บอกเล่าข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 10-16 สิงหาคม 2563

บอกเล่าสรุปข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ กลับมาอีกครั้ง ......ในช่วงที่สถานการณ์โรคระบาดในบ้านเรา ดูจะเบาบางลง ซะจนไม่ได้กลายเป็นสิ่งที่ผู้คนให้ความสนใจมากนัก เมื่อเทียบกับ ข่าวคดีทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อน มีอะไรแปลกๆ ผุดออกมาเยอะ จนถึง เรื่องของการชุมนุมทางการเมือง ที่ขอพูดสั้นๆล่ะกัน ไม่ว่าคุณจะยืนอยู่ฝั่งเดียวกัน หรือ ฝั่งตรงข้ามกัน ก็ขอให้ใช้สติกันเยอะๆ และพูดจากันอย่างมีเหตุมีผล ไม่ควรจะแสดงอาการก้าวร้าวใส่กัน และผลักใสคนที่คิดต่างจากตัวเองให้เป็นกลุ่มนั้นๆ .....แล้วแบบนี้ เมื่อไหร่ความขัดแย้งนี้มันจะจบสิ้นกันเล่า?

 

สำนักข่าว K-D News (kartoon-discovery.com)
สามารถอัพเดทข่าวสารเว็บเราได้ผ่าน Twitter และ Facebook


หากนำข่าวจากเราไปเผยแพร่ที่อื่น รบกวนใส่เครดิตให้กับทางเราด้วยครับ ขอบคุณครับ

New Release Comics of the Week : รวมตี้รุมตื้บ ข้างขึ้น 1 กับ ดาบพิฆาตอสูร 20

การ์ตูนออกใหม่ ท่ามกลางวิกฤติ COVID-19 ที่กำลังผ่อนคลายลง เริ่มจาก

ดาบพิฆาตอสูร เล่ม 20 ฮิเมจิมะ เสาหลักหินผาและ ชินาซึงาวะ เสาหลักวายุประจันหน้ากับอสูรข้างขึ้นที่ 1 ในระหว่างการต่อสู้ที่ดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ เสาหลักทั้ง 2 ทำให้ปานปรากฏขึ้นได้ และโจมตีอย่างไม่ท้อถอย แต่ทว่าก็ยังถูกความแข็งแกร่งที่น่าทึ่งกลบข่มอย่างต่อเนื่อง อีกด้านหนึ่ง เกนยะได้รับส่วนหนึ่งของอสูรข้างขึ้นที่ 1 มาฟื้นฟูร่างกาย...ปลายทางของการต่อสู้ที่แสนยากลำบากจะเป็นเช่นไร!?
..... โดยฉบับรวมเล่มนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่มีการจัดทำในรูปแบบ limited edition แยกไปต่างหาก ซึ่งมีของแถมคือ โปสการ์ด 16 ชิ้น (เข้าใจว่า เล่ม le ต้องสั่งซื้อล่วงหน้ากับ สนพ. , ร้านหนังสือ ถึงจะได้มา)

Executional มหาสงครามออนไลน์ถล่มจักรวาล เล่ม 45 ซีรี่ย์เด็กหนุ่มหน้าลุงอัดแน่นมัดกล้ามสุดเร่าร้อนในตำนาน ที่ไม่น่าเชื่อว่า ยังจะตะบี้ตะบันเขียนภาคใหม่ต่ออีก!!!! (กะหากินอยู่เรื่องเดียวจริงๆ อ.มิยาชิตะ) .....ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันรวมตัวครั้งยิ่งใหญ่!! โมโมะ มิชิมารุ มาสะ ร่วมกันยืนหยัดเพื่อปกป้องญี่ปุ่น เวทีการต่อสู้ก้าวข้ามโลกไปยังห้วงอวกาศอันยิ่งใหญ่ สุดยอด การรวมตัวของมิยาชิตะเวิร์ล!

การ์ตูน-นิยาย น่าสนใจเรื่องอื่นๆ : Ace of Diamond act II เล่ม 6,เสียงรำพึงจากหมอยา ~บันทึกไขปริศนาแห่งวังหลังของเหมาเหมา~ เล่ม 5 K2 เล่ม 33 ,เกาะกระหายเลือด 48 วัน โลกวิกฤต เล่ม 20 ,Gantz เล่ม 24 (Co-Novel),Rookies มือใหม่ไฟแรง เล่ม 8 (Co-Novel),ฤทธิ์ดาบไร้ปราณี (New Edition) เล่ม 1, ซามูไรพเนจร (ULTIMATE EDITION) เล่ม 1 , นิยาย Log Horizon เล่ม 9

รูปภาพหน้าปก : amazon.co.jp


Shonen Jump ประกาศยุติตีพิมพ์มังงะ Act-Age ดารายอดอัจฉริยะ หลังจากผู้แต่งเรื่อง ถูกตร.จับกุมตัว

จัดเป็นข่าวใหญ่สุดช็อคที่บรรดานักอ่านมังงะหลายต่อหลายคนกำลังติดตาม จากการที่ อ.Tatsuya Matsuki ผู้แต่งเนื้อเรื่องให้กับมังงะ Act-Age ดารายอดอัจฉริยะ ถูกจนท.ตำรวจจับกุมในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเด็กสาวม.ต้น 2 ราย เมื่อ 8 ส.ค. 2020 ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องดังกล่าว ก็ทำให้ ฉบับมังงะรวมเล่มที่ 13 ของเรื่องนี้ ที่เดิมทีจะวางขายในวันที่ 2 ต.ค. 2020 ถูกถอดออกจากตารางหนังสือการ์ตูนออกใหม่ เช่นกัน จนทำให้หลายฝ่ายต่างฟันธงถึงชะตากรรมของมังงะเรื่องนี้ ว่า ไม่รอดพ้นจากการถูก Shueisha สนพ.ต้นสังกัดของมังงะเรื่องนี้ สั่งตัดจบอย่างแน่นอน จากการที่ผู้แต่งไปก่อคดีร้ายแรงเยี่ยงนี้ ไม่เพียงเท่านั้น อาจส่งผลกระทบต่อเนื่องกับโปรเจ็คอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับมังงะเรื่องนี้ อย่างเช่น ละครเวทีฟอร์มยักษ์ ที่มีการประกาศมาก่อนหน้านี้

ล่าสุด เมื่อช่วงเย็น วันที่ 10 ส.ค. 2020 กองบก.นิตยสาร Shonen Jump ในเครือ สนพ. Shueisha ได้ออกแถลงการณ์ ประกาศยุติการตีพิมพ์มังงะ Act-Age อย่างเป็นทางการ โดยมังงะตอนที่ 123 ของเรื่องนี้ ที่ได้ตีพิมพ์ลงใน Shonen Jump ฉบับที่ 36-37/2020 จะเป็นตอนสุดท้ายของเรื่องนี้ (ซึ่งตอนดังกล่าว ไม่ได้ลงเผยแพร่ออนไลน์ บนเว็บไซต์ Mangaplus)

