เรื่องย่อ และ รายละเอียดในเวอร์ชั่นต่างๆ
เนื้อเรื่องฉบับหนังสือการ์ตูน
ยางามิ ไลท์ ได้เก็บสมุดโน้ตเล่มหนึ่ง ซึ่ง ลุค ยมทูตตนหนึ่งได้ทำตกเอาไว้ จากการที่ลุคปรากฏตัวต่อหน้าไลท์ ทำให้ไลท์รู้ว่า สมุดโน้ตที่ตนเก็บได้นั้นเป็น "เดธโน้ต" สมุดโน้ตที่สามารถฆ่าคนได้ เพียงเราเขียนชื่อจริงและเคยเห็นหน้าบุคคลนั้นลงในสมุดเล่มนั้นแล้ว บุคคลผู้นั้นก็จะมีอันเป็นไป คือ จะหัวใจวายตายภายใน 40 วินาที หลังจากที่ไลท์ทำการทดลองเขียนชื่อเหยื่อ 2 ราย ลงในโน้ตเล่มนั้นจนเห็นผลลัพธ์จริงแล้ว ไลท์จึงตัดสินใจให้สมุดเล่มนี้เปลี่ยนแปลงโลกนี้ซะใหม่ และสถาปนาตนเองเป็นพระเจ้า และ จัดการปราบปรามอาชญากรซะอยู่หมัด ผู้คนทั่วโลกจึงขนานนามว่า คิระ
อีกด้านหนึ่ง ฝ่ายตำรวจเห็นว่า อาชญากรตายอย่างผิดปกติ ฝ่ายตำรวจซึ่งนำโดย ยางามิ โซอิจิโร่พ่อของไลท์ ก็พยายามจับกุมตัวฆาตกรที่แท้จริงให้ได้ วันหนึ่งไลท์ได้ใช้โน้ตประหาร Lind L Taylor แต่กลับตกหลุมพลางของนักสืบหนุ่มลึกลับนามว่า แอล(L) ทำให้แอลรู้วิธีการสังหารคนเพียงแต่เห็นหน้าและทราบชื่อ ของคิระ เท่านั้น แถมรู้ว่าคิระอยู่ญี่ปุ่นแถบคันโต จากเหตุการณ์นี้ ทั้งสองจึงเริ่มต้นการชิงไหวชิงพริบกัน นับแต่นั้น
ต่อมาแอลก็ถูกส่งตัวมาสืบคดีที่ญี่ปุ่น พร้อมกับ วาตาริ ผู้ช่วยคู่ใจ และก็ร่วมมือกับกองสืบสวนญี่ปุ่นในการจับกุมคิระ พร้อมขอให้ทางสหรัฐส่ง FBI เข้ามาติดตามผู้ต้องสงสัยว่าเป็นคิระ ส่วนไลท์ได้ทดสอบใช้งานโน้ต จนรู้ว่า สมุดเล่มนี้สามารถที่จะกำหนดให้บุคคลเสียชีวิตด้วยเหตุอื่นๆ และกำหนดเวลาที่จะให้เสียชีวิตด้วย ด้วยการใช้เดธโน้ตอย่างพลิกแพลง จนสามารถสังหารFBI ที่ส่งมาจนหมด ทำให้ L เริ่มมั่นใจว่า ไลท์ น่าจะเป็นคิระ
ต่อมาก็มีวีดีโอลึกลับถูกส่งมาและอ้างว่า ตนเป็นคิระ และทำการฆ่าคนโดยแค่เห็นหน้า ไม่จำเป็นต้องรู้ชื่อ ก็สามารถจัดการได้แล้ว ทำให้ไลท์ต้องการติดต่อ "คิระ เบอร์2" และก็ดึงตัว อามาเนะ มิสะ หรือ "คิระ เบอร์2" มาเป็นผู้ช่วยสมใจ แต่กลับทำให้แอลสงสัยในตัวไลท์หนักกว่าเดิม วันหนึ่งแอลออกมาพบกับ ไลท์ และบังเอิญเจอมิสะ พอดี แอลได้พบพิรุธของ มิสะ จึงตัดสินใจควบคุมตัวมิสะ ไลท์ ต้องวางแผนสุดท้ายในการกำจัด L โดยมี เรม ซึ่งเป็นยมทูตสิงสู่สมุดโน้ตของมิสะ มาช่วยด้วยอีกแรง ซึ่งแผนที่ว่านี้ คือ ไลท์ ยอมเสียสิทธิ์ในการครอบครองเดธโน้ต แล้วกลับมาเป็นคนธรรมดา เพื่อช่วย L สืบหาตัวคิระ และ คนที่น่าสงสัยที่สุดกลับกลายเป็นผู้บริหารทั้ง 8 คนของ บ.