บอกเล่าข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 26-31 สิงหาคม 2562

บอกเล่าสรุปข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ กลับมาอีกครั้ง .......ในที่สุดก็เข้าสู่เดือนใหม่ เดือนที่ 9 ของปี อันเป็นการบ่งบอกว่า เราได้เข้าสู่ปลายปี 2019 กันแล้ว ใครที่คิดวางแผนการต่างๆในอนาคต แต่ยังไม่ได้ทำ ก็รีบทำซะในตอนนี้ (ในกรณีที่แผนนั้นมันเร่งด่วน และเป็นสิ่งที่ควรจะทำตั้งแต่ตอนนี้) และช่วงนี้ก็มีพายุเข้ามา สร้างความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องบางพื้นที่ ที่กำลังประสบกับปัญหาน้ำท่วม ขอให้ผู้ประสบภัยได้รับความช่วยเหลือจากผู้ที่เกี่ยวข้องโดยเร็วที่สุด

 

สำนักข่าว K-D News (kartoon-discovery.com)
สามารถอัพเดทข่าวสารเว็บเราได้ผ่าน Twitter และ Facebook


หากนำข่าวจากเราไปเผยแพร่ที่อื่น รบกวนใส่เครดิตให้กับทางเราด้วยครับ ขอบคุณครับ

New Release Comics of the Week : เกิดใหม่ บนโลกที่หวีดได้เต็มที่ กับ "ตั้งแต่วันนี้จะเป็น 'ซิตี้ฮันเตอร์' "

การ์ตูนออกใหม่ ประจำสัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มจาก CITY HUNTER ตั้งแต่วันนี้จะเป็น "ซิตี้ฮันเตอร์" เล่ม 1 มังงะภาคใหม่ของ City Hunter ออกต้อนรับกระแสการคัมแบ็คของเรื่องนี้ในบ้านเราตลอดปี........อาโอยามะ คาโอริ อายุ 40 สาวออฟฟิศยังโสด ชายในอุดมคติคือซาเอบะ เรียว วันหนึ่งพอนึกว่าโดนรถไฟชนตาย ก็กลายเป็นนักเรียนมัธยมปลาย กลับมาเกิดในโลกของ 'ซิตี้ฮันเตอร์' สุดโปรด รอบข้างไม่มีใครให้พึ่งพา ขณะกำลังลำบากเธอก็มุ่งไปยังกระดานฝากข้อความของชินจูกุ...เขียนอักษร 'XYZ' ลงไปด้วยความรู้สึกขอความช่วยเหลือ ชีวิตที่สองได้เปิดฉากขึ้นในโลกของซิตี้ฮันเตอร์!

ศึกตำนาน 7 อัศวิน เล่ม 35 ปกป้องนายกองจากการกลายเป็นราชาเทพอสูร กับปลดปล่อยเอลิซาเบสจากคำสาปแห่งความตาย เหล่าผู้ที่ไม่รักตัวกลัวตายซึ่งฝ่าฟันเข้าไปในถิ่นของศัตรู เพื่อทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้! การจู่โจมของหัวหน้านางฟ้าแห่ง "แสงแฟลช"กับ "อัตตา" ผู้หลงตัวเองว่าเก่งกาจที่สุดและผู้ใช้เวทมนตร์ที่เก่งกาจที่สุดในแผ่นดิน จะประสบความสำเร็จหรือไม่? จะสามารถรับมือการตอบโต้ของคู่หูสุดร้ายกาจ อย่าง "ยักษ์รักสงบ" กับ "ยมทูตสัปหงก" ได้หรือไม่? ชะตากรรมของคาเมล็อต กองทัพที่จะกุมชัยชนะในสงครามศักดิ์สิทธิ์คือ----?

ยอดนักปรุงโซมะ เล่ม 35 ทัวร์นาเมนท์ "THE BLUE" ทวีความดุเดือดขึ้นทุกขณะ โซมะเอาชนะพวกนัวร์เพื่อที่จะเผชิญหน้ากับอาซาฮิอีกครั้ง อีกด้านหนึ่งเอรินะที่ต่อสู้อยู่ในบล็อกอื่น ก็ต้องเจอการประกบคู่ที่คาดไม่ถึงเข้า!? สุดท้ายแล้วบุ๊คมาสเตอร์มีเจตนาอะไรกันแน่!?

คินดะอิจิ 37 กับคดีฆาตกรรมปริศนา เล่ม 4 คินดะอิจิ ฮาจิเมะ อายุ 37 ปี เป็นมนุษย์เงินเดือนที่ไม่ก้าวหน้า ทำงานอยู่ในบริษัท PR เล็กๆ เขาเดินทาง
ไปทำงานที่เกียวโตกับ ฮายามะ มะริน รุ่นน้อง แต่ดูเหมือนว่าตระกูลเคียวโงะกุ ปรมาจารย์ด้านการจัดดอกไม้ซึ่งเป็นลูกค้านั้น มีเรื่องบางอย่างที่แก้ไขอะไรไม่ได้ เสียงฝีเท้าของความอยากฆ่ากำลังเข้ามาใกล้ คินดะอิจิ มนุษย์เงินเดือนวัยกลางคน ผู้ไม่อยากไขปริศนาอะไรอีก!

ฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า เล่ม 166 มาปิดตำนานกัน(ซะที) กับซีรี่ย์การ์ตูนจีนกำลังภายในเรื่องยาวในตำนาน


เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ:

act-age ดารายอดอัจฉริยะ เล่ม 6 ,Blue Exorcist เอ็กซอร์ซิสต์พันธุ์ปีศาจ เล่ม 20,GIANT KILLING เล่ม 43,ยูรากิโซ ที่นี่ผีน่ารักนะ เล่ม 10,คุโรโกะนายจืดพลิกสังเวียนบาส Replace Plus เล่ม 3 ,JoJoNIUM เล่ม 7,ถล่มเรือนอสูร โซโบเทย์ เล่ม 10,ยอดกุ๊กแดนมังกร ภาค พิชิตฉงชิ่ง เล่ม 3,GOLDEN KAMUY เล่ม 13,เรื่องนี้ตำราไม่มีสอน เล่ม 12

รูปภาพหน้าปก : amazon.co.jp

 


Weathering With You กลับมายึดอันดับ 1 Box Office ญี่ปุ่น อีกครั้ง

อันดับหนังทำเงินช่วงสุดสัปดาห์ที่ญี่ปุ่น ประจำวันที่ 24-25 ส.ค. 2019 ที่ผ่านมา ปรากฏว่า Tenki no Ko/Weathering หรือ ฤดูฝัน ฉันมีเธอ หนังอนิเมล่าสุดของผกก. Makoto Shinkai กลับมีแรงฮึดขึ้นอีกเฮือก ในช่วงการฉายบนโรงในสุดสัปดาห์ที่ 6 จนสามารถทวงอันดับที่ 1 บน Box Office ญี่ปุ่น กลับคืนมาอีกครั้ง เป็นสัปดาห์ที่ 4 ของเรื่องนี้ ด้วยรายได้ 421 ล้านเยน จากยอดขายตั๋ว 305,000 ใบ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลง 22% เมื่อเทียบจากสัปดาห์ก่อนหน้า แต่ถึงกระนั้น ตัวหนังสามารถทำรายได้รวมได้มากกว่า 10 พันล้านเยน และ สถิติเป็นหนังญี่ปุ่นรายได้สูงที่สุด ประจำปี 2019 ในขณะนี้ รวมถึง ยังรั้งอันดับ 9 หนังญี่ปุ่นรายได้สูงที่สุดตลอดกาลอีกด้วย

ขณะเดียวกัน หนังอนิเม ONE PIECE STAMPEDE ตกจากอันดับที่ 3 ลงสู่อันดับ 4 ซึ่งตัวหนังสามารถโกยรายได้ทั้งสิ้น 4.13 พันล้านเยน ซึ่งคาดว่า ตัวหนังจะสามารถทำรายได้เกิน 5 พันล้านเยน อย่างไม่มีปัญหา แต่หนทางที่จะทุบสถิติรายได้แซง ONE PIECE FILM Z เจ้าของสถิติรายได้สูงสุดในบรรดาหนัง One Piece ทุกภาคที่ 6.87 พันล้านเยน ก็ไม่ง่ายเลยเช่นกัน

อีกด้านหนึ่ง Ni no Kuni หนังอนิเมดัดแปลงจากเกมวีดีโอของ Level-5 (Yo-kai Watch, Professor Layton) กลับทำรายได้เปิดตัวอย่างน่าผิดหวัง ที่ 140 ล้านเยน ซึ่งน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของรายได้เปิดตัวช่วงสุดสัปดาห์ของ Dragon Quest Your Story หนังอนิเมชั่นจากซีรี่ย์เกมวีดีโอดัง Dragon Quest ซะด้วยซ้ำ

 

อันดับหนัง Box Office ญี่ปุ่น ประจำสุดสัปดาห์ วันที่ 24-25 ส.ค. 2019
(เรียงอันดับจากยอดขายตั๋ว)