แถลงการณ์ของกองบก.Jump ได้ระบุไว้คร่าวๆ ว่า หลังจากพวกเขาทราบข่าว อ.Matsuki ถูกจับกุมตัว พวกเขาก็ไม่นิ่งนอนใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น โดยได้เข้าไปพูดคุยกับ อ. Shiro Usazaki ผู้วาดภาพให้กับ Act-Age เพื่อหาทางออกร่วมกัน จนนำไปสู่บทสรุป ด้วยการยุติการตีพิมพ์มังงะเรื่องนี้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่โชคร้ายอย่างยิ่ง ที่พวกเขามีความจำเป็นต้องสั่งตัดจบมังงะซีรี่ย์ที่มีผู้อ่านคอยสนับสนุนเป็นจำนวนมาก อย่างเรื่องนี้ อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมไปถึง ทาง Jump เอง ก็ได้ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ด้วยเช่นกัน

สุดท้ายนี้ ทางบก.Jump ได้แสดงความเสียใจ และ กล่าวขออภัยผู้อ่านถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับยืนยันว่า พวกเขาจะให้การสนับสนุน อ.Usazaki ในผลงานเรื่องต่อๆไป ส่วนข้อมูลรายละเอียด เกี่ยวกับ ฉบับมังงะรวมเล่ม รวมถึง โปรเจ็ค-อีเว้นต์อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ จะมีการแจ้งให้ทราบในลำดับต่อไป

 

ซึ่งไม่เพียงแค่ มังงะของเรื่องนี้ จะไม่ได้รับการพิมพ์ต่อแล้วนั้น โปรเจ็คละครเวที ปี 2022 ที่จะดัดแปลงเนื้อหาจากมังงะช่วงการแสดงละครเวที Night on the Galactic Railroad ก็ได้ล้มพับโปรเจ็คนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เช่นกัน (แน่นอนว่า การออดิชั่นบท Kei Yonagi ของละครเวทีดังกล่าว ก็ยกเลิกด้วยเช่นกัน) เรียกได้ว่า คดีที่เกิดขึ้นนี้ ได้ส่งผลกระทบกันไปทั่ว ราวกับโดมิโน่ล้มระเนระนาด กันเลยทีเดียว

Act-Age ตีพิมพ์ลงใน Shonen Jump ตั้งแต่ ม.ค. 2018 เป็นมังงะที่มีเนื้อหาการนำเสนอเรื่องราวการฟาดฟัน ประชันกัน ในวงการนักแสดง นำเสนอผ่านตัวละคร Kei Yonagi นักเรียนสาวผู้มีทักษะการแสดงแบบครูพักลักจำ (แต่ก็ถลำลึกไปกับบทบาทที่เธอได้รับมากเกินไป) ซึ่งเธอผู้นี้ ก็ถูกหมายตาโดย ผกก. Sumiji Kuroyama และเขาก็จะช่วยปลุกปั้นเธอให้กลายเป็นนักแสดงระดับชั้นนำของวงการให้ได้

NHK ได้รายงานข่าวการจับกุมตัว อ.Matsuki เมื่อ 8 ส.ค. 2020 จากการสอบสวนของจนท. ระบุว่า คดีดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 20.00 น. ของวันที่ 18 มิ.ย. 2020 โดยผู้ต้องหาได้เข้าไปสัมผัสและประทุษร้ายต่อผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเด็กสาวม.ต้น อายุราว 12-15 ปี และหลังจากนั้นราว 1 ชั่วโมง ผู้ต้องหาก็ได้กระทำแบบเดียวกันกับสาวม.ต้นผู้เสียหายอีกคน ซึ่งผู้เสียหายได้เข้าไปแจ้งความต่อจนท.ตำรวจในวันดังกล่าว ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุ ก็สามารถยืนยันตัวตนของผู้ต้องหานั้น คือ อ.Matsuki ซึ่ง อ.Matsuki ได้ยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา

อีกด้านหนึ่ง บนโลกออนไลน์ ได้มีนักเขียนมังงะเพื่อนร่วมอาชีพ ต่างพากันโพสต์ข้อความ-ภาพวาด ให้กำลังใจ อ.Usazaki บน twitter เป็นจำนวนมาก หลังจากทราบข่าวการถูกตัดจบของ Act-Age ซึ่งขณะนี้ twitter ส่วนตัวของ อ.Usazaki ได้ลบข้อมูล Act-Age ออกจากประวัติส่วนตัวของเธอแล้ว



แหล่งข่าว :  Shonen Jump Editorial Department 's twitter , WSJ Manga


Burn the Witch มังงะมินิซีรี่ย์ 4 ตอนจบ ของ ผู้แต่ง Bleach เทพมรณะ พร้อมตีพิมพ์ตอนแรก 24 ส.ค. 2020

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงต้นปี 2020 นิตยสาร Shonen Jump ได้ประกาศว่า จะลงตีพิมพ์มังงะ Burn the Witch มังงะซีรี่ย์เรื่องใหม่ของ อ.Tite Kubo ผู้แต่ง Bleach เทพมรณะ ในช่วงซัมเมอร์ 2020 นี้ ซึ่งมังงะดังกล่าว ก็เป็นการต่อยอดมาจากมังงะเรื่องสั้นชื่อเดียวกัน ที่เคยตีพิมพ์ลงใน Shonen Jump เมื่อปี 2018 ซึ่งได้นำเสนอเรื่องราวของ Noel กับ Nini คู่หูแม่มดสาวจากลอนดอนฝั่งคู่ขนาน และที่สำคัญ มังงะเรื่องนี้ได้มีพล็อตที่เชื่อมโยงกับจักรวาลเรื่อง Bleach จากการที่ เธอทั้งคู่ต่างสังกัดอยู่ใน Soul Society สาขาตะวันตก นั่นเอง

ล่าสุด Shonen Jump ฉบับที่ 36-37/2020 ที่เพิ่งวางขายไปเมื่อ 11 ส.ค. 2020 ได้มีการอัพเดตรายละเอียดเพิ่มเติมของ Burn the Witch โดยระบุว่า มังงะเรื่องนี้ มีกำหนดตีพิมพ์ตอนแรก ใน Shonen Jump ฉบับที่ 38/2020 ที่จะวางขายในวันที่ 24 ส.ค. 2020 อีกทั้งเรื่องนี้ จัดเป็น 1 ใน 4 มังงะซีรี่ย์เรื่องใหม่ รอบล่าสุด ที่จะทยอยตีพิมพ์ ลงในนิตยสารดังกล่าว ...... อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะเป็นเพียงแค่มังงะมินิซีรี่ย์ จากการที่มีความยาวเพียง 4 ตอน เท่านั้น!!!!!

