บอกเล่าข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 12-18 สิงหาคม 2562

บอกเล่าสรุปข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ กลับมาอีกครั้ง .......ในสัปดาห์แห่งความอลม่าน อลเวง ครื้นเครงของใครต่อใคร จากการที่ได้เห็นดาราพากันแสดงพฤติกรรมเสล่อๆ จนกลายเป็นดราม่าทั่วโซเชี่ยล ไปพร้อมกับเรื่องราวการเมือง ที่ไม่ว่าจะฝ่ายรบ. หรือ ฝ่ายแค้น....เอ้ย!! ค้าน เอาแต่อ้างว่า จะแก้ปัญหาปชช.ก่อน แต่เอาเข้าจริง มัวแต่ทำอะไรก็ไม่รู้ ฝ่ายหนึ่งก็พยายามปกป้องความผิดพลาดของตัวเอง ทำทุกวิธีทางเพื่อไม่ให้แพ้โหวต ส่วนอีกฝั่ง ก็เอาแต่จับผิด พยายามไล่บี้เพื่อเอาชนะอีกฝ่ายให้ได้ !!!!! แต่ถึงกระนั้น เราก็ได้สะเทือนใจไปกับการจากไปของเจ้าพะยูนตัวน้อย มาเรียม อันเป็นบทเรียนที่เตือนใจใครทั้งหลายว่า จงทิ้งขยะให้ถูกที่ถูกทางซะ อย่าเอาแต่ทิ้งเรี่ยราดจนเคยตัว มิฉะนั้น สิ่งมีชีวิตต่างๆบนท้องทะเล จะมีชีวิตบนโลกใบนี้ ยากขึ้น ทุกๆวัน ครับ

 

สำนักข่าว K-D News (kartoon-discovery.com)
สามารถอัพเดทข่าวสารเว็บเราได้ผ่าน Twitter และ Facebook


หากนำข่าวจากเราไปเผยแพร่ที่อื่น รบกวนใส่เครดิตให้กับทางเราด้วยครับ ขอบคุณครับ

New Release Comics of the Week : ฤทธิ์เดชพี่มนุษย์เลื่อย กับ Chainsaw Man

การ์ตูนออกใหม่ ประจำสัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มจาก Chain saw man เล่ม 1 ซีรี่ย์มนุษย์เลื่อยที่กำลังฮิตติดลมบนในจัมป์ จากผู้เขียน Fire Punch ได้วางขายในบ้านเราอย่างไวว่อง!!!......เด็นจิเด็กหนุ่มที่จนกรอบยิ่งกว่ากรอบ โดนจิกหัวใช้ในฐานะนักล่าปีศาจร่วมกับปีศาจโปจิตะ ชีวิตในแต่ละวันที่ย่ำแย่ต่ำเตี้ยติดดินเปลี่ยนไปในพริบตา จากการทรยศ
ที่แสนโหดร้าย!! เรื่องแอ็คชั่นของฮีโร่สายดาร์กสมัยใหม่ผู้ให้ปีศาจสิงสู่ร่าง ล่าล้างปีศาจ เปิดฉาก!

FIRE PUNCH เล่ม 4 ในเมื่อวางขายเรื่องใหม่ทั้งที ก็วางขายซีรี่ย์สร้างชื่อของผู้แต่งพี่เลื่อยด้วย......."หัวหน้า" ผู้นำกลุ่มที่หนีออกไปจากเบเฮมกอล์ก ต้องรับมือกับเหล่าทหารที่ไล่ตามมาและตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ แต่หญิงสาวผู้ใช้หอกและชายสวมหน้ากากที่ปรากฏตัวขึ้นกะทันหันเข้ามาร่วมต่อสู้ และทำให้สถานการณ์พลิกผันไปทางด้านอัคนีที่ตัดสินใจจะช่วยเหลือผู้คนที่ศรัทธา ในตัวเขาก็จำเป็นต้องทำ "บางสิ่ง" อีกครั้งหนึ่ง!?

Trace สุดยอดแฟ้มลับ ไขคดีของเจ้าหน้าที่นิติเวช เล่ม 1 การ์ตูนสืบสวนขนานแท้จากนักเขียนการ์ตูนสุดหายาก อดีต "ฝ่ายนิติวิทยาศาสตร์" ผู้หันมาจับปากกาเขียนการ์ตูน......มาโนะ เรจิ เจ้าหน้าที่วิจัยฝ่ายนิติวิทยาศาสตร์แม้แต่นิติวิทยาศาสตร์จะเป็นหน่วยงานวิจัยของตำรวจ แต่ก็ไม่ได้มีขึ้นเพื่อองค์กรตำรวจหรือเพื่อเหยื่อผู้เสียหาย ทว่าเป็นองค์กรพิเศษที่ตั้งขึ้นเพื่อไขความจริงให้เป็นที่กระจ่าง มาโนะ ผู้สนแต่วัตถุพยานสำหรับตรวจสอบ โดยไม่สนคำพูดของใครบอกว่า "ผู้ที่จะค้นหาเศษเสี้ยวความจริงเจอ มีแต่เจ้าหน้าที่นิติเวชเท่านั้น"

EXEcutional มหาสงครามออนไลน์ถล่มจักรวาล เล่ม 40 ซีรี่ย์การ์ตูนเกมออนไลน์ที่ดำเนินมาถึง"หลักสี่" นำหน้า ยากที่จะเห็นวี่แววบทสรุป.....ไฟนอลบลาสท์กำลังจะถูกยิงใส่กองดาวสมาพันธ์!! ช่องว่างที่เซนิธทิ้งไว้ก่อนตายเป็นแผลที่ไม่มีวันรักษาของกองดาวสมาพันธ์ และบัดนี้มันได้ขยายตัวจนไม่สามารถซ่อนเร้นจากจักรวาลหลักได้อีกต่อไปและเป็นไปตามคาด มอนสเตอร์ทั้งหลายรวมทั้งนักโทษสวรรค์ได้มองเห็นสิ่งนี้ และกำลังรุมล้อมเพื่อทำลายล้างให้เพลเยอร์หมดสิ้นไป มีทางเดียวเท่านั้นที่จะรักษาชีวิตได้คือการอพยพ


เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ:

เส้นทางชีวิตลิขิตหัวใจ เล่ม 3 ,ตะวันรักที่ปลายฟ้า เล่ม 2 ,GANTZ Oku Hiroya Works เล่ม 11-12 ,คณะประพันธกรจรจัด เล่ม 11,เกาะกระหายเลือด ภาค ฝ่า 48 วันโลกวิกฤต เล่ม 16,ล่าอสุรกาย ฉบับสมบูรณ์ เล่ม 15,โนเกม โนไลฟค่ะ! เล่ม 4, ยูรากิโซ ที่นี่ผีน่ารักนะ เล่ม 9

รูปภาพหน้าปก : amazon.co.jp

 


Comic Market 96 สร้างสถิติยอดผู้ชมงานสูงสุด ของภาคฤดูร้อน

Comic Market (Comiket) 96 งานโดจินชิงานใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อ 9-12 ส.ค. 2019 ที่ผ่านมา ได้มีการรวบรวมสถิติผู้เข้าชมงานในครั้งนี้ออกมาแล้ว ปรากฏว่า Comiket 96 มีผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 730,000 คน ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ของงาน Comiket ภาคฤดูร้อน อีกทั้งยังถือครั้งแรกที่งาน Comiket มียอดผู้เข้าชมมากกว่า 700,000 คน ด้วยกัน โดยเป็นการทำลายสถิติยอดผู้เข้าชมสูงสุดของงานภาคฤดูร้อน ของงาน Comiket 84 ที่เคยทำไว้ที่ 590,000 คน เมื่อปี 2013 อย่างยับเยิน

