Cartoon Focus - เทพมรณะ (Bleach)

ผู้แต่ง
ไทเทย์ คุโบะ
ประเภท
แอ็คชั่น
จำนวนเล่ม (ไทย)
74 เล่ม (จบ)
สำนักพิมพ์
เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนต์ (ไทย)/
Shueisha(ญี่ปุ่น)
ลิขสิทธิ์อนิเม Rose Media
ข้อมูลอ้างอิง http://th.wikipedia.org/wiki/เทพมรณะ

เรื่องย่อ

บทนำ

คุโรซากิ อิจิโกะ เด็กหนุ่มที่สามารถมองเห็นวิญญาณได้ วันหนึ่งเขาได้พบกับ คุจิกิ ลูเคีย ยมทูตสาวที่กำลังไล่ล่าฮอลโล่ วิญญาณปีศาจร้ายอยู่ ต่อมาลูเคียเสียทีต่อฮอลโล่ จึงต้องถ่ายพลังทั้งหมดให้กับอิจิโกะ อิจิโกะจึงต้องรับหน้าที่เป็นยมทูตนับแต่นั้น ส่วนลูเคียที่สูญเสียพลังนั้น ก็ต้องอยู่ในร่างของมนุษย์ปกติไปก่อน จนกว่าพลังจะฟื้นขึ้นมา วันหนึ่ง โซลโซไซตี้ สถานที่พำนักของเหล่ายมทูต ได้ส่ง อาบาราอิ เร็นจิ และ คุจิกิ เบียคุยะ จับตัวลูเคียกลับไปโซลโซไซตี้รอการตัดสินโทษ ทำให้อิจิโกะ และ ผองเพื่อนผู้มีพลังพิเศษซึ่งได้แก่ อิชิดะ อุริว,แช้ด หรือ ซาโดะ ยาสึโทระ,อิโนะอุเอะ โอริฮิเมะ ตัดสินใจไปช่วยเหลือลูเคีย ณ โซลโซไซตี้

ตะลุยโซล โซไซตี้ : ปฏิบัติการช่วยเหลือลูเคีย


ทั้งหมดนั้นก็ได้รับการฝึกฝนเพิ่มเติม โดยอิจิโกะฝึกฝนกับ อุราฮาร่า คิสึเกะ ส่วน แช้ด กับ โอริฮิเมะ รับการฝึกฝนจาก ชิโฮอิน โยรุอิจิ ร่างแมวดำ หลังจากการฝึกฝนทุกคนก็เข้าไปยังโซลโซไซตี้ หลังจากผ่าน จิดันโบ คนเฝ้าประตูได้ จากนั้นก็เข้าสู่เขตลูคอนไก และที่นั่นเอง ทั้งหมดก็ได้รับการช่วยเหลือจาก ชิบะ คูคาคุ ให้ส่งพวกเขาไปเซเรย์เทย์ เขตที่ทำการของเหล่ายมทูตได้ง่ายขึ้น โดยส่ง ชิบะ กันจู น้องชายของเธอคอยดูแลเป็นเพื่อน

การมาเยือนโซลโซไซตี้ของพวกเขานั้น พวกเขาต้องแยกย้ายและต่อสู้กับยมทูตแต่ละคน เริ่มจาก:

-อิจิโกะสามารถผ่าน มาดามาเระ อิกคาคุ นักสู้ลำดับ 3 ของหน่วย 11 ส่วนกันจูผ่าน อายาเซะงาว่า ยูมิจิกะ นักสู้ลำดับ 5 ของหน่วย 11ได้ตามลำดับ ต่อจากนั้นก็พบกับ ยามาดะ ฮานาทาโร่ นักสู้ลำดับ 7 ของหน่วย 4 ซึ่งต้องการจะช่วยลูเคียออกมา ในระหว่างทางที่ไปหอสำนึกผิด พวกอิจิโกะได้ล้างตากับ อาบาราอิ เร็นจิ รองหัวหน้าหน่วย 6 อีกครั้ง กว่าจะผ่านไปได้ก็เล่นเอาอิจิโกะเจ็บหนัก

-แช้ด สามารถกำจัดนักสู้ลำดับ 3ในหน่วย8ได้ ต่อมา เขาก็แพ้ เคียวราคุ ซุนซุย หัวหน้าหน่วย 8 และ ต้องถูกนำตัวไปขัง

ระหว่างนั้น ที่โซลโซไซตี้ก็เกิดเรื่องวุ่นวาย เมื่อ ไอเซ็น โซสึเกะ หัวหน้าหน่วย 5 ถูกลอบสังหารอย่างเป็นปริศนา ซึ่งก่อให้เกิดความขัดแย้งกันขึ้น ระหว่าง ฮินาโมริ โมโมะ รองหัวหน้าหน่วย 5 กับ คิระ อิซึรุ รองหัวหน้าหน่วย 3 แต่ ฮิซึกายะ โทชิโร่ กับ มัตซึโมโตะ รันงิคุ หัวหน้าและรองหัวหน้าหน่วย 10 ห้ามเอาไว้ทัน และตัดสินใจจับฮินาโมริ ขังคุก
อย่างไรก็ตาม ฮินาโมริ หนีออกมาได้ และ เผชิญหน้ากับฮิซึกายะอีกครั้ง โดยเธอเข้าใจผิด คิดว่า ฮิซึกายะเป็นคนสังหารไอเซ็น จึงเกิดการต่อสู้ขึ้น โดยฮิซึกายะอัดฮินาโมริจนสลบ จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ฮิซึกายะ เริ่มสงสัยในตัว อิชิมารุ งิน หัวหน้าหน่วย 3 ซึ่งท่าทางมีพิรุธ คาดว่ามีส่วนรู้เห็นกับการตายของไอเซ็นอย่างแน่นอน

-อีกด้านหนึ่ง อิจิโกะที่ฟื้นจากอาการบาดเจ็บ ต้องสู้กับ หัวหน้าหน่วย 11 ซาราคิ เคมปาจิ โดยปล่อยให้ฮานาทาโร่ และ กันจูหนีไป ขณะต่อสู้ อิจิโกะก็ได้รู้ซึ้ง เข้าใจในซันเงสึ(ชื่อดาบฟันวิญญาณของอิจิโกะ) อิจิโกะสามารถเอาชนะได้ แต่บาดเจ็บหนักจนลุกขึ้นไม่ไหว โยรุอิจิก็มาช่วยรักษาให้จนหายดี อิจิโกะไม่รอช้าก็ได้รีบไปช่วยลูเคีย

-ส่วนกันจูที่ได้ไปพบลูเคียแล้ว ก็ได้เผชิญหน้ากับ คุจิกิ เบียคุยะ หัวหน้าหน่วย 6 ซึ่งเบียคุยะใช้ เซ็มบ้งซากุระ จัดการกันจูอย่างง่ายดาย แล้วอิจิโกะก็มาช่วย แต่ทว่าโยรุอิจิก็ได้พาตัวอิจิโกะกลับไป ส่วนฮานาทาโร่และกันจูก็ถูกจับขังคุก

-ทางฝ่ายของ อุริว กับโอริฮิเมะ หลังจากผ่านคู่ต่อสู้มานับต่อนัก จนในที่สุดพวกเขาก็พบกับ คุโรซึจิ มายูริ หัวหน้าหน่วย 12 และ คุโรซึจิ เนม รองหัวหน้าหน่วย 12 โดยอุริวขอเป็นคนสู้เอง โดยให้อารามากิ นักสู้หน่วย 11 ที่บังเอิญผ่านมาพอดีพาตัวโอริฮิเมะไป ระหว่างการต่อสู้ อุริวทุ่มสุดตัวจนใช้พลังควินซี่ไปจนหมด สามารถผ่านมายูริได้อย่างเหนื่อย แต่พอไปถึงหอสำนึกกลับเจอ โทเซ็น คานาเมะ หัวหน้าหน่วย 9 ฟันจบสลบ จึงถูกจับขังคุกเหมือนกับแช้ด

- ในระหว่างนั้น อิจิโกะได้ฝึกฝน "บังไค" หรือ "การปลดปล่อยสวัสดิกะ"กับซันเงสึ ภายในเวลา 3 วัน ขณะเดียวกัน เรนจิก็คิดทรยศไปช่วยลูเคีย ซึ่งเขาก็ต้องสู้กับ เบียคุยะ แต่เรนจิที่ปลดปล่อยสวัสดิกะได้นั้นก็ยังไม่สามารถเอาชนะได้ แต่ด้วยการช่วยเหลือของฮานาทาโร่กับริคิจิ ทำให้เขาฟื้นขึ้นมา และมุ่งหน้ายังลานประหาร

อีกด้านหนึ่ง เคมปาจิได้พาโอริฮิเมะไปช่วย กันจู แช้ด และอุริว และทั้งหมดไปหยุดการประหารลูเคีย แต่ก็ต้องเผชิญหน้ากับโทเซ็น และโคมามูระ ซาจิน หัวหน้าหน่วย 7 ซึ่งเคมปาจิก็เอาชนะโทเซ็นได้อย่างง่ายดาย แต่เมื่อเคมปาจิจะฆ่าโทเซ็น โคมามูระก็ได้มาขวางไว้ จนหน้ากากแตกเผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมา โคมามูระจึงปลดปล่อยสวัสดิกะ แต่พอสู้ได้ไม่นาน โคมามูระก็หนีไปดื้อๆ ขณะเดียวกัน การประหารลูเคียได้เริ่มขึ้น แต่แล้วอิจิโกะก็ปรากฏตัวออกมาพร้อมกับทำลายแท่นประหารได้สำเร็จ ส่วนเร็นจิที่ตามมาทีหลัง ก็พาลูเคียหนีไป อิจิโกะจึงเข้าสู้กับเบียคุยะ ทั้งสองปล่อยพลังกันเต็มที่ และ อิจิโกะ ก็ใช้ความสามารถปลดปล่อยสวัสดิกะที่ฝึกในระยะเวลาอันสั้นและ ใช้ร่างฮอลโล่ของตน ก็เอาชนะเบียคุยะได้สำเร็จ

แต่เรื่องยังไม่จบเพียงแค่นี้ เพราะด้านหนึ่งไอเซ็น หัวหน้าหน่วย 5 ที่ใครๆคิดว่าตายไปแล้ว เขาผู้ซึ่งต้องการอยากได้โฮเงียคุซึ่งอยู่ในตัวลูเคีย เริ่มก่อการกบฎ ด้วยการสังหารคนใน 46 วังกลาง จากนั้นจึงทำร้าย ฮินาโมริ จนได้รับบาดเจ็บปางตาย จน ฮิซึกายะ เห็นเข้า เลยปลดปล่อยความโกรธออกมาด้วย "บังไค"(ปลดปล่อยสวัสดิกะ) แต่ก็สู้ไม่ได้เลย จากนั้น ไอเซ็นได้ตามไปหาเร็นจิ เพื่อชิงลูเคียมา แต่ อิจิโกะ และ เร็นจิ พยายามขัดขวางถึงที่สุด แต่ไม่สำเร็จ หลังจากที่ไอเซ็นได้โฮเงียคุมาครองแล้วก็ได้ให้ อิชิมารุ งิน ฆ่าลูเคีย แต่เบียคุยะกลับมาขวางทำให้ลูเคียรอดตาย และ หัวหน้าหน่วยทั้งหมดรวมไปถึง โยรุอิจิ ,จิดันโบ ,คูคาคุ พยายามหยุดพวกไอเซ็นแล้ว แต่ไม่สำเร็จ ไอเซ็น,งิน,โทเซ็น จึงสามารถหนีออกไปได้

หลังจากนั้น ลูเคียได้รู้ความจริงจากเบียคุยะว่าตนเป็นน้องสาวของฮิซานะ ศรีภรรยาของเขาเอง ส่วนพวกของอิจิโกะก็กลับโลกมนุษย์ตามเดิม ปล่อยให้ลูเคียอยู่โซลโซไซตี้ต่อไป......


การสู้รบกับกองทัพอารันคาร์

ในชั้นเรียน อิจิโกะได้พบกับ ฮิราโกะ ชินจิ ซึ่งเป็นไวเซิร์ด ชินจิได้ชักชวนให้อิจิโกะมาเป็นพวกเดียวกันแต่อิจิโกะกลับปฏิเสธ และในระหว่างนั้นเอง เมนอส 2 ตัว ก็ได้ปรากฏตัวมา และก็โดน ริวเคน พ่อของอุริว กับ อิชชิน พ่อของอิจิโกะเป็นคนจัดการทั้งคู่

จากนั้น อารันคาร์ (ฮอลโลว์ที่ถอดหน้ากากออก) 2 ตนก็ได้ปรากฏตัวขึ้นที่โลกมนุษย์พร้อมกับดูดกลืนวิญญานมนุษย์ไปเป็นจำนวนมาก แช้ดกับอิโนะอุเอะจึงต้องไปหยุดยั้ง แต่แช้ดก็ถูกยามี่ หนึ่งในอารรันคาร์ที่มาบุกทำลายจนแขนขาด จนอิจิโกะต้องมาช่วย แต่เขาก็ถูกขัดจังหวะโดยอิจิโกะร่างสีขาว แต่โชคดีที่โยรุอิจิกับอุราฮาร่ามาช่วยทัน ต่อมา ยูมิจิกะ อิกคาคุ ฮิซึกายะ รันงิคุ และลูเคียก็ได้มาโลกมนุษย์ พร้อมกับอธิบายเรื่องเมนอส กับ อาร์รันคาร์ให้อิจิโกะฟัง ในขณะเดียวกันนั้น กริมจอว์ แจ๊คเกอร์แจ๊ค เอสปาด้าหมายเลข 6 ก็ได้บุกไปโลกมนุษย์ พร้อมกับ นาคีม อิลฟอร์ท เอโดราโด้ เชาหลง และดีรอย ทำการต่อสู้กับ เร็นจิ รันงิคุ อิคาคุ ลูเคีย และ โทชิโร่ ทั้งหมดถูกกำจัดหมดเว้น กริมจอว์ อิจิโกะก็กำลังจะสู้กับกริมจอว์พอดี แต่กริมจอว์นั้นโทเซ็นมารับกลับไปก่อน จากเหตุการณ์นี้ อิจิโกะได้ไปหาพวกไวเซิร์ดเพื่อที่จะหาวิธีกำราบฮอลโลว์ในตัวเขา ทำให้เขาต้องต่อสู้กับอีกด้านหนึ่งของเขาและสามารถเอาชนะได้ ต่อมา เขาก็ฝึกการแปลงสภาพเป็นฮอลโลว์ แต่ก็แปลงได้นานแค่ 4 วินาที ต่อมาไอเซ็นได้สร้างโฮเงียคุได้สำเร็จและเอาไปร่วมร่างกับคนที่มีพลังมากกว่าหัวหน้า13หน่วยพิทักษ์ ชื่อว่า วอนเดอร์ไวซ์ มัลเจร่า

หลังจากนั้นไอเซ็นได้ส่งอารันคาร์ 4 ตน ซึ่งได้แก่ กริมจอว์ ยามี่ วอนเดอร์ไวซ์ และลูปี ไปยังโลกมนุษย์ จึงได้เกิดการปะทะกัน ระหว่าง อารันคาร์กับยมทูต ผลออกมาก็คือ อุราฮาร่าเล่นงานยามี่ซะยับเยิน วอนเดอร์ไวซ์ยังคงนั่งเอ๋อต่อไป ลูปี ถูกฮิซึกายะจัดการ ส่วนกริมจอว์ถูกชินจิซ้อม และ ในระหว่างนั้นเอง อุลคิโอร่า ชิฟเฟอร์ ได้มาห้ามกริมจอว์ไว้เนื่องจากภาระกิจชิงตัวโอริฮิเมะจบแล้ว อารันคาร์ทั้ง 5 จึงเดินทางกลับลาส์นอเช่ไป

หลังจากที่ทุกคนรู้ว่าโอริฮิเมะถูกอารันคาร์ลักพาตัวไป ก็ได้คิดจะไปช่วยแต่ถูกหัวหน้าใหญ่แห่งโซลโซไซตี้ ยามาโมโตะ เก็นริวไซ ห้าม จึงต้องเดินทางกลับไปกันหมดทุกคน เหลือแต่อิจิโกะคนเดียว ซึ่งเขาก็ได้คิดจะไปช่วยโอริฮิเมะ เมื่อ อุริวกับแช้ดรู้ข่าว ก็ได้คิดจะไปช่วยโอริฮิเมะพร้อมกับอิจิโกะด้วย

ฮูเอโก้ มุนโด้

ทั้ง อิจิโกะ อิชิดะ แช้ด ก็บุกไปยัง ฮูเอโก้ มุนโด้ สถานที่พำนักของเหล่าฮอลโลว์ พวกเขาเดินทางต่อไปจนกระทั่งถึง ลาส์ นอเช่ ปราสาทที่พำนักของเหล่าเอสปาด้า ที่นั่นเอง ทั้งหมดก็ได้พบกับ เนลทู หรือ เนล ฮอลโลว์ตัวน้อย กับ ฮอลโลว์หน้าตาประหลาด อย่าง คอนโด้ แจ็ค และ เปสเช่ ซึ่งฮอลโลว์ทั้ง 3 ตนนั้นก็ไม่มีพิษมีภัยแต่อย่างใด จากนั้น เร็นจิ กับ ลูเคีย ที่เบียคุยะส่งมานั้น ก็ตามมาสมทบกับพวกอิจิโกะทีหลัง ทั้งหมดจึงแยกย้ายกันไปตามทางเข้าช่องต่างๆ อิจิโกะเดินทางร่วมกับเนล ระหว่างทางอิจิโกะได้ต่อสู้กับดอลโดนี่ เอสปาด้าตกชั้น เบอร์ 103 และเอาชนะได้ ส่วนอิชิดะ กับ เปสเช่ ก็เอาชนะ จิรุตจิ ธันเดอร์วิช เอสปาด้าตกชั้นอีกคนได้ด้วย "เซเล่ชไนเดอร์" ส่วนแช้ดสู้กับ กันเทนไบน์ มอสเคด้า และแช้ดได้ใช้ความสามารถใหม่ "บราโซ อิสคิเอร์ด้า เดล ดิอาโบล (แขนซ้ายแห่งจอมมาร)" ล้มมอสเคด้าได้สำเร็จ แต่ทั้งคู่กลับโดน นอยโทร่า จิลก้า เอสปาด้าหมายเลข 5 ทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส

อีกด้านหนึ่ง ลูเคียก็เจอศึกหนักพบกับ อาโรนีโร่ อัลลูเอรี่ เอสปาด้า หมายเลข 9 โดยปลอมตัวเป็น ชิบะ ไคเอ็น อดีตรองหัวหน้าหน่วย 13 ที่น่าจะตายไปแล้ว ให้ลูเคียตายใจ จนสามารถโจมตีลูเคียให้บาดเจ็บอย่างหนัก แต่อย่างไรก็ตาม ลูเคียก็สามารถเอาชนะได้ชนิดที่บาดเจ็บหนักจนสลบไป ขณะเดียวกัน เร็นจิ กับ คอนโด้แจ้ค ปะทะกับ ซาเอล อพอลโล่ แกรนซ์ เอสปาด้าหมายเลข 8 ส่วน อิจิโกะ พบกับ อุลคิโอร่า เอสปาด้า หมายเลข 4 อุลคิโอร่าทักทายด้วยการบอกข่าวว่าลูเคียตายไปแล้ว ซึ่งทำให้อิจิโกะ โกรธมาก จึงเกิดการต่อสู้กัน อิจิโกะกลับพลาดท่า เมื่อถูก "ซีโร่" จากอุลคิโอร่าจนได้รับบาดเจ็บสาหัส

อีกด้านหนึ่ง เร็นจิก็ต่อสู่อย่างเต็มที่ แต่ก็ทำอะไรซาเอลไม่ได้ โชคยังดีที่อิชิดะตามมาสมทบทัน ทั้งคู่จึงต้องจับมือกันเพื่อโค่นซาเอลให้ได้ แต่ซาเอลได้ใช้ความสามารถของดาบฟันวิญญาณของตน กำราบทั้งสองคนจนหมอบ

ในขณะเดียวกัน กริมจอว์ แอบช่วยโอริฮิเมะออกจากวัง แล้วก็พาเธอไปรักษาของอิจิโกะที่กำลังนอนไร้สติ แต่อุลคิโอร่ามาพบเข้า จึงเกิดการต่อสู้กันระหว่างกริมจอว์กับอุลคิโอร่า อุลคิโอร่าเป็นฝ่ายพลาดท่าถูกกักขังโดยกริมจอว์ จากนั้นอิจิโกะที่พื้นตัวมาพอดีก็ได้หันดาบเข้าใส่กริมจอว์ ทั้งสองต่อสู้กันดุเดือด อิจิโกะถึงขั้นต้องสวมหน้ากากแปลงเป็นฮอลโลว์ เข้าสู้กับกริมจอว์ในสภาพปลดปล่อยดาบ ซึ่งอิจิโกะสามารถเอาชนะได้ แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อกริมจอว์ถูกคมดาบของนอยโทร่าเข้าไป จากนั้น อิจิโกะจึงหันดาบเข้าสู้กับนอยโทร่า แต่อิจิโกะก็ไม่สามารถฟันทะลุผิวนอยโทร่าได้ ซ้ำยังโดนอัดจนบาดเจ็บหนัก ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังต่อสู้อยู่ ร่างของ เนล ฮอลโลว์ตัวน้อยเกิดความผิดปกติ กลับขยายร่างกลายเป็น เนลิเอล โท โอเดลชแวงค์ เนลในร่างหญิงสาวซึ่งเป็นร่างที่แท้จริงและเป็นอดีตเอสปาด้า ลำดับ 3 เนลในร่างหญิงสาวจึงอาสาเป็นคนสู้กับนอยโทร่า และเนลเป็นฝ่ายอัดโจทก์เก่าจนได้แผลใหญ่ จากนั้นเนลยิ่งได้ใจ จึงตัดสินใจปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณของตนเองออกมาโจมตีนอยโทร่า แต่ซักพักหนึ่งร่างของเนลกลับกลายเป็นเด็กน้อยตามเดิม ทำเอาฝ่ายอิจิโกะ เสียเปรียบอย่างหนัก โชคยังดีที่พวกเขาได้หัวหน้าหน่วยจากโซลโซไซตี้มาช่วยเอาไว้ ประกอบไปด้วย เคมปาจิ,อุโนะฮานะ,เบียคุยะ และ มายูริ

ซึ่งหัวหน้าหน่วยบางส่วนสามารถล้มเอสปาด้าฝีมือฉกาจได้ โดย เบียคุยะ เอาชนะ โซมารี เลอรูซ์ เอสปาดาลำดับ 7 และ มายูริ เอาชนะ ซาเอล ได้ ทำให้อิชิดะ เร็นจิ รอดพ้นจากความตายได้อย่างหวุดหวิด รวมถึงเคมปาจิก็ปราบนอยโทร่าได้สำเร็จ....ทว่า ไอเซ็น ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับบอกว่า พวกเขาจะยกพลโจมตีที่เมืองคาราคุระ โดยมีจุดประสงค์ในการนำวิญญาณมนุษย์ไปสร้างกุญแจโอเค็น (กุญแจราชันย์) ปล่อยให้พวกอิจิโกะ รวมถึงยมทูตระดับหัวหน้า & รองหัวหน้าหน่วยติดอยู่ในฮูเอโก้ มุนโด้ต่อไป โดยมีอุลคิโอร่า ที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้น คอยเป็นคู่ต่อสู้ให้ ขณะเดียวกัน ไอเซ็น และ เอสปาด้าที่เหลือ ได้ประจันหน้ากับ บรรดายมทูตหัวหน้า & รองหัวหน้าหน่วยจากโซล โซไซตี้ ที่เหลืออยู่ ณ เมืองคาราคุระในสภาพจำลอง!!!

การสู้รบ ณ เมืองคาราคุระจำลอง.....สู่ช่วงปลายการสู้รบ ณ คาราคุระจริง

จากการต่อสู้ ปรากฎว่า เอสปาด้า,ฟราเซี่ยน รวมถึง โทเซ็น อดีตหัวหน้าหน่วย 9 เป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำพวกยมทูตไป อย่างไรก็ดี ไอเซ็นก็สู้สมกับเป็นบอสประจำภาคด้วยการคว่ำพวกยมทูต แม้กระทั่งกองทัพไวเซิร์ด ล้มไปจนหมด ทันใดนั้น อิจิโกะ ที่ได้รับการช่วยเหลือจากมายูริ ทำให้เขาสามารถออกจากฮูเอโกมุนโด้ ไปยังเมืองคาราคุระปลอมได้ เมื่อมาถึงที่นั่น เขาก็ได้ต่อสู้กับไอเซ็น ร่วมกับ อิชชิน อุราฮาร่า และ โยรุอิจิ ที่มาสมทบทีหลัง แต่ก็ไม่สามารถล้มได้ ซ้ำยังปล่อยให้ไอเซ็นที่สามารถเป็นหนึ่งเดียวกับโฮเงียคุได้ กับ งิน หนีไปยังเมืองคาราคุระของจริงซะิอีก หลังจากนั้น อิจิโกะ ก็ได้ฝึกคอร์สพิเศษด้วยการเข้าไปยังโลกของซันเงสึอีกครั้ง จนกระทั่งฝึกฝนวิชาเก็ตซึงะเท็นโชขั้นสุดท้ายได้สำเร็จ และมุ่งหน้าไปยังเมืองคาราคุระจริง ซึ่งก่อนหน้าที่อิจิโกะจะมาถึงนั้น รันงิคุ ปรากฏตัวขึ้น ณ ที่นั่น เพื่อที่จะเคลียร์ปัญหากับงิน แต่ไม่สำเร็จ และ จากนั้น งิน ได้ตัดสินใจใช้คมดาบหักหลังไอเซ็น และพยายามที่จะแย่งชิงโฮเงียคุจากร่างของไอเซ็น แต่ก็ไม่สำเร็จ ซ้ำยังบาดเจ็บหนักอีก

และแล้วการต่อสู้ระหว่าง อิจิโกะ กับ ไอเซ็น ได้เกิดขึ้นอีกคำรบ และด้วยความสามารถของอิจิโกะที่อัพเกรดขึ้น ทำเอาไอเซ็นที่มั่นใจในพลังของตนเองถึงกับเจ็บหนักและออกอาการหัวเสีย จากนั้นอิจิโกะได้ทุ่มสุดกำลัง กอปรกับการช่วยเหลือของอุราฮาร่า ทำให้พวกเขาสามารถสยบผู้นำของเหล่าอารันคาร์ลงได้สำเร็จ.... หลังจากการสู้รบ ไอเซ็น ถูกตัดสินโทษจำคุกเป็นเวลา 18,800 ปี (ภายหลังปรับเพิ่มเป็น 20,000 ปี) ในขณะที่ อิจิโกะ นั้น สูญเสียพลังยมทูตทั้งหมด กลายเป็นแค่เด็กม.ปลายธรรมดาๆคนหนึ่ง...............