โยทสึบะ ทั้งสองก็ร่วมมือกัน จนกระทั่งสามารถจับกุมตัว คิระ หรือ ฮิงูจิ หนึ่งในผู้บริหารของบ.โยทสึบะ ที่ได้ครอบครองเดธโน้ตซึ่งแท้จริงแล้วเป็นของไลท์ ไลท์ที่มีกระดาษโน้ตจากสมุดมรณะอยู่ในมือ ชิงสังหารฮิงูจิจนตาย แม้ว่าหลักฐานจะสรุปว่าคิระได้ตายไปแล้ว แต่ L ก็ยังคงสงสัยว่า ไลท์ คือคิระ ต่อไป และ มิสะ คือ คิระเบอร์ 2 ทำให้ เรม ซึ่งกลัวว่า มิสะ จะต้องถูกจับใน ฐานะคิระเบอร์ 2 จึงตัดสินใจช่วยไลท์ในการสังหาร วาตาริ และ แอล ในที่สุด และ จากเหตุการณ์นี้ก็ทำให้ผู้ช่วยที่แอลจ้างมาอย่าง ไอเวอร์ และ เวดี้ รวมทั้งผู้บริหาร บ.โยทสึบะที่เหลือ ถูกไลท์ปลิดชีพไปด้วย หลังจาก L ตายไปไม่นาน เครื่องคอมพิวเตอร์ของ วาตาริ ได้ทำการส่งข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับคดีคิระไปที่สถานรับเลี้ยงเด็ก ควิลล์ แวมมี่ ที่ โรเจอร์ ดูแลอยู่ ก็ทำให้ทราบว่า วาตาริ เป็นเจ้าของบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้า เนียร์ และ เมลโล่ ก็อยู่ในระหว่างการคัดเลือกว่า ใครจะมาแทน L ซึ่ง เมลโล่ รู้ตัวว่าเป็นรอง เนียร์ จึงออกจากบ้านเด็กกำพร้า และหาทางสืบเรื่องคิระ ตามวิธีของตน
ต่อมา ไลท์ตัดสินใจเป็นตำรวจคอยตามจับคิระ และ สวมรอยเป็น L แทน ในขณะที่ เมลโล่ ไปเข้ากับพวกมาเฟียระดับโลก โดยยื่นเงื่อนไขในการจัดการคิระ ส่วนทาง เนียร์ ได้นำข้อมูลทั้งหมดไปให้ ประธานาธิปดีสหรัฐ และขอให้จัดสรรทีม SPK ( Secret Provision For Kira) แผนการจับตัวคิระเริ่มขึ้น เมื่อ เมลโล่ ได้จับกุมตัว ยางามิ ซายุ น้องสาวของไลท์ไป โดยมีสมุดโน้ตมรณะที่อยู่กับตัว โซอิจิโร่ เป็นข้อแลกเปลี่ยน ทีมสืบสวนของไลท์จึงวางแผนไปอเมริกาเพื่อช่วยเหลือซายุ และก็ช่วยซายุได้สำเร็จ ส่วนโน้ตนั้นก็ไปอยู่ที่เมลโล่ และเมลโล่ก็ทดลองใช้โน้ตนั้น และกลับกลายเป็นว่าทีมสืบสวนของเนียร์ถูกสังหารไป