บอกเล่าข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 23-30 กันยายน 2562

บอกเล่าสรุปข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ กลับมาอีกครั้ง .......ในช่วงที่ฟ้าฝนเริ่มตกน้อยลง (แต่ต้องแลกกับการรีเทิร์นของ PM 2.5 -_-") ไปพร้อมๆกับ การที่น้องๆหลายๆคน ต่างทยอยสอบไล่ ปิดเทอมหนึ่งกันแล้ว ซึ่งในช่วงระยะเวลาปิดเทอม 1 เดือน ขอให้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์กัน อยากจะเสาะหาความรู้เพิ่มเติมอะไร ก็ให้เข้า google ตามที่ท่านนายกเค้าแนะนำมา!!!!!! .... แล้วก็ สำหรับบางเรื่อง ขอให้ปล่อยวางกันบ้าง ไม่งั้นจะหาความสุขกันไม่ได้นะเออ................

 

สำนักข่าว K-D News (kartoon-discovery.com)
สามารถอัพเดทข่าวสารเว็บเราได้ผ่าน Twitter และ Facebook


หากนำข่าวจากเราไปเผยแพร่ที่อื่น รบกวนใส่เครดิตให้กับทางเราด้วยครับ ขอบคุณครับ

New Release Comics of the Week : ความทรงจำหวนคืน กับ ดาบพิฆาตอสูร 14

การ์ตูนออกใหม่ ประจำสัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มจาก ดาบพิฆาตอสูร เล่ม 14 ฮังเทงงู อสูรที่แยกร่างตามลักษณะอารมณ์ จู่ๆ ร่างแยกก็รวมร่างกันและเข้าต่อสู้กับทันจิโร่! ฮังเทงงูกล่าวหาทันจิโร่ว่ากลั่นแกล้ง "ผู้อ่อนแอ" ทำเอาทันจิโร่ที่ต่อสู้อย่างยากลำบากถึงกับโมโหจัด!? อีกด้านหนึ่ง โทคิโท เสาหลักหมอกได้ความทรงจำในอดีตกลับคืน และเข้าต่อสู้กับเกียกโกะ ทันใดนั้น ก็เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นกับโทคิโท!!

One Punch Man เล่ม 17 กาโร่ตกที่นั่งลำบากเมื่อต้องเผชิญการกลุ้มรุมจากเหล่าฮีโร่ แต่ด้วยฝีมืออันเป็นของจริงแท้ จึงกลับเป็นฝ่ายโค่นฮีโร่ที่ดาหน้าเข้ามาเสียเอง ทั้งที่
ตนเองเป็นฝ่ายถูกรุมเล่นงาน แต่แล้วตอนนั้นเอง เจนอสกลับปรากฏตัวขึ้น!? ขณะเดียวกันไซตามะ ก็กำลังดวลเดือดอยู่กับคิงที่เริ่มหงุดหงิดจนคุมอารมณ์ไม่อยู่ขึ้นทุกขณะ...

แกล้งนัก รักนะรู้ยัง? เล่ม 4 ซีรี่ย์การ์ตูนเบาสมอง สาวหนุ่มแกล้งหยอกกันไปมา ที่นานๆ จะลงแผงที แถมยังส่ง ภาคแยกของเรื่องนี้อย่าง แกล้งนัก รัก(แล้ว)นะรู้ยัง? เล่ม 1 ลงแผงด้วย ซึ่งภาคแยกดังกล่าว เป็นเรื่องราวของคู่พระนางในอนาคต


นิยายน่าอ่าน รับงานมกรรมหนังสือ: ขี้เถ้าในกริมการ์แดนมายา เล่ม 8 , INDEX อินเดกซ์ คัมภีร์คาถาต้องห้าม เล่ม 22 ,ขอให้โชคดีมีชัยในโลกแฟนตาซี! เล่ม 12 ,Fate strange Fake เล่ม 3


เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ:

CITY HUNTER ตั้งแต่วันนี้จะเป็น "ซิตี้ฮันเตอร์" เล่ม 2 ,ไหงมาอยู่นี่ครับคุณครู!? เล่ม 3,Baby Step เล่ม 35,New Prince of Tennis เล่ม 9,Platinum End เล่ม 9,รักลับๆข้ามหอของนายหมากับน้องแมว เล่ม 11 ,OVERLORD เล่ม 5,มังกรอหังการ ภาคปราบดาแผ่นดิน เล่ม 4,โทโมดาจิ เกมมิตรภาพ เล่ม 14,GANGSTA. เล่ม 8

รูปภาพหน้าปก : amazon.co.jp

 


"ตาโปน" นักเขียนการ์ตูนไทยมากฝีมือ เสียชีวิตแล้ว

ข่าวเศร้าของวงการการ์ตูนไทย ที่ต้องสูญเสียศิลปินฝีมือดีในวงการไปอีก 1 ท่าน เมื่อ คุณกาย เบ็ญจ์ ศิลปินนักเขียนการ์ตูนไทยคนดัง ได้แจ้งข่าวบน Facebook ส่วนตัวของเขาว่า คุณชัยยันต์ สุยะเวช นักเขียนการ์ตูนไทยเจ้าของนามปากกา ตาโปน ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ จากอาการวูบเนื่องจากโรคความดัน เมื่อ 26 ก.ย. 2019 ที่ผ่านมา

จากนั้น คุณ บูรณา ผู้ช่วยของคุณตาโปน ได้โพสต์ข่าวยืนยันการเสียชีวิตของคุณตาโปน ผ่านทาง Facebook ของ TaponeStudio ComicTeam โดยระบุว่า คุณตาโปนเสียชีวิตเมื่อช่วงเวลาประมาณ 12.49 น. ของวันที่ 26 ก.ย. 2019 และได้มีการตั้งบำเพ็ญกุศลศพ ณ วัดเวฬุวนาราม(วัดไผ่เขียว) แขวง ดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ 27 ก.ย. 2019

คุณตาโปน จัดเป็นหนึ่งในศิลปินนักเขียนการ์ตูนไทย ผู้มากความสามารถ มีสไตล์การวาดลายเส้นอันงดงาม มีการนำเสนอความเป็นไทยผสมผสานเข้ากับสไตล์มังงะญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว จนได้รับการยอมรับจากบรรดานักอ่านการ์ตูนบ้านเราหลายต่อหลายคน โดยเขามีผลงานการ์ตูนชิ้นแรก คือ 'เพชรพระอุมา' ด้วยวัยเพียง 17 ปี ก่อนที่จะเพิ่มประสบการณ์ให้กับตนเอง ด้วยการเขียนการ์ตูนแนวเล่มละบาท เป็นระยะเวลากว่า 1 ปี จนกระทั่ง มาเขียนการ์ตูนให้กับนิตยสารการ์ตูน "ไทคอมิค" (ประมาณปี พ.ศ. 2535) ซึ่งตลอดระยะเวลามากกว่ายี่สิบปี คุณตาโปนได้สร้างสรรค์ผลงานการ์ตูนมากมาย เช่น เพชรพระอุมา, หาญผีสู้นรก, ตะกร้อ, ลูกไม้, ไกรทอง, กากี, ยันต์แมน, ไกรทอง, โอริณกับจินณา, Hot Beach ตบแหลก เป็นต้น

แหล่งข่าว : FB Guy Ben , FB TaponeStudio ComicTeam , Manager



Kazuko Nakamura อนิเมเตอร์หญิง ผู้บุกเบิกวงการอนิเมญี่ปุ่น ลาโลก ด้วยวัย 86 ปี

ข้ามฝากมายังข่าวเศร้าวงการอนิเมญี่ปุ่น เมื่อเว็บไซต์หลักของ Nikkan Sports กับ Sports Hochi ได้พร้อมใจกันรายงานว่า Kazuko Nakamura (หรือชื่อจริง Kazuko Katō) อนิเมเตอร์หญิงรุ่นเก๋าของวงการ ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ เมื่อ 3 ส.ค. 2019 ด้วยวัย 86 ปี ซึ่งพิธีศพของเธอนั้น จัดเป็นการส่วนตัวเฉพาะสมาชิกครอบครัวและเพื่อนๆของเธอ เท่านั้น

Nakamura จัดเป็นอนิเมเตอร์หญิงคนแรกๆ ที่ได้บุกเบิกวงการอนิเมญี่ปุ่น ในช่วงเวลาที่อนิเมเตอร์ในวงการอนิเม เป็นผู้ชายไปซะหมด โดยเธอทำงานให้กับสตูดิโอ Toei Doga (หรือ Toei Animation ในปัจจุบัน) เมื่อปี 1958 ในฐานะอนิเมเตอร์ผู้อยู่เบื้องหลัง ภาพยนตร์อนิเมชุด Hakujaden/The White Snake ต่อมา เธอทำงานเป็นอนิเมเตอร์ให้กับเรื่อง Astro Boy, Wonder Three, และA Thousand and One Nights ของ Mushi Productions สตูดิโออนิเมของ อ.Osamu Tezuka ปรมาจารย์การ์ตูนญี่ปุ่น ซึ่งที่สตูดิโอแห่งนี้ เธอมีผลงานเด่นในฐานะรับเหมาหน้าที่ทั้ง ออกแบบตัวละคร , กำกับศิลป์ และ ผกก.อนิเมชั่น ให้กับหนังอนิเม Princess Knight เมื่อปี 1967 รวมถึง รับหน้าที่เป็นผกก.อนิเมชั่นให้กับหนังอนิเมชุด Phoenix 2772 - Space Firebird

