเกิดขึ้นอย่างกระทันทัน ก่อนที่เกมนี้ควรจะได้จัดทำแบบมาสเตอร์ ซึ่งจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนกำหนดการ เช่นกัน

Famitsu ได้สอบถามอีกว่า ไม่ว่า Square Enix จะสูญเสียข้อมูลส่วนใดๆของ FF VIII เนื่องจากประเด็นปัญหากับซีรี่ย์อื่นๆ แต่จากคำตอบของ Kitase ที่ออกมานั้น ก็ดูเหมือนว่า มันไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำไม FF VIII Remastered จึงออกมาล่าช้า

Kitase ยังกล่าวอีกว่า การรีมาสเตอร์จะไม่รวมถึงเกม Chocobo World (Odekake Chocobo ในญี่ปุ่น) บนเครื่อง PocketStation ซึ่งเป็นมินิเกมที่จะใช้ไอเท็มพิเศษที่สามารถถ่ายโอนไปยัง FF VIII ได้ แต่ถึงแม้ Chocobo World จะไม่มีการจัดทำแล้ว แต่ไอเท็มต่างๆสามารถหามาได้ผ่านความสามารถ Angelo Search ของ Rinoa ซึ่ง Kitase กล่าวว่า มันง่ายที่จะใช้วิธีนี้หาไอเท็ม เมื่อเทียบกับเกมต้นฉบับ

Final Fantasy VIII วางจำหน่ายลงเครื่อง PlayStation กับ คอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการ Windows ช่วงปี 1999 กับ 2000 ตามลำดับ โดยเป็นเรื่องราวของ Squall กับ Rinoa หนุ่มสาวผู้พยายามจะหยุดยั้งความชั่วร้ายของจอมเวทอสูรที่มาจากอนาคต

แหล่งข่าว : Famitsu , animenewsnetwork


Youko Maki นักเขียนการ์ตูนสายตาหวาน ประกาศอำลาอาชีพนักเขียนการ์ตูน

อ.Youko Maki นักเขียนการ์ตูนแนวโชโจ หรือ ตาหวาน จากผลงานหลายต่อหลายเรื่อง และเป็นที่รู้จักในหมู่ผู้อ่าน จากผลงานเรื่อง Aishiteruze Baby (รักเธอ Baby สนพ.บงกช) ได้ประกาศอำลาอาชีพนักเขียนการ์ตูน ผ่าน instagram ส่วนตัวของเธอ เมื่อ 3 ก.ค. 2019 ที่ผ่านมา หลังจากสร้างสรรค์ผลงานการ์ตูนมาตลอดระยะเวลา 20 ปี โดย Kirameki no Lion Boy ผลงานการ์ตูนเรื่องล่าสุด และเป็นเรื่องสุดท้ายของเธอ เพิ่งตีพิมพ์ตอนสุดท้ายในนิตยสาร Ribon ฉบับ ส.ค. 2019 เมื่อ 3 มิ.ย. 2019 ที่ผ่านมา

อ.Maki เข้าสู่วงการมังงะอาชีพ ด้วยการเปิดตัวกับผลงานเรื่องแรก กับมังงะสั้นชุด Love Service! ในนิตยสาร Ribon Original ฉบับ เม.ย. เมื่อปี 1999 โดยภายหลัง มังงะดังกล่าวได้ถูกจัดพิมพ์ลงในมังงะรวมเรื่องสั้นของเธอชุด Kareki ni Koi wo Sakasemasu

ต่อมา อ.Maki ก็มีผลงานมังงะที่สร้างชื่อเสียงให้กับเธอมากที่สุดคือ Aishiteruze Baby โดยตีพิมพ์ในนิตยสาร Ribon ช่วง มี.ค. 2002 - ธ.ค. 2004 และถูกนำไปสร้างเป็นอนิเมทีวีโดย TMS Entertainment เมื่อช่วงฤดูใบไม้ผลิ 2004 ส่วนผลงานการ์ตูนเรื่องอื่นๆของเธอ ประกอบด้วย Yamamoto Zenjirou to Moushimasu ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Ribon Mascot ช่วงปี 2007-2011 แล้วก็ Romantica Clock ที่เคยได้รับการดัดแปลงเป็น OVA ตอนพิเศษ 3 ตอน อีกด้วย

Aishiteruze Baby หรือ รักเธอ Baby ผลงานการ์ตูนที่ดังที่สุดของ อ.Youko Maki

 

แหล่งข่าว : Comic Natalie , MAL

 


เผยหนังอนิเมใหม่ของ Katsuhiro Otomo & Akira จะมีอนิเมชุดใหม่ + หนังเวอร์ชั่นรีมาสเตอร์