1 (2). "Weathering With You" - รายได้รวม 10.73 พันล้านเยน

2 (1). "The Lion King" - รายได้รวม 4.62 พันล้านเยน

3 (new). "Ossan's Love The Movie: LOVE or DEAD" - รายได้รวม 554 ล้านเยน

4 (3). "ONE PIECE STAMPEDE" - รายได้รวม 4.13 พันล้านเยน

5 (4). "Toy Story 4" - รายได้รวม 9.32 พันล้านเยน

6 (new). "Rocketman" - รายได้รวม 182 ล้านเยน

7 (new). "Ni no Kuni" - รายได้รวม 140 ล้านเยน

8 (5). "Hobbs & Shaw" - รายได้รวม 2.71 พันล้านเยน

9 (6). "The Secret Life of Pets 2" - รายได้รวม 1.9 พันล้านเยน

10 (8). "Mewtwo Strikes Back: Evolution" - รายได้รวม 2.75 พันล้านเยน

แหล่งข่าว :  Eiga.com , Crunchyroll



 

Weathering With You ได้รับเลือกเป็นตัวแทนหนังญี่ปุ่น เข้าชิง Oscar สาขาภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม

หลังจาก Weathering With You หรือ ฤดูฝัน ฉันมีเธอ หนังอนิเมของ Makoto Shinkai ได้ประกาศศักดา ด้วยการโกยรายได้ทะลุเกิน 10 พันล้านเยน ไปหมาดๆ ล่าสุด หนังเรื่องนี้ได้รับเลือกจากสมาคมผู้สร้างภาพยนตร์ญี่ปุ่น ให้เป็นตัวแทนของหนังญี่ปุ่น ลุ้นเข้าชิงรางวัล Academy Award หรือ Oscar ในสาขาภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม ( หรือ สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม เดิม)

จากข้างต้น ทำให้ Weathering with You จะกลายเป็นหนังอนิเมเรื่องที่ 3 ต่อจาก Pom Poko กับ Princess Mononoke ที่ได้รับเลือกให้ส่งเข้าชิงรางวัลสาขาดังกล่าว และยังเป็นหนังอนิเมเรื่องแรกที่ไม่ได้มาจาก Studio Ghibli ด้วย รวมถึง ยังเป็นครั้งที่ 2 ของ ผกก. Shinkai ที่ได้มีโอกาสลุ้นเป็นผู้เข้าชิงรางวัลบนเวที Oscar ต่อจาก Your Name โดยหนัง Your Name ได้ถูกค่าย Funimation Films ส่งให้คณะกรรมกรรมการ Oscar คัดเลือกให้เป็นหนึ่งในหนังเข้าชิงสาขา ภาพยนตร์อนิเมชั่นยอดเยี่ยม เมื่อปี 2016 แต่ท้ายที่สุดแล้ว ตัวหนังไม่ติดทำเนียบผู้เข้าชิงสาขานี้ใดๆ

แต่ละประเทศจะต้องส่งหนัง 1 เรื่อง ให้คณะกรรมการ Oscar ได้ทำการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในผู้เข้าชิงสาขาภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม โดยหนังแต่ละเรื่องนั้น จะต้องใช้ภาษาท้องถิ่น ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษเป็นหลักด้วย ซึ่ง ญี่ปุ่น รั้งอันดับ 4 ในฐานะที่มีหนังเข้าชิงรางวัลสาขานี้มากที่สุด คือ 16 เรื่อง และเคยคว้ารางวัลชนะเลิศมาแล้ว 4 เรื่องด้วยกัน โดยหนังญี่ปุ่นเรื่องล่าสุดที่สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศในสาขานี้ได้ ก็คือ Departures เมื่อปี 2008 ขณะที่ Shoplifters เป็นหนังญี่ปุ่นเรื่องล่าสุด ที่ติดเป็นผู้เข้าชิงสาขาดังกล่าว เมื่อปี 2018

โดยบ้านเราจะได้สัมผัสกับความยอดเยี่ยมรับหน้าฝนของ หรือ ฤดูฝัน ฉันมีเธอ บนโรงภาพยนตร์บ้านเรา วันที่ 5 ก.ย. 2019

แหล่งข่าว :  Nikkan Sports , Crunchyroll


"ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ศึกชิงอัญมณีสีคราม" สร้างสถิติรายได้สูงที่สุดของหนังอนิเม Conan

หลังจากหนังอนิเม Detective Conan : The Fist of Blue Sapphire หรือ ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ศึกชิงอัญมณีสีคราม จ่อจะทำลายสถิติรายได้ของตัวเองอยู่นานพอสมควร ซะจนกระแสของหนังแผ่วลงไป แต่ถึงกระนั้น จากการที่ตัวหนังได้รับการฉายเพิ่มเติม ในระบบ 4D ที่ญี่ปุ่น เมื่อ 23 ส.ค. 2019 ก็ทำให้หนังอนิเมชุดที่ 23 ของเจ้าหนูนักสืบโคนัน ได้รับรายได้เพิ่มเติมอีก 57.7 ล้านเยน สิริรวมแล้ว ตัวหนังมีรายได้รวมทั้งสิ้น 9,182,702,500 เยน จากยอดขายตั๋ว 7,164,729 ใบ (นับสถิติถึง 25 ส.ค. 2019) กลายเป็นหนังอนิเมโคนันภาคที่ 7 ติดต่อกัน ที่สามารถทำลายสถิติรายได้สูงสุดของหนังโคนันทุกภาคลงได้ แซงหน้า Zero the Enforcer หรือ ปฏิบัติการสายลับเดอะซีโร่ เมื่อปี 2018 ที่ทำรายได้ 9.18 พันล้านเยนในญี่ปุ่น

ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ศึกชิงอัญมณีสีคราม ฉายครั้งแรกที่ญี่ปุ่น เมื่อ 12 เม.ย. 2019 สามารถทำรายได้เปิดตัวช่วงสุดสัปดาห์แรกที่ 1.464 พันล้านเยน

10 อันดับ หนังอนิเมโคนัน รายได้สูงสุด ในญี่ปุ่น

1. "The Fist of Blue Sapphire" ศึกชิงอัญมณีสีคราม (23rd/2019) - 9.182 พันล้านเยน

2. "Zero the Enforcer" ปฏิบัติการสายลับเดอะซีโร่ (22nd/2018) - 9.18 พันล้านเยน

3. "Crimson Love Letter" ปริศนาเพลงกลอนซ่อนรัก (21st/2017) - 6.87 พันล้านเยน

4. "Pure Black Nightmare" ปริศนารัตติกาลทมิฬ (20th/2016) - 6.33 พันล้านเยน

5. "Sunflowers of Inferno" ปริศนาทานตะวันมรณะ (19th/2015) - 4.48 พันล้านเยน

6. "Dimensional Sniper" ปริศนากระสุนมรณะ (18th/2014) - 4.11 พันล้านเยน

7. "Private Eye in the Distant Sea" ฝ่าวิกฤติเรือรบมรณะ (17th/2013) - 3.63 พันล้านเยน

8. "The Raven Chaser" ปริศนานักล่าทรชนทมิฬ (13th/2009) - 3.5 พันล้านเยน

9. "The Phantom of Baker Street" ปริศนาบนถนนสายมรณะ (6th/2002) - 3.4 พันล้านเยน

10. "The Eleventh Striker" ปริศนาระทึก-ศึกลูกหนังมรณะ (16th/2012) - 3.29 พันล้านเยน

แหล่งข่าวและทวีต : Crunchyroll



DVD เบื้องหลังพากย์"หลุด" One Piece จะแถมให้กับผู้เข้าชม ONE PIECE STAMPEDE บนโรง

หนังอนิเม ONE PIECE STAMPEDE ได้เข้าฉายที่ญี่ปุ่นเป็นสัปดาห์ที่ 4 แล้ว ซึ่งก็ยังคงมีโปรของแจกของแถมให้แก่คออนิเมกันอย่างต่อเนื่อง โดยตลอด 3 สัปดาห์ของการฉายหนังเรื่องนี้ ก็มีการแจกมังงะ One Piece Comic -Kan Banpaku แล้วก็ แฟ้มใส ให้แก่ผู้เข้าชมหนังบนโรงไปนั้น ล่าสุด ตัวหนัง ได้มีการแจกแผ่น DVD ชุด "Movie ONE PIECE STAMPEDE Confidential Blooper Collection +α DVD" ให้แก่ผู้เข้าชม Stampede บนโรง 500,000 คนแรก เมื่อ 30 ส.ค. 2019 โดยแผ่น DVD ดังกล่าว เป็นการรวมเบื้องหลังฉากหลุด พากย์ผิดเพี้ยน แบบขำๆ ของเหล่านักพากย์ ในขณะที่กำลังบันทึกเสียงพากย์หนัง Stampede ซึ่งเป็นภาพที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน (ยกเว้นทีมงานผู้สร้างอนิเม) โดยได้ Kappei Yamaguchi ผู้พากย์เสียงเป็น Usopp รับหน้าที่เป็นผู้บรรยาย และ พากย์เสียงทุกตัวละครบนเทรลเลอร์ฉบับไม่สมบูรณ์