โดยมูลเหตุที่งาน Comiket ครั้งนี้ มียอดผู้เข้าชมมากกว่า 700,000 คน ก็มาจากการที่ ตัวงานนั้น มีการจัดทั้งหมด 4 วัน จากเดิมที่เคยจัดแค่ 3 วัน ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ Tokyo Big Sight มีการปิดปรับปรุงพื้นที่บางส่วน เพื่อเตรียมใช้เป็นศูนย์ผู้สื่อข่าวและศูนย์กระจายเสียง-ออกอากาศ กีฬาโอลิมปิก 2020 เลยต้องมีการใช้สถานที่จัดงานแบ่งเป็น 2 แทน (ซึ่งทั้งสองที่นั้น ก็ใช้เวลาเดินพอควร แม้ว่าจะอยู่บริเวณใกล้กันก็ตาม)

หากนับสถิติยอดผู้เข้าชมงานในแต่ละวัน ปรากฏว่า วันแรก (9 ส.ค. 2019) มียอดผู้เข้าชม 160,000 คน , วันที่สอง (10 ส.ค. 2019) มียอดผู้เข้าชม 170,000 คน , วันที่สาม (11 ส.ค. 2019) มียอดผู้เข้าชม 200,000 คน และ วันที่สี่ วันสุดท้าย (12 ส.ค. 2019) มียอดผู้เข้าชมราว 200,000 คน (ยอดผู้ชมงาน ไม่ได้นับตามเฉพาะรายคน แต่นับตามจำนวนวันที่เข้างานแทน กล่าวคือ ใครเข้างานทั้ง 4 วัน จะถือเป็น 4 คน)

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ในวันที่ 3 ของงาน พบว่า มีผู้ป่วยลมแดดถึง 11 คน จากการที่กรุงโตเกียวมีสภาพอากาศที่ร้อนเอามากๆ ประกอบกับ มีผู้เข้าชมงานบางส่วนไม่ยอมซื้อสายรัดข้อมือตามที่พวกเขาร้องขอ และปฏิบัติตัวไม่ถูกระเบียบเสียเอง จนทำให้ต้องยืนต่อแถวท่ามกลางอากาศร้อนจัด จึงทำให้ทางผู้จัดงาน ต้องออกโรงแนะนำวิธีป้องกันโรคลมแดดในงานวันรุ่งขึ้น

โดย Comiket 97 งานภาคฤดูหนาว มีกำหนดจัดขึ้นทั้งหมด 4 วัน ในช่วงวันที่ 28-31 ธ.ค. 2019 ขณะที่ Comiket 98 จะย้ายไปจัดในช่วงวันหยุด Golden Week วันที่ 2-5 พ.ค. 2020 แทน

แหล่งข่าว :  Mantan Web , Anime News Network



นักพากย์อาสาสมัครเก็บขยะ เผย Comiket 96 มีความสะอาดเอี่ยมอ่อง เมื่อเทียบกับปี 2013

นอกจาก Comiket 96 จะสร้างสถิติใหม่ในเรื่องของยอดผู้เข้าชมงานแล้ว ก็มีอีกสิ่งหนึ่งที่ถือเป็นเรื่องน่ายินดีด้วยเช่นกัน นั่นคือ เรื่องของความสะอาด ซึ่งพบว่า มีขยะน้อยลงกว่าครั้งก่อนๆหน้า

ข้อมูลดังกล่าว มาจากการเปิดเผยของนักพากย์หนุ่ม Arata Ito ผู้เป็นแฟนอนิเมตัวยง และรับหน้าที่เป็นอาสาสมัครผู้เก็บกวาดขยะให้กับงานนี้ ซึ่งเขาได้โพลต์ลง twitter โดยกล่าวว่า เขาชักไม่แน่ใจว่า ควรจะทำหน้าที่เก็บกวาดขยะรอบๆ Comiket ต่อไปหรือไม่ ในเมื่อผู้เข้าชมงานมีความรับผิดชอบที่ดียิ่งขึ้น โดยเขาได้หยิบยกเอางาน Comiket 85 เมื่อปี 2013 มาเปรียบเทียบกัน โดยกล่าวว่า ในงานครั้งล่าสุดนี้ พฤติกรรมการทิ้งขยะเรี่ยราด ลดลงไปจากเดิม ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีมากๆ

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ถือเป็นข่าวดีสำหรับ Comiket เมื่อเทียบกับงานอื่นๆที่ยังประสบปัญหาในการจัดการและควบคุมขยะ ซึ่งส่วนหนึ่ง เป็นผลมาจากการที่ เจ้าหน้าที่ย่านชิบุยะ กรุงโตเกียว ได้เห็นชอบในการผ่านร่างกฎหมายฉบับล่าสุด เมื่อ 19 มิ.ย. 2019 ที่เป็นการห้ามการดื่มของมึนเมาบนพื้นที่สาธารณะ ในวันฮาโลวีน กับ วันสิ้นปี ซึ่งร่างกฎหมายดังกล่าว เป็นผลมาจากงานฮาโลวีน เมื่อปี 2018 ที่มีผู้คนได้แสดงกิริยาก้าวร้าว ป่าเถื่อน จนสร้างความเสียหายให้แก่ทรัพย์สิน แถมยังทิ้งขยะอย่างเรี่ยราด ซึ่งก็ส่งผลต่อภาพลักษณ์ที่ไม่ดีด้วยเช่นกัน

 

แหล่งข่าว : Arata Ito 's Twitter , Yaraon! , Anime News Network

 


เปลี่ยนตัวคุณ ให้กลายเป็นตัวละครอนิเม ด้วย โปรแกรม DeepAnime

เทคโนโลยีสมัยใหม่ก็มีความก้าวไกล มีความอัจฉริยะ มากยิ่งขึ้น จากการที่มีการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) ให้มีความคิดที่เฉียบคมมากขึ้น นอกจากโปรแกรม DeepFakes ที่สามารถเอาหน้าตัวเองไปแปะบนหน้าคนอื่นได้แล้วนั้น ล่าสุด ก็มีโปรแกรม DeepAnime ที่สามารถสร้างอนิเมชั่นขยับปาก กระพริบตาได้ เพียงแค่มีรูปต้นฉบับ กับ คลิปเสียง เท่านั้น

โปรแกรมดังกล่าว พัฒนาขึ้นโดย AlgoAge สตาร์ทอัพจากโตเกียว ซึ่งเป็นโปรแกรมที่จะหยิบเอาภาพหน้าตัวละครแบบ 2D กับ คลิปเสียงใดๆ มาประกอบเข้าด้วยกัน กลายเป็น ภาพตัวละคร 2D กำลังพูดคุยได้ แถมขยับปากตามเสียงได้ใกล้เคียงกับอนิเมที่เรารับชม ซึ่งขณะนี้ ยังไม่เปิดให้ใช้อย่างเป็นทางการ จากการที่ตอนนี้ใช้ได้เฉพาะแค่ภาพๆเดียว และยังคงมีบั๊กหลงเหลืออยู่

ส่วนจะเป็นอย่างไรนั้น ลองชมคลิปตัวอย่างข้างล่างกันเลย!!!