 


ภาคฟูลบริ้งค์

หลังจบศึกกับอารันคาร์ได้ 17 เดือน อิจิโกะ สูญเสียพลังยมทูตทั้งหมด กลายเป็นเด็กม.ปลายธรรมดาๆ และไม่สามารถมองเห็นและรับรู้เหล่ายมทูตแห่งโซลโซไซตี้ได้ ทว่าอิจิโกะ ได้พบกับ กินโจ ชายลึกลับคนหนึ่ง ซึ่งกินโจต้องการข้อมูลเกี่ยวกับอิชชินจากอิจิโกะ แต่อิจิโกะปฏิเสธ แต่พอรู้ว่ากินโจได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับงานของอุราฮา่ร่าแล้ว อิจิโกะ ตอบตกลง แถมยังเสนอให้อิจิโกะเข้าร่วมกลุ่ม Xcution พร้อมเปิดเผยว่าตนเป็นพวกฟูลบริ้งเกอร์ หนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่มีพลังวิญญาณ และอาสาที่จะช่วยให้อิจิโกะได้รับพลังยมทูตกลับคืนมาดังเดิม

จากนั้นอิจิโกะได้พบกับบรรดาสมาชิกของ Xcution ทั้งหมด ซึ่งก็รวมไปถึง แช้ด ที่เข้ามาอยู่ในกลุ่มด้วย ทำให้รู้ว่าพวกฟูลบริ้งเกอร์ได้รับพลังงานจากฮอลโลว์ จึงทำให้เขาตัดสินใจที่จะฝึกฝนเพื่อนำพลังยมทูตกลับคืนมาอีกครั้ง แต่แล้วในขณะที่อิจิโกะกำลังได้้รับการฝึกฝนจาก ริรุกะ ,แจ็คกี้ และคนอื่นๆ นั้น ในช่วงเวลาเดียวกัน อิชิดะ ถูกชายลึกลับทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส ส่วนโอริฮิเมะถูกชายลึกลับเปลี่ยนแปลงความทรงจำเช่นกัน ชายลึกลับผู้นั้นก็คือ ทสึคิชิม่า ผู้มีความสามารถในการแต่งเติมเปลี่ยนความทรงจำของผู้อื่น และเป็นอดีตสมาชิกของ Xcution

การฝึกฝนของอิจิโกะได้สัมฤทธิ์ผลจนได้พลังของฟูลบริ้งค์ส่วนหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นเอง ทสึคิชิม่า ได้ปรากฏตัวต่อหน้าอิจิโกะ และ สมาชิกฟูลบริงค์ทั้งหมด จนเกิดการต่อสู้กัน แต่ก็ถูกพลังของยูกิโอะที่สร้างมิติพิเศษที่ทำใหทสึคิชิม่าไม่อาจทำอะไรได้ ส่วนอิจิโกะก็ฝึกฝนอย่างหนักดวลกับกินโจในอีกมิติหนึ่ง แต่ก็ได้โอริฮิเมะเข้ามาช่วยเหลือรักษาอาการบาดเจ็บของอิจิโกะจนหายดี แม้ว่าในตอนั้นพลังฟูลบริ้งค์ของอิจิโกะใกล้จะสมบูรณ์ แต่ทสึคิชิม่าก็มิวายป่วนกับอิจิโกะ และ เพื่อนๆของเขา ด้วยการเปลี่ยนแปลงความทรงจำให้รับรู้ถึงการมีตัวตนของเขา เล่นเอาอิจิโกะต่อสู้กับทสึคิชิม่าได้ลำำบาก เพราะมีโอริฮิเมะ กับ แช้ด(ที่ถูกเปลี่ยนแปลงความทรงจำ) คอยช่วยเหลือทสึคิชิม่าตลอด กินโจเห็นท่าจะไม่ดีเลยพยายามหยุดไว้ ทว่า อิชิดะก็ปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับเปิดเผยว่า กินโจ คือศัตรูที่แท้จริง เพราะเป็นหนึ่งในคนที่เข้ามาทำร้ายเขา เมื่อความจริงถูกเปิดเผย กินโจจึงยึดเอาพลังฟูลบริ้งค์คืนจากอิจิโกะทั้งหมด แต่โชคยังดีที่ ลูเคีย ปรากฏตัว และมอบพลังยมทูตคืนให้กับอิจิโกะ อิจิโกะจึงสามารถใช้พลังยมทูตได้อีกครั้ง

อิจิโกะที่ได้พลังยมทูตกลับคืน พร้อมเหล่ายมทูตบางส่วนจาก 13 หน่วยพิทักษ์ ได้หันคมดาบปะหน้ากับสมาชิกของ Xcution ปรากฏว่า คุตสึซาว่า , แจ๊คกี้ , ชิชิงาวาระ,ยูกิโอะ พ่ายแพ่แก่ เคมปาจิ,เร็นจิ ,อิคคาคุ และ ฮิตซึกายะ อย่างง่ายดาย ขณะที่ เบียคุยะ กับ ลูเคีย ก็เอาชนะ ทสึคิชิม่า และ ริรุกะ ไปได้เช่นกัน เหลือแค่ อิจิโกะ กับ กินโจ ได้ต่อสู้ปะดาบกัน พร้อมกับความจริงที่เปิดเผยจากปากของกินโจเกี่ยวกับตัวแทนยมทูตที่มักจะถูกโซลโซไซตี้จับตามองอยู่ตลอด ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้พวกฟูลบริ้งค์ตัดสินใจที่จะเป็นฝ่ายต่อต้านโซลโซไซตี้ และในที่สุดอิจิโกะเป็นฝ่ายกำจัดกินโจลงได้ ทสึคิชิม่าพยายามที่จะแก้แค้นแทนกินโจที่ตายไป แต่ก็ถูกริรุกะห้ามเอาไว้ ศึกนี้ก็จบลงด้วย สมาชิก Xcution ที่เหลืออยู่ต่างก็แยกไปทางใครทางมัน ส่วนอิจิโกะก็ดำเนินการขอฝังศพกินโจที่โลกปกติ แทนที่จะส่งคืนให้กับทางโซลโซไซตี้.....


ภาคสงครามเลือดพันปี

บทสุดท้ายของบลีชฉบับมังงะ ที่จะเป็นศึกการต่อสู้ครั้งใหญ่ ระหว่างยมทูต และ ควินซี่ ผู้ซึ่งหาทางจัดการเหล่ายมทูตมาเนิ่นนาน.....หลังจากที่อิจิโกะ ได้รับพลังยมทูตกลับคืนมาได้ซักพัก ก็มีกองทัพเผ่าพันธุ์ควินซี่ นามว่า วานเด็นไรค์ (Wandenreich) ซึ่งนำทัพโดย ยูฮาบัช ได้ปรากฏตัวขึ้น พร้อมประกาศทำสงครามกับโซลโซไซตี้ ซึ่งก็ได้เกณฑ์อารันคาร์หลายตัวจากฮูเอลโกมุนโด้ มาเป็นกำลังพล ในการโจมตีเหล่ายมทูต...ซึ่งยูฮาบัช ผู้นี้ เป็นบรรพบุรุษของเหล่าควินซี่ ผู้พยายามหาทางจัดการกับราชันวิญญาณ และ ขจัดความกลัวตายให้หมดไปจากโลก

โดยการบุกครั้งแรกของ วานเด็นไรค์ ได้สังหารยมทูตมากมาย ซึ่งรวมไปถึง ยามาโมโตะ หัวหน้าใหญ่ของยมทูต 13 หน่วยพิทักษ์ ขณะเดียวกัน อุริว ได้ยอมเข้าพวกกับควินซี่กลุ่มนี้ เพื่อหวังเข้าใกล้กับยูฮาบัช ผู้ต้องรับผิดชอบกับการตายของควินซี่ตนอื่นๆ รวมถึง แม่ของตน จนกระทั่งในตอนท้าย อิจิโกะ และ เพื่อนๆ ได้ร่วมด้วยช่วยสู้ในศึกนี้ ทว่า ยูฮาบัช ได้จัดการสังหารและกลืนกินราชันวิญญาณเข้าไป ซะจนมีพลังไร้เทียมทาน นำไปสู่แผนการยึดครองโซลโซไซตี้ของเขา แต่ ยูฮาบัช ก็ไม่สามารถยึดครองโซลโซไซตี้สำเร็จ จากการที่ได้ อิจิโกะ , เร็นจิ , อุริว และ ไอเซ็น มาช่วยกันต้านทานเอาไว้ จนกระทั่ง อิจิโกะ สามารถกำจัดยูฮาบัช และนำพาความสงบสุขให้แก่โลกมนุษย์ และ โซลโซไซตี้ ในที่สุด


ตอนพิเศษ ฉลองครบรอบ 20 ปี บลีช เทพมรณะ

ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Shonen Jump ฉบับที่ 36-37/2021 ....แม้จะเป็นตอนพิเศษที่จัดทำขึ้น เพื่อฉลองการตีพิมพ์ครบ 20 ปี ของบลีช ฉบับมังงะ แต่การนำเสนอนั้น เหมือนจะขึ้นเนื้อเรื่องภาคใหม่ ยังไงยังงั้น....โดยเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังตอนจบของมังงะภาคหลัก เมื่อ เร็นจิ ได้ติดต่อเชิญชวนอิจิโกะ ให้เข้าร่วมพิธีไว้อาลัยดวงวิญญาณของหัวหน้าหน่วยยมทูตผู้จากไป โดย อิจิโกะ , เร็นจิ และ บรรดารองหัวหน้าหน่วยยมทูต 13 หน่วยพิทักษ์ ได้รับมอบหมายให้จับฮอลโลว์บนโลกมนุษย์ เพื่อมาสังเวยพิธีกรรมนี้ (ขณะที่บรรดาหัวหน้าหน่วย ประจำอยู่ที่โซลโซไซตี้)

แต่ไม่ทันที่พวกอิจิโกะจะได้เริ่มทำงานเลย ซาเอลอพอลโล่ อดีต เอสปาด้า อันดับ 8 ได้ปรากฏตัวขึ้น และเกิดการต่อสู้กัน แถมเกือบจะทำร้าย อิจิกะ ลูกสาวของเร็นจิ ที่แอบหนีมายังโลกมนุษย์ โดยในระหว่างการต่อสู้กับอิจิโกะ ซาเอลอพอลโล่ ได้อธิบายว่า ตนออกมาจากนรก จากการที่ประตูนรกได้เปิดออกมา ซึ่งเป็นผลพวงจากการที่ พลังกดดันวิญญาณของอดีตหัวหน้าหน่วยยมทูตผู้สูญเสียชีวิตไป ดันมาอัดกองกันบริเวณนรกมากเกินไป (ขณะเดียวกับ เคียวราคุ ก็อธิบายเรื่องนี้ ให้ลูเคียฟังด้วย) ก่อนที่ ซาเอล จะถูกวิญญาณของอุคิทาเกะ ใช้ดาบเสียบร่าง และ ลากกลับเข้าไปยังนรก พร้อมกับทิ้งคำใบ้ปริศนา ผีเสื้อ"นรก" ให้ อิจิโกะ และ เหล่ายมทูต ได้ประหลาดใจไปตามๆกัน


Burn the Witch

มังงะซีรี่ย์อีกเรื่อง ซึ่งเป็นผลงานเรื่องล่าสุดของ อ.คุโบะ ที่มีความเชื่อมโยงกันกับบลีช ในฐานะที่ดินแดน Reverse London ที่ปรากฏในมังงะเรื่องนี้ ถือเป็น โซลโซไซตี้ สาขาตะวันตก

กับเรื่องราวของ โนเอล นิฮาชิ กับ นินนี่ สปังโคล สองสาว "วิช" ผู้ซึ่งทำงานให้กับ WB (วิงก์ ไบนด์) หน่วยงานที่มีหน้าที่ควบคุมดูแล ดรากอน สิ่งมีชีวิตลึกลับ ยากที่ผู้คนธรรมดาจะมองเห็น (ยกเว้น ผู้คนใน Reverse London) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของผู้คนมากมายในกรุงลอนดอน อังกฤษ (ดรากอนในฝั่งตะวันตก เปรียบได้กับ ฮอลโลว์ ในฝั่งตะวันออก)


ภาค Bount (Anime Only)

หลังจากเหตุการณ์โซลโซไซตี้สงบลง อิจิโกะ กับ เพื่อนๆที่มาด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น อุริว,แช้ด,โอริฮิเมะ กลับสู่โลกมนุษย์ตามเดิม แต่ทว่าความสงบสุขก็อยู่ได้ไม่ยาว เมื่อพวกของอิจิโกะ พบกับ สิ่งมีชีวิตวิญญาณลึกลับ 3 ตน ประกอบไปด้วย ริริน,โนบะ ,คุโรโดะ ทั้ง 3 ท้าอิจิโกะและเพื่อนๆให้เล่นเกม โดยเดิมพันกับชีวิตเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆของอิจิโกะ หลังจากจบเหตุการณ์การเดิมพันอันน่าตื่นเต้น อุราฮาร่าก็เปิดเผยว่า ทั้ง ริริน,โนบะ ,คุโรโดะ นั้น เป็น วิญญาณดัดแปลง(มอดโซล)ที่เขาเป็นคนสร้างขึ้นมา เพื่อทดสอบพวกอิจิโกะ และเขายังเล่าเรื่องความน่ากลัวของพวก เบาต์ ให้พวกอิจิโกะฟัง ซึ่ง เบาต์ เป็นเผ่าพันธุ์วิญญาณที่มีชีวิตยืนยาวจากการดูดกินวิญญาณมนุษย์ ซึ่งมาจากความผิดพลาดในการทดลองสร้างชีวิตนิรันดร์ของกองวิทยาการแห่งโซลโซไซตี้ และเบ้าท์บางส่วนที่หนีรอดจากการโดนกำจัดนั้น อยู่บนโลกมนุษย์แล้ว ซึ่งพวกอิจิโกะจะต้องหยุดพวกเบาต์ให้ได้ โดยมอบหมายให้แต่ละคนจะต้องจับคู่กับมอดโซลทั้ง 3 ซึ่งมีความสามารถในการตรวจจับเบ้าต์ โดย อิจิโกะ คู่ ริริน (ริรินสิงในตุ๊กตานกอีกที), โอริฮิเมะ คู่ คุโรโดะ (คุโรโดะสิงในตุ๊กตากระต่ายจั๊ปปี้) และ แช้ด คู่กับ โนบะ (โนบะ สิงในตุ๊กตากระบองเพชร)

การตรวจจับเบ้าท์ก็เริ่มต้น อิจิโกะกับริริน พบกับ โซมะ โยชิโนะ เบ้าท์สาว และเกิดการต่อสู้กัน โยชิโนะ ใช้ "Doll" เข้าต่อสู้ ซึ่งDollนั้นแข็งแกร่งมาก ทำเอาอิจิโกะสู้ไม่ถนัด แต่ก็โชคดีที่ลูเคียมาช่วยทันเวลาพอดี จากนั้น พวกเบาต์ก็เผยตัวออกมาทีละคนๆ จนในที่สุด อุดางาว่า เรียว หนึ่งในพวกเบาท์เข้าต่อสู้กับกลุ่มของอิจิโกะ โดยมีแผนจับตัวอุริวซึ่งสูญเสียพลังควินซี่ไป แต่อุริวก็ได้รับความช่วยเหลือจากโยชิโนะ ที่ถูกพวกเดียวกันหักหลัง โยชิโนะบอกความจริงกับอิชิดะว่า พวกเบาท์ต้องการควินซี่อย่างอุริวเพื่อแผนการรุกรานโซลโซไซตี้ เธอจึงพาอุริวไปโรงพยาบาล แต่กลับถูก โฮ และ บัน เบาท์ฝาแฝด โจมตีอย่างหนัก โชคดีที่ กันจู กับ ฮานาทาโร่ มาช่วยทั้งสองคนทัน พร้อมกับกำจัดเบาท์ฝาแฝดคู่นี้ด้วย

อีกด้านหนึ่ง อิจิโกะ และพรรคพวก พบฐานทัพของพวกเบ้าท์ อิจิโกะต่อสู้กับอุดางาว่าอีกครั้ง ทว่า อุดางาว่า กลับถูก อิจิโนเสะ มากิ อดีตยมทูตหน่วย 11 ที่แปรพักตร์เข้าพวกเบ้าท์ สังหาร เนื่องจากอุดางาว่า พยายามจะหักหลัง คาริยะ จิน หัวหน้าของพวกเบ้าท์ ขณะต่อสู้กับอิจิโกะ ด้วยการขโมยที่ควบคุมเบาท์จากคาริยะ หลังจากฆ่าอุดางาว่าเรียบร้อย อิจิโนเสะก็หันมาสู้กับอิจิโกะ แต่อิจิโกะก็ถูกคาริยะตอด จนพ่ายแพ้อย่างง่ายดาย

ต่อมา คาริยะต่อสู้กับ โยชิโนะ ที่เข้ามาช่วยพวกอิจิโกะ ก็ถูกคาริยะสังหารเช่นกัน คาริยะได้ใจจึงเอาวิญญาณของเธอมาสร้างดอลล์ตัวใหม่ที่ชื่อว่า "บิทโตะ" ซึ่งสามารถกักเก็บและดูดกลืนวิญญาณมนุษย์เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเบาท์ จากนั้นพวกเบาท์เข้าบุกทั่วเมืองคาราคุระ ได้ต่อสู้กับพรรคพวกของอิจิโกะ รวมไปถึง ยมทูตที่โซลโซไซตี้ส่งมา (รันงิคุ,ชูเฮย์,คิระ) สู้กันไปสู้กันมา ในทึ่สุด คาริยะได้รวมพลเหล่าเบาท์ที่ถ้ำแห่งหนึ่ง ซึ่งมีประตูสู่โซลโซไซตี้ที่พวกเขาเป็นคนสร้างมาเอง โดยมีอุงาคิ หนึ่งในพวกเบ้าท์คอยหยุดการตามล่าของพวกยมทูต แต่ก็โดนบังไค(ปลดปล่อยสวัสดิกะ)ของเรนจิจนพ่ายแพ้ไป

อีกด้านหนึ่ง อุริว ได้รับพลังควินซี่กลับมา จากการช่วยเหลือของ เนม รองหัวหน้าหน่วยที่ 12 จากนั้นเขาจึงเข้ามาช่วยอิจิโกะ ในขณะที่อิจิโกะกำลังต่อสู้กับคาริยะอีกครั้ง อิจิโกะที่สามารถปลดปล่อยสวัสดิกะได้อีกครั้งหนึ่งนั้น จึงเดินหน้าต่อสู้ ส่วนอุริวได้ยิงลูกศรไปยังประตูสู่โซลโซไซตี้ โดยสร้างความเสียหายให้กับคาริยะที่เข้าไปยังโซลโซไซตี้ แต่พวกเบาท์ได้เข้าไปยังโซลโซไซตี้เรียบร้อยแล้ว พวกเบาท์เล่นงาน อิบะ รองหัวหน้าหน่วย 7 และ โอมาเอะดะ รองหัวหน้าหน่วย 2 ต่อจากนั้นพวกเบาท์ได้เข้าไปทำร้ายผู้คนในเมืองลูคอน และชักชวนให้ผู้คนที่เหลือเข้าร่วมมือกับเบาท์

อีกด้าน คาริยะได้ต่อสู้กับเบียคุยะ โดยมีอิจิโกะที่ตามมาทีหลังเข้ามาช่วยเหลืออีกแรง แต่ โคงะ โก หนึ่งในพวกเบ้าท์พาคาริยะ หนีไปได้ จากนั้นจึงเกิดการสู้รับกันระหว่าง พวกเบ้าท์ กับ บรรดายมทูต ณ ดินแดงโซลโซไซตี้ ซึ่งการจะล้มพวกเบ้าท์ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะอนูวิญญาณในโซลโซไซตี้เป็นตัวช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของพวกเขาได้เป็นอย่างดี แต่ยังไงซะ พวกยมทูตก็สามารถเอาชนะได้ เริ่มจาก ซุยฟง ชนะ มาบาชิ , มายูริ กำจัด ซาวาตาริ ได้สำเร็จ ส่วนเบ้าท์สาว โยชิ ก็พ่ายแพ้แก่อุริว

อีกด้าน คาริยะและลูกน้องได้อาศัยอยู่ในเขตคุซาจิชิหลังจากพบประตูทางเข้าเซย์เรย์เทย์ และสังหารชาวลูคอน หลังจากได้ช่วยเปิดประตูเข้าไปยังเซย์เรย์เทย์ได้สำเร็จ ต่อจากจากนั้นคาริยะก็ลอบเข้าไปยังกองงานวิจัยแห่งโซลโซไซตี้เพื่อตามหาโครงการ "โจไคโช" และ ต้องการนำพลังนั้นมาใช้เพื่อทำลายล้างโซลโซไซตี้ ทว่า โคงะกลับไม่ยอมร่วมมือกับคาริยะจึงถูกคาริยะแทงจนบาดเจ็บหนัก แล้วคาริยะก็มุ่งหน้าไปที่เซย์เรย์เทย์ โดยเผชิญหน้ากับรันทาโอะ ยมทูตสาวผู้เป็นหัวหน้าทีมวิจัยสร้างเบาท์ขึ้น เธอได้อธิบายเกี่ยวกับความต้องการของเธอที่ต้องการรักษาพวกเบาท์ แต่คาริยะกลับทำลายแผนการจนพัง คาริยะไม่สนใจฟัง และ ทำร้ายเธอ เขาจึงนำตัวของรันทาโอะเป็นร่างทดลองเพื่อเปลี่ยนเป็นเบาท์ แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะ อุริวมาช่วยไว้ทัน คาริยะ จึงต้องต่อสู้กับ อิจิโกะ อีกครั้ง และเป็นการดวลกันครั้งสุดท้าย ซึ่งผลก็จบลงด้วยชัยชนะของอิจิโกะ

หลังจากการต่อสู้ โคงะขอโทษรันทาโอะในสิ่งที่พวกเขาทำไป ส่วนพวกอิจิโกะก็กลับสู่โลกมนุษย์ตามเดิม


Bleach OVA & The Movie


Bleach: Memories in the Rain (OVA)
หยิบเนื้อเรื่องการต่อสู้ท่ามกลางสายฝนระหว่าง อิจิโกะ กับ แกรนด์ฟิชเชอร์ ฮอลโลว์ผู้พรากชีวิตแม่ของอิจิโกะ มาทำใหม่อีกครั้ง ความยาว 30 นาที ออกฉายครั้งแรกในงานจัมป์เฟสต้า ประจำปี 2004

 

Bleach: The sealed Sword Frenzy (OVA)
  ออกฉายครั้งแรกในงานจัมป์เฟสต้า ประจำปี 2005 กับเรื่องราวการต่อสู้ของพวกอิจิโกะ ที่ต้องหยุดยั้ง ไบชิน อดีตหัวหน้าหน่วย เมื่อ 400 ปีก่อน ผู้สูญเสียจิตใจของตนไปให้กับดาบฟันวิญญาณ ได้หลบหนีมายังโลกมนุษย์   

 

Bleach: Memories of Nobody (Movie)
ฉบับจอเงินออกฉายวันที่ 16 ธ.ค. 2006 เรื่องราวเริ่มต้นที่เมืองคาราคุระกำลังถูกสิ่งมีชีวิตวิญญาณ "แบลงค์" คุกคาม ส่วนเซเรย์เทย์ก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดเช่นกัน เมื่อปรากฏภาพของโลกมนุษย์ที่อยู่อีกฟากขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นสัญญาณบ่งบอกว่านี่คือจุดเริ่มต้นของ "จุดจบของโลก" ในขณะเดียวกัน อิจิโกะ กับ ลูเคีย ได้รับคำสั่งให้ออกไปตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้น ระหว่างทาง พวกเขาพบกับ "เซ็นนะ" ยมทูตสาวผู้ลึกลับซึ่งกำลังถูก "กังริว" ชายผู้ใช้พลังความมืดปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา ซึ่งกังริวผู้นี้เป็นผู้อยู่เบื้องหลังแผนการทำลายล้างโลก อิจิโกะ และ เหล่ายมทูตแห่ง 13 หน่วยพิทักษ์จึงต้องหยุดแผนการของเขาให้จงได้

 