จนเหลือสมาชิกอยู่ไม่กี่คนเท่านั้น เนียร์ ได้ติดต่อกับ L เบอร์ 2 (ไลท์) เพื่อร่วมกันแย่งเดธโน้ตคืนจาก เมลโล่ สุดท้ายได้รับความร่วมมือจาก ชีโดว์ ยมทูตซึ่งเป็นเจ้าของโน้ตเล่มแรกที่แท้จริง การแย่งคืนโน้ตครั้งนี้ แม้ว่าจะสามารถแย่งโน้ตคืนมาได้ รวมถึงรู้ชื่อที่แท้จริงของ เมลโล่ แต่ก็ต้องแลกกับการตายของโซอิจิโร่ พ่อของไลท์ ส่วน เมลโล่ หลบหนีไปได้
ต่อมา ประธานธิบดีสหรัฐได้เสียชีวิตลงโดยฝีมือของ คิระ ทำให้รัฐบาลสหรัฐยอมอยู่ฝ่ายเดียวกับคิระจนทำให้หน่วย SPK ของ เนียร์ ต้องถูกปิดลง แต่พวกของเนียร์ยังคงสืบหาคิระต่อไป ต่อมา เมลโล่ ได้ติดต่อกลับมาทาง เนียร์ ผ่านทาง ริโดน่า สมาชิก 1 ใน 3 ของ SPK และเล่าเรื่องเดธโน้ตที่รู้ให้ เนียร์ ฟังก่อนจะจากไป ในตอนนั้น เนียร์ เองก็เริ่มสงสัยในตัว ไลท์ หรือ L เบอร์ 2 โดยเริ่มติดต่อกับคนในทีมของ ไลท์ 2 คน คือ โมงิ กับ ไอซาวะ และอนุญาตให้ โมงิ มาพบ เนียร์ ได้ ตอนนั้นไลท์ ซึ่งต้องการจัดการเนียร์ อยู่แล้วจึงซ้อนแผนไปอีกที ทำให้ที่อยู่ของ เนียร์ ถูกค้นพบและถูกทำลายลง แต่ เนียร์ และ สมาชิกทีม SPK ทั้ง 3คน ก็หนีรอดออกมาได้
เนียร์ และ พรรคพวกจึงจับตาดูไลท์อย่างเข้มงวดมากขึ้น จนทำให้ไลท์ตัดสินใจเลือก มิคามิ เทรุ มาเป็นตัวแทนคิระ มิคามิ ยอมแลกเปลี่ยนดวงตายมทูต เพราะศรัทธาในตัวคิระ เมื่อตอนที่ คิระสังหาร เดเมงาว่า โฆษกของซากุระทีวีตาย มิคามิได้เลือก ทาคาดะ คิโยมิ นักอ่านข่าวคนดัง และเป็น แฟนของไลท์ สมัยเรียนมหาวิทยาลัย มาเป็นโฆษกประจำตัวคิระ เมื่อไลท์ได้พบกับ ทาคาดะ ก็แสดงความรักต่อ ทาคาดะ พร้อมกับสารภาพว่าตนคือ คิระ ทาง ทาคาดะที่ชอบวนตัวไลท์และชื่มชมศรัทธาคิระอยู่แล้ว ก็ยอมตกลงช่วยเหลือ ไลท์ ในทันที ซึ่งทำให้ ไลท์ สามารถใช้งานทาคาดะ ในเป็นตัวกลางระหว่างติดต่อกับ มิคามิ และเพื่อความไม่ประมาท ไม่ให้มีคนจับได้ ไลท์จึงมักสื่อสารกับทาคาดะผ่านทางการเขียนข้อความในกระดาษแทน