แหล่งข่าวและคลิป : Otakomu , Crunchyroll

 


ONE PIECE STAMPEDE ยกพลสัปดาห์แรกบนโรง ด้วยอันดับ 1 Box Office ญี่ปุ่น

อันดับหนัง Box Office ญี่ปุ่น ประจำสุดสัปดาห์ วันที่ 10-11 ส.ค. 2019 ที่ผ่านมา ปรากฏว่า ONE PIECE STAMPEDE หนังอนิเมภาคใหม่สุดอลังการ ดาวล้านดวง ฉลอง 20 ปี อนิเม One Piece สามารถเปิดตัวสุดสัปดาห์แรก ด้วยอันดับ 1 Box Office ญี่ปุ่น โดยสามารถทำรายได้ 806 ล้านเยน จากยอดตั๋ว 598,000 ใบ ในช่วง 2 วันดังกล่าว

แม้ว่ารายได้ของ Stampede ในช่วง ส-อา จะน้อยกว่า ONE PIECE FILM GOLD หนัง One Piece ภาคที่แล้ว (2016) อยู่ 30.3% แต่ถึงกระนั้น หากนับรวมรายได้ช่วงฉายบนโรง 4 วันแรก (9-12 ส.ค. 2019) พบว่า Stampede ทำรายได้แซง Gold แล้ว ด้วยรายได้รวม 1,646,321,500 เยน จากจำนวนยอดขายตั๋ว 1,254,372 ใบ ในขณะที่ Gold ทำรายได้ใน 4 วันแรกที่ 1,516,450,600 เยน จากยอดขายตั๋ว 1,088,166 ใบ

จากการที่ Stampede เดบิวด้วยฟอร์มสุดร้อนแรง ก็ทำให้ Tenki no Ko/Weathering With You หนังอนิเมของ ผกก. Makoto Shinkai ก็มีอันต้องร่วงลงไปอยู่ที่ 3 หลังจากรั้งอันดับ 1 บน Box Office ได้เพียง 3 สัปดาห์รวดเท่านั้น (ผิดกับ Your Name หนังเรื่องที่แล้วของ Shinkai สามารถครองอันดับ 1 ได้ซะ 9 สัปดาห์รวด!!) โดยสัปดาห์ล่าสุดของหนังชุดนี้ ทำรายได้เพิ่มอีก 645 ล้านเยน จากยอดตั๋ว 468,000 ใบ (ลดจากสัปดาห์ที่แล้ว 11%) จนถึงขณะนี้ ตัวหนังสามารถทำรายได้รวมทั้งสิ้นถึง 7.88 พันล้านเยน และคาดว่า ตัวหนังจะสามารถทำเงินได้แตะหลัก 10 พันล้านเยน ในช่วงสิ้นเดือน ส.ค. 2019 นี้

อันดับหนัง Box Office ญี่ปุ่น ประจำสุดสัปดาห์ วันที่ 10-11 ส.ค. 2019
(เรียงอันดับจากยอดขายตั๋ว)

1 (new). "ONE PIECE STAMPEDE" - รายได้รวม 1.64 พันล้านเยน

2 (new). "The Lion King" - รายได้รวม 1.44 พันล้านเยน

3 (1). "Weathering With You" - รายได้รวม 7.88 พันล้านเยน

4 (3). "Toy Story 4" - รายได้รวม 7.85 พันล้านเยน

5 (2). "Hobbs & Shaw" - รายได้รวม 1.69 พันล้านเยน

6 (6). "The Secret Life of Pets 2" - รายได้รวม 1.2 พันล้านเยน

7 (4). "Dragon Quest: Your Story" - รายได้รวม 900 ล้านเยน

8 (5). "The Great War of Archimedes" - รายได้รวม 1.26 พันล้านเยน

9 (8). "Mewtwo Strikes Back: Evolution" - รายได้รวม 2.35 พันล้านเยน

10 (7). "Kamen Rider Zi-O the Movie: Over Quartzer" - รายได้รวม 750 ล้านเยน

แหล่งข่าว :  Eiga.com ,Crunchyroll

 


ผู้แต่ง Boruto ออกโรงสนับสนุน เพศทางเลือก LGBTQ ในเรื่องราวที่แต่งขึ้น

กลุ่ม LGBTQ หรือกลุ่มเพศทางเลือก เริ่มได้รับการยอมรับในสังคมมากยิ่งขึ้น นำไปสู่การปรับเปลี่ยนกฎหมายอนุญาตให้คนเพศเดียวกัน สามารถแต่งงานได้ ในบางประเทศ...จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจใดๆ ที่จะมีคนวงการมังงะ อยากจะแบ่งแชร์มุมมองเรื่องราวเกี่ยวกับคนกลุ่มนี้

ล่าสุด อ.Ukyō Kodachi ผู้แต่งมังงะ Boruto ได้ออกมาแชร์เรื่องราว เกี่ยวกับการสนับสนุนของเขา ในการเป็นตัวแทน LGBTQ หรือกลุ่มเพศทางเลือก ในนิยายบน Twitter ส่วนตัว โดยเขาได้ออกมาแย้งว่า ตัวละคร LGBTQ ควรจะมีอยู่ในเรื่องราวที่แต่งขึ้น แม้ว่ามันจะไม่เกี่ยวข้องกับพล็อตเรื่องก็ตาม อีกทั้งเขายังเปิดเผยว่า ปกติเขาเป็นคนตัดสินใจในเรื่องของรสนิยมทางเพศของตัวละคร ซึ่งเป็นอีกหนทางหนึ่งที่ทำให้เรื่องราวนั้น มีชีวิตชีวาขึ้น

อ.Kodachi ได้ออกมาทวีตโต้แย้งว่า เหตุผลที่ LGBT ไม่มีแนวโน้มที่จะปรากฏในอนิเมและภาพยนตร์ เป็นเพราะ "ปืนของ Chekhov" ซึ่งเป็นหลักการที่ระบุว่า ทุกองค์ประกอบเรื่องราวต่างๆ จะต้องมีส่วนร่วมเชื่อมโยงในการบรรยายภาพรวมโดยตรง

"ไม่นะ นั่นไม่ได้อธิบายเอาไว้ หากเป็นจริง พวกตัวละครรักต่างเพศ จะไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะเป็นเพศตรงข้ามเลย หากคุณลองมาดูผลงานของผม มันมีเคสที่ตัวละครนั้นเป็น LGBTQ แม้จะไม่ได้เป็นตัวนำพาเนื้อเรื่อง แต่มันก็เหมือนกับการมีตัวละครสายไม่เบี่ยงเบนนะแหละ แม้ว่าพล็อตจะไม่เจาะลงไปก็ตาม "

เขากล่าวต่อไปว่า "การรักใครสักคนเป็นเรื่องธรรมชาตินะ และคุณไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลที่จะแสดงบางสิ่งที่เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ คุณจะไม่ต้องกังวลเลย ถ้าหากมีใครบางคนบอกว่า อย่าเขียนพวกตัวละครสายไม่เบี่ยงเบนทางเพศ เพราะไม่มีเหตุผลที่จะให้พวกเขาเป็นพวกชายจริงหญิงแท้ ? ซึ่งมันกวนใจผมมาก โดยการวางรสนิยมทางเพศ คุณจะต้องสร้างตัวละครขึ้นมาด้วยรายละเอียดเกี่ยวกับพวกมัน"

