ตามธรรมเนียมของทุกช่วงใกล้ปีใหม่ของเรา ที่จะต้องมีการสรุปข่าวคราวที่เกิดขึ้นในวงการการ์ตูนรอบปีที่ผ่านมา ซึ่งเราได้วางแผนที่จะอัพลงเว็บให้อ่านกันอย่างจุใจ ตั้งแต่ สรุปข่าวการ์ตูนรอบปี 2019 , ข่าวสาร สนพ.บ้านเรา รอบปี 2019 แล้วก็ เรื่องราวของอนิเมฟรีทีวี - หนังอนิเม และ คนแสดง ในรอบปี 2019
แต่สำหรับข่าวนี้ก็มีความพิเศษหน่อย เพราะหากพูดถึงข่าวใหญ่ที่สุดในวงการการ์ตูนรอบปี 2019 นั้น เชื่อว่า หลายคนคงจะนึกถึง เหตุโศกนาฏกรรมบนเปลวเพลิง ที่เกิดขึ้นกับสตูดิโอ Kyoto Animation ซึ่งเป็นเหตุการณ์สุดช็อคและสร้างความโศกเศร้าให้แก่คอการ์ตูนทั่วโลก และจากรายละเอียดต่างๆ รวมถึง ควันหลงผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีอยู่มากมาย ซะจนเกรงว่า หากจะยัดรายละเอียดทั้งหมดใส่ลงไปใน สรุปข่าวการ์ตูนประจำปีตามปกติ คงจะยาวซะจน ดันข่าวอื่นๆลงไปหมด เราเลยตัดสินใจขอหยิบไปเขียนแยกออกไป กลายเป็น สรุปข่าวการ์ตูนประจำปี 2019 ในตอนพิเศษนี้ครับ :
สุดสะเทือนใจแห่งปี : โศกนาฏกรรมลอบวางเพลิงสตูดิโอ Kyoto Animation
อาคารสตูดิโอ 1 ของ Kyoto Animation ณ วันที่ยังไม่เกิดโศกนาฏกรรม (ภาพจาก Wikipedia)
คอการ์ตูนหลายคน คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า เหตุการณ์ลอบวางเพลิงที่เกิดขึ้นกับสตูดิโออนิเม Kyoto Animation / KyoAni จะเป็นข่าวใหญ่ที่สร้างความช็อค ความโศกเศร้าสะเทือนใจ ให้แก่คอการ์ตูนทั่วโลก ประจำปีหมูนี้ และนับเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ครั้งนึงในประวัติศาสตร์ของวงการอนิเมญี่ปุ่น จากการที่สตูดิโออนิเมแห่งนี้ เป็นผู้สร้างผลงานอนิเมเรื่องเยี่ยม เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน ทั้ง Suzumiya Haruhi , Lucky Star , K-On! , Free , Sound Euphonium ฯลฯ กลับถูกเปลวไฟแผดเผา พรากชีวิตและทรัพย์สินของสตูดิโอแห่งนี้ ด้วยน้ำมือของผู้ไม่หวังดี
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 18 ก.ค. 2019 ในขณะที่ทีมงานของสตูดิโอ ราว 70 คน กำลังทำงานกันตามปกติ ณ อาคารสตูดิโอ 1 ของ KyoAni ซึ่งเป็นสตูดิโอสำคัญในการผลิตผลงานอนิเมชั่นของพวกเขา ก็ได้มีชายลึกลับคนหนึ่ง ได้บุกเข้าไปยังอาคารดังกล่าว พร้อมกับ ตะโกนลั่นอย่างบ้าคลั่ง แล้วก็ราดน้ำมันเบนซิน-จุดไฟเผาอาคารนั้น จนอาคารเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง สร้างความหวาดกลัวให้แก่ผู้คนในอาคาร จนพากันแตกตื่นหนีตายกันอย่างจ้าล่ะหวั่น จนกระทั่ง จนท.ดับเพลิง พร้อมกับรถดับเพลิง 30 คัน ได้ระดมช่วยกันดับเพลิงยาวนานถึง 5 ชั่วโมง จนสามารถควบคุมเพลิงบนอาคารไว้ได้ ก่อนที่ตัวอาคารจะไร้ซึ่งควันไฟอย่างสมบูรณ์ ในวันรุ่งขึ้น
สภาพสตูดิโอ 1 ของ KyoAni หลังเพลิงไหม้ (ภาพจาก Wikipedia)