Bleach: The DiamondDust Rebellion (Movie)
ออกฉายวันที่ 22 ธ.ค.2007 ในภาคนี้ กลับให้ ฮิซึกายะ โทชิโร่ หัวหน้าหน่วย 10 เป็นตัวเอกแทน โดยฮิซึกายะ ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในเหตุการณ์ที่ King's Seal สิ่งของล้ำค่าแห่งโซลโซไซตี้ถูกขโมยไป แท้จริงแล้ว คนที่ขโมยสิ่งนั้นไปก็คือ คุซากะ โซจิโร่ อดีตเพื่อนซี้ของเขาที่เคยเรียนในรร.ยมทูตด้วยกัน และ ในการต่อสู้เพื่อแย่งชิง "เฮียวรินมารุ" คุซากะ พ่ายแพ้และเสียชีวิตลงตรงนั้น เขาผู้ซึ่งได้ King's Seal ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง จึงได้ระบายความแค้น ออกไปอาละวาดทั้งในโลก และ โซลโซไซตี้ จากเหตุการณ์นี้ทำให้ ฮิซึกายะ ,อิจิโกะ และ คนอื่นๆ จึงต้องหยุดเขาให้ได้ และ เป็นโอกาสที่ฮิซึกายะได้สะสางเรื่องราวในอดีตระหว่างเขา และ คุซากะ อีกครั้งหนึ่ง

 

Bleach: Fade to Black, I Call Your Name(Movie)
ออกฉายวันที่ 13 ธ.ค.2008 ภาคนี้ เริ่มต้นที่ มายูริ ถูกคนลึกลับลอบทำร้ายในห้องแล็บของเขา แถมห้องแล็บยังมาถูกทำลาย ทำให้เซเรย์เทย์เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ อย่างไรก็ตาม ลูเคียเป็นคนที่รอดจากเหตุการณ์นี้ แต่ไม่วายถูกคนลอบทำลายแบบเดียวกับที่ทำกับมายูริ ลูเคียฟื้นขึ้นมา พบว่าความทรงจำพร้อมกับจิตใจของเธอได้ถูกขโมยไป เช่นเดียวกับทางโลก ที่อิจิโกะที่รับรู้ตัวเองว่า ตนเริ่มที่จะจำลูเคียไม่ได้อีกด้วย อิจิโกะจึงต้องทำทุกวิธีทางเพื่อที่จะทำให้ความทรงจำของลูเคียกลับคืนมาให้ได้ นอกจากนี้อิจิโกะ ยังต้องรับมือกับลูเคียอีกคนหนึ่งด้วย

 

Bleach: Live-Action Movie
ฉบับหนังคนแสดงของบลีช โดย Warner Brothers Japan ที่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ หลังจากมังงะบลีชจบลง เมื่อปี 2016 โดยได้ ชินสุเกะ ซาโต้ รับหน้าที่กำกับ นำแสดงโดย โซตะ ฟุคุชิ ในบทของ อิจิโกะ ซึ่งฉบับหนังคนแสดงนั้น จะมีเนื้อหาครอบคลุมถึงแค่เล่ม 6 ของมังงะเท่านั้น (เป็นช่วงที่ อิจิโกะ สู้กับ เบียคุยะ บนโลกมนุษย์) โดยตัวหนังเข้าฉายที่ญี่ปุ่น เมื่อ ก.ค. 2018 แต่ไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องรายได้ซักเท่าไหร่ โดยสามารถทำรายได้ในญี่ปุ่นราว 500 ล้านเยน

ตัวละครหลักและตัวละครย่อย

ตัวละครหลัก

ยมทูต โซลโซไซตี้

ไวเซิร์ด

อาร์รันคาร์

ตัวละครอื่นๆ


ตัวละครหลัก

คุโรซากิ อิจิโกะ
ตัวละครเอกของเรื่อง นักเรียนมัธยมปลายที่มีความสามารถมองเห็นและสื่อสารกับวิญญาณได้และเป็นคนที่มีพลังวิญญาณมหาศาล(แต่ควบคุมไม่เป็น) ได้รับถ่ายทอดพลังของยมทูต(ชินิกามิ)จากคุจิกิ ลูเคีย จึงต้องทำหน้าที่เป็นยมทูต(ชินิกามิ)แทนจนกว่าลูเคียจะได้พลังของตนกลับคืนมาและได้สู้กับคุจิกิ เบียคุยะจนสูญเสียพลังยมทูตและได้ไปฝึกกับอุราฮาร่า 10 วัน จนได้พลังยมทูตกลับคืนมาและได้ดาบฟันวิญญาณใหม่ชื่อซันเงสึ (ผ่าจันทรา) แล้ว ไปช่วยลูเคียและได้ฝึกกับโยรุอิจิจนปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค)ได้และได้ช่วยลูเคียได้สำเร็จ เขาสับสนกับพลังฮอลโลว์ที่อยู่ภายในตัวเอง ทำให้ไม่สามารถใช้พลังต่อสู้ได้อย่างเต็มที่และเสียใจที่ไม่สามารถปกป้องคนอื่นๆได้ ภายหลังการต่อสู้กับอารันคาร์แล้วได้ไปฝึกกับเหล่า ไวเซิร์ด ทำให้สามารถควบคุมฮอลโลห์ในตัวเองให้สงบลงได้และยังได้ความสามารถของฮอลโลว์มาอีกด้วย
ถึงเขาดูจะเหมือนจิ๊กโก๋ที่ชอบต่อยตีชาวบ้านก็จริง แต่ก็เป็นคนดีมาก เขาทุ่มสุดตัวเพื่อช่วยเหลือปกป้องคนรักที่กำลังตกอยู่ในอันตราย

ในตอนท้ายเรื่อง เขาได้ใช้ชีวิตอยู่กินกับ โอริฮิเมะ ในฐานะ สามี-ภรรยา มีลูกชาย 1 คน คือ คาซุอิ ซึ่งมีความสามารถในการสัมผัสและมองเห็นวิญญาณได้เหมือนคุณพ่อคุณแม่ และได้เป็นยมทูตฝึกหัด

เกร็ด:ชื่ออิจิโกะ แปลว่า "ทุ่มเทตัวเอง ปกป้องสิ่งๆเดียว" ซึ่งพ้องเสียงกับคำว่า "สตรอเบอร์รี่" ในภาษาญี่ปุ่น อีกเช่นกัน

ดาบฟันวิญญาณ:ซันเงสึ ตัวดาบคล้ายๆมีดอีโต้ และมีผ้าพันอยู่ที่ด้ามดาบและตัวดาบยามไม่ใช้ เมื่อฟันออกไป ตัวดาบจะสามารถดูดซับพลังวิญญาณของผู้ใช้และเปลี่ยนเป็นคลื่นพลังทำลายสีน้ำเงินรูปทรงเขี้ยว เรียกว่า "เก็ตซึงะ เท็นโช" (เขี้ยวจันทรา ทะลวงสวรรค์)

แรกเริ่มเดิมที วิญญาณของซันเงสึ จะปรากฏในรูปโฉมของชายวัยกลางคนในชุดผ้าคลุมดำ ซึ่งชายผู้นี้ได้ฝึกฝนวิชาดาบให้แก่อิจิโกะมาโดยตลอด จนกระทั่ง ในบทสงครามเลือดพันปี ได้มีการเฉลยว่า ตัวตนของที่แท้จริงของซันเงสึนั้น ก็คือ อิจิโกะ ในโหมดฮอลโลว์ นั่นเอง (อิจิโกะ ver ฮอลโลว์ เคยร่วมฝึกดาบกับอิจิโกะ ตอนปลดปล่อยพลังไวเซิร์ด) ส่วนชายผ้าคลุมดำนั้น แท้จริง คือ พลังควินซี่ที่สถิตอยู่ในตัวอิจิโกะ

ปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค):เท็นสะ ซันเงสึ ตัวดาบจะเปลี่ยนเป็นทรงคาตานะสีดำ กระบังดาบเป็นรูปสวัสดิกะ และที่ด้ามดาบมีโซ่ห้อยออกมา รวมทั้งเสื้อของอิจิโกะจะเปลี่ยนไปคล้ายชุดของ ซันเงสึ เป็นดาบที่จะเพิ่มความเร็วและพลังของอิจิโกะให้เพิ่มขึ้นหลายสิบเท่าจนถึงขนาดแยกเป็นเงาได้หลายร่าง และยังใช้พลังของ "เก็ตซึงะ เท็นโช" แต่คลื่นพลังจะเป็นสีดำ ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นการโจมตีของฮอลโลว์ภายในร่างของอิจิโกะ อย่างไรก็ตาม เก็ตซึงะ เท็นโช ยังสามารถอัพเลเวลเป็นขั้นสุดท้ายได้ ซึ่งในขั้นสุดท้ายนี้ อิจิโกะ จะกลายเป็นเก็ตซึงะ มีรูปโฉมตรงผมที่ยาวและดำ และมีผ้าพันแผลพันทั่วร่าง โดยมี มุเงสึ (จันทร์เร้นโฉม) เป็นท่าไม้ตายสูงสุด เป็นพลังคลื่นสีดำที่มีพลังทำลายมหาศาล อย่างไรก็ตาม หากใช้ เก็ตซึงะ เท็นโช ขั้นสุดท้าย จะมีผลทำให้อิจิโกะสูญเสียพลังยมทูตทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่อิจิโกะ ได้รับพลังยมทูตคืนมาในภาคฟูลบริ้งค์ ยัน รู้ตัวตนที่แท้จริงของดาบซันเงสึ ทำให้ บังไคของเขาเปลี่ยนรูปโฉมใหม่ กลายเป็นดาบดำที่มีคมดาบสีขาวคลุมซ้อนทับอีกชั้น พร้อมกับโซ่ที่เชื่อมต่อกันระหว่างปลายดาบ กับ ด้ามดาบ


 
คุจิกิ ลูเคีย

ยมทูตจากโซล โซไซตี้ ที่ถูกสถานการณ์บังคับให้ถ่ายทอดพลังของตนให้กับคุโรซากิ อิจิโกะ นับจากนั้นเธอก็ปลอมตัวเป็นนักเรียนย้ายเข้าโรงเรียนเดียวกับอิจิโกะเพื่อควบคุมให้เขาทำงานของยมทูตแทนตน ชอบกระต่ายจั๊ปปี้และชอบใส่เสื้อผ้าไม่รัด ในตอนเด็กนั้น เธอเป็นเพื่อนสนิทกับอาบาราอิ เร็นจิ รองหัวหน้าหน่วย 6 ของโซลโซไซตี้ แต่ไม่นานก็ถูกตระกูลคุจิกิรับเป็นน้องสาวบุญธรรมเธอมีนิสัยห้าว ชอบทำตาขวางและมักจะแสดงอารมณ์รุนแรงเวลาไม่ค่อยพอใจ แท้จริงก็เป็นคนที่อ่อนโยนมาก เป็นห่วงคนอื่นตลอดเวลา ในอดีตเคยสังหารชิบะ ไคเอ็น รองหัวหน้าหน่วย 13 ในสภาพฮอลโลว์ จนทำให้เธอรู้สึกผิดจนถึงทุกวันนี้

ในตอนท้ายเรื่อง เธอได้ขึ้นชั้นเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 13 แทน อุคิทาเกะ ที่เสียชีวิตลง อีกทั้ง ยังได้เป็นศรีภรรยาของเร็นจิ โดยมีลูกสาว 1 คน คือ อิจิกะ

ดาบฟันวิญญาณ:โซเดะโนะ ชิรายูกิ (หิมะขาวในแขนเสื้อ) ตัวคมดาบจะมีสีขาวทั่วทั้งเล่ม ทั้งใบมีด ด้ามดาบ โกร่งดาบ และมีริบบิ้นยาวห้อยออกมาจากปลายด้ามดาบ
คำปลดปล่อยดาบ:จงร่ายรำ เป็นดาบสายน้ำแข็ง มีรูปแบบของพลังอยู่ 3 แบบ
ระบำที่ 1 ซึคิชิโระ (จันทราสีขาว) ใช้ดาบวาดขอบเขตวงกลมสีขาว ซึ่งจะแช่แข็งทุกสิ่งภายในขอบเขตนั้น
ระบำที่ 2 ฮาคุเร็น ( ระลอกขาว) ยิงคลื่นพลังเป็นริ้วๆ 4 สาย และจะเปลี่ยนไปเป็นคลื่นน้ำแข็งเข้าโจมตี
ระบำที่ 3 ชิราฟุเนะ (ดาบสีขาว) สร้างคมดาบน้ำแข็งขึ้นจากดาบเข้าแทงศัตรู ซึ่งแม้ตัวดาบจะหักไปแล้วก็ยังสามารถใช้ท่านี้ได้

ปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค):ฮักกะ โนะ โทงาเมะลูเคียจะเปลี่ยนโฉมเป็นสีขาวทั้งตัว ไม่เว้นแม้กระทั่งผม แถมคมดาบนั้น ก็กลายเป็นน้ำแข็ง โดยมีท่าโจมตีหลัก คือ การแช่แข็งระดับศูนย์องศาสมบูรณ์

 

ซาโดะ ยาสึโทระ "แช้ด"
เพื่อนร่วมชั้นและเพื่อนสนิทของอิจิโกะ มีเชื้อสายอเมริกากลาง มีร่างกายใหญ่ยักษ์กำยำแข็งแกร่ง แต่ร่างกายของเขามีไว้เพื่อปกป้องคนอื่นเท่านั้น ชอบสวมเสื้อยืดฮาวายและใส่สร้อยคอที่มีจี้เป็นเหรียญเม็กซิกัน โดยแขนขวาของเขานั้นคือแขนที่ใช้เพื่อปกป้อง ซึ่งมีวิญญาณอาบูเอโร่ ซึ่งเป็น คนเลี้ยงดูแช้ดเมื่อตอนเด็กๆนั้น สิงสู่อยู่ ส่วนแขนซ้ายของเขามีพลังดิอาโบล หรือ บราโซ อิสคิเอร์ด้า เดล ดิอาโบล (แขนซ้ายแห่งจอมมาร) เพื่อการโจมตี

 

อิชิดะ อุริว
หนุ่มแว่นสุดขรึม จอมวางมาด (บางทีก็กลายเป็นตัวตลกซะเอง) เพื่อนร่วมห้องของคุโรซากิ อิจิโกะ อยู่ชมรมเย็บปักถักร้อย มีฝีมือขั้นเทพ เขาเป็นควินซี่ซึ่งคนที่สอนวิชาแก่เขาคือปู่ของเขาเองซึ่งได้ถูกฆ่าตายโดยพวกฮอว์โลว์ เขาเป็น1 ในกลุ่มคนที่ไปช่วยคุจิกิ ลูเคียจากการถูกประหาร ซึ่งทำให้เขาสูญเสียพลังของควินซี่ไปจากการต่อสู่กับคุโรสึจิ มายูริ หัวหน้ายมทูตหน่วย 12 พ่อของเขา อิชิดะ ริวเค็นได้ฟื้นฟูพลังของควินซี่ให้ โดยแลกเปลี่ยนกับข้อตกลงบางอย่าง คือ ห้ามยุ่งเกี่ยวกับยมทูตอีกเป็นครั้งที่ 2
เดิมทีเขาเกลียดชังยมทูตมาก โดยเฉพาะกับอิจิโกะ จนถึงกับต้องท้าประลองกับอิจิโกะเลย แต่พอทั้งคู่ได้ช่วยกันปราบ เมนอส กรังเด้ ฮอลโลว์ร่างยักษ์ แถมยังช่วยเหลืออิจิโกะที่อยู่ในสภาพควบคุมพลังยมทูตไม่ได้ ทำให้ท่าทีรังเกียจยมทูติของเขานั้นลดลงไป
เขามีความสามารถในการ ยิงธนู มี เชเล่ ชไนเดอร์ เป็นท่าไม้ตาย ซึ่งเป็นการยิงธนูโดยใช้ดาบใส่ศัตรู และ รันโซเท็นไก ใช้เส้นใยวิญญาณจำนวนมากมารัดรวมกัน เป็นวิชาของควินซี่ชั้นสูง สามารถปลดปล่อยจากทุกอย่างได้

 


อิโนะอุเอะ โอริฮิเมะ

เป็นเพื่อนร่วมชั้นของอิจิโกะ มีผมสีส้ม เธอแอบชอบอิจิโกะอยู่ เธอมีพี่ชายอยู่ 1 คนแต่ได้เสียชีวิตไปแล้ว พี่ชายของเธอได้กลายเป็นฮอว์โลว์และเข้ามาทำร้ายเธอ แต่เธอก็ได้ถูกช่วยไว้โดยคุโรซากิ อิจิโกะ และ คุจิกิ ลูเคีย กิ๊บติดผมที่เป็นของสำคัญของเธอก็ได้มาจากพี่ชายของเธอเอง พลังของเธอคือ 6 บุปผาโล่พิทักษ์ ที่สถิตอยู่ที่กิ๊บติดผมของเธอ โดยมี :



 -ฮินางิคุ ไบกอน และลิลลี่ (ถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์คือ "ม่านพลังสามสวรรค์ ชั้นขอยับยั้ง")ที่สามารถยับยั้งภายนอกโล่ห์ (สร้างกำแพงป้องกัน)
 - ซึบากิ(ถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์คือ "โล่ห์พิฆาต สวรรค์เดี่ยว ข้าขอยับยั้ง")มีความสามารถในการ ยับยั้งสองฟากข้างโล่ห์ (ผ่าศัตรูเป็นสองซีก)
 - ชุนโอ(หัวหน้าหกบุปผาโล่ห์พิทักษ์)

 และอายาเมะ ถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์คือ "ม่านสวรรค์คู่คืนสู่โลห์ ข้าขอยับยั้ง") มีความสามารถคือ ยับยั้งภายในโล่ห์ หรือก็คือ "ปฏิเสธเหตุการณ์" เธอสามารถปฏิเสธเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้

ไอเซ็นต้องการพลังของเธอ จึงใช้อุลคิโอร่า ไปจับตัวเธอมาขังในปราสาทของพวกอารันคาร์ ในฮูเอโก้ มุนโด้ และได้รับการช่วยเหลือออกมาได้

ในตอนท้ายเรื่อง เธอได้กลายเป็นภรรยาของอิจิโกะ มีลูกชาย 1 คน คือ คาซุอิ


เกร็ด:ชื่อของโอริฮิเมะ แปลว่า เจ้าหญิงทอผ้า ตามนิทานพื้นบ้านของญี่ปุ่น ที่จะเคียงคู่กับหนุ่มเลี้ยงวัว และจบลงด้วยการที่เจ้าหญิงทอผ้ากับหนุ่มเลี้ยงวัวนั้นแยกจากกัน ปัจจุบัน ชาวญี่ปุ่น เชื่อว่าทั้งสองจะกลับมาพบกันอีกครั้งในวันที่ 7 ก.ค. ซึ่งเรียกกันว่า เทศกาลทานาบาตะ นั่นเอง

 

กอน
ชื่อจริงคือ ไคโซ คอนปาคุ(มอดโซล -- วิญญาณดัดแปลง) แต่อิจิโกะเรียกว่า"กอน" ทั้งๆที่เขาอยากจะให้เรียก"ไค" เขาเป็นวิญญาณเทียมที่สิงสู่ตุ๊กตาสิงโต และจะสิงร่างอิจิโกะ ในขณะที่ตัวของอิจิโกะเองนั้นทำหน้าที่เป็นยมทูต ซึ่งต่อมาอิชชิน พ่ออิจิโกะก็รู้ความจริงเรื่องนี้ (ตอนกอนอยู่ในร่างอิจิโกะนั้น อิชชินไม่เคยเรียกชื่อ "อิจิโกะ" เลย)กอนนั้นก็ถือเป็นตัวตลกประจำเรื่อง มักจะเป็นที่ระบายอารมณ์ หรือ โดนใครต่อใครแกล้ง ไม่ว่าจะเป็นอิจิโกะ ,อิชิดะ ที่มักจะเย็บปักตกแต่งกอนในสไตล์ที่ไม่ปลื้มบ่อย ฯลฯ มีเพียงแช้ดเท่านั้นที่กอนดูจะเชื่อใจที่สุด และ เขาหวังอยากจะใกล้ชิดกับโอริฮิเมะที่สุด(หลักๆเพราะอยากจะซบอกของเธอนั่นเอง) ซึ่งกอนนั้นก็มีอีกชื่อหนึ่งคือ บอสตาฟ ซึ่งเป็นชื่อที่ ยูซึ น้องสาวของอิจิโกะเป็นคนตั้ง
ตุ๊กตาที่กอนสิงอยู่นั้นจริงๆ แล้วมาจากตัวละครเอกของรายการดัง "คาร์นิวอร์ คิงดอม" ชื่อว่า "ป็องคิจิ" ตุ๊กตาตัวนี้ยังเป็นของรางวัลในเกมยิงปืนในงานเทศกาลของเมืองคาราคุระอีกด้วย

 

 

ยมทูตโซลโซไซตี้

13 หน่วยพิทักษ์ แห่ง โซลโซไซตี้

หน่วยที่ 1

 หัวหน้า:ยามาโมโตะ เก็นริวไซ ชิเงคุนิ
หัวหน้าหน่วย 1 และเป็นหัวหน้าใหญ่ผู้ควบคุมอีก 12 หน่วยอีกที เสียชีวิตจากเหตุการณ์ ยูฮาบัช และ ชาวคณะควินซี่ บุกโซลโซไซตี้ ในช่วงบทสงครามเลือดพันปี

ดาบฟันวิญญาณ:ริวจินจักระ(วิถีเพลิงชำระ) ตัวดาบจะปล่อยพลังเพลิงเผาผลาญสิ่งรอบตัว เป็นดาบฟันวิญญาณสายเพลิงที่เก่าแก่ และ ทรงอานุภาพมากที่สุดในโซลโซไซตี้
คำปลดปล่อยดาบ:จงเผาสรรพสิ่งให้เป็นเถ้าถ่าน

ปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค):ซังกะ โนะ ทาจิ เปลวเพลิงจากริวจินจักระ จะถูกดูดซับเข้าไปในดาบ จนกลายเป็นดาบที่ใช้พลังเพลิงได้อย่างเต็มที่ อัดแน่นไปด้วยพลังความร้อนราวกับเปลวเพลิงจากดวงอาทิตย์ สามารถแผดเผาทุกสิ่งทุกอย่าง แถมยังมีผลข้างเคียงทำให้พื้นที่โดยรอบที่กินรัศมีกว้าง (ว่ากันว่า ทั้งโซลโซไซตี้) ถึงกับเหือดแห้ง ซะจนทำเอา ยมทูตผู้ใช้ดาบฟันวิญญาณสายน้ำแข็ง อย่าง ฮิซึกายะ ไม่สามารถปลดปล่อยบังไคของตนเองได้

รองหัวหน้า:ซาซาคิเบะ โชจิโร่
เป็นชายตาบอด แต่สามารถรับรู้ทุกอย่างได้เหมือนคนปกติ เสียชีวิตในช่วงบทสงครามเลือดพันปี เช่นเดียวกับ ยามาโมโตะ
ดาบฟันวิญญาณ:กอนเรียวมารุ ดาบจะเปลี่ยนรูปร่างคล้ายดาบในกีฬาฟันดาบ
  คำปลดปล่อยดาบ:จงทะลวง"

 

หน่วยที่ 2
หัวหน้า:ซุยฟง
ชื่อเดิม ฟง เชาหลิน หัวหน้าหน่วย 2 และยังควบตำแหน่งผู้บัญชาการของ "หน่วยปราบปราม" แห่ง "หน่วยลับ" ในอดีตเคยเป็นรุ่นน้องของ ชิโฮอิน โยรุอิจิ เมื่อที่โยรุอิจิยังเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 2 วันหนึ่ง เธอได้รับข่าวว่าโยรุอิจิได้ทำการช่วยเหลือนักโทษเนรเทศอย่าง "อุราฮาร่า คิสึเกะ" จนโดนปลดจากหัวหน้าหน่วยปราบปราม ทำให้ซุยฟงแทบจะสิ้นศรัทธาในตัวของโยรุอิจิ และสาบานว่าจะจัดการโยรุอิจิด้วยตัวเอง แต่ในท้ายที่สุดซุยฟงก็ได้เผยความในใจของตนออกมา จริงๆเธอก็ยังมีศรัทธาในตัวของโยรุอิจิอยู่มากและในตอนนั้นเธอก็ต้องการที่จะไปกับโยรุอิจิเช่นกัน
ดาบฟันวิญญาณ:ซึซึเมะบาจิ ดาบกลายเป็นมีดขนาดเล็กติดที่ข้อมือและนิ้ว รูปแบบคล้ายกับเหล็กไนของแมลง เมื่อใช้อาวุธชิ้นนี้ทำร้ายเป้าหมายได้ครั้งหนึ่ง จะสร้างลายรอยสักขึ้นบนร่างของเป้าหมายบริเวณที่โจมตี ที่ชื่อ "โฮมงกะ" (บุปผาลายผึ้ง) ถ้าโจมตีที่จุดนั้นอีกครั้ง ก็จะปลิดชีพเป้าหมายได้ทันที
คำปลดปล่อยดาบ:ไล่ล่าเสียบสังหาร

ปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค):จาคุโฮไรโคเบ็น(คฑาตัวต่อสายฟ้า) จากใบมีดขนาดเล็ก เปลี่ยนไปเป็นอาวุธที่มีลักษณะเป็นเข็มขนาดใหญ่ ดูยังไงๆยังกะจรวดนำวิถียังไงยังงั้น วนของดาบที่ติดกับแขนและไหล่นั้นขึ้นรูปเป็นลักษณะคล้ายโล่หรือเกราะ สำหรับบังหน้า ซึ่งเจ้าตัวนั้นไม่ค่อยชอบบังไคของตนเองซะเท่าไหร่ อันเนื่องจากขัดกับภาพลักษณ์ของหน่วยลับลอบสังหาร

รองหัวหน้า:โอมาเอดะ มาเระจิโยะ
  รองหัวหน้าจอมตะกละ พกขนมก๊อบแก๊บเคี้ยวตลอดเวลา ซึ่งเขานั้นยังดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าหน่วยลาดตระเวน แห่ง หน่วยลับ อีกด้ย
ดาบฟันวิญญาณ:เกะเกะซึบุริ ดาบฟันวิญญาณจะกลายร่างเป็นลูกตุ้มหนามแหลม
คำปลดปล่อยดาบ:จงบดขยี้