นอกจากนี้ เธอยังอยู่เบื้องหลังผลงานอนิเมเรื่องอื่นๆ อาทิ Cleopatra, Alakazam the Great, The Phoenix: Chapter of Dawn, Marvelous Melmo, Tales of the Street Corner, Magic Boy ฯลฯ

อนึ่ง Nakamura ยังได้กลายเป็นต้นฉบับของตัวละครสาว Asako Ōsawa / Mako-san ในละครทีวีชุด Natsuzora ที่กำลังออกอากาศทางช่อง NHK อยู่ในขณะนี้ ซึ่งละครดังกล่าว มีเนื้อหาบอกเล่าเกี่ยวกับวงการอนิเมญี่ปุ่นช่วงยุคแรกเริ่ม อีกทั้ง ตัว Nakamura เอง ก็มีชื่อเล่นว่า Wako-san อีกด้วย


แหล่งข่าว : Nikkan Sports , Sports Hochi , otakujp , Anime News Network


 

Syd Mead ศิลปิน นักออกแบบ จาก อนิเม ภาพยนตร์ดัง ประกาศวางมือแล้ว

Syd Mead ศิลปิน นักวาด นักออกแบบ จากภาพยนตร์ดังหลากหลายเรื่อง ได้ประกาศผ่านทางเว็บไซต์ส่วนตัว และ คลิปวีดีโอบนบอลของ Fireball Publishing ว่า เขาได้ปลดเกษียณตัวเองแล้ว หลังจากทำงานในวงการภาพยนตร์มานานหลายสิบปี

Mead เกิดที่รัฐ Minnesota สหรัฐ เมื่อปี 1933 เป็นที่รู้จักในฐานะเป็นผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะแนว neofuturist และ เป็นนักออกแบบอุตสาหกรรม โดยเขาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังงานศิลป์ให้กับหนังดังมากมาย อาทิ Blade Runner, Aliens, Star Trek: The Motion Picture, Short Circuit, Time Cop, 2010: The Year We Make Contact, Johnny Mnemonic, Tron และ Elysium

นอกจากนี้ ในปี 1983 เขาเริ่มทำงานให้กับบริษัทดังของญี่ปุ่น ทั้ง Bandai, Sony, Dentsu, Minolta, NHK, Honda, และอื่นๆ โดยมีส่วนร่วมในเบื้องหลังผลงานอนิเมต่างๆ อาทิ OVA Yamato 2520 ที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ , มีส่วนร่วมในการออกแบบหุ่นเมกะ จำนวน 8 ตัว ในอนิเม Turn A Gundam แล้วก็ เขาได้รับการเสนอชื่อให้ร่วมงานกับโปรเจ็คหนังคนแสดงของ Gundam ของ Lionsgate ในช่วงยุค 80 แต่โปรเจ็คดังกล่าวกลับล้มพับไปในที่สุด

 

แหล่งข่าว : Syd Mead's website , Anime News Network


ผกก.อนิเมชั่นของ JoJo ภาค 5 ได้รับเงินค่าจ้างแล้ว หลังอนิเมจบไปได้เกือบ 2 เดือน

ดราม่าปัญหาปากท้องของคนวงการอนิเมญี่ปุ่น ยังปรากฏออกมาอย่างเนืองๆ แต่คราวนี้ยังดีหน่อย ที่มีการเคลียร์ปัญหากันได้อย่างไว

ล่าสุด Kohei Ashiya ผกก.อนิเมชั่นจาก JoJo's Bizarre Adventure: Golden Wind หรือ โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ : สายลมทองคำ ได้โพสต์ข้อความบน twitter ส่วนตัว ซึ่งระบุว่า เขาเพิ่งจะได้รับเงินค่าจ้างจากการทำงานให้กับเรื่องนี้แล้ว หลังจากอนิเมชุดนี้ฉายจบไปแล้วเกือบ 2 เดือน แม้ว่า ขั้นตอนการเจรจาเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น จะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ก็ตาม

ก่อนหน้าที่ Ashiya จะได้รับค่าจ้างจาก โจโจ้ ภาค 5 นั้น เขาได้โพสต์ระบายความไม่พอใจที่เกิดขึ้นเป็นชุดๆ บน twitter ส่วนตัว โดยเขาได้ทำงานให้กับอนิเม โจโจ้ ตั้งแต่ภาคแรกสุด จนถึง ภาคปัจจุบัน โดยอนิเม 4 ภาคแรกของเรื่องนี้ เขาได้รับเงินค่าจ้างตามปกติ แต่พอมาถึง ภาค 5 มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของการโปรดักชั่น ซึงนำไปสู่การสื่อสารที่ไม่ตรงกันระหว่าง ตัวเขา , เอเยนต์ และ สตูดิโอ ในเรื่องของการจ่ายค่าจ้าง จนทำให้เขาได้รับเงินค่าจ้างที่ล่าช้ากว่าที่กำหนดไว้ อย่างไรก็ตาม เขายังเชื่อว่า เขาต้องได้รับเงินชดเชยจากการจ่ายค่าจ้างล่าช้า ภายใต้กฎหมายสัญญารับเหมาอีกด้วย นอกจากนี้ เขายังเสริมอีกว่า เขาไม่ได้รับสัญญาโดยสรุปขั้นตอนเหล่านี้ทั้งหมด ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของการผลิตงานครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม จากการดำเนินการปัญหาที่เกิดขึ้น ก็ทำให้เขารู้สึกกังวล ที่เขาอาจไม่ได้รับเชิญให้มีส่วนร่วมกับโปรเจ็คต่อๆไปของโจโจ้ โดยเฉพาะกับโปรเจ็คอนิเมของ Kishibe Rohan ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้

โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ : สายลมทองคำ ดัดแปลงมาจากมังงะภาคที่ 5 ของ โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ ของ อ. Hirohiko Araki นำเสนอเรื่องราวผ่าน Giorno (โจรูโน่) หรือ Haruno Shiobana เด็กหนุ่มผู้มีความฝันอยากจะอยู่จุดสูงสุดของแก๊งมาเฟีย Passione .... ต่อมาได้รับการแปลงเป็นอนิเมทีวี โดยสตูดิโอ David Production เช่นเดียวกับ อนิเม โจโจ้ ภาคก่อนๆหน้า โดย อนิเมภาค 5 ของ โจโจ้ ออกอากาศเมื่อ ต.ค. 2018 - 28 ก.ค. 2019

แหล่งข่าว : Kohei Ashiya's Twitter , Anime News Network



Gōsuke Hatakeyama เปิดเผยค่าจ้างที่เหลื่อมล้ำกัน ระหว่างนักพากย์อาชีพ กับ ดารานักพากย์รับเชิญ

Gōsuke Hatakeyama นักพากย์หนุ่มจากอนิเมขนาดสั้นชุด Hagane Orchestra ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับค่าจ้างของนักพากย์หนัง ที่มีความแตกต่างกัน ระหว่างนักพากย์อาชีพ กับ ดารา เซเลปคนดัง ที่มาเป็นนักพากย์รับเชิญ บน twitter ส่วนตัว ซึ่งทวีตของเขา ก็มีใจความตอบโต้บทความหนึ่ง ที่ระบุว่ามีการลดจำนวนเงินรางวัลของนักเล่น e-sport มือโปร ในงาน Tokyo Game Show โดยเขากล่าวว่า "อยากรู้นักใช่มั๊ย อะไรคือมือโปร? ผมจำได้ว่า นักพากย์อาชีพอย่างผม ตอนได้พากย์หนัง ในฐานะบทนำเรื่อง ผมได้รับค่าจ้าง 15,000 เยน ในขณะที่ พวกเซเลปคนดัง ที่ได้มาพากย์รับเชิญให้กับหนัง กลับได้รับค่าจ้างถึง ล้านเยนด้วยกัน"

ในทวีตต่อๆมาของเขา เขายังได้กล่าวชี้แจงว่า เขาไม่ได้มาออกโรงเพื่อขอค่าจ้างเพิ่ม และเขารู้ดีว่า ดารารับเชิญถูกพิจารณาให้มาร่วมพากย์ด้วย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในงบโฆษณาของหนัง ซึ่งตรงนี้ ทำให้เขาได้พบตัวเองถึงความอยากรู้เกี่ยวกับคำจำกัดความของ "มือโปร" ในเงินรางวัลของ e-sports หากการเป็นมือโปรสามารถวัดเป็นเงินรางวัลได้ ซึ่งเขาได้ให้เหตุผลแล้วว่า ใครจะคิดยังไงเกี่ยวกับช่องว่างของค่าจ้างระหว่างมือโปร และไม่ใช่มือโปร (ดาราเซเลปดัง)? เขายังขอร้องให้ผู้แสดงความคิดเห็นในทวีตของเขา ไม่ต้องไปตอบกลับความเห็นที่ “ใจจืดใจดำ” ทำนองว่า “ นายน่ะเป็นแค่นักพากย์โนเนม ไม่แปลกใจเลย ที่นายจะได้รับค่าจ้างน้อย”

แหล่งข่าว : Otakomu , Anime News Network

 


