สรุปข่าววงการการ์ตูนประจำปี 2555 (2) : สรุปเรื่องราวลิขสิทธิ์การ์ตูน-อนิเม และ สื่อที่เกี่ยวข้องในบ้านเรา

   ปีมังกรทอง 2012 ที่กำลังจะผ่านพ้นไป ก็เกิดเรื่องราวต่างๆมากมาย แม้ว่าส่วนใหญ่จะรอดพ้นจากเหตุภัยพิบัติร้ายแรงอย่างหวุดหวิด แต่ก็ต้องแลกกับความแห้งแล้งที่มาเยือนในบางภูมิภาคด้วย ในส่วนการเมืองนั้น ก็ได้เซ็งแต่ บรรดานักการเมือง สาวกการเมืองทั้งหลาย ที่ขยันสร้างปัญหากันทั้งปี ทั้งดื้อดึง งอแง ทะเลาะเบาะแว้งกัน ทำเอาปชช.ทั่วไปต้องประสบกับปัญหาหลายอย่าง อาทิ ข้าวของแพง ,ค่าครองชีพสูง, 3G ล้าหลังกว่าชาวบ้าน, จำนำข้าว ,สนามกีฬาที่สร้างแล้วไม่ได้ใช้ , "รถคันแรก" ที่ไม่รู้จะเรียกว่าดีหรือไม่ดีกันแน่ บลาๆๆ แม้ว่าเรื่องเหล่านี้จะเป็นเรื่องน่าปวดหัวของใครหลายคน แต่อย่างน้อยปีนี้ถือเป็นปีแห่งการกีฬา ที่บ้านเราต่างได้สัมผัส (พร้อม"จอดำๆ") ไปกับ ฟุตบอลยูโร 2012 ,กีฬาโอลิมปิกส์ 2012 , วอลเลย์บอล World Grand Prix , ฟุตซอลโลก และ AFF Suzuki Cup 2012 ซึ่งสิ่งนี้แหละ ที่ช่วยให้คนไทยได้คลายเครียด สมัครสมานสามัคคีกันได้ พร้อมกับภาคภูมิใจไปกับผลงานของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็น ทีมวอลเลย์บอลสาวไทย , ทีมฟุตซอลทีมชาติไทย , นักกีฬาโอลิมปิค และ พาราลิมปิค รวมไปถึง ทีมฟุตบอลชายไทย ที่กลับมาเรียกศรัทธาแฟนบอลขึ้นมาอีกครั้งในช่วงปลายปี......

   ในส่วนของข่าวคราวในวงการการ์ตูนก็เช่นเดียวกัน ในรอบปี 2012 นั้นต่างก็มีเรื่องดีและเรื่องร้ายปะปนกันไป จะเป็นอย่างไรนั้น เราไปทบทวนกับข่าวคราวการ์ตูนเด็ดๆในปีที่ผ่านมากันอีกครั้งหนึ่งครับ โดยในตอนที่ 2 จะเน้นการสรุปภาพรวมในเรื่องราวในด้านลิขสิทธิ์ของ การ์ตูน อนิเม ในบ้านเรา รวมถึง สื่อเกี่ยวข้องอย่าง อนิเมทางฟรีทีวี และ หนังละครดัดแปลงจากการ์ตูน ตลอดทั้งปี 2012 ขอเชิญติดตามอ่านกันได้เลยครับ

<<< กลับไปอ่านตอนที่ 1

ป.ล.หากนำข่าวไปใช้ หรือ เผยแพร่ที่อื่นๆ กรุณาใส่เครดิตให้กับเรา (kartoon-discovery.com) ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
สามารถอัพเดทข่าวสารเว็บเราได้ผ่าน Twitter

  ภาพรวมลิขสิทธิ์ การ์ตูน อนิเม และสื่อที่เกี่ยวข้อง ในบ้านเรา ตลอดปี พ.ศ.2555

  สรุปลิขสิทธิ์การ์ตูนใหม่ๆในรอบปีที่ผ่านมา

  วิบูลย์กิจ ลิขสิทธิ์การ์ตูนค่ายนี้ในรอบปีที่ผ่านมานั้น แม้ว่าแต่ละเรื่องที่ได้มา ดูออกจะโนเนม ไม่ค่อยดึงดูดเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยแต่ละเรื่องที่ทาง VBK คว้ามา ต่างเป็นเรื่องที่มีคุณภาพคับเล่มทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น อาหารจานด่วน ป่วนของฮานะ ,เพื่อนเกรียนข้างโต๊ะ ,HAMMER SESSION,A-BOUT (ที่ขึ้นชื่อเป็นเรื่องที่ออกวางขายสุดถี่แห่งปี) , Amagami ฉบับมังงะ , Kuzu (ซีรี่ย์ภาคแยกของ"อีกา") ฯลฯ รวมถึง นิยายจากการ์ตูนในสังกัด อย่าง ฮายาเตะ , 3 พลัง(ป่วน) พิทักษ์โลก , โคนัน , คินดะอิจิ นอกจากนี้ ทางค่ายสร้างความฮือฮา ด้วยการวางขาย Bio Hazard : Marhwa Desire ที่ออกวางจำหน่ายไล่เลี่ยพร้อมกันทั่วโลก!!! แล้วก็มังงะจากอนิเมซีรี่ย์ซอมบี้สาวแสนน่ารักเรื่องดัง Sanka Rea