Stampede หนังอนิเมชุดที่ 14 และ เป็นหนังฉลองครบรอบ 20 ปี อนิเม One Piece เข้าฉายบนโรงที่ญี่ปุ่นครั้งแรก เมื่อ 9 ส.ค. 2019 ปัจจุบัน โกยรายได้ในญี่ปุ่นมากกว่า 4.13 พันล้านเยนแล้ว และมีคิวที่จะเข้าโรงในบ้านเรา วันที่ 19 ก.ย. 2019

 

แหล่งข่าวและทวีต : OnePiece.com , ONE PIECE STAMPEDE 's twitter , Crunchyroll

 


ผู้แต่งมังงะซีรี่ย์ "Shima Kōsaku" ลั่น การ์ตูนเรื่องนี้จะจบ ก็ต่อเมื่อ เขาไม่สามารถเขียนต่อไหว

Shima Kōsaku ซีรี่ย์มังงะแนวจัดการองค์กร ธุรกิจ ของ อ. Kenshi Hirokane ได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ตั้งแต่ปี 1983 เป็นต้นมา โดยตลอดระยะเวลากว่า 36 ปีของเรื่องนี้ ก็มีการเขียนอยู่หลายภาค โดยแต่ละภาค Shima Kōsaku ตัวเอกของเรื่อง มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งหน้าที่การงานของตัวเองให้สูงขึ้นยิ่งไป ซึ่งล่าสุด อ.Hirokane เพิ่งจะเขียนมังงะภาคใหม่ล่าสุดของเรื่องนี้ ชุด Sōdanyaku Shima Kōsaku (Advisor Kōsaku Shima) ลงในนิตยสาร Morning ฉบับที่ 38/2019 เมื่อ 27 ส.ค. 2019 หลังจากจบภาค Kaichō Shima Kōsaku (Chairman Kōsaku Shima) ไปสดๆร้อนๆ เมื่อไม่นานมานี้

และจากการที่เรื่องราวของคุณน้า Shima Kōsaku ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงนี้เอง ก็ทำเอาหลายต่อหลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่า มังงะซีรี่ย์นี้จะไปได้ต่ออีกนานแค่ไหน......ล่าสุด อ.Hirokane ได้ออกมาเปิดเผยถึงทิศทางต่อไปของซีรี่ย์ Shima Kōsaku ในระหว่างแถลงข่าวเปิดตัวมังงะชุด Sōdanyaku Shima Kōsaku เมื่อ 27 ส.ค. 2019 โดยกล่าวว่า หากตัวเอกของเรื่องนี้ มีอายุเท่าตัวเขา และเขาเองก็ตั้งใจที่จะเขียนเรื่องนี้ให้จบ จนกว่าเขาไม่สามารถจะเขียนต่อไหวได้ ซึ่งปัจจุบัน อ.Hirokane มีอายุ 72 ปีแล้ว

โดย Sōdanyaku Shima Kōsaku มังงะภาคใหม่ล่าสุดของ Shima Kōsaku ก็ได้เปลี่ยนตำแหน่งงานใหม่ของคุณน้า Shima จากตำแหน่งประธานในมังงะภาคก่อนหน้า ไปเป็น ที่ปรึกษาระดับอาวุโส ซึ่ง อ.Hirokane กล่าวว่า ถึงแม้ Shima จะเป็นคนประเภทไม่สนใจบทบาทความเป็นผู้นำ แต่เขาน่ะ เป็นสุดยอด "มนุษย์เงินเดือน" ระดับหัวแถว มากกว่า เป็น "เจ้าของ" เสียอีก ไม่เพียงแค่เขาจะคิดเกี่ยวกับคนที่จะมาสืบทอดตำแหน่ง แต่เขายังรู้สึกเหมือนบังคับให้ลงจากตำแหน่งประธานเอง หลังจากได้เวลาที่พอเหมาะพอเจาะ จากนั้ง อ.Hirokane ได้อธิบายถึงเหตุผลที่ Shime เลือกที่จะไปเป็นที่ปรึกษา ก็เพราะ บรรดาคนที่เขาเคยรู้จักกันที่โรงเรียน ที่เคยรับหน้าที่เป็นประธานบริษัท หลายต่อหลายคน ต่างก็ก้าวลงจากตำแหน่งประธาน ไปเป็นที่ปรึกษาแทน เมื่อ ก.ค. 2019 นี้เอง ซึ่งนั่นก็เป็นเวลาที่เหมาะสม สำหรับ Shima ในการเข้ามารับตำแหน่งที่ปรึกษา

อ.Hirokane กล่าวว่า ความทะเยอทะยานของ Shima จะใหญ่ขึ้นกว่าเดิม กล่าวคือ "ตัว Shima แม้จะไม่มีพลังหรืออำนาจใดๆ แต่เขาได้ใช้คอนเน็คชั่นที่เขามี รวมถึง ทักษะการเจรจาต่อรอง มาตลอดชีวิต และ เขาเองก็เคยได้รับคำแนะนำในด้านการจัดการบริษัทมาก่อนหน้านี้ แต่สำหรับมังงะชุดนี้ เขาจะอยู่ในตำแหน่งผู้มีอิทธิพลนอกเหนือจากเรื่องของเศรษฐกิจ ไม่ใช่จำกัดแค่การดำเนินธุรกิจ ดังนั้น ผมต้องการให้เขามีความกระตือรือร้นในหลายๆ ด้าน ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจญี่ปุ่น"

แหล่งข่าวและรูปภาพ : Comic Natalie , Anime News Network

 


ผู้แต่ง Kingdom เปิดเผยความชื่นชอบที่มีต่อ Game of Thrones ให้ผู้สร้างได้รับรู้

อ.Yasuhisa Hara ผู้แต่งมังงะ Kingdom ได้รับเกียรติให้ไปร่วมสนทนาพูดคุยกับ David Benioff กับ D. B. Weiss คู่หูผู้สร้างละครซีรี่ย์ Game of Thrones ของช่อง HBO เมื่อ 15 ส.ค. 2019 ที่ผ่านมา โดย Hara ได้เปิดเผยว่า เขาติดตาม Game of Thrones อย่างเหนียวแน่น ตั้งแต่ซีซั่น 4 เป็นต้นมา อีกทั้ง เขายังยืนยันว่า Sei Kyou (หรือ Cheng Jiao / เฉิงเจียว ตามการออกเสียงแบบจีน) เจ้าชายผู้ชั่วร้ายจากเรื่อง Kingdom ในแบบฉบับหนังคนแสดงนั้น ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ตัวละคร Joffrey จาก Game of Thrones เช่นกัน

" Sei Kyou ตัวร้ายของเรื่อง เป็นผู้ถือกุญแจสำคัญใน Kingdom ฉบับภาพยนตร์" "ซึ่งมันง่ายที่จะสร้างตัวร้ายที่ไม่มีแก่นสารอะไรขึ้น แต่มันก็ยากที่จะสร้างตัวร้ายสุดน่าขยะแขยง ให้มีเสน่ห์ ด้วยเช่นกัน ผมคิดว่า Joffrey จาก Game of Thrones คือ ตัวร้ายที่เยี่ยมที่สุด ขณะที่ Sei Kyou ในมังงะ Kingdom ยังขาดความเป็นตัวร้ายในส่วนนี้ ก็เพราะผมยังขาดประสบการณ์ในฐานะผู้เขียนในช่วงเวลานั้น และในตอนที่เรากำลังจะสร้างฉบับหนังของเรื่องนี้นั้น สิ่งแรกที่ผมทำ ก็คือ บอกกับทุกคนว่า 'ลองไปดู Joffrey ซะ' "

ขณะที่ Benioff กับ Weiss ยังได้แบ่งปันความปลาบปลื้มของตนเองที่มีต่อ Kingdom. โดยได้กล่าวชมงานภาพบนเทรลเลอร์ , ตัวหนังมีการสื่อเรื่องราวได้อย่างยอดเยี่ยม รวมไปถึง ทั้งคู่ได้กล่าวชื่นชมความใส่ใจที่มีต่อรายละเอียดต่างๆ รวมไปถึง ความลึกซึ้งของตัวละครทุกตัว

ในตอนท้าย คู่หูผู้สร้าง Game of Thrones ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการผลิตหนังของญี่ปุ่นและอังกฤษ ต่างมีอิทธิพลซึ่งกันและกัน Benioff กล่าวว่า "ในตอนที่เรากำลังถ่ายทำ Game of Thrones เราก็ได้รับแรงบันดาลใจจาก Ran ของ Akira Kurosawa โดยตัว Kurosawa เอง ยังได้รับแรงบันดาลใจมาจากผลงานของ Shakespeare ดังนั้น ผมจึงรู้สึกได้ว่า งานเหล่านี้มีอิทธิพลกันทั้งประเทศ"

หนังคนแสดงของ Kingdom ที่ดัดแปลงมาจากมังงะอิงประวัติศาสตร์จีนของ อ.Hara เข้าฉายในญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 19 เม.ย. สามารถขายตั๋วได้ 506,861 ใบ กับรายได้ 690,219,500 เยน ในช่วงสามวันแรก