Burn the Witch ไม่เพียงจะมาในรูปแบบมังงะมินิซีรี่ย์แล้ว ก็ยังได้รับการจัดทำเป็นหนังอนิเม โดยสตูดิโอ Colorido มีกำหนดฉายบนโรงที่ญี่ปุ่น ในปี 2020 เช่นกัน


แหล่งข่าว : WSJ Manga


Tomodachi Game & GIGANT ดำเนินเรื่องราวสู่บทสุดท้าย

Tomodachi Game เกมมิตรภาพ ผลงานมังงะของ อ.Yuki Sato กับ GIGANT ผลงานมังงะของ อ.Hiroya Oku กลายเป็นผลงานมังงะ 2 เรื่องที่ได้รับการยืนยันว่า กำลังดำเนินเรื่องราวเข้าสู่บทสุดท้ายแล้ว

โดย Tomodachi Game ผลงานมังงะแนวเซอร์ไววัล ผสมผสานเรื่องราวมิตรภาพที่ต้องเลือก ระหว่าง ผองเพื่อง หรือ เงินตรา... มีการยืนยันจากนิตยสาร Bessatsu Shōnen Magazine ฉบับ ก.ย. 2020 ว่า ได้เข้าสู่เนื้อหาบทสุดท้าย หลังจากตีพิมพ์มาตั้งแต่ ธ.ค. 2013 ซึ่งเรื่องนี้ได้รับการดัดแปลงในรูปแบบละครซีรี่ย์คนแสดง และ หนังคนแสดง 2 ชุด

ขณะเดียวกัน GIGANT ผลงานมังงะแนวเรตเรื่องล่าสุดของ อ.Oku ผู้แต่ง Gantz ที่ว่าด้วยเรื่องราวของสาวนักแสดงหนังโป๊ ผู้สามารถขยายร่างกลายเป็นยักษ์ได้ เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เข้าสู่เรื่องราวบทสุดท้าย จากการยืนยันมาจาก twitter ส่วนตัวของ อ.Oku เอง โดยเรื่องนี้ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Big Comic Superior ตั้งแต่ ธ.ค. 2017 เป็นต้นมา


แหล่งข่าว : Anime News Network#1 , Anime News Network#2



Kobayashi-san Chi no Maid Dragon ซีซั่น 2 พร้อมออกจอทีวี ปี 2021

ถือเป็นข่าวดี สำหรับคนที่กำลังรอคอยอนิเมซีซั่น 2 ของน้องเมดมังกร Kobayashi-san Chi no Maid Dragon หลังจากข่าวคราวเงียบหายไปนาน นับตั้งแต่เกิดโศกนาฏกรรมลอบวางเพลิง Kyoto Animation สตูดิโอผู้สร้างอนิเมชุดนี้ เมื่อปี 2019 และจากเหตุการณ์ดังกล่าว ก็ได้คร่าชีวิต Yasuhiro Takemoto ผกก.ของอนิเมชุดนี้ ซะจนทำเอาโปรเจ็คอนิเมซีซั่น 2 ของเรื่องนี้ อยู่ในสถานะไม่แน่นอน

ล่าสุด เว็บไซต์หลักของอนิเม Kobayashi-san Chi no Maid Dragon ได้อัพภาพวิชวลล่าสุดของอนิเมซีซั่น 2 ของเรื่องนี้แล้ว ซึ่งก็เป็นการยืนยันกลายๆว่า เราจะได้รับชมอนิเมเรื่องนี้ต่อไปอย่างแน่นอน อีกทั้ง ยังคงได้สตูดิโอ Kyoto Animation มารับหน้าที่ผลิตให้เช่นเคย โดย Kobayashi-san Chi no Maid Dragon S อนิเมซีซั่น 2 ของเรื่องนี้ มีกำหนดออกอากาศ ในปี 2021 นี้

Kobayashi-san Chi no Maid Dragon ดัดแปลงมาจากมังงะแนวตลกชื่อเดียวกันของ Cool-kyou Shinja ที่ตีพิมพ์ประจำในนิตยสาร Monthly Action ตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา

ซึ่งไม่เพียงแค่ น้องเมดมังกร ซีซั่น 2 จะได้รับไฟเขียวให้ทำต่อแล้ว Cool-kyou Shinja ก็ยังมีผลงานมังงะอีก 1 เรื่อง อย่าง Heion Sedai no Idaten-tachi (Idaten Deities in the Peaceful Generation) ที่ได้รับการประกาศจัดทำในรูปแบบอนิเมทีวี เช่นกัน ซึ่งผลงานดังกล่าว เป็นมังงะที่ดัดแปลงมาจากมังงะบนเว็บต้นฉบับชื่อเดียวกัน ของ Amahara โดยนำเสนอเรื่องราวของเทพหนุ่มปากเสีย ที่มารับรู้เรื่องราวของเหล่ามารที่ถูกผนึกโดยเหล่าเทพจากรุ่นสู่รุ่น


แหล่งข่าวและรูปภาพ :  Oricon , MAL


Free! พร้อมลงสระต่อ กับ หนังอนิเมชุดใหม่ ปี 2021

เป็นสัญญาณที่ดีอย่างต่อเนื่องของสตูดิโอ Kyoto Animation นอกจากทางสตูดิโอจะเดินหน้าสร้างอนิเมซีซั่น 2 ของ Kobayashi-san Chi no Maid Dragon แล้วนั้น ล่าสุดดูเหมือนว่าทาง KyoAni พร้อมที่จะมูฟออนกับซีรี่ย์อนิเมหนุ่มเจ้าสระ Free! ต่อไป จากการที่ twitter หลักของอนิเมชุดนี้ ได้อัพเทรลเลอร์ใหม่ล่าสุดของ Free! ซึ่งมีข้อความระบุว่า พบกับหนังชุดใหม่ของ Free! ในปี 2021 นี้

โปรเจ็คหนังอนิเมของ Free! ดังกล่าว เดิมทีมีกำหนดจะฉาย เพื่อเป็นการต้อนรับมหกรรมกีฬาโอลิมปิกโตเกียว 2020 แต่จากการที่ โอลิมปิก 2020 ได้เลื่อนจัดการแข่งขันไปเป็นช่วง ก.ค. 2021 อันเนื่องมาจากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ก็คาดว่า หนังใหม่ของ Free! ก็คงจะฉายช่วงใกล้กีฬาโอลิมปิก โตเกียว ตามแผนการเดิม

แหล่งข่าวและทวีต : Free! 's twitter


KyoAni ยืนยัน งดจัดการประกวด Kyoto Animation Awards ต่อไป

แม้ว่า สตูดิโอ Kyoto Animation จะอยู่ในช่วงที่สามารถมูฟออนโปรเจ็คอนิเมของพวกเขาต่อได้ ทั้ง อนิเมทีวีซีซั่น 2 ของ Kobayashi-san Chi no Maid Dragon แล้วก็ หนังอนิเมชุดใหม่ของ Free! ในปี 2021 แต่โดยรวมนั้น สตูดิโอดังกล่าว ก็ยังคงอยู่ในช่วงฟื้นฟู หลังจากเหตุลอบวางเพลิง เมื่อ 18 ก.ค. 2019 ซึ่งทำให้พวกเขายังคงไม่มีความพร้อมหลายอย่าง รวมไปถึง การจัดการประกวด Kyoto Animation Awards ซึ่งเป็นการประกวดผลงานนิยาย เรื่องสั้น สร้างสรรค์จากศิลปินสมัครเล่น - อาชีพ ที่พวกเขาได้จัดมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา ก่อนจะมีการระงับการประกวด KAA ครั้งที่ 11 ไปเมื่อ พ.ย. 2019 หลังผ่านจากเหตุลอบวางเพลิงสตูดิโอ 4 เดือน