"โอตาคุปั่นสะท้านโลก" ปั่นจักรยานครั้งแรก ในรูปแบบนิยายเด็ก

มีการเปิดเผยมาจาก Iwasaki Shoten สนพ.หนังสือเด็ก ว่า พวกเขากำลังร่วมงานกับสนพ.การ์ตูน Akita Shoten ในการจัดทำฉบับนิยายเนื้อหาเยาวชน ที่ดัดแปลงจากมังงะปั่นจักรยานเรื่องดังของ อ.Wataru Watanabe เรื่อง Yowamushi Pedal หรือ โอตาคุปั่นสะท้านโลก อยู่ในขณะนี้ โดยนิยาย 2 เล่มแรกของเรื่องนี้ จะวางขายในญี่ปุ่น วันที่ 15 ต.ค. 2019 ส่วนอีก 1 เล่ม จะวางขายในเดือน ก.พ. 2020 โดยนิยายเหล่านี้ Shin Suketake เป็นผู้แต่ง

นิยายดังกล่าว จะมีใช้ภาพประกอบเป็นภาพจากฉบับมังงะ รวมถึง มีภาพประกอบที่หลังหนังสือ ซึ่งจะอธิบายข้อมูลเกี่ยวกับการแข่งขันจักรยาน ซึ่งโปรเจ็คฉบับนิยายของ โอตาคุปั่นสะท้านโลก ของสองสนพ.ข้างต้น ได้จัดทำขึ้น เพื่อเป็นการต่อสู้กับปัญหาการไม่สนใจอ่านหนังสือของน้องๆหนูๆ โดยมุ่งเน้นกลุ่มผู้อ่านชั้นประถมที่ไม่เคยอ่านมังงะเรื่องนี้มาก่อน ซึ่งก็รวมไปถึง คนอื่นๆที่ไม่ได้อ่านมังงะมากนัก

อ.Watanabe เขียน โอตาคุปั่นสะท้านโลก ลงในนิตยสาร Shōnen Champion ตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา โดยเป็นเรื่องราวของ Sakamichi Onoda หนุ่มโอตาคุจากรร.ม.ปลาย Sōhoku ผู้ปั่นจักรยานจากบ้านถึงย่านอากิฮาบาระ โตเกียว ผ่านทางลาดชันต่างๆ เป็นระยะทางถึง 90 กม. เพื่อไปซื้อฟิกเกอร์ที่นั่น ต่อมา ชีวิตของเขาก็เปลี่ยนแปลงไป เมื่อเขาได้เข้าร่วมชมรมจักรยานของโรงเรียน เข้าสู่โลกแห่งการแข่งขันปั่นจักรยานอย่างจริงๆจังๆ

มังงะเรื่องนี้ ถูกดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี 4 ซีซั่น , หนังอนิเมฉบับตัดต่อ , หนังอนิเมเนื้อหาใหม่ , คนแสดง , มังงะ-นิยาย สปินออฟ , วีดีโอเกม และ ละครเวที

แหล่งข่าวและรูปภาพ : Iwasaki Shoten , Anime Hack , Anime News Network

 


อนิเมใหม่ Date A Live จะดัดแปลงเนื้อหาจากนิยายสปินออฟ Date A Bullet

อัพเดตข่าวคราวเกี่ยวกับ Date A Live พิชิตรัก พิทักษ์โลก ที่มีการประกาศโปรเจ็คอนิเมใหม่ล่าสุดออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว....ล่าสุด twitter หลักของ Date A Live ได้แจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมของโปรเจ็คอนิเมใหม่ของเรื่องนี้ออกมาแล้ว โดยจะเป็นอนิเมที่ดัดแปลงมาจากนิยายสปินออฟของเรื่องนี้ชุด Date A Live Fragment: Date A Bullet ซึ่งจะนำเสนอเรื่องราวของ Kurumi Tokisaki โดยเฉพาะ และยังคงได้นักพากย์สาว Asami Sanada มาพากย์บทบาทนี้ เช่นเคย ซึ่ง Sanada มีกำหนดจะปรากฏตัวในกิจกรรมบนเวทีของเรื่องนี้ ในงาน "Fantasia Bunko Daikansha-sai 2019" วันที่ 20 ต.ค. 2019

อย่างไรก็ตาม Koushi Tachibana ผู้แต่งไลท์โนเวลต้นฉบับของ Date A Live ได้โพสต์ข้อความลง twitter ซึ่งระบุเป็นนัยๆว่า โปรเจ็คอนิเมของ Date A Live ไม่ได้มีแค่ อนิเมของ Date A Bullet เรื่องเดียวเท่านั้น

Date A Live ดัดแปลงมาจากไลท์โนเวลของ Koushi Tachibana (แต่งเรื่อง) กับ Tsunako (ภาพประกอบ) ตีพิมพ์ตั้งแต่ มี.ค. 2011 เป็นต้นมา ปัจจุบันมียอดตีพิมพ์ไลท์โนเวลทั้งหมด 6 ล้านเล่มด้วยกัน โดยเป็นเรื่องราวของ Shidou Itsuka หนุ่มม.ปลายธรรมดาๆ ได้พบเจอกับหญิงสาวลึกลับผู้หนึ่ง ในระหว่างช่วยเหลือ Kotori น้องสาวของเขา ให้รอดพ้นจากปรากฏการณ์อากาศสั่นไหว และจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้เขาค้นพบความจริงว่า แท้จริงแล้ว สาวที่ Itsuka พบเจอก็คือ Toka หนึ่งใน "Spirit" หรือ วิญญาณ / ภูต ผู้มีพลังมหาศาล อันเป็นต้นเหตุทำให้เกิดอากาศสั่นไหว ในขณะที่ Kotori นั้น เป็นหัวหน้าของกลุ่ม Ratatoskr ที่พยายามจะรักษาชีวิตพวก Spirit เอาไว้ โดย Itsuka ถูก Kotori เชื้อเชิญให้เข้าร่วมกลุ่ม Ratatoskr พร้อมกับเสนอเงื่อนไขในการทำให้โลกใบนี้สงบสุข ปราศจากการฆ่าล้างสาวๆ Spirit ด้วยการพยายามทำให้เหล่า Spirit ตกหลุมรักเขาให้จงได้....

ต่อมาเรื่องนี้ ถูกดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี 3 ซีซั่น ออกอากาศปี 2013 , 2014 และ 2019 ตามลำดับ รวมถึง หนังอนิเมชุด Date A Live: Mayuri Judgment เมื่อ ส.ค. 2015


แหล่งข่าวและรูปภาพ : Date A Live 's twitter , Moca News , Anime News Network

 


Tōru Amuro พบปะแฟนๆ Conan ต่อเนื่อง กับมังงะสปินออฟ บทนักเรียนตำรวจ

จากสัปดาห์ก่อน ที่เราได้รายงานว่า มังงะสปินออฟของยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ชุด Detective Conan: Zero's Tea Time หรือ ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน วันสบายๆของซีโร่ จะอวสานลง ในนิตยสาร Shonen Sunday ฉบับที่ 43 ที่วางขายไปเมื่อ 25 ก.ย. 2019 แต่ถึงกระนั้น ก็มีการเปรยๆว่า พ่อหนุ่ม 3 หน้า สุดเข้ม Tōru Amuro จะยังไม่จากหายไปไหน เพราะกำลังจะมีมังงะสปินออฟชุดใหม่ ที่นำเสนอเรื่องราวของ Amuro กับเพื่อนพ้องนักเรียนตำรวจของเขา มาให้แฟนๆได้อ่าน เป็นการขัดตาทัพในช่วงที่มังงะ Conan ภาคหลัก อยู่ในช่วงหยุดตีพิมพ์จนถึง 27 พ.ย. 2019

ล่าสุด Sunday ฉบับที่ 43 ได้แจ้งรายละเอียดเพิ่มเติม ของมังงะสปินออฟชุดใหม่ของ Conan / Amuro แล้ว โดยจะใช้ชื่อว่า Meitantei Conan Keisaku Gakkō Hen Wild Police Story (Detective Conan: Police Academy Arc Wild Police Story) มีกำหนดตีพิมพ์ตอนแรกใน Sunday ฉบับถัดไป ที่จะวางขายในวันที่ 2 ต.ค. 2019 มังงะชุดนี้ยังคงได้ อ.Takahiro Arai ผู้แต่ง วันสบายๆของซีโร่ รับหน้าที่แต่งเรื่องให้เช่นเคย โดยนำเสนอเรื่องราวของชีวิตบนรั้วโรงเรียนตำรวจของ Amuro ในช่วงระยะเวลา 6 เดือน ซึ่ง 3 ตอนแรกของเรื่องนี้ จะนำเสนอเรื่องราวของ Jinpei Matsuda และได้ อ.Gosho Aoyama ผู้แต่ง Conan ภาคหลัก เป็นผู้วาดปก ...อย่างไรก็ตาม ในตอนสุดท้ายของ วันสบายๆของซีโร่ ได้มีการนำเสนอเนื้อหาที่เป็นการเชื่อมต่อกับมังงะชุดใหม่แล้ว พร้อมกับภาพประกอบที่ อ.Aoyama เป็นผู้วาดเอง ซึ่งภาพดังกล่าว ทางนิตยสารได้วางจำหน่ายให้นักอ่านได้เก็บสะสมอีกด้วย