ในงาน Anime Expo งานการ์ตูนอนิเมงานใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ก็มีข่าวสำคัญเกี่ยวกับโปรเจ็คใหม่ล่าสุดของ อ. Katsuhiro Otomo ผู้แต่งเรื่อง Akira มาฝากกัน

เริ่มจาก อ.Otomo กำลังจะมีหนังอนิเมใหญ่ เรื่องล่าสุด และเป็นเรื่องที่ 3 ที่เขารับหน้าที่เป็นผกก. ต่อจาก Akira กับ Steamboy นั่นคือ Orbital Era โดยอนิเมชุดนี้ เป็นแนวแอ็คชั่น ผจญภัย สไตล์บรรลุนิติภาวะ เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น ณ อาณานิคมอวกาศ ที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างในยุคอนาคต นำเสนอผ่านตัวละครชายหนุ่ม 2 คน ผู้รอดชีวิตภายใต้สภาพแวดล้อมและสังคมอันแปลกประหลาด ราวกับพวกเขาถูกทอดทิ้งไปโดยโชคชะตา ซึ่ง"ความจริงที่พบเจอในอนาคตของมนุษยชาติ" จะถูกบรรยายผ่านมุมมองของพวกเขา

เรื่องราวของหนังจะครอบคลุมทั้ง 4 ฤดูกาลบนอาณานิคมอวกาศ ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครจะมีการเปิดเผยในฤดูกาลเหล่านี้ โดย อ.Otomo กล่าวว่า ตัวหนังดำเนินเรื่องราวในยุคอนาคตก็จริง แต่แทนที่จะเน้นรากฐานเกี่ยวกับเรื่องราวไซไฟ ตัวเรื่องจะไปนำเสนอในทางแฟนตาซีมากกว่า ซึ่งหนังชุดนี้ จะผลิตโดยสตูดิโอ Sunrise โดยที่ อ.Otomo ได้รับเครดิตให้เป็นผู้คิดคอนเซปต์ , บท , งานออกแบบ และ กำกับ

อีกทั้ง ในงานดังกล่าว ยังแจ้งว่า Akira ผลงานการ์ตูนแนวไซเบอร์พังค์สร้างชื่อระบือไกลทั่วโลกของ อ.Otomo กำลังจะมีอนิเมชุดใหม่ล่าสุด รวมไปถึง หนังอนิเมของเรื่องนี้ กำลังจะมีการจัดทำใหม่ในแบบรีมาสเตอร์ 4K วางจำหน่ายในญี่ปุ่น วันที่ 24 เม.ย. 2020

นอกจากนี้ สนพ. Kodansha ของญี่ปุ่น ยังประกาศจัดพิมพ์ผลงานการ์ตูนของ อ.Otomo เสียใหม่ เอาใจนักสะสมมังงะ ภายใต้ชื่อ Otomo: The Complete Works โดยจะตีพิมพ์ผลงานการ์ตูนทุกเรื่องของ อ.Otomo นับตั้งแต่เดบิวในฐานะนักเขียนการ์ตูนครั้งแรก เมื่อปี 1971 โปรเจ็คดังกล่าว อ.Otomo เป็นผู้ดูแลด้วยตนเอง

อ.Otomo เป็นนักเขียนการ์ตูนที่ขึ้นชื่อในฝากฝั่งตะวันตก จากผลงาน Akira ซึ่งเคยตีพิมพ์ในนิตยสาร Young Magazine ช่วงปี 1982 - 1990 และได้รับการจัดทำเป็นหนังอนิเม เมื่อปี 1988 ต่อมาผลงานดังกล่าว คว้ารางวัลชนะเลิศ ประเภทการ์ตูนทั่วไปของ Kodansha Manga Award ครั้งที่ 8 เมื่อปี 1984 รวมถึงรางวัลสาขา Best U.S. Edition of Foreign Material ของ Eisner Award เมื่อปี 2000

หลังจากเรื่อง Akira อ.Otomo ยังคงรับหน้าที่เป็นศิลปิน , ผกก. และ คนเขียนบท ให้กับอนิเมจำนวนหนึ่ง ไปพร้อมๆกับ ทำงานในฐานะนักวาดการ์ตูน และ นักเขียนบท