อ.Kodachi ยังกล่าวอีกว่า รสนิยมทางเพศของตัวละครของเขา ก็เหมือนกับการทอยลูกเต๋า เขาก็แค่ตัดสินใจเอาเองว่า จะให้ตัวละครนั้นจะเป็นพวกชายจริง หญิงแท้ หรือ เป็นเกย์ แม้ว่ามันจะไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาหลักของเรื่องก็ตาม ซึ่งมันมีส่วนทำให้เรื่องราวมีความเป็นธรรมชาติและมีชีวิตชีวามากขึ้น

อ.Kodachi เป็นที่รู้จักในฐานะผู้แต่งมังงะ Boruto: Naruto Next Generation และเป็นผู้ดูแลเนื้อเรื่องฉบับอนิเมของเรื่องนี้ด้วย อีกทั้งเขายังมีส่วนร่วมในการเขียนบทอนิเมอีกหลายเรื่อง รวมถึง อนิเมซีรี่ย์ Lord El-Melloi II's Case Files: Rail Zeppelin Grace note แล้วก็ Chaos Dragon อีกทั้ง เขายังเป็นผู้เขียนบทและออกแบบเกม tabletop RPG / TRPGs (เกม RPG ที่กำหนดบทบาทตัวละคร ด้วยการพูด) จำนวนหนึ่ง แล้วก็ นิยายจาก วีดีโอเกม ,อนิเม และ TRPGs


แหล่งข่าว : @rei5131 , Anime News Network

 


"เทวทูตแห่งโลกมืด" มียอดตีพิมพ์รวมเล่ม ทะลุ 10 ล้านเล่ม

สนพ. Shueisha ได้แจ้งว่า มังงะ Owari no Seraph/Seraph of the End หรือ เทวทูตแห่งโลกมืด ของ อ.Takaya Kagami (เนื้อเรื่อง), อ.Yamato Yamamoto (ภาพ) และ อ.Daisuke Furuya (storyboards) มียอดตีพิมพ์ทะลุ 10 ล้านเล่มแล้ว

ซีรี่ย์การ์ตูนรวมตี้ไล่ฟัดกับแวมไพร์เรื่องนี้ ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Jump Square ตั้งแต่ฉบับ ต.ค. 2012 เป็นต้นมา และมีกำหนดวางจำหน่ายมังงะฉบับรวมเล่มที่ 19 ในวันที่ 4 ก.ย. 2019

อีกทั้งเรื่องนี้ ยังมีการเขียนบทสปินออฟจำนวนหนึ่ง ประกอบด้วย ไลท์โนเวลชุด Seraph of the End: Guren Ichinose: Catastrophe at Sixteen (7 เล่ม) , มังงะชุด Seraph of the End: Guren Ichinose: Catastrophe at Sixteen (5 เล่ม) , ไลท์โนเวลชุด Seraph of the End: Guren Ichinose: Resurrection at Nineteen (2 เล่ม) , ไลท์โนเวลชุด Seraph of the End: The Story of Vampire Mikaela (2 เล่ม) และ มังงะแก๊กชุด Serapetit! ~Seraph of the End four-frame manga~ (1 เล่ม)

ต่อมา ถูกดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี จำนวน 24 ตอน โดย WIT STUDIO (Attack on Titan) ออกอากาศซีซั่นแรก (12 ตอนแรก) ช่วง เม.ย. - มิ.ย. 2015 และ ซีซั่นที่ 2 (12 ตอนหลัง) ช่วง ต.ค. - ธ.ค. 2015


แหล่งข่าว : Crunchyroll


ทัวร์นาเมนต์ Starwing Paradox ประกาศยกเลิกการแข่งขัน อันเนื่องมาจากข้อความขู่ฆ่าจำนวนมาก

เว็บไซต์หลักของเกมอาร์เคต Starwing Paradox ได้ประกาศยกเลิกการแข่งขันทัวร์นาเม้นต์แล้ว เมื่อ 15 ส.ค. 2019 ที่ผ่านมา จากเดิมที่มีกำหนดจัดขึ้นช่วงปลาย ส.ค. 2019 อันเนื่องมาจากทีมงานได้รับข้อความขู่ฆ่าอาฆาตเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว จนถึง วันที่ 14 ส.ค. 2019 หลังจากแจ้งความกับจนท.ตำรวจ ทางผู้จัดได้ปรึกษาหารือกับตำรวจและทีมงานจากแต่ละสนามแข่งขัน จนได้ข้อสรุปตรงกันว่า ควรจะคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ชมเป็นอันดับแรก จนนำไปสู่การยกเลิกการแข่งขันนี้ในที่สุด

ทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว มีกำหนดจัดขึ้น ณ โตเกียว , โยโกฮาม่า , นาโงย่า และ ฟุกุโอกะ ในวันที่ 17 ส.ค. 2019 จนถึง 24 ส.ค. 2019

เกมดังกล่าวได้ Sunrise เป็นผู้จัดทำอนิเมชั่นในเกม ขณะที่ อ. Yoshiyuki Sadamoto (Evangelion, Nadia - The Secret of Blue Water, Summer Wars) เป็นผู้ออกแบบตัวละคร ซึ่ง อ.Sadamoto เอง ก็เพิ่งเจอกฐินดราม่าชุดใหญ่ จากการที่เขาไปวิจารณ์รูปปั้น Statue of Peace ผลงานศิลปะของ Kim Seo-kyung กับ Kim Eun-sung ที่สื่อถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในเชิงดูถูก โดยเรียกขานรูปปั้นนี้ว่า "นางบำเรอ" "สกปรก" และ "หยาบกระด้าง" ซึ่งทางผู้จัดได้ระบุว่า สาเหตุที่พวกเขายกเลิกการแข่งทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับดราม่าของ อ.Sadamoto แต่อย่างใด

ตัวเกมนั้นได้ลงบนเครื่องเกมอาร์เคต เมื่อ พ.ย. 2018 รวมถึงลงบนสมาร์ทโฟนในระบบ iOS และ Android อีกด้วย


แหล่งข่าว : Hachima Kikō , Anime News Network

 


หนังคนแสดง City Hunter ฉบับเมืองน้ำหอม เตรียมเข้าโรงประเทศแม่ ญี่ปุ่น พ.ย. 2019

หลังจากมา 'Beep' ทั่วโรงหนังที่ฝรั่งเศส กับ บ้านเรา ได้ซักพักใหญ่ ในที่สุด Nicky Larson et le Parfum de Cupidon (Nicky Larson and the Cupid's Purfume) หรือ ซิตี้ ฮันเตอร์ สายลับคาสโนเวอร์ หนังคนแสดงของ City Hunter เวอร์ชั่นฝรั่งเศส กำลังจะได้ฤกษ์เข้าฉายบนโรงที่ญี่ปุ่น ประเทศแม่ของมังงะต้นฉบับของเรื่องนี้แล้ว ในเดือน พ.ย. 2019 นี้ ซึ่งตัวหนังจะใช้ชื่ออย่างเป็นทางการในญี่ปุ่น คือ City Hunter the Movie: Shijō Saikō no Mission (City Hunter the Movie: The Most Aromatic Mission Ever) จัดจำหน่ายในญี่ปุ่นโดย Albatros Film และแน่นอนว่า ชื่อตัวละครในหนัง จะใช้ชื่อตามต้นฉบับของญี่ปุ่นทั้งหมด แทนที่ Nicky Larson ที่เป็นชื่อเรียกของ Ryō Saeba และ การ์ตูน City Hunter ในฉบับฝรั่งเศส