แหล่งข่าว : Web Sunday , Comic Natalie , Anime News Network

 


ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน "ศึกชิงอัญมณีสีคราม" สร้างสถิติหนังญี่ปุ่นรายได้สูงสุด เป็นอันดับ 4 บนแผ่นดินจีน

สถานการณ์ล่าสุดของหนังอนิเม Meitantei Conan: Konjō no Fist (Detective Conan: Fist of Blue Sapphire) หรือ ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน "ศึกชิงอัญมณีสีคราม" หนังอนิเมชุดที่ 23 ของโคนัน ที่กำลังเข้าฉายบนโรงภาพยนตร์ที่จีนแผ่นดินใหญ่ ตั้งแต่ 13 ก.ย. 2019 เป็นต้นมา ล่าสุด ตัวหนังสามารถทำรายได้รวม จากการออกฉายทั้งหมด 2 สัปดาห์ถึง 210 ล้านหยวน และจากตัวเลขนี้ ทำให้ตัวหนังทำรายได้แซง Doraemon the Movie: Nobita's Treasure Island กับ My Neighbor Totoro (ที่เพิ่งฉายในจีน เมื่อปี 2018) ขึ้นแท่นกลายเป็นหนังญี่ปุ่น ที่ทำรายได้สูงที่สุดในจีน เป็นอันดับที่ 4 โดยเป็นรองแค่ your name., Stand By Me Doraemon และ Spirited Away

ตัวหนังสามารถทำรายได้เปิดตัว 3 วันแรกในจีน ที่ 131 ล้านหยวน ซึ่งมากกว่ารายได้ของ Detective Conan: Zero the Enforcer หรือ ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ปฏิบัติการสายลับเดอะซีโร่ ที่เคยทำรายได้ในจีนทั้งหมด 130 ล้านหยวน เมื่อปี 2018


แหล่งข่าว : Animation Business Journal , Anime News Network


ภรรยาเป็นเหตุ....นำไปสู่การประกาศตัดจบมังงะ Oshikake Maid no Shirayuki-san

Oshikake Maid no Shirayuki-san ผลงานมังงะแนวเบาสมองของ Morishige ได้ประกาศตัดจบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากการยืนยันบน twitter ของผู้แต่งเอง หลังจากมังงะเรื่องนี้ประสบปัญหานานับประการ นำไปสู่การหยุดตีพิมพ์อย่างไม่มีกำหนด ตั้งแต่ ส.ค. 2019 เป็นต้นมา

โดยเบื้องลึกเบื้องหลังถึงสาเหตุที่ทำให้มังงะเรื่องนี้ต้องถูกตัดจบลง Morishige ได้ชี้แจงว่า นามปากกาของพวกเขานั้น มาจากคู่สามีภรรยาที่เป็นทีมงานนักเขียนการ์ตูน (ซึ่งผู้เป็นสามี เป็นคนเขียนคำแถลงการณ์ตัดจบของมังงะเรื่องนี้) โดยฝั่งภรรยาเป็นผู้รับผิดชอบผลงานการ์ตูนจำนวนหลายเรื่อง ยกเว้น Hanaukyo Maid Team, Sakura Sakura, และ Oshikake Maid Shirayuki-san ที่เขาเป็นรับหน้าที่เป็นผู้แต่งหลัก ในขณะที่ ภรรยา จะรับหน้าที่ลงสี , แปะสกินโทน และให้คำปรึกษา แก่ผลงานทั้ง 3 เรื่องหลัง อีกทั้ง ฝ่ายสามีเป็นผู้รับหน้าที่เจรจา ติดต่อทางธุรกิจกับ บก.ของสนพ. Akita Shoten ส่วนฝั่ง ภรรยา เป็นคนรับหน้าที่ดูแล twitter หลัก (ภายใต้นามปากกา Morishige) นับตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา ซึ่งลักษณะการโพสต์ของเธอนั้น จะมาในสไตล์ของผู้ชาย

อย่างไรก็ตาม ปัญหาต่างๆ ได้เริ่มเกิดขึ้น เมื่อ มี.ค. 2019 จากการที่ภรรยาของเขาได้โพสต์ข้อความทำนองใส่สีนั่งเทียน ถึงฝ่ายบก.ของนิตยสาร Bessatsu Shōnen Champion โดยใช้บัญชี twitter ถึง 3 บัญชี คือ "@morishige114510," "@banzoku69," และ "@maddog37564." ซึ่งเขาก็ได้อธิบายปัญหาที่เกิดขึ้นให้บก. Bessatsu Shōnen Champion ได้รับทราบ พร้อมกับกำชับให้ภรรยาของเขาหยุดกระทำเสีย แต่ก็ไร้ผล จนนำไปสู่การตัดสินใจตัดจบเรื่อง Oshikake Maid no Shirayuki-san ไปโดยปริยาย ซึ่งปัจจุบัน เขากับภรรยาต่างก็แยกกันอยู่ ซึ่งเขาก็กล่าวว่า เขาเองก็ต้องรับผิดชอบ ที่ปล่อยให้ภรรยาเขา นำเอา twitter หลักของ Morishige ไปใช้ในการโพสต์ข้อความใส่ไฟ ยั่วยุ ไม่เป็นไปตามจุดประสงค์ที่เขาต้องการ

Oshikake Maid no Shirayuki-san ตีพิมพ์ใน Bessatsu Shōnen Champion เมื่อ พ.ค. 2018 และวางจำหน่ายฉบับรวมเล่ม 2 ไปเมื่อ 7 มิ.ย. 2019 ... เป็นเรื่องราวของ Yoichirō กับ น้องชาย ที่เติบโตมากับคุณพ่อหม้าย จนกระทั่งวันหนึ่ง คุณพ่อออกไปทำงานที่ต่างประเทศ เลยส่งสาวใช้นาม Shirayuki ให้มาดูแล 2 หนุ่มนี้

...จากข้างต้น เป็นอุทธาหรณ์สำหรับนักเขียนการ์ตูนที่ทำงานกันเป็นทีม หรือ เป็นคู่ชีวิตกัน ก็ควรจะสอดส่องดูแลการทำงานของแต่ละคนด้วย หากใครคนไหนไปทำอะไรที่เป็นการแกว่งเท้าหาเสี้ยนถึงต้นสังกัด หรือ บุคคลที่ 3 ก็อาจส่งผลเสียต่อผลงานของตนเอง เช่นกัน




แหล่งข่าว : Morishige 's twitter , Anime News Network


รู้หมือไร่......แค่มีเงิน 430 เหรียญ สามารถนอนค้างคืนบนปราสาท Einzbern จาก Fate/stay Night ได้

แฟนๆอนิเม Fate/stay Night คงจะพากันอิจฉา Kazupi ผู้ใช้ twitter กับ บลอกเกอร์ชาวญี่ปุ่น ไปตามๆกัน จากการที่เขาได้เดินทางตามรอยอนิเมซีรี่ย์ยื้อแย่งจอกศักดิ์สิทธิ์เรื่องนี้ซะไกล จนถึง ปราสาท Einzbern บ้านพักของ Illya ในเรื่อง ได้สำเร็จ!!

โดย ปราสาท Einzbern ที่ Kazupi ได้ไปเยี่ยมเยือน นั้น แท้จริงแล้วก็คือ Chateau de Brissac ปราสาทสุดหรูแห่งหนึ่งในประเทศฝรั่งเศส ที่ได้ถูกใช้เป็นต้นแบบของปราสาท Einzbern ที่ปรากฏในอนิเม Fate/stay Night นั่นเอง (ในอนิเม ตัวปราสาทตั้งอยู่เยอรมัน) ซึ่ง Chateau de Brissac นั้น ครั้งหนึ่งเคยถูกใช้เป็นที่อยู่อาศัยของชนชั้นสูงในฝรั่งเศส ปัจจุบัน ปราสาทแห่งนี้ได้เปิดให้สาธารณชนทั่วไปสามารถเข้าไปเยี่ยมชม และที่สำคัญ สามารถนอนพักค้างคืนได้ด้วยเช่นกัน!!

การมาเยือนของ Kazupi ณ ปราสาทแห่งนี้ ก็มีจุดประสงค์หลักๆ คือ การมาถ่ายรูปคอสเพลย์บริเวณใน-นอกปราสาท รวมถึง ไม่พลาดที่จะนอนพักแรมด้วย ซึ่ง Kazupi ได้เล่าว่า ผู้ดูแลปราสาทแห่งนี้ได้ช่วยอำนวยความสะดวกให้หลายต่อหลายอย่าง พร้อมระบุว่า หากมาเที่ยวชมปราสาทแห่งนี้เฉยๆ จะคิดค่าเข้าชม 11 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 337 บาท) แต่ถ้าจะพักแรมด้วย คิดค่าที่พักคืนละ 430 เหรียญสหรัฐ!!!!! (ประมาณ 13169 บาท) ..... เห็นราคาแล้ว สำหรับใครที่คิดจะพักแรมปราสาทแห่งนี้ คงต้องวางแผนการเงินกันดีๆล่ะ........