ขณะที่ A Song of Ice and Fire ผลงานนิยายแฟนตาซีของ George R. R. Martin เป็นแรงบันดาลใจให้กับละครซีรี่ย์ Game of Thrones ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงบนหน้าจอทีวี โดยออกอากาศครั้งแรก เมื่อ เม.ย. 2011 และเพิ่งฉายซีซั่น 8 และ ซีซํ่นสุดท้าย จบลง เมื่อ พ.ค. 2019 ที่ผ่านมา

แหล่งข่าวและรูปภาพ : Comic Natalie , Anime News Network

 


มังงะ Orange จะอวสานอย่างแท้ทรู ณ เล่ม 7

อ.Ichigo Takano ผู้แต่งมังงะเรื่อง Orange ได้แจ้งข่าวแก่แฟนๆ ผ่าน twitter ส่วนตัวว่า มังงะฉบับรวมเล่มที่ 7 ของ Orange จะเป็นเล่มจบของเรื่องนี้อย่างแท้จริง

Orange เป็นเรื่องราวของ Takamiya Naho เด็กสาววัย 16 ปี ได้รับจดหมายลึกลับ ที่มาจากตัวเธอในวัย 27 ปี ซึ่งในจดหมายได้เล่าว่า จะมีนักเรียนย้ายมาใหม่ ผู้มีชื่อว่า Naruse Kakeru มาเป็นเพื่อนร่วมชั้นกับเธอ พร้อมกับขอร้องให้เธอช่วยเฝ้ามองคนๆนี้ ซึ่ง Naho ก็ยอมทำตามที่จดหมายแนะนำ แต่ก็นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตในอนาคตของเธอ กับ Kakeru ด้วยเช่นกัน

Orange ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Bessatsu Margaret เมื่อปี 2012 ก่อนจะย้ายค่ายไปตีพิมพ์ให้กันบนิตยสาร Monthly Action ในปี 2013 และตีพิมพ์อย่างต่อเนื่องจนจบลง เมื่อ ส.ค. 2015 แม้ว่า มังงะเนื้อหาหลักของเรื่องนี้ จะจบลง ณ ฉบับรวมเล่มที่ 5 ก็ตาม แต่ถึงกระนั้น อ.Takano ยังได้สานต่อเรื่องราวเพิ่มเติม กับ มังงะดัดแปลงจากหนังอนิเมชุด Orange -Mirai- แล้วก็ มังงะสปินออฟ 2 ตอนจบ ชุด Orange -Suwa Hiroto- ซึ่งมังงะทั้ง 2 ชุดนี้ ได้บรรจุลงในฉบับรวมเล่มที่ 6 ของเรื่องนี้ ที่วางขายไปเมื่อ พ.ค. 2017 ก่อนที่มังงะเล่ม 6 จะเปิดเผยว่า เรื่องนี้ยังคงมีต่อ กับเล่มที่ 7

ต่อมา เรื่องนี้ได้ถูกดัดแปลงเป็นหนังคนแสดง และ อนิเมทีวี เมื่อ ธ.ค. 2015 กับ ก.ค. 2016 ตามลำดับ



แหล่งข่าว : , Anime News Network

 


Kishuku Gakkou no Juliet "รักลับๆข้ามหอของนายหมากับน้องแมว" เตรียมปิดฉากตำนานรัก 4 ก.ย. 2019

นิตยสาร Shounen Magazine ฉบับที่ 39/2019 ได้แจ้งว่า Kishuku Gakkou no Juliet ผลงานมังงะแนวโรแมนติคคอเมดี้ของ อ.Yousuke Kaneda ซึ่งรู้จักในหมู่คนอ่านบ้านเรา ในชื่อ รักลับๆข้ามหอของนายหมากับน้องแมว (สนพ.รักพิมพ์) กำลังจะอวสานลง ใน Magazine ฉบับหน้า ที่จะวางขายในวันที่ 4 ก.ย. 2019 นี้

รักลับๆข้ามหอของนายหมากับน้องแมว เป็นมังงะที่ดัดแปลงมาจาก Romeo & Juliet กับเรื่องราวความรักต้องห้ามที่เกิดขึ้นกับหนุ่มสาว 2 คน ผู้มาจากชาติที่เป็นอริกัน นำโดย Romio Inuzuka จาก ประเทศ Tōwa และ Juliet Percia จาก ราชรัฐ West

อ.Kaneda เขียนเรื่องนี้ลงนิตยสาร Bessatsu Shōnen Magazine เมื่อปี 2015 (เคยตีพิมพ์เป็นเรื่องสั้นมาก่อน ลงในนิตยสารเดียวกัน เมื่อปี 2014) ก่อนจะย้ายไปตีพิมพ์ประจำใน Shōnen Magazine เล่มหลัก เมื่อปี 2017 ซึ่งเรื่องนี้เคยเข้าชิงรางวัล Kodansha Manga Awards ครั้งที่ 41 สาขาการ์ตูนวัยรุ่นชายมาแล้ว เมื่อปี 2017 ต่อมาได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี 12 ตอน ออกอากาศเมื่อ 5 ต.ค. 2018


แหล่งข่าว : Mantan WebMAL


GUNNM Mars Chronicle "ไซเบอร์เพชฌฆาต ภาคลำนำดาวแดง" จะหยุดตีพิมพ์ 2 ฉบับรวด

นิตยสาร Evening ฉบับที่ 18/2019 ได้แจ้งว่า GUNNM Mars Chronicle หรือ ไซเบอร์เพชฌฆาต ภาคลำนำดาวแดง มังงะภาคปัจจุบันของ GUNNM ของ อ. Yukito Kishiro จะหยุดตีพิมพ์ 2 ฉบับรวด ใน Evening ฉบับที่ 19 และ 20 ตามลำดับ และจะกลับมาตีพิมพ์ตามปกติ ใน Evening ฉบับที่ 21 ที่จะวางขายในวันที่ 8 ต.ค. 2019 โดยสาเหตุของการหยุดตีพิมพ์ครั้งนี้ มาจากปัญหาด้านสุขภาพของ อ.Kishiro ส่งผลให้ มังงะตอนล่าสุดของ GUNNM Mars Chronicle มีจำนวนหน้าลดลงจากปกติ อย่างไรก็ตาม นิตยสารระบุว่า อ.Kishiro ยังคงเขียนต้นฉบับตอนใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งๆที่ สุขภาพของเขาไม่สู้ดี แต่สุดท้าย เขาไม่สามารถจะเขียนเสร็จทันตามเวลาที่กำหนด

GUNNM Mars Chronicle ตีพิมพ์ลงใน Evening เมื่อ เม.ย. 2014 เป็นเรื่องราวของไซบอร์กสาว Gally ( หรือ Alita ตามชื่อเรียกฝั่งตะวันตก) เดินทางไปยังดาวอังคาร เพื่อค้นพบต้นกำเนิดของตนเอง พร้อมกับตามหาตัวตนที่แท้จริงของเธอ

GUNNM ซีรี่ย์มหากาพย์การผจญภัยของไซบอร์กสาว Gally ตีพิมพ์ภาคแรกกับ Battle Angel GUNNM (Battle Angel Alita) เมื่อปี 1990-1995 ตามด้วย มังงะภาคต่ออย่าง GUNNM: Last Order (Battle Angel Alita: Last Order) เมื่อปี 2001 ก่อนที่ อ.Kishiro จะพาเรื่องนี้ย้ายค่ายจาก Shueisha ไปยัง Kodansha ในเวลาต่อมา เนื่องจากปัญหาข้อพิพาทระหว่างเขา กับนิตยสาร Ultra Jump ของ Shueisha (ที่ตีพิมพ์ Last Order ในขณะนั้น) ต่อมา ได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์คนแสดง ในชื่อ Alita Battle Angel เมื่อ ก.พ. 2019

แหล่งข่าวและทวีต : Anime News Network

 


[Update เหตุเพลิงไหม้ KyoAni] ร้านค้าออนไลน์ของ KyoAni เปิดให้บริการอีกครั้ง , จนท.ตำรวจ เผยรายชื่อผู้เสียชีวิตที่เหลือ , เปลี่ยนงานอีเว้นต์แฟนคลับ กลายเป็น งานรำลึกผู้เสียชีวิต แทน

อัพเดทความคืบหน้าล่าสุดที่เกิดขึ้นกับ Kyoto Animation หลังจากเหตุลอบวางเพลิงสตูดิโอ 1 ของพวกเขา ผ่านไปกว่า 1 เดือน

ล่าสุด ร้านค้าออนไลน์ของ Kyoto Animation ที่จัดจำหน่ายสินค้าคาแร็คเตอร์ ที่ระลึก จากผลงานอนิเมของสตูดิโอแห่งนี้ ได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง เมื่อ 26 ส.ค. 2019 หลังจากปิดบริการมานานกว่า 1 เดือน หลังจากเหตุลอบวางเพลิงสตูดิโอ 1 เมื่อ 18 ก.ค. 2019 โดย twitter ของ KyoAni ระบุว่า ทางร้านจะรับออเดอร์จากลูกค้าอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นอีกช่องทางหนึ่ง ที่แฟนๆสามารถให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน ให้กับทางสตูดิโอได้

