บอกเล่าข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 23-29 กรกฎาคม 2561

บอกเล่าสรุปข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์กลับมาอีกครั้ง .......ในวันหยุดยาวอาสาฬห-เข้าพรรษา ยัน วันเฉลิมพระชนมพรรษา ในหลวง ร.10 ก็เป็นช่วงเวลาที่หลายคนได้รีแลกซ์ กลับบ้านเที่ยว ตจว. หรือไม่ก็ทำบุญเข้าวัดใกล้บ้าน อันเป็นการเบรกจากความวุ่นวายต่างๆนานา ท่ามกลางสังคมที่นับวันคนอารมณ์ร้อนมากขึ้น อะไรนิด อะไรหน่อย ก็จะฆ่ากันแล้ว.....โดยช่วงวันหยุดยาวนี้ ใครที่กำลังระหองระแหงใจใดๆ ก็ช่วยกันฉุกคิด ใจเย็นๆกันซักนิด คิดแก้ปัญหากันด้วยเหตุและผล หากคิดจะทำร้ายร่างกายกันท่าเดียว อย่าลืมว่า คนที่เสียใจที่สุด คงจะหนีไม่พ้น บรรดาคนใกล้ชิดของผู้ที่บาดเจ็บ นั่นล่ะ ....สุดท้ายนี้ ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนบ้าน สปป.ลาว ผ่านพ้นวิกฤติเขื่อนแตก ให้จงได้ และได้รับการช่วยเหลือจากทุกฝ่ายกันอย่างทั่วถึง.........


สำนักข่าว K-D News (kartoon-discovery.com)
สามารถอัพเดทข่าวสารเว็บเราได้ผ่าน Twitter และ Facebook


หากนำข่าวจากเราไปเผยแพร่ที่อื่น รบกวนใส่เครดิตให้กับทางเราด้วยครับ ขอบคุณครับ

New Release Comics of the Week : กาลกิณีติดตัวยันวัยกลางคน กับ "คินดะอิจิ 37"

การ์ตูนออกใหม่ ก่อนช่วงหยุดยาว 4 วัน เริ่มจาก คินดะอิจิ 37 กับคดีฆาตกรรมปริศนา เล่ม 1 การกลับมาไขคดีอีกครั้งของนักสืบหนุ่มหางม้าคนดัง(ผู้ชอบเคลมคุณปู่)แห่งตำนาน คินดะอิจิ ฮาจิเมะ ...ที่คราวนี้เป็นรสชาติ สคิปกาลเวลาไปเป็นเรื่องราวของคินดะอิจิ และผองเพื่อนในวัย 37 ปี !!!!......คินดะอิจิ ฮาจิเมะ อายุ 37 ปี สมัยมัธยมปลายเขาไขปริศนาคดียากๆ มามากมาย แต่ปัจจุบันกลับทำงานอยู่ในบริษัท PR เล็กๆ เป็นมนุษย์เงินเดือนที่ไม่ก้าวหน้า วันหนึ่งได้รับคำสั่งให้ทำโปรเจ็กต์ทัวร์หาคู่ขึ้นที่รีสอร์ตบนเกาะห่างไกล ถึงจะฝืนทำแต่เมื่อดูโปรเจ็กต์งานแล้วพบว่า สถานที่จัดทัวร์คือ "เกาะอุตะจิมะ" ซึ่งเคยมี "โรงละครโอเปร่า" นั่นเอง! สถานที่ซึ่งเคยเกิดคดีฆาตกรรมถึง 3 ครั้ง โดยมีคินดะอิจิเป็นผู้ไขปริศนาทั้งหมด ทำให้เขารู้สึกสังหรณ์ใจอย่างบอกไม่ถูก! ถึงจะภาวนาว่า "ไม่อยากไขปริศนาอีกแล้ว" แต่เงาของ "แฟนธ่อม" กลับเข้ามาใกล้คินดะอิจิเรื่อยๆ

กินทามะ เล่ม 68 ท่ามกลางการโจมตีที่เหนือกว่าทุกด้านของกองทัพปลดปล่อย ไม่ว่าจะเป็นทางอากาศและบนพื้นดินทั่วทั้งเอโดะ ต่างเต็มไปด้วยเสียงลุกฮือต่อต้าน
อย่างสุดกำลังโดยมีกองทัพของอดีตรัฐบาลเป็นแกนกลาง แถม "อาวุธ" ทรงพลังที่เก็นไอสร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์บางอย่างก็สำแดงอานุภาพให้เห็นกันถ้วนหน้า รับจ้างสารพัด คินจังกลับมาผงาดอีกครั้ง


ฮายาเตะ พ่อบ้านประจัญบาน! เล่ม 43 เรื่องชวนหัวของพ่อบ้านเลือดนองกับความรักอีกครั้ง! การดวลตัดสินกับยูกิจิที่ยุ่งยากมากขึ้นเพราะถูกวิญญาณร้ายเข้าสิง!! การพรากจากกับพี่ชาย!! ฮายาเตะอยากได้มณีราชาเพื่อเอาสิทธิสืบทอดมรดกของคุณหนูกลับคืนมา แต่มีปัญหารออยู่จริงๆ ด้วย...!? ถ้าไปตามเส้นทางนี้จะเกิดอะไรขึ้นอาจถึงตายก็ได้ แต่ก็ต้องไป... วันนี้พ่อบ้านดวงจู๋ก็ยังทำงานอย่างสุดชีวิต!!

ดาบพิฆาตอสูร เล่ม 3 อสูร 2 ตนที่ใช้ลูกบอลและลูกศรบอกว่า พวกตนคือ 12 จันทราอสูรที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของคิบุซึจิ ปรากฏตัวต่อหน้าทันจิโร่และเนซึโกะ จำต้องประจันหน้ากับศัตรู โดยได้รับความช่วยเหลือจากทามาโยะและยูชิโร่!! พวกเขาจะเอาชนะและได้เบาะแสอะไรเกี่ยวกับคิบุซึจิหรือไม่!?

GOLDEN KAMUY เล่ม 3 สุกิโมโต้ผู้ถูกเรียกว่า "คนอมตะ" จากวีรกรรมที่เป็นดั่งเทพอสูรในสงครามญี่ปุ่นรัสเซียถูกกองพลที่เจ็ดกองทหารที่แข็งแกร่งที่สุดในภาคเหนือจับตัวได้ อาชิริปะเด็กสาวชาวไอนุที่มาช่วยสุกิโมโต้นั้นได้วางแผนการร่วมกับเรทาร์หมาป่าเอโสะตัวสุดท้ายและชิราอิชิราชาแหกคุกแห่งเรือนจำอาบาชิริ มนุษย์ที่เป็นอมตะนั้นไม่มีจริง แต่ทว่า "ไฟแห่งชะตาชีวิต" ของสุกิโมโต้ที่เผชิญอยู่ท่ามกลางพายุนั้นกลับลุกโชนยิ่งขึ้น การเสี่ยงชีวิตลุยณ แผ่นดินทางเหนือ แบทเทิลรอยัลแห่งชะตาชีวิตเล่ม 3!!


เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ:Fairy tail S   เล่ม 2  (จบ),เซนต์เซย์ย่า The Lost Canvas จ้าวนรกฮาเดส ตำนานโกลด์เซนต์ เล่ม 12,จิ๋วน้อยผจญภัย เล่ม 11 ,โคโนะโดริ หมอสองชีวิต เล่ม 4 ,Robotics; Notes  เล่ม 4


รูปภาพหน้าปก : amazon.co.jp



อนิเมทีวี "คณะประพันธกรจรจัด" ประกาศทำต่อ ซีซั่น 3

อนิเมทีวีของ Bungou Stray Dog หรือ คณะประพันธกรจรจัด ได้ประกาศทำอนิเมซีรี่ย์ ซีซั่น 3 ต่อ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากการประกาศในงานอีเว้นต์ออกฉายหนังอนิเม Bungou Stray Dog: Dead Apple ณ โรงหนัง Marunouchi Piccadilly เมื่อ 21 ก.ค. 2018

Bungou Stray Dogs ดัดแปลงมาจากมังงะแนวแอ็คชั่นพลังเหนือธรรมชาติ ที่หยิบเอานักประพันธ์คนดังของญี่ปุ่น มาเป็นตัวละครหลัก ของ Kafka Asagiri กับ Harukawa35 ตีพิมพ์ประจำลงในนิตยสาร Young Ace ตั้งแต่ ธ.ค. 2012 เป็นต้นมา และเพิ่งวางขายมังงะฉบับรวมเล่ม 15 ไป เมื่อ 4 มิ.ย. 2018

ฉบับอนิเมของเรื่องนี้ ผลิตโดย สตูดิโอ Bones ออกอากาศ 2 ซีซั่นแรก (ซีซั่นละ 12 ตอน) เมื่อ ฤดูใบไม้ผลิ 2016 กับ ฤดูใบไม้ร่วง 2016 ตามลำดับ โดยหนัง Bungou Stray Dog: Dead Apple ออกฉายทั่วญี่ปุ่นไปเมื่อ 3 มี.ค. 2018

 


แหล่งข่าว : Moca news , MAL


Captain Tsubasa เตะบอลต่อ กับภาค ม.ต้น ในอนิเมทีวีชุดล่าสุด

เว็บไซต์หลักของ Captain Tsubasa ได้แจ้งว่า อนิเมทีวีชุดล่าสุดของ Captain Tsubasa ได้ออกฉายภาคประถม จบลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในตอนที่ 28 ที่ออกฉายไปเมื่อ 23 ก.ค. 2018 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม อนิเมชุดนี้จะออกฉายต่อ กับ ภาคม.ต้น ที่มีกำหนดออกฉายในเดือน ต.ค. 2018 นี้ ซึ่งภาคดังกล่าว ยังคงได้ Yuko Sanpei กับ Takuya Sato มาพากย์เสียงเป็น Tsubasa กับ Kojiro Hyuga คู่ปรับคนสำคัญของ Tsubasa เช่นเคย

ตัวละคร : นักพากย์

Tsubasa Ozora: Yuko Sanpei (Boruto Uzumaki จาก Boruto: Naruto Next Generations)

Genzou Wakabayashi: Kenichi Suzumura (Shinn Asuka จาก Mobile Suit Gundam SEED Destiny)

Taro Misaki: Ayaka Fukuhara (Rin Shibuya จาก The Idolm@ster Cinderella Girls)

Ryo Ishizaki: Mustumi Tamura (Kobayashi-san จาก Miss Kobayashi's Dragon Maid)

Kojiro Hyuga: Takuya Sato (Gakuto Sasajima จาก Fastest Finger First)

Roberto Hongo: Katsuyuki Konishi (Shingen Takeda จาก Sengoku Night Blood)

 

มังงะ Captain Tsubasa ภาคแรกสุด ตีพิมพ์ลงใน Shonen Jump ช่วงปี 1981 - 1988 จำนวน 37 เล่ม ต่อมาถูกดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี ,หนังอนิเม , OVA ,นิยาย รวมถึง ละครเวที ซึ่งฉบับมังงะเรื่องนี้ได้รับการตีพิมพ์วางขายราว 20 ประเทศ และมีการนำไปเขียนมังงะภาคต่อ และ ภาคแยกอีกหลายชุดด้วยกัน จนถึงขณะนี้ มังงะ Captain Tsubasa รวมทุกภาค มีจำนวนฉบับรวมเล่มทั้งหมด 100 เล่ม และ ยอดตีพิมพ์ถึง 70 ล้านเล่ม เมื่อ มิ.ย. 2017

โดยก่อนหน้านี้ Tsubasa เคยถูกทำเป็นอนิเมทีวี 3 ชุด ประกอบด้วย Captain Tsubasa (128 ตอน ปี1983-1986), Captain Tsubasa J (47 ตอน ปี 1994-1995) และ Captain Tsubasa (52 ตอน ปี 2001-2002 ซึ่งอนิเมซีรี่ย์ ชุดที่ 4 ชุดล่าสุดของเรื่องนี้ เป็นการนำมารีบูตเรื่องราวใหม่ตั้งแต่ต้น ออกอากาศเมื่อ 2 เม.ย. 2018 และมีกำหนดวางขาย BD Box Set 2 ชุดจากภาคประถม ในวันที่ 10 ต.ค. 2018 กับ 12 ธ.ค. 2018 ตามลำดับ




แหล่งข่าว : crunchyroll



มาสค็อต Olympic - Paralympic Games 2020 ได้ชื่ออย่างเป็นทางการแล้ว

คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬา Olympic และ Paralympic Games กรุงโตเกียว 2020 ได้ประกาศชื่ออย่างเป็นทางการของมาสค็อตหลักประจำการแข่งขัน ออกมาแล้ว ประกอบด้วย "MIRAITOWA" (มีราอีโทวา) ซึ่งเป็นมาสค็อตประจำกีฬาโอลิมปิก กับ "SOMEITY" (โซเมตี้) มาสค็อตประจำกีฬาพาราลิมปิก โดยได้มีการประกาศชื่ออย่างเป็นทางการ เมื่อ 22 ก.ค. 2018 ที่ผ่านมา

ทางคณะกรรมการ ได้อธิบายถึงที่มาของชื่อมาสค็อต ทั้ง 2 ตัว:

Miraitowa มาสค็อตประจำกีฬาโอลิมปิกโตเกียว 2020 มาจากคำญี่ปุ่น 2 ตัว ซึ่งประกอบด้วย mirai (อนาคต) กับ towa (ชั่วนิรันดร์) มารวมเข้าไว้ด้วยกัน โดยชื่อนี้ถูกเลือกขึ้นมา เพื่อเชิดชูอนาคตที่เต็มไปด้วยความหวังในใจของผู้คนทั่วโลก ตลอดไป