อย่างไรก็ตาม ปราสาท Einzbern ก็ไม่ได้ใช้ Chateau de Brissac เป็นแบบอ้างอิงไปซะหมดทุกส่วน เพราะ ได้หยิบเอาสถานที่จริงแห่งอื่นๆ มาผสมผสานรวมไว้เข้าด้วยกัน เริ่มจาก ด้านนอกปราสาทบางส่วน ได้ต้นแบบจาก ปราสาท Neuschwanstein ของเยอรมัน ส่วนภายในปราสาท ได้ต้นแบบมาจาก Haddon Hall, Chatsworth House, และ Nostell Priory ของอังกฤษ

แหล่งข่าว :  Sazanami , Otakomu , Crunchyroll


Weathering With You ล้มรายได้ Jurassic Park ทะลุ 13 พันล้านเยน ในญี่ปุ่น

อันดับหนัง Box Office ในญี่ปุ่น ประจำวันที่ 21-22 ก.ย. 2019 ปรากฏว่า สุดสัปดาห์ดังกล่าว ไม่มีหนังอนิเม หรือ หนังคนแสดงจากการ์ตูน-อนิเม ครองอันดับ 1 บน Box Office ได้เลย โดยมี หนังคนแสดงของ Kaguya-sama: Love Is War สารภาพรักกับคุณคางุยะซะดีๆ (สงครามประสาทความรักของเหล่าอัจฉริยะ) ยังคงรั้งอันดับ 2 ต่อไป เป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน โดยทำรายได้เพิ่มเติมอีก 175 ล้านเยน กับ ยอดขายตั๋วอีก 143,000 เยน จนถึงขณะนี้ ตัวหนังสามารถทำรายได้รวมถึง 1.5 พันล้านเยนแล้ว และกลายเป็นหนังคนแสดงจากการ์ตูนญี่ปุ่นที่ทำรายได้สูงสุด เป็นอันดับ 5 ของปี 2019

ขณะที่ Weathering With You ฤดูฝัน ฉันมีเธอ ยังคงเดินหน้าโกยรายได้ของตัวเองต่อไป แม้ว่าในช่วงสุดสัปดาห์ดังกล่าว ตัวหนังจะร่วงลงมาอยู่อันดับที่ 4 จากการฉายบนโรงที่ญี่ปุ่น เป็นสัปดาห์ที่ 10 โดยหนังชุดนี้โกยรายได้เพิ่มอีก 150 ล้านเยน จากยอดขายตั๋ว จำนวน 112,000 ใบ จนถึงขณะนี้ ตัวหนังสามารถทำรายได้รวมรวมทะลุ 13 พันล้านเยนแล้ว รั้งอันดับ 14 ภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดตลอดกาลในญี่ปุ่น แซงหน้า Jurassic Park ที่เคยทำไว้ถึง 12.85 พันล้านเยนในญี่ปุ่น เมื่อปี 1993 ทว่า จากการที่ตัวหนังเริ่มมีกระแสที่แผ่วลงทุกขณะ ทำให้โอกาสที่จะทำสถิติเป็นหนังญี่ปุ่นรายได้สูงสุดตลอดกาล อันดับ 6 แซงหนัง Ponyo ของ Hayao Miyazaki ที่เคยทำไว้ 15.5 พันล้านเยน แทบจะเลือนลางเต็มที (ไม่ต้องพูดถึง โอกาสทำรายได้แซง Your Name ล่ะนะ)

ส่วน HELLO WORLD หนังอนิเมของผกก. Tomohiko Ito (Sword Art Online) ได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกที่ญี่ปุ่น ด้วยอันดับพอใช้ ณ อันดับ 6 ด้วยรายได้ 212 ล้านเยน จากยอดขายตั๋ว 156,000 ใบ ... ซึ่งหนังอนิเมเรื่องนี้ ก็กำลังจะเข้าฉายบนโรงในบ้านเรา โดยสหมงคลฟิลม์ (Monkol Cinema) วันที่ 28 พ.ย. 2019

อันดับหนัง Box Office ญี่ปุ่น ประจำสุดสัปดาห์ วันที่ 21-22 ก.ย. 2019
(เรียงอันดับจากยอดขายตั๋ว)

1 (1). "Kioku ni Gozaimasen!" - รายได้รวม 1.75 พันล้านเยน

2 (2). "Kaguya-sama: Love Is War" - รายได้รวม 1.5 พันล้านเยน

3 (new). "Ad Astra" - รายได้รวม 300 ล้านเยน

4 (3). "Weathering With You" - รายได้รวม 13.07 พันล้านเยน

5 (4). "Ningen Shikkaku: Dazai Osamu to Sannin no Onnatachi" - รายได้รวม 710 ล้านเยน

6 (new). "HELLO WORLD" - รายได้รวม 212 ล้านเยน

7 (6). "Ossan's Love The Movie: LOVE or DEAD" - รายได้รวม 2.24 พันล้านเยน

8 (5). "The Lion King" - รายได้รวม 6.46 พันล้านเยน

9 (new). "Mienai Mokugekisha"

10 (new). "Annabelle Comes Home"

แหล่งข่าว :  Eiga.com , Crunchyroll



"FAIRY TAIL ภาค แฮปปี้ลุยเอง" จบภาคแรกในเล่ม 4 + ไม่มีการจัดทำเป็นรูปเล่มอีกต่อไป

Fairy Tail: Happy no Daibōken หรือ FAIRY TAIL ภาค แฮปปี้ลุยเอง หนึ่งในมังงะสปินออฟซีรี่ย์ของ FAIRY TAIL ศึกจอมเวทอภินิหาร ที่ค่าย VBK ในบ้านเรา เพิ่งจะคว้าลิขสิทธิ์ไปเมื่อไม่นาน กำลังจะจบเนื้อหาภาคแรกแล้ว ในฉบับรวมเล่ม เล่มที่ 4 ที่จะวางขายในญี่ปุ่น ในวันที่ 9 ต.ค. 2019 อีกทั้ง ฉบับรวมเล่ม 4 ของมังงะชุดนี้ จะเป็นเล่มสุดท้ายที่จะจัดพิมพ์ในแบบรูปเล่ม ก่อนจะทำการเผยแพร่ฉบับรวมเล่มต่อไปๆ เฉพาะรูปแบบดิจิตอลเท่านั้น จากการยืนยันบน twitter ส่วนตัวของ อ.Kenshiro Sakamoto ผู้แต่งมังงะชุดนี้

FAIRY TAIL ภาค แฮปปี้ลุยเอง เป็นเรื่องราวของ เจ้าแมวน้อย Happy ที่ขอแยกตัวจาก Natsu ออกไปผจญภัยเองตามลำพัง และไปพบปะกับเพื่อนพ้องสิงสาลาสัตว์มากมาย โดยมังงะชุดนี้ ลงเผยแพร่บนแอพ Magazine Pocket เมื่อ ก.ค. 2018 เป็นต้นมา

อนึ่ง ในเดือน ต.ค. 2019 ที่กำลังจะมาถึง พบกับมังงะมินิซีรี่ย์ชุดพิเศษ Heros ที่เป็นการพบปะข้ามเรื่องกันของเหล่าตัวละครจากผลงานของ อ.Hiro Mashima ประกอบด้วย Rave , Fairy Tail และ Edens Zero ในนิตยสาร Shonen Magazine


แหล่งข่าว และรูปภาพ : Anime News Network #1 , Anime News Network #2

 


นักปราบอสูร แรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่......ส่งผลให้ เพลงเปิดอนิเม Kimetsu no Yaiba ได้ใบรับรอง platinum

ชั่วโมงนี้ปฏิเสธไม่ได้ล่ะว่า Kimetsu no Yaiba หรือ ดาบพิฆาตอสูร เป็นมังงะ-อนิเมที่มาแรงกันอย่างสุดๆ จนส่งผลดีในหลายๆด้านของเรื่องนี้ ตั้งแต่ ฉบับมังงะรวมเล่ม ได้รับการตีพิมพ์เพิ่มเติม รวมถึง ฉบับอนิเม มีโอกาสสูงที่จะได้รับการจัดทำเพิ่มเติมในซีซั่นต่อๆไป เช่นกัน (แต่มีการประกาศทำหนังอนิเมเพิ่มเติมแล้ว)

ล่าสุด เพลงเปิดของอนิเมเรื่องนี้อย่าง "Gurenge" (Red Lotus) ที่ขับร้องโดย LiSA นั้น สามารถคว้าใบรับรองชนิด platinum จากสมาคมแผ่นเสียงญี่ปุ่น เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อ 22 ก.ย. 2019 ที่ผ่านมา จากการที่เพลงนี้มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 300,000 ครั้งแล้ว ซึ่งนับเป็นเพลงจากศิลปินหญิง เพลงแรก ของปี 2019 ที่สามารถทำยอดดาวน์โหลดได้ถึงระดับนี้ อีกทั้ง MV ของเพลงนี้มียอดวิวเกินกว่า 5 ล้านวิว โดยมียอดชม MV จากแฟนๆเฉลี่ย ราว 60,000 - 70,000 ครั้ง ในทุกๆวัน นับตั้งแต่ที่เพลงนี้ได้เปิดตัวเมื่อ 4 เดือนที่แล้ว

นอกจากเพลง Gurenge แล้ว LiSA ยังได้ขับร้องเพลงปิดเพลงใหม่ล่าสุดของอนิเมเรื่องนี้อย่าง "from the edge" ด้วย ซึ่งได้ Yuki Kajiura เป็นผู้เรียบเรียงเพลง