Philippe Lacheau ผกก. , เขียนบท และ แสดงนำ หนังเรื่องนี้ ได้กล่าวว่า เขารู้สึกดีใจที่ อ.Tsukasa Hojo ผู้แต่งมังงะต้นฉบับ ออกมาชมเชยเขา หลังจากยอมรับในตัวบทหนัง ส่วน อ.Hojo กล่าวว่า บทหนัง กับ เนื้อเรื่อง นั้น ยึดตามต้นฉบับมังงะของเขา ซึ่งตัว อ.Hojo เอง ได้ออกมาขอบคุณหนังอนิเม City Hunter: Shinjuku Private Eyes กับ หนังคนแสดงชุดดังกล่าว ที่ได้ออกฉายไป ซึ่งในปี 2019 นี้ กลายเป็นปีของ City Hunter อย่างแท้จริง เขาเสริมว่าหนังของ Lacheau มีความตื่นเต้น เป็นหนังแอ็คชั่น-ตลก ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักของผกก.ผู้นี้

หนังชุดนี้ นอกจากจะนำแสดงโดย Philippe Lacheau ในบทของ Nicky Larson แล้ว ยังได้ Tarek Boudali กับ Élodie Fontan ร่วมแสดง เขียนบทร่วมกันโดย Philippe Lacheau , Pierre Lacheau และ Julien Arruti

ตัวหนังสามารถจำหน่ายตั๋วได้มากกว่า 1 ล้านใบ เพียงแค่ 2 อาทิตย์ ในฝรั่งเศส เมื่อช่วงเดือน ก.พ. 2019 และทำรายได้จากการฉายในฝรั่งเศส 5 วันแรกที่ 3,111,807 ยูโร เปิดตัวที่อันดับ 3 บน Box Office ฝรั่งเศส และสามารถทำรายได้ถึง 8,817,024 ยูโร จากการฉายสัปดาห์ที่ 3 ในแดนน้ำหอม

มังงะ City Hunter ถูกดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี 4 ชุด , หนังอนิเม 3 ชุด , OVA และ อนิเมตอนพิเศษทางทีวี จำนวนหนึ่ง รวมถึง OAD เมื่อปี 2015 อีกทั้ง ยังถูกสร้างเป็นหนังคนแสดงฮ่องกง นำแสดงโดย Jackie Chan หรือ เฉินหลง เมื่อปี 1993 , ละครซีรี่ย์เกาหลี เมื่อปี 2011 (ซึ่งเหมือนเอาแค่ชื่อเรื่องมาใช้เฉยๆ เนื้อเรื่องต่างกันโดยสิ้นเชิง) แล้วก็กำลังจะมีหนังคนแสดงเวอร์ชั่นจีนแผ่นดินใหญ่ ออกมาเร็วๆนี้

nicky larson city hunter

แหล่งข่าว : Comic Natalie , Anime News Network



แท่งไฟพร้อม!!!.....Aikatsu on Parade! อนิเมชุดใหม่ของ Aikatsu เตรียมลงจอ ต.ค. 2019

บรรดาโอตะไอด้อลสายอนิเม เตรียมแท่งไฟคอยเชียร์น้องๆไอด้อลบนจอกันล่วงหน้า เมื่อ Aikatsu อนิเมซีรี่ย์สาวน้อยไอด้อลของ Bandai ได้ออกมาเปิดเผยซีรี่ย์อนิเมชุดใหม่ ซึ่งเป็นชุดที่สี่ของพวกเธอกันแล้ว ผ่านแชนแนล Youtube หลักของเรื่องนี้ (รวมถึงงานอีเว้นต์ BEST FRIENDS! SPECIAL LIVE ~Thanks OK~) กับอนิเมที่มีชื่อว่า Aikatsu on Parade! มีกำหนดฉายทุกวันเสาร์ เวลา 10.30 น. ทางช่อง TV Tokyo และช่องเครือข่าย เริ่มวันที่ 5 ต.ค. 2019 จากเดิมที่เคยฉายทุกวันพฤหัสบดี เวลา 18.25 น.

อนิเมภาคใหม่นี้ จะนำเสนอผ่านตัวละครเอกคนใหม่ ที่มีชื่อว่า Raki Kiseki (พากย์โดย Rin Aira) สาวน้อย ม. 2 ผู้ซึ่งย้ายมายังโรงเรียน Star Harmony Academy (โรงเรียนที่ปรากฏใน Aikatsu Friends!) เพื่อเดินทางความฝันอยากจะเป็นไอด้อล และพอเธอได้ใช้ Aikatsu Pass ที่ประดิษฐ์ขึ้นโดยพี่สาวของเธอ ทำให้เธอสามารถเข้าไปยังโลกของ Aikatsu! ได้ และด้วยกำลังใจกับการสนับสนุนจากบรรดาไอด้อล Aikatsu คนอื่นๆ ทำให้เธอเริ่มต้นทำกิจกรรมไอด้อลต่างๆนานา เพื่อให้ได้สวมชุดอันสุดแสนจะพรีเมี่ยม

Aikatsu ดัดแปลงมาจากเกมการ์ดชื่อเดียวกันของ Bandai โดยออกอากาศบนจอทีวีมาแล้ว 3 ซีซั่น ประกอบด้วย Aikatsu! (ต.ค. 2012 - มี.ค. 2016) , Aikatsu Stars! (เม.ย. 2016 - มี.ค. 2018) และ Aikatsu Friends! ออกอากาศตั้งแต่ เม.ย. 2018 และมีกำหนดจะฉายจบในเดือน ก.ย. 2019 นี้



แหล่งข่าวและรูปภาพ : Crunchyroll


ของฟรีก็เจ๋งพอตัว!!.....Studio Khara หันมาใช้ Blender ทำ 3D แทน

Studio Khara ผู้ผลิตหนังอนิเม Evangelion ฉบับ re-built ได้ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์หลัก เมื่อ 30 ก.ค. 2019 ที่ผ่านมาว่า ทางสตูดิโอ รวมถึง สตูดิโอพันธมิตร อย่าง Studio Q ได้เข้ามาสนับสนุนด้านการเงินให้แก่ Blender ซอฟต์แวร์สร้างภาพ 3D , อนิเมชั่น 3DCG แบบ open-source ผ่านกองทุนพัฒนาโปรแกรมดังกล่าว โดยพวกเขาได้เซ็นสัญญาเป็นสมาชิกของกองทุน เพื่อช่วยโปรโมทให้มีการใช้ Blender กันอย่างแพร่หลายในญี่ปุ่นมากขึ้น

Blender เป็นซอฟต์แวร์ open-source แบบฟรี สามารถดาวน์โหลดเอาไปใช้งานได้อย่างอิสระ ซึ่งซอฟต์แวร์ดังกล่าวได้ถูกนำไปใช้ในการสร้างโปรเจ็คดังระดับโลก อาทิ Captain America: The Winter Soldier, Smash Bros. บนเครื่อง 3DS กับ Wii U, โมเดล 3D ของ NASA, และค่ายเกม Ubisoft ก็หันมาใช้ Blender ในการทำโปรเจ็คอนิเมชั่นของพวกเขา ในปี 2020

Hiroyasu Kobayashi ประธานของ Studio Q และเป็นผู้บริหารฝ่ายดิจิตอลของ Khara กล่าวถึงสาเหตุที่ทาง Khara จะเปลี่ยนจากการใช้ 3ds Max ไปเป็น Blender แทน “ เพราะว่า ขอบเขตของโปรเจ็คมันใหญ่ขึ้น จนโปรแกรม 3ds Max ไม่อาจรองรับได้” ขณะที่ Daisuke Onitsuka ผกก.CGI อธิบายเพิ่มว่า “หากเราเอาแต่ยึดติด 3ds Max มันทำให้เสียค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้นด้วย”