ส่วน Someity มาสค็อตประจำกีฬาพาราลิมปิกโตเกียว 2020 มาจาก someiyoshino ซึ่งเป็นดอกซากุระพันธุ์หนึ่งที่มีชื่อเสียงมาก แถมยังไปพ้องเสียงกับวลีภาษาอังกฤษ "so mighty" อีกด้วย Someity สื่อถึงรสสัมผัส จับต้องได้ของดอกซากุระ และแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งด้านร่างกายและจิตใจอันยิ่งใหญ่ ของนักกีฬาพาราลิมปิก ผู้เอาชนะอุปสรรคและได้กำหนดขอบเขตของสิ่งที่เป็นไปได้

ซ้าย Miraitowa , ขวา Someity

แหล่งข่าว : Tokyo 2020.org , Oricon , crunchyroll.com



 Kemono Friends กับ Soredemo Machi wa Mawatteiru คว้ารางวัลชนะเลิศ บนเวที Seiun Awards 2018

Seiun Awards 2018 รางวัลที่มอบให้แก่ผลงานไซไฟ แฟนตาซี ดีเด่นประจำปี ได้มีการประกาศผลผู้ชนะออกมาแล้ว ในงาน Japan SF Convention โดยในครั้งนี้ มีการ์ตูน-อนิเม 2 เรื่องที่สามารถคว้ารางวัลกลับบ้านได้ ก็คือ Kemono Friends อนิเมจากสตูดิโอ Yaoyorozu คว้ารางวัลในสาขาสื่อ ส่วน Soredemo Machi wa Mawatteiru หรือ เมืองวุ่น คนวาย และสาวเมด (สนพ. บงกช บ้านเรา) ผลงานมังงะของ อ. Masakazu Ishiguro คว้ารางวัลในสาขามังงะ

Kemono Friends อนิเมสัตว์โลกโมเอะของผกก. Tatsuki และ สตูดิโอ Yaoyorozu เป็นเรื่องราวเกิดขึ้น ณ สวนสัตว์ Japari Park ซึ่งได้เกิดปรากฏการณ์ "ทรายดาว" ฟุ้งกระจายขึ้น ทำให้บรรดาสัตว์ในสวนสัตว์ ต่างกลายสภาพเป็นสิ่งมีชีวิตครึ่งสัตว์ครึ่งสาวน้อย นาม "Friends" สิ่งมีชีวิตเล่านี้ได้ใช้เวลาไปกับผู้เข้าเยี่ยมชมสวนสัตว์กันอย่างสงบสุขทุกวัน จนกระทั่งมีเด็กคนหนึ่งได้หลงทางเข้ามาที่สวนสัตว์ ซึ่งเด็กคนนี้ พร้อมเหล่า Friend ได้ออกเดินทางผจญภัยร่วมกัน เพื่อหาทางกลับบ้าน

Kemono Friends

ส่วน Soredemo Machi wa Mawatteiru / เมืองวุ่น คนวาย และสาวเมด มังงะแนว slice of life ของ อ.Ishiguro ตีพิมพ์ช่วงปี 2005 - 2016 ในนิตยสาร Young King OURS เป็นเรื่องราวเกิดขึ้น ณ โรงน้ำชาชายทะเลที่ตั้งอยู่ในย่านการค้า Maruko ร้านแห่งนี้เอง เป็นที่ทำงานของ Hotori Arashiyama สาวม.ปลายเจ้าปัญหา ที่มาทำงานเป็น Midol (เมด + ไอด้อล) ประจำร้าน โดยเธอผู้นี้ก็ต้องตาต้องใจบรรดานักสืบ เจ้าหน้าที่บ้านเมือง จนเกิดเรื่องราวต่างๆมากมาย ...โดยเรื่องนี้เคยถูกดัดแปลงเป็นอนิเมซีรี่ย์ เมื่อปี 2010

แหล่งข่าวและรูปภาพ : Animation Business Journal , My Game News Flash , crunchyroll.com



Ranka Lee กับ Sheryl Nome แห่ง Macross Frontier ออกซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุด ครั้งแรก ในรอบ 7 ปี

Ranka Lee กับ Sheryl Nome ตัวละครสาวเสียงทองแห่งอนิเม Macross Frontier กำลังจะมีผลงานเพลงในซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุด "Good job!" ที่จะวางขายในวันที่ 26 ก.ย. 2018 ซึ่งซิงเกิ้ลใหม่ดังกล่าว ถือเป็นซิงเกิ้ลแรกในรอบ 7 ปี ของทั้งคู่ หลังจากซิงเกิ้ล "Houkago Overflow" เพลงประกอบจากหนังอนิเม Macross Frontier the Movie: The Wings of Goodbye ออกวางจำหน่ายไปเมื่อ ม.ค. 2011

ซิงเกิ้ลใหม่ดังกล่าว ยังคงได้ Megumi Nakajima กับ May'n มาเป็นผู้ขับร้องเสียงเพลงเบื้องหลังของ Ranka กับ Sheryl ตามลำดับ เช่นเคย ซึ่งจะมีทั้งหมด 3 เพลง ที่เขียนเนื้อร้องโดย Robin Robinson และ ดูแลเรียบเรียงดนตรีโดย Yoko Kanno :

1. "Good job!" by Sheryl Nome starring May'n/Ranka Lee=Megumi Nakajima (เพลงใหม่)

- เพลงประกอบโฆษณานิตยสาร "Space Arbeitor" ที่มีการบันทึกเสียง ก่อนจะเริ่มสงครามครั้งสุดท้าย เมื่อปี 2059

2. "Gooorgeous" by Sheryl Nome starring May'n

- เพลงดิจิตอล ที่เคยวางขายเมื่อ 26 เม.ย. 2017

3. "Ranka to Brand New Peach" by Ranka Lee=Megumi Nakajima (เพลงใหม่)

- เพลงแนวเรโทรป๊อปน่ารักๆ

แหล่งข่าวและทวีต :  FlyingDog , crunchyroll.com



Dragon Ball Super: Broly ทำยอดจำหน่ายตั๋วล่วงหน้าสูงกว่า Battle of Gods เป็นสัดส่วน 236.7%

ตั๋วเข้าชมหนังล่วงหน้าของ Dragon Ball Super: Broly หนังอนิเมชุดที่ 20 ของ Dragon Ball จำนวน 50,000 ใบแรก ได้ขายหมดเกลี้ยงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นังตั้งแต่เปิดขายวันแรก 20 ก.ค. 2018 โดยตั๋วดังกล่าวมียอดขาย 3 วันแรกอยู่ที่ 24,000 ใบ และจากยอดขายที่เกิดขึ้นอย่างถล่มทลายของหนังชุดดังกล่าว ก็ได้มีการนำไปเปรียบเทียบกับ ยอดตั๋วของหนัง Dragon Ball 2 ภาคก่อนหน้าอย่าง Dragon Ball Z:Battle of Gods (2013) กับ Dragon Ball Z: Resurrection 'F' (2015) ปรากฏว่า ยอดขาย 2 วันแรกของ Dragon Ball Super: Broly คิดเป็นสัดส่วน 236.7% ของ Battle of Gods และ 207.2% ของ Resurrection 'F' ตามลำดับ