จากเหตุการณ์ข้างต้น นอกจาก Naoko Yamada , Taichi Ishidate และ Tatsuya Ishihara ผกก.อนิเมคนสำคัญของ KyoAni ต่างได้รับการยืนยันว่าปลอดภัยจากเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ก็มีผู้เสียชีวิตมากมายถึง 36 คน และบาดเจ็บอีก 33 คน โดยผู้เสียชีวิตนั้น เป็นผู้หญิงซะเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งในจำนวนผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ต่างเป็นอนิเมเตอร์คนสำคัญของสตูดิโอ ซึ่งได้มีการเปิดเผยชื่อ ดังนี้ :
- Yasuhiro Takemoto ผกก.อนิเม Lucky Star, Miss Kobayashi's Maid Dragon, The Disappearance of Haruhi Suzumiya, Hyouka
- Futoshi Nishiya คนออกแบบตัวละคร และ หัวหน้าผกก.อนิเมชั่น จาก Free! , A Silent Voice, Liz and the Blur Bird และ ผกก.อนิเมชั่น จาก The Melancholy of Haruhi Suzumiya เวอร์ชั่น 2009, Kanon
- Yoshiji Kigami บุคลากรอาวุโสของสตูดิโอ รับหน้าที่เป็นคนเขียนสตอรี่บอร์ด, Unit Director และอนิเมเตอร์ ให้กับอนิเมหลายเรื่องของสตูดิโอ รวมถึง มีส่วนร่วมในฐานะ Key Animator ให้กับอนิเมคลาสสิคจำนวนหนึ่ง อย่าง Akira, Grave of the Fireflies, Space Adventure Cobra
- Junichi Uda คีย์อนิเมเตอร์ จาก Hyouka และ Nichijou
- Sachie Tsuda รับหน้าที่ Finish Animation ให้กับ Free! , Pokémon 3: The Movie: Entei – Spell of the Unown, Hyouka
- Mikiko Watanabe ผกก.ศิลป์ จาก Amagi Brillant Park, Beyond the Boundry และรับหน้าที่เป็นศิลปินวาดฉากหลัง ให้กับ ผลงานหลายเรื่องของ KyoAni
- Ami Kuriki คีย์อนิเมเตอร์จาก Liz and the Blue Bird, Violet Evergarden, Myriad Colors Phantom World
- Keisuke Yokota ผจก.ฝ่ายโปรดักชั่นให้กับผลงานหลายเรื่องของสตูดิโอ
- Yuki Omura สต๊าฟใหม่ของสตูดิโอ
- Yuka Kasama สต๊าฟใหม่ของสตูดิโอ
นอกจากเหตุลอบวางเพลิงนี้ จะสร้างความสูญเสีย และ บาดเจ็บ แก่ทีมงานของสตูดิโอแล้ว ยังได้พรากเอา ต้นฉบับอนิเมที่เป็นกระดาษ รวมถึง เครื่องคอมพิวเตอร์ ในอาคารสตูดิโอ 1 ถูกทำลายจนเสียหายย่อยยับหมด จนมิอาจประเมินค่าความเสียหายได้ อย่างไรก็ตาม มีการเปิดเผยในภายหลังว่า สามารถกู้คืนข้อมูลดิจิตอลต้นฉบับอนิเม จากเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 ของสตูดิโอ 1 ของKyoAni เป็นที่เรียบร้อย จากการที่เครื่องเซิร์ฟเวอร์ดังกล่าว รายล้อมไปด้วยชั้นคอนกรีตหนา จึงทำให้ตัวเครื่องไม่ได้รับความเสียหายใดๆ ทั้งจากเปลวเพลิง รวมถึง น้ำที่ใช้ดับเพลิง