โดย Khara ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ให้ 3ds Max เป็นจำนวนสูงถึง 254,880 เยน และการที่พวกเขามีพนักงานในสตูดิโอราว 20-30 คน ที่ใช้โปรแกรมนี้ จะทำให้ Khara ต้องเสียค่าใช้จ่ายเกือบถึง 6.3 ล้านเยนต่อปี เลยทีเดียว ซึ่งเงินจำนวนนี้ สำหรับบริษัทยักษ์ใหญ่ของฮอลลิวู้ด อาจดูนิดเดียว แต่สำหรับสตูดิโออนิเม ค่าใช้จ่ายจำนวนนี้ จะทำให้มีกำไรขั้นต้นที่น้อยเอามากๆ

ส่วนเหตุผลหลักๆ ที่พวกเขาตัดสินใจเปลี่ยนไปใช้ซอฟต์แวร์เจ้าอื่น เพราะ ตัวอัพเดตเวอร์ชั่น 2.8 ของ Blender มีฟีเจอร์และเครื่องมือใหม่ๆ ที่สามารถรองรับในการทำอนิเมชั่นได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงฟีเจอร์ “Grease Pencil” ที่ให้อนิเมเตอร์วาดภาพ (จัดแต่งเส้น) โดยใช้อุปกรณ์ดิจิตอลในพื้นที่ 3D อีกทั้ง อนิเมเตอร์ สามารถอิมพอร์ตไฟล์จาก Blender ไปใช้กับโปรแกรม After Effects ในการจัดเรียงลำดับแบบดิจิตอล สำหรับการทำอนิเมชั่นได้

ปัจจุบัน 3ds Max กับ Maya คือโปรแกรมมาตรฐานสำหรับการทำ 3DCG ในญี่ปุ่น แต่ Khara ต้องการเปลี่ยนแปลง ทว่า เนื่องด้วยวิธีการผลิตอนิเม ที่พวกเขาจะต้องทำงานร่วมกับบริษัทข้างนอก และ สตูดิโออื่นๆ ในการสร้างสรรค์อนิเม ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะเปลี่ยนโปรแกรมอย่างสิ้นเชิง

Onitsuka ยังได้อธิบายถึงการผลิตหนังอนิเม Evangelion: 3.0+1.0 ที่จะเสร็จสิ้นในเดือน มิ.ย. 2020 ก่อนจะนำไปเข้าฉายบนโรงในเดือนเดียวกัน ฉะนั้น พวกเขาจึงไม่สามารถที่จะเพิ่ม Blender เข้าไปยังขั้นตอนการทำงานได้ แต่ทางสต๊าฟของ Khara กับ Studio Q จะทำการทดสอบโปรแกรมนี้ กับ Evangelion: 3.0+1.0 ด้วย ฉะนั้น พวกเขาจึงสามารถเปลี่ยนไปใช้ Blender ในขั้นตอนการทำงานในอนาคตได้


แหล่งข่าว : Engadget Japan , BlenderCrunchyroll


สาส์นให้กำลังใจถึง Kyoto Animation จาก นิตยสารต้นสังกัด K-On! ฉบับมังงะ

สตูดิโอ Kyoto Animation ที่กำลังขวัญเสีย จากเหตุลอบวางเพลิง สตูดิโอ 1 เมื่อ 18 ก.ค. 2019 ยังคงได้รับกำลังใจอย่างต่อเนื่องจากคนร่วมวงการ แม้เวลาจะล่วงเลยจนครบ 1 เดือนแล้ว ก็ตาม

ล่าสุด นิตยสาร Manga Time Kirara ในเครือ สนพ. Hobunsha ที่เป็นต้นสังกัดของมังงะ K-ON! ก๊วนดนตรีแป๋วแหวว ได้ส่งสาส์นให้กำลังใจสตูดิโอแห่งนี้ ซึ่งเป็นผู้สร้างฉบับอนิเมของเรื่องนี้ จนโด่งดัง เป็นปรากฏการณ์ครั้งหนึ่ง บน twitter หลักของนิตยสาร ความว่า :

"จากเหตุลอบวางเพลิงที่เกิดขึ้น ณ Kyoto Animation เราขอไว้อาลัยแก่ดวงวิญญาณที่จากไป และแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งถึงครอบครัวผู้สูญเสีย อีกทั้ง เราขอให้ผู้บาดเจ็บพื้นฟูสภาพร่างกายโดยเร็ว เราจะยังคงสนับสนุน Kyoto Animation และ ผลงานของพวกเขาอย่างแน่วแน่น ต่อไป"



แหล่งข่าว :   Otakomu , Anime News Network


KyoAni ยกเลิกการประกวด Kyoto Animation Awards ครั้งที่ 11

จากเหตุลอบวางเพลิง สตูดิโอ 1 ของ Kyoto Animation เมื่อ 18 ก.ค. 2019 ได้ส่งผลกระทบในหลายๆด้าน หนึ่งในสิ่งที่ได้รับผลกระทบโดยตรงอย่างปฏิเสธไม่ได้ คงจะหนีไม่พ้นกิจกรรมตามธรรมเนียมของพวกเขา กับ Kyoto Animation Awards ซึ่งเป็นการประกวดผลงานต่างๆ ที่จะแปรเปลี่ยนเป็นผลงานในอนาคตสตูดิโอแห่งนี้

โดยล่าสุด เมื่อ 14 ส.ค. 2019 ที่ผ่านมา ทางสตูดิโอได้ประกาศยกเลิกการประกวด Kyoto Animation Awards ครั้งที่ 11 เป็นการชั่วคราว เป็นที่เรียบร้อย หลังจากทางสต๊าฟได้หารือเกี่ยวสถานการณ์ลอบวางเพลิงที่เกิดขึ้นกับสตูดิโอ เมื่อ 18 ก.ค. 2019 โดยทีมงานจะไม่รับผลงานต่างๆที่ส่งเข้าประกวดในครั้งนี้ ส่วนใครที่ส่งผลงานไปแล้ว อาจต้องรอคอยการตอบกลับจากทีมงานพอสมควร โดยจะมีการอัพเดทข่าวคราวความคืบหน้าต่างๆ ให้ทราบกัน บนเว็บไซต์หลัก ในอนาคต

โดย KyoAni เพิ่งประกาศผลรางวัล Kyoto Animation Awards ครั้งที่ 10 ไปเมื่อ 23 ม.ค. 2019 และเป็นอีกครั้งที่ไม่มีผลงานใดๆสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศได้ มีเพียง นิยายชุด Jikan ของ Hana Kagami สามารถคว้ารางวัลชมเชย ขณะที่ ผลงานชุด Tenyakuryō no Majo ของ Yūma Tachibana กับ Sakura no Furu Machi ของ Haruo Ogawa คว้ารางวัลพิเศษ KA Esuma Bunko Special Award