ตั๋วเข้าชมหนังล่วงหน้าของ Dragon Ball Super: Broly ในราคา 1,400 เยน (ผู้ใหญ่) กับ 900 เยน (เด็ก) นั้น จะแถมมากับ สายคาดมือถือ Goku หรือ Vegeta (อย่างใดอย่างหนึ่ง) ซึ่งมีความพิเศษก็คือ ผมของทั้งคู่สามารถเปลี่ยนสีจากสีทองเป็นสีฟ้าได้ สลับกันไปมา ตามอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง (Super Saiyan blue ก็ต่อเมื่ออยู่ที่เย็นๆ , Super Saiyan gold ตอนอยู่ที่ร้อนๆ) และนั่นอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ยอดขายตั๋วล่วงหน้าของ Dragon Ball Super: Broly ขายดีถึงขนาดนี้

Dragon Ball Super: Broly ได้ อ. Akira Toriyama เป็นผู้ดูแลโปรเจ็คนี้ พร้อมเหมาหน้าที่ออกแบบตัวละครแล้วก็เขียนบท โดยมี Tatsuya Nagamine (Heartcatch PreCure!, HappinesCharge PreCure) ผกก.จากอนิเมซีรี่ย์ Dragon Ball Super มารับหน้าที่กำกับหนัง โดยมีกำหนดปลดปล่อยพลังสะท้านจอทั่วโรงหนังญี่ปุ่น 14 ธ.ค. 2018


แหล่งข่าว : Mantan Web , crunchyroll.com

 


Mirai no Mirai กับ หนังคนแสดง Bleach เปิดตัวอย่างน่าผิดหวัง บน Box Office ญี่ปุ่น

รายงานอันดับหนังทำเงินที่ญี่ปุ่น ที่ห่างหายกันไปพอสมควร โดยอันดับหนัง Box Office ญี่ปุ่น ช่วงวันที่ 21-22 ก.ค. 2018 ที่ผ่านมา ปรากฏว่า Mirai no Mirai/Mirai of The Future หนังอนิเมเรื่องล่าสุดของ ผกก.Mamoru Hosoda (The Girl Who Leapt Through Time, Summer Wars) สามารถเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกได้ในอันดับ 2 Box Office ญี่ปุ่น ขณะที่ ฉบับหนังคนแสดงของ Bleach เทพมรณะ ที่ดัดแปลงจากมังงะของ อ.Tite Kubo สามารถเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกได้ในอันดับ 4 บน Box Office ญี่ปุ่น

Mirai no Mirai ออกฉายวันแรกบนโรงหนัง 367 แห่งทั่วญี่ปุ่น เมื่อ 20 ก.ค. 2018 สามารถทำรายได้จากการออกฉายช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 21-22 ก.ค. 2018 ที่ 400 ล้านเยน จากยอดจำหน่ายตั๋ว 295,000 ใบ ซึ่งเป็นรายได้ที่ลดลงจาก The Boy and the Beast หนังเรื่องก่อนหน้าของ Hosoda ไปราว 40% โดย The Boy and the Beast ทำรายได้จากการฉาย 2 วันแรกที่ 667 ล้านเยน ในขณะที่ MIRAI โกยเงินผ่านหลัก 500 ล้านเยน ในวันที่ 3 ของการออกฉายหนังเท่านั้น ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวที่ค่อนข้างน่าผิดหวังสำหรับหนังเรื่องนี้

ขณะที่ หนังคนแสดง Bleach ที่ได้ Souta Fukushi (Kamen Rider Fourze) มาแสดงนำในบท Ichigo กับ Shinsuke Sato ผกก.จาก GANTZ, Death Note: Light Up the New World ออกฉายวันแรกบนโรงหนัง 328 แห่งทั่วญี่ปุ่น เมื่อ 20 ก.ค. 2018 เช่นกัน กลับโกยเงินได้เพียง 135 ล้านเยน จากยอดตั๋ว 99,000 ใบ ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 21-22 ก.ค. 2018 สิริรวม 3 วันแรกของเรื่องนี้ ตั๋วหนังทำเงินได้เพียง 177 ล้านเยนเท่านั้น ซึ่งกลายเป็นหนังคนแสดงจากการ์ตูนที่ทำผลงานได้แย่ยิ่งกว่า JoJo's Bizarre Adventure: Diamond Is Unbreakable Chapter I ของ ผกก. Takeshi Miike ที่ออกฉายช่วงหน้าร้อนของญี่ปุ่น เมื่อปี 2017 เสียอีก

อันดับหนัง box office ญี่ปุ่น ( 21-22 ก.ค. 2018)

(นับอันดับจากยอดขายตั๋ว)

1 (1). "Jurassic World: Fallen Kingdom"

2 (new). "MIRAI"

3 (2). "Pokémon the Movie: Everyone's Story"

4 (new). "Bleach"

5 (3). "Solo: A Star Wars Story"

6 (4). "Manbiki Kazoku"

7 (5). "Soratobu Tire"

8 (6). "Nijiiro Days"

9 (7). "Soreike! Anpanman: Kagayake! Kurun to Inochi no Hoshi"

10 (8). "Detective Conan: Zero the Enforcer"


แหล่งข่าว :  Eiga.com , Oricon , crunchyroll.com



อนิเมซีซั่นสุดท้าย Fairy Tail มีกำหนดลุยบนหน้าจอ ต.ค. 2018

เป็นสิ่งที่แฟนๆชาวกิลด์หางนางฟ้าพลังมิตรภาพ Fairy Tail รอคอยกันมานาน เกี่ยวกับอนิเมซีรี่ย์ซีซั่นสุดท้าย ที่มีการประกาศมาเป็นปีๆ......ล่าสุด อนิเมซีรี่ย์บททิ้งทวนของ Fairy Tail ได้ประกาศช่วงเวลาออกฉายที่แน่นอนแล้ว โดยมีกำหนดออกฉายในเดือน ต.ค. 2018 ทางช่อง TV Tokyo โดยอนิเมชุดดังกล่าว จะใช้ทีมงานและนักพากย์ชุดเดิมจากอนิเมซีซั่นก่อนๆหน้าของ Fairy Tail


แหล่งข่าวและรูปภาพ : Anime! Anime! , crunchyroll.com


พิพิธภัณฑ์ Toei Animation เปิดอย่างเป็นทางการแล้ว ที่โตเกียว

พิพิธภัณฑ์ Toei Animation พิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมผลงานของสตูดิโออนิเม Toei Animation ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ณ กรุงโตเกียว ในวันที่ 28 ก.ค. 2018