อีกทั้งในปีนี้ ก็มีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับยอดนักสืบจิ๋วโคนัน นั่นคือ ฉบับรูปเล่มของโคนันที่ได้มีการตีพิมพ์เปิดอ่านแบบญี่ปุ่นเสียที หลังจากเอาแต่อินดี้มานาน ซึ่งในอนาคตเราจะได้สัมผัสกับการ์ตูนใหม่ๆเรื่อง Mashiro no Oto , Denpa Kyoushi (He is a ultimate teacher) ซีรี่ย์ครูโอตาคุที่กำลังจะเป็นอนิเมซีรี่ย์, AREA D ผลงานของ YANG KYUNG-IL หนึ่งในผู้สร้างตุลาการทมิฬ , KABADDI7 การ์ตูนกาบัดดี้สุดฮาบ้า , BRAVE10S ภาคต่อของ Brave10 เป็นต้น

เท่านั้นยังไม่พอ ทางค่ายดังจากฝั่งพระโขนง ยังวางขายการ์ตูนแนวTRIBUTE COMIC แล้วก็แนวสารคดี ซึ่งประกอบด้วย เรียกเขาว่าทากาฮาชิ ฮิโรชิ กับ ในวันที่ข้าพเจ้าเขียน BLACK JACK เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ VBK ได้ตัดสินใจหยุดตีพิมพ์ นิตยสาร Thai Comic NEXT อย่างเป็นทางการอีกด้วย

ในส่วนของซีรี่ย์ที่ลงตีพิมพ์ในนิตยสารรายสัปดาห์เจ้าประจำอย่าง KC Weekly นั้น ปีนี้ก็ถือว่าระส่ำไปไม่น้อย อันเนื่องมาจาก ซีรี่ย์ฮิตในนิตยสารเล่มนี้ต่างทยอยจบกันเยอะ ไม่ว่าจะเป็น เนกิมะ , แอร์เกียร์ , Bloody Monday ,หัตถ์เทวดาเทรุ (รวมถึง หนีตายเกาะนรกล้านปี ที่กำลังจะจบเร็วๆนี้ ) ซึ่งเรื่องที่มาแทนอย่าง ยามาดะคุงกับแม่มดทั้ง 7 ซีรี่ย์จากผู้แต่ง นายโจ๋ตัวร้ายกับยายแว่นแอ๊บใส ,คุณหมายอดนักสืบ รวมไปถึง Dr.Duo ที่กำลังจะมาลงเร็วๆนี้นั้น ก็ต้องพิสูจน์กันต่อไปว่าจะได้ใจคนอ่านกันหรือไม่ (แต่เอาเข้าจริง คงต้องพึ่งซีรี่ย์เสาหลักประจำนิตยสารอย่าง แฟรี่เทล , Code Breaker แล้วก็ คินดะอิจิ ที่กลับมาลงตีพิมพ์ประจำอีกครั้ง เหมือนเคย)

โดย VBK เป็นอีกค่ายถึงที่เจอผลกระทบในเรื่องของต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น จึงต้องทยอยปรับราคาหนังสือการ์ตูนเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน เสียแต่ว่า ค่ายนี้ยังไม่ค่อยมีมาตรฐานในการปรับราคาหนังสือที่แน่นอน รวมไปถึงคุณภาพเนื้อกระดาษที่ใช้ตีพิมพ์หนังสือก็ไม่ค่อยสมน้ำสมเนื้อกับราคาที่ปรับใหม่เท่าไหร่

  สยามอินเตอร์คอมิคส์ สำหรับค่ายการ์ตูนฝั่งลาดพร้าวค่ายนี้ ยังคงรักษามาตรฐานการเก็บกวาดลิขสิทธิ์ ออกวางจำหน่ายการ์ตูนเรื่องดัง เรื่องฮิต เอาใจคอการ์ตูนไว้ได้มากมาย ทั้งซีรี่ย์ดังจากอนิเม , ซีรี่ย์เยี่ยม ได้รับการยอมรับ กำลังจะเป็นอนิเม แล้วก็ ซีรี่ย์สไตล์แบบแนวๆ อินดี้ เฉพาะกลุ่ม อาทิ I'am a Hero , วันๆของพวกผมก็งี้แหละ , Japonica ,นัก(ไม่)วาดการ์ตูน , Shiki , Blood Lad , Dantalion , Yukimeki Merry , Liar Game - Roots of A , Madoka Magica ทั้งภาคซีรี่ย์ และ ภาคแยก, Inu x Boku SS , Silver Spoon , เจ้าสาวแห่งทางสายไหม , Hyakusho Kizoku (Comic Essay เรื่องแรกของ SIC) , BTOOOM!! , Witch Craft Works ฯลฯ อีกทั้งค่ายนี้ ยังกวาดลิขสิทธิ์ มังงะจากซีรี่ย์กันดั้ม และ Tiger & Bunny อีกหลายเวอร์ชั่นด้วยกัน ซึ่งการที่กวาด LC การ์ตูนมากมายขนาดนี้ ต้องขอชมเชยการทำงานของทีมการตลาดของค่ายนี้ เช่นเคย แม้ว่าค่ายในเครือ SiamSport แห่งนี้ ยังมีบางจุดที่ต้องปรับปรุง ในแง่ของการแปล กับ การตรวจสอบ ตีพิมพ์ตัวหนังสือที่ผิดเพี้ยนในบางจุด กับการ์ตูนบางเรื่องด้วย