หน่วยที่ 3
หัวหน้า:อิชิมารุ งิน
เป็นชายตาตี่ขี้เล่นยิ้มตลอดแฝงความเจ้าเล่ห์ ไม่มีใครรู้ว่าเขาคิดอะไร สนิทกับรันงิคุในฐานะเพื่อนสมัยเด็กและเป็นคนตั้งวันเกิดให้รันงิคุด้วย อตีดเป็นรองหัวหน้าของไอเซ็น(หน่วย 5 ) ปัจจุบันร่วมมือกับไอเซ็น อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์การต่อสู้ ณ เมืองคาราคุระจริง งิน ได้เปิดเผยธาตุแท้ของตนเอง ด้วยการลอบฟันไอเซ็น และพยายามชิงโฮเงียคุออกจากมือไอเซ็น ซึ่งเหตุผลที่งินมาเป็นยมทูต และติดตามไอเซ็นมาตลอดนั้น ก็เพื่อที่จะหาโอกาสในการแก้แค้นให้ักับ รันงิคุ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกพวกไอเซ็นทำร้าย เพื่อเพิ่มพลังให้กับโฮเงียคุ ทว่า เขาก็ได้สูญเสียชีวิต หลังจบศึกไอเซ็น

ดาบฟันวิญญาณ:ชินโซ(หอกเทวะ) ตัวดาบจะพุ่งเข้าหาเป้าหมายอย่างเร็ว
คำปลดปล่อยดาบ:เล็งสังหาร

ปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค):คามิชินิ โนะยาริ (ทวนลงทัณฑ์ของพระผู้เป็นเจ้า) ตัวดาบจะพุ่งไปหาศัตรูด้วยความรวดเร็วที่ไวกว่าเสียง500เท่า และสามารถยืดออกได้ไกลถึง13km ซึ่งความสามารถที่แท้จริงของเขา อยู่ที่การหดตัวและยืดตัวด้วยความเร็วสูง และพริบตาที่ยืดหดนั้น ตัวดาบจะสลายเป็นฝุ่นผงชั่วพริบตา และ ด้านในคมดาบ มีพิษร้ายในระดับที่สามารถสลายเซลในร่างกายได้
นอกจากนี้ มีอีก1กระบวนท่าคือ"บุโทวเร็นจิ คามิชินิโนะยาริ"(หอกเทวะร่ายรำทวนลงทัณฑ์ของพระผู้เป็นเจ้า) ทำให้ตัวดาบจะพุ่งและหดด้วยความเร็วสูงทำให้เกิดประกายแสงมองตัวดาบไม่ทัน

รองหัวหน้า:คิระ อิซึรุ
เพื่อนร่วมรุ่นของ อาบาราอิ เร็นจิ และ ฮินาโมริ โมโมะ เขาคอยติดตามงิน เพื่อที่จะปกป้องไม่ให้ฮินาโมริเป็นอันตรายแต่สุดท้ายก็ไม่เป็นผล
ดาบฟันวิญญาณ:วาบิซึเกะ (ขออภัยโทษ)ตัวดาบจะหักงอ เมื่อไหร่ก็ตามที่ใช้ดาบฟันวัตถุนั้น วัตถุที่ถูกฟันจะเพิ่มน้ำหนักสองเท่าตามจำนวนครั้งที่ฟัน
คำปลดปล่อยดาบ:จงเงยหน้าขึ้น

 

หน่วยที่ 4 (หน่วยรักษาพยาบาล)
หัวหน้า:อุโนะฮานะ เร็ตสึ

หัวหน้าที่สงบเรียบร้อยและมากไปด้วยความสามารถ แต่เวลาโมโหน่ากลัว สามารถข่มได้แม้กระทั่งหน่วย 11 จัดเป็นยมทูตคนหนึ่งที่มีพลังสูงมากอีกเช่นกัน

ในอดีต อุโนะฮานะ เจนจัดและหลงรักในเรื่องของการต่อสู้ ซะจนได้รับฉายา "ซาราคิ เคมปาจิ" คนแรกสุด และเป็นหนึ่งในยมทูตคนแรกๆ ที่ได้ร่วมกำเนิดโซลโซไซตี้ ในฐานะหัวหน้าหน่วยที่ 11 ก่อนจะย้ายไปเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 4 แทนในเวลาต่อมา โดย อุโนะฮานะ ได้สูญเสียชีวิต ในระหว่างการดวลกับ เคมปาจิ หน่วยที่ 11 ช่วง บทสงครามเลือดพันปี (ในอดีต อุโนะฮานะ เคยดวลกับเคมปาจิตอนเด็กๆ มาแล้ว)

  ดาบฟันวิญญาณ:มินาซึกิ เปลี่ยนดาบเป็นกระเบนยักษ์ สามารถรักษาคนเจ็บจำนวนมากโดยการกลืนคนเจ็บเข้าไปในท้องกระเบน
คำปลดปล่อยดาบ:-

ปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค):มินาซึกิ ตัวดาบจะหดเป็นขนาดเล็ก แต่แฝงไปด้วยพิษร้ายแรง

  รองหัวหน้า:โคเท็ตสึ อิซาเนะ

พี่สาวร่างโย่งของ โคเท็ตสึ คิโยเนะ นักสู้ลำดับที่ 3 ของหน่วยที่ 13 มีความเชี่ยวชาญด้านวิถีมารเพื่อการสื่อสารภายในโซลโซไซตี้ ภายนอกจะเป็นคนแกร่ง แต่มักจะซุ่มซ่ามทำของตกบ่อย และยังชอบฝันร้ายเป็นประจำ

หลังจากอุโนะฮานะ จากไป อิซาเนะ ได้ขึ้นเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 4 แทน

ดาบฟันวิญญาณ:อิเทะกุโมะ คมดาบจะงอกออกมาเป็นสามแฉก
คำปลดปล่อยดาบ: จงทะยาน

ยามาดะ ฮานาทาโร่
นักสู้ลำดับ 7 ของหน่วยที่4 เป็นเด็กหนุ่มร่างเล็ก นิสัยซุ่มซ่ามเงอะงะ ซื่อบื้อ เขาเป็นคนช่วยรักษาอิจิโกะ หลังจากการต่อสู้กับ เร็นจิอีกด้วย
ดาบฟันวิญญาณ: ฮิสะโกมารุ ตัวดาบจะกลายสภาพเป็นมีดผ่าตัด ในขณะยังไม่ปลดปล่อยดาบ เมื่อฟันแล้วจะสามารถรักษาบาดแผลได้ หากดาบมีสีแดงเมื่อไหร่จึงจะสามารถปลดปล่อยขั้นต้นได้ โดยในขั้นต้นนั้นจะปลดปล่อยบาดแผลที่ดูดซับเอาไว้จนเต็มเกจวัดออกไปทั้งหมด กลายเป็นพลังทำลายมหาศาล ซึ่งสามารถใช้ได้หนึ่งครั้งต่อหนึ่งเกจเต็ม และหลังจากนั้นพลังทำลายของฮิสะโกมารุจะต่ำมากถึงมากที่สุด
คำปลดปล่อยดาบ:จงเต็ม

 

หน่วยที่ 5
หัวหน้า:ไอเซ็น โซสึเกะ

อดีตหัวหน้าหน่วย 5 ดูจากภายนอกเหมือนจะเป็นคนจิตใจดี แท้จริงแล้ว เขาเป็นตัวการและผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหมดของเหตุการณ์บุกโซลโซไซตี้ โดยเป้าหมายของเขาก็คือ "โฮเคียคุ" ที่ซ่อนอยู่ภายในตัวของคุจิกิ ลูเคีย เขาเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ฮอว์โลว์กลายเป็นอารันคาร์ได้โดยใช้โฮเคียคุ ปัจจุบันเป็นหัวหน้าของเหล่าอารันคาร์ เตรียมการใช้โฮเคียคุในการสร้างกุญแจราชันย์ เพื่อไปยังอีกมิตินึงที่มีราชันย์วิญญาณซึ่งเป็นเป้าหมายของตนอยู่ อย่างไรก็ตาม แผนการของไอเซ็นกลับถูกขัดขวางโดยอิจิโกะ และอุราฮาร่า จนยอมศิโรราพ (ส่วนหนึ่งมาจากโฮเงียคุปฏิเสธตัวของไอเซ็นด้วย) ต่อมาถูกพิพากษาโดย 46 ห้องกลาง ให้ถูกจำคุก ณ ห้องใต้ดินชั้นล่างสุดเบอร์ 8 - มุเง็น เป็นเวลา 20,000 ปี (แต่เดิมตัดสินจำคุก 18,800 ปี แต่ไอเซ็นดันไปพูดจาท้าทาย เลยโดนเพิ่มโทษซะ)

เมื่อ 110 ปีก่อน เคยเป็นรองหัวหน้าหน่วย 5 เขาได้ร่วมมือกับ งิน ,โทเซ็น ในการหักหลัง ฮิราโกะ ซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วย 5 ในขณะนั้น

ในช่วงท้าย บทสงครามเลือดพันปี ไอเซ็น ได้มาร่วมด้วยช่วยสู้กับ อิจิโกะ ในการกำจัด ยูฮาบัช จนสิ้นฤทธิ์



ดาบฟันวิญญาณ:เคียวขะซุยเงสึ(กระจก บุปผา จันทรา วารี) สามารถสร้างภาพลวงตาได้ มีความสามารถในการสะกดโดยสมบูรณ์และไร้ช่องโหว่ โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องให้ผู้ที่ต้องการสะกดโดยสมบูรณ์มองเห็นการปลดปล่อยดาบเล่มนี้ครั้งหนึ่งจึงจะแสดงผล
คำปลดปล่อยดาบ:จงสลาย

รองหัวหน้า:ฮินาโมริ โมโมะ
เป็นคนที่ใช้วิถีมารเก่งมากและยังเป็นเพื่อนสมัยเด็กกับฮิซึกายะ โทชิโร่ หัวหน้าหน่วยที่ 10 ด้วย ฮินาโมริเคยถูกไอเซ็นช่วยชีวิตจากฮอลโลว์เมื่อยังเป็นนักเรียนในเซย์เรย์เทย์อยู่ ตั้งแต่นั้นเธอจึงรักและนับถือไอเซ็นมาก และตั้งมั่นว่าถ้าได้เป็นยมทูตเมื่อใดเธอจะเข้าสังกัดหน่วยที่ 5 ให้ได้ แต่ไม่วายเธอก็ถูกไอเซ็นทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส ในภาคอารันคาร์ เธอกลับมาอีกครั้งด้วยการร่วมด้วยช่วยต่อสู้กับรันงิคุ ในการต่อกรกับฟราเซี่ยนของฮาริเบล แต่เธอก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากผลลัพธ์ของเคียวขะซุยเงสึของไอเซ็น ทำให้เธอถูกคมดาบของฮิซึกายะแทงทะลุกลางอก
ดาบฟันวิญญาณ:โทบิอุเมะ ดาบจะยืดออก และมีกิ่งก้านออกมาคล้ายต้นท้อ สามารถปล่อยลูกพลังออกมาโจมตีศัตรู
คำปลดปล่อยดาบ:จงแตกออก


หน่วยที่ 6
หัวหน้า:คุจิกิ เบียคุยะ
หัวหน้าตระกูล "คุจิกิ" 1 ใน 4 ตระกูลขุนนางชั้นสูง เขามีฝีมือเก่งกาจที่สุดในประวัติศาสตร์ตระกูลคุจิกิอันยาวนาน เขาเป็นคนเงียบครึม เคร่งครัดในกฏระเบียบ ไม่ชอบแสดงความรู้สึกทางสีหน้า มักจะเย็นชากับคนรอบข้างเสมอ เขารับลูเคียมาเป็นน้องสาวบุญธรรม เนื่องจากคำสัญญาของเขากับ "ฮิซานะ" ซึ่งเป็นพี่สาวที่แท้จริงของลูเคียและเป็นภรรยาของเขาซึ่งขอให้น้องสาวของตนเรียกเบียคุยะว่าพี่ ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาต้องแหกกฎของตระกูล เขาจึงสาบานต่อหน้าสุสานของพ่อแม่ว่าจะไม่ทำผิดกฎอีกเป็นครั้งที่สอง
ดาบฟันวิญญาณ:เซมบ้ง ซากุระ ใบดาบกลายเป็นใบมีดเล็กๆนับพันที่สามารถฟันศัตรูให้เป็นชิ้นๆได้อย่างรวดเร็ว แสงของใบมีดนี้จะเปล่งประกายระยิบระยับราวกับกลีบซากุระ
คำปลดปล่อยดาบ:จงโปรยปราย

ปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค) : เซมบ้ง ซากุระ คาเงโยชิ (เงาหาญซากุระพันกลีบ) ตัวคมดาบทั้งหมดจะแตกออกเป็นกลีบซากุระจำนวนนับไม่ถ้วน และจะเข้าโจมตีคู่ต่อสู้ด้วยความเร็วสูงมาก
รูปแบบที่ 1 เบียคุยะจะปล่อยดาบจมลงดิน และผุดขึ้นมาเป็นคมดาบยักษ์จำนวนนับไม่ถ้วยเรียงเป็นแถวยาวจนลับสายตา ซึ่งตัวคมดาบทั้งหมดจะแตกออกเป็นกลีบซากุระจำนวนนับไม่ถ้วน และจะเข้าโจมตีคู่ต่อสู้ด้วยความเร็วสูงมากราวกับพายุ และถ้าใช้วิธีควบคุมด้วยมือ ความเร็วก็จะเพิ่มขึ้น
รูปแบบที่ 2 เซ็นเคย์ (เงาพิฆาต) ตัวกลีบคมดาบจะรวมกันกลายเป็นดาบเล็กๆนับร้อยล้อมรอบสถานที่ต่อสู้ ซึ่งเบียคุยะสามารถควบคุมให้ดาบพุ่งเข้ามาหาตัวเองหรือคู่ต่อสู้ได้ตามต้องการ เป็นการโจมตีที่จะปิดช่องทางหนีของศัตรู และจะเน้นการโจมตีเพียงอย่างเดียว
รูปแบบที่ 3 ชูเคย์ (เงาสุดท้าย) ฮาคุเทย์เค็น ( ดาบจักรพรรดิขาว) กลีบคมดาบทั้งหมดจะมารวมกันเป็นดาบเดียว มีแสงเป็นรูปปีกสีขาวแตกออกสองข้าง

  รองหัวหน้า:อาบาราอิ เร็นจิ

เจ้าของผมแดง แว่นตาราคาแพง และรอยสักบนหน้าผากกับลำตัว มีนิสัยบ้าระห่ำและเกลียดการพ่ายแพ้ต่อสิ่งใดๆ เขาเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับ ฮินาโมริ โมโมะ และ คิระ อิซึรุ อีกทั้งยังเป็นเพื่อนเก่าของ คุจิกิ ลูเคีย มาตั้งแต่สมัยที่ยังไม่ได้เข้ามาศึกษาในเซย์เรย์เทย์ ณ เมืองลูคอน อินุซึริ เขตที่ 78 ซึ่งเต็มไปด้วยสลัม

ตอนจบของเรื่อง เร็นจิ ได้แต่งงานกับ ลูเคีย มี อิจิกะ เป็นลูกสาวของเขา

ดาบฟันวิญญาณ:ซาบิมารุ ดาบที่มีใบมีดจำนวนมากต่อกัน เกิดจากการเชื่อมของพลังกดดันวิญญาณของเจ้าของ จึงสามารถยืดได้คล้ายกับดาบแส้ที่เป็นอาวุธของยุโรปโบราณ สามารถยืดออกไปโจมตีศัตรูตั้งแต่ระยะกลางถึงไกลในระดับหนึ่งได้ และมีท่าลับ "ผนึกเขี้ยวบาบูนพิฆาต" ที่เป็นการใช้ใบมีดพุ่งเข้าโจมตีศัตรูพร้อมกันรอบทิศทางได้
คำปลดปล่อยดาบ:จงร่ำร้อง

ปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค):ฮีฮีโอ ซาบิมารุ(ราชันย์บาบูน) ดาบจะกลายสภาพเป็นโครงกระดูกงูยักษ์ ซึ่งโครงกระดูกจะต่อกันเป็นจุดๆเช่นกัน และชุดที่เร็นจิใส่จะมีขนสัตว์คลุมไหล่ สามารถโจมตีได้แรงขึ้น นอกจากนี้ส่วนโครงกระดูกก็สามารถแยกออกจากกันได้อย่างอิสระมากจนสามารถใช้หลบการโจมตีได้

 

หน่วยที่ 7
หัวหน้า:โคมามูระ ซาจิน

หัวหน้าหน่วยร่างยักษ์ มีหน้าตาเป็นหมาป่า เขาจึงสวมหน้ากากปิดมันไว้ ได้รับการช่วยเหลือจาก "ยามาโมโตะ เก็นริวไซ ชิเกคุนิ" หัวหน้าหน่วยที่ 1 แห่ง "13 หน่วยพิทักษ์" ทำให้เขาได้เข้าเป็นยมทูต โดยมีเพื่อนสนิทอย่าง"โทเซ็น คานาเมะ"อยู่ด้วยเช่นกัน หลังจากศึกกับซาราคิ ที่ทำให้หน้ากากของเขาแตกจนเผยโฉมหน้าที่แท้จริงครั้งแรก เขาก็มีความมั่นใจมากขึ้น และไม่อายจนต้องใส่หมวกปกปิดหน้าตาอีกต่อไป เขาเป็นคนดีมากคนหนึ่ง และรักเพื่อนกับพวกพ้อง นอกจากนี้เขายังมีสัตว์เลี้ยงแสนรัก เป็นสุนัข ชื่อว่า โกโร่

ช่วงบทสงครามเลือดพันปี ได้มีการเปิดเผยว่า ตระกูลของโคมามูระ เป็นตระกูลต้องสาป ที่ทำให้ผู้คนในตระกูล ต่างมีรูปโฉมเป็นสุนัขป่าทั้งหมด อย่างไรก็ตาม เขาก็สามารถคืนร่างกลายเป็นมนุษย์ และจัดการกับลูกสมุนของยูฮาบัช จนอยู่หมัด แต่ถึงกระนั้น วิชาคืนร่างเป็นมนุษย์ของโคมามูระ ได้กินพลังงานเขามาก ซะจนทำให้เขา ไม่สามารถที่จะกลายเป็นยมทูตได้อีกต่อไป

ดาบฟันวิญญาณ:เท็นเค็น (สวรรค์ลงทัณฑ์) เป็นดาบขนาดใหญ่ มีมือของปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค)ออกมาถือดาบนั้นเพื่อฟันโจมตี มีพลังทำลายเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
คำปลดปล่อยดาบ:จงคำราม

ปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค):โคคุโจเท็นเก็นเมียวโอ (เทพเมียวโอผู้ลงทันฑ์อาญาสวรรค์แห่งโลกันต์นรก) ปรากฏร่างของเทพเมียวโอขนาดใหญ่ยักษ์ เคลื่อนไหวโจมตีคู่ต่อสู้ตามการเคลื่อนไหวของโคมามูระ

รองหัวหน้า:อิบะ เท็ตสึซาเอมอน

รองหัวหน้าที่มีหน้าตาราวยากูซ่า เคยอยู่ในหน่วยที่ 11 มาก่อน มีความทะเยอทะยานฝึกฝนตนเองเพื่อให้เป็นรองหัวหน้าเสมอ แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่ละทิ้งสไตล์การต่อสู้ของตัวเอง

ต่อมา อิบะ ได้เลื่อนขั้น เป็นหัวหน้าหน่วยที่ 7 แทน โคมามูระ

  อิคคังซากะ จิโรโบ
ได้รับฉายา เคียวสายลม เป็นผู้ใช้อาวุธบินเก่งสุด
ดาบฟันวิญญาณ:ซันการาซึ(อีกาทะลวง)
คำปลดปล่อยดาบ:จงกระพือ


หน่วยที่ 8
หัวหน้า:เคียวราคุ ชุนซุย

หัวหน้าหน่วยจอมเรื่อยเปื่อยผู้นี้ มีนิสัยเจ้าชู้ ชอบดื่มเหล้า แถมยังชอบใส่เสื้อผ้าสีสันบาดตาบาดใจ แต่ถึงยังงั้นก็เป็นคนเก่งมากทีเดียวคนนึง เขาเกิดในตระกูล 1 ใน 4 ขุนนางชั้นสูง ร่ำเรียนวิชามาจาก ยามาโมโตะ เก็นริวไซ พร้อมๆกับ อุคิทาเกะ จูชิโร่ ซึ่งเป็นเพื่อนที่จบจากสถาบัน เคียวราคุเป็นอีกคนที่ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งประหารคุจิกิ ลูเคีย จึงตัดสินใจร่วมมือกับ อุคิทาเกะ ทำลายโซเคียคุในที่สุด

ตอนจบเรื่อง เคียวราคุ กลายเป็นลูกศิษย์ของยามาโมโตะ เพียงคนเดียว ที่ยังมีชีวิตอยู่ พร้อมกับได้ย้ายไปประจำ ณ หน่วยที่ 1 ในฐานะหัวหน้าหน่วย และ หัวหน้าสูงสุดของยมทูตโซลโซไซตี้ แทนที่ ยามาโมโตะ

ดาบฟันวิญญาณ:กะเท็นเคียวคตสึ (บุปผาสวรรค์กระดูกคลุ้มคลั่ง) กลายเป็นดาบยักษ์คู่ 2 เล่ม มีลักษณะความสามารถดังนี้

- แบบที่ 1 บัชโชโคมะ(ลูกข่างเอิมละอาหรรษาโดดเดี่ยว): เพิ่มความเร็วในการโจมตี และสามารถสร้างความปั่นป่วนด้วยการหมุนรอบตัวเองทำให้เกิดพายุได้ และคนที่โดนพายุนั้นครอบร่างกายแล้วจะรู้สึกเฉื่อยชา จนไม่สามารถขยับได้

- แบบที่ 2 คาเงะโอนิ(ปีศาจเงา): สามารถทำให้ตัวผู้ใช้สามารถแฝงตัวไปในเงาคู่ต่อสู้ได้ หรือสามารถแทงดาบลงบนเงาศัตรูเพื่อสร้างความเสียหายให้แก่ศัตรูได้

- แบบที่ 3 ทาคาโอนิ(ปีศาจสูง): ถ้าใครอยู่สูงที่สุดหรืออยู่สูงกว่าคู่ต่อสู้จนจบเกมส์ของกะเท็นเคียวคตสึ ก็จะเป็นผู้ชนะ ถ้าต่ำกว่าก็แพ้และต้องตาย(แต่ตอนที่เคียวราคุเล่นกะสตาร์คนั้น เขาได้เปลี่ยนเกมส์ก่อนจึงยังไม่รู้ผลแพ้ชนะ)

- แบบที่ 4 อิไรโอนิ(ปีศาจสี): จะเป็นการเล่นเกมกับฝ่ายตรงข้าม โดยมีกติกาที่ว่า จะสลับกันเลือกสีที่มีความความ "เสี่ยง" ต่อ "ตัวเอง" ขึ้นมาหนึ่งสี ยิ่งสีนั้นมีเยอะบนร่างกายของเรา เราจะสามารถโจมตีใส่สีนั้นบนตัวศัตรูได้แรงยิ่งขึ้น

คำปลดปล่อยดาบ : ดอกไม้โปรยปรายในสายลม เทพบุปผาคร่ำครวญ วายุสวรรค์ปั่นป่วน มารฟ้าเสสรวล

ปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค): กะเท็นเคียวคตสึ คารามัตสึ ชินจู คมดาบจะเปลี่ยนกลายเป็นรากต้นไม้ที่แตกแขนงออกไป พร้อมกับปลดปล่อยออร่าแห่งความมืด ความสิ้นหวัง บั่นทอนจิตใจคนที่โดนท่านี้เข้าไป (ท่านี้เขาจะใช้ ก็ต่อเมื่อ พรรคพวกของเขาอยู่ห่างจากตัวเขามากพอควร เพื่อที่จะทำให้พวกเขาไม่ได้รับผลกระทบไปด้วย)

รองหัวหน้า:อิเสะ นานาโอะ

รองหัวหน้าสาวแว่น นิสัยเจ้าระเบียบเอาการเอางานผิดกับหัวหน้าลิบลับ เธอกลับเป็นคนคุมหัวหน้าซะเอง ความเก่งก็อยู่ในขั้นสูงไม่เบา อีกทั้งยังเป็นรองประธานสมาคมยมทูตสตรีแห่งโซลโซไซตี้

ตอนจบเรื่อง เธอยังคงติดสอยห้อยตามเคียวราคุ ในฐานะ รองหัวหน้าหน่วยที่ 1


เอ็นโจจิ ทัตสึฟุสะ
นักสู้ลำดับ 3 หน่วย 8

 

หน่วยที่ 9
  หัวหน้า:โทเซ็น คานาเมะ
หัวหน้าหน่วยตาบอด ผมทรงเดธล็อค อดีตเคยมีหญิงสาวที่หลงรักอยู่แต่หญิงสาวคนนั้นถูกฆ่าโดยสามีของหล่อนเอง และมีเพื่อนสนิทคือ "โคมามูระ ซาจิน" และต่อมาเขาก็ได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าของหน่วยที่ 9 เขาเป็นคนที่รักความยุติธรรมมาก แต่กลับไปเข้าร่วมกับไอเซ็น โดยในศึกที่เมืองคาราคุระปลอม เขาได้ใช้พลังของฮอลโลว์ ทำให้ตัวเขาสามารถมองเห็นได้ แต่ก็พ่ายแพ้ ให้กับ ชูเฮย์ และ ถูก ไอเซ็น กำจัดในที่สุด