ทางฝ่ายเนียร์ก็ส่ง รีโดน่า ให้ไปเป็นบอดี้การ์ดคุ้มกันตัวของทาคาดะ ส่วน ไอซาวะก็คอยจับตาดูไลท์ และ เจวานนี่ หนึ่งในทีมสืบสวนของเนียร์ก็ตามไปสืบมิคามิ จนในที่สุดเจวานนี่สามารถเข้าถึงเดธโน้ตที่อยู่ในมือ มิคามิ ได้สำเร็จ และถ่ายรูปข้อความทั้งหมดใน เดธโน้ตกลับมาให้ เนียร์ เนียร์จึงมั่นใจว่าไลท์คือคิระแน่นอน ก็เลยได้นัดกับไลท์ให้ออกมาพบกันที่โกดังร้างแห่งหนึ่งในอีก 3 วันให้หลัง ซึ่งไลท์ที่เตรียมแผนรับมือกับเนียร์มาเป็นอย่างดีก็ตอบตกลง ในระหว่างนั้นก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อเมลโล่ ลักพาตัวทาคาดะ แต่ไลท์ก็ได้ให้ รูป และ ชื่อจริงๆของเมลโล่ให้แก่ทาคาดะไว้ก่อนหน้านี้ ทาคาดะจึงเขียนชื่อเมลโล่ลงบนเศษกระดาษของเดธโน้ต เมลโล่จึงหัวใจวายตาย ส่วนทาคาดะก็พยายามขอความช่วยเหลือจากไลท์ แต่ไลท์กลับฆ่าเธอ ด้วยการเขียนชื่อลงโน้ตและบอกสาเหตุการตายของเธอว่า เธอเผาร่างตัวเองพร้อมกับวัตถุใกล้ตัว เป็นการทำลายหลักฐานไปอีกทางหนึ่งด้วย
วันตัดสินชัยชนะของไลท์และเนียร์ก็มาถึง ทั้งสองฝ่ายต่างก็ใช้แผนซ้อนแผนเพื่อให้ตนชนะ แรกเริ่ม เนียร์ล่อให้มิคามิใช้โน้ต(ซึงถูกเนียร์เอากระดาษโน้ตธรรมดามาแทรก)สังหารทุกคน ไลท์ก็โต้กลับ ด้วยการวางแผนให้มิคามิเขียนชื่อลงโน้ตจริงที่มิคามิแอบเก็บไว้ ส่วนโน้ตที่เนียร์ดัดแปลงนั้นเป็นโน้ตของปลอมที่ทำขึ้น แต่ทว่าแผนของไลท์ก็มาได้เท่านี้ เมื่อเนียร์โชว์หลักฐานข้อมูลจากเดธโน้ตที่มิคามิเขียนเอาไว้ในเดธโน้ต ที่เจวานนี่ทำปลอมทั้งเล่มโดยที่ไลท์และมิคามิคิดว่าเป็นของจริง ไม่มีการดัดแปลง และพบว่า ในโน้ตไม่มีชื่อ ยางามิ ไลท์ ,มิคามิ เรียกไลท์ว่าพระเจ้า,และ เวลาเสียชีวิตของทาคาดะในโน้ตของมิคามิกลับช้ากว่าของจริง 1 นาที เหตุการณ์นี้ก็ทำให้ไลท์จนมุม และ รับสารภาพว่าตนคือ คิระ แต่ไลท์ก็ยังไม่สิ้นฤทธิ์เมื่อพยายามจะเขียนชื่อเนียร์ลงบนเศษโน้ตที่ซ่อนอยู่ในนาฬิกา แต่ก็ถูกมัตสึดะขัดขวางด้วยการกระหน่ำยิงร่างไลท์จนทรุด วาระสุดท้ายของไลท์ใกล้จะมาถึง ไลท์พยายามขอร้องให้มิคามิช่วย แต่กลับถูกมิคามิต่อว่าอย่างแรง ไลท์ก็เลยขอร้องให้ลุคช่วย แต่ลุคกลับเขียนชื่อไลท์ลงในโน้ตแทน ไลท์ถึงกับตกตะลึงและหวาดกลัว จนกระทั่งหมดลมหายใจในที่สุด