อีกทั้งปีนี้ได้ออกฉบับ Big Book ของบรรดาซีรี่ย์เก่าๆ เรื่องดังขายดีประจำสังกัด อย่าง ซามูไรพเนจร , หมัดดาวเหนือ , ซิตี้ฮันเตอร์ , Cat 's Eye ซึ่งในปี 2556 จะได้พบกับฉบับ Big Book ของ หุ่นเชิดสังหาร ,ต้องรอด และ Shaman King (ที่ไม่ได้ทำปกแบบของญี่ปุ่นเด๊ะๆ) อีกทั้งยังมีแผนจัดทำหนังสือชุด Classic Collection ของ จอมเก บลูส์ , นินจาคว้าเมฆ ด้วย

ในส่วนของซีรี่ย์ที่ลงตีพิมพ์ใน C-Kids นั้น ทางนิตยสารได้คว้า LC เรื่องใหม่จากนิตยสารจัมป์ของญี่ปุ่นให้ค่ายคู่แข่งในบ้านเราได้ช้ำใจอีกรอบ กับ Nisekoi รักลวงป่วนใจ กับ Assassination Classroom อีกทั้ง ยังมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของฉบับรวมเล่มของรีบอร์น ที่มีการตีพิมพ์ใหม่ตั้งแต่เล่มแรกยันเล่มล่าสุด แถมปรับราคาเพิ่มเติมเป็น 50 บาท ซึ่งพูดถึงราคาหนังสือแล้ว ค่ายนี้ก็มีการปรับราคาหนังสือเช่นกัน เพียงแต่จะทยอยปรับกับเรื่องฮิตขายดีของทางสนพ.ก่อน และคาดว่าทุกเล่มคงจะเปลี่ยนเป็นราคาใหม่หมดภายใน 1-2 ปี

  เนชั่นฯ ทางฝั่งค่ายบางนา ก็มีการ์ตูนพ็อคเก็ตบุ๊คเล่มใหม่ๆเช่นกัน แต่ส่วนใหญ่ไม่คุ้นหู เรื่องที่พอคุ้นก็มี Arakawa Under the Bridge , Blue Exorcist , Enigma , โอมากะโดกิฯ , ระบำ หลุดโลก คิตะคิตะ ภาคแยกของ คาถาพาต๊อง กุรุ กุรุ , สงครามโลหิตจักรกล , 87 Clockers (งานล่าสุดของผู้แต่ง Nodame Cantabile) นอกจากนี้ ยังตีพิมพ์และวางขาย เครยอน ชินจัง ภาคใหม่กิ๊ก ภาคล่าสุดของเจ้าหนูหัวมันชินจังที่ได้ทีมงานของ อ.อุซุย มาช่วยสานต่อ และเป็นอีกเล่มหนึ่งที่ได้ออกวางขายไล่เลี่ยกับหลายประเทศทั่วโลกเช่นกัน รวมถึง ฉบับบิ๊กบุ๊คจากซีรี่ย์ดังประจำค่าย ออกเอาใจนักสะสม เข่น Slamdunk , ฮิคารุเซียนโกะ , ดราก้อนบอล ภาคย่อยต่างๆ อย่างไรก็ตาม ทางสนพ.ก็ต้องจำใจปิดตัวนิตยสาร JIRO อย่างเงียบๆ อันเนื่องมาจากปัญหาหลายประการ

ซึ่งหากสังเกตกันดีๆ จะพบว่า ฉบับรูปเล่มของการ์ตูนค่ายนี้ มีการเปลี่ยนแปลงกลายเป็นเล่มหนามากขึ้น (พร้อมกับราคาที่มากขึ้น) จากเดิมที่เคยเห็นเป็นเล่มบางกันจนชิน ซึ่งก็มาจากการเปลี่ยนไปใช้กระดาษที่ดียิ่งขึ้น และคาดว่า หนังสือการ์ตูนเล่มหนาของค่ายนี้คงออกวางตลาดมากขึ้น (แต่อาจขัดใจกับคอนักสะสมที่ต้องเห็นรูปเล่มหนังสือที่มันไม่เข้าชุดล่ะ)

ในส่วนของซีรี่ย์การ์ตูนในนิตยสาร BOOM นั้น ก็อยู่ในสภาพที่ไม่ต่างจาก KC Weekly เท่าไหร่ อันเนื่องจากการจากไปของ Bakuman, Enigma รวมถึง นูระหลานจอมภูต ที่กำลังจะจบตามกันไป แม้ว่าจะได้ Blue Exorcist เข้ามาแทนที่ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ซ้ำยังถูกคอการ์ตูนวิจารณ์ในแง่ที่ทาง BOOM กลับตัดสินใจเอา Blue Exorcist ีซีรี่ย์ที่ปกติลงตีพิมพ์ซีรี่ย์รายเดือนที่ญี่ปุ่น มาลงตีพิมพ์ในรายสัปดาห์บ้านเราซะงั้น แถมพอลงทีก็ลงซะ 2 ตอนรวดต่อสัปดาห์ ทำให้เสียโควต้าซีรี่ย์การ์ตูนที่จะลงไป 1 เรื่อง เท่านั้นยังไม่พอ ทางบูมยังถูกคอการ์ตูนบ่นอีก ในแง่ของการคว้าลิขสิทธิ์การ์ตูน ที่พักหลังๆ เหมือนจะกล้าๆกลัวๆ ไม่กล้าเสี่ยงกับเรื่องดังๆ (ที่มีฉากที่พวกเขามองว่าไม่เหมาะสม) แถมพอบทจะได้ลิขสิทธิ์การ์ตูนใหม่ที ก็มีแต่ ซีรี่ย์ตัดจบ หรือ มีอันดับไม่ดีในจัมป์ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น บัลจ์ The Star Warrior , Kurogane เคนโด้ ดวล ดาบ เดือด เป็นต้น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้น ทางค่ายก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ด้วยการเชิญชวนแฟนๆโหวตซีรี่ย์ในจัมป์ที่อยากจะให้ลงตีพิมพ์ใน Boom ผ่านทาง FB Fanpage ของ NED เมื่อช่วงต้นปี ซึ่งปรากฏว่า Kuroko no Basket ได้รับคะแนนโหวตสูงสุด ทว่า พวกเขากลับติดปัญหาในการนำคุโรโกะมาลงตีพิมพ์ อันเนื่องมาจากคุโรโกะมีจำนวนตอนที่มากเกินไป ซะจนไม่เหมาะสมกับการลงตีพิมพ์เป็นรายสัปดาห์ จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ทาง NED จะเอายังไงกับ คุโรโกะ ดี ? อย่างไรก็ตาม ก็มีคนอ่านบางส่วนเชียร์ให้ เอา Medaka Box เข้ามาลงในบูม แต่ทางสนพ.ยังคงปฏิเสธท่าเดียวเช่นเคย.....