แหล่งข่าวและรูปภาพ :    Anime! Anime! , MAL


สาวคอสเพลย์ญี่ปุ่น ทุบสถิติโลก ของสะสม Cardcaptor Sakura มากที่สุด

Cardcaptor Sakura การ์ตูนสาวน้อยเวทมนตร์ไล่เก็บไพ่โคลว์ของ CLAMP ยังคงเป็นการ์ตูนขวัญใจของบรรดาเด็กผู้หญิงมาแต่ไหนแต่ไร นับตั้งแต่ที่เรื่องนี้ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Nakayoshi เมื่อปี 1996 ซึ่งแน่นอนว่า ด้วยความนิยมของสายน้อย Sakura ก็คงจะทำเอาแฟนๆจำนวนหนึ่ง อดไม่ได้ที่จะต้องมีของสะสมจากเรื่องนี้ไว้กับตัวกันเยอะๆ..... ซึ่งก่อนหน้านี้ Sofia Pichihua สาวชาวเปรู เป็นเจ้าของสถิติโลก ในฐานะบุคคลผู้มีของสะสมจาก Cardcaptor Sakura มากที่สุดถึง 1,086 ชิ้น เมื่อปี 2017

อย่างไรก็ตาม สถิติของสาวชาวเปรูผู้นี้ ก็มิอาจยืนยงคงกระพันธ์ เพราะล่าสุด มีการทำลายสถิติโลกกันอีกครั้ง!!!! โดย Natsumi Shirahoshi นักคอสเพลเยอร์สาว ได้รับการบันทึกสถิติลง Guinness Book of World Records ในในฐานะบุคคลผู้มีของสะสมจากการ์ตูนเรื่องนี้มากที่สุด เมื่อ 2 ก.ค. 2019 ที่ผ่านมา จากการที่เธอมีของสะสมจาก Cardcaptor Sakura มากถึง 1,709 ชิ้น (นับสถิติจนถึง 15 พ.ค. 2019)

Shirahoshi ได้กล่าวความรู้สึกนี้บน twitter ว่า "ชั้นรู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นเกียรติแก่ Sakura จัง ผู้ที่ชั้นมิอาจหยุดยั้งความรักเป็นที่สุด" อย่างไรก็ตาม หลังผ่านพ้นวันบันทึกสถิติของ Guinness Book ของสะสม Cardcaptor Sakura ของเธอก็มีจำนวนมากขึ้นๆ จนถึงตอนนี้เธอน่าจะมีของสะสมมากกว่า 2 พันชิ้นแล้ว ซึ่งยากที่จะมีคนมาทำลายสถิติในตอนนี้!!!!

แหล่งข่าว ทวีต และรูปภาพ :  Natsumi Shirahoshi , IT Media ,crunchyroll.com



จอเงินชุดใหม่ Doraemon จะกลับมาในธีมไดโนเสาร์อีกครั้ง

หนังอนิเมภาคใหม่ประจำปี 2020 ของ Doraemon และผองเพื่อน ได้มีการเปิดเผยออกมาแล้ว โดยจะใช้ชื่อทางการว่า Eiga Doraemon: Nobita no Shin Kyoryū (Doraemon the Movie: Nobita's New Dinosaur) ซึ่งหนังภาคใหม่ดังกล่าว จัดเป็นหนังชุดที่ 40 ของ Doraemon และยังเป็นการฉลองครบรอบ 40 ปีของ Doraemon ฉบับหนังโรงอีกด้วย โดยมีกำหนดเข้าฉายทั่วญี่ปุ่น ในเดือน มี.ค. 2020

และในเมื่อหนังภาคใหม่ เป็นการฉลองครบรอบ 40 ปีของหนังอนิเม Doraemon ทั้งที ก็เลยวกกลับมาใช้พล็อตเรื่องธีมไดโนเสาร์อีกครั้ง เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ หนังจอเงินชุดแรกสุดของ Doraemon อย่าง Doraemon the Movie: Nobita's Dinosaur หรือ ไดโนเสาร์ของ Nobita แต่คราวนี้ Nobita จะได้พบเจอกับลูกไดโนเสาร์แสนน่ารักถึง 2 ตัว คือ Kyu กับ Myu อย่างไรก็ตาม สำหรับแฟน Doraemon คนไหนที่กำลังลุ้นให้เจ้า Piisuke จากหนัง ไดโนเสาร์ของ Nobita กลับมาเนี่ย คงต้องลุ้นกันอย่างลำบากหน่อย เพราะ Kazuaki Imai ผกก.ของหนังภาคใหม่นี้ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า หนังอนิเมภาคใหม่นี้จะเป็นเรื่องราวใหม่ จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับ "ไดโนเสาร์ของ Nobita" ทั้งเวอร์ชั่นต้นฉบับปี 1980 แล้วก็ เวอร์ชั่นรีเมค เมื่อปี 2006