**********************************


ขณะเดียวกัน จนท.ตำรวจเกียวโต ได้เปิดเผยรายชื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุลอบวางเพลิงสตูดิโอ 1 ของ KyoAni จำนวน 25 คนที่เหลือแล้ว เมื่อวันที่ 27 ส.ค. 2019 ที่ผ่านมา หลังจากที่มีการเปิดเผยรายชื่อผู้เสียชีวิต จำนวน 10 รายแรก ไปก่อนหน้านี้ เพียงแต่ในคราวนี้ จะไม่มีการเปิดเผยชื่อผู้เสียชีวิตออกผ่านทางสื่อใดๆ (ยกเว้นบางรายที่มีการเปิดเผยชื่อ ซึ่งล้วนได้รับการยินยอมจากสมาชิกครอบครัวผู้เสียชีวิตแล้ว)

 

**********************************

อีกด้านหนึ่ง Livedoor ได้รายงานว่า ทาง KyoAni ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบของงานอีเว้นต์แฟนคลับของสตูดิโอ KyoAni กับ Studio Do ในช่วงปลายปี 2019 ให้กลายเป็นงานรำลึกผู้เสียชีวิตจากเหตุลอบวางเพลิงแทน ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางเว็บไซต์หลักของงาน Enjoy! The World Of Kyoani And Do ได้ประกาศยกเลิกกิจกรรมบนเวทีทั้งหมด พร้อมกับหยุดวางจำหน่ายตั๋วเข้าชมงานล่วงหน้า

โดย Hideaki Hatta ประธานของ KyoAni ต้องการให้มีงานรำลึกเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ แต่จากการที่มีการปรึกษาหารือกันของผู้เกี่ยวข้อง จนได้ข้อสรุปตรงกันว่า จะเปลี่ยนจากงานเฉลิมฉลองของสตูดิโอ ไปเป็นงานรำลึกให้เกียรติให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไป อีกทั้ง ทางสตูดิโอ กำลังพิจารณา ให้มีการจัดแสดงผลงานต่างๆของผู้ที่จากไป พร้อมกับประดับประดาไปด้วยช่อดอกไม้


แหล่งข่าว : Anime News Network , Crunchyroll



อนิเม "คนเล็กทะยานฟ้า" จะฉายยาว 1 ปีเต็ม

เว็บไซต์หลักของอนิเม Ahiru no Sora หรือ คนเล็กทะยานฟ้า ได้แจ้งว่า อนิเมดัดแปลงจากมังงะแนวบาสเก็ตบอล(ขยันแพ้มากกว่าชนะ) ของ อ. Takeshi Hinata จะฉายให้ชมกันเต็มอิ่มบนหน้าจอทีวี ถึง 4 คอร์ หรือราว 1 ปีเต็มด้วยกัน (1 คอร์ เท่ากับ 1 ไตรมาส) มีกำหนดฉายตอนแรก ในวันที่ 2 ต.ค. 2019 เวลา 18.25 น. ทางช่อง TV Tokyo

Keizou Kusakawa (Fuuka, Aho Girl, Kan Colle) รับหน้าที่หัวหน้า ผกก.อนิเมชั่น ขณะที่ Shingo Tamaki (Aho Girl) เป็นผกก.หลัก ณ สตูดิโอ diomedéa. Go Zappa (Beatless, Koihime Musō, Blend S) เป็นผู้จัดลำดับเรื่อง โดยมี Yoshino Honda (Fuuka) เป็นผู้ออกแบบตัวละคร ส่วน Hiroaki Tsutsumi เป็นผู้เรียบเรียงดนตรี โดยที่วง the pillows เป็นผู้ขับร้องเพลงเปิด "Happy Go Ducky!" ขณะที่ saji เป็นผู้ขับร้องเพลงปิด "Tsubasa."

คนเล็กทะยานฟ้า เป็นเรื่องราวของ Sora หนุ่มร่างเล็กผู้มีแพชชั่นในบาสเก็ตบอล ที่ได้เข้าร่วมชมรมบาส ของรร.ม.ปลาย ซึ่งชมรมดังกล่าวถูกควบคุมโดยคู่พี่น้องฝาแฝดเด็กเก และ สหายของเขา โดย Sora จะนำพาชมรมบาสแห่งนี้ไปถึงฝั่งฝันได้ไกลแค่ไหนกัน?



แหล่งข่าว : Comic Natalie , Anime News Network


มังงะ BL "Sekaiichi Hatsukoi" กำลังจะกลับมาสร้างความจิ้น กับอนิเมชุดใหม่

Sekaiichi Hatsukoi มังงะแนว Boys' Love (BL) ขวัญใจสาววาย เรื่องก้อง ของ อ.Shungiku Nakamura กำลังจะมีโปรเจ็คอนิเมชุดใหม่ล่าสุด ที่มีชื่อว่า Sekaiichi Hatsukoi: Propose-hen ซึ่งข่าวดังกล่าว มีการประกาศมาจาก แถบคาดปกของฉบับรวมเล่ม 24 ของมังงะ Junjou Romantica ของ อ.Nakamura อีกทั้งโปรเจ็คดังกล่าว ยังเป็นส่วนหนึ่งของการฉลองครบรอบ 5 ปี ของนิตยสาร Emerald ต้นสังกัดปัจจุบันของมังงะ Sekaiichi Hatsukoi

Sekaiichi Hatsukoi เป็นเรื่องราวของ Ritsu Onodera ที่ตัดสินใจลาออกจากการเป็นบก.ให้กับสนพ.ของคุณพ่อเขา ไปยังสนพ.Marukawa Publishing ซึ่งที่นั่นเอง เขาได้รับมอบหมายให้ทำงานในกองบก.มังงะแนวโชโจนิตยสาร Emerald ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่ถนัดและไม่สนใจใดๆ จนกระทั่ง เขาได้พบกับ Masamune Takano เจ้านายของเขา ซึ่งเคยเป็นคนรักเก่าของเขา เมื่อสมัยม.ปลาย และแล้วทั้งคู่ได้เดินหน้าสร้างความสัมพันธ์ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

มังงะเรื่องนี้ ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสาร The Ruby เมื่อปี 2006 ก่อนจะย้ายไปลงในนิตยสาร Asuka Ciel เมื่อปี 2009 และ Emerald (ที่ตั้งมาจากนิตยสรในการ์ตูน) เมื่อปลายปี 2014 โดยเรื่องนี้เคยถูกดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี 2 ซีซั่น เมื่อปี 2011 รวมถึง OAD แถมมากับมังงะรวมเล่ม 2 ชุด แล้วก็ หนังอนิเมชุด Sekaiichi Hatsukoi: Yokozawa Takafumi no Baai เมื่อ มี.ค. 2014


แหล่งข่าวและรูปภาพ :   MAL


Uzumaki "ก้นหอยมรณะ" เตรียมขยับขยายความหลอน ในรูปแบบอนิเมซีรี่ย์

งาน Crunchyroll Expo เมื่อ 30 ส.ค. 2019 ที่ผ่านมา ได้มีการประกาศว่า Uzumaki หรือ ก้นหอยมรณะ ผลงานมังงะแนวเขย่าขวัญเรื่องดังของ อ.Junji Ito กำลังจะได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเมซีรี่ย์แล้ว โดยได้ Hiroshi Nagahama (Mushishi, Aku no Hana) เป็นผู้กำกับ ผลิตโดยสตูดิโอ Production I.G และบรรเลงดนตรีโดย Colin Stetson (Hereditary) อนิเมมินิซีรี่ย์ 4 ตอน ของเรื่องนี้ มีกำหนดออกอากาศทางช่อง Adult Swim (ในเครือ Cartoon Network) ช่วง Toonami ในปี 2020 ก่อนจะออกอากาศที่ญี่ปุ่นในภายหลัง

ก้นหอยมรณะ เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมือง Kurouzu-cho เมื่อ Kirie Goshima ได้เดินทางไปยังสถานีรถไฟเพื่อพบกับ Shuuichi Saito แฟนหนุ่มของเขา พร้อมกับเล่าเรื่องราวที่คุณพ่อของเธอเกิดความผิดปกติ ให้ Shuuichi ได้รับฟัง Shuuichi จึงได้ชักชวนเธอให้หนีออกจากเมืองนี้ด้วยกัน พร้อมกับเปิดเผยความจริงที่ว่า ชาวเมืองนี้กำลังตกอยู่ภายใต้คำสาปก้นหอย ซึ่งทั้งคู่จะต้องพยายามหลีกหนีจากคำสาปนี้ ไปพร้อมๆกับการไขปริศนาความจริงที่เกิดขึ้น

ก้นหอยมรณะ ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Big Comic Spirits ช่วงปี 1998-1999 จำนวน 3 เล่มจบ ก่อนจะได้รับการตีพิมพ์ในเวอร์ชั่นใหม่ จำนวน 2 เล่ม วางจำหน่ายเมื่อ มี.ค. 2000 กับ ส.ค. 2010 ต่อมาได้รับการดัดแปลงเป็นหนังคนแสดง นำแสดงโดย Eriko Hatsune, Shin Eun-kyung, และ Fhi Fan ออกฉายที่ญี่ปุ่น เมื่อปี 2000


