บอกเล่าข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 12-18 ตุลาคม 2563

บอกเล่าสรุปข่าวการ์ตูนประจำสัปดาห์ กลับมาอีกครั้ง ......กับสัปดาห์แสนตึงเครียด จากวิกฤตการณ์การเมืองของเรา ซึ่งใครที่ติดตามข่าวการชุมนุมมาตลอด.....ใครจะมองยังไง ก็สุดแต่ความเห็นของแต่ละคน ซึ่งแต่ละคนนั้น ย่อมมีจุดยืนที่แตกต่างกันออกไป....ถึงกระนั้น เชื่อว่า ส่วนใหญ่ คงไม่มีใครอยากเห็นภาพความรุนแรงเกิดขึ้น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นใคร มีแนวคิดยังไง ก็ไม่ควรใช้ความรุนแรง ทั้งการกระทำ หรือ วาจา ในการตอบโต้ เพียงเพราะความเห็นที่แตกต่างกัน แน่นอนว่า การใช้ความรุนแรงใดๆนั้น ไม่ใช่การหาทางออกของปัญหาที่ถูกต้องเลย!!

ถึงตรงนี้ ก็อยากให้แต่ละฝ่าย เปิดใจ หันหน้ามาพูดคุยกันอย่างเปิดอก เจรจาอย่างสันติ เคารพซึ่งกันและกัน และร่วมกันหาทางออกให้กับบ้านเมือง เพราะเชื่อมั่นว่า ทุกคน ต่างมีความต้องการอยากให้ประเทศชาติดีขึ้น ....ขอให้แต่ละฝ่าย ลด ละ เลิก ความคิดที่จะเอาชนะกันไปข้างนึง และ พยายามบีบเอาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ต้องเป็นฝ่ายต้องร่นถอยไป ซึ่งหากเป็นยังงี้ต่อไป ความขัดแย้งต่างๆ ก็ไม่จบ มีแต่จะยืดเยื้อไปเรื่อย ซึ่งส่งผลกระทบต่อประเทศโดยภาพรวม ที่กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาหนักๆ ทั้ง เศรษฐกิจ และ COVID-19 อยู่แล้ว ..... อย่าให้บอบช้ำไปมากกว่านี้เลย!!!!

สำนักข่าว K-D News (kartoon-discovery.com)
สามารถอัพเดทข่าวสารเว็บเราได้ผ่าน Twitter และ Facebook


หากนำข่าวจากเราไปเผยแพร่ที่อื่น รบกวนใส่เครดิตให้กับทางเราด้วยครับ ขอบคุณครับ

New Release Comics of the Week : สานฝันเพื่อเธอบ้าง กับ สะดุดรักยัยแฟนเช่า 14

การ์ตูนออกใหม่ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นสัปดาห์ Cool Down หลังงานมหกรรมหนังสือแห่งชาติ ที่หลายคนคงจะกินแกลบกันไปเยอะ ก็เลยมีเรื่องน่าสนใจวางขายเพียงหยิบมือ

สะดุดรักยัยแฟนเช่า เล่ม 14 Crowd Funding ที่ได้เริ่มต้นขึ้นสานฝันให้กับมิสึฮาระ! ทั้งการเริ่มต้นรวบรวมเงินทุนที่ไปได้สวย ส่วนคราวนี้ต้องมาเจอปัญหากับการเลือกบทละครอีก
แถมเด็กข้างห้องที่เพิ่งย้ายเข้ามา ยาเอะโมริ มินิ ยังมาพูดอีกว่าได้ยินเรื่อง "ความสัมพันธ์แบบแฟนเช่า" กับมิสึฮาระของเรา...? ทั้งงานทั้งความรัก... ยุ่งวุ่นวายไปหมด!

VIVRE CARD วีเวิลการ์ด -สารานุกรม One Piece- หนังสือสารานุกรม ที่จะช่วยให้เราได้รู้จักกับตัวละคร - โลกของ One Piece ได้ดียิ่งขึ้น!!

 

การ์ตูน-นิยาย น่าสนใจเรื่องอื่นๆ : The Fable โหดไม่ถามชื่อ เล่ม 20 ,รักอันตรายนายปีศาจคุโรซากิ เล่ม 13 ,GATE หน่วยรบตะลุยโลกต่างมิติ เล่ม 4 ,ล่าอสุรกาย ฉบับสมบูรณ์ เล่ม 19,FairyTail City Hero เล่ม 3, รวมสุดยอดผลงานสยองขวัญคัดเลือกโดย อิโต้ จุนจิ ภาค วิปริต (เล่มเดียวจบ)

รูปภาพหน้าปก : amazon.co.jp


อาลัย Izumi Matsumoto ผู้แต่งมังงะ Orange Road "ถนนสายนี้เปรี้ยว"

ข่าวเศร้าของบรรดาคอการ์ตูนยุค 80-90 ผู้เติบโตมากับมังงะ-อนิเมแนวโรแมนติควัยรุ่นสุดคลาสสิค Kimagure Orange Road หรือ ถนนสายนี้เปรี้ยว รวมถึงหลงเสน่ห์ในตัวละครสาวฮ็อตประจำเรื่อง อย่าง Madoka Ayukawa..... เมื่อ อ. Izumi Matsumoto ผู้แต่งมังงะเรื่องนี้ ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ ด้วยวัย 61 ปี หลังจากต่อสู้กับอาการป่วยมานาน เมื่อ 6 ต.ค. 2020 โดยทาง Wave Studio ได้ยืนยันข่าวการจากไปของ อ.Matsumoto บนบลอกส่วนตัวของเขา ณ เว็บไซต์ Comic-On เมื่อ 13 ต.ค. 2020 ตามเวลาในญี่ปุ่น (ตรงกับวันเกิดของ อ.Matsumoto พอดี)

อ.Matsumoto ประสบกับอาการป่วยจากโรค cerebrospinal fluid hypovolemia หรือ ภาวะขาดน้ำหล่อเลี้ยงในไขสันหลัง มานาน จากการที่เขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ตั้งแต่วัยเยาว์ และจากอาการดังกล่าว ทำให้เขาต้องทุกข์ทรมานไปกับอาการเจ็บปวด บริเวณ ศีรษะ คอ และ หลัง อย่างรุนแรง ซะจนทำให้เขาไม่สามารถที่จะทำงานเขียนการ์ตูนได้อย่างต่อเนื่อง ต่อไป ถึงกระนั้น อ.Matsumoto ยังคงมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะกลับมาทำงานเขียนมังงะที่เขารัก ไปพร้อมๆกับต่อสู้กับอาการป่วย

โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อ.Matsumoto คอยอัพเดทอาการป่วยของเขาบนบลอกส่วนตัวเป็นระยะๆ ซึ่งมีตั้งแต่อาการเจ็บปวด และ ชา อย่างรุนแรง ซะจนนอนไม่หลับ อันเป็นผลพวงจากโรคกระดูกสันหลังตีบ ประกอบกับการที่เขาต้องนั่งทำงานเขียนการ์ตูนเป็นระยะเวลานาน เมื่อครั้งอดีต รวมถึง มีปัญหาทางด้านสายตา ซะจนไม่สามารถที่จะใช้งานคอมพิวเตอร์ หรือ โทรศัพท์มือถือ ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ เขาเคยได้รับการผ่าตัดบริเวณหัวใจ จนนำไปสู่ความกังวลของเขาเกี่ยวกับการกลับมาทำงานเขียนการ์ตูนตามปกติ ซึ่ง อ.Matsumoto ได้พยายามต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บอันเรื้อรังมาโดยตลอด จนกระทั่ง เขาได้จากไป ขณะที่กำลังนอนหลับ จากการยืนยันโดยคุณหมอผู้ทำการรักษาเขา

อ.Matsumoto เขียนมังงะ Orange Road ลงในนิตยสาร Shonen Jump ช่วง มี.ค. 1984 - ก.ย. 1987 ซึ่งเคยวางจำหน่ายในบ้านเรา ในชื่อไทย ถนนสายนี้เปรี้ยว ทั้งฉบับไพเรท และ ลิขสิทธิ์ของ VBK ต่อมาถูกดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี 48 ตอน โดย Studio Pierrot ออกอากาศช่วง เม.ย. 1987 - มี.ค. 1988 จากนั้น ได้รับการดัดแปลงเป็นหนังอนิเม 2 ชุด เมื่อปี 1988 กับ 1996 และ OVA จำนวน 8 ตอน ช่วง มี.ค. 1989 - เม.ย. 1991 โดยอนิเมเรื่องนี้ ก็มีหลากหลายชื่อไทยในบ้านเรา ตั้งแต่ Super Boy (ช่อง 3) , หนุ่มเฟื่อง สาวเฟี้ยว (ช่อง 3) และ วัยเรียน วัยรัก (UBC)

แหล่งข่าว : MAL , Anime News Network


โรงหนังญี่ปุ่นผ่อนมาตรการ COVID-19 ....ให้แฟนๆ เข้าชม Kimetsu no Yaiba – The Movie: Mugen Train บนโรง เต็มความจุ 3 วันแรก

หลังจากปล่อยให้บรรดาสาวกนักพิฆาตอสูร รอคอยมานาน ในที่สุด Kimetsu no Yaiba – The Movie: Mugen Train (Kimetsu no Yaiba: Mugen Ressha-Hen) หนังอนิเมดัดแปลงจากบทรถไฟอสูร ของมังงะ Kimetsu no Yaiba หรือ ดาบพิฆาตอสูร ได้เข้าฉายบนโรงภาพยนตร์ในญี่ปุ่นแล้ว เมื่อ 16 ต.ค. 2020 ที่ผ่านมา ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้น การเข้าโรงของหนังอนิเมดังกล่าว ทำให้ทางโรงหนังในเครือของ TOHO CINEMAS ตัดสินใจที่จะคลายมาตรการป้องกันไวรัส COVID-19 ด้วยการเปิดให้เข้าชมหนังเรื่องนี้บนโรง แบบเต็มอัตราความจุที่นั่ง 100% ในช่วง 3 วันแรกของการฉายหนังบนโรง

โรงภาพยนตร์ในญี่ปุ่น ได้จัดระเบียบที่นั่งบนโรง โดยเน้นการเว้นระยะทางสังคม ให้สอดคล้องกับมาตรการป้องกัน COVID-19 เมื่อ พ.ค. 2020 ก่อนที่ รัฐบาลญี่ปุ่น จะมีปรับปรุงการจัดระเบียบที่นั่ง บนโรงละคร -โรงภาพยนตร์ ในเดือน ก.ย. 2020 ที่ผ่านมา โดยอนุญาตให้ โรงหนัง / โรงละคร สามารถเปิดให้ผู้เข้าชมเข้าไปนั่งให้เต็มความจุที่นั่งทั้งหมด แต่ถึงกระนั้น สำหรับโรงที่เปิดให้ผู้เข้าชมหนังสามารถพกของกินเข้าไป จะอนุญาต ในกรณีที่มีการออกฉายหนังแบบจำกัดที่นั่งเพียง 50% จากจำนวนที่นั่งทั้งหมด

โดยสุดสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป โรงภาพยนตร์ในญี่ปุ่น จะได้รับอนุญาติเปิดให้เข้าชมแบบเต็มความจุที่นั่ง เป็นระยะเวลาชั่วคราว รวมถึง โรงหนังจะมีการจัดจำหน่ายเครื่องดื่มตามปกติด้วย แต่ถึงกระนั้น ทางโรงหนังจะไม่อนุญาตให้ผู้เข้าชมหนัง รับประทานอาหารบนโรงภาพยนตร์ ในขณะกำลังรับชมหนัง และยังคงให้ผู้เข้าชมหนังบนโรง สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และลดการสนทนา ขณะอยู่ในโรง

แหล่งข่าว : Toho Cinemas , Anime News Network


Evangelion 3.0+1.0 เคาะวันฉายใหม่ ม.ค. 2021 & หนัง 3 ภาคแรกของ Rebuild of Evangelion เตรียมฉายบนโรงที่ญี่ปุ่น ในระบบ 4 มิติ

อัพเดตกันอย่างต่อเนื่อง เกี่ยวกับข่าวคราวของ Evangelion: 3.0+1.0: Thrice Upon A Time (Shin Evangelion Gekijō-ban :||) หนังอนิเมภาคสุดท้ายของซีรี่ย์ Rebuild of Evangelion ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง ผกก. Hideaki Anno และ สตูดิโอ Khara ได้ขอร้องให้แฟนๆอดใจรอหนังภาคนี้กันอีกนิด หลังจากที่ตัวหนังได้เลื่อนฉายออกไป จากเดิมที่มีกำหนดเข้าฉายบนโรงทั่วญี่ปุ่น ในเดือน มิ.ย. 2020 อันเนื่องมาจากการระบาดของไวรัส COVID-19 รวมไปถึง ทาง Khara ยังได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความยาวของตัวหนังดังกล่าว ซึ่งตัวหนังนั้น จะมีความยาวเพียง 2 ชั่วโมงกว่าๆ ไม่ได้มีความยาวถึง 6 ชั่วโมง ตามที่มีการลือไปทั่วบนโลกโซเชียล