ล่าสุด เว็บไซต์หลักของ KyoAni ได้อัพเดตสถานะล่าสุดของ การประกวด Kyoto Animation Awards ว่า ทางสตูดิโอยังคงระงับการจัดอีเว้นต์ดังกล่าวต่อไป ซึ่งได้มีการระบุบนเว็บไซต์ของสตูดิโอว่า ทาง KyoAni กำลังพิจารณาที่จะจัดการประกวด KAA ในปี 2020 นี้ แต่หลังจากได้พิจารณารอบด้านแล้ว พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะยังไม่มีการจัดการประกวดดังกล่าว พร้อมกันนี้ พวกเขายังได้ขอความร่วมมือ ไม่ให้ส่งผลงานต้นฉบับ หรือ ไอเดียเสนอแนะต่างๆ มาถึงสตูดิโอโดยเด็ดขาด ในช่วงเวลานี้

แหล่งข่าว : Kyoto Animation 's Website , Crunchyroll


 

MAPPA เปิดตัว อนิเมยิมนาสติก Taiso Samurai พร้อมฉาย ต.ค. 2020

หลังจากมีการเปิดเผยเป็นนัยๆว่า Kensho Ono นักพากย์หนุ่ม ผู้เพิ่งสละโสดไปหมาดๆ กำลังจะมีผลงานการพากย์เสียงให้กับ อนิเมซีรี่ย์เรื่องใหม่ของสตูดิโอ MAPPA ที่จะออกอากาศทางทีวี ในเดือน ต.ค. 2020 ซึ่งก็ทำเอาบรรดาผู้ชม (โดยเฉพาะกับสาวๆ) อดใจติดตามข่าวสารนี้กันมิหวาดไหว (แถม Ono เอง เคยพากย์อนิเมของ MAPPA กับเรื่อง Yuri on Ice ในบทของ พิชิต จุลานนท์ นักฟิกเกอร์สเก็ตชาวไทย ที่ปรากฏในเรื่อง )

ล่าสุด รายการทีวี The Seiyuu to Yo Asobi ของ Abema TV ได้ทำการเปิดตัว Taiso Samurai (Gymnastics Samurai) อนิเมทีวีซีรี่ย์เรื่องใหม่ล่าสุดของ MAPPA เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับได้มีการเปิดตัวเว็บไซต์ทางการของอนิเม รวมไปถึง ข้อมูลทีมผู้สร้าง กับ นักพากย์ ซึ่งอนิเมดังกล่าว ได้ระบุชื่อของ Ono เป็นหนึ่งในนักพากย์ของเรื่อง ในบทบาทของ Leonardo อีกทั้ง ยังได้ทีมงานจากอนิเม Zombieland Saga ของสตูดิโอดังกล่าว กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง

Taiso Samurai เป็นอนิเมแนวกีฬายิมนาสติก หนักไปทางดราม่า นำเสนอเรื่องราวของ Shoutarou Aragaki (พากย์โดย Daisuke Namikawa) อดีตนักยิมนาสติกทีมชาติญี่ปุ่น ที่ไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้ดี ซะจนถูกโค้ช Amakusa (พากย์โดย Kenyuu Horiuchi) แนะนำให้เขาเลิก แม้ว่าตัวเขาจะพยายามฝึกฝนอย่างหนักก็ตาม อย่างไรก็ตาม โชคชะตาของ Aragaki และ ครอบครัว ได้เปลี่ยนแปลงไป จากการที่พวกเขาได้พบเจอกับบางอย่าง......โดย อนิเมเรื่องนี้ มีกำหนดออกอากาศตอนแรก ทางช่อง TV Asahi และ ช่องเครื่อข่ายอีก 24 แห่ง วันที่ 10 ต.ค. 2020 เวลา 26.30 น. (หรือช่วง 1.30 น. ของวันที่ 11 ต.ค. 2020) รวมถึง มีการสตรีมออนไลน์ทาง Abema TV ด้วยเช่นกัน

นักพากย์
Shoutarou Aragaki: Daisuke Namikawa (Garo: Honoo no Kokuin)
Noriyuki Amakusa: Kenyuu Horiuchi (Dorohedoro)
Rei Aragaki: Rina Honizumi (Kenja no Mago)
Leonardo: Kensho Ono (Vinland Saga)
Tetsuo Minamino: Yuki Kaji (Arslan Senki (TV))

สต๊าฟ
Director: Hisatoshi Shimizu (Zombieland Saga episode director)
Series Composition: Shigeru Murakoshi (Katsute Kami Datta Kemono-tachi e)
Character Design: Kasumi Fukagawa (IDOLiSH7)
Chief Animation Director: Fumihide Sai (Garo: Vanishing Line)
Art Director: Masatoshi Kai (Goblin Slayer)
Color Design: Azusa Sasaki (Shoukoku no Altair)
Director of Photography: Mitsuhiro Satou (Peace Maker Kurogane film duology)
Editing: Keisuke Yanagi (Kingdom 3rd Season)
Music: Masaru Yokoyama (Sirius)

แหล่งข่าว : Moca News , MAL



Aikatsu! ผุดอนิเมซีรี่ย์ ผสมผสาน live-action ชุด Aikatsu Planet! ในเดือน ม.ค. 2021

รายการพิเศษทางออนไลน์ Bandai x BN Pictures Festival ได้ทำการเปิดตัวอนิเมซีรี่ย์ชุดใหม่ล่าสุดจากแฟรนไชส์เกม-ของเล่น ธีมไอด้อล Aikatsu! ชุด Aikatsu Planet! ในเดือน ม.ค. 2021 ซึ่งอนิเมดังกล่าว มีความพิเศษตรงที่ มีการผสมผสานความเป็น live-action หรือ คนแสดง เข้าไปด้วย

Ryuichi Kimura ผู้กำกับจากอนิเม Aikatsu! ชุดแรกสุด (2012-2016) จะรับหน้าที่กำกับเรื่อง และ กำกับทั่วไป โดยมี Misuzu Chiba (Crossing Time) เป็นผู้เขียนบท และ Risa Miyatani (Aikatsu Friends!, Aikatsu on Parade!) รับหน้าที่ออกแบบตัวละคร ส่วน. Tohoku Shinsha จะเป็นผู้ดูแลในส่วนของฉาก live-action

Aikatsu Planet! เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนดาวเคราะห์แห่งหนึ่ง (ชื่อเดียวกับอนิเม) ซึ่งผู้คนสามารถกลายเป็นไอด้อลสุดน่ารักได้ ด้วยการใช้ avatar แทนตัว โดย Mao Otoha สาวตัวเอกของเรื่อง ก็ตั้งเป้าที่จะเป็นไอด้อลระดับตัวท็อปให้จงได้ ในฐานะของ Hana ไอด้อลแห่งดาว Aikatsu Planet โดยเรื่องราวในส่วนของฉากชีวิตในโรงเรียน ม.ปลาย Seirei ในเรื่อง จะมีการนำเสนอในแบบ live-action ขณะที่ฉากบนดาว Aikatsu Planet! จะนำเสนอในแบบอนิเม + 3DCG