แหล่งข่าว :   MAL


REAL จะกลับมานั่งรถเข็นยัดห่วงอีกครั้ง พ.ย. 2019

REAL มังงะแนววีลแชร์บาสของ อ.Takehiko Inoue เพิ่งจะตีพิมพ์ตอนใหม่ล่าสุด ในนิตยสาร Young Jump ฉบับที่ 39 เมื่อ 29 ส.ค. 2019 ที่ผ่านมานี้เอง (หลังจากก่อนหน้านี้ เพิ่งกลับมาตีพิมพ์ 1 ตอน เมื่อ พ.ค. 2019 หลังจากหยุดเขียนไปยาวถึง 5 ปีเต็ม) ซึ่งจากประกาศล่าสุดใน Young Jump ฉบับที่ 39 ก็พอส่งสัญญาณว่า เราจะได้ติดตามอ่าน REAL กันบ่อยครั้งขึ้น (แม้ว่าจะยังคงพิมพ์แบบรายสะดวกอยู่ก็ตาม) นั่นคือ เรื่องนี้จะกลับมาตีพิมพ์ตอนถัดไป ในช่วงปลายเดือน พ.ย. 2019 นี้

REAL นำเสนอเรื่องราวของชายหนุ่ม 3 คน ที่ต่างประสบกับเหตุการณ์สุดเศร้าอันเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิต แต่จากการที่พวกเขามีความรักและคลั่งไคล้ในบาสเก็ตบอล ก็เลยทำให้บาสเก็ตบอลเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวในการใช้ชีวิตของพวกเขา ... โดยเรื่องนี้ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 2000 และตีพิมพ์รายสัปดาห์อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งปลายปี 2014 ที่เรื่องนี้หยุดตีพิมพ์อย่างไม่มีกำหนด ต่อมาได้รับรางวัลยอดเยี่ยมจากเวที Japan Media Arts Festival Awards ครั้งที่ 5 เมื่อปี 2001 อีกทั้ง เรื่องนี้มียอดตีพิมพ์ถึง 14 ล้านเล่ม เมื่อปี 2013



แหล่งข่าว : Anime News Network



นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เผยมูลค่าบ้านพัก จากอนิเมยุคเก่า

บรรดาบ้านพักที่ปรากฏในอนิเมสมัยเก่า ที่เราคุ้นเคยกันจนชินตา ทั้งบ้านของ Nobita จาก Doraemon เอย บ้านของครอบครัว Nohara จาก Shinchan เป็นต้น คงจะมีคนจำนวนหนึ่ง ที่อดสงสัยในเรื่องของมูลค่าของตัวบ้านของแต่ละเรื่องนั้น แท้จริงมีมูลค่าแค่ไหนกัน? ซึ่งข้อมูลน่าเหลือเชื่อดังกล่าว ได้รับการเปิดเผยมาจากบทความหนึ่งของเว็บไซต์ Felton Village เว็บไซต์ที่นำเสนอข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์ , ประกันภัย และ ประกันสุขภาพ

บทความดังกล่าว เขียนโดย Ayato Nishikido ที่เริ่มต้นมาจากการที่เขาไปเยี่ยม Akihito Kageyama นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ผู้เชี่ยวชาญในการสร้างแผนผังบ้านจากการ์ตูน-อนิเมดัง ซึ่ง Kageyama ได้นำเสนอแผนผังบ้านแบบพิมพ์เขียว ของบ้านพักจากอนิเมดังสมัยอดีต ที่อยู่คู่กับชาวญี่ปุ่นมานาน จำนวน 4 หลัง ได้แก่ บ้านครอบครัว Nobi จาก Doraemon , บ้านครอบครัว Nohara จาก Crayon Shin-chan, บ้านครอบครัว Sakura จาก Chibi Maruko-chan, และ บ้านครอบครัว Fuguta กับ Isonos จาก Sazae-san

ต่อจากนั้น แบบแปลนดังกล่าว ถูกส่งต่อให้กับ Katsunori Fujita นักประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ จากโยโกฮาม่า และเป็นนักวิ่งผลัดดีกรีรางวัลชนะเลิศ โดยเกณฑ์การตีราคานั้น ต้องคำนึงถึงข้อมูลสถานที่ตั้ง พื้นที่เพาะปลูก และตลาดท้องถิ่น เป็นหลัก ซึ่ง Fujita ได้ประเมินราคาบ้านทั้งหมด คือ 0 เยน !!!! โดยให้เหตุผลว่า บ้านเหล่านี้มีอายุมากกว่า 20 ปีแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นบ้านที่ไม่มีมูลค่า ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ญี่ปุ่น

Fujita ยังอธิบายต่อว่า หนทางเดียวที่บ้านเหล่านี้จะสร้างมูลค่าใดๆได้ ควรจะต้องทุบบ้านทิ้ง และ ตีราคาที่ดินเสียใหม่ โดยหักค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนบ้านออกไป และพอเขากลับไปคิดคำนวนใหม่ ปรากฏว่า บ้านที่ครองแชมป์ที่ดินราคาสูงที่สุด คือ บ้านครอบครัว Fuguta กับ Isonos จาก Sazae-san ด้วยราคามากกว่า 162,000,000 เยน โดยมี บ้านของ Nobita ตามมาเป็นอันดับ 2 ด้วยราคากว่า 64,000,000 เยน

สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม (พร้อมรายละเอียดแปลนบ้านจากอนิเมในแต่ละชั้น) ที่ https://rougo-ansin.jp/animehouse-value/ (ภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ)

แหล่งข่าวและรูปภาพ : Otakomu , Crunchyroll

 

 


Shibuya 109 สำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายเงินของโอตาคุสาวอนิเม

Shibuya 109 lab ได้เปิดเผยผลสำรวจเกี่ยวกับพฤติกรรมความเป็นโอตาคุ (แหล่งข่าวใช้คำว่า Wotaku) ของบรรดาสาวๆ ผู้ได้ใช้จ่ายเงินและเวลาไปกับงานอดิเรก หรือ สิ่งที่ชอบ ส่วนตัว เมื่อ 27 ส.ค. 2019 หลังจากที่ได้มีการสำรวจกลุ่มตัวอย่าง ซึ่งเป็นสาวช่วงอายุราว 20 ปีต้นๆ จำนวน 230 คน ไปเมื่อ ก.ค. 2019

ผลสำรวจปรากฏว่า 72.6% ของผู้ตอบแบบสอบถาม รับสารภาพว่า เป็น โอตาคุ (Wotaku) ในขณะที่ สิ่งที่กลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามสนใจมากที่สุด คือ ไอด้อล/เซเลบชาย ชาวญี่ปุ่น (38.3%) ตามมาด้วย ไอด้อล/เซเลบชายชาวต่างประเทศ (12.6%) และ อนิเม มังงะ กับ เกม (4.2%)

ในส่วนข้อมูลมูลค่าการใช้จ่ายเงินไปกับสิ่งที่ชอบ พบว่า 15.6% ของผู้ตอบแบบสอบถาม ใช้จ่ายเงินมากกว่า 150,000 เยนต่อปี ซึ่งเป็นคำตอบที่มีคนตอบมากที่สุด ตามด้วย การใช้จ่ายเงินหมดไปกับสิ่งที่ชอบจำนวนราว 10,000-20,000 เยนต่อปี (15%).

ส่วนหัวข้อการแสดงออกของกลุ่มแฟนๆ พบว่า ตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ งานอีเว้นต์ / คอนเสิร์ต (85.6%) และการรวบรวมข้อมูลบน Twitter (73.1%) โดยผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ได้พบปะ รู้จักเพื่อนโอตาคุด้วยกัน จากการโพสต์ภายใต้แฮชแท็กที่เกี่ยวข้อง (59.3%) และการค้นหาแฮชแท็ก (55.7%) ส่วนผู้ตอบแบบสอบถามที่ได้ทำกิจกรรมโอตาคุกับผู้อื่น มักจะแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (62.9%) และ/หรือ พบกันในคอนเสิร์ต (59.9%) เป็นต้น

ผลจากการสำรวจครั้งนี้ ก็สอดคล้องกับ ผลสำรวจจาก Rakuma เมื่อต้นปี 2019 ที่ระบุว่า 80% ของสาว ม.ปลาย ต่างยอมรับว่าเป็นโอตาคุสายหนึ่งสายใด


 

แหล่งข่าว : Shibuya 109 lab , Mantan Web , Anime News Network

 


โปรดิวเซอร์ Square Enix แชร์ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเหตุขู่วางเพลิงค่ายเกมของพวกเขา

สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ มีข่าวการจับกุมตัวชายผู้หนึ่ง ในข้อหาข่มขู่และพยายามขัดขวางการดำเนินธุรกิจของค่ายเกม Square Enix จากการที่เขาได้ส่งข้อความข่มขู่วางเพลิงค่ายเกมแห่งนี้ ให้ซ้ำรอยกับ เหตุการณ์ลอบวางเพลิงที่เกิดขึ้นกับ สตูดิโอ 1 ของ Kyoto Animation เมื่อ 18 ก.ค. 2019 ผ่านทางแบบฟอร์มติดต่อบนเว็บไซต์หลักของ Square Enix