Kyoto Animation Awards จัดตั้งขึ้นครั้งแรก เมื่อปี 2009 โดยกำหนดรางวัลชนะเลิศ กับ รางวัลชมเชย ที่ 300,000 เยน กับ 100,000 เยน ตามลำดับ และในครั้งแรก แบ่งการแข่งขันออกเป็น 3 ประเภท คือ นิยาย , มังงะ และ บท (ก่อนจะมีการลดประเภทผลงานในครั้งหลังๆ เหลือเพียงเฉพาะนิยายอย่างเดียว) ซึ่งการประกวดในครั้งที่แล้วๆมานั้น มีเพียง นิยาย Violet Evergarden เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น ที่สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศได้ เมื่อปี 2014 และต่อมาได้รับการต่อยอดเป็นอนิเมซีรี่ย์ , OVA และ หนังอนิเมไซด์สตอรี่ ที่จะเข้าฉายบนโรงที่ญี่ปุ่น ตามกำหนดการเดิม คือ วันที่ 6 ก.ย. 2019

อย่างไรก็ตาม ผลงานที่ได้รับรางวัลชมเชยจากการประกวดรายการนี้ ต่างได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเมของสตูดิโอแล้ว ประกอบด้วย Free! (ดัดแปลงจากนิยายชุด High Speed!) , High Speed! -Free! Starting Days-, Chūnibyō demo Koi ga Shitai!, Beyond the Boundary (Kyokai no Kanata) และ Myriad Colors Phantom World อีกทั้ง นิยายชุด Nijūseiki Denki Mokuroku ของ Yūki ก็ได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเมด้วยเช่นกัน

ส่วนข่าวที่เกี่ยวข้อง สต๊าฟงานอีเว้นต์ "KyoAni and DO Fan Days 2019: This Is What We Are Now!! -It's A Festival After 2 Years!-" งานอีเว้นต์ของ Kyoto Animation กับ Animation DO ที่จะจัดขึ้นในช่วงวันที่ 3-4 พ.ย. 2019 กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาในส่วนของกิจกรรมต่างๆภายในงาน ซึ่งขณะนี้ ทางสต๊าฟได้ระงับการจองตั๋วเข้าชมงาน รวมถึงได้ตัดสินใจยกเลิกกิจกรรมต่างๆบนเวที , กิจกรรมพูดคุย , แจกลายเซ็น และ การเสวนาต่างๆ ส่วนรายลัเอียดต่างๆเพิ่มเติม จะมีการแจ้งผ่านเว็บไซต์หลัก

แม้ว่าจะมีแต่ข่าวเศร้าเกิดขึ้น แต่ก็มีข่าวดีบ้าง เมื่อเมืองมัตสึเอะ จ.ชิมาเนะ จะจัดงานนิทรรศการจัดแสดงผลงานต้นฉบับที่รอดพ้นจากเพลิงไหม้ของสตูดิโอ KyoAni จำนวน 70 ชิ้น ณ ร้านหนังสือ Imai Shoten Group Center จนถึง 31 ส.ค. 2019 โดยสามารถเข้าชมฟรี อย่างไรก็ตาม งานนิทรรศการดังกล่าว มีแผนจะจัดขึ้นก่อนที่จะเกิดเหตุลอบวางเพลิง แต่ผลงานต้นฉบับ(ซึ่งถูกเก็บไว้ที่อื่น ที่ไม่ใช่สตูฯ 1) กลับถูกส่ง หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว



แหล่งข่าว : Anime News Network



Shochiku ประกาศฉายหนังของ KyoAni รอบพิเศษ ที่โตเกียว กับ เกียวโต

Shochiku บริษัทผู้จัดจำหน่ายหนังอนิเมญี่ปุ่น ได้จัดกิจกรรมเป็นการปลอบขวัญสตูดิโอ Kyoto Animation ด้วยการฉายหนังอนิเมของ Kyoto Animation รอบพิเศษ ณ โรงหนัง Shinjuku Piccadilly Cinema กรุงโตเกียว กับ โรงหนัง MOVIX Kyoto เมืองเกียวโต ซึ่งจะเริ่มต้น ที่โตเกียว ก่อน ในวันที่ 23 ส.ค. 2019 จนสิ้นสุด ณ เมืองเกียวโต ในวันที่ 20 ธ.ค. 2019

โดยหนังแต่ละเรื่อง จะฉายแค่รอบเดียว วันเดียวเท่านั้น ส่วนเรื่องไหนจะมีรอบฉายเพิ่ม จะมีการแจ้งให้ทราบบนเว็บไซต์หลักของ Shochiku


Shinjuku Piccadilly กรุงโตเกียว

8/23 - K-ON! The Movie
8/24 - Love, Chunibyo & Other Delusions the Movie: Rikka Takanashi Version
8/25 - Tamako Love Story
8/26 - Beyond the Boundary the Movie: I'll Be Here - The Past
8/27 - Beyond the Boundary the Movie: I'll Be Here - The Future
8/28 - High Speed! Free! Starting Days
8/29 - Sound! Euphonium the Movie: Welcome to the Kitauji High School Concert Band
8/30 - A Silent Voice
8/31 - Free! Timeless Medley - the Bond
9/1 - Free! Timeless Medley - the Promise
9/2 - Sound! Euphonium The Movie: May the Melody Reach You!
9/3 - Free! Take Your Marks
9/4 - Love, Chunibyo & Other Delusions the Movie: Take on Me
9/5 - Liz and the Blue Bird

MOVIX Kyoto -เมืองเกียวโต

8/23 - K-ON! The Movie
8/30 - Love, Chunibyo & Other Delusions the Movie: Rikka Takanashi Version
9/6 - Tamako Love Story
9/13 - Beyond the Boundary the Movie: I'll Be Here - The Past
9/20 - Beyond the Boundary the Movie: I'll Be Here - The Future
9/27 - High Speed! Free! Starting Days
10/4 - Sound! Euphonium the Movie: Welcome to the Kitauji High School Concert Band
10/11 - A Silent Voice
10/18 - Free! Timeless Medley - the Bond
10/25 - Free! Timeless Medley - the Promise
11/1 - Sound! Euphonium The Movie: May the Melody Reach You!
11/8 - Free! Take Your Marks
11/15 - Love, Chunibyo & Other Delusions the Movie: Take on Me
11/22 - Liz and the Blue Bird
11/29 - Sound! Euphonium The Movie - Our Promise: A Brand New Day
12/6 - Free! Road to the World - the Dream
12/13 - The Disappearance of Haruhi Suzumiya
12/20 - Tenjoubito to Akutobito Saigo no Tatakai (Munto original film)

แหล่งข่าว : SMT Theater Website , Crunchyroll

 

 


กฐินลง Yoshiyuki Sadamoto .... จากกรณีโพสต์ดูหมิ่นรูปปั้น"นางบำเรอ"เจ้าปัญหา

เกาหลี-ญี่ปุ่น ยังคงมีเรื่องเกาหลาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแค่เรื่องพิพาททางการค้าระหว่าง 2 ประเทศ ที่กำลังครุกรุ่นแล้ว ก็ดันมีประเด็นความไม่พอใจที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับผลงานศิลปะที่สร้างความขุ่นเคืองเกลียดชังระหว่าง 2 ชาติ

ล่าสุด Yoshiyuki Sadamoto ผู้ออกแบบตัวละครให้กับอนิเม Neon Genesis Evangelion และ Summer Wars กำลังเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากแฟนๆ อนิเมทั่วโลก จากการที่เขาได้ออกมาวิจารณ์เกี่ยวกับ ผลงานรูปปั้นนางบำเรอ (หรือที่เรียกอย่างเป็นทางการ คือ รูปปั้นแห่งสันติภาพ ) ของ 2 ศิลปินชาวเกาหลี Kim Seo-kyung กับ Kim Eun-sung ในเชิงดูถูกดูหมิ่น บน twitter ส่วนตัว โดยเขาแสดงความเห็นว่า ผลงานศิลปะดังกล่าว มันช่างสกปรกโสโครก และ หยาบกระด้าง เป็นไหนๆ พร้อมกับกล่าวอ้างว่า ผลงานศิลปะชิ้นนี้เป็นเพียงโฆษณาชวนเชื่อที่ไม่มีคุณค่าด้านสุนทรียภาพใดๆ