โดยนักแสดงในพาร์ท live-action จะมีการนำไปต่อยอดรวมตัวกัน ภายใต้ยูนิต STARRY PLANET* คอยทำการแสดงตามงานอีเว้นต์ต่างๆ รวมถึง Youtube อีกทั้ง ยังเตรียมเปิดให้บริการเครื่องเล่นการ์ดเกม Data Carddass Aikatsu Planet! ในช่วงฤดูหนาวที่จะถึงนี้ เช่นกัน

ตัวละครหลัก & นักพากย์ :
Mao Otoha / Hana : Kaaya Date
Ruli Tamaki / Ruli: Rio Ogura
Kyoko Umekoji / Beat: Shizune Nagao
Shiori Motoya / Shiori: Rion Watanabe
Ayumi Tsukishiro /Q-Pit: Mizuki
Ann Kurimu / Ann: Amy
Meisa Hinata / Rose: Narumi Uno
Sala Itoi / Sala: Riruka Uno

แหล่งข่าวและรูปภาพ : Crunchyroll



สะดุดรัก ยัยแฟนเช่า กลายเป็นมังงะขาดตลาด......ทำยอดขายฉบับรวมเล่ม ทะลุ 5 ล้านเล่ม

Kanojo, Okarishimasu หรือ สะดุดรัก ยัยแฟนเช่า ผลงานมังงะแนวโรแมนติคคอเมดี้ของ อ.Reiji Miyajima จัดเป็นมังงะอีกเรื่องหนึ่ง ที่ได้รับผลพวงด้านบวกจากอนิเมทีวี ที่กำลังออกอากาศอยู่ในขณะนี้ ซะจนกลายเป็นมังงะอีกเรื่องที่กำลังขายดีติดลมบนในช่วงเวลานี้ แถมยังขายดีซะจนหมดเกลี้ยงในร้านหนังสือหลายแห่งในญี่ปุ่น จนทำให้เรื่องสามารถทำยอดขายฉบับรวมเล่มได้ถึง 5 ล้านเล่ม ในเดือน ส.ค 2020

โดยก่อนที่ฉบับอนิเมของ "แฟนเช่า" จะออกอากาศทางทีวีตอนแรก เรื่องนี้ มียอดขายรวม 2.5 ล้านเล่ม เมื่อ พ.ย. 2019 แล้วก็ ยอดขายรวม 4 ล้านเล่ม เมื่อเดือน มิ.ย. 2020 แต่พออนิเมเรื่องนี้ได้ออกอากาศไป เมื่อ ก.ค. 2020 เท่ากับว่า ฉบับอนิเม ได้ช่วยยกระดับยอดขายของเรื่องนี้ได้อย่างไวว่อง โดยเพิ่มขึ้นถึง 1 ล้านเล่ม ภายในระยะเวลา 1-2 เดือน เท่านั้น

ขณะเดียวกัน ตัวแทนของ สนพ. Kodansha ต้นสังกัดของมังงะเรื่องนี้ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวของ Mantan Web ว่า เป็นมังงะแนวเลิฟคอเมดี้ของสนพ.ที่มีคนอ่านมากที่สุด จนทำให้ยอดขายนั้นค่อยๆเติบโตขึ้น ในช่วงก่อนที่อนิเมจะลงจอทีวี และการมาของอนิเมทีวีของเรื่องนี้ ก็ยิ่งทำให้เรื่องนี้ขายดิบขายดีเข้าไปใหญ่ ซะจนทำเอาฉบับมังงะรวมเล่มของแฟนเช่า ขาดตลาดกันไปทั่วญี่ปุ่น พร้อมกันนี้ ทาง Kodansha ได้กล่าวขออภัยที่จัดการสต็อคฉบับรวมเล่มของเรื่องนี้ได้ไม่เพียงพอ

 

แหล่งข่าว : Mantan Web , Crunchyroll



Doraemon: Nobita's New Dinosaur เปิดตัวอันดับ 1 Box Office ญี่ปุ่น ด้วยรายได้ 413 ล้านเยน

อันดับหนังทำเงิน Box Office ญี่ปุ่น ประจำช่วงสุดสัปดาห์ วันที่ 8-9 ส.ค. 2020 ที่ผ่านมา ปรากฏว่า Doraemon: Nobita's New Dinosaur หนังอนิเมชุดใหม่ล่าสุด ชุดที่ 40 ของ Doraemonสามารถเปิดตัวได้ปัง สมกับที่หลายคนรอคอยมากว่า 5 เดือน ด้วยการโกยรายได้ถึง 413 ล้านเยน กับ ยอดขายตั๋ว 334,000 ใบ ในช่วงสุดสัปดาห์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หนังฉลองครบรอบ 50 ปี ของ Doraemon ชุดนี้ กลับทำรายได้เปิดตัวเพียง 59% ของรายได้เปิดตัว ของหนัง Doraemon: Nobita's Chronicle of the Moon Exploration หนังอนิเมชุดที่แล้วของ Doraemon ที่ฉายไปเมื่อ มี.ค. 2019 แต่ถึงกระนั้น Nobita's New Dinosaur สามารถทำรายได้จากการฉาย 4 วันแรกที่ 761 ล้านเยน ซึ่งเป็นจำนวนรายได้ที่พอๆกับ รายได้ 3 วันแรกของ Nobita's Chronicle of the Moon Exploration

Doraemon: Nobita's New Dinosaur เข้าฉายบนโรงวันแรกที่ญี่ปุ่น 7 ส.ค. 2020 ซึ่งเลื่อนจากกำหนดการเดิม ที่จะฉายในวันที่ 6 มี.ค. 2020 อันเนื่องมาจากสถานการณ์การระบาดอย่างรุนแรงของไวรัส COVID-19

ขณะที่ หนังคนแสดงของ Kyo Kara Ore Wa!! ที่ดัดแปลงจากมังงะดังของ อ.Hiroyuki Nishimori ซึ่งครองอันดับ 1 บน Box Office มานาน 3 สัปดาห์ติดกัน ก็ถูกเขี่ยตกลงไปอยู่อันดับ 2 ปัจจุบันตัวหนังสามารถทำรายได้รวมกันที่ 3.34 พันล้านเยน ซึ่งจัดเป็นหนังคนแสดงที่ประสบความสำเร็จสูงสุดอีกเรื่องนึง ของ ผกก. Yuichi Fukuda ต่อจากหนังคนแสดงของ Gintama ทั้ง 2 ภาค

ส่วน หนังคนแสดง Grand Blue ก๊วนป่วนชวนบุ๋งบุ๋ง ที่ดัดแปลงมาจากมังงะสุดเสื่อมของ อ.Kenji Inoue กับ อ. Kimitake Yoshioka สามารถเปิดตัว ด้วยการรั้งอันดับ 4 บน Box Office ญี่ปุ่น ด้วยรายได้ 110 ล้านเยน

อันดับหนัง Box Office ญี่ปุ่น ประจำสุดสัปดาห์ วันที่ 8-9 ส.ค. 2020
(เรียงอันดับจากยอดขายตั๋ว)