ดาบฟันวิญญาณ:ซึซึมูชิ (จิ้งหรีด) สามารถปล่อยคลื่นเสียงออกมา ทำให้ผู้ที่ได้ยินหมดสติ หรือ เบนิฮิโค (ตั๊กแตนสีเลือด) จะสร้างใบดาบจำนวนมากและสาดใส่คู่ต่อสู้แบบห่าฝน
คำปลดปล่อยดาบ:จงร่ำร้อง

  ปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค):เอ็นมะโคโรกิ (จิ้งหรีดพยายม) สร้างห่วงขึ้นมา 5 ห่วง รวมเป็นโดมขนาดใหญ่สีดำ ครอบคลุมผู้ใช้ คู่ต่อสู้ และบริเวณพื้นที่ต่อสู้ทั้งหมด ทำให้คู่ต่อสู้ที่ถูกขังอยู่ในโดม จะสูญเสียประสาทสัมผัสทั้งหมด(รูป รส กลิ่น เสียง กายสัมผัส และสัมผัสพลังกดดันวิญญาณ)ทำให้ยากที่จะตอบโต้ผู้ใช้ได้

รีเซอเร็คชั่น (ปลดปล่อยดาบแบบอารันคาร์) โดยรวมเหมือนเดิม เพียงแต่สวมหน้ากากไร้หน้าเข้าไป

  รองหัวหน้า:ฮิซางิ ชูเฮย์
รองหัวหน้าหน่วย 9 ให้ความนับถือโทเซ็นมาก แอบชอบรันงิคุอยู่ เคยสอบเข้ารร.ยมทูตถึง2ครั้งถึงเข้าได้ และเป็นรุ่นพี่ปี6ของ อาบาราอิ เร็นจิ ,คิระ อิซึรุ, ฮินาโมริ โมโมะ สมัยเรียนรร.ยมทูต เขาเป็น รุ่นพี่ปี6 คนเดียวที่รอดจากการไปอบรมรุ่นน้อง ณ โลกมนุษย์
ดาบฟันวิญญาณ:คาเสะชินิ (สายลมมรณะ) ปลดปล่อยแล้วเป็นดาบ 2 เล่มมีโซ่เชื่อมติดกัน โดยตัวดาบมีรูปร่างโค้งงอราวเกลียวคลื่น จนชูเฮย์ไม่ค่อยชอบรูปร่างของมันเท่าไหร่ หากได้หมุนคมดาบแล้ว จะมีอานุภาพการโจมตีเป็นอย่างมาก
คำปลดปล่อยดาบ:จงสะบั้น


หน่วยที่ 10
หัวหน้า:ฮิซึกายะ โทชิโร่
ยมทูตหนุ่มน้อยอัจฉริยะ ผมสีขาวราวกับหิมะ แววตาและสีหน้าคมเข้ม ได้รับนิยมจากแฟนๆนักอ่านมากพอสมควร และนับเป็นหัวหน้าหน่วยที่อายุน้อยที่สุดในเรื่อง มีนิสัยเอาการเอางาน รับผิดชอบสูง ความสามารถด้านการใช้ดาบสูงพอๆ กับผู้ใหญ่ เขาเกิดในเมืองลูคอน เขต 1 และ เป็นเพื่อนสนิทกับฮินาโมริ ตั้งแต่ก่อนเข้าโรงเรียนยมทูต แม้เขาจะเข้าโรงเรียนยมทูตหลังฮินาโมริ แต่ด้วยพลังกดดันวิญญาณที่สูงมาก จึงแซงหน้าฮินาโมริ ขึ้นเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 10
ดาบฟันวิญญาณ:เฮียวรินมารุ สร้างน้ำแข้งให้ออกมาในรูปมังกร และควบคุมสภาพอากาศได้
คำปลดปล่อยดาบ:จงสถิตเหนือฟ้าเหมันต์

  ปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค):ไดงูเร็น เฮียวรินมารุ(วงแหวนน้ำแข็งดอกบัวโลหิต) หลังจากใช้จะมีน้ำแข็งจำนวนหนึ่งห้อหุ้มแขนขวาของเขาไว้ และงอกออกไปเป็นปีก 1 คู่ ใช้ในการตั้งรับ และจะมีดอกไม้สี่แฉกออกมา โดยดอกไม้เหล่านี้จะเป็นบอกเวลาของการใช้ปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค) เมื่อกลีบของดอกไม้หายไปทั้งหมดปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค)ก็จะสลายไป ซึ่งเมื่อฟันใส่ศัตรูน้ำแข็งจะเกาะที่ร่างของศัตรู
นอกจากนี้ ยังมีรูปแบบ "เซ็นเน็นเฮียวโจ" เป็นการสร้างเสาน้ำแข็งขนาดใหญ่ล้อมรอบและขังศัตรูไว้

รองหัวหน้า:มัตสึโมโตะ รันงิคุ
ยมทูตสาวสวย อึ๋ม เซ็กซี่ คนหนึ่งในเรื่อง เพื่อนสมัยเด็กของอิจิมารุ งิน เคยถูกงินช่วยไว้จากความหิวโหย ซึ่งงินยังเป็นคนที่ตั้งวันเกิดให้กับรันงิคุด้วย โดยอิงจากวันที่เธอกับงินได้พบกันครั้งแรก มีดาบฟันวิญญานชื่อ "ไฮเนโกะ (แมวขี้เถ้า)" ถึงแม้ว่าจะมีหัวหน้าหน่วยอายุน้อยกว่าตัวเองแต่ก็ให้ความเคารพหัวหน้าเป็นอย่างดี มักเผลอคิดเรื่อยเปื่อยอยู่บ่อยครั้ง
ดาบฟันวิญญาณ:ไฮเนโกะ(แมวขี้เถ้า) ดาบจะกลายเป็นขี้เถ้า เข้าไปโอบล้อมศัตรูทำให้เกิดบาดแผล
คำปลดปล่อยดาบ:จงคร่ำครวญ

หน่วยที่ 11
หัวหน้า:ซาราคิ เคมปาจิ
ชายร่างยักษ์ไว้ผมทรงหนามและมีกระดิ่งห้อยที่ปลายเส้นผมจนเด่นสะดุดตา ที่ตาขวาของเขามีผ้าปิดตาที่ของงานวิจัยของหน่วยที่ 12 ผลิต เอาไว้เพื่อกัดกินพลังวิญญาณที่ส่วนเกิน เขารักการต่อสู้เป็นชีวิตจิตใจ ถึงจะคลั่งไคล้การต่อสู้ แต่เขาก็เป็นเพียงคนเดียวที่ไม่สามารถปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณได้เลย เพราะไม่รู้จักกระทั่งชื่อของดาบฟันวิญญาณของตนเอง เขาจึงใช้แต่ฝีมือของตนเองเท่านั้นไม่พึ่งพาดาบฟันวิญญาณเลย (กว่าจะมารู้ชื่อดาบฟันวิญญาณของตัวเอง ก็ปาไปช่วงท้ายเรื่องแล้ว)

ทันทีที่เขาเข้าบรรจุใน 13 หน่วยพิทักษ์ เขาได้สู้กับคนในหน่วย 11 200 คน แล้วเอาชนะมาได้ จนกระทั่งได้ดวลกับหัวหน้าหน่วยและฆ่าอดีตหัวหน้าหน่วยที่ 11 และตนเองได้ขึ้นเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 11 แทน

ในอดีต เมื่อครั้งเยาว์วัย เขาเคยได้ต่อสู้กับ อุโนะฮานะ มาแล้ว ซึ่งการต่อสู้ในครั้งนั้น สร้างความประทับใจให้แก่อุโนะฮานะ (aka ป้ากระเบน ) มากมาย จนกระทั่ง ทั้งคู่ได้มาดวลกันอีกครั้ง ในช่วงบทสงครามเลือดพันปี และเป็นอุโนะฮานะ ที่เป็นฝ่ายแพ้ และก่อนที่เธอจะสิ้นลม เธอได้ยกย่องในตัวเขา มีความเหมาะสมกับฉายา "เคมปาจิ" ตัวจริง

ดาบฟันวิญญาณ:โนซาราชิดาบฟันวิญญาณของเขา เพิ่งมีการเปิดเผยชื่อเสียงเรียงนามกัน ก็ตอนช่วงบมสงครามเลือดพันปี ซึ่งสภาพของดาบหลังการปลดปล่อยขั้นต้น (ชิไค) จะกลายเป็นดาบขนาดใหญ่ ที่สามารถผ่าทุกสิ่งทุกอย่าง แบบครอบจักรวาล
คำปลดปล่อยดาบ: จงกลืนกิน

ปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค): -
ยังไม่มีการระบุชื่ออย่างเป็นทางการ ......ซึ่งลักษณะนั้น จะเป็นการปล่อยคลื่นพลังขนาดมหาศาล พร้อมเปลี่ยนรูปโฉมเขาให้คล้ายกับยักษ์สีแดง (Oni) ผู้กำลังบ้าบิ่น ส่วนตัวดาบนั้น มีขนาดเล็กลงจากระดับชิไค ซึ่งเพิ่มความสามารถในการผ่า การฟัน ทุกสิ่งทุกอย่าง มากขึ้นเป็นเท่าตัว

 รองหัวหน้า:คุซาจิชิ ยาจิรุ
เด็กน้อยที่ถูก ซาราคิ เค็มปาจิ เก็บมาเลี้ยงและตั้งชื่อให้ มักจะเรียกเค็มปาจิว่า เค็นจัง มีความสามารถในการวิ่งได้อย่างรวดเร็วมาก แต่ชอบเกาะหลังของ เคมปาจิ มากกว่า ดูๆไปเหมือนกับพ่อลูกคู่หนึ่งเลย อีกทั้งยังชอบตั้งชื่อเล่นให้คนอื่นๆตามใจชอบ รั้งตำแหน่ง ประธานสมาคมยมทูตสตรี อีกด้วย เธอเกิดที่เมืองลูคอนที่ 79 ที่ชื่อว่า "คุซาจิชิ" วันหนี่งซาราคิ เคมปาจิผู้มาจากเมืองลูคอนเขตที่ 80 ได้มาพบกับยาจิรุเข้า และตั้งชื่อให้ว่า "คุซาจิชิ ยาจิรุ" โดยคำว่า "ยาจิรุ" หมายถึงชื่อที่ต้องการให้อยู่ด้วยกันตลอดไป และเมื่อทั้งสองคนเป็นยมทูตก็ได้เข้าบรรจุอยู่ที่หน่วย 11 โดยไม่ต้องผ่านการสอบของยมทูต

โดยยาจิรุ ได้อยู่คู่กับ เคมปาจิ มาโดยตลอด จนกระทั่ง ร่างของเธอได้หายไป หลังจากที่เคมปาจิได้ปล่อยบังไค ฟันอุกกาบาตที่ควินซี่เกรมมี่ ได้ปล่อยออกมา ..... ซึ่งนักอ่านเชื่อว่า ยาจิรุ นั้น เป็นหนึ่งในรูปโฉมของดาบฟันวิญญาณของเคมปาจิ


มาดาราเมะ อิกคาคุ

ยมทูตหนุ่มหัวโล้น นักสู้อันดับ3 ของหน่วย11 ชื่นชอบการต่อสู้ แต่ไม่เก่งในเรื่องวิถีมาร มักถูกยาจิรุแซวตรงหัวโล้นของเขาบ่อยๆ อิกคาคุสนิทสนมกับยูมิจิกะที่เป็นนักสู้ลำดับที่ 5 ในหน่วยเดียวกัน และนอกจากนี้ยังเป็นอาจารย์สอนวิชาการต่อสู้ให้กับอาบาราอิ เร็นจิอีกด้วย เป็นคนแรกที่สู้กับอิจิโกะ ในเซย์เรย์เทย์ อีกทั้งเขานั้นสามารถปลดปล่อยสวัสดิกะได้ ทั้งๆที่ไม่ได้เป็นหัวหน้าหรือรองหัวหน้าหน่วย ซึ่งความสามารถของเขานั้นสามารถเป็นได้ถึงระดับหัวหน้าหน่วยแล้ว แต่ด้วยเหตุผลว่าวันหนึ่งเขาได้พ่ายแพ้ ซาราคิ เคมปาจิ เขาจึงต้องการจะอยู่ใต้บังคับบัญชาของ ซาราคิ เคมปาจิ จึงไม่ได้แสดงออกไปว่ามีความสามารถ โดยกำชับให้ยูมิจิกะและเร็นจิไม่ให้บอกใคร

ในตอนท้ายเรื่อง พี่โล้น ได้เลื่อนขั้นเป็นรองหัวหน้าหน่วย 11 แทน ยาจิรุ

ดาบฟันวิญญาณ:โฮซึคิมารุ ตัวดาบจะกลายเป็นหอกที่สามารถแยกออกเป็น 3 ท่อน โดยมีโซ่เป็นตัวเชื่อม
คำปลดปล่อยดาบ:จงยืดออก

ปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค):ริวมอนโฮซึคิมารุ(โคมอสูรลายมังกร) คล้ายๆกับปลดปล่อยขั้นต้น ต่างกันตรงที่ สองส่วนแรกจะเป็นดาบมีด้ามจับ คมดาบจะโค้ง อีกส่วนเป็นใบมีดาบโค้งลายมังกร สามารถฟันทะลุร่างของศัตรูได้ทุกชนิด และเมื่อฟันไปเรื่อยๆ ลายมังกรจะมีสีแดง ไปเรื่อยๆ จนสามารถปล่อยพลังสุดยอดออกมาได้

อายาเซะงาวะ ยูมิจิกะ
เป็นนักสู้ลำดับ5 ของหน่วย11 ที่หลงในหน้าตาของตัวเองสุด พอใบหน้าอันงามของเขาเป็นริ้วรอย เขาจะโกรธมาก
ดาบฟันวิญญาณ: รูริอิโระ คุจาคุ (นกยูงสีไพฑูรย์) คมดาบจะกลายสภาพกลายเป็นไม้เลื้อย คอยดูดพลังวิญญาณคู่ต่อสู้ หากดูดพลังเต็มที่ กลีบดอกไม้ตามไม้เลื้อยก็จะบานสะพรั่ง คำปลดปล่อยดาบ:จงฉีกกระฉากคลุ้มคลั่ง
สำหรับ ฟูจิ คุจาคุ (นกยูงดอกฟูจิ/นกยูงบุปผาม่วง) เป็นชื่อที่ยูมิจิกะตั้งขึ้นมาเอง เพราะไม่อยากให้คนในหน่วย 11 รู้ว่าเป็นดาบฟันวิญญาณสายวิถีมาร (นักสู้หน่วย 11 คนอื่นๆ มีดาบฟันวิญญาณสายโจมตี) แถมตัวดาบก็ไม่ชอบชื่อนี้ เพราะไม่ชอบสีม่วง เลยปลดปล่อยดาบแค่ครึ่งเดียว คือ ดาบจะกลายสภาพคล้ายเคียวเกี่ยวข้าว 4 แฉก สามารถดูดพลังวิญญาณของคู่ต่อสู้ได้ และ ฮิซางิ ชูเฮย์ ก็เป็นเหยื่อมาแล้ว
คำปลดปล่อยดาบ:จงเบ่งบาน

อารามากิ มาคิโซ
ยาจิรุตั้งชื่อให้ว่า มาคิมาคิ....หนวดแหยม เขาเป็นคนพาโอริฮิเมะ อิโนะอุเอะหนีออกไป ในขณะที่ อิชิดะ กำลังสู้กับ คุโรซึจิ มายูริ

 

หน่วยที่ 12 (กองวิทยาการ)
หัวหน้า:คุโรซึจิ มายูริ
นักวิจัยวิปลาศ และเป็นหัวหน้าคนปัจจุบันของกองวิทยาการแห่งโซลโซไซตี้ เขามักจะใส่หน้ากากประหลาดอยู่โดยตลอดทำให้ไม่ค่อยมีใครรู้จักใบหน้าที่แท้จริง นอกจากนี้ร่างกายส่วนใหญ่ของเขายังได้รับการดัดแปลงจนสภาพไม่เหมือนกับปกติเขาชอบทำการทดลองโดยไม่นึกถึงชีวิตและจิตใจของคนอื่น เห็นได้จากการที่เขาระเบิดลูกน้องในหน่วยของตัวเองหน้าตาเฉยเพียงเพื่อจับตัวพวกเรียวกะ โดยอุราฮาร่า เป็นคนชวนให้มายูริ ซึ่งสมัยก่อนเป็นนักโทษ ให้มาร่วมทำงานในกองวิทยาการแห่งโซลโซไซตี้
ดาบฟันวิญญาณ:อะชิโซกิจิโซ ตัวดาบจะกลายสภาพเป็นดาบสีเหลืองทองที่มีเงี่ยงแหลมออกมาคล้ายกับกริช และที่ส่วนด้ามจะมีลักษณะเป็นส่วนหัวของจิโซ (รูปเทวรูปรูปเด็ก/เณร ที่ตั้งอยู่ตามท้องถิ่นในญี่ปุ่น) ทำให้ผู้ที่ถูกฟันสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหว
คำปลดปล่อยดาบ:จงขีดข่วนกระชาก

  ปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค):คอนจิกิอะชิโซกิจิโซ (อะชิโซกิจิโซสีทอง) เป็นร่างของจิโซขนาดยักษ์ ที่มีส่วนช่วงล่างเป็นหนอน มีดาบจำนวนมากอยู่ที่อกและท้องและร่างมีสีทอง สามารถปล่อยพิษได้กว้างและสามารถใช้ใบดาบออกมาโจมตีได้

รองหัวหน้า:คุโรซึจิ เนม
เป็นร่างที่ถูกมายูริสร้างขึ้น มีความสัมพันธ์คล้ายๆพ่อลูกกัน เพียงแต่เนมเป็นคนดีมากกว่า เห็นได้จากการที่เธอแบ่งยาถอนพิษให้อิชิดะดื่ม และเป็นยมทูตสาวที่แต่งตัวไม่เหมือนกับยมทูตสาวคนอื่นๆ

  อุราฮาร่า คิสึเกะ (ดู อุราฮาร่า คิสึเกะ)


หน่วยที่ 13
หัวหน้า:อุคิทาเกะ จูชิโร่

หัวหน้าของลูเคีย เขาเป็นโรคปอดตั้งแต่เด็กทำให้ผมของเขากลายเป็นสีขาว ทำให้มีสุขภาพไม่ค่อยดี แต่ถึงยังงั้นก็เป็นคนเก่งคนนึงทีเดียว เป็นคนที่มีอัธยาศัยดีมาก จนใครๆก็รักใคร่ และได้รับการนับถือทั้งจากคนทั้งหน่วยเดียวกันและหน่วยอื่นทั้งในด้านอุปนิสัยและความสามารถที่โดดเด่น สนิทกับ ฮิซึกายะมาก เจอหน้ากันเมื่อไหร่ซื้อขนมมาให้ฮิซึกายะเมื่อนั้น

โดย อุคิทาเกะ เป็นหนึ่งในหัวหน้าหน่วยยมทูตที่้เสียชีวิตลงในภาคสงครามเลือดพันปี และด้วยพลังกดดันวิญญาณของเขา ที่ลงสู่นรก (ไปพร้อมๆกับวิญญาณของหัวหน้าหน่วยที่ตายไปก่อนหน้านี้) ส่งผลทำให้โลกวิญญาณเกิดการขาดความสมดุล นำไปสู่ประตูนรกที่กลับมาเปิดออก จากการเปิดเผยของซาเอลอพอลโล่ ในตอนพิเศษ ฉลอง 20 ปี ของบลีช

ดาบฟันวิญญาณ:โซเกียวโนะโคโตวาริ (สัจจะมัจฉาคู่) ตัวดาบจะแยกออกเป็นสองเล่ม ซึ่งจะมีสายร้อยถึงกันที่ปลายด้ามดาบซึ่งจะมีแผ่นเครื่องรางโลหะเล็กๆห้อยติดอยู่ตามสาย และคมดาบจะมีลักษณะเป็นซี่แยกเป็นงุ้มไปด้านสัน มีความสามารถดังนี้

- รูปแบบที่1 : สามารถสะท้อนการโจมตีได้จากเครื่องรางโลหะที่ห้อยตามสายโดยการดูดซับพลังการ โจมตีจากดาบข้างหนึ่งและถ่ายโอนพลังผ่านสายเครื่องรางแล้วยิงพลังการโจมตี นั้นออกจากดาบอีกข้าง ซึ่งการโจมตีที่สะท้อนกลับไปจะรวดเร็วและรุนแรงขึ้นมาก

- รูปแบบที่2 : สามารถสร้างเกลียวคลื่นมาล้อมรอบตัวเพื่อป้องกัน(เป็นกำแพงน้ำกันการโจมตี ที่รุนแรงมากได้)และนำเกลียวคลื่นที่พลังของศัตรูมาโจมตี สร้างความเสียหายให้แก่คู่ต่อสู้ได้

- รูปแบบที่3 : สามารถใช้สายฟ้าสร้างความเสียหายให้คู่ต่อสู้ได้

- รูปแบบที่4 : สามารถสร้างพายุคลื่นมาใช้เป็นโล่กำบังการโจมตีให้ตนเองและคนอื่น


คำปลดปล่อยดาบ:จงเป็นโล่ให้ข้าดั่งเกลียวคลื่น จงเป็นดาบให้ข้าดั่งสายฟ้า

  รองหัวหน้า:ชิบะ ไคเอ็น
เป็นคนร่าเริง รักพวกพ้อง แต่งงานและมีภรรยาแล้ว เขาได้ตายลงเนื่องมาจากถูกฮอว์โลว์ที่ฆ่าภรรยาของตนเข้าควบคุมร่างในขณะต่อสู้ และถูกฆ่าโดยคุจิกิ ลูเคีย เป็นคนที่สอนวิชาดาบให้แก่ลูเคีย
ดาบฟันวิญญาณ:เนจิบานะ (บุปผาเกลียว) มีลักษณะเป็นหอกยาวคล้ายกับสามง่ามผสมกับทวนของจีนโบราณ มีพู่ประดับ โจมตีโดยใช้น้ำที่วนอยู่โดยรอบของอาวุธพร้อมๆกับทักษะส่วนตัวของผู้ใช้
คำปลดปล่อยดาบ:น้ำแห่งฟากฟ้าจงคลี่คลาย

  ชิบะ มิยาโกะ
อดีตนักสู้ลำดับที่ 3 ภรรยาของชิบะ ไคเอ็น เป็นคนที่มีรูปโฉมงดงามและมีความสามารถมาก จนลูเคียรู้สึกชื่นชมและอยากยึดถือเอาเป็นแบบอย่าง แต่ในวันหนึ่ง มิยาโกะได้พลาดท่าถูกฮอลโลว์สิง ทำให้เธอลงมือฆ่าพวกเดียวกันเอง และถูกฮอลโลว์ตนนั้นกลืนกินเข้าไปในที่สุด

โคสึบากิ เซ็นทาโร่
นักสู้ลำดับที่ 3(คนที่1) มักจะทะเลาะกับคิโยเนะเสมอๆ

โคเท็ตสึ คิโยเนะ
นักสู้ลำดับที่ 3(คนที่2) เป็นน้องสาวของโคเท็ตสึ อิซาเนะ รองหัวหน้าหน่วย 4 ต่อมาได้ย้ายไปทำงานร่วมกับพี่สาวเธอ ในฐานะรองหัวหน้าหน่วยที่ 4

คุจิกิ ลูเคีย นักสู้ลำดับที่ 5 (ดู คุจิกิ ลูเคีย)

 

 

ไวเซิร์ด



ฮิราโกะ ชินจิ

หนุ่มผมหน้าม้าปริศนา ที่ปรากฏตัวขึ้นมาในโรงเรียนของอิจิโกะ เพื่อจะชักชวนอิจิโกะให้เข้าร่วมกับกลุ่มไวเซิร์ด เป็นหัวหน้าของเหล่าไวเซิร์ดเลยก็ว่าได้ หน้ากากฮอลโลว์ของฮิราโกะนั้นจะมีลักษณะคล้ายๆกับหน้าของชาวอียิปต์โบราณ อดีตเคยเป็นหัวหน้าหน่วย 5 เมื่อ 110 ปีที่แล้ว เขาได้รับภารกิจในการสืบคดีวิญญาณสูญหายร่วมกับ โรส ,ริสะ,ฮัตช์ และ เลิฟ แต่ก็เสียทีให้กับพวกของไอเซ็น

หลังจบภาคอารันคาร์ ฮิราโกะ ได้คืนตำแหน่งหัวหน้าหน่วยที่ 5 อีกครั้ง

ดาบฟันวิญญาณ:ซาคานาเดะ (บุปผาเกลียว) เป็นดาบตัดความรับรู้ซ้ายขวาหน้าหลัง
คำปลดปล่อยดาบ:จงสลับ

ซารุงากิ ฮิโยริ

เป็นเด็กผู้หญิงผมสีบลอนด์ ผูกผมสองข้าง สวมชุดสีแดงที่มีอักษรอยู่ที่อกเสื้อด้านซ้าย ใส่รองเท้าแตะเป็นประจำ มีนิสัยชอบทำตัวห้าวๆและดุดัน แต่ก็ซ่อนความเศร้าและเหงาเอาไว้ในใจอยู่บ้าง เธอเป็นคู่ซ้อมให้อิจิโกะในการฝึกควบคุมพลังฮอลโลว์ อดีตเคยเป็นรองหัวหน้าหน่วย 12 ซึ่งมี อุราฮาร่า เป็นหัวหน้าหน่วยในขณะนั้น มีหน้ากากคล้ายยูนิคอร์น

ดาบฟันวิญญาณ:คุบิกิริ โอโรจิ (พญางูสะบั้นเศียร) เป็นดาบใบมีดยักษ์ คมดาบเป็นหยักๆ
คำปลดปล่อยดาบ:จงสับ