ล่าสุด Khara ได้ทำการอัพโหลดเทรเลอร์ตัวใหม่ล่าสุดของ Evangelion 3.0+1.0 บนช่อง Youtube หลักของพวกเขา ซึ่งเทรลเลอร์ดังกล่าว ได้แจ้งวันฉายใหม่ของตัวหนังชุดนี้ ออกมาแล้ว นั่นคือ วันที่ 23 ม.ค. 2021

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่หนัง EVA 3.0+1.0 จะเข้าฉายจริงช่วง ม.ค. 2021 แฟนๆของ Evangelion สามารถรอชิมลางการมาของหนังดังกล่าว ไปพร้อมๆกับ การทบทวนเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นในหนัง 3 ภาคแรกของ Rebuild of Evangelion ..... เมื่อ twitter หลักของ Evangelion ได้แจ้งว่า หนังอนิเม Evangelion: 1.11 You Are (Not) Alone, Evangelion: 2.22 You Can (Not) Advance, และ Evangelion: 3.33 You Can (Not) Redo จะได้ฉายบนโรงภาพยนตร์อีกครั้ง ในระบบ 4DX กับ MX4D จำนวนรวม 82 แห่งในญี่ปุ่น ในเดือน ธ.ค. 2020 นี้ จะประเดิมด้วย EVA 1.11 ในวันที่ 4 ธ.ค. 2020 และจะฉายแบบสลับสับเปลี่ยนทุกสัปดาห์ จนถึง 24 ธ.ค. 2020

โดยหนังในระบบ 4 มิติ นี้ จะเป็นการฉายหนังโดยเพิ่มลูกเล่น-อรรถรสต่างๆ สร้างอารมณ์สมจริงขณะรับชม ทั้งละอองน้ำ , อากาศร้อน/เย็น , เก้าอี้ขยับได้ เป็นต้น

แหล่งข่าว คลิป และ ทวีต : Comic Natalie , Crunchyroll


ฮือฮา!! Kumamon โผล่ร่วมปาร์ตี้ กับก๊วนโจรสลัดหมวกฟาง ในหน้าเปิด One Piece ตอนใหม่ล่าสุด

หลังจากห่างหายไปนาน 2 อาทิตย์ ในที่สุด มังงะ One Piece ได้กลับมาตีพิมพ์ตามปกติอีกครั้ง กับตอนที่ 992 ในนิตยสาร Shonen Jump ฉบับที่ 46/2020 ซึ่งเพิ่งวางจำหน่ายไป เมื่อ 17 ต.ค. 2020 ที่ผ่านมา (ตอนดังกล่าว ได้เผยแพร่ลงเว็บไซต์ Mangaplus เมื่อช่วง 5 ทุ่มของวันที่ 16 ต.ค. 2020 ตามเวลาในไทย)

ในตอนดังกล่าว นอกจากจะเป็นการติดตามความมันส์การต่อสู้ของพรรคพวกของ Luffy อันเป็นการนับถอยหลังสู่ตอนที่ 1,000 ของ One Piece แล้ว ...สิ่งที่หลายคนพูดถึงกันเยอะ และฮือฮากันพอสมควร คงหนีไม่พ้นหน้าเปิดประจำตอนนี้ ซึ่งนอกจากเราจะได้เห็นสมาชิกกลุ่มหมวกฟางกำลังเฮฮาปาร์ตี้ในอิริยาบทต่างๆ ตามที่หลายคนชินตากันแล้ว หากใครสายตาดีหน่อย ก็คงจะได้เห็น Kumamon มาสค็อตหมีดำระดับเซเลป ได้มาโผล่แจมเฮฮากับก๊วนของ Luffy ด้วยเช่นกัน!!!!!

โดย Kumamon เป็นมาสค็อตดังประจำจ.คุมาโมโตะ ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นจังหวัดบ้านเกิดของ อ. Eiichiro Oda ผู้แต่ง One Piece ประกอบกับ โปรเจ็คฟื้นฟู จ.คุมาโมโตะ ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหว เมื่อปี 2016 ที่ได้ อ.Oda กับ มังงะ One Piece ได้ให้ความช่วยเหลือจังหวัดดังกล่าวในหลายๆด้าน ได้ย่างเข้าสู่ปีที่ 5 พอดี ....จึงนำไปสู่การเฉลิมฉลองร่วมกันบนหน้าสีตอนดังกล่าว (หากใครตาดีอีกหน่อย จะพบว่า มีภาพปราสาทคุมาโมโตt แลนด์มาร์คดังประจำจังหวัดดังกล่าว ติดอยู่บนผนัง ข้างหลัง Franky ด้วย)



แหล่งข่าวและรูปภาพ : Weekly Shonen Jump 46/2020



ผกก.อนิเม Mamoru Oshii โผล่แสดงในภาพยนตร์ Hanataba Mitaina Koi wo Shita

Mamoru Oshii ผกก.อนิเม วัย 69 ปี จาก Mobile Police Patlabor, Ghost in The Shell จะได้ร่วมแสดงหนัง ชุด Hanataba Mitaina Koi wo Shita (We fell in love like a bouquet of flowers) ซึ่งถือเป็นการแสดงหนังยาวเป็นครั้งแรกของเขา (แม้ว่าตัวเขาจะเคยปรากฏตัวในหนังสารคดีจำนวนหลายชุดก็ตาม) โดยหนังดังกล่าว เขาจะแสดงบทบาทเป็นตัวเขาเอง ที่คอยเชื่อมโยงความสัมพันธ์ ระหว่างคู่พระนางของเรื่อง ที่นำแสดงโดย Masaki Suda (Shinpachi Shimura จาก Gintama คนแสดง) และ Kasumi Arimura (Tomoe Yukishiro จากหนัง Rurouni Kenshin: The Final / The Beginning)

Hanataba Mitaina Koi wo Shita เป็นหนังออริจินอลที่เขียนบทโดย Yuji Sakamoto (Tokyo Love Story (1991), Last Christmas (2004), Mother (2010), Love That Makes You Cry (2016)) กำกับการแสดงโดย Nobuhiro Doi (In This Corner of the World ฉบับละครซีรี่ย์) เป็นเรื่องราวของ Mugi Yamane (แสดงโดย Suda) กับ Kinu Hachiya (แสดงโดย Arimura) คู่หนุ่มสาว ที่พบเจอกันโดยบังเอิญ หลังจากตกรถไฟขบวนเดียวกัน ซึ่งทั้งคู่ต่างก็ตกหลุมรักซึ่งกันและกัน แถมยังเป็นคู่รักที่มีความเคมีกันอย่างลงตัว จากการที่ทั้งคู่ต่างชื่นชอบสิ่งต่างๆเหมือนกัน หลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็น เพลง หรือ หนัง (แน่นอนรวมถึงผลงานของ ผกก. Oshii ด้วย!!) หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย ทั้งคู่ต่างอาศัยอยู่ด้วยกัน ไปพร้อมกับการทำงานพาร์ทไทม์ และ พยายามหางานที่มั่นคง เพื่อรักษาสถานภาพให้คงอยู่