1 (new). "Doraemon: Nobita's New Dinosaur" - รายได้รวม 761 ล้านเยน

2 (1). "Kyo Kara Ore Wa! The Movie" - รายได้รวม 3.34 พันล้านเยน

3 (2). "Confidence Man JP: Princess Arc" - รายได้รวม 2.09 พันล้านเยน

4 (new). "Grand Blue" - รายได้รวม 110 ล้านเยน

5 (new). "Ultraman Taiga The Move: New Generation Climax"

6 (new). "Sannen me no Debut"

7 (3). "Princess Mononoke"

8 (4). "Spirited Away"

9 (5). "Nausicaä of the Valley of the Wind"

10 (new). "EYES ON ME : THE MOVIE"


แหล่งข่าว :  Eiga.com , Crunchyroll


Tentomushi Comics รีปริ้นต์มังงะรวมเล่ม Doraemon ภายใต้เซ็ต "100 ปี Doraemon"

Tentomushi Comics แบรนด์หนังสือของสนพ. Shogakukan เตรียมจะเอาใจบรรดาแฟนตัวยงของเจ้าหุ่นยนต์สีฟ้า Doraemon ผู้อยู่คู่กับนักอ่าน-ผู้ชมทุกเพศทุกวัย ทุกยุค ทุกสมัย มาตลอดระยะเวลากว่า 50 ปี ด้วยการรีปริ้นท์ฉบับรวมเล่มของมังงะ Doraemon ทั้ง 45 เล่ม เสียใหม่ โดยจะจัดทำภายใต้เซ็ต "100 ปี Doraemon" ซึ่งก็มาภายใต้คอนเซ็ปต์ มังงะครบชุดที่จะยืนยงคงกระพัน ข้ามผ่านศตวรรษ จนถึง ศตวรรษที่ 22 ซึ่งเป็นยุคกำเนิดของ Doraemon แล้วก็ Sewashi เหลนของ Nobita

มังงะเซ็ตดังกล่าว ได้รับการดูแลโดย Naoko Nakui กราฟิกดีไซเนอร์คนดัง และ สมาชิกของ Shogakukan Doraemon Room ทีมงานที่ดูแลแฟรนไชส์ Doraemon โดยเฉพาะ ซึ่งมังงะแต่ละเล่ม จะจัดทำหน้าปกหนังสือแบบหนา ที่จะป้องกันของเหลว ที่หกลงบนหนังสือ

มังงะเซ็ต 100 ปี Doraemon จำหน่ายชุดละ 77,000 เยน จัดทำออกมาจำนวน 10,000 ชุด สามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้จนถึง 31 ส.ค. 2020 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด และมีกำหนดจัดส่งภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2020 (หลังจากเปิดวางขายล็อตที่ 2 อีก 10,000 ชุด)

จนถึงขณะนี้ มังงะเซ็ตดังกล่าว มีผู้สั่งซื้อล่วงหน้ามากกว่า 7,000 ชุด ซึ่งใครที่สั่งซื้อมังงะชุดนี้ จะได้ของแถมต่างๆมากมาย อาทิ พจนานุกรม Doraemon , หนังสือภาพ , มังงะ เล่ม 0 , ผ้าห่อขนาดใหญ่ , ฟิกเกอร์ Doraemon กับ Nobita เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ผู้ซื้อยังสามารถขอซื้อ "ประตูสารพัดที่" ที่จัดทำออกมาในเวอร์ชั่นตู้หนังสือ ที่รองรับมังงะรวมเล่มมั้ง 45 เล่มของ Doraemon ได้พอดิบพอดี!!

......เห็นแล้ว สนพ. NED สนใจจะทำบางมั๊ยหนอ.... (หากทำจริง ราคาน่าจะสูงเลยทีเดียว)

แหล่งข่าวและรูปภาพ :  100-Year Doraemon Website , Comic Natalie , Crunchyroll


ไลท์โนเวล No Game No Life ถูกแบนจากแดนออสซี่

สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ มีข่าวว่า ร้านหนังสือ Kinokuniya สาขานครซิดนี่ย์ ประเทศออสเตรเลีย ได้หยุดวางจำหน่ายมังงะ-ไลท์โนเวลญี่ปุ่นจำนวนหนึ่ง อันประกอบไปด้วย Eromanga Sensei, Sword Art Online, Goblin Slayer, No Game No Life, Inside Mari, Parallel Paradise และ Dragonar Academy หลังจากที่ทางร้านได้รับการร้องเรียนจาก Connie Bonaros นักการเมืองประจำรัฐ South Australia จากพรรค SA-BEST (เป็นพรรคการเมืองลูกของ Centre Alliance อีกที ) เกี่ยวกับหนังสือที่วางจำหน่ายในร้านนั้น มีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมสำหรับเยาวชน

หลังจากมังงะ-ไลท์โนเวลข้างต้น ถูกทางร้านเอาออกจากแผง เพื่อให้คณะกรรมการจัดประเภทเนื้อหาสื่อของออสเตรเลีย ได้ทำการตรวจสอบเนื้อหากันอย่างถี่ถ้วน ตามคำร้องเรียนดังกล่าว ปรากฏว่า เล่ม 1,2 และ 9 ของ ไลท์โนเวล No Game No Life กลับไม่ผ่านการพิจารณาจากบอร์ดดังกล่าว (ได้รับเครื่องหมาย "ปฏิเสธ") ส่งผลทำให้ ไลท์โนเวลเล่มข้างต้น ไม่สามารถวางขายบนแผ่นดินออสเตรเลียได้อีกต่อไป

ในส่วนรายละเอียดปลีกย่อยที่ ไลท์โนเวลทั้ง 3 เล่มของ No Game No Life ไม่ผ่านการพิจารณาจากบอร์ด นั่นก็เพราะหนังสือดังกล่าวมีเนื้อหาที่บรรยายและพรรณนาในเชิงที่ก่อให้เกิพฤติกรรมการละเมิดทางเพศกับผู้ใหญ่ผู้มีวุฒิภาวะ หรือ เยาวชน อายุต่ำกว่า 18 ปี โดยเล่มแรกของ No Game No Life ได้นำเสนอภาพของ Shiro วัย 11 ปี กำลังเปลือยกาย อยู่ตรงหน้ากล้อง แม้ว่าภาพดังกล่าวจะมีการวาดภาพเส้นผมของเธอ กับ หยดน้ำ คอยปกปิดร่างกายของเธอก็แล้ว แต่ทางบอร์ดดังกล่าว ก็มองว่า เป็นภาพที่ไม่เหมาะสมอยู่ดี จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่เรื่องนี้อยู่ในข่ายถูกแบนในแดนออสซี่