อุโซดะ ฮาจิเกน

หรือ ฮัตช์ ไวเซิร์ดรูปร่างใหญ่ที่สุด สวมชุดทักซิโด้สีชมพู เขามีพลังที่สามารถกางอาณาเขตป้องกัน และสามารถซ่อมแซมสิ่งของได้ ซึ่งเป็นพลังที่คล้ายคลึงกับที่โอริฮิเมะมี เขาเป็นคนที่กางอาณาเขตป้องกันระหว่างที่อิจิโกะกำลังต่อสู้กับด้านฮอลโลว์ในโลกภายใน และช่วยซ่อมสึบากิของโอริฮิเมะให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม อดีตเคยเป็นลูกน้องของเท็ตไซ เป็นรองหัวหน้าหน่วยวิถีมาร มีหน้ากากคล้ายอินเดียนแดง

ยาโดมารุ ริสะ

หนึ่งในไวเซิร์ด เป็นผู้หญิงสวมแว่นผมสีดำ หน้าตาคล้ายกับ นานาโอะ รองหัวหน้าหน่วย 8 ต่างกันตรงที่ เธอทำผมเปียและสวมชุดนักเรียนกะลาสีแบบญี่ปุ่น เธอเป็นหนึ่งในไวเซิร์ดที่เข้าต่อต้านอิจิโกะที่กลายสภาพเป็นฮอลโลว์ในระหว่างที่กำลังต่อสู้กับด้านฮอลโลว์ในโลกภายใน ชอบอ่านหนังสือโป๊เป็นที่สุด อดีตเคยเป็นรองหัวหน้าหน่วย 8 มีหน้่ากากรูปทรงข้าวหลามตัด

ต่อมา เธอได้กลับมาเป็นยมทูตอีกครั้ง หลังจบศึกกับไอเซ็น แถมยังได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 8 แทน เคียวราคุ ที่ย้ายไปเป็นหัวหน้าหน่วยที่ 1

ดาบฟันวิญญาณ:ฮากุโระ ทอนโบะ (แมลงปอยาดเหล็กไหล) มีลักษณะคล้ายทวน
คำปลดปล่อยดาบ:จงบดทำลาย

เลิฟ

เป็นชายที่มีทรงผมแบบแอฟโฟร์ สวมแว่นดำและชุดพละ เป็นหนึ่งในไวเซิร์ดที่ต่อต้านอิจิโกะในสภาพของฮอลโลว์ อดีตเคยเป็นหัวหน้าหน่วย 7 มีหน้ากากเป็นสิ่งมีชีวิตประหลาด
ดาบฟันวิญญาณ:เท็นงูมารุ (บุปผาเกลียว) อาวุธเป็นค้อนเหล็ก มีท่าคือ "ฮิฟุคิโนะ โคซึจิ" (ค้อนเหล็กพ่นไฟ)
คำปลดปล่อยดาบ:จงทุบให้แหลก

โรส

หรือ โอโทริบาชิ โรจูโร่ ไวเซิร์ดอีกคน ใส่ชุดทักสิโด้สีดำ ไว้ผมหยิกสีทอง อดีตเคยเป็นหัวหน้าหน่วย 3 มีหน้ากากเหมือนนก

หลังจากจบศึกกับไอเซ็น โรส ได้คืนตำแหน่งหัวหน้าหน่วย 3 อีกครั้ง

ดาบฟันวิญญาณ:คินชาระ(กุหลาบทองคำ) อาวุธเป็นแส้ที่มีตุ้มเป็นลักษณะคล้ายกับดอกไม้
คำปลดปล่อยดาบ:จงบรรเลง

มุกุรุมะ เคนเซย์

หนึ่งในไวเซิร์ดหัวสีเทา ใส่เสื้อกล้ามกับกางเกงขายาว อดีตเคยเป็นหัวหน้าหน่วย 9 เมื่อ 110 ปีก่อน เขาเคยช่วยชีวิตชูเฮย์ตอนเด็กเอาไว้ จนชูเฮย์รู้สึกปลาบปลื้มใจ มีหน้ากากรูปร่างเหลี่ยมยาว

หลังจบภาคอารันคาร์ เคนเซย์ กลับมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าหน่วยที่ 9 แทน โทเซ็น ที่ตายในศึกอารันคาร์

ดาบฟันวิญญาณ:ทาชิคาเสะ(วายุตัดปฐพี) ดาบจะสลายไป กลายเป็นลมที่มีความคมสูง เข้าฟาดฟันศัตรู
คำปลดปล่อยดาบ:จงพัดกระหน่ำ


 ปลดปล่อยสวัสดิกะ (บังไค):เทดเค็น คาชิคาเซะ(หมัดเหล็กผ่าสลาตัน) จะมีใบมีดอยู่ที่มือทั้งสองข้าง ส่วนความสามารถคล้ายกับของแชด

มาชิโระ

หนึ่งในไวเซิร์ดชอบสวมชุดแปลกๆ สามารถแปลงเป็นฮอลโลว์ได้นานที่สุด ซึ่งนานถึง 15 ชั่วโมง อดีตเคยเป็นรองหัวหน้าหน่วย 9 มีหน้ากากคล้ายๆไอ้มดแดง แต่มีรูปร่างเป็นทรงหัวใจ

 

 

อาร์รันคาร์

อดีตยมทูต 13 หน่วยเทพพิทักษ์โซลโซไซตี้

ไอเซ็น โซสุเกะ
ผู้นำสูงสุดของกองทัพอารันคาร์

อิชิมารุ งิน

โทเซ็น คานาเมะ

 

เอสปาด้า

โคโยเต้ สตาร์ค - ลิลิเน็ต จินเจอร์แบ็ค
เอสปาด้าอันดับที่ 1 หนึ่งในเอสปาด้าที่ชอบนอนหลับเป็นประจำ มักถูกลิลิเน็ต ฟราเซี่ยนเด็กคนสนิทย่ำยีให้ตื่น ว่ากันว่าอาจเป็นเอสปาด้าที่เก่งกาจที่สุดคนนึงเลย ตามปกติแล้วเวลาที่ฮอลโลว์พัฒนาการกลายเป็นอารันคาร์ พลังของฮอลโลว์จะแยกออกเป็นร่ายกายกับดาบ แต่สำหรับสตาร์คนั้น จะต่างจากอารันคาร์ตนอื่นๆ ตรงที่มีร่ายการแยกออกมา 2 ร่าง ซึ่งก็คือ ตัวเขา กับ ลิลิเน็ต นั่นเอง
ดาบฟันวิญญาณ:ลอส โลบอส(ฝูงหมาป่า) สตาร์คจะปลดปล่อยดาบได้ ก็ต่อเมื่อต้องมีลิลิเน็ตอยู่เคียงข้าง เมื่อปลดปล่อยดาบ เครื่องแต่งกายจะเปลี่ยนไปราวกับคาวบอย ใช้ปืนเป็นอาวุธ (ซึ่งก็คือ ลิลิเน็ต) ที่สามารถยิงซีโร่ได้รัวๆ แถมยังยิงซีโร่เป็นรูปหมาป่าได้อีกด้วย คำปลดปล่อยดาบคือ "จงไล่ต้อน"

  บารากัน ลุยเซนบาร์น
เอสปาด้าอันดับที่ 2 เป็นเอสปาดาชายสูงอายุ มีฟราเชี่ยน 6 ตนคอยรับใช้ อดีตเป็นราชาของฮูเอโก้มุนโด้ แต่กลับถูกกลลวงจากดาบฟันวิญญาณของไอเซ็น ทำให้เขาต้องขายวิญญาณเป็นสมุนของไอเซ็น ซึ่งเขาตายด้วยน้ำมือจากพลังคอมโบของซุยฟุงและฮัตช์
ดาบฟันวิญญาณ:อาโรกานเต้(ราชันย์หัวกระโหลก) เมื่อปลดปล่อยดาบ ศีรษะเป็นกะโหลกมีมงกุำฎอยู่ข้างบน และมีผ้าคลุมปิดบังร่าง มีความสามารถสุดร้ายกาจ คือ เรสปีร่า (ลมหายใจมรณะ) ที่ทำใ้ห้สรรพสิ่งที่กีดขวางสูญสลายไปได้ คำปลดปล่อยคือ"จงเสื่อมสลาย"

  เทีย ฮาริเบล
เอสปาด้าอันดับที่ 3 คนปัจจุบัน เป็นเอสปาดาผู้หญิงผิวสีคล้ำ ดูท่าทางสงบเงียบ ไม่ประมาทต่อศัตรู มีฟราเชี่ยนสาว 3 ตนคอยรับใช้ แต่เธอถูกไอเซ็นลอบสังหาร ในขณะกำลังต่อสู้กับยมทูต กับ ไวเซิร์ด
ดาบฟันวิญญาณ:ทีบูรอน(ฉลามจักรพรรดิ) เมื่อปลดปล่อยดาบ เธอจะแต่งกายน้อยชิ้น และเผยใบหน้าอย่างชัดเจน และมีดาบขนาดใหญ่ติดอยู่ที่มือ คำปลดปล่อยดาบคือ "จงโรมรัน"

อุลคิโอร่า ชิฟเฟอร์
เอสปาด้าอันดับที่ 4 ( ควอร์โต้ เอสปาด้า) เปรียบเสมือนมือขวาของไอเซ็น มีนิสัยเย็นชาจนไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ เป็นคนที่ไอเซ็นมอบหน้าที่ให้ดูแลโอริฮิเมะขณะอยู่ในฮูเอโก้ มุนโด้ และเป็นคนขัดขวางอิจิโกะที่มาช่วยโอริฮิเมะ ลักษณะพิเศษของอุลคิโอร่าก็คือ จะทิ้งรูไว้บนหน้าอกเหมือนกับรูบนหน้าอกตัวของตน และเป็นเอสปาด้าตนเดียวที่สามารถปลดปล่อยดาบได้ 2 ขั้น แต่ก็พ่ายให้กับอิจิโกะโหมดฮอลโลว์
ดาบฟันวิญญาณ:มูร์ซิเอ ลาโก้(พญามารปีกดำ) เมื่อปลดปล่อยดาบ จะมีรูปร่างใกล้เคียงกับตอนไม่ปลดปล่อยดาบ เพียงแต่เขาจะสวมหมวกที่มีเขา และ มีปีกค้างคาวสีดำขนาดใหญ่ติดที่หลัง มีดาบที่เปลี่ยนแปลงเป็นลักษณะคล้ายทวน สามารถใช้ซีโร่ดำ (ซีโร่ออสคิวรัส) ได้ คำปลดปล่อยดาบคือ "จงปิดกั้น"
ปลดปล่อยดาบขั้นสอง (รีเซอเร็คชั่น เซกุนด้า เอต้าป้า) รูปร่างลักษณะคล้ายๆกับตอนปลดปล่อยดาบขั้นแรก เพียงแต่ เขาบนหัวจะยาวขึ้น ไม่สวมเสื้อคลุม มีหางฟู 2 แฉก และ หางยาวคล้ายๆกับซาตาน อีกทั้งเห็นรูบนหน้าอกชัดเจน

นอยโทร่า จิลก้า
เป็นเอสปาด้า อันดับที่ 5 ( ควินโต้ เอสปาด้า)ที่มีผิวหนังแข็งที่สุดในบรรดาเอสปาด้า ดาบของเขาเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว2อันต่อกัน เขาสามารถรับหมัดของแช้ดได้ แล้วใช้ดาบของเขาฟาดเข้าใส่แช้ดทันที ซึ่งแม้แต่โล่ของเขาก็ยังกันไม่อยู่ แถมเขานั้นมีนิสัยดูถูกผู้หญิงสุดๆ เคยใช้ดาบนั้นฟัน เนลิเอล อดีตเอสปาด้าอันดับ 3 ลงได้
ดาบฟันวิญญาณ:ซานตา เทเรซ่า (บทภาวนาตั๊กแตนตำข้าว) เมื่อปลดปล่อยดาบ จะมีรูปร่างใกล้เคียงกับตอนไม่ปลดปล่อยดาบ ต่างกันตรงที่ร่างนี้ จะมีเขางอกขึ้นมาที่หัว มีแขน เพิ่มรวม 6 แขน (ทีแรก ตอนสู้กับเคมปาจิ ปรากฏแค่ 4 แขนเท่านั้น) หากแขนข้างใดข้างนึงขาด สามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้ รวมถึงอาวุธเคียวยักษ์ ก็มีถึง 4 เล่มด้วยกัน คำปลดปล่อยดาบคือ "จงภาวนา"

กริมจอว์ แจ๊คเกอร์แจ๊ค
เอสปาด้า อันดับที่ 6 ( เซ็คโต้ เอสปาด้า) มีนิสัยหัวรั้นและอารมณ์รุนแรง เคยพาพวกไปบุกโลกมนุษย์ครั้งหนึ่งแต่กลับพลาดท่า จึงถูกโทเซ็นฟันแขนขาดและตกจากชั้นเอสปาด้า แต่โอริฮิเมะรักษาแขนให้จึงได้เป็นเอสปาด้าดังเดิม ปัจจุบันโดนนอยโทร่าฟัน ยังไม่ทราบชะตากรรมเป็นหรือตาย
ดาบฟันวิญญาณ:แพนเทร่า (ราชันย์พยัคฆ์) เมื่อปลดปล่อยดาบ จะมีรูปร่างครึ่งคนครึ่งเสือ มีกรงเล็บแหลมคมติดงอกมาจากแขนและขาทั้งสองข้าง เคลื่อนไหวและโจมตีอย่างรวดเร็ว รุนแรง คำปลดปล่อยดาบคือ "จงเสียดเสียง"

โซมารี เลอรูซ์
เอสปาด้า อันดับที่ 7 ( เซปติโม่ เอสปาด้า) เป็นชายผิวเข้ม รูปร่างใหญ่ ชอบนั่งสมาธิเข้าฌานราวกับนักบวช มี"โซนีด"(คล้ายๆก้าวพริบตาของยมทูต) เร็วที่สุดในบรรดาเอสปาด้า แต่ก็ถูกเบียคุยะ ฆ่าตาย
ดาบฟันวิญญาณ:บรูเฮเรีย(นักบวชเนตรคำสาป) คำปลดปล่อยดาบคือ "จงสงบนิ่ง" เมื่อปลดปล่อยดาบ ลักษณะของเขาจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตครึ่งคนครึ่งฟักทอง ตามร่างกายเต็มไปด้วยดวงตา ซึ่งสามารถแย่งสิทธิ์สิ่งควบคุมที่ดวงตานั้นจ้องมอง(อามอร์) ซึ่งตาแต่ละดวงสามารถควบคุมได้หนึ่งเป้าหมาย หากควบคุมหัวของใครก็ตาม สามารถควบคุมได้ทั้งร่าง

ซาเอล อพอลโล่ แกรนซ์
เอสปาด้า อันดับที่ 8 ( ออคตาโว เอสปาด้า) ทำหน้าที่เหมือนกับนักวิทยาศาสตร์ของเหล่าอารันคาร์ มีพี่ชายชื่อ อิลฟอร์ท แกรนท์ ที่ถูกเร็นจิกำจัดไปแล้ว ทั้งๆ ที่โดนเร็นจิกับอิชิดะรุมสู้ก็ไม่อาจฆ่าได้ เพราะซาเอลได้กินลูกน้องตัวเองจนสามารถรักษาแผลได้ ทว่าซาเอลก็เสียทีแก่มายูริ ด้วยฤทธิยาอภิมนุษย์ที่มายูริ ใส่เข้าไปในร่างของเนม
ดาบฟันวิญญาณ:ฟอร์นิคารัส(ราชินีมาร) เมื่อปลดปล่อยดาบ จะมีปีกยักษ์ติดที่หลัง และที่แขนเสื้อจะมีริ้วผ้าเป็นเส้นติดอยู่ ส่วนช่วงล่างเหมือนมีหางหลายเส้นมาคลุมตัว โดยรวมแล้ว ดูราวกับหลุดมาจาก"เวทีทิฟฟานี่"ยังไงยังงั้น คือ มีความสามารถในการโคลนสิ่งมีชีวิต เมื่อคู่ต่อสู้ถูกของเหลวจากตัวซาเอล และยังสามารถสร้างตุ๊กตาล้มลุกเลียนจากศัตรู เมื่อคู่ต่อสู้โดนหนวดดูดเข้าไป ซึ่งมีคุณสมบัติในการทรมาณศัตรู เมื่อทำลายชิ้นส่วนอวัยวะของตุ๊กตาบริเวณไหนก็ตาม อวัยวะของศัตรูก็จะถูกทำลายไปด้วย(ยกเว้น ตอนเปิดตุ๊กตาเอาชิ้นส่วนอวัยวะภายในไปทำลาย) คำปลดปล่อยดาบคือ "จงสูดแทรก" นอกจากนี้ยังมีความสามารถ "กาเบรียล" ในการใช้ศัตรูตั้งครรภ์ทำให้เขาเกิดมาใหม่ได้ แถมยังมีผลทำให้ร่างแม่มีร่างกายที่เหือดแห้งลงตามไปด้วย

อาโรนีโร่ อัลลูเอรี่
เอสปาด้าอันดับที่ 9 ( โนเบโน่ เอสปาด้า) มีสองหน้าอยู่ในโถแก้ว แล้วสวมหน้ากากซ้ำ เป็นเพียงกิลเลี่ยนเพียงตัวเดียวที่ไต่เต้าขึ้นมาถึงเอสปาด้า ในร่างปลอมเขาจะใช้ใบหน้าของไคเอ็น(อดีตรองหน่วย 13) ซึ่งแม้เป็นอารันคาร์เขาก็ยังใช้ดาบเนจิบานะของไคเอ็นได้ด้วย ถูกสังหารโดยลูเคีย
ดาบฟันวิญญาณ:โกลโตเนเรีย(กลืนกินฮอลโลว์) คำปลดปล่อยดาบคือ "จงกลืนกินให้หมดสิ้น" เมื่อปลดปล่อยดาบ ช่วงล่างของเขาจะกลายเป็นหนวดปลาหมึกยักษ์ขนาดใหญ่ขดตัวกันราวกับสมองมนุษย์ มีความสามารถในการกลืนกินฮอลโลว์และยึดความสามารถและพลังกดดันวิญญาณมาเป็นของตน

ยามี่
อารันคาร์ร่างยักษ์ ที่ดูจะใช้แต่กำลังมากกว่าที่จะใช้สมอง เขาเคยไปโลกมนุษย์กับอุลคิโอร่า และเขาก็ดูดกลืนวิญญาณของคนมากมายไปด้วย ถูกอุราฮาร่าเล่นงาน ในภาคฮูเอโก้มุนดด้ ยามี่ได้เผยตนเองว่า ตนเป็น เอสปาด้าอันดับที่ 0
ดาบฟันวิญญาณ:ไอย์ร่า(กลืนกินฮอลโลว์) คำปลดปล่อยดาบคือ "จงขยี้ให้แหลก" เมื่อปลดปล่อยดาบ ตัวของเขาจะขยายใหญ่ขึ้น

  เนลิเอล โท โอเดล ชแวงค์ (เนล)
หรือในฉบับภาษาไทย เรียกว่า เนเลียล โท โอเดลชูเวงค์ เป็นอาร์รันคาร์เด็ก ที่ถูกอิจิโกะช่วย ความจริงแล้วเนลเป็นอดีตเอสปาดาลำดับที่ 3 แต่ถูกนอยโทร่า เอสปาดาหมายเลข 5 ฟันหัวเลยทำให้ความจำเสื่อม กลายเป็นเด็กต๊อง ตาม ลูกน้องผู้ซื่อสัตย์อย่าง คอนโด้แจ๊ค และ เปสเช่ ชื่อดาบฟันวิญญาน“กามูซ่า” คำปลดปล่อย จงขับขาน
ดาบฟันวิญญาณ:กามูซ่า(อัศวินแอนทีโลป) คำปลดปล่อยดาบคือ "จงขับขาน" เมื่อปลดปล่อยดาบ จะมีลักษณะเป็นสิ่งมีชีวิตครึ่งคนครึ่งแอนทีโลป (สัตว์ชนิดหนึ่งคล้ายกับกวาง) ส่วนดาบจะกลายเป็นหอกแหลมสองด้าน

ลูปี
  อดีต หมายเลข6 ที่เป็นตอนที่กริมจอว์โดนฟันแขนขาด พอกริมจอว์ได้แขนคืนก็ใช้ซีโรฆ่าลูปีทันที คำปลดปล่อยของดาบฟันวิญญาณ "จงรัดพัน เทปาโดร่า"

 

อารันคาร์อื่นๆ

วอนเดอร์ไวซ์ มัลเจร่า
อาร์รันคาร์ผมเขียว ดูเหมือนจะสติไม่ค่อยดี มีดาบฟันวิญญาณขนาดใหญ่ห้อยอยู่ที่หลัง ชอบอยู่กับโทเซ็น และมีพลังกดดันวิญญาณระดับเอสปาดา และเมื่อพัฒนาพลังถึงขีดสุดแล้ว วอนเดอร์ไวซ์จะขยายร่างยักษ์ และสามารถต้านทาน ริวจินจักระของท่านเก็นริวไซได้

คอนโด้ ชัคเกอร์ (คอนโด้แจ๊ค)
เป็นฮอลโลว์ร่างใหญ่ หน้าตาหลอนสุดๆ ชอบพูดลงท้ายด้วย เด้อขรั่บเด้อ ผู้ที่วิ่งตามเร็นจิมาจนมาตกหลุมพรางของซาเอล อพอลโล่ แกรนท์ไปพร้อมกับเร็นจิ

  เปสเช่ กาตีเช่
ผู้ที่ตามอิชิดะมาในการสู้กับจิรุตจิ ใช้ไม้ตายอินฟินิตี้ สลิค(ลื่นไร้ขีดจำกัด)ใส่จิรุตจิจนจิรุตจิรู้สึกอับอายมากจึงปลดปล่อยดาบมาสู้กับอิชิดะและเปชเช่ทันที เปชเช่ชอบพูดเรียกอิชิดะผิดๆว่า อิจิโกะ

บาวาบาวา
สัตว์เลี้ยงขนาดยักษ์ของ เนล,คอนโด้แจ๊ค และ เปสเช่ 3 ฮอลโลว์ สุดต๊อง

  แกรนด์ ฟิชเชอร์
อารันคาร์ที่ฆ่ามาซากิ แม่ของอิจิโกะ เคยพ่ายแพ้ให้กับอิจิโกะครั้งหนึ่ง แต่หนีไปได้ ภายหลังต้องการกลับมาแก้แค้นแต่ก็ถูกอิชชินพ่อของอิจิโกะสังหารทิ้ง

  เทสล่า
ทหารรับใช้ส่วนตัวของนอยโทร่า ถูกเคมปาจิฆ่าตาย
ดาบฟันวิญญาณ:เวรูก้า(อัศวินเกราะเขี้ยว) คำปลดปล่อยดาบคือ "จงกระหน่ำให้ราบคาบ" เมื่อปลดปล่อยดาบ เขากลายเป็นอสูรขนาดใหญ่ มีเขี้ยวยาวราวกับหมูป่า

 

 

 

ฟราเชี่ยนของบารากัน (ทหารรับใช้ของบารากัน)

ชาร์ลอตเต้ คูลฮอร์น
อารันคาร์กระเทยถึก มีนิสัยหลงความงามของตนเองสุดๆ(ทั้งที่จริงรูปร่างหน้าตาเนี่ย ตรงกันข้ามกันเลย) พ่ายแพ้ให้กับยูมิจิกะ
ดาบฟันวิญญาณ:เรน่าเดโรซ่า(ราชินีเลอโฉมในอุทยานกุหลาบ) คำปลดปล่อยดาบคือ "จงเปล่งประกาย" เมื่อปลดปล่อยดาบ จะเปลี่ยนชุดจากเสื้อกางเกง เป็นเสื้อรัดติ้ว กระโปรงบานสั้น สวมมงกุฎที่หัว มีโรซ่าบลังก้า เป็นท่าไม้ตายสุดทรมาน

ฟินดอล
 อารันคาร์หนุ่มผมยาว สวมหน้ากาก เมื่อเขาทุบหน้ากากตัวเองแตกเมื่อไหร่ จะมีพลังเพิ่มมากขึ้น (ซึ่งพอหน้ากากแตกไปครึ่งหนึ่ง เขาจะมีพลังเทียบเท่ากับรองหัวหน้าหน่วยยมทูต พอหน้ากากแตกหมด มีพลังเทียบกับหัวหน้าหน่วยยมทูต) ชอบพูดว่า "เอ็คเซ็คต้า (ถูกต้อง)" คู่ต่อสู้ศึกล้มเสาเมืองคาราคุระปลอมของชูเฮย์
ดาบฟันวิญญาณ:พินซ่ากูด้า (ดาบซุ่มกระแสฟาดฟัน) คำปลดปล่อยดาบคือ "จงสลักเสลาบนผิวน้ำ" ร่างจะใกล้เคียงกับตอนไม่ปลดดาบ เพียงแต่ แขนทั้ง 2 ข้าง จะเปลี่ยนเป็นก้ามที่มีขนาดไม่เท่ากัน โดยแขนข้างขวาจะมีขนาดใหญ่กว่า

  อาบิรามะ
อารันคาร์หนุ่มสวมกะโหลกครอบ มีลายเต็มตัว คู่ต่อสู้ศึกล้มเสาเมืองคาราคุระปลอมของคิระ
ดาบฟันวิญญาณ:อากีล่า(อินทรีศึกเวหา) คำปลดปล่อยดาบคือ "จงกร่อนทำลายยอดภูผา" เมื่อปลดปล่อยดาบ จะกลายร่างเป็นสิ่งมีชีวิตครึ่งคนครึ่งนกอินทรี