1ปีให้หลัง เดธโน้ตก็ถูกเนียร์เผา ส่วนมิคามิที่ถูกคุมตัวก็ตายในคุก โลกกลับคืนสู่สภาพปกติ เนียร์ได้เป็นแอล ไอซาว่าขึ้นชั้นเป็นผ.บ.ตำรวจ โรเจอร์เป็นวาตาริ และทำงานกับกองสืบสวนคดีคิระ ซึ่งมี มัตสึดะ โมงิ และ อิเดะ ตามเดิม แต่อีกด้านหนึ่งก็มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งยังคงเชื่อว่าคิระจะกลับมาอีกครั้ง
เดธโน้ตฉบับภาพยนตร์คนแสดง
ด้วยความดังของการ์ตูนเรื่องนี้ ก็เลยถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์คนแสดง โดยบ.วอร์เนอร์ บราเธอร์ส (ญี่ปุ่น) และได้ ซูเกะ คาเนโกะ ที่เคยมีผลงานซีรีส์ Godzila มาเป็นผู้กำกับ ส่วนนักแสดงนั้นประกอบด้วย
- ทัตสึยะ ฟูจิวาระ (ยางามิ ไลท์ หรือ “คิระ”)
- เคนอิจิ มัตสึยาม่า (แอล หรือ “ริวซากิ”)
- เอริกะ โทดะ (“อามาเนะ มิสะ” , “มิสะ มิสะ” , “คิระคนที่ 2”)
- นานะ คาตาเสะ (คิโยมิ ทาคาดะ: ผู้ประกาศข่าวของสถานี “ซากุระทีวี”)
- ซากุระ อุเอฮาระ (ซาเอโกะ นิชิยามะ: ผู้ประกาศข่าวคู่แข่ง คิโยมิ ทาคาดะ)
- มากี้ (เดเมงาวะ : ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ซากุระทีวี)
- ชิโดะ นากามูระ (พากย์เสียง ยมทูตลุค)
- ชินโนสุเกะ อิเคฮาตะ (พากย์เสียง ยมทูตเร็ม)
- ทาเคชิ คากะ (ยางามิ โซอิจิโร่)
- ชิเงกิ โฮโซาว่า (อิวามัตซึ เรย์)
- อาซากะ เซโตะ (มิโซระ นาโอมิ)
- ยู คาชิอิ (อาคิโนะ ชิโอริ)
- ฮิคาริ มิตซึชิม่า (ยางามิ ซายุ)
- มิจิโกะ โกได (ยางามิ ซาจิโกะ)
- ชุนจิ ฟูจิมุระ (วาตาริ)
- โซตะ อาโอยาม่า (มัตสึดะ)
- ชิน ชิมิสึ (ไอซาว่า)
- ทัตซึฮิโกะ โอคุดะ (อุคิตะ)
- อิคุจิ นากามูระ (โมงิ)
เนื้อเรื่องในหนังก็ดำเนินเรื่องคล้ายๆกับในการ์ตูน เพียงแต่มีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกันออกไป โดยเนื้อเรื่องในหนังแบ่งออกเป็น 2 ภาค คือ ในภาคแรกก็เริ่มเรื่องคล้ายๆกับในการ์ตูนคือ ไลท์พบเดธโน้ต และ นำเดธโน้ตนั้นไปทดลองใช้ แล้วนำไปพิพากษานักโทษนับร้อย จนองค์กรตำรวจลับของโลกต้องส่ง L ไปสืบหาตัวคิระ แต่ส่วนที่เนื้อเรื่องนั้นแตกต่างจากการ์ตูนก็คือ ในภาคนี้จะมีตัวละครออริจินั่ลประจำหนังภาคนี้คือ อาคิโนะ ชิโอริ ซึ่งเป็นแฟนสาวของไลท์ ในเรื่องนั้นก็ถูกFBI จับตัวไป เพื่อบีบคั้นให้ไลท์ยอมรับว่า แท้จริงแล้ว ไลท์ ก็คือ คิระ ตามแผนการที่ L กำหนดไว้