ขณะเดียวกัน ฉบับอนิเมจากมังงะ-ไลท์โนเวลที่อยู่ในลิสต์ข้างต้น ก็ถูกเอาออกจากบนชั้นในร้านวีดีโอทั่วออสเตรเลีย เช่นกัน ซึ่งอนิเมเหล่านี้ ต่างถูกจัดให้เป็นเรต MA15+ ซึ่งไม่สามารถจำหน่ายให้กับบุคคลผู้มีอายุต่ำกว่า 15 ปี ได้ ยกเว้น หนังอนิเมจอเงิน No Game No Life Zero ที่ได้รับการจัดเรตเป็น M ซึ่งจำกัดให้รับชมได้เฉพาะผู้ใหญ่เท่านั้น ขณะที่ อนิเม Sword Art Online ทุกภาค จนถึง Sword Art Online : Alicization ได้รับการจัดเรตเป็น PG - M


แหล่งข่าว : Crunchyroll



มังงะ Mix กลับมาตีพิมพ์ตามปกติอีกครั้ง ต.ค. 2020

ข่าวดีสำหรับผู้ที่ติดตามผลงานมังงะของ อ.Mitsuru Adachi มาโดยตลอด เมื่อนิตยสาร Gessan / Monthly Shonen Sunday ฉบับ ก.ย. 2020 ได้แจ้งว่า Mix ผลงานมังงะเรื่องปัจจุบันของ อ.Adachi จะกลับมาตีพิมพ์ลงในนิตยสารดังกล่าวตามปกติ ในฉบับเดือน พ.ย. 2020 ที่จะวางขายในวันที่ 12 ต.ค. 2020 หลังจากหยุดตีพิมพ์ไปตั้งแต่เดือน พ.ค. 2020 ที่ผ่านมา อันเนื่องมาจาก สถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19 ประกอบกับ การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วญี่ปุ่นในขณะนั้น ส่งผลทำให้ อ.Adachi และ ทีมงานผู้ช่วย ต่างไม่สะดวกในการทำงาน ในช่วงเวลาดังกล่าว

Mix ตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา โดยมีเนื้อหาที่เชื่อมโยงกับ Touch ผลงานมังงะเรื่องดังของเขา ซึ่งต่อมาถูกดัดแปลงเป็นอนิเมทีวีชุด Mix: Meisei Story ออกอากาศเมื่อ เม.ย. 2019


แหล่งข่าว : Anime News Network


Asahi ควบกิจการสตูดิโออนิเม Silver Link

Asahi Broadcasting Group Holdings กลุ่มบริษัทด้านการออกอากาศ กระจายเสียง ชั้นนำของญี่ปุ่น ได้ควบรวมกิจการสตูดิโออนิเม Silver Link ให้กลายเป็นบริษัทลูก ภายใต้กลุ่มบริษัท Asahi ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ต.ค. 2020 โดยก่อนหน้าที่ Asahi จะควบรวม Silver Link สำเร็จนั้น ทาง Silver Link ก็ได้ควบรวมกับ Connect ซึ่งเป็นสตูดิโอลูกของตัวเอง

Silver Link เป็นสตูดิโออนิเมที่ก่อตั้งขึ้นโดย Hayato Kaneko เมื่อ ธ.ค. 2007 ในฐานะสตูดิโอสายซัพพอร์ต คอยช่วยเหลืองานของสตูดิโออื่นๆ อาทิ Nodame Cantabile: Paris-hen, ef: A Tale of Melodies. (ef - a tale of melodies.), Higashi no Eden (Eden of the East) ก่อนที่สตูดิโอแห่งนี้ จะมีผลงานอนิเมทีวีเรื่องแรกเป็นของตัวเอง กับ Tayutama: Kiss on My Deity เมื่อปี 2009 จากนั้นก็กลายเป็นสตูดิโอหลักในการผลิตผลงานอนิเมต่างๆมากมาย อาทิ Kokoro Connect, Rakudai Kishi no Cavalry (Chivalry of a Failed Knight), Baka to Test to Shoukanjuu (Baka & Test - Summon the Beasts), และ Non Non Biyori เป็นต้น

ส่วน Asahi Broadcasting Group ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1949 โดยเริ่มต้นจัดทำสถานีวิทยุ ที่โอซาก้า เมื่อปี 1951 ก่อนจะขยับขยายไปทำธุรกิจโทรทัศน์ และมีสถานีโทรทัศน์ของตัวเอง เมื่อปี 1955 ซึ่งกลุ่มบริษัทแห่งนี้ ได้ก่อตั้งสตูดิโออนิเมของตัวเอง กับ ABC Animation เมื่อปี 2016

แหล่งข่าว : Animation Business Journal , Nikkei , MAL

 


สตูดิโออนิเม Arms ประกาศล้มละลาย

Common Sense หรือ Arms (Arms Corporation) บริษัทผู้ผลิตอนิเมชั่น ได้ประกาศสภาวะล้มละลายแล้ว จากการยืนยันมาจากวารสาร Tokyo Shoko Research บริษัทแห่งนี้ ถูกสั่งชำระหนี้เป็นกรณีพิเศษ โดย ศาลแขวงโตเกียว เมื่อ 22 ก.ค. 2020 ซึ่งมูลค่าหนี้สิ้นของบริษัทดังกล่าว อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ

Arms เป็นสตูดิโอที่ก่อตั้งโดยแยกมาจาก Studio Kikan ( Pierrot Plus / Studio Signpost) เมื่อปี 1996 ซึ่งสตูดิโอดังกล่าวก่อตั้งขึ้น เพื่อผลิตผลงานอนิเมแนวผู้ใหญ่ และ คอยรับเหมางานผลิตอนิเมของ Studio Pierrot แต่จากการที่อนิเมแนวผู้ใหญ่ของสตูดิโอมียอดขายที่ไม่ดีนัก เลยทำให้ Arms หันไปทำอนิเมทีวี ตามเทรนด์นิยมของตลาด โดยมีผลงานอนิเมเรื่องแรกของสตูดิโอ กับ Mezzo DSA เมื่อปี 2004 และ กลับไปทำอนิเมผู้ใหญ่อีกครั้ง กับ Hininden: Gauss เมื่อปี 2005 แต่ก็มียอดขายที่ไม่กระเตื้องเท่าที่ควร จึงทำให้พวกเขาตัดสินใจเลิกทำอนิเมผู้ใหญ่ นับแต่นั้น แต่ก็ยังคงรับเหมางานผลิตอนิเมจากสตูดิโออนิเมอื่นๆ อย่างเปิดกว้าง ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น Common Sense เมื่อปี 2017

สตูดิโอ แห่งนี้ มีผลงานอนิเมที่ขึ้นชื่อ คือ Elfen Lied, Genshiken 2, Maoyuu Maou Yuusha (Maoyu: Archenemy & Hero), Hagure Yuusha no Aesthetica (Aesthetica of a Rogue Hero), Gokukoku no Brynhildr (Brynhildr in the Darkness), Wizard Barristers: Benmashi Cecil (Wizard Barristers) รวมถึง อนิเมจำนวนหนึ่ง ที่พวกเขาได้ร่วมด้วยช่วยสร้างกับ Genco ประกอบด้วย Valkyrie Drive: Mermaid, Queen's Blade: Grimoire, Ikkitousen: Western Wolves