พิพิธภัณฑ์ดังกล่าว นอกจากจะจัดแสดงและรวบรวมผลงานต่างๆทั้งในอดีตและปัจจุบันของ Toei แล้ว ก็ยังมีส่วนอื่นๆอีก อาทิ ร้านขายของที่ระลึก , น้ำพุพร้อมอนุสาวรีย์ Pero ซึ่งเป็นมาสค็อตของ Toei (มาจากอนิเม Puss `n Boots เมื่อปี 1969) , ลานกว้างพร้อมกระดานดำ ให้ผู้มาเยือนได้ละเลงวาดภาพ , ทัชสกรีนขนาดมหญ่ ให้ผู้เข้าชมได้รับชมคลิปอนิเมขนาดสั้น และ แกลเลอรี่ ที่แสดงภาพวาดต้นฉบับ และ แผ่นเซลต้นฉบับที่นำไปใช้ประกอบอนิเมชั่น เป็นต้น

พิพิธภัณฑ์ Toei Animation ตั้งอยู่ที่บริเวณ 2 Chome-10-5 Higashiōizumi เขตเนริมะ โตเกียว สามารถเข้าชมได้ฟรี และเปิดทำการทุกวัน ยกเว้นวันพุธ ในเวลา 10.00-17.00 น. อย่างไรก็ตาม พิพิธภัณฑ์ดังกล่าว ไม่มีลานจอดรถ กรุณาเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะสถานเดียว!

 

แหล่งข่าว : crunchyroll.com



ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน : ปฏิบัติการสายลับเดอะซีโร่ ครองแชมป์ Box Office ญี่ปุ่น ครึ่งปีแรก 2018

Detective Conan: Zero the Enforcer (Meitantei Conan Zero no Shikkōnin) หรือ ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน : ปฏิบัติการสายลับเดอะซีโร่ สามารถครองแชมป์หนังที่ทำรายได้สูงสุดบน Box Office ญี่ปุ่น ช่วงครึ่งปีแรก ของปี 2018 ด้วยรายได้ 76.4 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการออกฉายตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย. 2018 ซึ่งหนังเรื่องนี้ จัดเป็นหนึ่งในหนังญี่ปุ่นเพียง 3 เรื่อง ที่สามารถติดอยู่ใน 10 อันดับแรกของชาร์ตหนังรายได้สูงสุด ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2018 ในญี่ปุ่น เช่นเดียวกับ Doraemon the Movie: Nobita's Treasure Island และ Shoplifters(Manbiki Kazoku)

ขณะที่ Doraemon the Movie: Nobita's Treasure Island (Eiga Doraemon: Nobita no Takarajima) หนังอนิเมรายได้สูงที่สุด ในบรรดาหนังอนิเมทุกภาคของ Doraemon ติดอันดับ 3 ในชาร์ตดังกล่าว ด้วยรายได้ 47.1 ล้านเหรียญสหรัฐ

ส่วน Shoplifters ของผกก. Hirokazu Kore-eda รั้งอันดับ 5 ร่วมกับ Avengers: Infinity War

10 หนังที่ทำรายได้สูงสุดบน Box Office ญี่ปุ่น ช่วงครึ่งปีแรก ของปี 2018

1.Detective Conan: Zero the Enforcer: 76.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (ออกฉายครั้งแรก 13 เม.ย. 2018)

2.The Greatest Showman: 48.2 ล้านเหรียญสหรัฐ (ออกฉายครั้งแรก 16 ก.พ. 2018)

3.Doraemon the Movie: Nobita's Treasure Island: 47.1 ล้านเหรียญสหรัฐ (ออกฉายครั้งแรก 3 มี.ค. 2018)

4.Coco: 46.3 ล้านเหรียญสหรัฐ (ออกฉายครั้งแรก 16 มี.ค. 2018)

5.(ร่วม) Avengers: Infinity War: 33.8 ล้านเหรียญสหรัฐ (ออกฉายครั้งแรก 27 เม.ย. 2018)

5.(ร่วม) Shoplifters: 33.8 ล้านเหรียญสหรัฐ (ออกฉายครั้งแรก 8 มิ.ย. 2018)

7.The Boss Baby: 30.7 ล้านเหรียญสหรัฐ (ออกฉายครั้งแรก 21 มี.ค. 2018)

8.Ready Player One: 23.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (ออกฉายครั้งแรก 20 เม.ย. 2018)

9.Jurassic World: fallen Kingdom: 20.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (ออกฉายครั้งแรก 13 ก.ค. 2018)

10.Deadpool 2: 16.2 ล้านเหรียญสหรัฐ (ออกฉายครั้งแรก 1 มิ.ย. 2018)

อันดับอื่นๆ

Eiga Crayon Shin-chan Bakumori! Kung-Fu Boys ~Ramen Tairan~ (ออกฉายครั้งแรก 13 เม.ย. 2018) อันดับที่ 12 ด้วยรายได้ 14.7 ล้านเหรียญสหรัฐ , Chihayafuru: Musubi (Chihayafuru: Conclusion) หนังคนแสดงชุดที่ 3 ของมังงะ Chihayafuru ติดอั ติดอันดับ 15 ด้วยรายได้ 13.6 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการออกฉายวันแรกเมื่อ 17 มี.ค. 2018


แหล่งข่าว : Box Office Mojo , Variety  , animenewsnetwork

 


จับ นศ.หนุ่ม หนึ่งใน 3 ผู้ต้องหา พ่นสเปรย์ฝาท่อ Love Live! Sunshine & ยกเลิกงานเทศกาล Love Live! จากเหตุพายุไต้ฝุ่น

สืบเนื่องจากคดีปริศนาที่เกิดขึ้นในเมือง Numazu จากการที่มีกลุ่มคนผู้ไม่หวังดี ได้ใช้สเปรย์ขีดพ่นฝาท่อลวดลายตัวละครจากอนิเม Love Live! Sunshine ไปทั่วเมือง จนสร้างความผวา และ โกรธแค้นให้แก่ชาวเมืองไปทั่ว ตามที่เคยรายงานไปเมื่อ มิ.ย. 2018 ที่ผ่านมา ซึ่งคดีดังกล่าว ทางจนท.ตำรวจได้ดำเนินการตามตัวคนร้ายผู้ก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง และได้พบกับผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นเด็กม.ปลาย จำนวน 3 คน บนกล้องวงจรปิด จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 2 รายแรก

ล่าสุด เมื่อ 25 ก.ค. 2018 จนท.ตำรวจเมือง Numanzu สามารถรวบตัว Takahito Yamaguchi นศ.มหาวิทยาลัย ชั้นปี 3 จากเมือง Sumiyoshi จ. Saitama ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ผู้ต้องสงสัยคดีพ่นสีสเปรย์ฝาท่อ Love Live! Sunshine ในเมือง อย่างไรก็ตาม จนท.ยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนผู้ต้องสงสัยรายนี้เกี่ยวกับแรงจูงใจ รวมถึง ความเชื่อมโยงกับผู้ต้องหา 2 รายแรก ที่ก่อคดีดังกล่าว