ส่วนหนังภาคสอง Death Note :The Last Name นั้น ก็เป็นการร่วมมือกันสืบสวนคดีของ ไลท์ และ L เพื่อตามหา คิระเบอร์2 หรือ อามาเนะ มิสะ แต่ทว่าไลท์ ยังคงสานสัมพันธ์กับ มิสะ เพราะรู้ว่าเธอมีเครื่องมือฆ่าคนชั้นเยี่ยมนั่นคือ “ดวงตายมทูต” (แลกกับอายุขัยครึ่งหนึ่งของมนุษย์) ทำให้สามารถมองเห็นชื่อจริง และเห็น อายุขัย ของผู้คนเพียงแค่ได้เห็นหน้า กับ “เรม” (ยมทูตเจ้าของสมุด DEATH NOTE เล่มที่ 2 ) ก่อนที่ ไลท์ และ มิสะ จะทำตามแผนการสำเร็จ คิระคนที่ 3 ก็ปรากฏตัวขึ้น โดยที่ไม่มีใครล่วงรู้ได้ว่า การมาของคิระคนที่ 3 นั้น มาเพื่อ “ทำลาย” หรือ “รักษา” โลกใบนี้กันแน่!!!
การมาของภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็กลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ถล่มทลายที่ญี่ปุ่นทั้งสองภาค โดยเฉาะภาคแรกนั้นคนยังสนใจที่จะดูหนังเดธโน้ต มากกว่า ฟุตบอลโลกเสียอีก และด้วยความประสบความสำเร็จจากหนังทั้งสองภาคนั้น ทีมงานก็ตัดสินใจทำภาค3ต่อ โดยให้ L เป็นตัวเอกของเรื่อง ซึ่งเนื้อเรื่องนั้นก็ไม่เกี่ยวข้องกับไลท์ และ เนื้อเรื่องในการ์ตูนแต่อย่างใด
เดธโน้ตฉบับอนิเมชั่น
ฉบับอนิเมของเดธโน้ตนั้น เริ่มฉายวันที่ 3 ตุลาคม ปี 2006 ทางช่อง Nippon Television network ทุกวันพุธ เวลา 00:56 น.โดยมีกำหนดฉายทั้งหมด 37 ตอน เนื้อเรื่องในอนิเมนั้นก็คล้ายและใกล้เคียงกับฉบับหนังสือการ์ตูนมากกว่าในฉบับภาพยนตร์ แต่ต่างกันตรงที่ เวลาในอนิเมจะเป็นปี 2007 ต่างจากฉบับหนังสือการ์ตูนซึ่งเป็นปี 2003 แถมตอนจบของอนิเมนั้นก็จัดว่าโอเคเมื่อเทียบกับสองเวอร์ชั่นที่เหลือ
ปัจจุบัน เดธโน้ตก็ได้รับลิขสิทธิ์ฉายที่อเมริกาโดยบริษัท VIZ Media โดยผ่านการดาวน์โหลดอย่างถูกกฎหมาย 2 แบบคือ Download-to-Own และ Download-to-Rent นับเป็นอนิเมเรื่องแรกที่เปิดบริการให้ดาวน์โหลดแบบถูกกฏหมายนอกประเทศ ในขณะที่เรื่องดังกล่าวนั้นยังฉายอยู่ในญี่ปุ่นอีกด้วย
กระแสความดังของเดธโน้ต