โป
 อารันคาร์ร่างยักษ์ 1 ในทหารรับใช้ของบารากัน คู่ต่อสู้ศึกล้มเสาเมืองคาราคุระปลอมของอิคคาคุ สามารถล้มอิคคาคุได้ เนื่องจากยมทูตหัวโล้นไม่ยอมปลดปล่อยสวัสดิกะเข้าสู้ (และมีผลทำให้เสาเมืองคาราคุระจำลองล้มไป 1 เสา ก่อให้เกิดสภาวะคืนสภาพกลายเป็นเมืองคาราคุระจริง) แต่ก็พ่ายให้กับโคมามูระ
ดาบฟันวิญญาณ:คัลเดร่อน (ปลาวาฬแขนยักษ์) คำปลดปล่อยดาบคือ "จงพ่นลมหายใจ" ร่างของโป จะขยายใหญ่ยักษ์กว่าเดิม มีรูปร่างคล้ายกับปลาวาฬ

  จิโอเวก้า
อารันคาร์หนุ่มมาดเท่ห์ คู่ต่อสู้ของซุยฟง แต่ก็พลาดท่าโดนซึซึเมะบาจิของซุยฟงสังหาร
ดาบฟันวิญญาณ:ทิเกรสสตอร์ค (เขี้ยวพยัคฆ์ไต้ฝุ่น) คำปลดปล่อยดาบคือ "จงฉีกกระชากกัดกิน" เมื่อปลดปล่อยดาบ จะคล้ายๆร่างเดิมแต่มีลายพาดตรงลำตัว มีกรงเล็บติดอยู่ 2 ข้าง

นิร์เก้ ปาร์ดุ๊ค
 ฟราเชี่ยนคนอ้วนของบารากัน คู่ต่อสู้ของโอมาเอดะ
ดาบฟันวิญญาณ:มามูต (ทหารช้างยักษ์) คำปลดปล่อยดาบคือ "จงกระทืบให้แหลกลาน" เมื่อปลดปล่อยดาบ ร่างจะขยายยักษ์ มีโครงหน้ากลายเป็นช้าง

 

ฟราเชี่ยนของฮาริเบล (ทหารรับใช้ของฮาริเบล)

มิล่า โรส
อารันคาร์สาวทอมบอย นิสัยเลือดร้อน

อาปาซ
อารันคาร์สาวผมหยิกร่างถึก

  ซุนซุน
อารันคาร์สาวผมยาวเหยียดตรง ท่าทางผู้ดีมากกว่า 2 คนแรก

ฟราเซี่ยนทั้งสามตนนี้จะฉีกแขนซ้ายของแต่ละคน และรวมร่างกันกลายเป็นอสูรกาย คิเมร่า ปาลก้า มีหัวกะโหลกกวาง ไว้ผมยาว มีหางเป็นงู มีรูปร่างใหญ่ และ พละกำลังมหาศาล

ฟราเชี่ยนของกริมจอว์ (ทหารรับใช้ของกริมจอว์)

ลอรี่
อารันคาร์สาวทำผมทวินเทล นิสัยออกจะเกรียนๆ มักกลั่นแกล้งโอริฮิเมะ แต่สุดท้ายก็ตายด้วยน้ำมือของยามี่
ดาบฟันวิญญาณ:เอสโคโลเพนดร้า (คณิกาพิษร้อยสังหาร) คำปลดปล่อยดาบคือ "จงปลดปล่อยพิษ" เมื่อปลดปล่อยดาบ จะคล้ายๆร่างเดิมแต่จะเปลี่ยนแขนให้ยาวคล้ายกับลำต้นไม้เลื้อย มีความสามารถในการปลดปล่อยพิษ

เมโนรี่
อารันคาร์สาวผมสั้น ดูออกจะทอมบอย เคยตายด้วยน้ำมือของกริมจอว์มาก่อน และก็ถูกโอริฮิเมะใช้ความสามารถในการปฏิเสธเหตุการณ์ เธอจึงฟื้นคืนชีพอีกครั้ง แต่ไม่ตายถูกยามี่ฆ่าตายไปอีกคน

 

เอสปาด้าตกชั้น

ดอลโดนี่
เอสปาด้า เบอร์ 103 เป็นเอสปาด้าตนหนึ่งที่ถูกคัดให้เป็นอดีตเอสปาด้า ตอนสู้กับอิจิโกะก็แทบไม่ชักดาบเลย มีพลังดาบสายพายุสามารถพัดศัตรูให้กระเด็นได้ แต่ก็ต้องปราชัยให้กับอิจิโกะ
ดาบฟันวิญญาณ: ฮิรัลด้า(จ้าวแห่งสลาตัน) เมื่อปลดปล่อยแล้ว จะมีเขาขนาดใหญ่งอกจากไหล่ มีเขาหมุนเกลียวรอบขาทั้งสองข้าง ปล่อยพลังพายุขนาดใหญ่ มีลักษณะคล้ายหัวนกโจมตีศัตรู คำปลดปล่อยคือ จงพัดผัน

  จิรุตจิ ธันเดอร์วิซ
เป็นเอสปาด้าตกชั้นคนเดียวที่เป็นผู้หญิง มีดาบเป็นโยโย่ ซึ่งภายหลังเธอถูกไม้ตายเชเล่ ชไนเดอร์ของอิชิดะกำจัด
ดาบฟันวิญญาณ:โกลอนดรีน่า(กงล้อนางแอ่นเหล็ก) เมื่อปลดปล่อยแล้ว เธอจะมีปีกและแขนขนาดใหญ่ติดตัว ดูคล้ายๆแมลง สามารถลอยตัว โจมตีกลางอากาศด้วยปีก ซึ่งปล่อยออกมาเป็นใบมีดโจมตีคู่ต่อสู้ อีกทั้งยังมีหางช่วยโจมตีอีกด้วย คำปลดปล่อยคือ จงข่วนสะบั้น

กันเทนไบน์ มอสเคด้า
อารันคาร์สายบู๊ ไว้ทรงแอฟโฟร ร่างใหญ่พอกับแช้ด แถมสู้กับแช้ดได้สูสีมาก แต่ก็ถูกแช้ดโค่นได้
ดาบฟันวิญญาณ:ดรากุร่า เมื่อปลดปล่อยแล้วลักษณะออกคล้ายตัวนิ่ม แขนและไหล่ทั้งสองข้างจะมีเกราะขนาดใหญ่คลุมทั่ว มีกำปั้นเป็นหัวมังกร สามารถยิงพลังจากหมัดได้หลายรูปแบบ

 

 

ตัวละครอื่นๆ

ครอบครัวคุโรซากิ

 

คุโรซากิ อิชชิน

พ่อบ้าๆบอๆของอิจิโกะ เป็นหมอ ปกติแม้จะดูพึ่งพาไม่ค่อยได้ แต่แท้จริงแล้วเป็นอดีตยมทูตระดับหัวหน้าหน่วย 10 รวมถึง เป็นหัวหน้าของตระกูลชิบะ แห่ง โซลไซตี้ ซึ่งเขานั้น ก็รู้จักกับ อิชิดะ ริวเค็น และ อุราฮาร่า คิสึเกะ เป็นอย่างดี ในฐานะเป็นผู้ช่วยชีวิตมาซากิ (ที่ต่อมากลายเป็นแม่ของอิจิโกะ)

ภายหลังเป็นคนปราบ แกรนด์ฟิชเชอร์ ฮอลโลว์ที่สังหารมาซากิ ภรรยาของเขาลงได้ ซึ่งคุณพ่อยมทูตผู้นี้ เป็นคนแนะนำให้อิจิโกะ เข้าไปฝึกฝนกับซันเงสึอีกครั้ง เพื่อให้ได้พลังสุดยอดที่จะใช้ปราบไอเซ็น

คุโรซากิ มาซากิ

แม่ของอิจิโกะซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว โดยฝีมือของฮอลโลว์ แกรนด์ฟิชเชอร์ ซึ่งภายหลังได้เปิดเผยว่า แท้จริงแล้ว เธอเป็นควินซี่คนสุดท้ายของตระกูลคุโรซากิ และเคยเป็นถึงคู่หมั้นของ ริวเค็น พ่อของอิชิดะ ซึ่งต่อมาได้รับบาดเจ็บหนักจากการต่อสู้กับฮอลโลว์ ซะจนทำให้ อิชชิน ต้องสละพลังยมทูตของเขา เพื่อรักษาชีวิตของเธอ ซึ่งก็ทำให้เธอไม่มีพลังควินซี่หลงเหลืออีกต่อไป และนั่นทำให้เธอตัดสินใจใช้ชีวิตสร้างครอบครัวด้วยกันกับอิชชิน


คุโรซากิ ยูซึ
น้องสาวของอิจิโกะ มีความสามารถในการปฐมพยาบาลได้ มักเรียกกอนว่า บอสตาฟ เป็นแฟนตัวยงของ ดอน คันออนจิ ไม่มีพลังวิญญาณ


คุโรซากิ คาริน
น้องสาวของอิจิโกะ มีนิสัยห้าวๆเหมือนเด็กผู้ชาย นอกจากนี้ยังมีพลังในการเตะบอลสูง และชอบหาเรื่องคนอื่น แต่จริงๆแล้วก็เป็นคนที่อ่อนโยนคนนึง มีท่าไม้ตายคือ "ชู้ตปลิดชีพ สำนักคาริน" มีพลังวิญญาณอยู่บ้างเล็กน้อย จึงทำให้คารินเคยเห็นอิจิโกะในร่างยมทูตเป็นบางครั้ง แต่ภายหลังก็แน่ใจว่าพี่ชายตนคือ ยมทูต


ร้านอุราฮาร่า

 

อุราฮาร่า คิสึเกะ
ชายหนุ่มวัยกลางคนเจ้าของร้านขายของอุราฮาร่า แรกเริ่มเดิมทีเหมือนว่าเขาเป็นเพียงตัวกลางของโซลโซไซตี้ที่มาอาศัยอยู่บนโลกมนุษย์เท่านั้น แท้จริงแล้วเขาเป็นถึงอดีตหัวหน้าหน่วยที่ 12 ของโซลโซไซตี้ (ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเป็นนักสู้ลำดับ 3 ของหน่วย 2 ซึ่งมีโยรุอิจิ เป็นหัวหน้าหน่วยในขณะนั้น อีกทั้งเขายังเป็นหัวหน้าหน่วยพัสดี หน่วยย่อยที่ 3 ของหน่วยลับ ทำหน้าที่ควบคุมนักโทษในเซย์เรย์เทย์) เขาถูกเนรเทศออกมาตลอดกาลเพราะไปสร้าง โฮเคียคุ ขึ้นมา นอกจากนี้แล้วเขายังมีความลับอีกมากมายแต่ก็มีบางอย่างที่แน่ชัดก็คือ ฝีมือดาบของเขานั้นขึ้นชื่อมากในโซลโซไซตี้ , เขามีความสามารถทางด้านวิทยาการ(แบบโซลโซไซตี้)อยู่ในระดับสูง , เขารู้จักกับอิชชินมาก่อน และอาจจะรู้จักกับอิชิดะ ริวเคน ผู้เป็นพ่อของอุริวก็เป็นได้ อีกทั้งเขาเป็นคนสอนอิจิโกะให้ใช้ท่า โซ่สวรรค์ทะลวงจันทรา อิจิโกะมักเรียกเขาว่า เจ้าหมวกเกี๊ยะ เพราะเขาชอบสวมหมวกเกี๊ยะตลอดเวลา

ดาบฟันวิญญาณ:เบนิฮิเมะ ตรงส่วนที่งอเหมือนไม้เท้าจะเปลี่ยนแบบไป สามารถยิงพลังสีแดงเหมือนเลือด และสร้างโล่โลหิตหมอกแดงมาป้องกันตัวได้
คำปลดปล่อยดาบ:จงตื่น, จงร่ำร้อง

สึคาบิชิ เท็ตไซ
ชายวัยกลางคนผู้มีเอกลักษณ์ชอบผูกผ้ากันเปื้อนตลอดเวลา ทำงานอยู่ในร้านของคิสึเกะ มีความสามารถในการใช้วิถีมารได้หลากหลาย และคอยช่วยอุราฮาร่าในการฝึกเหล่าอิจิโกะและเพื่อนอยู่เสมอ ในอดีตเคยเป็นหัวหน้าหน่วยวิถีมาร

สึมุงิยะ อุรุรุ
เด็กสาวที่ทำงานอยู่ในร้านของคิสึเกะ มักถูกจินตะแกล้งประจำทั้งๆที่แก่กว่าจินตะ 3 ปี มีความรู้สึกไวต่อฮอลโลว์สูง มีอาวุธประจำกายคือ ปืนใหญ่ และยังเป็นฮีโร่ในนาม "คาราคุระ พิงค์" อีกด้วย

ฮานาคาริ จินตะ
เด็กชายที่ชอบอู้งานในร้านของคิสึเกะ มักชอบแกล้งอุรุรุเสมอ มีท่าไม้ตายคือ จินตะโฮมรัน และเป็นฮีโร่ในนาม "คาราคุระ เรด" ร่วมกับคารินอีกด้วย

ชิโฮอิน โยรุอิจิ
หญิงสาวผิวแทน ผู้ได้รับสมญานาม "เท็นชิ เฮย์ โซบัง" เจ้าหญิงแห่งตระกูลชิโฮอิน และ "เทพพริบตาโยรุอิจิ" เธอเป็นผู้นำตระกูลชิโฮอิน 1 ใน 4 ตระกูลขุนนางชั้นสูง และยังเป็นอดีตหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการลับของโซลโซไซตี้ ภายหลังถูกถอดถอนเนื่องจากช่วยอุราฮาร่า คิสึเกะหลบหนี ปัจจุบันใช้ร่างแมวเพื่ออำพรางร่างที่แท้จริง

 

เพื่อนร่วมห้องของอิจิโกะ

 

อาริซาว่า ทัตสึกิ
เพื่อนร่วมชั้นและเพื่อนสมัยเด็กของอิจิโกะ นอกจากนี้ยังเป็นเพื่อนสนิทของโอริฮิเมะ เป็นทอมบอยที่มีความสามารถทางการต่อสู้สูง ว่ากันว่าเธอเป็นเด็กผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่สุดอันดับ 2 ในญี่ปุ่นเลยทีเดียว เเละยังเเอบชอบตัวเอกของเรื่องอยู่ด้วย เธอได้รับพลังวิญญาณจนทำให้สามารถมองเห็นวิญญาณได้ ตอนที่ถูกทำร้ายโดยฮอลโลว์ที่เป็นพี่ชายของโอริฮิเมะในตอนแรกๆ

  อาซาโนะ เคย์โงะ
เพื่อนของอิจิโกะที่ชอบทำตัวบ้าๆบอๆ มีพี่สาวชื่อ อาซาโนะ มิซึโฮะ และเคย์โงะชอบลูเคียแบบเปิดเผยด้วย

โคจิมะ มิซึอิโระ
เด็กหนุ่มที่เป็นเพื่อนสนิทของเคโงะ งานอดิเรกคือหลีหญิงที่โตกว่า ชอบคิดว่าอิจิโกะกับลูเคียเป็นแฟนกัน

ฮอนโช จิซึรุ
สาวเลสเบี้ยนที่หลงรักโอริฮิเมะ โดนทัตซึกิอัดเป็นประจำ

โองาวะ มิจิรุ
สาวตัวเล็กแอบชอบอิชิดะ มักขอให้อิชิดะเย็บตุ๊กตาให้เสมอๆ

คุนิเอดะ เรียว
สาวผมยาวมือ1ชมรมกรีฑาปีหนึ่ง ระยะ100เมตร

 

ตระกูลชิบะ

 

ชิบะ ไคเอ็น (ดู ชิบะ ไคเอ็น)

ชิบะ คูคาคุ
น้องสาวของชิบะ ไคเอ็น และเป็นพี่สาวจอมโหดของ ชิบะ กันจู อีกที เป็นคนสร้างปืนใหญ่คาคาคุ ถึงเธอจะแขนด้วน ต้องสวมแขนเทียมแทน แต่เป็นคนที่เชี่ยวชาญเรื่องวิถีมาร และเป็นคนคอยแนะนำวิธีการสร้างลูกแก้วประจุวิญญาณให้กับพวกของอิจิโกะเข้าสู่เซเรเทย์ และเธอก็เป็นหนึ่งในตัวละครสาวอึ๋มอันดับต้นๆในเรื่อง

ชิบะ กันจู
เป็นน้องของ ชิบะ คูคาคุ และเป็นคนพาพวกอิจิโกะเข้าไปในเซเรเทย์ เขากับอิจิโกะมักจะชอบกัดกันเป็นประจำ ถึงจะเป็นอย่างงั้น แต่เขาก็คอยช่วยเหลืออิจิโกะอยู่ตลอด และเคยแค้นลูเคีย ผู้ที่เคยสังหารไคเอ็น พี่ชายของตน มีวิชาคลื่นหินที่สามารถเปลี่ยนของโดยรอบเป็นทรายได้

อื่นๆ

 

  คันออนจิ มิซาโอมารุ
หรือ ดอน คันออนจิ ชายผู้อ้างว่าตนเห็นวิญญาณ เขาทำรายการวิญญาณสัญจรที่จะไปสำรวจดูวิญญาณทั่วประเทศญี่ปุ่น แล้วตอนที่ไปเมืองคาราคุระก็ไปพบอิจิโกะ และได้ช่วยกับอิจิโกะต่อสู้ปราบฮอลโลว์สำเร็จ แล้วก็บอกว่าอิจิโกะเป็นลูกศิษย์หมายเลข 1 ของตน
ในภายหลัง คันออนจิได้มาร่วมมือกับจินตะ อุรุรุ ยูซึ และคาริน ซึ่งมาปราบฮอลโลว์ในนาม "คาราคุระ ฮีโร่"

คุจิกิ ฮิซานะ
ภรรยาของเบียคุยะ และเป็นพี่สาวของลูเคีย เธอเสียชีวิตจากโลกมนุษย์มาอยู่ที่โซล โซไซตี้พร้อมกับลูเคีย หากแต่ด้วยร่างกายที่อ่อนแออยู่เดิมของเธอ ทำให้ไม่อาจรับภาระเลี้ยงลูเคียได้ เธอจึงต้องทิ้งลูเคียไป และเมื่อเธอเข้ามาสู่ตระกูลคุจิกิได้นานหลายสิบปีต่อมา ร่างกายของเธอก็เกินที่จะทนอยู่ไหว ก่อนที่จะเสียชีวิตเธอขอร้องให้เบียคุยะตามหาน้องสาวของตน และรับเธอเป็นน้องสาวด้วย เพื่อแทนกับสิ่งที่เธอทำกับลูเคียไว้ในอดีต

อิโนอุเอะ โซระ
พี่ชายของโอริฮิเมะที่เลี้ยงดูโอริฮิเมะมาตั้งแต่เด็ก แต่ได้เสียชีวิตไปด้วยอุบัติเหตุทางจราจร ทว่าดวงวิญญาณของเขาก็ยังคงตามคุ้มครองโอริฮิเมะ แต่เมื่อได้เห็นว่าโอริฮิเมะเริ่มหันไปคบหาเพื่อนฝูงจนหลงลืมตนเอง ก็ทำให้ความเหงาและความเศร้าเข้าครอบงำจนกลายเป็นฮอลโลว์ และกลับมาทำร้ายโอริฮิเมะที่โลกมนุษย์

อิชิดะ โซเค็น
ปู่ ของ อิชิดะ อุริว และเป็น อาจารย์ ด้วย เขาถูก ฮอลโล่ ฆ่าตาย แต่แท้จริงแล้ว คุโรซึจิ มายูริ เป็นคนขอให้ ยมทูตไปช่วยอย่างล่าช้า ทำให้ อิชิดะ โซเค็น เสียชีวิต เพื่อจะนำวิญญาณไปวิจัยเกี่ยวกับควินชี่

อิชิดะ ริวเค็น
เป็นพ่อของ อิชิดะ อุริว และถึอว่าเป็นควินชี่คนสุดท้าย นอกจากนี้ยังเป็นคนช่วยฟื้นพลังควินชี่ให้ อิชิดะ อุริว อีกด้วย


 รายชื่อนักพากย์ไทยในบลีช เทพมรณะ....โดยทีมพากย์ ROSE

ชื่อ
ให้เสียงตัวละคร
1.ฉันทนา ธาราจันทร์ ทัตซึกิ,ฮิซึกายะ,รันงิคุ,โยรุอิจิ(คน),จินตะ
2.ศรีอาภา เรือนนาค โอริฮิเมะ,คาริน,อุรุรุ,นานาโอะ,ริสะ,จิรุตจิ
3.สุพิชฌาย์ พานประทีป ยูสึ,คูคาคุ,อุโนฮานะ,อิซาเนะ,ฮินาโมริ,เนม,ริริน,จิซึรุ,มาชิโระ,ลูปี
4.ศันสนีย์ ติณห์กีรดีศ
(ตั้งแต่ภาคอารันคาร์)
ลูเคีย,ยาจิรุ,ฮิโยริ,ฮินาโมริ(ภาคอารันคาร์),เนลิเอล
5.สุภาพ ไชยวิสุทธิกุล อิจิโกะ,ยามาโมโตะ เก็นริวไซ,มายูริ,ไคเอ็น
6.ธวัช รัตตะชัย เร็นจิ,เคย์โงะ,โคมามูระ,เคมปาจิ,อิจิโนเสะ,อุลคิโอร่า
7.หฤษฏ์ ภูมิดิษฐ์ อุคิทาเกะ,งิน,โอมาเอดะ,ยูมิจิกะ,มิซึอิโระ,คาริยะ,เท็ตไซ,ยามี่,เลิฟ
8.อรุษ โรจนานันท์ ซาโดะ(แช้ด),เบียคุยะ,คิระ,อิบะ,โนบะ,โยรุอิจิ(แมว),อิชชิน,ฮาจิเก็น
9.กริน อักษรดี อิชิดะ,อุราฮาร่า,กันจู,โทเซ็น,ชูเฮย์,กริมจอว์ ,เคนเซย์ ,โรส
10.ภคภูมิ ลิ้มมานะสถาพร กอน,ดอน คันออนจิ,ซันเงสึ,ฮานาทาโร่,ไอเซ็น,เคียวราคุ ,อิคคาคุ,คุโรโดะ,ฮิราโกะ

นิยามศัพท์ในบลีช

   ลักษณะตัวละคร และ สถานที่


  มนุษย์
  มนุษย์ปกติธรรมดาที่ดำเนินชีวิตประจำวันเหมือนกันกับโลกแห่งความเป็นจริง ทุกคนจะอาศัยกายหยาบเพื่อการมีชีวิต วิญญาณกับกายหยาบจะเชื่อมต่อกันด้วย "โซ่แห่งผลกรรม" ที่จะติดอยู่ที่ส่วนอกของวิญญาณกับกายหยาบ และถ้ามีมนุษย์คนใดได้รับผลกระทบจากการกระทำของวิญญาณ ก็อาจจะไปกระตุ้นพลังวิญญาณในตัวของเขาจนสามารถมองเห็นวิญญาณได้ หรืออาจจะมีพลังพิเศษจากพลังวิญญาณได้เช่นกัน

  วิญญาณ
  เมื่อมนุษย์ตาย วิญญาณเหล่านี้ก็จะเร่ร่อนไปตามสถานที่ที่คุ้นเคย ปรากฏให้เห็นเป็นร่างมนุษย์ โดยโซ่แห่งผลกรรมที่หน้าอกจะขาดออกจากกายหยาบ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "พลัส (Plus)" และตราบใดที่ยังไม่มียมทูตมาพิพากษา พวกเขาก็จะวนเวียนไปเรื่อยๆ และวิญญาณเหล่านี้จะมีตัวตนอยู่ในระดับหนึ่งซึ่งในบางครั้งสามารถสัมผัสได้

  วิญญาณดัดแปลง
หรือ มอดโซล เป็นวิญญาณสังเคราะห์ขึ้นจากการค้นคว้าทดลองของนักวิทยาศาสตร์โซลโซไซตี้เช่นกัน โดยออกมาในรูปของเม็ดยาเช่นกัน โดยเอาไปไว้ในร่างของมนุษย์ที่เสียชีวิตไปแล้ว เพื่อเป็นกองทหารต่อกรกับเหล่าฮอลโลว์ซึ่งมีมากเกินกว่าที่ยมทูตจะปราบได้หมด ซึ่งมอดโซลที่สิงในร่างมนุษย์นั้นจะมีความแข็งแกร่งมากกว่าคนธรรมดา แต่ต่อมาแผนดังกล่าวก็ถูกล้มเลิก ทำให้มอดโซลจึงถูกทำลายไปจำนวนมาก ซึ่ง กอนก็เป็นหนึ่งในมอดโซลที่รอดพ้นจากการถูกทำลายไปได้

  ในฉบับอนิเม มีตัวละครที่เป็นมอดโซลเหมือนกับกอน ได้แก่ ริริน,คุโรโดะ,โนบะ ซึ่งทั้งสามนั้นถูกสร้างขึ้นมาโดย อุราฮาร่า

  ฮอลโลว์(Hollow)
  วิญญาณที่โซ่กรรมขาดทำให้เกิดการรุกกินจนหน้าอกเป็นรู ในที่สุดก็จะกลายร่างเป็นอสูรกาย ฮอลโลว์ทุกตนจะมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป แต่ทุกตัวจะสวมหน้ากากไว้เพื่อปิดบังใบหน้าของตนแ และส่วนอกที่จะถูกแทนที่ด้วยรูกลวงสัญลักษณ์ของการเสียดวงจิต(เป็นที่มาของชื่อฮอลโลว์) เหล่าฮอลโลว์จะกินวิญญาณธรรมดาและวิญญาณของคนที่มีพลังวิญญาณสูง ซึ่งทำได้แม้แต่การฆ่าคนเพื่อเอาวิญญาณมาดับความหิวกระหาย ไม่ก็ดับความทรมาณของตนเอง โดยเหล่าฮอลโลว์แม้คนธรรมดาจะมองไม่เห็น แต่ก็มีตัวตนสัมผัสได้ โลกที่เหล่าฮอลโล่ว์มารวมกันและอาศัยอยู่คือ "ฮูเอโก้ มุนโด้" ส่วนฮอลโลว์ชั้นสูงจะถูกเรียกว่า "เมนอส" ซึ่งในหมู่เมนอสเองแล้ว ก็สามารถแบ่งได้อีก 3 ประเภทเช่นกัน คือ