จากข่าวการจับกุมตัวผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว เว็บไซต์หลักของเมือง Numazu ได้แจ้งว่า พวกเขาเตรียมพิจารณาที่จะกลับมาติดตั้งฝาท่อ Love Live! Sunshine อีกครั้ง หลังจาก ฝาท่อ Love Live! Sunshine จำนวน 9 ฝา ถูกทางเมืองสั่งเก็บออกไป หลังจากเกิดคดีดังกล่าวขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคดีดังกล่าวข้างต้น จะรวบตัวคนร้ายได้แล้ว แต่ก็มีข่าวร้ายเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในหมู่โอตะ Love Live! Sunshine เมื่องานเทศกาลฤดูร้อนของ Love Live! Sunshine ที่จะจัดขึ้นในเมือง Numazu เมืองที่ถูกใช้เป็นฉากหลังของอนิเมเรื่องดังกล่าว ได้ประกาศยกเลิกการจัดงานแล้ว จากเดิมที่มีกำหนดจะจัดในวันที่ 28 ก.ค. 2018 ซึ่งเหตุผลที่ต้องยกเลิกจัดงานดังกล่าว ก็มาจากการที่เมืองดังกล่าวต้องรับมือการมาของพายุไต้ฝุ่น Typhoon 12 ( Typhoon Jongdari ) ที่จะพัดผ่านมาทางชายฝั่งภาคใต้ของญี่ปุ่น จนก่อให้เกิดสภาพอากาศที่ไม่ดีนักในช่วงสุดสัปดาห์ (28-29 ก.ค. 2018) แถมพายุดังกล่าว ก็สามารถกลายสภาพความแรงเป็นเฮอริเคน ที่มีแรงลม 135 กม. ต่อ ชม. เช่นกัน


แหล่งข่าว : animenewsnetwork



In This Corner of the World ใช้ชื่อหนังใหม่ ในเวอร์ชั่นยาวกว่าเดิม

twitter หลักของหนังอนิเม In This Corner of the World (Kono Sekai no Katasumi ni) ได้แจ้งว่า หนังอนิเมเรื่องเยี่ยมดัดแปลงจากมังงะของ อ. Fumiyo Kouno จะใช้ชื่อหนังใหม่ ในเวอร์ชั่นที่มีเนื้อหายาวขึ้น 30 นาที ในชื่อว่า Kono Sekai no (Sara ni Ikustumono) Katasumi ni หรือ In This Corner (and Other Corners) of the World โดยมีกำหนดออกฉายที่ญี่ปุ่น ในเดือน ธ.ค. 2018 นี้

ชื่อใหม่ของตัวหนัง ทาง Sunao Katabuchi (Black Lagoon, Mai Mai Miracle) ผกก.หนัง เป็นผู้วางแผน และได้รับการยินยอมจาก อ.Kouno เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งคอนเซ็ปต์ของตัวหนังฉบับยาวนั้น จะนำเสนอโดยเพิ่มมุมมองของ Suzu เข้าไปมากกว่าเดิม ซึ่งก็ทำให้ตัวชื่อหนังใหม่นั้น จะมีความเข้ากับธีมหนังฉบับนี้มากยิ่งขึ้น รวมถึง มีการใส่เรื่องราวจากฉบับการ์ตูนต้นฉบับเพิ่มมากขึ้น เช่นกัน

ฉากใหม่ที่ว่านี้ จะรวมไปถึง ฉากที่ Suzu ไปพบเจอกับ Rin ช่วงฤดูใบไม้ร่วง 1944 กับ ฤดูใบไม้ผลิ 1945 รวมไปถึงเหตุการณ์พายุไต้ฝุ่นพัดผ่านเมือง Makurazaki เมื่อ ก.ย. 1945 วึ่งเป็นช่วงเวลาที่ Suzu กำลังกังวลถึง Sumi น้องสาวเธอ

Non ยังคงพากย์เสียงเป็น Suzu เช่นเคย ขณะที่ kotringo เป็นผู้เรียบเรียงดนตรี มาพร้อมกับเพลงใหม่ "Kanashikute Yarikirenai" (It's Sad and I Can't Bear It)

ตัวหนังอนิเมชุดนี้ ผลิตโดย GENCO กับ MAPPA ออกฉายมาตั้งแต่ พ.ย. 2016 และสามารถจำหน่ายตั๋วเข้าชมได้มากกว่า 2 ล้านใบ อีกทั้งยังสามารถกวาดรางวัลยอดเยี่ยมจากหลายเวทีมาแล้ว อาทิ Fujimoto Award, Daijin (Minister) Prize จากหน่วยงานด้านวัฒนธรรมญี่ปุ่น, Hiroshima Peace Film Award จากงานเทศกาลหนังนานาชาติ Hiroshima , อันดับ 1 หนังญี่ปุ่นแห่งปี จากนิตยสาร Kinema Jumpo , อนิเมชั่นแห่งปี จาก Japan Academy Prize , รางวัลชมเชย สาขาภาพยนตร์ จากงาน Annecy , ชนะเลิศสาขาภาพยนตร์อนิเม จาก Tokyo Anime Award Festival และ รางวัลชนะเลิศประเภทอนิเมชั่น จาก Japan Media Arts Festival Awards ครั้งที่ 21

ปัจจุบัน มังงะเรื่องนี้ ถูกนำไปดัดแปลงเป็นละครคนแสดง ออกฉายในเดือน ก.ค. 2018

 

แหล่งข่าว : Comic Natalie , animenewsnetwork


 

Wotaku ni Koi wa Muzukashii ถูกดัดแปลงในรูปแบบหนังคนแสดง

Wotaku ni Koi wa Muzukashii (Wotakoi: Love Is Hard for Otaku) มังงะโรแมนติคสไตล์โอตาคุของ อ.Fujita ได้รับการดัดแปลงเป็นหนังคนแสดงแล้ว จากการประกาศในวีดีโอโปรโมทฉบับมังงะรวมเล่ม 6 ของเรื่องนี้ ที่ทางสนพ. Ichijinsha ได้ปล่อยไป เมื่อ 26 ก.ค. 2018

Wotaku ni Koi wa Muzukashii เป็นเรื่องราวของ Narumi Momose หญิงสาวร่างเล็กน่ารัก ผู้เป็นโอตาคุสายคลั่งไคล้ ไอด้อล เกม มังงะ-อนิเม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพวก boys love และด้วยพฤติกรรมดังกล่าว ทำให้เธอต้องปิดบังความลับนี้ตลอดเวลา จนกระทั่ง ที่บริษัทใหม่ของเธอนั้น เธอได้พบกับ Hirotaka Nifuji หนุ่มโอตาคุสายเกม ผู้ซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเด็กของเธอ ที่ล่วงรู้ความลับนี้ของเธอ และแล้วความสัมพันธ์ระหว่างหนุ่มสาวเพื่อนรักสมัยเด็ก ผู้ซึ่งเป็นโอตาคุทั้งคู่ จึงได้เริ่มต้นขึ้น แม้ว่า สัมพันธ์ภาพความรักแบบโอตาคุ ยากที่จะเข้าใจก็ตาม

มังงะชุดนี้ อ.Fujita ได้เขียนลงบน pixiv เมื่อปี 2014 และย้ายไปเผยแพร่ลงบนเว็บ Comic POOL เมื่อปี 2015 ปัจจุบันเรื่องนี้มียอดขายมากกว่า 7 ล้านเล่ม รวมถึง ติดอันดับ 1 ในลิสต์สุดยอดมังงะผู้หญิงน่าอ่าน ประจำปี 2016 ของ Kono Manga ga Sugoi!