  บงกช ยังคงกวาดต้อนซีรี่ย์การ์ตูนผู้หญิงเอาไว้เยอะเช่นเคย ส่วน LC น่าสนใจของค่ายนี้ เห็นจะเป็น Gosick , LIMIT ผลงานจากผู้แต่งเรื่อง Life , No.6 ,AO HARU RIDE รวมไปถึง การคว้าลิขสิทธิ์ฉบับการ์ตูนของ Fate/Zero และ IdolM@ster พร้อมทั้งเป็นการปิดฉาก เมื่อผมกับเธอ XXX ซึ่งค่ายเจ้าแม่การ์ตูนตาหวานในบ้านเราค่ายนี้ ก็ต้องปรับปรุงในส่วนของการออกวางขายซีรี่ย์การ์ตูนบางเรื่องให้รวดเร็วทันใจคอนักอ่านให้มากกว่านี้

  บูรพัฒน์ ในรอบปีที่ผ่านมา ก็ไม่ค่อยมีข่าวลิขสิทธิ์ใหม่ๆจากค่ายนี้เท่าไหร่ มีแต่ข่าวคราวไม่ค่อยจะสู้ดีของค่ายเจ้าพ่อการ์ตูนจีนกำลังภายใน ในบ้านเราออกมาเป็นระยะ นับตั้งแต่การตัดสินใจหยุดตีพิมพ์ A-Week นิตยสารการ์ตูนจีนรายสัปดาห์ หลังจากวางขายต่อเนื่องยาวนาน 10 กว่าปี รวมถึง ตารางวางขายหนังสิอของค่ายนี้ ที่นับวันมีน้อยลงเรื่อยๆ ทำให้หลายฝ่ายพากันลือหนาหูว่า ค่ายการ์ตูนค่ายนี้กำลังจะถึงคราปิดตัวลง !!? ซึ่งก็ต้องรอดูสถานการณ์ต่อไป...... แต่อย่างน้อยในปีนี้ พวกเขาได้ออกวางจำหน่ายซีรี่ย์สุดท้ายของไป่หวู่หนาน Warlord รวมถึงสร้างความขัดใจแก่แฟนๆหงสาจอมราชันย์ ด้วยการปรับราคาฉบับรวมเล่มใหม่ ที่เพิ่มขึ้นจากราดาเดิมอีก 10 บาทด้วยกัน

  รักพิมพ์ ในปีนี้ ค่ายใบโคลเวอร์ 4 แฉก สามารถคว้าลิขสิทธิ์หลากหลายแนวมากกว่าทุกๆปี ทั้งแนวสยองขวัญ แนวสาวน้อย แนวแฟนตาซี หรือจะเป็นแนวหนุ่มหน้าสวย เป็นต้น โดยมีซีรี่ย์น่าสนใจก็คือ Another , คลังสยอง , Infinite Stratos ฉบับมังงะ , Senran-Kagura , Touhou Project บทต่างๆ , High School DxD , Girls High-Girls Live ( ภาคสองของ Girls High ) , ชมรมคนไร้เพื่อน Anthology , กัปตันอนิเมท ฯลฯ นอกจากนี้ ยังได้ตีพิมพ์วางขายนิตยสารการ์ตูนเล่มใหม่ล่าสุดอย่าง Lucky Ace อีกด้วย รวมไปถึงมีการขยายแบรนด์หนังสือเพิ่มเติมอย่าง Luck-y+T ที่เน้นซีรี่ย์การ์ตูนแนวหนุ่มหน้าสวย แต่งหญิง Cross-Dress เป็นหลัก

  TKO นอกจากจะมี พี่เทพเคมะ ยอดนักจีบ เป็นซีรี่ย์แม่เหล็กประจำค่ายเช่นเคยแล้ว ปีนี้ก็ได้ออกวางจำหน่าย กุ๊กเทพ เชฟ 3 ดาว และ การ์ตูนใหม่เรื่องอื่นๆอีกส่วนหนึ่ง รวมไปถึง ยังเป็นการปิดฉากของซีรี่ย์ อิคิงามิ สาส์นสั่งตาย อีกด้วย ส่วนลิขสิทธิ์ใหม่ๆของค่ายนี้ ประจำปี 2555 ก็มี มังงะเรื่อง GOTH แล้วก็ฉบับนิยายของเซียนเกมรักขอเป็นเทพนักจีบ ชุด Kami nomi zo Shiru Sekai Kami to Akuma to Tenshi (เซียนเกมรักขอเป็นเทพนักจีบ เทพ มาร และ นางฟ้า) อีกด้วย