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากจะสร้างความโศกเศร้าเสียใจให้แก่แฟนการ์ตูนทั่วโลกแล้ว คนที่เศร้าโศกและเจ็บปวดยิ่งกว่า คงจะหนีไม่พ้น ครอบครัวผู้สูญเสีย แล้วก็บรรดาทีมงานของ KyoAni ที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Hideaki Hatta ประธานของ KyoAni ได้ออกมาเปิดเผยในภายหลังว่า เหตุการณ์นี้ทำให้จิตใจของเขาแตกสลาย จนไม่อาจแบกรับได้ ไม่นึกไม่ฝันเลยว่า ภัยพิบัติครั้งร้ายแรงนี้ จะเกิดขึ้นกับสตูดิโอของพวกเขา ซึ่งได้ทำลายทั้งสตูดิโอแล้วก็วงการอนิเม โดยหนึ่งในผู้สูญเสียนี้ ต่างเป็นเพื่อนร่วมงานที่ยอดเยี่ยมแล้วก็น่าทึ่งของเขา
แฟนๆ ต่างวางช่อดอกไม้ ไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ลอบวางเพลิง KyoAni อย่างไม่ขาดสาย (ภาพจาก Asahi.com)
หลังจาก โศกนาฏกรรม KyoAni ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง ก็ได้มีการระดมเงินทุนช่วยเหลือสตูดิโอแห่งนี้ ในทุกภาคส่วน ทั้งจากแฟนๆอนิเม , บุคคลผู้มีชื่อเสียง ทั้งในวงการการ์ตูน และ นอกวงการการ์ตูน รวมไปถึง บริษัท หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับวงการการ์ตูน อนิเม อาทิ :
- การระดมเงินทุนช่วยเหลือ KyoAni จาก Sentai Filmworks บริษัทนำเข้าอนิเมของสหรัฐ , Animate ร้านจำหน่ายสินค้าอนิเม ทุกสาขาในญี่ปุ่น และต่างประเทศ เป็นต้น
- YOSHIKI สมาชิกของ X JAPAN วงร็อคระดับตำนานของญี่ปุ่น บริจาคเงิน 10 ล้านเยน ช่วยเหลือ Kyoto Animation
- เช่นเดียวกับ อ.Chihiro Ishizuka ผู้แต่งมังงะ Flying Witch ได้นำรายได้จากยอดขายของการ์ตูนเรื่องนี้ส่วนหนึ่ง นำไปบริจาคช่วยสตูดิโอ KyoAni
- ร้าน Animate สาขากรุงเทพ ประเทศไทย ได้จับมือกับ JAM ( Japan Anime Movie Thailand ) , DEX และ M Pictures ในการรีรันหนังอนิเมของ KyoAni ทั้ง Tamako Love Story กับ Koe no Katachi หรือ รักไร้เสียง ในรอบพิเศษ เพื่อนำรายได้จากการออกฉาย นำไปช่วยเหลือ KyoAni ซึ่งได้รับการตอบรับจากแฟนๆบ้านเราเป็นอย่างดี ซึ่งการรีรันหนังทั้งสองเรื่องดังกล่าวในบ้านเรานั้น เป็นที่รับรู้ของแฟนๆชาวญี่ปุ่น จนพวกเขาอดที่จะชื่นชมในน้ำจิตน้ำใจแฟนๆอนิเมชาวไทย (ข้อมูลจาก Online-Station)
Tamako Love Story กับ Koe no Katachi หรือ รักไร้เสียง
- โรงหนังในญี่ปุ่นบางแห่ง ยังพากันรีรันผลงานหนังของ KyoAni ด้วยเช่นกัน และยังทำให้หนังอนิเม Free!: Road to the World - Yume ที่กำลังเข้าฉายบนโรง ในช่วงสัปดาห์ดังกล่าว มียอดจำหน่ายตั๋วเพิ่มสูงขึ้น มากกว่า สัปดาห์แรกที่หนังดังกล่าวเข้าฉายในโรง (ตัวหนังฉายบนโรงที่ญี่ปุ่น ก่อนจะเกิดเหตุลอบวางเพลิงสตูดิโอ 13 วัน)
Free!: Road to the World - Yume
- หนัง Violet Evergarden: Spin-Off - Eternity and Auto Memory Doll ของ KyoAni ได้ขึ้นเครดิตให้กับทีมงานผู้สร้างหนังอนิเมชุดนี้ทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ สต๊าฟที่เพิ่งเข้ามาร่วมงานกับสตูดิโอไม่ถึงปี