ต่อมาเรื่องนี้ถูกดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี 11 ตอน โดย A-1 Pictures ออกฉายเมื่อฤดูใบไม้ผลิ 2018 ที่ผ่านมา ทางช่อง Fuji TV ช่วงรายการอนิเมรอบดึก noitaminA


แหล่งข่าว : Comic Natalie , MAL


รายละเอียดเพิ่มเติม Kamen Rider Zi-O ไอ้มดแดงซีรี่ย์สุดท้ายแห่งยุคเฮย์เซย์

ช่วงเดือน พ.ค. 2018 ที่ผ่านมา มีข่าวว่าทาง Toei ได้ทำการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของ Kamen Rider ZI-O เป็นที่เรียบร้อย เมื่อ เม.ย. 2018 ที่ผ่านมา จากข้อมูลดังกล่าว เป็นการการันตีว่า Kamen Rider ZI-O คือ ซีรี่ย์ตระกูล Kamen Rider หรือ ไอ้มดแดง ซีรี่ย์ใหม่ที่จะฉายต่อจาก Kamen Rider Build ในเดือน ก.ย. 2018 นี้

ลุด เราก็มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Kamen Rider Zi-O มาให้คอไอ้มดแดงได้รับทราบกัน โดย Zi-O (หรือ จีโอ ตามการออกเสียงแบบญี่ปุ่น) จัดเป็นซีรี่ย์ไอ้มดแดงเรื่องที่ 20 แห่งยุคเฮย์เซย์ และเป็นเรื่องสุดท้ายของยุคเฮย์เซย์ด้วยเช่นกัน!! โดยซีรี่ย์ไอ้มดแดงชุดนี้ กลับมาในคอนเซ็ปต์กาลเวลาอีกครั้ง เช่นเดียวกับ Kamen Rider Decade ซึ่งเป็นเรื่องราวของหนุ่มวัยรุ่นยุคปัจจุบัน ได้พบกับหญิงสาวที่มาจากอนาคต อีก 50 ปี ผู้ซึ่งมาบอกเขาว่า เขาคือราชาแห่งกาลเวลา และหนุ่มผู้นี้จะแปลงร่างเป็น Kamen Rider Zi-O ไอ้มดแดงผู้สามารถเดินทางข้ามเวลาไปพบปะกับพวกไอ้มดแดงรุ่นพี่แห่งยุคเฮย์เซย์ ตั้งแต่ Kuuga ยันจนถึง Build ผ่านไทม์แมกชีนของหญิงสาวผู้นี้ อีกทั้ง Zi-O เอง ยังสามารถแปลงร่างและใช้พลังของไรเดอร์รุ่นพี่ได้ เฉกเช่นเดียวกับ ขบวนการเซ็นไท Gokaiger ที่เคยออกฉายเมื่อปี 2011

เท่ากับว่า ไรเดอร์ซีรี่ย์นี้ ผู้สร้างตั้งใจจะให้เป็นการปิดตำนานไอ้มดแดงยุคเฮย์เซย์ทั้งปวง ถึงกระนั้น Zi-O ยังจัดเป็นซีรี่ย์ไอ้มดแดงเรื่องแรกประจำรัชกาลใหม่ของญี่ปุ่น ด้วยเช่นกัน จากการที่ซีรี่ย์ชุดนี้จะออกฉายคาบเกี่ยวกับ ช่วงที่ สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะแห่งญี่ปุ่น ทรงสละราชบัลลังก์ ในวันที่ 30 เม.ย. 2019 นั่นเอง

โดย Zi-O มีกำหนดออกฉายตอนแรกที่ญี่ปุ่น 2 ก.ย. 2018


 

แหล่งข่าว : Anime! Anime!crunchyroll.com

 


twitter พ่นพิษ .........ส่งผลให้มังงะ Honjitsu Watashi wa Enjō Shimashita ตัดจบเรียบร้อย

บก.ของนิตยสาร Manga Time Kirara Max ของสนพ. Houbunsha ได้ออกมาเปิดเผยผ่าน twitter หลักของนิตยสารว่า ผลงานมังงะของ Dogeza เรื่อง Honjitsu Watashi wa Enjō Shimashita (Today I Went Up in Flames) ได้จบลงเป็นที่เรียบร้อย หลังเพิ่งลงตอนแรกไป ในนิตยสารดังกล่าว ฉบับ ส.ค. 2018 ที่วางขายไปเมื่อ 19 มิ.ย. 2018 เท่านั้น ซึ่งทางบก.ของนิตยสารดังกล่าว ได้อธิบายอีกว่า เดิมที มังงะเรื่องนี้จะหยุดเขียนชั่วคราว แต่หลังจากที่ได้พูดคุยกับ Dogeza ผู้เขียนมังงะเรื่องดังกล่าว ก็ได้ข้อสรุปว่า มังงะเรื่องนี้ถูกตัดจบลงอย่างทันควัน ณ ตรงนี้เลย

มังงะดังกล่าวเป็นเรื่องราวของ Kanae เด็กสาว ม.ปลาย ผู้พยายามทำตัวเองให้กลายเป็นไอด้อลคนดังแห่ง MeTube (หรือ YouTube ในฉบับมังงะดังกล่าว) เธอรู้ดีว่า หากได้รับฟีดแบ็คในเชิงลบเยอะ ก็มีผลทำให้วีดีโอของเธอมียอดวิวที่เพิ่มสูงขึ้น เช่นกัน เธอจึงตัดสินใจจัดทำคอนเท้นต์ต้องห้าม ให้คนมารุมดราม่ากันเยอะๆ ผ่านวีดีโอที่เธออัพโหลดลงช่องของตนเอง ซึ่งถือเป็นการตลาดอย่างหนึ่ง (คำว่า "enjō" ในมังงะ แปลว่า "เปลวไฟรุกโชน" ซึ่งสื่อถึงประเด็นดราม่าออนไลน์ จนนำไปสู่การแสดงความเห็น การตอบโต้ กันอย่างดุเดือด)

ทว่า จากการที่ชาวเน็ตได้ค้นพบคอมเม้นต์อันไม่เหมาะสมของ Dogeza ที่เคยโพสต์ลง Twitter เมื่อช่วง ก.ย. 2012 ที่มีใจความในเชิงเหยียดคนเกาหลี ดูหมิ่นชาวต่างชาติ รวมถึง วิพากษ์วิจารณ์เรื่องสวัสดิการประชาชน หลังจากสนพ.ต้นสังกัดของเรื่องนี้ ได้รับทราบข้อมูลดังกล่าว ก็เลยทำให้พวกเขาตัดสินใจที่จะหยุดตีพิมพ์เรื่องนี้ชั่วคราว