  Zenshu ถือว่าเป็นค่ายเล็กที่มาแรงสุดๆในปีนี้ ซึ่ง LC เด่นๆของค่ายนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นไลท์โนเวลเสียมากกว่า แถมแต่ละเรื่องที่ได้มาเนี่ย ก็โดนๆคอการ์ตูนสมัยนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Sword Art Online , น้องสาวของผมไม่น่ารักขนาดนั้นหรอก , นิยาย Monster Hunters อีกหลายชุด , Ro-Kyu-Bu! บาสใสวัยซน เป็นต้น นอกจากนี้ยังตีพิมพ์วางขายการ์ตูนเรื่อง Nichijo สามัญขยันรั่ว , Karneval ที่ภายหลังถูกนำมาทำเป็นอนิเมแล้ว , Steins;Gate ฉบับมังงะ ฯลฯ

  Dexpress
ค่ายหนังสือในสังกัดของ DEX นั้น ก็ได้ออกวางขายนิยายซีรี่ย์ Monogatari นิยายขายดิบขายดีของ NISHIOISSIN โดยประเดิมกันด้วย Bakemonogatari กัน ในช่วงปลายปี

  KimChic
เป็นค่ายหนังสือน้องใหม่ ที่อยู่ภายใต้สังกัด Work Point ที่เด่นดังไปกับรายการบันเทิงบ้านเรามาเนิ่นนาน ในที่สุด พวกเขาได้เข้าร่วมแข่งขันในตลาดสื่อสิ่งพิมพ์บ้าง โดยในปีที่ผ่านมา ได้ออกวางจำหน่ายนิตยสาร WINK ที่รวบรวมการ์ตูนรักหวานๆจากแดนกิมจิเป็นหลัก

  Bliss Publishing
สำหรับใครเป็นแฟนนิยาย ไลท์โนเวลของค่ายนี้ ต้องพบกับข่าวร้าย เมื่อ Bliss ได้ปิดตัวลง ส่งผลถึงอนาคตของหนังสือในสังกัดที่ไม่สามารถบอกได้ว่า จะได้ติดตามอ่านต่อกันหรือเปล่า อย่างไรก็ดี ก็มีค่าย Talent 1 Publishing กลายเป็นพระเอกขี่ม้าขาว เซ้งนิยายของ Bliss หลายต่อหลายเล่มให้แฟนๆได้อ่านกันต่อ

  Animag
ได้ดำเนินธุรกิจตลาดไลท์โนเวลอย่างเต็มตัว ซึ่งนอกจากจะออกวางขายนิยายในสังกัดของตนเองแล้ว ยังสร้างความอือฮาด้วยการคว้าฉบับนิยายของเหล่าสาวน้อยนักรบกกน.บิน Strike Witches ไว้ในอ้อมกอด กับภาคที่มีชื่อว่า สไตรค์ วิทเชส สู้ตาย กองบินส่วนเกินแห่งซุโอมุส (STRIKE WITCHES SUOMUSU IRANKO CHŪTAI GAMBARU)

  ความเคลื่อนไหว อนิเมนำเข้าจากค่ายต่างๆ รอบปี 2012

  DEX รอบปีที่ผ่านมา ค่าย DEX ได้ทยอยวางจำหน่ายอนิเมดังที่พวกเขาคว้าลิขสิทธิ์มา อาทิ Bakemonogatari , Katanagatari,Kimi ni Todoke , Angel Beats! , Tiger & Bunny , Gundam AGE , Madoka Magica , Sacred Seven ,Blue Exorcist , AnoHana รวมไปถึง Summer Wars หนังอนิเมชั่นเยี่ยมดีกรีรางวัลหลายสถาบันจากญี่ปุ่น ซึ่งจัดเป็นอนิเมเรื่องแรกที่ออกวางขายในรูปแบบ Blu-Ray Disc ในเมืองไทย ด้วย

นอกจากนี้ ยังได้ประกาศลิขสิทธิ์การ์ตูนและหนังแปลงร่าง ที่เราจะได้สัมผัสกันในอนาคต เช่น Mask Rider Fourze (ซีรี่ย์ + หนัง), Kamen Rider Wizard,Tiger & Bunny ฉบับจอเงิน , Danshi Koukousei Nichijo หรือ วันๆของพวกผมก็งี้แหละ , จอเงินของ Code Geass ชุด Code Geass : Akito the Exiled เป็นต้น โดยในส่วนของ Tiger & Bunny ฉบับหนังจอเงินชุดแรก (Tiger & Bunny - The Beginning ) ทางค่ายทำเก๋ ด้วยการจัดอีเว้นต์ออกฉายหนังเรื่องนี้ให้ดูกันไล่เลี่ยพร้อมกัน ทั้งที่ญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆทั่วโลก