ตัวหนังมีกำหนดเข้าฉายบนโรงทั่วญี่ปุ่น ม.ค. 2021



แหล่งข่าวและรูปภาพ : Eiga.com , Crunchyroll


ผู้วาด Blue Lock ขังดวลแข้ง เผยมีเวลานอนหลับโดยเฉลี่ย 4 ชั่วโมงต่อวัน

อาชีพนักเขียนการ์ตูน ก็ขึ้นชื่อว่า เป็นอาชีพที่ไม่ค่อยมีเวลานอนหลับพักผ่อนมากนัก โดยวันๆนึง เวลาของพวกเขาจะหมดไปกับการเขียนต้นฉบับมังงะซะเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งยืนยันได้จากนักเขียนการ์ตูนจำนวนหนึ่ง รวมไปถึง อ.Eiichiro Oda ผู้แต่ง One Piece ที่มีเวลาพักผ่อนวันนึงเพียง 2-3 ชั่วโมง เท่านั้น

ล่าสุด อ. Yusuke Nomura นักเขียนการ์ตูน ผู้วาดภาพให้กับเรื่อง Blue Lock ขังดวลแข้ง เป็นนักเขียนมังงะอาชีพคนล่าสุด ที่ได้ออกมายืนยันถึงความอดหลับอดนอนของคนอาชีพนี้จริงๆ จากการที่เขาได้โพสต์ข้อมูลที่มาจาก Apple Watch ซึ่งได้บันทึกช่วงเวลานอนหลับของเขา ลงบน twitter ส่วนตัว ปรากฏว่า ข้อมูลการนอนหลับของเขาในแต่ละวันนั้น ไม่ปะติดปะต่อเลย โดยมีเวลานอนโดยเฉลี่ยต่อวัน ราว 4 ชั่วโมง 10 นาที เท่านั้น แต่ถ้านับเวลานอนเฉลี่ยต่อสัปดาห์แล้ว ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะมีเวลานอนเพียง 3 ชั่วโมง 17 นาที เท่านั้น!!!!

ซึ่งข้อมูลที่เขาได้โพสต์ออกมานั้น พบว่า ในแต่ละวัน เขามีเวลานอน ในช่วงเวลาๆสั้น ยกเว้นเพียง วันเสาร์ ที่เขาจะมีเวลานอนยาวมากกว่าวันอื่นๆ หลังจากที่เคลียร์ต้นฉบับมังงะ ช่วงวันอาทิตย์-ศุกร์ เรียบร้อยแล้ว

Blue Lock ขังดวลแข้ง เป็นมังงะแนวฟุตบอล ที่ อ.Nomura เป็นผู้วาดภาพ โดยได้ อ.Mineyuki Kaneshiro เป็นผู้แต่งเรื่อง โดยตีพิมพ์ประจำลงในนิตยสาร Shonen Magazine รายสัปดาห์.........ซึ่งการเขียนมังงะลงในนิตยสารรายสัปดาห์นั้น ก็พอพิสูจน์ได้ว่า นักเขียนมังงะอาชีพนั้น มีความอึด และ นอนน้อย ขนาดไหน แต่เหนือสิ่งอื่นใด ขอให้คำนึงถึงสุขภาพของตนเองกันด้วยนะ!!!



แหล่งข่าว และ ทวีต : Yusuke Nomura 's twitter , Crunchyroll



Thus Spoke Kishibe Rohan มังงะสปินออฟของ JoJo ล่าข้ามศตวรรษ จะถูกสร้างเป็นละครคนแสดง 3 ตอนจบ

Kishibe Rohan นักเขียนการ์ตูนหนุ่มพลังสแตนด์จากมังงะ JoJo ล่าข้ามศตวรรษ Part 4 : เพชรแท้ไม่มีวันสลาย จัดเป็นตัวละครจากซีรี่ย์ JoJo ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง (และว่ากันว่า เป็นลูกรักของ อ.Hirohiko Araki ผู้แต่งเรื่องนี้ 555) ซะจนมีมังงะซีรี่ย์สปินออฟของตัวเอง และแล้วในที่สุด มังงะสปินออฟบท Rohan ชุด Thus Spoke Kishibe Rohan ก็ได้รับการดัดแปลงเป็นละครซีรี่ย์คนแสดง 3 ตอน มีกำหนดออกอากาศทางช่อง NHK-G เวลา 22.00 น. เริ่มตอนแรก 28 ธ.ค. 2020

ละครดังกล่าว จะได้ Issey Takahashi (Whisper of the Heart ) มารับบทเป็น Rohan โดยมี Marie Iitoyo รับบทเป็น Kyoka Izumi ผู้ดูแลของ Rohan, Fuga Shibazaki รับบทเป็น พ่อบ้าน Ikkyu, Mirai Moriyama รับบทเป็น Jugo Shishi, Kumi Takiuchi รับบทเป็น แม่ม่าย Mai Katahira, และ Tomoya Nakamura รับบทเป็น ตากล้อง Taro Hirai กำกับการแสดงโดย Kazutaka Watanabe โดยมี Yasuko Kobayashi คนเขียนบทจากอนิเม JoJo เป็นผู้เขียนบท

ตอนแรกของละครซีรี่ย์ชุดนี้ จะดัดแปลงมาจากตอน Millionaire Village จากมังงะต้นฉบับ (เคยถูกดัดแปลงเป็น OVA) , ตอนที่สอง ดัดแปลงมาจากเรื่องสั้น Kushagara ตอนแรกสุดของซีรี่ย์เรื่องสั้นของ Ballad Kitaguni ส่วนตอนสุดท้าย ดัดแปลงมาจากตอน D.N.A. ที่เคยตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Bessatsu Margaret เมื่อปี 2017