LiSA เป็นผู้ขับร้องเพลงประกอบอนิเมให้หลายๆเรื่อง อาทิ Angel Beats!, Fate/Zero, il sole penetra le illusioni ~ Day Break Illusion, Sword Art Online, Sword Art Online II, Sword Art Online the Movie: Ordinal Scale, My Hero Academia, Qualidea Code, Nisekoi:, The irregular at magic high school, และ Fate/stay night: Unlimited Blade Works


แหล่งข่าวและคลิป : Comic Natalie ,  Anime News Network


ดาบพิฆาตอสูร ประกาศทำหนังจอเงิน ดัดแปลงจากบท "รถไฟ"

Kimetsu no Yaiba หรือ ดาบพิฆาตอสูร ได้ออกอากาศอนิเมทีวี ตอนสุดท้าย ตอนที่ 26 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อ 28 ก.ย. 2019 อย่างไรก็ตาม ในตอนสุดท้ายของเหล่านักปราบอสูรและชาวคณะเสาหลัก ได้มีการแจ้งข่าวดีให้แฟนๆได้รับทราบ นั่นคือ เรื่องนี้กำลังจะมีการทำหนังอนิเมภาคใหม่ชุด Kimetsu no Yaiba: Mugen Ressha-Hen ที่จะดัดแปลงเนื้อหาจากบทขบวนรถไฟอสูร ในมังงะต้นฉบับ ซึ่งเป็นบทแจ้งเกิดเพิ่มเรตติ้งให้แก่ผลงานมังงะของ อ.Koyoharu Gotouge เรื่องนี้

ผกก.Haruo Sotozaki , คนออกแบบตัวละคร Akira Matsushima และ สตูดิโอ ufotable ยังคงอยู่เบื้องหลังหนังชุดนี้ เช่นเดียวกับอนิเมทีวี ขณะที่นักพากย์ ยังคงใช้บริการจากฉบับอนิเมทีวี ครบครัน

ดาบพิฆาตอสูร เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น ในช่วงยุคสมัยไทโช เมื่อ Tanjiro เด็กหนุ่มผู้ขายถ่านเลี้ยงชีพ ได้พบว่า ครอบครัวของเขาถูกอสูรฆ่าตาย ยกเว้นเพียง Nezuko น้องสาวของเขาที่ยังรอดชีวิต เพียงแต่ น้องสาวสุดน่ารักของเขาผู้นี้ ถูกสาปให้กลายเป็นอสูร และเพื่อที่จะช่วยเหลือน้องสาว ทำให้เขาตัดสินใจที่จะเป็นนักปราบอสูร คอยกำราบเหล่าอสูรที่สังหารครอบครัวของเขา

แหล่งข่าวและทวีต :   ufotable 's twitter , Moca News ,Comic Natalie , Anime News Network



"เทพจิ๋วฝึกหัด แก๊งป่วน Cocotama" กำลังจะป่วนน้องๆหนูๆครั้งใหม่ ในรูปแบบ อนิเมบนเว็บ

เว็บไซต์หลักของอนิเม เทพจิ๋วฝึกหัด แก๊งป่วน Cocotama ได้เปิดเผยเมื่อเดือน ส.ค. 2019 ที่ผ่านมาว่า Cocotama กำลังจะมีอนิเมชุดใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นอนิเมฉายบนเว็บ ในชื่อชุดว่า Mono no Kami-sama Cocotama มีกำหนดฉายทางแชนแนล Bandai บน Youtube ทุกวันพฤหัส เวลา 18.30 น. อีกทั้ง อนิเมชุดนี้ ยังได้ Kaoru Masaki กับ ERIKA มาขับร้องเพลงประกอบ "Happy Cocotama Dance!" และยังคงได้ทีมพากย์จากอนิเมชุด Kira Kira Happy ★ Hirake! Cocotama มาพากย์เสียงให้กับอนิเมชุดใหม่นี้ครบครัน โดยอนิเม Kira Kira Happy ★ Hirake! Cocotama เพิ่งฉายตอนสุดท้ายไปเมือ 26 ก.ย. 2019 ที่ผ่านมา

Cocotama เป็นเรื่องราวของเทพจิ๋วที่เกิดมาจากความคิดและความรู้สึกของสิ่งของต่างๆที่ผู้คนได้ใช้สอยและดูแลมันเป็นอย่างดี ซึ่งเปลือกไข่ที่ Cocotama ฟักออกมา และ สวมติดตัวอยู่นั้น ก็เป็นการบ่งบอกสถานะว่า เป็นเทพจิ๋วฝึกหัด ซึ่ง Cocotama จะใช้เวทมนตร์ และฝึกฝนตนเองอย่างหนัก เพื่อที่จะได้การรับรองให้กลายเป็นเทพเจ้าอย่างเต็มตัว โดยพวกมันจะอาศัยอยู่ร่วมกับมนุษย์ คอยช่วยเหลือมนุษย์ในการตามหาสิ่งของที่ทำสูญหายไป แม้ว่าจะขยันสร้างเรื่องป่วนให้บ่อยๆก็ตาม

Cocotama ออกอากาศอนิเมชุดแรกสุด Kami-sama Minarai: Himitsu no Cocotama เมื่อ ต.ค. 2015 โดยอนิเมภาคดังกล่าว เคยออกอากาศในบ้านเราทางช่อง 3 Family และ Cartoon Club ซึ่งได้ "Music BNK48" ร่วมให้เสียงพากย์และขับร้องเพลงประกอบฉบับภาษาไทย

อีกทั้ง อนิเมเรื่องนี้ มีการทำฉบับจอเงินชุด Eiga Kami-sama Minarai: Himitsu no Cocotama: Kiseki o Okose ♪ Teppuru to Dokidoki Cocotama Kai (God Apprentices: Secretive Cocotama Movie: Make a Miracle ♪ Teppuru and the Heart-Pounding Cocotama World) ฉายบนโรงที่ญี่ปุ่น เมื่อปี 2017


 

แหล่งข่าวและคลิป : Cocotama 's website , Bandai Youtube Channel , Mantan Web , Anime News Network

 

 


KyoAni ประกาศยกเลิกงานแฟนอีเว้นต์ KyoAni and Do Fan Days 2019 อย่างเป็นทางการ

สืบเนื่องจากสตูดิโอ Kyoto Animation ยังคงอยู่ในสภาพบอบช้ำทั้งกายและใจ จากเหตุลอบวางเพลิงสตูดิโอ 1 ของพวกเขา เมื่อ 18 ก.ค. 2019 จนมีผู้เสียชีวิตนับ 35 คน และ บาดเจ็บอีก 34 คน และจากเหตุโศกนาฎกรรมครั้งใหญ่ของสตูดิโอในครั้งนี้ ทำให้ KyoAni ได้ตัดสินใจประกาศยกเลิกงานแฟนอีเว้นต์ KyoAni and Do Fan Days 2019 อย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อ 27 ก.ย. 2019 ที่ผ่านมา หลังจากพวกเขาได้พิจารณากันอย่างถี่ถ้วนมาซักระยะ พร้อมกันนี้ พวกเขาเตรียมจะคืนเงินให้แก่แฟนๆที่ได้ซื้อตั๋วไปแล้ว เช่นกัน อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่จับจองหนังสือ "This is Who We Are Now! 2019 Works" หนังสือรวบรวมผลงานของสตูดิโอ ที่มาพร้อมกับ ตั๋วเข้าชมงานล่วงหน้า ก็จะยังคงได้รับหนังสือตามปกติ ซึ่งมีกำหนดจัดส่ง ช่วง ก.พ. 2020

ทาง KyoAni ได้กล่าวถึงการตัดสินใจครั้งนี้ บนเว็บไซต์หลักของงานอีเว้นต์ดังกล่าว :

“เราขอขอบคุณแฟนๆ สำหรับการสนับสนุนพวกเราในทุกๆวัน เราพยายามหาทางออกทุกวิธีทาง ไม่ว่าเราจะสามารถจัดงานอีเว้นต์ด้วยแนวคิดดั้งเดิมที่จะทำให้สนุกสนานเป็นส่วนหนึ่งของโลกอนิเมชั่นได้หรือไม่ แต่ที่น่าเศร้าคือ เราได้ข้อสรุปว่า มันแทบเป็นไปไม่ได้เลย เราขออภัยสำหรับแฟนๆทุกท่าน ที่กำลังต้องการความสุขกัน”

งานดังกล่าว เดิมมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 3-4 พ.ย. 2019 อย่างไรก็ตาม งานอีเว้นต์ Sound! From Kyoto to the World งานคอนเสิร์ตออเครสตร้าจากผลงานอนิเมของ KyoAni ได้แก่ Sound! Euphonium, Violet Evergarden, และ Free! ยังคงจัดขึ้นตามกำหนดการเดิม ในวันที่ 9-10 พ.ย. 2019



แหล่งข่าว : KyoAni and Do Fan Days Website , UlimateMegaX ,  Crunchyroll



The Promised Neverland "พันธสัญญาเนเวอร์แลนด์" ประกาศทำหนังคนแสดง ฉายช่วงฤดูหนาว 2020