  Tiga ส่วนใหญ่ยังคงเน้นออกขายการ์ตูนฝรั่ง การ์ตูนเด็ก รวมถึง นักสืบโคนันสารพัดภาค ทั้งซีรี่ย์ - จอเงิน และ คนแสดง เหมือนเช่นทุกๆปี แต่อย่างน้อยค่ายนี้ก็ได้คว้า LC อนิเมเพิ่มเติม หลังจากปล่อยให้คออนิเมได้บ่นมานมนาน เช่น Kuroko no Basket , Medaka Box ทั้ง 2 ซีซั่น , Shin The Prince of Tennis , เทพพิทักษ์จอมยุ่ง เนียลโกะ , Horizon in the Now Where I-II , Persona 4 , ZETMAN ฮีโร่พันธุ์โหด ,Brave 10 ขุนพลแผ่นดินเดือด รวมไปถึงหนังอนิเมของ อ.มาโคโตะ ชินไค อย่าง เด็กสาวกับเสียงเพรียกแห่งพิภพเทพา กับ หนุ่มเทพปะทะเอเลี่ยน นอกจากนี้ พวกเขาก็ได้ปล่อยของดอง อย่าง หมึกสาวลุยหลุดโลก กับ เซียนเกมรัก ขอเป็นเทพนักจีบ ออกจากไหได้ซักที!!

  Rose Media ค่ายกุหลาบแดง ยังคงทำผลงานในการกวาดต้อนอนิเมลิขสิทธิ์เข้ามามากที่สุด จากการที่พวกเขาได้ขยันออกโรงประกาศลิขสิทธิ์อนิเมใหม่ๆตามงานอีเว้นต์การ์ตูน และ งานที่เกี่ยวข้องในบ้านเราหลากหลายงานด้วยกัน

ซึ่งเราจะได้รับชมอนิเมเรื่องฮิตชั้นเยี่ยมกัน ในอนาคตอันใกล้ ไม่ว่าจะเป็น Toriko (ซีรี่ย์) , Sket Dance , Guilty Crown, YUMEIRO PATISSIERE , Fate/Zero , Letter Bee , Chihayafuru , Mayo Chiki ,Denpa Onna to Seishun Otoko, Winter Sonata , Star Driver , Shana SS III ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งอนิเม LC ของค่ายนี้ที่เรียกเสียงฮือฮาได้มากที่สุด คงจะหนีไม่พ้น อนิเมซีรี่ย์จากนิยายของ เรกิ คาวาฮาระ อย่าง Accel World กับ Sword Art Online ซึ่งจากการที่ Rose คว้าลิขสิทธิ์อนิเม 2 เรื่องนี้ ทำเอาเกิดดราม่าร้อนแรงของบรรดาคอการ์ตูนผู้นิยมของฟรี ตามมา

นอกจากนี้ทาง Rose ได้วางจำหน่ายอนิเมเรื่องเยี่ยมที่พวกเขาได้ประกาศ LC ไปก่อนหน้านี้ด้วย อาทิ Beelzebub , น้องสาวของผมไม่น่ารักขนาดนั้นหรอก , Aquarion EVOL , Hanasaku Iroha , Infinite Stratos , Fairy Tail ปีสอง , Amagami , Bakuman , Hunter X Hunter รีเมค , ขบวนการโจรสลัดโกไคเจอร์ , Inazuma Eleven GO, Danball Senki ฯลฯ รวมถึง ยังออกวางจำหน่าย Black Rock Shooter ซึ่งถือเป็นอนิเมเรื่องแรกของค่ายนี้ ที่มีการจัดทำในฟอร์แม็ตของ Blu-Ray อีกด้วย อีกทั้งในรอบปีที่ผ่านมา ทางค่ายยังได้จัดทำกิจกรรมฉายอนิเมจอเงินของ บลีช ,นารุโตะ , Fullmetal Alchemist , ฮายาเตะ ฯ อีกด้วย

ซึ่งจากจำนวนอนิเมที่ทางค่ายนี้ได้คว้าไปในรอบปีที่ผ่านมา หากเป็นไปได้ สำหรับบางเรื่องนั้นก็ขอให้ออกวางขายไวๆยิ่งขึ้น อย่ากั๊กไว้นาน ไม่งั้นแฟนๆบ่นเอาได้

นอกจากนี้ คอการ์ตูนสามารถรับชมการ์ตูนของค่าย Rose ผ่านทางมือถือ โดยเครือข่าย AIS เท่านั้นไม่พอ พวกเขายังได้รับสิทธิ์ในการจัดจำหน่าย สินค้าลิขสิทธิ์ของ Vocaloid ในประเทศไทยอีกด้วย

  Right Beyond โดยรวมไม่ค่อยมีอะไรหวือหวา แต่มาอัดอั้นประกาศลิขสิทธิ์อนิเมชุดใหญ่กันปลายปี เช่น Sailormoon R , Pokemon Best Wishes และ ดราก้อนบอล Z Kai โดยเฉพาะเรื่องหลังนั้น ก็พอมีโอกาสที่จะได้ยินเสียงน้าต๋อยกลับมาพากย์เป็นโกคูอยู่เยอะเหมือนกันนะเนี่ย

  ตรีอมร หลังจากนำเข้าหนังแผ่นต่างประเทศมานาน แต่จากการประกาศ LC อนิเม(อย่างเงียบๆ) กับเรื่อง ฮานามารุ อนุบาลเด็กดีนะจะบอกให้ กับ Break Blade ของค่ายนี้นี่เอง ก็เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าค่ายนี้ได้ร่วมจอยศึกตลาดอนิเมในบ้านเราแล้ว ...ต้องมาดูกันว่า ค่ายเล็กค่ายๆนี้ จะทำ 2 เรื่องนี้ออกมาดีหรือไม่ ...แล้วจะมี power มากพอที่จะดึงนักพากย์ไทยฝีมือดีมาช่วยพากย์เสียงอนิเม 2 เรื่องนี้ได้มากน้อยเพียงใด (เสียงไทยมีสิทธิ์ใช้ทีมพากย์หนังสูง)