แหล่งข่าว : Comic Natalie , Crunchyroll


มังงะสปินออฟของ Kimi ni Todoke ฝากใจไปถึงเธอ ผุดตอนใหม่ล่าสุด ช่วงต้นปี 2021

แม้ว่าเรื่องราวความรักระหว่าง Sawako กับ Kazehaya ที่ปรากฏในมังงะ Kimi ni Todoke หรือ ฝากใจไปถึงเธอ จะได้บทสรุปกันไปแล้ว แต่ถึงกระนั้น เรื่องราวของคนทั้งคู่ รวมไปถึง เพื่อนพ้องของพวกเขา ยังคงได้รับการเก็บตกเพิ่มเติม ผ่านมังงะสปินออฟชุด Kimi ni Todoke Bangaihen ที่เริ่มเขียนตอนแรกเมื่อ เม.ย. 2018 และได้มีการเขียนต่อเพิ่มเติมลงในนิตยสาร Bessatsu Margaret เรื่อยๆ จนถึงตอนที่ 6 เมื่อ 11 ส.ค. 2020 ที่ผ่านมา

ล่าสุด Bessatsu Margaret ฉบับ พ.ย. 2020 ได้แจ้งว่า มังงะชุดนี้ กำลังจะมีตอนใหม่ล่าสุด ที่มีชื่อว่า Kimi ni Todoke Bangaihen ~Unmei no Hito~ (Kimi ni Todoke Spinoff: Soulmate) ลงตีพิมพ์ในนิตยสารดังกล่าว ช่วงต้นปี 2021 โดยมีแผนจะลงตีพิมพ์คร่าวๆ ใน Bessatsu Margaret ฉบับ ก.พ. 2021 หรือ หลังจากนั้น

Kimi ni Todoke ผลงานมังงะแนวโชโจขายดีระดับท็อปของ อ.Karuho Shiina ตีพิมพ์ลงใน Bessatsu Margaret ช่วงปี 2006-2017 มีฉบับมังงะรวมเล่มทั้งหมด 30 เล่ม รวมไปถึง Kimi ni Todoke Bangaihen ที่ออกวางจำหน่ายฉบับรวมเล่ม 1 ไปเมื่อ ก.ย. 2019 ต่อมาถูกสร้างเป็นอนิเมซีรี่ย์ และ หนังคนแสดง ตามมา


แหล่งข่าว และ รูปภาพ : Anime News Network


Shadows House ถูกดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี

บริษัทผู้ผลิตอนิเม Aniplex รวมถึง ฉบับรวมเล่มที่ 6 ของมังงะ Shadows House ที่เพิ่งวางจำหน่ายไปเมื่อ 16 ต.ค. 2020 ได้พร้อมใจกันแจ้งว่า ผลงานมังงะของ Somato ได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเมทีวีแล้ว ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึง ภาพวิชวล จะมีการเปิดเผยในนิตยสาร Young Jump ฉบับที่ 48 ที่จะวางขายในวันที่ 29 ต.ค. 2020

Shadows House เป็นเรื่องราวของ กลุ่มคนชั้นสูง ผู้ไร้หน้า เห็นเพียงแต่เงาดำทมิฬ ได้มาอาศัยอยู่รวมกันในคฤหาสน์แห่งหนึ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยปริศนา โดยพวกเขา ต่างก็มี ตุ๊กตาที่มีชีวิต ที่คอยปรนนิบัติช่วยเหลือพวกเขา ไม่เพียงแค่หน้าที่ทำความสะอาดแล้ว ยังต้องคอยรับหน้าที่เป็นใบหน้าให้กับพวกเขา โดยนำเสนอเรื่องราวผ่าน Emilyko สาวน้อยผู้สดใส ผู้ซึ่งรับหน้าที่เป็นตุ๊กตาชีวิต คอยรับใช้ท่าน Kate

Somato เขียนมังงะเรื่องนี้ลงใน Young Jump ตั้งแต่ ก.ย. 2018 เป็นต้นมา และมีการเผยแพร่เวอร์ชั่นหน้าสีของเรื่องนี้บนเว็บไซต์ Tonari no Young Jump กับ แอพ Yanjan! ปัจจุบัน สามารถหาฉบับแปลไทยของเรื่องนี้มาอ่านกันได้ ของสนพ.สยามอินเตอร์ คอมิคส์ (ภายใต้แบรนด์ Siam Inter Comic Dark)

แหล่งข่าว : Pr Times , MAL


 

มังงะ "ข้าก้าวผ่าน 1 ล้านชีวิตเพื่อพิชิตเกมมรณะ" มียอดขายรวมเล่มเพิ่ม 11 เท่า จากการมาของฉบับอนิเมทีวี

100-Man no Inochi no Ue ni Ore wa Tatteiru หรือ ข้าก้าวผ่าน 1 ล้านชีวิตเพื่อพิชิตเกมมรณะ ผลงานมังงะแนวแฟนตาซีต่างโลก ของ อ.Naoki Yamakawa กับ อ. Akinari Nao กลายเป็นมังงะซีรี่ย์เรื่องล่าสุด ที่ได้ฉบับอนิเม ช่วยกระตุ้นยอดขายของมังงะต้นฉบับ ซะสูงลิ่ว เพิ่มขึ้นเป็น 11 เท่า จากการรายงานของ Mantan Web

ฉบับอนิเมทีวีของเรื่องนี้ ผลิตโดย Maho Film และ ผกก. Kumiko Habara (ep director จาก PriPri Chii-chan!!, Battle Spirits Burning Soul ) ออกอากาศที่ญี่ปุ่น เมื่อ 2 ต.ค. 2020 ที่ผ่านมา โดยมีกำหนดฉายทั้งหมด 12 ตอน ด้วยกัน (ซึ่งทั้ง 12 ตอนนี้ ได้สร้างเสร็จหมดแล้ว เป็นเวลา 3 เดือน ก่อนที่ตัวอนิเมจะออกอากาศจริง)

มังงะ ข้าก้าวผ่าน 1 ล้านชีวิตเพื่อพิชิตเกมมรณะ ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Bessatsu Shōnen Magazine ตั้งแต่ มิ.ย. 2016 เป็นต้นมา ปัจจุบันวางจำหน่ายถึงเล่มที่ 10 ในญี่ปุ่น เมื่อ 9 ก.ย. 2020 เป็นเรื่องราวของ Yusuke Yotsuya เด็กหนุ่ม ม.3 ผู้ไร้เพื่อน ไม่สังกัดชมรมใดๆ ได้พลัดมิติไปยังโลกอีกมิติหนึ่ง พร้อมกับ สาวเพื่อนร่วมชั้น 2 คน ซึ่งที่นั่น ทั้ง 3 คนนี้ จะร่วมกันต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดบนโลกใบนี้ โดย Yotsuya ผู้สันโดด ผู้ชอบใช้ชีวิตตามที่ตนต้องการ กำลังจะแปรสภาพกลายเป็นผู้กล้าแห่งโลกแฟนตาซีใบนี้ ....มังงะเรื่องนี้ สามารถหาฉบับแปลภาษาไทยได้ ของ สนพ. Luckpim