ผลงานศิลปะดังกล่าว ได้มีการจัดแสดง ณ งานนิทรรศการศิลปะเชิงประวัติศาสตร์ ชุด "หลัง ‘เสรีภาพในการแสดงออก" ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะจ.ไอจิ ซึ่งนิทรรศการดังกล่าว ได้ถูกยกเลิกไปหลังเปิดตัวได้เพียง 3 วัน เนื่องจากมีการร้องเรียนเกี่ยวกับรูปปั้นสันติภาพ ที่ถูกทำออกมาเป็น "นางบำเรอ" ชาวเกาหลี ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ( นางบำเรอที่ว่านี้ ก็คือ ผู้หญิงหรือเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะจากชาติที่ตกเป็นเมืองขึ้นของญี่ปุ่น ถูกบีบบังคับให้ทำงานในซ่องทหารที่รับใช้กองทัพญี่ปุ่น)

จากคอมเม้นต์ข้างต้นของ Sadamoto ก็ได้สร้างความไม่พอใจให้ใครหลายคน (ส่วนหนึ่งมาจากประเด็นการยกเลิกงานนิทรรศการปัญหาข้างต้นด้วย) เริ่มจากแฟนอนิเมชาวเกาหลี “ ในฐานะที่เป็นแฟน Eva มายาวนาน ผมรู้สึกผิดหวังเอามากๆ” ขณะที่แฟนๆ ชาวญี่ปุ่นก็ร่วมวงอัด Sadamoto ยับ เช่นกัน อย่างเช่น "รูปปั้นของหญิงสาวคนนั้น ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นคำอธิษฐานสำหรับเด็กผู้หญิงที่ถูกบีบบังคับและต้องเผชิญกับความรุนแรงทางเพศในช่วงสงคราม มันสะท้อนให้เห็นถึงหัวใจที่มีความปรารถนาอย่างเพียงพอ ขนาดฟิลิปปินส์ยังมีรูปปั้นทำนองนี้อีกด้วย รูปปั้นดังกล่าวยังเปิดโอกาสให้หญิงสาวชาวญี่ปุ่นคิดในเรื่องของสิทธิสตรี แล้วคุณยังจะเรียกสิ่งนั้นว่าสกปรกอีกหรือ? "

นิทรรศการดังกล่าว จะเน้นจัดแสดงผลงานที่ถูกสั่งห้าม ซึ่งประกอบด้วยผลงานที่ไม่ผ่านการเซ็นเซอร์ รวมถึง ผลงานที่ก่อให้เกิดประเด็นดราม่าโต้แย้งต่างๆ พร้อมอธิบายเหตุผลที่ผลงานนั้นถูกแบน (ตามคำอธิบายของงานเมื่อปี 2015 ) ซึ่งนสพ. Mainichi Shimbun ได้ระบุว่า มีคนร้องเรียนเกี่ยวกับนิทรรศการดังกล่าว มากถึง 700 คน โดย Hideaki Omura ผู้ว่าจ.ไอจิ และเป็นหัวหน้าคณะกรรมการจัดงานนิทรรศการ ได้กล่าวกับ Japan Times ว่า คณะกรรมการได้รับข้อความข่มขู่มากมาย ถึงขั้นมีคนขู่จะเอาน้ำมันมาที่พิพิธภัณฑ์ เลียนแบบเหตุการณ์ลอบวางเพลิงสตูดิโอ 1 ของ Kyoto Animation เมื่อ ก.ค. 2019 ที่ผ่านมา

รูปปั้นแห่งสันติภาพของ Kim Seo-kyung กับ Kim Eun-sung ถูกตั้งไว้ครั้งแรก บริเวณหน้าสถานทูตญี่ปุ่นประจำกรุงโซล เกาหลีใต้ เมื่อ 14 ธ.ค. 2011 ซึ่งสามีภรรยาคู่นี้ได้ออกแบบรูปปั้นนี้ไว้มากกว่า 20 แบบด้วยกัน ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้แก่ญี่ปุ่น โดยอ้างว่า รูปปั้นนี้จะทำลายความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งภายหลัง นสพ.The Korean Herald ได้รายงานเมื่อปี 2017 ว่า อนุสรณ์สถาน Ravensbruck Memorial ในเยอรมนี ได้ถอดถอนรูปปั้นชิ้นนี้ออกไป โดยอ้างว่า มาจากแรงกดดันจากรัฐบาลญี่ปุ่น

ประเด็น นางบำเรอ ยังคงกลายเป็นที่ถกเถียงกันในญี่ปุ่น แม้ว่า นายก Shinzo Abe แห่งญี่ปุ่น กับ ปธน. Park Geun-hye แห่งเกาหลีใต้ จะบรรลุข้อตกลงอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2015 เพื่อยุติข้อพิพาทและจ่ายเงินหนึ่งพันล้านเยนเพื่อเป็นการขอโทษ แต่บรรดานักการเมืองและนักประวัติศาสตร์ชาวญี่ปุ่นกลับไม่แยแสถึงความผิดของรัฐบาลญี่ปุ่น หรือไม่ก็ อ้างว่า หญิงสาวไม่ได้ถูก"บังคับ"ให้เป็นทาสทางเพศ โดยเมื่อต้นเดือน ส.ค. 2019 ญี่ปุ่นได้ปลดเกาหลีใต้ออกจาก "บัญชีขาว" ของคู่ค้าส่งออกที่น่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นการตีความว่า เป็นการตอบโต้การตัดสินของศาลสูงเกาหลีใต้ เพื่ออนุญาตให้บุคคลที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายยุคอาณานิคมของญี่ปุ่น สามารถฟ้องร้องค่าเสียหายจากบริษัทต่างๆของญี่ปุ่นได้

แหล่งข่าว : Anime News Network

 


10 อันดับมังงะขายดีที่ญี่ปุ่น โดย Oricon : 5-11 ส.ค. 2019

(อันดับ / เรื่อง-เล่ม / ยอดขายประจำสัปดาห์)

01. Shingeki no Kyojin ผ่าพิภพไททัน #29 (369,481 เล่ม)

02. Yakusoku no Neverland พันธสัญญาเนเวอร์แลนด์ #15 (208,596 เล่ม)

03. Boku no Hero Academia / My Hero Academia #24 (204,811 เล่ม)

04. Mix #15 (122,351เล่ม)

05. Rurouni Kenshin -Meiji Kenkaku Roman-tan Hokkaido-hen- ซามูไรพเนจร ภาคฮอกไกโด #3 (102,051 เล่ม)

06. Dragon Ball Super #10 (71,749 เล่ม)

07. Gintama #77 (68,832 เล่ม)

08. Shingeki no Kyojin ผ่าพิภพไททัน #29 แบบ Special Edition (54,983 เล่ม)

09. Shuumatsu no Harem #9 (43,519 เล่ม)

10. One Piece #93 (33,963 เล่ม)



แหล่งข่าว : Oricon


 
free hit counter javascript