Cartoon Focus - นินจาคาถาโอ้โฮเฮะ (Naruto)

ผู้แต่ง มาซาชิ คิชิโมโต้
ประเภท แอ็คชั่น
จำนวนเล่ม 72 เล่ม (จบ)
Boruto 1 เล่ม
สำนักพิมพ์ เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนต์ (ไทย)/
Shueisha(ญี่ปุ่น)
ลิขสิทธิ์อนิเม Rose Media
ข้อมูลอ้างอิง http://th.wikipedia.org/naruto
นิตยสารComic Quest ฉบับ 16-17
http://happy.teenee.com/naruto/story

เรื่องย่อ

12 ปีก่อน ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางได้ตื่นขึ้นจากการหลับใหลยาวนานเป็นเวลาหลายพันปี ได้ออกอาละวาดทำลายบ้านเรือนชีวิตทรัพย์สินของผู้คนบริสุทธิ์เป็นจำนวนมาก
จนกระทั่ง โฮคาเงะรุ่นที่ 4 หัวหน้าของหมู่บ้านโคโนฮะ ได้สละชีวิตด้วยการการผนึกร่างของปีศาจจิ้งจอกเก้าหางไว้ในร่างของทารกน้อยนาม อุซึมากิ นารุโตะ อีก12 ปีผ่านไป นารุโตะได้เติบโตขึ้น ณ หมู่บ้าน โคโนฮะ และใฝ่ฝันว่าจะเป็นโฮคาเงะรุ่นต่อไป หลังจากสอบจบการศึกษากับอาจารย์อิรุกะ และได้เลื่อนขั้นนินจาเป็น เกะนิน นารุโตะได้ร่วมทีม 7 กับ อุจิวะ ซาสึเกะ และ ฮารุโนะ ซากุระ โดยมี คาคาชิ เป็นอาจารย์คอยชี้นำในภาระกิจต่างๆ โดยเริ่มจากในระดับD ซึ่งเป็นระดับที่ง่ายสุด แต่นารุโตะรู้สึกเบื่อหน่ายในภาระกิจระดับนี้ คาคาชิก็เลยให้ภารกิจใหม่ ซึ่งเป็นภารกิจระดับ C คือปกป้องทะซึนะช่างก่อสร้างสะพานจากแคว้นนามิคุนิแคว้นข้างเคียง ภาระกิจก็เริ่มต้นขึ้น

ในระหว่างทางก็มีนินจาเข้ามาลอบทำร้ายกลุ่มนารุโตะ โดยหวังที่จะฆ่าทะซึนะ แต่โดนคาคาชิจัดการไปซะก่อน คาคาชิก็เริ่มสงสัยว่าทำไมภารกิจระดับ C ถึงได้มีนินจาจากกลุ่มอื่นเข้ามาข้องเกี่ยวด้วย โดยทะซึนะได้สารภาพว่า ไม่มีเงินที่จะจ้างนินจาสำหรับภารกิจระดับ B ขึ้นไป คาคาชิจึงตัดสินใจว่าจะทำให้ถึงที่สุด เมื่อเข้าไปใกล้แคว้นนามิคุนิ ซาบุซะ นินจาฝีมือสูงจากแคว้นมิซึคุนิ เข้ามาโจมตีกลุ่มนารุโตะอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการต่อสู้ในคราวนี้ คาคาชิเสียท่า เลยถูกซาบุซะจับไว้ในคุกน้ำ และสั่งให้นารุโตะและคนอื่นพา ทะซึนะหนีไป แต่นารุโตะและซาสึเกะยังคงต่อสู้และช่วยเหลืออาจารย์คาคาชิ นารุโตะได้แปลงร่างเป็นชูริเคน(ดาวกระจาย) ในขณะเดียวก็แยกร่างว่าง และให้ซาสึเกะขว้างชูริเคนของจริง พร้อมทั้งชูริเคนที่นารุโตะแปลงตัวไว้โจมตีซาบุซะ ซาบุซะได้หลบการโจมตีของชูริเคนได้ แต่คาดไม่ถึงว่านารุโตะจะแปลงร่างเป็นชูริเคนซ้อนมาอีกทีหนึ่ง และได้พลาดท่าทำให้คาคาชิหลุดออกมาได้ โดยหลังจากนั้น คาคาชิได้ต่อสู้กับซาบุซะอีกครั้งแล้วก็โค่นซาบุซะลงได้ แต่ทว่าผู้ที่ฆ่าซาบุซะนั้นกลับเป็นหนุ่มน้อยนักฆ่าจาก คิริงาคุเระ ซึ่งที่จริงเป็นแล้วพวกเดียวกับซาบุซะและมาช่วยซาบุซะ คาคาชิสังหรใจว่าซาบุซะยังมีชีวิตอยู่จึงให้พวกนารุโตะฝึกวิชาเพิ่ม เวลาต่อมา ซาบุซะ ได้กลับมาเพื่อสะสางภาระกิจให้เสร็จพร้อมกับฮาคุ และฮาคุก็เสียท่าให้กับคาคาชิ จนตาย และ ซาบุซะ ก็ถูกกลุ่มคนลึกลับนั้นสังหารอีกที