หนังภาคใหม่ของ Doraemon ชุดนี้ ได้ Imai กลับมารับหน้าที่กำกับอีกหน หลังจากฝากผลงานการกำกับให้กับเวอร์ชั่นอนิเมทีวี และ หนังจอเงินชุด Doraemon the Movie: Nobita's Treasure Island เมื่อปี 2018 ขณะที่ Genki Kawamura (Nobita's Treasure Island) รับหน้าที่เขียนบทให้กับหนังภาคใหม่

แหล่งข่าวและรูปภาพ : Comic Natalie


Banana Fish, Idolish7 คว้ารางวัลส่งเสริมการท่องเที่ยว

สมาคมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวญี่ปุ่น (JATA) ได้ประกาศผู้ชนะเลิศรางวัล Tour Grand Prix 2019 เมื่อ 24 มิ.ย. 2019 รางวัลดังกล่าวจัดตั้งขึ้น เพื่อเป็นเกียรติให้แก่แผนการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ อันเป็นประโยชน์แก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวโดยรวม โดยในปี 2019 คณะกรรมการได้ตัดสินใจเลือก แพ็คเกจทัวร์ตามรอยอนิเม Banana Fish ในมหานคร New York ของบริษัท Kinki Nippon Tourist Kanto กับ ทัวร์เกียวโตตามรอย IDOLiSH7 คว้ารางวัลชนะเลิศ ในปี 2019 โดย ทัวร์ตามรอย Banana Fish ได้รับรางวัลจากกระทรวงผืนดิน,โครงสร้างภายใน,คมนาคม และ การท่องเที่ยว ส่วนทัวร์ IDOLiSH7 ได้รับรางวัลจากเลขาธิการตัวแทนการท่องเที่ยว

ทัวร์ Banana Fish จะพานักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมสถานที่ต่างๆใน New York สหรัฐ รวมไปถึง พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติอเมริกัน, สถานีรถไฟ Grand Central , ย่าน Exchange Place ใน New Jersey, Chinatown, และนั่งเรือข้ามฟาก Staten Island Ferry ทัวร์ดังกล่าวจะพานักท่องเที่ยวนั่งรถบัสไปชมแต่ละสถานที่ โดยมี Kenji Nojima กับ Yūma Uchida ผู้พากย์เสียงเป็น Eiji Okumura กับ Ash Lynx คอยเป็นไกด์ หลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวต่างได้เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ พร้อมรับชมตอนสุดท้ายของ Banana Fish และจับจ่ายซื้อสินค้าที่ระลึก

ขณะที่ ทัวร์ "OFF/Journey@AICHI" ของ IDOLiSH7 ยังคงเปิดให้แฟนๆได้จับจองกัน โดยจะเป็นทัวร์ที่พานักท่องเที่ยวเดินทางไปกลับระหว่าง โตเกียว-เกียวโต พร้อมที่พักและโบนัสพิเศษ ขึ้นอยู่กับแพ็คเกจทัวร์

แหล่งข่าว : Travel Voice , Nijimen , animenewsnetwork


บาร์ธีมการ์ตูน Shonen Jump ยุค 80 กำลังจะเปิดให้บริการในย่าน Kabukicho

เป็นข่าวเอาใจบรรดาผู้ใหญ่ (ผู้บรรลุนิติภาวะ) ผู้หลงรักการ์ตูน-อนิเมยุค 80 กัน โดยย่าน Kabukicho กรุงโตเกียว กำลังจะเปิดตัวบาร์แห่งใหม่ที่จะมาในธีมรำลึกการ์ตูน Shonen Jump ยุค 80 ในชื่อ Adult Jump Bar ในวันที่ 11 ก.ค. 2019 โดยร้านดังกล่าวตั้งอยู่ที่ชั้น 5 ของตึก WaMall

ร้านดังกล่าวจะประดับประดา พร้อมเสริฟเมนู ในธีมการ์ตูนที่เคยตีพิมพ์ลงใน Jump ช่วงยุค 80 ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี ได้แก่ Dragon Ball, City Hunter, Kinnikuman, Saint Seiya, Fist of the North Star เป็นต้น พร้อมกันนี้ ยังได้จัดแสดงหุนฟิกเกอร์ขนดยักษ์ขงซีรี่ย์ดังกล่าว กับ ต้นฉบับมังงะของเหล่านักเขียนการ์ตูนดังประจำยุค อีกด้วย

แหล่งข่าวและรูปภาพ :   Mantan Web , animenewsnetwork


Studio feel. กลับมาทำอนิเมซีซั่น 3 ของ "กะแล้วชีวิตรักวัยรุ่นของผมมันต้องไม่สดใสเลยสักนิด" ลงจอปี 2020