  กิลเลียน เมนอสที่พวกอิจิโกะเรียกกันว่า "เมนอสกรังเด้" นั้นแท้จริงแล้วคือพวก "กิลเลียน" เป็นเมนอสชั้นต่ำที่สุด ร่างใหญ่ เคลื่อนไหวช้า มีปัญญาราวกับสัตว์ป่าเท่านั้น
แอดจูคาส เมนอสที่มีขนาดเล็กกว่ากิลเลียน มักเป็นผู้นำฝูงของกิลเลียน และมีขนาดเล็กกว่า ฉลาดกว่า
วาสโทรเด้ เมนอสชั้นสูงสุด มีขนาดเท่ากับมนุษย์ มีจำนวนน้อย รวมทั้งหมดในฮูเอโก้ มุนโด้ มีอยู่ไม่กี่ตนเท่านั้น

   ยมทูต (Shinigami)
   เป็นผู้ปกครองโซลโซไซตี้ ทำหน้าที่ควบคุมปริมาณวิญญาณที่ถ่ายเทระหว่างโลกมนุษย์กับโซลโซไซตี้ อีกทั้งยังทำหน้าที่ ส่งพลัสไปยังโซลโซไซตี้ และการกำจัดฮอลโลว์ ตัวชินิกามิเองนั้นเป็นวิญญาณ ด้วยเหตุนี้คนธรรมดาไม่สามารถมองสัมผัสได้ (เว้นมนุษย์ที่มีประสาทสัมผัสพิเศษ) หากแต่สัมผัสชินิกามิได้ในบางครั้ง ชินิกามิทุกตนมีร่างเป็นมนุษย์ สวมชุดฮากะมะสีดำเป็นเครื่องแบบและมีอาวุธประจำกายเรียกว่า ซัมปาคุโต "ดาบฟันวิญญาณ" สำหรับใช้การต่อสู้ นอกจากนี้ ชินิกามิยังสามารถใช้คิโด "มนต์ดำ", "วิถีมาร" ในการต่อสู้ได้อีกด้วย เเละสำหรับระดับหัวหน้าแล้วยังมีการ"ปลดปล่อยสวัสดิกะ" หรือ บังไค โดยการเรียกชื่อดาบของตน

  วิชาการต่อสู้ของยมทูต
  - วิชาดาบ (Zanjutsu)
  - วิถีมาร (Kidou) แบ่งเป็น
    - วิถีพิฆาตหรือวิถีทำลาย (Hadou)
    - วิถีผนึก หรือ วิถีพันธนาการ(Bakudou)
  -  ก้าวพริบตา (Hohou)
  -  การต่อสู้ด้วยมือเปล่า (Hakuda)
  - ชุนโค วิชาที่เอาวิถีมาร กับ การต่อสู้ด้วยมือเปล่ามาผสมกัน เป็นท่าของ โยรุอิจิ กับ ซุยฟง

  ควินซี่(Quincy)
  ตระกูลนักปราบมารที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วโลก คอยฝึกฝนตัวเองเป็นพิเศษเพื่อให้สามารถต่อสู้กับฮอลโลว์ได้ นอกจากนี้ ควินซี่สามารถดึงอณูวิญญาณรอบๆตัวมาใช้ในการต่อสู้ได้ ซึ่งต่างจากยมทูตที่ดึงเอาพลังวิญญาณของตัวเองมาใช้ในการต่อสู้ เนื่องจากเจตนาของควินชี่ในการกำจัดฮอลโลว์ที่ต่างกันกับเหล่ายมทูต เพราะว่า ควินชี่มุ่งที่จะสังหารฮอลโลว์เท่านั้น ไม่เหมือนกับยมทูตที่ส่งวิญญาณฮอลโลว์ไปสู่โซลโซไซตี้ ทำให้เกิดเหตุการณ์กวาดล้างควินซี่โดยยมทูติ ทำให้ควินซี่ตายไปจนเกือบหมด ปัจจุบันเหลือเพียงแค่ตระกูลอิชิดะเท่านั้นที่ยังคงทำหน้าที่ควินซี่ต่อไป

  วิชาการต่อสู้ของควินซี่
  - ธนู รวบรวมอณูวิญญาณ แล้วควบแน่นด้วยพลังกดดันวิญญาณ และยิงจู่โจม ออกไปเป็นธนู
  - เท้าเหิร คล้ายกับก้าวพริบตาของยมทูต
  - Seele Schneider เป็นอุปกรณ์รวบรวมพลังกดดันวิญญาณ เป็น "ลูกศร" ที่มีพลังสูงกว่าลูกศรอณูวิญญาณทั่วไป
  -Sprenger การวาดดาวห้าแฉก ใช้การประสานของ ซีเล่ ชไนเดอร์ กับ หลอดเงินทำลายทุกอย่างที่อยู่ในรัศมีของมัน

  อารันคาร์(Arrancar)
  เหล่าฮอลโล่ว์ที่ถอดหน้ากากและได้รับพลังยมทูต กลายเป็นฮอลโลว์ที่มีทั้งความสามารถของทั้งฮอลโลว์และยมทูต เหล่าอารันคาร์จะมีหน้ากากที่ถอดออกไปส่วนหนึ่งทำให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงในระดับหนึ่ง และจะอยู่ในร่างที่เกือบจะเป็นมนุษย์(แต่จะเป็นร่างมนุษย์แบบสมบูรณ์ถ้าเป็นร่างแปลงของฮอลโลว์ระดับสูง)และยังคงมีรูกลวงตรงกลางอยู่เช่นเดิม เหล่าอารันคาร์จะสวมชุดเสื้อคลุมสีขาว และจะมีดาบฟันวิญญาณเช่นเดียวกับยมทูต การปลดปล่อยดาบของอารันคาร์ คือการกลับคืนสู่ร่างที่แท้จริงและมีพลังเพิ่มขึ้นจากเดิมหลายสิบเท่า

  เดิมทีอารันคาร์มีจำนวนน้อยแต่เดิม และเป็นร่างที่ไม่สมบูรณ์ แต่เมื่อได้รับพลังจากโฮเงียวคุของไอเซ็น อารันคาร์จึงพัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด จนถึงระดับสมบูรณ์แบบ

  อารันคาร์ที่ถูกคัดเลือก 10 ตน จะถูกเรียกว่า เอสปาด้า ( Espada) เเละจะมีอำนาจปกครอง อารันคาร์ด้วยกันเอง เอสปาด้าเเต่ละตนจะ มีวังอยู่ใน วาสโนเชส ซึ่งเเต่ล่ะวังจะล้อมรอบวังของไอเซ็นเอาไว้ พวกที่ถูกถอดออกจากเอสปาด้าจะกลายเป็น พีวารอน เอสปาด้า (เอสปาด้าตกชั้น) ที่จะอยู่ในกำเเพงด้านนอกของวาสโนเชส

  วิชาการต่อสู้ของอารันคาร์
  - Cero(ซีโร่) หรือลำแสงศูนย์ ซีโร่ เป็นวิชาพื้นฐานหลักของพวกอารันคาร์(ที่เปลี่ยนผ่านมาจาก ฮอลโลว์ชั้น เมนอส กรังเด้) สามารถปล่อยซีโร่ออกมาตามส่วนต่างๆของร่างกาย เอสปาด้า จะมีซีโร่ที่รุนแรงยิ่งขึ้น เรียกว่า Grand Rei Cero หรือ ลำแสงศูนย์มหาราชันย์
  - Sonido(ท่าเท้าความเร็วเสียง) คล้ายกับวิชา "ก้าวพริบตา" ของยมทูต หรือ "เท้าเหิร" ของควินซี่
  - Resurreccion การปลดปล่อยดาบฟันวิญญาน'ของอารันคาร์

  ไวเซิร์ด(Vizard)
  เหล่ายมทูตที่นำเอาพลังฮอลโลว์มาเสริมให้กับตนเองทำให้มีพลังที่ก้าวล้ำเหนือกว่ายมทูตทั่วๆไป โดยเหล่าไวเซิร์ดมีความสามารถในการดึงเอาหน้ากากฮอลโลว์มาสวมยามที่ต้องการใช้พลังฮอลโลวได้ และยังคงมีดาบฟันวิญญาณแบบยมทูตอยู่เช่นเดิม เหล่าไวเซิร์ดถูกขับไล่จากโซลโซไซตี้มานานหลายร้อยปีแล้ว เพราะถือว่ามีความเกี่ยวข้องกับฮอลโลว์
  
  พวกไวเซิร์ดในอดีต เคยเป็นถึงหัวหน้า รองหัวหน้าหน่วย ในโซลโซไซตี้ แต่พวกเขากลับกลายเป็นหนูทดลองของไอเซ็น ให้ยมทูตกลายเป็นฮอลโลว์ แม้การทดลองดูเหมือนจะล้มเหลวแต่ก็ได้ผลตามที่ไอเซ็นต้องการ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้อุราฮาร่า ถูกเนรเทศออกจากโซลโซไซตี้มาอยู่ที่โลกมนุษย์(ทั้งๆที่โดนเข้าใจผิด) ซึ่งอุราฮาระใช้โฮเงียคุ รักษาไวเซิร์ดให้คงสติไว้ได้

  Bount
  ปรากฏเฉพาะในอนิเมเท่านั้น โดยปรากฏตัวตั้งแต่เหตุการณ์หลังจากจบภาคโซล โซไซตี้ เบาต์เป็นเผ่าพันธุ์ที่ถือกำเนิดขึ้นจากความผิดพลาดในการทดลองสร้างชีวิตนิรันดร์ของกองวิทยาการแห่งโซลโซไซตี้ วิญญาณที่หลุดรอดไปที่โลกมนุษย์ในตอนนั้นจึงเกิดเป็น Bount ซึ่งมีชีวิตที่ยืนยาวจากการดูดกินวิญญาณมนุษย์เป็นอาหาร และสามารถต่อสู้ได้โดยใช้ "Doll" ซึ่งคล้ายคลึงกับการใช้ดาบฟันวิญญาณของยมทูต และมีความสามารถหลากหลายกันไป แตเมื่อ Doll ตาย Bount ที่เป็นเจ้าของก็จะต้องตายตามไปด้วยเช่นกัน


   โซลโซไซตี้
   กรรมที่คนคนหนึ่งทำขณะมีชีวิตเป็นตัวกำหนดที่ที่วิญญาณของคนคนนั้นจะไปหลังความตาย วิญญาณของคนดี จะถูกส่งไปที่ โซล โซไซตี้ (Soul Society) ซึ่งคนโดยทั่วไปเรียกว่า "สวรรค์" ส่วนฮอลโลว์ที่ถูกทำลายด้วยดาบฟันวิญญาณ ดาบฟันวิญญาณจะชำระบาปที่ทำไปในระหว่างเป็นฮอลโลว์ให้ หากก่อนตายเป็นคนดีก็ไปโซลโซไซตี้ หากเป็นคนชั่วจะถูกส่งไปยังนรก โซลโซไซตี้ ต่างกับสวรรค์ตรงที่เป็นชุมชนของวิญญาณที่มีสภาพสังคมคล้ายกับประเทศญี่ปุ่นสมัยโบราณ

   โซลโซไซตี้ทำหน้าเป็นที่พักของวิญญาณก่อนที่จะไปเกิดเป็นมนุษย์ใหม่อีกครั้ง แบ่งเขตเป็น 2 เขตใหญ่คือ "ลูคอนไก" เป็นสถานที่อาศัยของวิญญาณเร่ร่อน ซึ่งมีเขตการปกครองทั้งหมด 320 เขต แบ่งย่อยออกเป็นทิศละ 80 เขต ซึ่งตัวเลขที่ยิ่งมาก หมายถึงความปลอดภัยที่น้อยลงตามไปด้วย กับ "เซเรยเทย์" ที่อยู่กึ่งกลางของโลกโซลโซไซตี้ ซึ่งเป็นที่อาศัยของเหล่ายมทูตและตระกูลขุนนางในโซลโซไซตี้ พวกที่ไม่ใช่ยมทูตแต่ทำการบุกเข้ามาในเขตของเซยเรเทย์โดยไม่ได้รับอนุญาตจะถูกเรียกว่า "เรียวกะ" ซึ่งหากทาง 13 หน่วยพิทักษ์สามารถควบคุมตัวไว้ได้ เรียวกะจะถูกนำไปพิพากษาโทษหนักหรือเบาตามความผิดที่ได้ก่อไว้กับทางเซเรย์เทย์

  โซลโซไซตี้ เป็นมิติที่ประกอบด้วยอนูวิญญาณเป็นพื้นฐาน ไม่ว่าสิ่งก่อสร้าง ต้นไม้ ก้อนหิน หรือพื้นดิน ดังนั้นวิญญาณที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้จึงอยู่ในสภาพของสิ่งมีชีวิตที่มีอนูวิญญาณเป็นพื้นฐาน คล้ายคลึงกับโลกที่มีอนุภาคต่างๆ เป็นพื้นฐานของมวลสารนั่นเอง วิญญาณจึงมีอวัยวะมีเลือดเฉกเช่นเดียวกับร่างกายมนุษย์ต่างกันเพียงอนุภาคมูลฐานเท่านั้น

  นรก
  สถานที่ซึ่งวิญญาณที่มีบาปในจิตใจจะต้องไป ในเรื่องเทพมรณะนี้ เมื่อเหล่าวิญญาณบาปที่กลายสภาพเป็นฮอลโล่ว์ได้รับการปลดปล่อยแล้ว ประตูนรกก็จะมาปรากฏและดึงวิญญาณดวงนั้นลงสู่ขุมนรกในทันที เพราะดาบฟันวิญญาณของยมทูตจะชำระบาปที่ทำระหว่างเป็นฮอลโลว์ให้เท่านั้น(บาปหลังความตาย) ไม่ได้ชำระบาปที่ทำขึ้นในระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่

  ฮูเอโก้ มุนโด้
  เป็นโลกที่ซึ่งเหล่าฮอลโล่ว์จำนวนมากเข้ามาอาศัยรวมกันอยู่ ลักษณะของพื้นที่เป็นทะเลทรายสีขาวและขุนเขาน้อยใหญ่กระจายอยู่ทั่ว และปรากฏดวงจันทร์บนฟ้าอยู่ตลอดซึ่งจะแตกต่างจากดวงจันทร์ของโลกโดยสลับซ้ายขวาเหมือนส่องกระจก และบรรยากาศของที่นี่จะมืดสลัวโดยตลอด โดยเมื่อเหล่าฮอลโล่ว์จะเดินทางมายังโลก ก็จะใช้วิธีฉีกห้วงมิติออกมา โดยมี ลาส์ นอเช่ คือสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุด และเป็นที่พำนักของเหล่าเอสปาด้า

 

   ไอเท็มพิเศษ

  ซัมปาคุโต (ดาบฟันวิญญาณ)
  อาวุธที่จะขาดไปไม่ได้เลยสำหรับเหล่ายมทูต ซัมปาคุโตจะแตกต่างจากดาบธรรมดา ตรงที่ ดาบแต่ละเล่มนั้นสามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้สามแบบ คือ

 
 1.เป็นดาบคะตะนะธรรมดา (คล้ายกับซามูไร) ซัมปาคุโตเกือบทุกเล่มจะคล้ายๆกัน
  
2.ชิไค (Shikai) ซึ่งซัมปาคุโตทุกเล่มจะแสดงลักษณะเฉพาะตัวของมัน ชิไคของชินิกามิส่วนใหญ่เป็นอาวุธมือที่มีรูปร่างเฉพาะตน บ้างคงรูปดาบญี่ปุ่น บ้างคล้ายดาบจีน บ้างคล้ายดาบเซเบอร์ บ้างเป็นหอก บ้างเป็นมีด เป็นต้น นอกจากนี้ ชิไคแต่ละเล่มยังมีพลังโจมตีเฉพาะตัว เช่น พ่นลูกไฟ พ่นน้ำแข็ง ยึดยาวได้ เป็นต้น
  
3.บังไค (Bankai) หรือ ปลดปล่อยสวัสดิกะ เป็นรูปแบบขั้นสุดยอดของซัมปาคุโต บังไคมีรูปร่างไม่แน่นอน เช่น บังไคของชินิกามิบางตนเป็นกระดูกงูขนาดยักษ์ บางตนเป็นดาบเล็กๆ นับพันเล่ม บางตนเป็นหุ่นขนาดยักษ์ หรือแม้แต่ดาบซามูไรธรรมดาๆ แต่เพิ่มความเร็ว พลังของผู้ใช้ เป็นต้น บังไคเป็นรูปแบบที่มีพลังโจมตีสูงและสามารถใช้ท่าไม้ตายที่มีความรุนแรงมากได้ มีชินิกามิน้อยตนนักที่สามารถบรรลุบังไคของตัวเอง ผู้ที่ปลดปล่อยบังไคได้เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์เป็นยมทูตในระดับ หัวหน้าหน่วย ใน 13 หน่วยพิทักษ์

  นอกจากนี้ พวกอารันคาร์ก็ใช้ดาบฟันวิญญาณเหมือนกัน ต่างกันตรงที่ การปลดปล่อยดาบของพวกอารันคาร์จะมีอยู่ขั้นเดียว(ยกเว้นอุลคิโอร่า ที่สามารถปลดปล่อยได้ 2 ขั้น) เรียกว่า Resurreccion เมื่อปลดปล่อยดาบแล้ว ผู้ใช้จะมีลักษณะกลับคืนสู่ร่าง เดิม(หรือ กึ่งร่างเดิม) แต่มีพละกำลังมากขึ้น

  ** การปลดปล่อยดาบขั้นสองของอารันคาร์ เรียกว่า "รีเซอเร็คชั่น เซกุนด้า เอต้าป้า"

  โซเคียคุ
   ง้าวขนาดยักษ์ ที่ตั้ง ณ ลานประหาร มีพลังราวกับดาบฟันวิญญาณหลายร้อยเล่ม เมื่อปลดปล่อยดาบออกไป กลายเป็น "คิโคโอ" นกฟินิกซ์ไฟขนาดยักษ์ พุ่งเข้าไปทะลุร่างนักโทษที่กำลังจะถูกประหาร

  ยาถอดวิญญาณ (Soul Candy)
  เป็นยาที่ถอดวิญญาณออกจากกายหยาบ ทำออกมาในลักษณะลูกกวาด เรียกว่า Soul Candy เนื่องจากสมาคมยมทูตสตรีเห็นว่า ชื่อ ยาถอดวิญญาณ มันไม่น่ารัก มีบรรจุภัณฑ์หลายรูปแบบ แบบนิยมมากที่สุดคือกระต่ายจัปปี้

  กายหยาบ
  กายเทียมที่ถูกสร้างขึ้นสำหรับยมทูตที่มีพลังต่ำ

  เซ็นไกมง
  ประตูผ่านมิติไปยังโซลโซไซตี้ สำหรับมนุษย์ธรรมดานั้น เมื่อผ่านประตูนี้ จะได้รับการเปลี่ยนถ่าย ให้กลายเป็นวิญญาณ

  ซันเรย์ชูโต
  ถุงมือสะสมพลังอนูวิญญาณของพวกควินซี่ เพื่อก้าวข้ามเหนือระดับควินซี่ทั่วไป ผู้ที่สวมมันห้ามถอดถุงมือนี้เป็นอันขาด หากถอดถุงมือนี้ ผู้ใช้จะมีพลังมหาศาล แต่ต้องแลกกับการสูญเสียพลังควินซี่ไป

   เท็นชินไต
  (ในฉบับแปลไทยเป็น เด็นชินไต) หุ่นจำลองของเหล่ายมทูต เพื่อเรียกร่างที่แท้จริงของดาบฟันวิญญาณออกมา ใช้สำหรับการฝึกของยมทูต เพื่อก้าวข้ามสู่ระดับ"บังไค"

   ยาอภิมนุษย์
  ยาของมายูริ มีคุณสมบัติให้ผู้ที่สัมผัสยา มีประสาทสัมผัสของยอดฝีมือ คือ มีประสาทสัมผัสความรู้สึกที่ไวกว่าปกติ ซะจนมองเห็นการเคลื่อนไหวของคนธรรมดาช้าซะจนอืดอาด ทว่าร่างกายตนเองกลับเคลื่อนไหวไม่ได้ตามใจนึกเช่นกัน(คือ เคลื่อนไหวช้าลงนั่นเอง)

   เท็นไกเค็ตจู
  สิ่งประดิษฐ์ของอุราฮาร่า คุณสมบัติคล้ายๆกับเซ็นไกมง เพียงแต่ เท็นไกเค็ตจูนี้ สามารถสลับสับเปลี่ยน สิ่งที่ถูกเท็นไกเค็ตจูล้อมกับอีกสิ่งที่อยู่ในโซลโซไซตี้ได้ ซึ่งอุราฮาร่าได้ใช้มันในการช่วยย้ายเมืองคาราคุระทั้งเมืองในโลกมนุษย์ ไปสลับสับเปลี่ยนกับ เมืองคาราคุระที่ถูกสร้างจำลองอยู่นอกเขตลูคอนของโซลโซไซตี้ นั่นเอง

เจาะลึกกับ หน่วยงานต่างๆในโซลโซไซตี้

  13 หน่วยพิทักษ์
  หน่วยงานของเหล่ายมทูตในโซลโซไซตี้ แบ่งออกเป็น 13 หน่วยย่อยด้วยกัน แต่ละหน่วยถูกเรียกแทนด้วยหมายเลข ตั้งแต่ 1 ถึง 13 และมีผู้นำคือหัวหน้าหน่วยและรองหัวหน้าหน่วย หัวหน้าหน่วยจะสวมเสื้อคลุมยาวสีขาวที่ระบุหมายเลขของหน่วยที่ข้างหลัง ทับยูกาตะสีดำอีกที ส่วนรองหัวหน้าหน่วย จะสวมปลอกแขนที่มีหมายเลขหน่วย

   หัวหน้าของหน่วยหนึ่ง ยังดำรงตำแหน่งพิเศษเป็นผู้บังคับการสูงสุดของ 13 หน่วยพิทักษ์อีกด้วย

  ภายในแต่ละหน่วยยังมีตำแหน่งที่ลดหลั่นลงมาจากหัวหน้าและรองหัวหน้าหน่วยอีกหลายชั้น ผู้ถือตำแหน่งเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าหมู่ของยมทูต ซึ่งในแต่ละหน่วยจะประกอบด้วยหมู่ย่อยๆ อย่างน้อย 20 หมู่ เป็นที่น่าสังเกตว่ายมทูตที่ถือยศตำแหน่งที่สามกับที่ถือยศตำแหน่งที่ห้าอาจจะเก่งพอๆ กัน แต่ความแข็งแกร่งของหัวหน้าหน่วยนั้นเหนือกว่าของรองหัวหน้าหน่วยมาก เนื่องจากผู้ที่จะเป็นหัวหน้าหน่วยได้จะต้องสามารถใช้บังไคได้อย่างเชี่ยวชาญ (ยกเว้น หัวหน้าหน่วย 11 ซาราคิ เคมปาจิ ที่ไม่สามารถปลดปล่อยดาบได้ ทั้งชิไคและบังไค แต่ด้วยความสามารถส่วนตัวทางการต่อสู้ที่เก่งกาจ ทำให้ได้รับการยอมรับเป็นหัวหน้าหน่วย) ส่วนรองหัวหน้าหน่วยนั้นมีเพียงไม่กี่ตนที่สามารถปลดปล่อยสวัสดิกะได้

 

 

  หน่วยลับ
  องค์กรลับของโซลโซไซตี้ ทำหน้าที่สอดแนมเหล่าฮอลโลว์และทำการสังหารยมทูตที่มีความผิดร้ายแรง คนของหน่วยลับจะสวมชุดดำคล้ายกับนินจา และ ใช้ชื่อรหัสแทนชื่อจริงไปตลอดชีวิต หัวหน้าคนปัจจุบันคือ "ซุยฟง"

   46 ห้องวังกลาง
  กลุ่มผู้ปกครองสูงสุดในโซลโซไซตี้ ประกอบด้วยนักปราชญ์ที่รวบรวมมาจากทั่วโซลโซไซตี้ 40 คน และผู้อาวุโสอีก 6 คน ซึ่งได้รับมอบอำนาจสูงสุดจาก "ราชันย์แห่งวิญญาณ" ในการปกครองและการตัดสิน คำตัดสินจากพวกเขาถือเป็นเด็ดขาดสูงสุด

  หน่วยราชันย์
  หน่วยงานที่ขึ้นตรงต่อราชาแห่งโซลโซไซตี้ ทำหน้าที่ปกป้องราชาแห่งโซลโซไซตี้ และมอบคำสั่งไปยัง 46 วังกลาง โดยไม่มีการก้าวก่ายงานของ 46 ห้องวังกลาง และ 13 หน่วยพิทักษ์ ยมทูตทุกคนในหน่วยนี้มีความสามารถเหนือกว่ายมทูตหัวหน้าหน่วยแห่ง 13 หน่วยพิทักษ์

  วังของราชาโซลโซไซตี้
  สถานที่ที่อยู่ของราชา โดยวังของราชาจะอยู่อีกมิติหนึ่งของโซลโซไซตี้ มีองค์รักษ์ของหน่วยราชันย์คุ้มกันอย่างแน่นหนา ซึ่งไม่มียมทูตคนใดเลยที่เคยเห็นราชา การเข้ามายังมิติของวังราชาได้นั้นจะต้องอาศัยกุญแจที่ชื่อว่า "โอเค็น" หรือกุญแจราชันย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไอเซ็นหมายปองอยู่

free hit counter javascript