ส่วนหนึ่งที่หลายคนชอบเดธโน้ตก็มาจากการที่ เดธโน้ต นั้น เป็นเรื่องที่ไม่ได้เป็นแนวบู๊ ปล่อยพลัง เหมือนหลายๆเรื่องในโชเน็นจัมป์ แต่กลับเน้นการต่อสู้โดยใช้สติปัญญาไหวพริบของทั้ง2ฝ่าย ซึ่งห้ำหั่นกันสุดฤทธิ์ แถมอุดมการณ์ความถูกต้องก็ยังต่างกัน โดยไลท์มีแนวคิดที่ว่า จะต้องกำจัดคนชั่วให้หมดไปจากโลกนี้ เพื่อจะให้โลกใบนี้มีความสุขที่แท้จริง ไลท์จึงทำทุกวิถีทางที่จะทำให้เป็นโลกอุดมคติ และ เป็นพระเจ้าคนใหม่ของโลกนี้ โดยไม่คำนึงถึงต่อบาปบุญคุณโทษที่ตนเอง ได้ฆ่าคน แม้ว่าคนๆนั้นจะเป็นคนชั่ว และเพื่อให้ความฝันของไลท์เป็นจริง ไลท์จึงจำเป็นต้องกำจัดคนที่คิดจะเข้ามาขัดขวางแผนการของตนด้วย แม้ว่าคนๆนั้นจะเป็นคนดีก็ตาม ซึ่งจุดนี้แหละก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่คาแร็คเตอร์ของตัวละครที่ชื่อ ยางามิ ไลท์ น่าสนใจมาก เพราะ ถึงจะมองภายนอกว่า ไลท์เป็นเด็กหนุ่มที่หน้าตาดี เรียนเก่ง แต่ส่วนลึกในจิตใจนั้น ไลท์กลับมีด้านมืดที่หลายคนคาดไม่ถึงเช่นกันว่า
แค่อยากให้โลกมีความสุข จำเป็นต้องยอมทำถึงขนาดนั้นเลยหรือ แถมยังตีสีหน้าเสแสร้งให้คนอื่นๆพลอยหลงเชื่อ เรียกได้ว่า เป็นชายหนุ่มที่ร้ายลึก โฉดได้ใจหลายๆคนไป จนผู้อ่านบางส่วนเลยหันไปเชียร์ L ซึ่งดูภายนอกจะโทรมๆ ตาโหล บุคคลิกดูแปลกๆ แต่ก็มีความฉลาดเป็นล้ำเลิศ ยึดมั่นในความถูกต้องยุติธรรม ทำให้เป็นตัวละครที่มีเสน่ห์อีกคนหนึ่ง และ ก็เพราะการชิงไหวชิงพริบของทั้งLและไลท์ในรูปแบบต่างๆนี่หล่ะ ที่ทำให้ พล็อตเรื่องนั้นมีความซับซ้อนซ่อนเงื่อน น่าสนุกและน่าลุ้นกันไปทั้งสองฝ่าย ถึงแม้ว่าบางคนอ่านรอบแรกอาจยังมึนๆหน่อย แต่ถ้าอ่านไปหลายๆรอบ ก็จะเข้าใจและจะสนุกไปกับเรื่องมากขึ้น
นอกจากนี้ สิ่งที่น่าสนใจอีกเรื่อง ก็คงจะเป็นกฎของการใช้ เดธ โน้ต ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลากหลายเงื่อนไข นอกจากจะต้องเห็นหน้าและรู้ชื่อจริง ถึงจะฆ่าได้แล้ว ก็ยังมีอีกว่า ถ้าเขียนแค่ชื่อคนเฉยๆ คนๆนั้นจะหัวใจวายตายภายใน 40 วินาที และ ถ้าใส่สาเหตุการตายลงไปด้วย ก็จะมีเวลาให้อีก 6นาที 40วินาที เพื่อให้ลงรายละเอียดสภาพการตายด้วย แถมความสามารถของดวงตายมฑูตที่สามารถมองเห็นชื่อจริงของคนๆนั้นได้ แม้ว่าจะไม่รู้จักกันก็ตาม และก็เพราะกฎสารพัดข้อของ เดธ โน้ต เนี่ยล่ะ ที่ทำให้ ไลท์นำไปใช้ได้หลากหลาย และเนื้อเรื่องก็สนุกน่าติดตามมากขึ้น