  ขณะที่ M Pictures ก็เป็นผู้จัดจำหน่ายผู้จัดจำหน่ายนำเรื่อง Wolf Children หนังอนิเมคุณภาพเยี่ยมจากผกก. Summer Wars และ From Up on Poppy Hill หรือ Kokurikozaka Kara หนังอนิเมค่าย Ghibli ออกฉายในไทย(แบบจำกัดโรง)ด้วย ขณะที่ UIP ยังคงเป็นผู้นำเข้าอนิเมชั่นฝรั่ง มาสร้างความสุขหรรษาแก่คอหนังบ้านเราเหมือนเคย

  สรุป อนิเมทาง Free TV + Cable TV รอบปี 2012

  ช่อง 3 น่าจะเรียกได้ว่าเป็นช่องที่เน้นความชาตินิยมอย่างแท้จริง เพราะการ์ตูนที่ออกฉายในปีมังกรทองนี้นั้น ส่วนใหญ่เป็นผลงานจากฝีมือคนไทยทั้งสิ้น อาทิ เบิร์ดแลนด์ ปี 2 , เชลดอน , ชุมชนนิมนต์ยิ้ม 3-4 , รวมถึงอนิเมชั่นที่เป็นการนำเอาดาราดังๆของช่อง 3 มาแปลงเป็นซุปเปอร์ฮีโร่อย่าง ซุปเปอร์ฮีโร่ หล่อช่วยได้ อีกทั้งในปีนี้ ยังเป็นการกลับมาอีกครั้ง กับขบวนการเซ็นไทที่ดองยาวที่สุดในโลกอย่าง สปอร์ตเรนเจอร์ ภาค 2 ที่ยังคงเอกลักษณ์ในการเชิญนักพากย์อาชีพมาพากย์เสียง(กลบแอ็คติ้งแข็งๆของนักแสดง) เช่นเคย

  ช่อง 5 แม้ช่วงเวลาการ์ตูนของช่องนี้จะถูกเบียดให้สั้นลงไปอีก แต่อย่างน้อย ในปีที่ผ่านมา ก็ยังมีรายการ แก๊งการ์ตูน (ฉบับย่อย) กับ ช่อง 5 การ์ตูนเหมือนเคย แต่จะเน้นหนักไปที่หนังฮีโร่แปลงร่างมากกว่า อาทิ ขบวนการชินเคนเจอร์ , ขบวนการโจรสลัดโกไคเจอร์, Mask Rider Dragon Knight รวมถึงอนิเมสแลมดังก์ตอนที่เหลือ กับ เคโรโระ ที่มาฉายคั่นเวลารอ โกไคเจอร์ ในระยะสั้นด้วย

  ช่อง 7 หากช่อง 3 มีแต่การ์ตูนไทย ช่องนี้คงจะเน้นการ์ตูนฝั่งตะวันตกเป็นหลัก นอกจากจะมี Disney Club ที่ฉายอยู่ยงคงกระพันมาหลายปีแล้ว การ์ตูนเรื่องอื่นๆที่ออกฉายทางช่องนี้นั้นกลับลดน้อยลงไปมาก แถมไม่ค่อยจะให้ความสำคัญในการโปรโมทเท่าไหร่ ซะจนคิดว่า "เรื่องพวกนี้ออกฉายตอนไหนกันล่ะเนี่ย" อาทิ Ben 10 กับ Thundercat เวอร์ชั่นล่าสุด ซึ่งทั้งสองเรื่องนี้ออกฉายวันอาทิตย์ช่วง 7.00-8.00น. (ข้อมูลจากเว็บไซต์ ช่อง 7)

  Modern 9 หากไม่นับการ์ตูนที่ออกฉายหลายมากกว่าพันรอบอย่าง โคนัน , โดราเอมอน และ ดร.สลัมป์กับหนูน้อยอาราเล่ แล้วนั้น ในปีที่ผ่านมานี้ มีการฉายซีรี่ย์การตูนรำลึกอดีต อย่าง เซเลอร์มูน รวมถึง มีการฉาย Dragonball Kai ในช่วงเย็นวันธรรมดา ส่วนการ์ตูนใหม่ช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์นั้น ก็มี Yes! Precue 5 , Saint Seiya the Lost Canvas,SD กัมดั้ม ตำนานสามก๊ก, Pokemon:Besh Wishes , Digimon Xros wars เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ในส่วนของอาราเล่ที่ออกฉายปลายปีนั้น ได้มีการเปลี่ยนแปลง ในส่วนของเสียงพากย์ "ดร.เซ็มเบ้" ที่กลับเป็นเสียงของนักพากย์ท่านอื่น ไม่ใช่น้าต๋อย ซะงั้น ซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงชั่วครั้งชั่วคราวหรือเปล่า