หนึ่งในข่าวสำคัญที่เกิดขึ้นกับมังงะ The Promised Neverland หรือ พันธสัญญาเนเวอร์แลนด์ ที่ได้มีการประกาศออกมาแล้ว (และคาดว่า เป็นหนึ่งในข่าวสำคัญของเรื่องนี้ ที่กำลังจะมีการประกาศในนิตยสาร Shonen Jump เล่ม 45/2019) นั่นคือ ฉบับหนังคนแสดง ที่มีกำหนดเข้าฉายบนโรงทั่วญี่ปุ่น ช่วงฤดูหนาว ปี 2020 โดยได้มีการประกาศนักแสดงนำทั้ง 3 คน ออกมาแล้ว

- Minami Hamabe นักแสดงหญิง จากฉบับคนแสดงของ anohana: The Flower We Saw That Day , Saki , และ เป็นนักพากย์จากหนังอนิเม Hello World รับบทเป็น Emma

- Jyo Kairi นักแสดงวัย 13 ปี จากฉบับคนแสดงของ My Little Monster กับ ERASED รับบทเป็น Ray

- Rihito Itagaki นักแสดงวัย 17 ปี จาก Show By Rock!! ฉบับละครเพลง รับบทเป็น Norman

หนังชุดนี้ กำกับโดย Yūichirō Hirakawa ( ฉบับคนแสดงของ ERASED และ ละครซีรี่ย์ Rookies ) โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางส่วนจากมังงะต้นฉบับ กล่าวคือ ตัวละครหลักทั้ง 3 คน จะมีอายุที่โตขึ้น โดยเริ่มต้นที่ 16 ปี (จากเดิม 12 ปี ในฉบับมังงะ)

Hamabe ผู้ซึ่งเป็นแฟนตัวยงของมังงะเรื่องนี้ โดยซื้อสะสมทั้งฉบับรูปเล่มกับดิจิตอล ได้ออกมากล่าวชื่นชม ผกก.และทีมงาน ที่ได้เนรมิตรโลกจากการ์ตูนให้กลายเป็นจริง พร้อมกับบอกว่า เธอจะพยายามทำให้ดีที่สุด สำหรับแฟนๆ หรือ ใครต่อใคร ที่ชื่นชอบมังงะเรื่องนี้

Neverland ผลงานมังงะของ อ.Kaiu Shirai(แต่งเรื่อง) กับ อ.Posuka Demizu (วาดภาพ) ตีพิมพ์ลงใน Shonen Jump ตั้งแต่ ส.ค. 2016 และเพิ่งเข้าสู่เนื้อหาโค้งสุดท้ายไปเมื่อ ส.ค. 2019 ....เป็นเรื่องราวของ เหล่าเด็กกำพร้าที่อาศัยอยู่ในสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าแห่งหนึ่ง ซึ่งได้รับการดูแลจากแม่เลี้ยงเป็นอย่างดี โดยมี Emma, Norman และ Ray ต่างเป็นเด็กที่ฉลาดหลักแหลมที่สุดในสถานรับเลี้ยงเด็กแห่งนี้ ...จนกระทั่งวันหนึ่ง Emma และ Norman ต่างก็พบกับความจริงอันโหดร้ายที่อยู่เบื้องหลังสถานรับเลี้ยงเด็ก ซึ่งแท้จริงแล้วก็คือ ฟาร์มที่ขุนมนุษย์ไปเป็นอาหารให้กับเหล่าปีศาจ ทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจวางแผนหลบหนีไจากที่นี่ โดยมี Ray คอยให้ความช่วยเหลือด้วย

ต่อมามังงะเรื่องนี้ คว้ารางวัลชนะเลิศ ประเภทการ์ตูนโชเน็นยอดเยี่ยมของ Shogakukan Manga Awards ครั้งที่ 63 , และได้เข้าชิงรางวัล Manga Taisho ครั้งที่ 11 และ Tezuka Osamu Cultural Prize ครั้งที่ 22 ตามลำดับ รวมไปถึง ติดลิสต์อันดับ 1 มังงะแนววัยรุ่นชายน่าอ่านของ Kono Manga ga Sugoi! เมื่อ ธ.ค. 2018 อีกทั้ง เรื่องนี้ได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี ออกอากาศเมื่อ 10 ม.ค. 2019 และกำลังจะมีอนิเมซีซั่น 2 ออกอากาศในอนาคตอันใกล้

 

แหล่งข่าวและรูปภาพ : Sports Hochi , Hachima Kikō , Anime News Network


คอนเสิร์ตอนิเม , งานอีเว้นต์นักพากย์ โกยรายได้เบาะๆ 20 พันล้านเยน เมื่อปี 2018

บริษัทวิจัยด้านบันเทิง Pia Sōken ได้เปิดเผยข้อมูลเมื่อ 12 ก.ย. 2019 ว่า กิจกรรมคอนเสิร์ตอนิเม และ งานอีเว้นต์ที่เกี่ยวข้องกับนักพากย์ สามารถทำรายได้ในช่วง ม.ค.-ธ.ค. 2018 ได้ราว 20 พันล้านเยน ซึ่งเติบโตขึ้น 10.5% ของรายได้ปี 2017 ที่เคยทำเอาไว้ 18.1 พันล้านเยนขณะเดียวกัน จำนวนงานอีเว้นต์ ก็เติบโตมากขึ้นในทุกๆปี ตั้งแต่ 1,684 งาน ในปี 2017 เพิ่มขึ้นเป็น 1,784 งาน ในปี 2018 ซึ่งในปี 2018 งานอีเว้นต์เหล่านี้สามารถจำหน่ายตั๋วได้รวม 2.65 ใบ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2017 อยู่ 6.4%

โดยกิจกรรมคอนเสิร์ตส่วนใหญ่นั้น จะเป็นกิจกรรมของ Love Live! กับ THE IDOLM@STER ขณะที่ Animelo Summer Live งานคอนเสิร์ตเพลงอนิเมประจำปี ที่ได้รวบรวมศิลปินนักร้องสายอนิซอง มาแสดงกัน มีผู้ชมมากถึง 81,000 คน ในปี 2018 ตามมาด้วย คอนเสิร์ต King Super Live ของค่าย King Records มีผู้ชมถึง 37,000 คน ณ Tokyo Dome

กิจกรรมอีเว้นต์ที่เกี่ยวข้องกับอนิเม คิดเป็น 5% ของตลาดงานกิจกรรมดนตรีรวมทุกประเภทของญี่ปุ่น ซึ่งงานกิจกรรมดนตรีรวมทุกประเภทของญี่ปุ่น สามารถทำรายได้รวมกันถึง 387.5 พันล้านเยน เมื่อปี 2018

แหล่งข่าว : Pia Sōken ,  Animation Business Journal , Anime News Network

 


"มันผิดรึไง ถ้าใจอยากจะพบรักในดันเจี้ยน" ลุยกันต่อ กับอนิเมซีซั่น 3 + OVA ชุดใหม่

ในตอนที่ 12 ตอนสุดท้ายของอนิเมซีซั่น 2 ของ Dungeon ni Deai wo Motomeru no wa Machigatteiru Darou ka (Danmachi) หรือ มันผิดรึไง ถ้าใจอยากจะพบรักในดันเจี้ยน ได้มีการแจ้งว่า อนิเมเรื่องนี้ กำลังจะมีต่อกับ อนิเมซีรี่ย์ซีซั่น 3 แล้วก็ OVA ชุดใหม่ ซึ่งจะได้รับชมกันในปี 2020 โดยอนิเมซีซั่น 3 มีกำหนดออกอากาศช่วงซัมเมอร์ 2020 ส่วน OVA จะมาเร็วหน่อย ในวันที่ 29 ม.ค. 2020

อีกทั้ง ยังมีการแจ้งว่า นักพากย์สาว Rina Hidaka (Kawaikereba Hentai demo Suki ni Natte Kuremasu ka?, Tate no Yuusha no Nariagari) จะมาพากย์เสียงในบทบาทของ Wiene

DanMachi ดัดแปลงมาจากผลงานไลท์โนเวลชื่อเดียวกันของ Fujino Omori ซึ่งเดิมทีเป็นนิยายส่งเข้าประกวด GA Bunko Award ครั้งที่ 4 เมื่อปี 2012 ก่อนจะได้รับการตีพิมพ์ในแบบรูปเล่ม ซึ่งได้ Suzuhito Yasuda เป็นผู้วาดภาพประกอบ เมื่อ ม.ค. 2013 ปัจจุบัน เรื่องนี้มียอดตีพิมพ์ไลท์โนเวล 12 ล้านเล่ม และได้รับการเขียนในรูปแบบมังงะลงในนิตยสาร Young Gangan เมื่อ ส.ค. 2013 โดยมังงะชุดนี้ มีการเปลี่ยนคนวาดใหม่ จาก Kunieda ที่รับหน้าที่วาดภาพมังงะตั้งแต่ตอนแรก ไปเป็น Taisei Yagami แทน โดยเริ่มตั้งแต่ตอนที่ตีพิมพ์ใน Young Gangan ฉบับที่ 18 ที่วางขายไปเมื่อ 6 ก.ย. 2019