- ชาวเมือง Uji จ.เกียวโต กับ อนิเม Sound Euphonium ร่วมกันจัดคอนเสิร์ตการกุศล โดยนำรายได้จากการแสดง ช่วยเหลือสตูดิโอ KyoAni และ เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ฯลฯ
Violet Evergarden: Spin-Off - Eternity and Auto Memory Doll
และหลั่งธารน้ำใจของแฟนๆ KyoAni ทั่วโลก ได้เป็นที่รับรู้ถึงสตูดิโอ ซะจนสร้างความซาบซึ้งแก่ Hatta และ KyoAni โดยเปรียบความช่วยเหลือและกำลังใจจากแฟนๆทั่วโลก เป็นดั่งเปลวเทียวที่กำลังสว่างไสว ท่ามกลางความมืดมิดที่พวกเขากำลังประสบ พร้อมกันนี้ KyoAni ยังได้เปิดบัญชีธนาคารของตัวเอง เพื่อรับเงินบริจาคโดยเฉพาะ ขณะเดียวกัน รัฐบาลญี่ปุ่น ยังได้ออกมาตรการเยียวยาช่วยเหลือ KyoAni ด้วยการประกาศให้ให้เงินบริจาคต่างๆ ที่ส่งถึง KyoAni นั้น ถือเป็น "การบรรเทาภัยพิบัติ" โดยเงินส่วนนี้ จะเป็นเงินบริจาคให้แก่ครอบครัวผู้ประสบเหตุโดยตรง รวมถึง ยังเป็นทุนในการใช้ก่อสร้างสตูดิโอใหม่ เช่นกัน เท่านั้นไม่พอ เงินบริจาคใดๆที่ส่งถึง KyoAni นั้น จะได้รับการลดหย่อนภาษี เฉกเช่นเดียวกับ การบริจาคเงินเพื่อการกุศลอื่นๆ
เกี่ยวกับควันหลงต่างๆ ที่เกิดขึ้น หลังจากเหตุลอบวางเพลิงสตูดิโอ KyoAni ก็มีอยู่ด้วยกันหลายอย่าง :
- กำหนดการออกฉายหนังอนิเมของสตูดิโอที่ต้องเลื่อนออกไป ประกอบด้วย Violet Evergarden The Movie หนังอนิเมฉบับเต็มตัวของ Violet Evergarden เลื่อนฉายเป็นวันที่ 24 เม.ย. 2020 จากเดิมที่มีกำหนดฉาย ม.ค. 2020 ขณะที่ หนังอนิเมชุดใหม่ของ Free! รวมถึง อนิเมทีวีซีซั่น 2 ของ Kobayashi-san Chi no Maid Dragon จะเลื่อนฉายไปอย่างไม่มีกำหนด จากการที่ Futoshi Nishiya กับ Yasuhiro Takemoto อนิเมเตอร์คนสำคัญ จากผลงานข้างต้น เป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
- แต่ในข่าวร้าย ก็มีข่าวดี เมื่อ Violet Evergarden: Spin-Off - Eternity and Auto Memory Doll หนังอนิเมบทไซด์สตอรี่ของ VE ยังคงฉายตามโปรแกรม ตามปกติ ในวันที่ 6 ก.ย. 2019 ท่ามกลางความคาดการณ์ของหลายๆฝ่ายว่า ตัวหนังจะต้องเลื่อนฉายยาวไม่มีกำหนด ซึ่งตัวหนังชุดนี้ ได้จัดทำเสร็จสมบูรณ์ ก่อนที่อาคารสตูดิโอ 1 ของ KyoAni จะถูกลอบวางเพลิง เพียงแค่ 1 วันเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ตัวหนังก็ได้รับความสนใจจากคออนิเมเป็นจำนวนมาก จนทำให้ต้องมีการขยายเวลาการฉายหนังเพิ่มเติม จาก 2 สัปดาห์ เป็น 5 สัปดาห์ ด้วยกัน
- อนิเมทีวีแนวดับเพลิง Enen no Shouboutai หรือ หน่วยผจญคนไฟลุก ที่ผลิตโดย David Production ซึ่งดัดแปลงมาจากผลงานมังงะของ อ.Atsushi Okubo ได้ประกาศเลื่อนฉายตอนที่ 3 ออกไป เพื่อเป็นการเคารพและแสดงความอาลัยแก่ผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ตอนที่ 3 ของเรื่องนี้ ได้กลับมาฉายตามปกติ เพียงแต่มีการดัดแปลงเนื้อหาบางฉากเพื่อความเหมาะสมในช่วงเวลาดังกล่าว