สถานีโทรทัศน์ TBS ได้ประกาศกลางงาน Anime Expo ที่สหรัฐ เมื่อ 4 ก.ค. 2019 ที่ผ่านมาว่า อนิเมซีซั่น 3 ของ Yahari Ore no Seishun Love Come wa Machigatteiru หรือ กะแล้วชีวิตรักวัยรุ่นของผมมันต้องไม่สดใสเลยสักนิด จะออกอากาศในปี 2020 โดยได้ Studio feel. สตูดิโอผู้ผลิตอนิเมซีซั่น 2 ของเรื่องนี้ กลับมารับหน้าที่ผลิตอนิเมซีซั่นล่าสุด (สตูดิโอ Brains Base เป็นผู้ผลิตอนิเมซีซั่นแรกของเรื่องนี้ )

กะแล้วชีวิตรักวัยรุ่นของผมฯ ดัดแปลงมาจากไลท์โนเวลต้นฉบับของ Wataru Watari (เนื้อเรื่อง) กับ Ponkan8 (ภาพ) ตีพิมพ์วางขายครั้งแรกในญี่ปุ่น เมื่อปี 2011 โดยได้ดำเนินเรื่องราวบทสุดท้ายในเล่มที่ 12 ที่วางขายไปเมื่อ ก.ย. 2017 ปัจจุบัน ไลท์โนเวลเล่มที่ 14 และเป็นเล่มจบของเรื่องนี้ เลื่อนวางจำหน่ายออกไปอย่างไม่มีกำหนด

แหล่งข่าว : animenewsnetwork



อนิเม JoJo ล่าข้ามศตวรรษ: สายลมทองคำ จะฉายเรื่องราวบทสรุป ชมกันเต็มอิ่ม 1 ชม.

อนิเม JoJo ล่าข้ามศตวรรษ: สายลมทองคำ อนิเมดัดแปลงจากมังงะพาร์ท 5 ของซีรี่ย์นักสู้ปล่อยสแตนด์แอ่นหลัง กำลังดำเนินเรื่องราวอย่างเข้มข้น และใกล้จะถึงบทสรุปของภาคนี้กันแล้ว โดยทางเว็บไซต์หลักของอนิเมเรื่องนี้ได้แจ้งว่า อนิเมสองตอนสุดท้ายของเรื่องนี้ จะฉายรวดเดียวในวันเดียวกัน ความยาว 1 ชั่วโมงเต็มๆ ทางช่อง Tokyo MX, BS11, และ MBS ในวันที่ 28 ก.ค. 2019 แล้วก็ Abema TV วันที่ 29 ก.ค. 2019

แหล่งข่าวและรูปภาพ : Comic Natalie


สาวก Macross ไม่ถูกใจสิ่งนี้...........เมื่อ Harmony Gold ต่ออายุลิขสิทธิ์ Macross, Southern Cross และ Mospeada

ข่าวนี้ก็เล่นเอาแฟนๆอนิเม Macross ทั่วโลกได้หัวร้อนไปตามๆกัน ...เมื่อมีรายงานมาจากงาน Anime Expo ที่สหรัฐ ว่า Harmony Gold U.S.A. Inc. บริษัทที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์อนิเมชั่น Robotech ได้บรรลุข้อตกลงกับ Tatsunoko Production ในการต่ออายุลิขสิทธิ์ อนิเมแนวหุ่นยนต์ทั้ง 3 เรื่องอย่าง The Super Dimension Fortress Macross, The Super Dimension Cavalry Southern Cross, และ Genesis Climber Mospeada อีกครั้ง หลังจากสัญญาเดิมกำลังจะหมดอายุลงในวันที่ 14 มี.ค. 2021

จากข้างต้น คงจะมีคนสงสัยว่า เหตุไฉนแฟนๆ Macross ถึงไม่พอใจกับข่าวนี้กัน นั่นก็เพราะ เรื่องนี้มันมีที่มาที่ไปในอดีต กล่าวคือ Harmony Gold ได้ซื้อลิขสิทธิ์ อนิเมทั้ง 3 เรื่องข้างต้น จาก Tatsunoko เมื่อปี 1984 แต่!! แทนที่ทาง Harmony Gold จะเอามาทยอยฉายเป็นเรื่องๆ แต่ดันเอาทั้ง 3 เรื่องนี้มาจัดทำให้กลายเป็นอนิเมชั่นเรื่องเดียว ภายใต้ชื่อ Robotech ออกฉายเมื่อปี 1985 (ซึ่งซีรี่ย์ดังกล่าว มีการจัดทำอนิเมชั่นภาคต่ออีก 2 ภาคตามมา) อย่างไรก็ตาม ต่อมาก็เกิดดราม่าขึ้น เมื่อ Big West หนึ่งในสตูดิโอร่วมผลิต Macross ได้ดำเนินการฟ้องร้อง Tatsunoko เกี่ยวกับสิทธิ์ในการสร้าง Macross ภาคใหม่ ทว่า ศาลโตเกียวได้ให้ความเห็นชอบต่อ Tatsunoko โดยกล่าวว่า Tatsunoko ได้มอบสิทธิ์ของ Macross ให้แก่ Harmony Gold ไปแล้ว ก่อให้เกิดคดีพิพาทตามมา ระหว่าง 3 บริษัท และเป็นฝ่าย Harmony Gold ที่เอาแต่หวง เอาแต่กำ Macross เอาไว้แน่น แถมศาลดันตัดสินให้ Harmony Gold มีสิทธิ์นำ Macross ฉายนอกญี่ปุ่นแต่เพียงผู้เดียวอีก ซะจนส่งผลกระทบต่อซีรี่ย์ Macross ภาคอื่นๆ ไม่สามารถขายลิขสิทธิ์นอกญี่ปุ่นได้เลยในขณะนี้