ส่วนฉบับอนิเมทีวีของเรื่องนี้ ออกอากาศซีซั่นแรกจำนวน 13 ตอน เมื่อฤดูใบไม้ผลิ 2015 , ซีซั่น 2 ออกอากาศเมื่อ 13 ก.ค. 2019 รวมถึง มีฉบับหนังอนิเมชุด Dungeon ni Deai wo Motomeru no wa Machigatteiru Darou ka: Orion no Ya ฉายไปเมื่อ 15 ก.พ. 2019 อีกทั้ง ไลท์โนเวลไซด์สตอรี่ของเรื่องนี้ชุด Dungeon ni Deai wo Motomeru no wa Machigatteiru Darou ka Gaiden: Sword Oratoria ที่เขียนโดย Omori (เนื้อเรื่อง) กับ Kiyotaka Haimura (ภาพ) ได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี 12 ตอน ออกฉายในช่วงฤดูใบไม้ผลิ 2017



แหล่งข่าวและรูปภาพ : Comic Natalie , MAL



อนิเมซีซั่น 3 ของ Toaru Kagaku no Railgun ได้ฤกษ์ฉายบนจอ ม.ค. 2020

หลังจากปล่อยให้แฟนๆของแม่สาวไฟช็อต Misaka Mikoto รอคอยการมาของอนิเม Railgun ซีซั่น 3 กันมานานถึง 7 ปี และแล้วในที่สุด เว็บไซต์หลักของอนิเมซีซั่น 3 ของ Toaru Kagaku no Railgun หรือ แฟ้มลับคดีวิทยาศาสตร์ ได้แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมว่า Toaru Kagaku no Railgun T ซึ่งเป็นชื่อทางการของอนิเมซีซั่น 3 ของเรื่องนี้ มีกำหนดออกอากาศทางช่อง AT-X, Tokyo MX, MBS, และ BS11 ในเดือน ม.ค. 2020 ขณะที่ AbemaTV จะสตรีมออนไลน์อนิเมชุดนี้ เช่นกัน

ในส่วนสต๊าฟของอนิเมซีซั่นนี้ ส่วนใหญ่เป็นทีมงานชุดเดิมจากอนิเม 2 ซีซั่นแรก มีเพียง Shougo Yasukawa (Shokugeki no Souma, Nejimaki Seirei Senki: Tenkyou no Alderamin) จะเป็นผู้เรียบเรียงเนื้อเรื่องให้กับอนิเมซีซั่น 3 รวมถึง Kentarou Izumi นักวาดภาพฉากจาก Amanchu! Advance จะรับหน้าที่กำกับศิลป์ แทนที่ Tomonori Kuroda

fripSide ศิลปินดูโอ้อินดี้ป๊อป จะเป็นผู้ขับร้องเพลงเปิด ส่วนวงดนตรีเจร็อค Kishida Kyoudan & The Akeboshi Rockets เป็นผู้ขับร้องเพลงปิด

Railgun ดัดแปลงมาจากมังงะชื่อเดียวกันของ Kazuma Kamachi กับ Motoi Fuyukawa ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Dengeki Daioh ตั้งแต่ ก.พ. 2007 เป็นต้นมา และกำลังจะวางขายฉบับรวมเล่มที่ 15 ที่จะวางขายในวันที่ 10 ต.ค. 2019 ซึ่งเรื่องนี้ถูกสร้างในรูปแบบอนิเมทีวี 2 ซีซั่น ออกอากาศเมื่อช่วงฤดูใบไม้ร่วง 2009 กับ ฤดูใบไม้ผลิ 2013 ตามลำดับ โดยอนิเมทั้ง 2 ซีซั่นของ Railgun จะดัดแปลงเนื้อหาจากฉบับมังงะรวมเล่ม 7 เล่มแรก

แหล่งข่าวและรูปภาพ : Moca News , MAL

 

 


Disney - Sony จูบปากลงตัว ....... Spider-Man ยังอยู่ในสารบบจักรวาลภาพยนตร์ Marvel ต่อไป

หลังจากปล่อยให้แฟนๆ Spider-Man ทั่วโลก พากันหวั่นเกรงว่า ฮีโร่มนุษย์แมงมุมอาจหลุดออกจากสารบบจักรวาลภาพยนตร์ Marvel (MCU) ไปตลอดกาล จากการที่ Disney กับ Sony เอาแต่เล่นบทพ่อแง่แม่งอน ในแง่ของส่วนแบ่งผลประโยชน์ที่ยังไม่ลงตัวนัก ในการเจรจาข้อตกลงระหว่าง 2 บริษัท เมื่อเดือน ส.ค. 2019 ที่ผ่านมา

ล่าสุด บรรดาแฟนคลับทั่วโลก ที่กำลังภาวนาให้ Spidy ไม่หลุดออกจาก MCU อยากจะเห็นการประสานงานของ Spidy กับฮีโร่คนอื่นๆของ Marvel ก็ถึงคราสมหวังอย่างจริงๆจังๆ เมื่อทั้ง Disney กับ Sony ได้ออกมายืนยันว่า พวกเขาจะร่วมมือกันผลิตหนังชุดที่ 3 ของ Spider-Man MCU แล้ว โดยจะยังคงได้ Marvel Studios ซึ่งนำโดยประธาน Kevin Feige กลับมาร่วมงานอีกครั้ง เช่นเดียวกับ Tom Holland จะมารับบทเป็น Spidy ยิงใยแมงมุมบนจอใหญ่ต่อไป โดยตัวหนัง มีกำหนดฉายในวันที่ 16 ก.ค. 2021

ในส่วนเบื้องลึกเบื้องหลังของดีลการเจรจาล่าสุดของ Disney กับ Sony ได้ข้อสรุปคร่าวๆว่า ทาง Sony ยังคงได้รับส่วนแบ่งกำไรหนังก้อนโตราว 75% ขณะที่ Disney จะได้รับส่วนแบ่งจากกำไรภาพยนตร์เพียง 25% จากเดิมที่ทั้งสองบริษัทจะได้รับส่วนแบ่งกำไรกันครึ่งต่อครึ่ง (ซึ่งนำไปสู่ดีลที่ล้มเหลว) โดยที่ Disney ยังคงได้รับสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายสินค้าของหนังเช่นเดิม และแน่นอนว่า Spider-Man ก็จะปรากฏตัวในหนังเรื่องอื่นๆของ Marvel Studios ในอนาคตด้วย

จากการที่ Disney กับ Sony สามารถกลับมาเจรจาได้อย่างลงตัว ก็สร้างความปิติยินดีให้แก่สต๊าฟผู้อยู่เบื้องหลังหนัง Spider-Man MCU ของทั้ง 2 บริษัท เริ่มตั้งแต่ Amy Pascal โปรดิวเซอร์ผู้อยู่เบื้องหลัง Spider-Man MCU 2 ภาคแรก ที่รู้สึกดีใจที่ได้เห็น Spidy ยังคงเดินทางในจักรวาล MCU ต่อไป เช่นเดียวกับ Robert Lawson หัวหน้าฝ่ายเจ้าหน้าที่สื่อสารของ Sony ออกมาแสดงความดีใจที่ Spider-Man MCU ยังคงเดินหน้าต่อไปด้วยกัน

Marvel ได้มอบสิทธิ์ในการจัดทำภาพยนตร์คนแสดงของ Spider-Man ให้แก่ทาง Sony มาเป็นเวลาเกือบ 2 ทศวรรษ ซึ่งต่อมา ข้อตกลงดังกล่าว Disney ได้เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย จากการที่ Disney เข้าซื้อกิจการของ Marvel เมื่อปี 2009 โดย Sony ประสบความสำเร็จ ในการทำหนัง Spider-Man ทั้ง 2 ซีรี่ย์หลัก ทั้ง Spider-Man กับ The Amazing Spider-Man ก่อนที่ Disney / Marvel จะโดดเข้าร่วมผลิตหนัง Spider-Man อย่างจริงๆจังๆ กับหนังปฐมบทของ Spider-Man MCU ชุด Spider-Man: Homecoming เมื่อปี 2017 ตามมาด้วย Spider-Man: Far From Home ในปี 2019 ที่สามารถโกยตังค์ได้อย่างถล่มทลาย จนกลายเป็นหนังของ Sony ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล


แหล่งข่าว : Variety


10 อันดับมังงะขายดีที่ญี่ปุ่น โดย Oricon : 16-22 ก.ย. 2019

(อันดับ / เรื่อง-เล่ม / ยอดขายประจำสัปดาห์)

01. Gotoubun no Hanayome เจ้าสาวของผมเป็นแฝดห้า #11 (358,295 เล่ม)

02. Nanatsu no Taizai ศึกตำนาน 7 อัศวิน #38 (196,639 เล่ม)

03. Dungeon Meshi สูตรลับตำรับดันเจี้ยน #8 (153,332 เล่ม)

04. Kaguya-sama wa Kokurasetai〜Tensai-tachi no Renai Zunou-sen〜 สารภาพรักกับคุณคางุยะซะดีๆ ฯ #16 (148,913 เล่ม)

05. Golden Kamuy #19 (140,997 เล่ม)

06. Skip Beat! #44 (70,176 เล่ม)

07. Kishuku Gakkou no Juliet รักลับๆข้ามหอของนายหมากับน้องแมว #15 (69,111 เล่ม)

08. Hoozuki no Reitetsu ยุ่งนักหนาเลขาพญายม #29 (63,514 เล่ม)

09. Haikyuu!! คู่ตบฟ้าประทาน #39 (51,609 เล่ม)

10. Nagi no Oitoma #6 (50,081 เล่ม)


แหล่งข่าว : Oricon


 
free hit counter javascript