Enen no Shouboutai หรือ หน่วยผจญคนไฟลุก
- เมืองต่างๆในญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ เมืองที่ถูกใช้เป็นฉากหลังในอนิเมของ KyoAni ต่างแสดงพลังในการช่วยเหลือสตูดิโอแห่งนี้ เริ่มจาก เมืองโอกาคิ จ.กิฟุ ที่เคยถูกใช้เป็นฉากหลังของหนังอนิเม Koe no Katachi (A Silent Voice) หรือ รักไร้เสียง ได้จัดทำกล่องรับเงินบริจาคช่วยเหลือสตูดิโอแห่งนี้ ขณะที่ เมืองโทโยซาโตะ จ.ชิกะ ได้จัดทำซุ้มวางดอกไม้ ที่อาคารโรงเรียนประถมเก่า ซึ่งเคยถูกใช้เป็นฉากหลังของอนิเม K-On! ก๊วนดนตรีแป๋วแหวว ส่วน เมืองทาคายามะ จ.กิฟุ หัวหน้าบรรณารักษ์ประจำเมือง ได้ให้เครดิตแก่ KyoAni ในฐานะที่ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวของเมือง ผ่านอนิเม Hyouka ปริศนาความทรงจำ
สถานที่จริง กับ สถานที่ในฉากอนิเม ของ K-On! และ Hyouka
- เหตุวางเพลิงที่เกิดขึ้นกับ KyoAni ได้ส่งผลกระทบถึง ร้านจำหน่ายสินค้าอนิเมของพวกเขา ที่ต้องปิดให้บริการชั่วคราว จนถึง มี.ค. 2020 อย่างไรก็ตาม ในส่วนของร้านค้าออนไลน์ของเขา กลับมาเปิดให้บริการตามปกติ หลังปิดให้บริการ 1 เดือน หลังจากเหตุลอบวางเพลิง
- ทางสตูดิโอ ได้ยกเลิกกิจกรรมงานแฟนอีเว้นต์ KyoAni and Do Fan Days 2019 โดยปรับเปลี่ยนรูปแบบของงาน เป็นงานรำลึกผู้เสียชีวิต แทน เมื่อช่วงต้นเดือน พ.ย. 2019 รวมถึง การประกาศยกเลิกการประกวด Kyoto Animation Awards ครั้งที่ 11 อย่างเป็นทางการ ในเดือนเดียวกัน
- เหตุลอบวางเพลิง KyoAni ไม่เพียงจะสร้างความสูญเสียทั้งผู้คนและทรัพย์สินของสตูดิโอแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อภาพรวมของวงการอนิเมญี่ปุ่น เช่นกัน โดย Toshiyuki Morii ผู้บริหารของสตูดิโออนิเม Mushi Production ได้แสดงความเห็นไว้ว่า "ขั้นตอนการผลิตอนิเมชั่น จะทำได้อย่างยากลำบากมากๆ จากการที่ทีมงานผู้ผลิตอนิเมจำนวนหนึ่งหายไป แถมตัวสตูดิโอที่ถูกเผาไหม้ ก็ยากที่จะดำเนินงานผลิตอนิเมชั่นต่อไปได้ ในขณะนี้
- ส่วนอาคารสตูดิโอ 1 ของ KyoAni ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ได้เริ่มดำเนินการรื้อถอนแล้ว เมื่อ 25 พ.ย. 2019 โดยประธาน Hatta มีแผนที่จะจัดทำเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุลอบวางเพลิง โดยไม่ปล่อยให้ซากอาคารคงอยู่ต่อไป เพราะจะทำให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ละแวกนั้น รวมไปถึง ทีมงาน ได้รู้สึกเศร้าโศกเสียใจและหวาดกลัวไปมากกว่านี้
Update 17/07/2020