แหล่งข่าวและรูปภาพ :  Mantan Web , Anime News Network

 



ผู้ว่าจังหวัด คางาวะ โต้ กฎจำกัดเวลาเล่นเกม ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ

กลายเป็นประเด็นคาราคาซังกันเสียจริง สำหรับ กฎจำกัดเวลาเล่นเกมของจังหวัดคางาวะ ที่ได้มีการบังคับใช้ในจังหวัดดังกล่าว ตั้งแต่ 1 เม.ย. 2020 เป็นต้นมา แต่ทว่า กฎดังกล่าวนี้ ได้สร้างความไม่สบอารมณ์ให้แก่คนในจังหวัดอยู่พอสมควร ซะจนทำเอา ชาวบ้านจำนวนหนึ่ง รวมถึง สำนักทนายความประจำจังหวัด พากันร้องเรียนให้ยกเลิกกฎนี้ โดยอ้างว่า เป็นการขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ และที่แย่ไปกว่านั้น ก็มี นักศึกษามหาวิทยาลัย ผู้หนึ่ง ได้แสดงความไม่พอใจที่มีต่อกฎดังกล่าว ถึงขนาดส่งเมล์ข่มขู่อาฆาตถึงสมาชิกสภาจังหวัด ผู้หนึ่งเลยทีเดียว

ล่าสุด Keizō Hamada ผู้ว่าราชการจังหวัดคางาวะ ได้แถลงต่อสื่อมวลชน ซึ่งเป็นการตอบโต้คู่คุณแม่ กับ ลูกชาย คู่หนึ่ง ที่ได้ยื่นฟ้องร้องดำเนินคดีกับทางจังหวัด เมื่อ พ.ค. 2020 โดยแม่ลูกคู่ดังกล่าว ต่างอ้างว่า กฎจำกัดเวลาเล่นเกมดังกล่าว เป็นการขัดรัฐธรรมนูญ และ ขัดต่อสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน พร้อมกับเรียกร้องค่าเสียหายจำนวน 1.54 ล้านเยน ซึ่งตัวของ Hamada ไม่เชื่อว่า กฎจำกัดเวลาเล่นเกมของเยาวชนนั้น จะเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญใดๆ

"ตามความเข้าใจของผม กฎบัญญัตินี้ไม่ได้ขัดต่อกำหนด หรือ เจตนารมณ์ของกฎหมาย ต้องเดินหน้าต่อไป ผมเชื่อมั่นว่า เราจะตรวจสอบวิธีที่เหมาะสมในการสู้คดี หลังจากที่มีการยืนยันเนื้อหาแล้ว"

ส่วนในประเด็นที่ เด็กหนุ่มม.ปลายวัย 17 ปี มีอายุอยู่ในเกณฑ์ที่ยื่นฟ้องร้องทางกฎหมายนั้น Hamada กล่าวว่า การตัดสินจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด อันเนื่องมาจากลักษณะของโจทก์ และการตัดสินที่เหมาะสม จะเป็นไปตามกฎหมาย เขายังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ ความพยายามต่างๆ กำลังอยู่ในขั้นตอนดำเนินการ

ขณะเดียวกัน ฝั่งคู่แม่ลูกคู่นี้ สามารถระดมเงินทุนถึงเป้าหมาย 5 ล้านเยน ในการต่อสู้คดีนี้ เมื่อ ก.ค. 2020 ที่ผ่านมา

จังหวัดคางาวะ กลายเป็นจังหวัดแห่งแรกของญี่ปุ่น ที่ได้มีการตั้งกฎจำกัดเวลาเล่นเกม โดยมีเป้าหมายในการต่อสู้กับปัญหาเด็กติดเกมโดยเฉพาะ โดยกำหนดให้ เยาวชนผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ใช้เวลาเล่มเกม / สมาร์ทโฟน 60 นาที ต่อวันธรรมดา หรือ 90 นาที ในวันเสาร์-อาทิตย์ และไม่อนุญาตให้ เยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ใช้อุปกรณ์เล่มเกม หลัง 22.00 น. (สำหรับ เยาวชนผู้มีอายุต่ำกว่า 12 ปี ห้ามใช้อุปกรณ์เล่มเกม หลัง 21.00 น.) อย่างไรก็ตาม กฎบัญญัตินี้ ไม่มีบทลงโทษสำหรับคนที่ฝ่าฝืน โดยเป็นการขอร้องให้คนในบ้านช่วยกันสอดส่องและกำชับให้เด็กๆได้ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด

แหล่งข่าว : Setonaikai Broadcasting , Otakomu , Anime News Network



ผกก.อนิเม Violet Evergarden เผยความลังเล เกี่ยวกับการสร้างฉบับภาพยนตร์

นิตยสาร Newtype ฉบับ พ.ย. 2020 ได้ลงบทสัมภาษณ์ของ Taichi Ishidate กับ Shinichiro Hatta ผกก. กับ โปรดิวเซอร์ จากอนิเม Violet Evergarden เกี่ยวกับเบื้องลึกเบื้องหลังของหนังอนิเม Violet Evergarden: The Movie ที่กำลังฉายบนโรงในญี่ปุ่น ตั้งแต่ 18 ก.ย. 2020 ที่ผ่านมา โดยบทสัมภาษณ์ดังกล่าว Ishidate ได้ออกมาเปิดเผยถึงความลังเลเกี่ยวกับการสร้างฉบับหนังโรง ที่มีเนื้อหาต่อเนื่องจากอนิเมทีวี [ข่าวนี้มีการสปอยเนื้อหาอนิเม]

Ishidate กล่าวว่า เรื่องราวของ Gilbert ในฉบับทีวีนั้น แม้เขาจะเป็นหรือตาย ก็ยังไม่ปรากฏ แต่ถ้าหาก Violet ไม่มีทางพบเจอเขาอีกแล้วนั้น เธอควรจะมีชีวิตต่อไป นั่นล่ะคือสิ่งที่เขาตั้งใจจะบอกเล่า แต่พอมีการพูดคุยเกี่ยวกับโปรเจ็คต่อยอด เขาได้บอกไปว่า มันไม่มีอะไรที่เขาอยากจะทำแล้ว อย่างไรก็ตาม บทที่ Reiko Yoshida ได้เขียนเอาไว้นั้น มันช่วยกระตุ้นทำให้เขามาคิดอีกทีว่า ให้ Gilbert ยังมีชีวิตอยู่ คงไม่เป็นไรกระมัง