ทาง Dogeza ได้โพสต์ขออภัยบน Twitter เมื่อ 25 มิ.ย. 2018 โดยกล่าวว่า "ผมขอโทษที่ได้สร้างปัญหาและรบกวนผู้คนที่ผมเคยพาดพิงไว้เมื่อครั้งอดีต " จากนั้น เขาได้โพสต์ข้อความเพิ่มเติม ซึ่งมีใจความเกี่ยวกับความรู้สึกผิด และต้องการขอโทษอย่างจริงจัง

อย่างไรก็ตาม หลังจาก Dogeza กลับมาใช้ twitter ต่อ หลังหยุดพักไป 1 เดือน เขาก็ได้โพสต์ข้อความในเชิงเกรี้ยวกราดและข่มขู่ จากการที่เขาได้รับข้อความอย่างไม่เหมาะสมจากชาวเน็ต และปัจจุบัน บัญชี twitter ของเขา ได้ถูกลบออกไปเรียบร้อย

เรียกได้ว่า เคสนี้จัดเป็นนักเขียนการ์ตูนอีกคน ที่เข้าทำนองตายเพราะข้อความ twitter ที่ตนเป็นผู้โพสต์ ..........ซึ่งก่อนหน้านี้ มี MINE ผู้แต่งไลท์โนเวล [New Life+] Young Again in Another World (Nidome no Jinsei o Isekai de) ที่ถูกชาวเน็ตพบว่า เขาได้โพสต์ข้อความดูถูกคนเกาหลี-คนจีน บน twitter เข้า ส่งผลทำให้ทั้ง ไลท์โนเวล กับ ฉบับอนิเมของเรื่องนี้ ถูกยกเลิกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


แหล่งข่าวและรูปภาพ :  Huffington Post , Yaraon!Hachima Kikō , animenewsnetwork


ประวัติความเป็นมาของเจ้าหมีดำ Kumamon ถูกจัดทำในรูปแบบมังงะเพื่อการศึกษา

Shogakukan-ban Gakushū ไลน์หนังสือการ์ตูนของสนพ. Shogakukan ที่เน้นนำเสนอเรื่องราวของบุคคลสำคัญในแขนงต่างๆ ทั้ง Steve Jobs (เจ้าของ บ.Apple), Saigō Takamori (ซามูไร), Osamu Tezuka (นักเขียนการ์ตูน), Hideki Matsui (นักกีฬา) , และ Satoshi Tajiri (ผู้สร้าง Pokémon ) ในรูปแบบการ์ตูน

ล่าสุด พวกเขาได้ลองนำเสนอความแปลกใหม่ ด้วยการหยิบเอา Kumamon มาสค็อตหมีดำคนดัง มานำเสนอบอกเล่าความเป็นมาให้หลายคนรับทราบในรูปแบบการ์ตูนด้วย โดยได้ออกวางขายไปเมื่อ 27 ก.ค. 2018

มังงะ Kumamon นั้น จะบอกเล่าถึงที่มาของมาสค็อต รวมไปถึง ความพยายามในการระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว จ.คุมาโมโตะ ซึ่งได้ อ.Shinri Mori (Gin no Shippo) นักเขียนการ์ตูน ผู้ซึ่งเป็นชาว จ.คุมาโมโตะ ตั้งแต่กำเนิด เป็นผู้วาดภาพให้มังงะชุดนี้ โดย Shinpei Muto หัวหน้าฝ่ายหนังสือเรียนของ Shogakukan ได้กล่าวถึงจุดประสงค์ของการนำ Kumamon มาจัดทำเป็นการ์ตูนเพื่อการศึกษา ว่า "เราอยู่ในยุคของปัญญาประดิษฐ์ ที่ซักวันหนึ่ง มันอาจมีจิตใจ ผมคิดว่า Kumamon นี้ล่ะ คือ วิวัฒนาการขั้นต่อไปของวัฒนธรรมมาสค็อตที่ชาวญี่ปุ่นภาคภูมิใจ ยิ่งนัก"

Kumamon มาสค็อตหมีประจำจังหวัดคุมาโมโตะของญี่ปุ่น เป็นที่รู้จักไปทั่วเกาะญี่ปุ่น ในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา โดยเป็นตัวละครที่ออกแบบอย่างเรียบง่าย น่ารัก และดึงดูดใครหลายๆคน จนถูกนำไปจัดทำเป็นสินค้าของเล่น ยัน แพ็คเกจห่ออาหาร จนกลายเป็นมาสค็อตดังระดับพันล้านเยนอย่างรวดเร็ว ซึ่ง Kumamon ผลงานการสร้างสรรค์จากทีมงาน 6 คน สามารถทำเงินได้สูงถึง 29.3 พันล้านเยน จากการขายสินค้าของมาสค็อตตัวนี้ เมื่อปี 2012

Kumamon ได้เข้าไปร่วมแจมกับหนัง-อนิเมเรื่องอื่นๆด้วยเช่นกัน อาทิ หนังคนแสดง Rurouni Kenshin , อนิเมซีรี่ย์ Yowamushi Pedal และ Evangelion รวมถึงได้พบปะกับ Keanu Reeves อีกทั้งยังเป็นผู้คอยทำหน้าที่บรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัย จากเหตุแผ่นดินไหวที่ จ.คุมาโมโตะ เมื่อปี 2016



 

แหล่งข่าว : Comic Natalie , animenewsnetwork

 


 

10 อันดับ มังงะ ขายดีที่ญี่ปุ่น โดย Oricon : 16-22 ก.ค. 2018

มังงะ

(อันดับ / ยอดขายประจำสัปดาห์ / ยอดขายรวม / เรื่อง - เล่มที่)

*1.    *,389,081    *,389,081    Kingdom เล่ม 51
*2.    *,333,867    *,333,867    Tokyo Ghoul:re เล่ม 16
*3.    *,132,283    *,132,283    Jojo ล่าข้ามศตวรรษ : JoJolion เล่ม 18
*4.    *,126,680    *,126,680    Kishibe Rohan wa Ugokanai (Thus Spoke Kishibe Rohan) เล่ม 2
*5.    *,*80,039    *,*80,039    DAYS เล่ม 28
*6.    *,*77,707    *,*77,707    Monthly Girls' Nozaki-kun นักเขียนหน้าตาย กับ นายโนซากิคุง เล่ม 10
*7.    *,*69,877    *,157,794    Teasing Master Takagi-san แกล้งนัก รักนะรู้ยัง? เล่ม 9
*8.    *,*64,490    *,507,246    My Hero Academia เล่ม 19
*9.    *,*60,825    *,*60,825    The Quintessential Quintuplets เล่ม 5
10.    *,*58,578    *,533,254    Haikyu!! คู่ตบฟ้าประทาน เล่ม 32

แหล่งข่าว : Oricon


 

 
free hit counter javascript