 

การสอบเป็นนินจาระดับจูนิน

การสอบจูนินของนินจาในทุกแคว้นปีนั้นได้ถูกจัดขึ้นที่หมู่บ้านโคโนฮะ สำหรับการสอบเลื่อนขั้นจากเกะนินเพื่อไปเป็นระดับจูนิน ในระหว่างการเดินทาง กลุ่มของนารุโตะก็มีเรื่องกับ ร็อค ลี ถึงขั้นวางมวยกัน แต่ อาจารย์ไก อาจารย์ของลีได้มาห้ามไว้

การสอบรอบแรกเริ่มขึ้นด้วยการสอบข้อเขียน 10 ข้อ คุมการสอบโดย อิบิกิ ซึ่งนารุโตะก็ผ่านมาได้อย่างหวุดหวิด(ชนิดที่ไม่ได้เขียนอะไรบนข้อสอบเลย!!!!!) ในการสอบรอบที่ 2 คุมโดย อังโกะ โดยในการสอบจะมีคัมภีร์นินจาอยู่สองแบบ คือ คัมภีร์ฟ้า และคำภีร์ดิน โดยแต่ละทีมจะได้คัมภีร์นินจาทีมละเล่ม และให้แย่งเอาคัมภีร์ในอีกแบบหนึ่งจากทีมใดก็ได้ใน 27 ทีมที่ผ่านการสอบรอบที่ 1 และไปให้ถึงหอคอยตรงศูนย์กลางของป่านั้น จึงจะผ่านการสอบ ในขณะที่อยู่ในป่า ทีมนารุโตะถูกโจมตีโดย โอโรจิมารุ และ นินจาจากหมู่บ้านโอโตะ แต่สุดท้ายทีมของนารุโตะก็ได้แย่งคัมภีร์มาได้จากทีมของหมู่บ้านอะเมะ

การสอบรอบที่สามเริ่มต้นขึ้นโดยเป็นการต่อสู้ตัวต่อตัว คุมโดย ฮายาเตะโดยผลการจับคู่รอบคัดเลือก และ ผลการแข่งขัน

    อุจิวะ ซาสึเกะ ชนะ อาคาโดะ โยโรอิ
    ฮารุโนะ ซากุระ เสมอ ยามานากะ อิโนะ
    เทมาริ ชนะ เท็นเท็น
    กาอาระ ชนะ ร็อค ลี
    อุซึมากิ นารุโตะ ชนะ อินุซึกะ คิบะ
    ฮิวงะ เนจิ ชนะ ฮิวงะ ฮินาตะ
    ชิกามารุ ชนะ คิน
    โดซึ คินูตะ ชนะ อาคิมิจิโจจิ

ก่อนที่จะมีการต่อสู้รอบต่อไปในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า คาคาชิก็จัดครูฝึกมาให้นารุโตะแล้ว คือ ครูเอบิสึ ก็คือคนที่นารุโตะเคยใช้คาถามหารัญจวน ครูเอบิซึก็สอนให้นารุโตะให้นารุโตะเดินบนน้ำแต่นารุโตะทำไม่ได้ ต่อมาทั้งสองเจอจิไรยะระหว่างที่นารุโตะฝึกอยู่ จิไรยะทำครูอิบิสึสลบ จึงต้องสอนนารุโตะแทน สาเหตุที่นารุโตะเดินบนน้ำไม่ได้เพราะโอโรจิมารุได้ผนึกห้าวิถีไว้ทำให้จักระของนารุโตะปั่นป่วน จิไรยะจึงคลายให้ คาคาชิสอนไม้ตายให้ซาสึเกะ นั้นก็คือ พันปักษา ซึ่งต่อมาคาคาชิก็ได้สอนให้กับนารุโตะหลังจากการสอบจูนินเพราะนารุโตะไปอ้อนวอนให้คาคาชิสอนให้