อาคารสตูดิโอ 1 ของ KyoAni ดำเนินการรื้อถอนเรียบร้อยแล้ว เมื่อ เม.ย. 2020 ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ ยังไม่ได้ข้อสรุปว่า พื้นที่ว่างโล่ง อันเคยเป็นที่ตั้งของ อาคารสตูดิโอ 1 จะนำเอาไปใช้สอยในรูปแบบใด โดยทางฝั่งครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ลอบวางเพลิง ต้องการที่จะให้มีการสร้างอนุสรณ์รำลึกผู้เสียชีวิต ณ สถานที่แห่งนี้ ในขณะเดียวกัน ทางฝั่งผู้อยู่อาศัย ในละแวกใกล้เคียงกับ Studio 1 ก็ไม่อยากถูกรบกวนไปมากกว่านี้ ซึ่งทาง KyoAni จะดำเนินการปรึกษาหารือกับบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกัน
- อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก ในแง่ของประเด็นการเปิดเผยรายนามผู้เสียชีวิตจากเหตุลอบวางเพลิง ซึ่งทาง จนท.ตำรวจเกียวโต ได้ถูกสื่อท้องถิ่นของเกียวโตหลายแห่ง จี้ให้เปิดเผยรายชื่อผู้เสียชีวิตที่เหลืออีก 25 คน จากที่ก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยชื่อผู้เสียชีวิตมาก่อนหน้านี้แล้ว 10 คน แม้ว่า ทางตำรวจเกียวโต รวมไปถึง สำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่น (NPA) จะยังคงยืนกรานที่จะไม่เปิดเผยรายชื่อผู้เสียชีวิตที่เหลือ (ตามกฎระเบียบเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลเหยื่ออาชญากรรมเบื้องต้นของญี่ปุ่น ปี 2005 ) โดยจะเปิดเผยชื่อผู้เสียชีวิตได้ ก็ต่อเมื่อ จะต้องได้รับการยินยอมจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเสียก่อน และจากการกระทำของสื่อดังกล่าว ได้สร้างความไม่พอใจเป็นวงกว้าง ให้แก่คนในวงการอนิเม รวมถึง ครอบครัวและคนใกล้ชิดของเหยื่อผู้เสียชีวิต และในที่สุด จนท.ตำรวจเกียวโต ได้เปิดเผยรายชื่อผู้เสียชีวิตอีก 25 คนที่เหลือ โดยที่ไม่มีการเปิดเผยชื่อผู้เสียชีวิตผ่านทางสื่อใดๆ (ยกเว้นบางรายที่มีการเปิดเผยชื่อ ซึ่งล้วนได้รับการยินยอมจากสมาชิกครอบครัวผู้เสียชีวิตแล้ว)
- รัฐบาลญี่ปุ่น รวมถึง หน่วยงานจัดการด้านอัคคีภัยของญี่ปุ่น มีแผนที่จะปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์การจัดจำหน่ายน้ำมันเบนซินอย่างรัดกุมมากยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันเหตุซ้ำรอยโศกนาฏกรรม KyoAni โดยเรียกร้องให้ สถานีบริการน้ำมัน และ ผู้จัดจำหน่ายน้ำมันเบนซิน ให้ทำการตรวจสอบบัตรประชาชนของลูกค้าที่เข้ามาจับจ่ายซื้อน้ำมัน พร้อมกับสอบถามข้อมูลของลูกค้าเกี่ยวกับจุดประสงค์หลักในการซื้อน้ำมันไปใช้สอยด้วย ซึ่งกฎใหม่นี้ จะช่วยให้ผู้ค้าน้ำมันสามารถรายงานพฤติกรรมอันน่าสงสัยของลูกค้า ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับทราบ และดำเนินการต่อในขั้นต่อไป
- ท่ามกลางความโศกเศร้า และ การส่งกำลังใจถึง KyoAni ของเหล่าคอการ์ตูนทั่วโลก กำลังดำเนินอยู่นั้น อีกด้านหนึ่ง ก็มีผู้คนจำนวนเล็กๆ ที่หยิบเอาเหตุการณ์ลอบวางเพลิงที่เกิดขึ้น ไปใช้ในการข่มขู่ อาฆาต ถึง บริษัท-สตูดิโอ ผู้ผลิตอนิเม และ เกม จำนวนหนึ่ง เล่นเอาสตูดิโอเหล่านี้ถึงกับปั่นป่วนกันไปข้างนึง อาทิ Square -Enix บริษัทผู้ผลิตเกมวีดีโอดัง , ค่ายเกม Visual Art's , Khara สตูดิโอผู้สร้างอนิเม Evangelion เท่านั้นไม่พอ ยังรวมถึง การที่มีชายผู้หนึ่ง กระทำการขู่เผาบ้านพักคนชรา ซ้ำรอย KyoAni เนื่องจากแค้นอดีตเจ้านายตัวเอง เป็นต้น