  True Visions ในปี2012 ได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ในส่วนของช่องการ์ตูนใน True Visions เมื่อช่อง Animax (77) ถูกยกเลิกสัญญาอีกครั้งในช่วงกลางปี อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ Animax จะหายไป แต่ก็ได้ช่อง Cartoon Club (78) ช่องการ์ตูนดาวเทียมเรตติ้งดีอันดับต้นๆ เข้ามาเสียบแทน ให้คอการ์ตูนได้เปรมกันไปข้างนึง (แม้ว่าการ์ตูนที่ออกฉายจะซ้ำ วนหลายรอบ ซะจนจดจำ dialog กับ เสียงพากย์กันได้เลย 555+)

ขณะที่ True Spark ได้เอาอนิเมเรื่องเยี่ยมมาออกฉายในปีมังกรนี้ ก็มี Giant Killing,Moshidora, Black Blood Brothers,GA Geijutsuka Art Design Class,Chi's New Address,อีลีเมนท์ฮันเตอร์ Element Hunters,Jewel Pet Twinkle,Coyote Ragtime Show, Tokyo Majin,Mitsudomoe,Densetsu no Yūsha no Densetsu เป็นต้น ซึ่งเรื่องที่ออกฉายเนี่ย ขอบอกเลยว่า ช่วยตั้งชื่อภาษาไทยให้มันเข้าท่าเข้าทางหน่อยเถิด!!!

  ภาพรวม Live Action ที่ออกฉายในปี 2012

   ข่าวคราวเกี่ยวกับหนัง หรือ ละคร ที่ดัดแปลงจากการ์ตูน ในรอบปีมังกรนั้น ที่โดดเด่นเป็นพิเศษ คงจะเป็นการยกขบวนของบรรดาหนังฮีโร่สัญชาติอเมริกา มาเอาใจคุณหนูๆ หรือ คนทุกเพศทุกวัย อย่าง Avenger ที่มากันเป็นทีม หรือเจะเป็นหนังฮีโร่แบบฉายเดี่ยวอย่าง The Amazing Spider-Man , Batman ภาค The Dark Knight Rises , Dredd 3D ขณะที่ Resident Evil: Retribution หนังภาคต่อจากเกมดัง ยังได้รับการต้อนรับจากคนดูดีเยี่ยมเช่นเคย

  ในส่วนของหนังคนแสดงจากการ์ตูนญี่ปุ่น ก็ออกฉายอยู่หลายเรื่อง มีทั้งหนังภาคต่อ กับ หนังคนแสดงชุดแรก อาทิ Rurouni Kenshin (ซามูไรพเนจร),Thermae Romae (สู้ต่อไป! ลูเซียส!!) , Uchū Kyōdai (สองสิงห์อวกาศ) ,Ouran High School Host Club (ชมรมรักคลับมหาสนุก),Liar Game: Reborn,Bokura ga Ita,Himitsu no Akko-chan,Kyō, Koi o Hajimemasu, Another รวมไปถึงหนังคนแสดงฉบับรีเมคอย่าง Ai to Makoto โดยในจำนวนนี้ ทั้ง Rurouni Kenshin,Thermae Romae กับ Uchū Kyōdai นั้น มีกระแสการตอบรับจากคนดูค่อนข้างดีเยี่ยม และกวาดรายได้ในญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก

  ในส่วนของซีรี่ย์คนแสดงนั้น ที่ญี่ปุ่นก็ถือเป็นการกลับมาอีกคำรบของ GTO ฉบับละครซีรี่ย์ ที่มีการทำใหม่และเปลี่ยนนักแสดงยกชุด ซึ่งเรตติ้งก็อยู่ในเกณฑ์น่าพอใจ (แม้จะไม่สูงเท่าเวอร์ชั่นแรกก็ตาม) นอกจากนี้ก็มี ละครซีรี่ย์ญี่ปุ่นที่ดัดแปลงจากการ์ตูนอย่าง Mirai Nikki,Switch Girl!!,Sugarless ฯลฯ นอกจากนี้ก็มีชาติอื่นๆในเอเชีย ที่หยิบเอาการ์ตูนญี่ปุ่นมาทำเป็นคนแสดงด้วย อาทิ JIN หมอทะลุศตวรรษ (เกาหลี) , Zettai Kareshi (เกาหลี) , มาเฟียซ่าป๋าช็อคโกแลต (ไต้หวัน) เป็นต้น ซึ่งในอนาคตเรากำลังจะได้เห็นโปรเจ็คหนังคนแสดง 2 ภาคของ Sengoku Basara (หลังจากมีละครคนแสดงออกฉายไปแล้ว ) , ละครคนแสดงของ xxxHoLiC,หนังจอเงินคนแสดงของ Gatchaman , หนังคนแสดงภาค 2 ของนินจารันทาโร่ ,สุสานหิ่งห้อย ฉบับหนังคนแสดงอังกฤษ (ถ่ายทำปี 2014)

  ขณะที่ฝั่งฮอลลิวู้ดนั้น จะมีการนำ Godzilla ไปรีเมคอีกครั้ง ออกฉายปี 2014 รวมถึงมีโปรเจ็คคนแสดงของ Cyborg009 ด้วย อย่างไรก็ตาม โปรเจ็คหนังคนแสดงของ Akira ที่ค้างคามานาน ก็มีความเคลื่อนไหวเล็กน้อยในส่วนของบท แต่ก็ยังไม่ลงตัวในเรื่องของนักแสดง จนถึงขณะนี้ โปรเจ็คนี้ได้หยุดชั่วคราว เพื่อที่จะดำเนินการทำต่อด้วยทุนสร้างที่ต่ำลง ตามความตั้งใจของ Warner Bros.