จากสิ่งที่เกิดขึ้น แม้ว่า Square Enix จะรอดพ้นจากเหตุโศกนาฏกรรมนี้ แต่ทางค่ายเกมก็ได้รับผลกระทบด้านต่างๆจากการข่มขู่ในครั้งนี้ เช่นกัน โดย Yūichi Tanzawa นักออกแบบ และ โปรดิวเซอร์เกม ผู้ซึ่งทำงานให้กับค่าย Square Enix มาตั้งแต่ปี 2010 ได้ออกมาโพสต์ระบายเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเหตุข่มขู่ในครั้งนี้ กล่าวว่า เกมที่เขาได้มีส่วนร่วมในการสร้างนั้น เป็นเกมที่เป็นประเด็นในข้อความขู่นั้น แม้ว่าข้อความดังกล่าวจะไม่มีการระบุชื่อถึงเขาให้ตกเป็นเป้าหมายก่อความรุนแรง ถึงกระนั้น มันก็เหมือนกับว่า สต๊าฟทุกคนต่างถูกข่มขู่หมด ในฐานะที่เขาเป็นคนนำโปรเจ็ค เขารู้สึกว่ามันอันตรายมากๆ

Tanzawa เขียนต่อว่า เขามักจะรู้สึกราวกับว่า ความรักของแฟน ๆ ที่มีต่อเกมนั้น แม้จะบิดเบี้ยวไปบ้าง แต่ก็ยังได้รับการชื่นชมมาถึงผู้สร้าง อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้ไม่ได้เกี่ยวกับเขา แต่มันส่งผลกระทบต่อทุกคนในบริษัท นอกเหนือจากการแจ้งความต่อตำรวจ และเพิ่มระดับการรักษาความปลอดภัยให้แน่นหนาขึ้น ซึ่งยังไม่มากพอที่จะทำให้คนสามารถทำได้เพื่อปกป้องตนเองจากเจตนาร้าย จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้งานอีเว้นต์ฤดูร้อนสำหรับเกม ถูกยกเลิกไปพร้อมๆกับอีเว้นต์อื่นที่ยังไม่ได้ประกาศ

เขายังอธิบายต่อว่า เหตุการณ์นี้ยังได้ส่งผลต่อชีวิตประจำวันของเขาด้วย ซึ่งตอนนี้ เขารู้สึกหวาดระแวง เมื่อเห็นใครบางคนบุกเข้ามาที่สถานีรถไฟ หรือ เข้าใกล้เขาอย่างรวดเร็ว หรือเมื่อใดก็ตาม ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินตามหลังเขาในตอนกลางคืน “ความเหนื่อยล้าที่สร้างขึ้นภายในตัวผม และผมรู้สึกว่า ผมอยากจะพักผ่อน” "ยิ่งไปกว่านั้น มันได้ทำลายแรงจูงใจในการสร้างเกมของผมด้วย"

Tanzawa กล่าวว่า เขาชื่นชอบเกมมาตั้งแต่เด็ก และเขาเชื่อมั่นว่า เกมจะนำพาผู้คนไปด้วยกัน และด้วยเหตุผลนี้ เขาหวังว่าทุกคนจะสนุกสนานไปกับเกมของเขา อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถพาตัวเองให้รู้สึกถึงคนที่เข้ามาข่มขู่ตัวเขาและลูกทีม และเขาไม่สามารถทำให้ตัวเองรู้สึกชื่นชอบกับคนที่ทึกทักเอาเองเกี่ยวกับ Square Enix ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เขาตระหนักว่า มนุษย์ไม่สามารถแยกแยะได้เกินกว่าความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดของพวกเขา และเมื่อฐานผู้เล่นเกมมีขนาดใหญ่ขึ้น ผู้สร้างและผู้ผลิตกลับถูกลดทอนความเป็นมนุษย์ เช่นกัน

Tanzawa กล่าวอีกว่า เขาทำงานอย่างไม่เหน็ดเหนื่ออยู่เสมอ เพื่อนำเอารอยยิ้มออกมาจากใบหน้าของผู้เล่น มากกว่าการกล่าวถึงเวลาว่างและการนอนหลับของเขา แต่ตอนนี้เขาได้พบว่า ตนกำลังสงสัยว่ามันจะเป็นแบบนี้ต่อไปหรือเปล่า และเมื่อเขาใจเย็นลง เขาจะประเมินอีกครั้งว่า เขามีความต้องการอยากจะทำเกมต่อในระยะยาวหรือไม่

Tanzawa ได้รับเครดิตเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับเกมอาร์เคต Starwing Paradox ซึ่งอีเว้นต์แข่งเกมดังกล่าวได้ถูกยกเลิกไป เนื่องจาก ได้รับข้อความขู่ฆ่าเป็นจำนวนมาก (ซึ่งบางกระแส มองว่า สาเหตุที่อีเว้นต์ยกเลิก ก็เพราะ Yoshiyuki Sadamoto คนออกแบบตัวละครให้เกมนี้ ดันไปวิจารณ์รูปปั้นนางบำเรอของเกาหลีในทางที่ไม่ดี ซึ่งทางผู้จัดอีเว้นต์ดังกล่าว ได้แถลงในภายหลังว่า ไม่เกี่ยวกับดราม่าของ Sadamoto แต่อย่างใด)



 

แหล่งข่าว :  Yūichi Tanzawa's Note.mu , Anime News Network


Shoko Nakagawa เผยเคยถูกกลั่นแกล้งและคิดฆ่าตัวตาย ในช่วงวัยรุ่น

ปัญหาการกลั่นแกล้งกันในโรงเรียนญี่ปุ่น ที่หลายคนเคยพบเจอในการ์ตูน อนิเม หรือ ละครซีรี่ย์ และ หนัง จัดเป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นในสังคมญี่ปุ่น ที่ยังไม่ได้รับการแก้ปัญหาอย่างจริงๆจัง ซึ่งหารู้ไม่ว่า ปัญหาการกลั่นแกล้งที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นนั้น แม้แต่คนดัง คนมีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ก็เคยผ่านประสบการณ์สุดเลวร้ายมาแล้ว เช่นกัน

ล่าสุด Shoko Nakagawa หรือ Shokotan ไอด้อล นักร้อง นักแสดงสาว ได้เปิดตัวหนังสือ Shinun janēzo!!' Ijimerareteiru kimi wa zettai warukunai ซึ่งเป็นหนังสือที่บอกเล่าประสบการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับ Nakagawa สมัยวัยรุ่น ซึ่งเคยประสบปัญหาการถูกกลั่นแกล้ง จนทำเอาเธอรู้สึกแปลกแยก ซึมเศร้า ซะจนเคยคิดที่จะฆ่าตัวตายมาแล้ว

Nakagawa ได้อธิบายเรื่องราวสมัยวัยรุ่นของเธอ ในระหว่างให้สัมภาษณ์กับนสพ.Yomiuri Shimbun เธอกล่าวว่า เธอชอบในการวาดรูปจากการ์ตูน-เกม ตั้งแต่สมัยประถม แต่พอไปอยู่โรงเรียนหญิงล้วนตอน ม.ต้น ทุกสิ่งทุกอย่างมันเปลี่ยนไป คือ เธอถูกเพื่อนร่วมชั้น ซึ่งเป็นพวกสาวป๊อปแสดงอาการดูถูกและเรียกขานเธอว่าเป็นโอตาคุ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง และพยายามตีตัวออกห่างจากเธอ ซึ่งทำเอาเธอไม่อยากไปโรงเรียน แต่ก็ไม่อยากยอมรับว่าตนเองถูกกลั่นแกล้ง ก็เลยไม่เคยเล่าเรื่องน่าอายนี้ให้ใครฟัง อีกทั้ง เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอไปโรงเรียน เธอมักถูกกลั่นแกล้งด้วยการถูกจับโยนเข้าห้องน้ำ ด้วยเช่นกัน

Nakagawa ยังได้กล่าวถึงช่วงเวลาที่เธออยู่ ม.3 เธอพบว่า ชั้นเก็บรองเท้าของเธอที่โรงเรียน ก็ถูกละเลงอย่างเละเทะ จนกระทั่งวันหนึ่ง รองเท้าของเธอหายไป เธอได้แจ้งเรื่องนี้กับอาจารย์ที่โรงเรียน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เธอได้เปิดเผยเรื่องที่ตัวเองถูกกลั่นแกล้ง พออาจารย์ได้รับฟัง ก็เลยหารองเท้าคู่ใหม่มาให้ ทว่าในวันต่อมา ก๊วนเพื่อนที่แกล้งเธอก็ออกมาข่มขู่ เรียกร้องให้เธอต้องชดใช้มัน ซึ่งทำเอาเธอตัดสินใจไม่ไปโรงเรียน และไม่ได้เข้าร่วมพิธีจบการศึกษา และจากสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้เธอมีความทรงจำช่วงม.ต้นที่ไม่ดีนัก