ถึงกระนั้น ก็เคยมี Macross ภาคอื่นๆ ได้มีโอกาสฉายนอกประเทศญี่ปุ่น นั่นคือ Macross7 ที่เคยออกอากาศในบ้านเราทางช่อง 7 ( เหตุที่ได้ฉายในบ้านเรา คาดว่า น่าจะเป็นช่วงก่อน หรือ กำลัง เกิดข้อพิพาทระหว่าง 3 บริษัทข้างต้น ก่อนที่ศาลจะตัดสินให้ Harmony Gold คว้าสิทธิ์ในการนำ Macross ฉายนอกญี่ปุ่นเพียงผู้เดียว)

อย่างไรก็ตาม Tommy Yune ประธายฝ่ายอนิเมชั่นของ Harmony Gold ได้เน้นย้ำว่า การต่อสัญญาในครั้งนี้ จะครอบคลุมในส่วนเฉพาะ Macross ภาคแรกเท่านั้น จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับ Macross ภาคอื่นๆ อย่าง Macross Frontier กับ Macross Delta ถึงกระนั้น เกี่ยวกับสถานะปัจจุบันของลิขสิทธิ์ Macross ภาคหลังๆ นั้น Yune บอกแต่เพียงสั้นๆว่า ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด


แหล่งข่าว :  animenewsnetwork


Golden Kamuy ออกล่าขุมทรัพย์บนจอต่อ กับอนิเมซีซั่น 3

เว็บไซต์หลัก และ งานอีเว้นต์ของการ์ตูน Golden Kamuy ได้ประกาศว่า อนิเมดัดแปลงจากมังงะแนวล่าขุมทรัพย์ขยันปรุงหม้อไฟของ อ.Satoru Noda มีการจัดทำอนิเมซีรี่ย์ต่อ ซีซั่นที่ 3 แล้ว

Golden Kamuy ตีพิมพ์ประจำในนิตยสาร Young Jump ตั้งแต่ ส.ค. 2014 และกำลังจะวางขายฉบับรวมเล่มที่ 19 (มาพร้อมกับ OVA ในรวมเล่มแบบ Limited Edition) ในวันที่ 19 ก.ย. 2019 ปัจจุบันเรื่องนี้มียอดขายมากกว่า 10 ล้านเล่มด้วยกัน โดยเรื่องนี้ คว้ารางวัลชนะเลิศ Manga Taisho ครั้งที่ 9 , ชนะเลิศ Tezuka Osamu Cultural Prize ครั้งที่ 22 และ รั้งอันดัง 7 มังงะวัยรุ่นชายน่าอ่านของ Kono Manga ga Sugoi! ประจำปี 2018

ต่อมาถูกดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี 2 ซีซั่น ออกฉายเมื่อ ฤดูใบไม้ผลิ 2018 กับ ต.ค. 2018 ตามลำดับ

แหล่งข่าว :  Comic Natalie , MAL


Bushiroad, Kadokawa, Kinema Citrus ผนึกกำลังผลิต ทรัพย์สินทางปัญญาอนิเม ร่วมกัน

Kadokawa, Bushiroad และ Kinema Citrus ได้ประกาศร่วมกันเมื่อ 1 ก.ค. 2019 ที่ผ่านมาว่า พวกเขาได้จับมือกันเป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกัน โดยมีจุดประสงค์ในการผลิตทรัพย์สินทางปัญญาที่ "มั่นคง" รวมถึงผลิตอนิเม เพื่อตอบสนองต่อความนิยมของอนิเมที่เติบโตสูงขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ

Kinema Citrus เป็นที่รู้จักในไม่กี่ปี ในฐานะสตูดิโออนิเมชั่นผู้อยู่เบื้องหลังอนิเม Abyss, Revue Starlight และ The Rising of The Shield Hero เป็นต้น ซึ่ง Revue Starlight นั้น ดัดแปลงมาจากแฟรนไชส์ของ Bushiroad อีกที โดยก่อนหน้านี้ สตูดิโอดังกล่าว รับผิดชอบในการผลิตอนิเมหลากหลายเรื่อง เช่น Bottom Biting Bug, Yuyushiki, Code: Breaker, Scorching Ping Pong Girls และ Barakamon แล้วก็เคยทำหน้าที่เป็นสตูดิโอร่วมผลิตอนิเม อาทิ Black Bullet, Tokyo Magnitude 8.0, Is the order a rabbit? , Norn9 และ Under the Dog

Bushiroad ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2007 โดยเป็นเจ้าของแฟรนไชส์สื่อผสมจำนวนหนึ่ง บางส่วนนั้นมาจากการ์ดเกมตระกูล Cardfight Vanguard และ Future Card Buddyfight ซึ่งต่างได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี ออกอากาศมาอย่างต่อเนื่อง และการ์ดเกมตระกูล Luck & Logic ที่ต่อมาถูกสร้างเป็นอนิเมทีวี 2 ชุด อีกทั้ง Bushiroad ยังเป็นเจ้าของการ์ดเกมซีรี่ย์ Weiß Schwarz , ​​Tantei Opera Milky Holmes และ BanG Dream! โดยแฟรนไชส์เหล่านี้ ต่างถูกทำเป็นอนิเมทีวีควบคู่ไปกับแฟรนไชส์ ​​Revue Starlight อีกทั้ง BanG Dream! และ Revue Starlight ยังมีการจัดทำในรูปแบบเกมสมาร์ทโฟน เท่านั้นไม่พอ Bushiroad ยังเป็นเจ้าของสมาคม New Japan Pro Wrestling ค่ายมวยปล้ำชั้นนำของญี่ปุ่นอีกด้วย

Kadokawa เป็นบริษัทมัลติมีเดียและสนพ. ที่ดำเนินธุรกิจแบรนด์และบริษัทย่อยในเครือหลากหลายบริษัท โดยบริษัทได้จัดพิมพ์นิตยสารหลากหลายฉบับซึ่งตีพิมพ์มังงะจำนวนหลายเรื่อง อีกทั้ง บริษัท ยังมีส่วนงานธุรกิจด้านเกม, ไลท์โนเวล, โฆษณา และ ภาพยนตร์ ซึ่งซีรี่ย์ของ Kadokawa จำนวนมาก ต่างได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเมและมังงะ โดย Kinema Citrus เป็นผู้ผลิตอนิเม The Rising of The Shield Hero ที่ดัดแปลงมาจากไลท์โนเวลที่จัดพิมพ์-เผยแพร่โดย Kadokawa นั่นเอง

แหล่งข่าว : Comic Natalie


GONZO โอนฝ่ายการผลิต และ ทรัพย์สินทางปัญญา บางส่วน ให้แก่ Studio KAI

สตูดิโออนิเมชั่น GONZO ได้เปิดเผยเมื่อ 28 มิ.ย. 2019 ที่ผ่านมาว่า พวกเขาได้ดำเนินการจัดตั้งบริษัทแยก และถ่ายโอนผ่ายการผลิตอนิเม ,ทรัพย์สินทางปัญญา และธุรกิจการจัดการสิทธิ์ จำนวนบางส่วน ให้กับ Studio KAI ซึ่งเป็นบริษัทที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นมาใหม่ของพวกเขา

รายงานผลประกอบการฉบับก่อนหน้าของ GONZO เมื่อสิ้นสุด ธ.ค. 2018 มียอดขาย 1.527 พันล้านเยน มียอดขาดทุนจากการดำเนินงาน 399 ล้านเยน , ยอดขาดทุนปกติ 433 ล้านเยน และขาดทุนรวม 597 ล้านเยน ซึ่งทาง Gonzo ได้รายงานสภาวะการล้มละลายที่ 3.401 พันล้านเยน

GONZO ก่อตั้งขึ้นมาโดยอดีตผู้ก่อตั้งสตูดิโอ Gainax เมื่อปี 1992 ต่อมา บริษัทได้ควบรวมกิจการกับ Digimation ของ Shinichiro Ishikawa ในปี 2000 และบริษัทแม่ของ GONZO อย่าง GDH (ย่อมาจาก Gonzo Digimation Holdings) ได้ถูกจัดตั้งขึ้น จนกระทั่ง GDH ควบรวมกับ GONZO เมื่อปี 2008 และใช้ชื่อ GONZO เป็นหลัก โดย GONZO เคยจดทะเบียนตลาดหุ้นเมื่อปี 2004 ก่อนจะเพิกถอนไปในปี 2009 บริษัทถูกปรับโครงสร้างใหม่ผ่านกองทุนรวม และ Asatsu-DK ได้เข้ามาซื้อกิจการ ทำให้ GONZO กลายเป็นบริษัทลูกของพวกเขา เมื่อปี 2016