ในส่วนของผู้ก่อเหตุคดีนี้ แหล่งข่าวหลายสำนักในญี่ปุ่นได้ระบุว่า เป็นชายวัย 41 ปี ผู้หนึ่ง เป็นผู้ลงมือก่อเหตุ (และคาดว่า น่าจะศึกษาดูลาดเลาตึกนี้มาเป็นอย่างดี ก่อนจะก่อเหตุ ทั้งๆที่ อาคารดังกล่าว ผ่านการรับรองมาตรฐานด้านความปลอดภัย) ในส่วนของแรงจูงใจในการก่อเหตุนั้น ก็ยังไม่ชัดเจนนัก มีเพียงแหล่งข่าวจาก นสพ. Mainichi Shimbun ที่ได้ระบุว่า ผู้ต้องหารู้สึกโกรธแค้น ที่ KyoAni ไปขโมยผลงานนิยายของเขาโดยพละการ ขณะที่ แหล่งข่าวจาก NHK ระบุว่า ผู้ต้องหารายนี้เคยถูกจับ ในข้อหาขโมยของในร้านสะดวกซื้อ เมื่อปี 2012 และถูกจำคุกถึง 3 ปีครึ่งด้วยกัน
...... ซึ่งประเด็นในส่วนผู้ต้องหานั้น ประธาน Hatta กล่าวว่า เขาไม่เคยได้ยินชื่อผู้ต้องหารายนี้มาก่อน และไม่เคยมีผลงานนิยายใดๆของผู้ต้องหารายนี้ส่งถึงบริษัทแต่อย่างใด ซึ่งขณะนี้ ผู้ต้องหา กำลังอยู่ในระหว่างการพักฟื้นและการทำกายภาพบำบัด ที่โรงพยาบาล โดยมีการคุ้มกันและดูแลอย่างใกล้ชิด จาก จนท.ตำรวจ
Update 17/07/2020
Shinji Aoba ชายวัย 41 ปี ผู้ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีลอบวางเพลิงสตูดิโอ KyoAni ถูกจนท.ตำรวจ จับกุมตัวอย่างเป็นทางการ เมื่อ 27 พ.ค. 2020 หลังจากผู้ต้องหาเข้ารับการรักษาตัว จากอาการบาดเจ็บอย่างหนักในวันก่อเหตุ ณ รพ. เป็นระยะเวลา 10 เดือน ซึ่งขณะนี้เขาได้ถูกส่งตัวไปยังศูนย์กักกันของสถานีตำรวจโอซาก้า เพื่อรอการพิจารณาคดีต่อไป
KyoAni ก่อตั้งเมื่อปี 1981 ในฐานะของสตูดิโออนิเมที่คอยซัพพอร์ตงานอนิเมของสตูดิโออื่น จนกระทั่ง ปี 2003 ได้ยกสถานะขึ้นเป็นสตูดิโออนิเมหลักในการผลิตผลงานอนิเมดัง ประเดิมด้วย Full Metal Panic Fumoffu และจากนั้น สตูดิโอแห่งนี้ ได้สร้างสรรค์ผลงานอนิเมเรื่องดังหลายเรื่อง จนเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน ....โดยเหตุลอบวางเพลิงสตูดิโอ KyoAni จัดเป็นโศกนาฏกรรมที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากครั้งหนึ่ง นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นเหตุเพลิงไหม้ที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดของญี่ปุ่น นับตั้งแต่ เหตุเพลิงไหม้ อาคาร Myojo 56 เมื่อปี 2001 .....
ถึงตรงนี้ ก็ขอเป็นกำลังใจให้แก่ทีมงานของ KyoAni ให้ผ่านพ้นวิกฤตที่เกิดขึ้น จนสามารถกลับมาลุกขึ้นสู้ใหม่ และสร้างสรรค์ผลงานอนิเมเรื่องเยี่ยม อบอุ่น จรรโลงจิตใจ ให้แฟนๆอนิเมทั่วโลกได้สัมผัสกัน อีกครั้ง ....
|