อีกทั้งในบทสัมภาษณ์ดังกล่าว Nakagawa ยังเปิดเผยว่า เธอเคยคิดที่จะฆ่าตัวตายด้วย แต่ท้ายที่สุดแล้ว เธอตัดสินใจไม่ทำมัน ซึ่งทำให้เธอรู้สึกว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด "ตอนที่ชั้นถูกกลั่นแกล้ง สิ่งที่ช่วยบรรเทาความเจ็บปปวด ก็คือ การวาดภาพ , ฟังเพลง , อ่านการ์ตูน , เล่นเกม และ เข้าอินเตอร์เน็ต ดังนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณอยากจะตาย ได้โปรดอย่าส่งสายตาไปมองในสิ่งที่สร้างผลกระทบต่อคุณ หากคุณยังมีชีวิตอยู่ต่อไป สิ่งเล็กๆน้อยๆ อย่าง การกินอาหารอร่อยๆ , การรอคอยเกมใหม่ๆ มันสามารถช่วยให้วันนั้นดีขึ้นมาทีล่ะนิดๆ ชั้นต้องการให้คุณมีชีวิตอยู่ ในแต่ละวันๆ นะ"

Nakagawa ยังอธิบายถึงหนังสือของเธอ ให้เป็นข้อความที่ส่งถึงบรรดาวัยรุ่นที่กำลังประสบปัญหาเดียวกัน โดยมีเนื้อหาผสมผสานระหว่างร้อยแก้ว กับ มังงะ แถมชื่อหนังสือนั้น ก็อ้างอิงมาจากคำพูด Tomarun janēzo" (ไม่หยุดอีกเรอะ) จากอนิเม Mobile Suit Gundam: Iron-Blooded Orphans ที่กลายเป็นมีมดังทั่วเน็ตในช่วงเวลาไม่กี่ปี ซึ่งช่วงเวลาของการจัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้ เข้ากับช่วงเวลาที่มีอัตราการฆ่าตัวตายของเด็กวัยรุ่นญี่ปุ่นสูงที่สุด รวมถึง ยังเข้ากับช่วงปิดเทอมฤดูร้อน ที่กำลังจะผ่านพ้นไป

Nakagawa เป็นผู้ขับร้องเพลง "Sorairo Days." ให้กับอนิเม Gurren Lagann อีกทั้ง ยังเป็นนักพากย์รับเชิญให้กับหนังอนิเม Pokémon 12 ภาคติดต่อกัน รวมถึง หนัง Pokémon ชุด Pokémon the Movie: The Power of Us


 

แหล่งข่าว : Yomiuri Shimbun , Anime News Network

 


ตลาดอนิเม-มังงะในจีน มีมูลค่าเกิน 2.6 ล้านล้านเยน เมื่อปี 2018

Yahoo! Japan ได้รายงานโดยอ้างอิงจากข้อมูลของบริษัทวิจัยของจีนเจ้าหนึ่ง ระบุว่า ตลาดอนิเมมังงะในจีน เติบโตขึ้นถึง 171.2 พันล้านหยวน หรือ 2.6 ล้านล้านเยน เมื่อปี 2018 ซึ่งมากกว่า ข้อมูลจากรายงานตลาดอนิเมในญี่ปุ่น ประจำปี 2018 (รวบรวมข้อมูลจากปี 2017 ) ที่ทำรายได้ทั้งสิ้น 2.15 ล้านล้านเยน

จากข้างต้น รายงานตลาดอนิเม-มังงะในจีนนั้น จะแตกต่างจากรายงานตลาดอนิเมมังงะของญี่ปุ่น คือ รายงานของจีน จะรวมมังงะเข้าไป (ส่วนญี่ปุ่นไม่ได้รวมมังงะ) อีกทั้ง รายงานของญี่ปุ่นได้รวมข้อมูลตลาดอนิเมในประเทศ / นอกประเทศญี่ปุ่น รวมเข้าไปด้วย ซึ่งหากนับเฉพาะตลาดมังงะในญี่ปุ่น พบว่า ตลาดมังงะในญี่ปุ่นปี 2018 มีมูลค่าทั้งสิ้น 441.4 พันล้านเยน

ตลาดการ์ตูนในจีน เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเกือบ 2 เท่า ตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา ซึ่งในตอนนั้น ตลาดการ์ตูนในจีนมีมูลค่า 88.2 พันล้านหยวน (1.3 ล้านล้านเยน) สาเหตุหลักๆมาจากการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ในจีน ที่เผยแพร่มังงะของชาวจีนอย่างอิสระ รวมถึงการเติบโตของกลุ่มประชากรอายุน้อยที่ให้ความสนใจในอนิเมกับมังงะมากขึ้น

หนึ่งในเว็บไซต์ขนาดใหญ่ในจีน คือ Tencent ที่ได้เผยแพร่มังงะของคนจีนให้อ่านฟรี ซึ่งทางผู้สร้างจะได้รับรายได้มาจากจำนวนยอดเข้าชมเป็นหลัก โดยเว็บไซต์ดังกล่าวมีผู้ลงทะเบียนเป็นสมาชิกมากกว่า 150 ล้านคน ซึ่งมากกว่าจำนวนประชากรของญี่ปุ่นทั้งประเทศ !! และเป็นจำนวนครึ่งหนึ่งของประชากรในสหรัฐ โดยเรื่องที่มียอดผู้เข้าชมมากบนเว็บไซต์แห่งนี้ จะได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเมโดย Tencent Animation ซึ่งมีผลงานการ์ตูนมากกว่า 200 เรื่อง ที่มียอดผู้อ่านมากกว่า 1 พันล้านครั้งแล้ว ซึ่งข้อมูลดังกล่าว มาจากการเปิดเผยของ ฝ่ายจัดการธุรกิจอนิเมและมังงะของ Tencent

การเติบโตของอุตสาหกรรมการ์ตูนอนิเมของจีนก็มาจากภาครัฐบาลด้วยเช่นกัน หลักๆก็มาจากนโยบายของรัฐบาลจีนที่เข้ามาควบคุมการออกอากาศและจัดจำหน่ายอนิเมจากต่างประเทศ โดยในปี 2008 มีการจำกัดการออกอากาศรายการอนิเมต่างประเทศทางทีวี ให้ออกอากาศในช่วงเวลา 17.00-21.00 น. ซึ่งก็เป็นการช่วยกระตุ้นให้เกิดการเจริญเติบโตของการผลิตการ์ตูนในจีน เพื่อตอบสนองความต้องการในการออกอากาศอนิเมในช่วงเวลาดังกล่าว

ในปี 2015 Death Note , Attack on Titan รวมถึงอนิเมอีก 38 เรื่อง ต่างถูกแบนในจีน ด้วยเหตุผล “ เพื่อปกป้องการพัฒนาด้านสุขภาพของเยาวชน” ซึ่งมาจากการเปิดเผยของ Liu Qiang รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมจีน ที่ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น (ผ่าน Kotaku)

อีกสาเหตุหนึ่งที่ตลาดการ์ตูนจีนเติบโตขึ้น มาจากภาพยนตร์อนิเมชั่นของจีน ที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในจีน ประกอบกับคนชนชั้นกลางในจีนที่มีจำนวนมากขึ้น ที่น่าสนใจก็คือ หนัง Spirited Away ที่เพิ่งเข้าฉายครั้งแรกที่จีน เมื่อ มิ.ย. 2019 ทำเงินในจีนได้เพียง 70 ล้านเหรียญสหรัฐ เท่านั้น ซึ่งสวนทางกับ Nezha (หรือ นาจา) หนังอนิเมชั่นจีน ที่สามารถกวาดเงินได้มหาศาลถึง 641 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดทั่วโลก เป็นอันดับ 8 ในปี 2019 ในขณะนี้ ก่อนที่ตัวหนัง ได้เข้าฉายบนโรงที่สหรัฐฯ เมื่อ 29 ส.ค. 2019 ที่ผ่านมา

แหล่งข่าว : Crunchyroll


10 อันดับมังงะขายดีที่ญี่ปุ่น โดย Oricon : 19-25 ส.ค. 2019

(อันดับ / เรื่อง-เล่ม / ยอดขายประจำสัปดาห์)

01. Kingdom #55 (556,351 เล่ม)

02. Gekkan Shoujo Nozaki-kun นักเขียนหน้าตาย นายโนซากิคุง #11 (160,520 เล่ม)

03. Shingeki no Kyojin ผ่าพิภพไททัน #29 (112,677 เล่ม)

04. Uchuu Kyoudai สองสิงห์อวกาศ #36 (108,770 เล่ม)

05. Daiya no Ace / Act of Diamond Act II #18 (94,301 เล่ม )

06. Akatsuki no Yona กู้บัลลังก์มังกรแดง #30 (89,457 เล่ม )

07. Komi-san wa, Commu-shou Desu。#14 (53,778 เล่ม)

08. Days #34 (47,827 เล่ม)

09. Yakusoku no Neverland พันธสัญญาเนเวอร์แลนด์ #15 (46,939 เล่ม)

10. Atarashii Joushi wa Tennen #1 (43,227 เล่ม)



แหล่งข่าว : Oricon


 
free hit counter javascript