Ryōichi Katsumura ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นตัวแทนผู้บริหารและประธานของ GONZO เมื่อ ก.ย. 2019

แหล่งข่าว :   GONZO , Social Game Info , Yaraon! , animenewsnetwork


Mamoru Oshii, Katsuhiro Otomo ได้รับเชิญเป็นสมาชิกของสถาบันจัดรางวัล Oscar

สถาบันศิลปะและวิชาการทางภาพยนตร์ (Academy of Motion Picture Arts and Sciences) ผู้จัดรางวัล Oscar ได้ประกาศรายชื่อสมาชิกใหม่พร้อมกับจดหมายเชิญสมาชิกใหม่ เมื่อ 1 ก.ค. 2019 โดยในปีนี้ ทางสถาบัน ได้เชิญสมาชิกใหม่ถึง 842 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงสุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ของพวกเขา (เป็นรอง ปี 2018 ที่ทางสถาบันได้เชิญสมาชิกใหม่มากถึง 928 คน) การเชิญชวนครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของกฎระเบียบใหม่ของพวกเขาที่เป็นการผลักดันความหลากหลายของสมาชิกภาพ หลังจากสถาบันถูกวิจารณ์อย่างหนักจากการกีดกัดคนผิวสีให้เป็นสมาชิกภาพ เมื่อปี 2016

โดยในครั้งนี้ มีชาวญี่ปุ่น ได้รับการเชิญชวนให้เป็นสมาชิกของสถาบันดังกล่าว ประกอบด้วย

- ผกก. Mamoru Oshii (Ghost in the Shell, Patlabor 2)
- ผกก. Katsuhiro Otomo (Akira, Steamboy)
- ผกก. Takashi Nakamura (Harmony, Fantastic Children)
- ผกก. Mako Kamitsuna (We Are X, Blackhat)
- นักแสดงสาว Akira Saki (Ajin คนแสดง)
- นักตัดต่อ Shigeru Nishiyama (Mirai, Sword Art Online the Movie: Ordinal Scale)
- โปรดักชั่นดีไซเนอร์ Akiko Matsuba (Shoplifters, 'Like Father, Like Son')
- โปรดิวเซอร์ Yuichiro Saito (Mirai, The Boy and The Beast)
- ศิลปินวิชวล Ryo Sakaguchi (Game of Thrones, Speed Racer คนแสดง)

ขณะเดียวกัน ในปีนี้ ก็มีผกก.หนังชาวไทยอย่าง ลี ชาตะเมธีกุล อยู่ในรายชื่อสมาชิกใหม่ของสถาบันดังกล่าว นับเป็นคนทำหนังไทยคนที่ 3 ถัดจาก เจ้ย-อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล และ สอง-สยมภู มุกดีพร้อม ที่ได้รับเชิญเข้าร่วมเป็นสมาชิกของสถาบัน (ข้อมูลจาก The Standard)



 

แหล่งข่าว :  The Academy of Motion Picture Arts and Sciences , animenewsnetwork


10 อันดับมังงะขายดีที่ญี่ปุ่น โดย Oricon : 24-30 มิ.ย. 2019

(อันดับ / เรื่อง-เล่ม / ยอดขายประจำสัปดาห์)

01. Omoi, Omoware, Furi, Furare หนึ่งหวาน หนึ่งซน คนมีรัก #12 (106,641 เล่ม)

02. Goblin Slayer #7 (94,710 เล่ม)

03. Golden Kamuy #18 (71,627 เล่ม)

04. Nanatsu no Taizai ศึกตำนาน 7 อัศวิน #37 (70,369 เล่ม)

05. Coffee & Vanilla หนุ่มกาแฟกับสาววานิลลา # 12 (67,861 เล่ม)

06. Goblin Slayer Side Story: Year One #4 (63,810 เล่ม)

07. BLUE GIANT SUPREME 8 (61,288 เล่ม)

08. Gotoubun no Hanayome เจ้าสาวผมเป็นแฝดห้า #10 (58,049 เล่ม)

09. Ao Ashi #17 (57,220 เล่ม)

10. Hypnosis Mic: -Division Rap Battle- side F.P & M 1 CD Limited Edition (53,440 เล่ม)


แหล่งข่าว : Oricon


 
free hit counter javascript