Ishidate กล่าวต่อว่า หากจะโฟกัสเฉพา Violet กับ Gilbert มันจะกลายเป็นเรื่องราวความรัก ซึ่งเขาไม่ได้สร้างเนื้อหาฉบับทีวีให้ออกมาเป็นแบบนั้น ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่นั้น Hatta ก็มาบอกเขาว่า ต้องนำเสนอเส้นทางชีวิตของ Violet สิ Hatta เชื่อว่า เนื้อหาฉบับหนัง ควรจะนำเสนอวิถีชีวิตที่ Violet ได้ดำเนินมาตลอดทั้งชีวิต พร้อมกับปูทางให้แก่คนรุ่นใหม่ๆ

Ishidate กล่าวอีกว่า เขาได้วางพล็อตไคลแมกซ์ทั้งหมดในช่วงตอนจบของหนังอย่างระมัดระวัง จึงทำให้เรื่องราวต่างๆ ไปด้วยกันได้ แบบน่าพอใจ โดยยึดเอาความเรียบง่ายของเนื้อเรื่องเป็นหลัก แม้ว่า เขาจะได้รับฟีดแบ็คเกี่ยวกับบทร่างอันแรกจาก ผกก.ยูนิต Taichi Ogawa ไปพอสมควร โดยเขาได้อธิบายว่า หนังชุดนี้ เป็นผลงานที่ทุกๆคน ป้อนเข้ามามากมาย

นอกจากนี้ บทสัมภาษณ์ดังกล่าว ยังได้เปิดเผยถึงเบื้องหลังการพากย์หนังชุดนี้ ซึ่งพบว่าส่วนหนึ่งมีการด้นบทพากย์สดๆจากบรรดานักพากย์ด้วย โดย Ishidate ได้กล่าวชมนักพากย์ที่ทำงานกันได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่ต้นจนจบ ชนิดที่เทคเดียวผ่าน แบบไม่ต้องพากย์แก้ซ้ำไปมา

แหล่งข่าว : Anime News Network



โปรดิวเซอร์อนิเม Attack on Titan "ผ่าพิภพไททัน" แจงเหตุผลหลักที่เลือก MAPPA เป็นสตูดิโอผลิตอนิเมซีซั่นสุดท้าย

นิตยสาร Newtype ฉบับ พ.ย. 2020 ยังได้ลงบทสัมภาษณ์ของ Kensuke Tateishi, Toshihiro Maeda, และ Tetsuya Kinoshita 3 โปรดิวเซอร์จากอนิเม Attack on Titan หรือ ผ่าพิภพไททัน โดยบทสัมภาษณ์ดังกล่าว ได้มีการเปิดเผยถึงสาเหตุที่แท้จริง ที่พวกเขาได้ตัดสินใจเปลี่ยนสตูดิโอผู้ผลิต จาก Wit Studio ในอนิเม 3 ซีซั่นแรก ไปเป็น MAPPA ที่จะรับหน้าที่ผลิตอนิเมซีซั่นสุดท้ายของเรื่องนี้ (เนื้อข่าวบทสัมภาษณ์ต้นฉบับภาษาอังกฤษยาวมาก ขอสรุปแบบรวมๆล่ะกัน)

Tateishi กล่าวว่า ในขณะที่ อนิเมซีซั่น 3 กำลังมีการทำอยู่นั้น พวกเขาได้ปรึกษากับ Wit Studio เกี่ยวกับโปรเจ็คอนิเมชุดต่อไป จนนำไปสู่การตัดสินใจของพวกเขา ในการเปลี่ยนไปใช้สตูดิโออื่นในการผลิตอนิเมซีซั่นสุดท้าย โดยหนึ่งในเหตุผลหลักคือ เนื้อหาตอนจบซีซั่น 3 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเรื่อง และในฐานะผู้สร้าง พวกเขาก็ต้องการให้อนิเมดังกล่าวพัฒนาไปไกลกว่านี้ พอหลังจากคุยกับ Wit แล้ว ก็เข้าใจว่า มันเป็นการยากที่จะทำต่อไป ก็เลยตัดสินใจเลือกหาสตูดิโออื่นๆ มารับหน้าที่สานต่อแทน กลับกลายเป็นว่า สตูดิโอส่วนใหญ่บอกปัดข้อเสนอของพวกเขาซะหมด จนกระทั่ง มาลงตัวที่ MAPPA ซึ่งทั้งโปรดิวเซอร์ รวมถึงทาง WIT ต่างก็ยิมยอมให้สตูดิโอดังกล่าว รับหน้าที่สานต่อแทน

ขณะที่ Maeda กับ Kinoshita ต่างการันตีความยอดเยี่ยม ที่ได้ MAPPA มาสานต่ออนิเม ผ่าพิภพไททัน ซีซั่นสุดท้าย ซึ่งรับรองว่า งานจะออกมาดี และจะมีตอนจบออกมาถูกใจแฟนๆอย่างแน่นอน

โปรดิวเซอร์ทั้ง 3 ต่างเน้นย้ำว่า พวกเขาจะดัดแปลงเรื่องราวจากมังงะทั้งหมด แทนที่จะจบกลางคัน เพื่อเป็นการเอาใจแฟนๆที่สนับสนุนเรื่องนี้มาโดยตลอด อีกทั้ง Tateishi ยังได้กล่าวถึงการตัดสินใจเลือกเอาอนิเมชุดนี้ ย้ายไปฉายทางช่อง NHK นั่นก็เพื่อที่จะให้ชาวญี่ปุ่นได้รับชมกันอย่างทั่วถึงมากขึ้น โดยที่ MBS ช่องทีวีที่เคยออกอากาศอนิเมเรื่องนี้ในซีซั่นก่อนๆ ยังคงร่วมสนับสนุนเงินทุน และเป็นหนึ่งในคณะกรรมการผลิต เช่นเคย

อนิเมซีซั่นแรกของ ผ่าพิภพไททัน ออกอากาศครั้งแรก เมื่อ เม.ย. 2013 ตามมาด้วยซีซั่น 2 เมื่อ เม.ย. 2017 และ ซีซั่น 3 ทั้งครึ่งแรก และ ครึ่งหลัง เมื่อ ก.ค. 2018 และ เม.ย. 2019 ตามลำดับ โดย อนิเมซีซั่นสุดท้ายของไททัน มีกำหนดฉายทางช่อง NHK General ในเครือ NHK วันที่ 7 ธ.ค. 2020 นี้