โดยอนิเมซีรี่ย์ Ikkitousen มหาสงครามลูกแก้วมากะ ที่สตูดิโอแห่งนี้มีส่วนร่วมผลิต หลายต่อหลายภาค ก็ช่วยสร้างรายได้ให้กับสตูดิโออย่างเป็นกอบเป็นกำ ถึง 390 ล้านเยน เมื่อสิ้นสุด มิ.ย. 2009 อย่างไรก็ตาม สตูดิโอแห่งนี้ก็กลับทำยอดขายลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง โดยประสบปัญหาขาดทุนถึง 260 ล้านเยน เมื่อ มิ.ย. 2011 และจากปัญหาการเงินที่พวกเขาประสบกันมาหลายปี ก็นำไปสู่การประชุมของผู้ถือหุ้น เมื่อ 31 พ.ค. 2020 ได้ข้อสรุปว่า ทางสตูดิโอจะดำเนินการชำระบัญชีแบบพิเศษ ทั้งๆที่ บริษัท มีเงินทุนเพียง 3 ล้านเยน เท่านั้น

แหล่งข่าว : IT Media , Tokyo Shoko Research , MAL


Masashi Kishimoto รับรู้ Naruto โด่งดังไปทั่วโลก จากจดหมายของแฟนๆชาวต่างประเทศ

ย้อนกลับไป เมื่อปี 2014 อันเป็นปีที่ Naruto มังงะนินจาเรื่องดังของ อ.Masashi Kishimoto ได้ปิดฉากลง หลังจากตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Shonen Jump มายาวนานต่อเนื่องถึง 15 ปี .........ซึ่งในช่วงเวลาที่มังงะ Naruto เพิ่งจะอวสานลงไปนั้น ทาง นสพ. Asahi Shimbun ได้มีโอกาสเข้าไปสัมภาษณ์พูดคุยกับ อ.Kishimoto ถึงเบื้องหลังการทำงานต่างๆ และจากบทสัมภาษณ์ดังกล่าวนี้เอง ได้มีการเปิดเผยว่า อ.Kishimoto ได้รับจดหมายจากแฟนๆชาวต่างประเทศมากมาย ซะจนทำให้เขาได้รับรู้ว่า มังงะ Naruto ของเขา โด่งดังเอามากๆ ซึ่งไม่เพียงจะฮิตแค่เฉพาะในญี่ปุ่น เท่านั้น แต่ยังแพร่กระจายความนิยมไปยังต่างแดน อีกด้วย

อ.Kishimoto กล่าวกับผู้สื่อข่าวของ Asahi Shimbun ว่า เป็นเพราะนักเขียนการ์ตูนเอาแต่ทำงานอยู่ในห้อง จึงเป็นเรื่องยากที่จะมองเห็นฟีดแบ็คผลงานของตัวเองโดยตรง หากผลงานของเขาได้รับความนิยมจริง ซึ่งเขาก็ไม่ได้รับรู้ถึงส่วนนี้นัก จนกระทั่งมาได้รับจดหมายจากแฟนๆชาวต่างประเทศ จำนวนหลายฉบับ นั่นทำให้เขารู้ว่า Naruto ก็ได้รับความนิยมนอกญี่ปุ่นด้วย โดยจดหมายบางฉบับนั้น เขียนด้วยภาษาอื่นๆ ที่เขาไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่ก็พอรับรู้และเข้าใจว่า ผลงานของเขา มีผู้คนจากหลากหลายประเทศ เข้ามาติดตามมากมาย

หนึ่งในจดหมายที่ส่งถึง อ.Kishimoto ในช่วงเวลานั้น ได้แนบภาพถ่ายของเด็กเล็กกำลังคอสเพลย์และโพสท่าเลียนแบบ Naruto ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ อ.Kishimoto รู้สึกมีความสุขเอามากๆ

ไม่เพียงเท่านั้น อ.Kishimoto ยังเล่าถึงแผนการตอนจบของ Naruto ด้วย กล่าวคือ เขาตั้งใจที่จะให้ตอนจบของเรื่องนี้ เป็นฉากการต่อสู้กันระหว่าง Naruto กับ Sasuke มาตั้งแต่แรกเริ่ม และจากนั้นเขาก็ได้หยอดรายละเอียดเข้าไปทีล่ะเล็กล่ะน้อย อย่างเช่น พวกเขาจะต่อสู้กันในฐานะเพื่อน หรือ ศัตรู , ความรู้สึกซึ่งกันและกัน แล้วก็ ประโยคคำพูด จนกระทั่ง เมื่อราวๆ 2 ปีที่แล้ว เขาเองก็รู้สึกว่า เรื่องนี้ได้ดำเนินมาถึงบทสุดท้ายแล้ว

อย่างไรก็ตาม อ.Kishimoto ก็ไม่นึกว่า จะเขียน Naruto ได้ยาวถึง 15 ปี โดยช่วงที่เราเริ่มเขียนเรื่องนี้ใหม่ๆ ผู้ดูแลได้บอกกับเขาว่า ให้เขียนต่อไปอย่างน้อยซัก 5 ปี และ จากการทำงานเขียน Naruto ลงนิตยสารรายสัปดาห์นั้น ก็ถือเป็นงานที่หนักหนามากซะจน เขาเคยคิดที่จะอยากจบลงอย่างไว เช่นกัน

เมื่อไหร่ก็ตาม ที่ อ.Kishimoto อยากจะแก้ปัญหาที่ติดขัดในเนื้อเรื่อง และอยากจะมูฟออนโดยไว ก็ได้ตัวละครในเรื่อง อย่าง Naruto กับผองเพื่อน ไม่ปล่อยให้เขาได้กลัดกลุ้มใจอยู่เพียงลำพังด้วย ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่า ตัวละครในเรื่องได้ช่วยกันบ่งบอกว่า เรื่องนี้จะไปได้ไกลเพียงใด เช่นเดียวกับ แฟนๆชาวต่างประเทศ ที่ได้บอก อ.Kishimoto ว่า มังงะเรื่องนี้ เป็นที่รักของผู้คนมากมายด้วย เช่นกัน


แหล่งข่าว : Crunchyroll

 


10 อันดับมังงะขายดีที่ญี่ปุ่น โดย Oricon : 3-9 ส.ค. 2020

(อันดับ / เรื่อง-เล่ม / ยอดขายประจำสัปดาห์)

01. Haikyu!! คู่ตบฟ้าประทาน # 44 (345,258 เล่ม)

02. Wotaku ni Koi wa Muzukashii ยากแท้จริงหนอรักของโอตาคุ #9 (215,828 เล่ม)

03. Jujutsu Kaisen มหาเวทย์ผนึกมาร #12 (162,727 เล่ม)

04. Chainsaw Man #8 (124,568 เล่ม )

05. Dragon Ball Super #13 (112,997 เล่ม)

06. D.Grayman #27 (111,073 เล่ม)

07. Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร #21 (72,485 เล่ม)

08. Shuumatsu no Harem / World's End Harem (56,030 เล่ม)

09. Given #6 (52,440 เล่ม)

10. Bokutachi wa Benkyou ga Dekinai เรื่องนี้ตำราไม่มีสอน #18 (52,258 เล่ม)

แหล่งข่าว : Oricon

 

 


 
free hit counter javascript