 

แหล่งข่าว : Anime News Network



อุตสาหกรรมอนิเมญี่ปุ่น เติบโตขึ้นอย่างช้าๆ ในปี 2019

บริษัทวิจัยทางการเงิน Teikoku Databank ได้เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมอนิเมญี่ปุ่น ประจำปี 2019 ปรากฏว่า อุตสาหกรรมอนิเม สามารถรายได้ทั้งสิ้นจำนวน 242.749 พันล้านเยน ในปี 2019 ซึ่งตัวเลขดังกล่าว มาจากรายได้ของบริษัทอนิเมทั้ง 273 แห่ง โดยอุตสาหกรรมอนิเมญี่ปุ่นนั้น ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา เพียงแต่ ในปี 2019 มียอดรายได้เพิ่มขึ้นเพียง 0.5% เท่านั้น กลายเป็นปีที่มียอดรายได้เพิ่มขึ้นปีต่อปี ต่ำที่สุด ในรอบ 11 ปี ที่ผ่านมา

ในขณะที่ปี 2019 เป็นปีที่มีการผลิตอนิเมมากกว่า 300 เรื่อง เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน แต่ก็เป็นปีที่สองติดต่อกัน ที่ยอดการผลิตโดยรวมลดลง นับตั้งแต่ยอดผลิตอนิเม เคยอยู่ในจุดสูงที่สุด ถึง 356 เรื่องในปี 2017 โดยปี 2018 และ 2019 มีการผลิตอนิเมทั้งสิ้น 340 เรื่อง และ 332 เรื่องตามลำดับ

รายได้เฉลี่ยของบริษัทอนิเม อยู่ที่ 899 ล้านเยน ในปี 2019 โดยบริษัทอนิเมเคยมีรายได้เฉลี่ยสูงที่สุด ถึง 1 พันล้านเยน เมื่อปี 2007

การจ้างงานภายนอก และ งานสัญญาพิเศษ มีมูลค่า 174.2 ล้านเยน ของรายได้อุตสาหกรรมทั้งหมดในปี 2019 ซึ่งเพิ่มขึ้นราว 3.7% จากปีก่อนหน้า ในบรรดาสตูดิโอที่เชี่ยวชาญด้านงานรับเหมา มีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 337 ล้านเยนเพิ่มขึ้น 5.8% จากปี 2018 ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มสูงขึ้น 3 ปีติดต่อกัน

รายงานดังกล่าว ยังพูดถึงกระแสการร่วมทุนสร้างอนิเม ระหว่างบริษัทญี่ปุ่น กับ บริษัทต่างประเทศ เช่น Netflix , Haoliners Animation League กับ Colored Pencil Animation สองบริษัทลูกของ Tencent บริษัทจากจีน

ในปี 2019 มีสตูดิโอเพียง 2 แห่ง เท่านั้น ที่ประกาศล้มละลาย , ปิดตัว 1 บริษัท ซึ่งน้องกว่า ปี 2018 ที่มีสตูดิโอปิดกิจการถึง 12 แห่ง โดยสาเหตุหลักที่สตูดิโอปิดกิจการน้อยลงกว่าเดิม มาจากปัญหาการขาดแคลนกำลังคน , ต้นทุน-ค้าใช้จ่ายแรงงาน รวมถึง ราคารับเหมา ลดน้อยลงไปจากปีก่อนๆหน้า ทั้งๆที่ การไม่จ่ายค่าจ้าง หรือ การจ่ายค่าจ้างล่าช้า ให้แก่อนิเมเตอร์ จะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้สตูดิโอต้องล้มละลาย

นอกจากนี้ รายงานดังกล่าว ยังได้คาดการณ์ถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้นในวงการอนิเมในอนาคต ซึ่งก็คือ เรื่องของกำลังคน และ การฝึกฝนทักษะ ที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการ แม้ว่าจะได้เงินทุนจากต่างประเทศก็ตาม สวนการผลิต มีแนวโน้มที่จะเห็นตารางการผลิตที่เข้มงวดขึ้น และผลผลิตที่ลดลง ตามลำดับ ซึ่งอาจส่งผลทำให้รายได้ลดลงในระยะยาว อนาคตในปีต่อๆ ไปนั้น มีแนวโน้มที่สภาพการทำงานของอนิเมเตอร์ จะมีการปรับปรุงให้ดีขึ้น สะท้อนให้เห็นถึง ความตระหนักที่เพิ่มขึ้น เกี่ยวกับสภาพการทำงานและความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ สำหรับธุรกิจขนาดกลางของญี่ปุ่น เพื่อลดการทำงานหนักเกินไป แต่ความสมดุลทั้งหมดนี้จะขัดกับต้นทุนของการเปลี่ยนแปลงด้วย

ขณะเดียวกัน ในรายงานยังได้พูดถึงปัญหาการระบาดของ COVID-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการผลิตอนิเม ที่ทำให้สต๊าฟต้องทำงานในระยะไกล กล่าวคือ การจัดทำคีย์อนิเมชั่น และ การบันทึกเสียง สามารถทำที่บ้านได้ แต่ก็จะส่งผลต่อกระบวนการผลิต ที่จะล่าช้าลง และ เป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายสูงขึ้น คาดว่า ประสิทธิภาพในการจัดการ จะเป็นปัจจัยใหญ่ที่สุด ที่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทอนิเม ในปี 2020 นี้

แหล่งข่าว :  PR Times , Yaraon! , Anime News Network


10 อันดับมังงะขายดีที่ญี่ปุ่น โดย Oricon : 5-11 ต.ค. 2020

(อันดับ / เรื่อง-เล่ม / ยอดขายประจำสัปดาห์)

01. Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร #22 (505,526 เล่ม)

02. The Promised Neverland พันธสัญญาเนเวอร์แลนด์ #20 (191,477 เล่ม)

03. Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร #22 Limited Edition (108,821 เล่ม)

04. Jujutsu Kaisen มหาเวทย์ผนึกมาร #13 (107,575 เล่ม)

05. Burn the Witch #1 (68,810 เล่ม)

06. Black Clover #26 (61,122 เล่ม)

07. Seijo no Maryoku wa Bannou desu #5 (52,585 เล่ม)

08. Yuusha Party wo Tsuihou Sareta Beast Tamer, Saikyou Shuzoku Nekomimi Shojo to Deau #4 (47,246 เล่ม)

09. Owari no Seraph เทวทูตแห่งโลกมืด #22 (43,127 เล่ม )

10. One Piece #97 (41,480 เล่ม)


แหล่งข่าว : Oricon

 

 


 
free hit counter javascript