การต่อสู้ในรอบที่แท้จริง และ ผลการแข่งขัน

    นารุโตะ ชนะ เนจิ
    ชิโนะ ชนะผ่าน คันคุโร่
    ชิกามารุ ยอมแพ้ เทมาริ (ทั้งๆที่ชิกามารุเอาชนะได้แท้ๆ)
    กาอาระ กับ ซาสึเกะ

ในขณะที่ทั้งสองกำลังต่อสู้กันอยู่นั้น นินจาของซึนะก็ได้ใช้คาถาทำให้ผู้คนหลับไหล รวมไปถึงตัวนารุโตะเอง คาคาชิทที่คลายคาถาได้ทัน ก็สั่งให้ซาสึเกะไล่ตามกาอาระไป และบอกให้ซากุระคลายคาถาให้นารุโตะและชิกามารุที่แกล้งหลับ ทั้งสามตามซาสึเกะไปตามคำสั่งของคาคาชิ
การต่อสู้ระหว่างโฮคาเงะรุ่นที่ 3 กับ โอโรจิมารุ พร้อมกับการต่อสู้ระหว่างนารุโตะกับกาอาระ โดย นารุโตะเอาชนะกาอาระได้ โอโรจิมารุชนะโฮคาเงะรุ่นที่สาม โดยที่โฮคาเงะรุ่นที่ 3 ตายไปพร้อมกับผนึกวิชานินจาของโอโรจิมารุ โดยทำให้โอโรจิมารุไม่สามารถใช้มือในการใช้วิชานินจาได้



โฮคาเงะรุ่นที่ 5 :การพบกันอีกครั้งของ3นินจาในตำนาน

นารุโตะและจิไรยะ เดินทางมาถึงแคว้นชา ที่ๆซึนาเดะอยู่ แต่โอโรจิมารุตัดหน้าไปเสียก่อน โดยเขาได้ยื่นข้อเสนอบางอย่างให้ซึนาเดะ
เมื่อจิไรยะมาถึง ก็บอกให้ซึนาเดะกลับไปรับตำแหน่งโฮคาเงะที่หมู่บ้าน แต่เธอกลับปฏิเสธทันทีพร้อมกับคำดูถูก นารุโตะโมโหแล้วท้าประลองว่า ภายในหนึ่งอาทิตย์จะต้องเป็นฝึกกระสุนวงจักรให้สำเร็จให้ได้ ซึนาเดะได้พนันกับสร้อยคอเส้นสำคัญของเธอกับการเดิมพันในครั้งนี้
แต่หลังจากนั้น ซึนาเดะแอบวางยาจิไรยะแล้วกลับไปหาโอโรจิมารุพร้อมกับบอกว่าจะรักษาให้ แต่คาบูโตะสัมผัสได้ถึงจิตสังหารของซึนาเดะและช่วยโอโรจิมารุไว้
จิไรยะ ชิซึเนะ และ นารุโตะ ตามไปช่วยซึนาเดะ


ในการต่อสู้ ซึนาเดะนึกถึงน้องชายและแฟนเมื่อเห็นนารุโตะต่อสู้ ทำให้เธอมีความกล้าขึ้นมา นารุโตะฝึกกระสุนวงจักรได้สำเร็จในการต่อสู้กับคาบูโตะ โอโรจิมารุพุ่งเป้าไปหาซึนาเดะกับนารุโตะหมายจะฆ่า แต่ซึนาเดะปกป้องนารุโตะไว้ และทำให้โอโรจิมารุยอมถอยไป ซึนาเดะกลับไปรับตำแหน่งโฮคาเงะที่หมู่บ้านโคโนะฮะ และ ซึนาเดะยังได้ให้สร้อยที่พนันไว้ให้แก่นารุโตะ


 พอกลับไปที่โคโนฮะ นารุโตะได้ให้ซึนาเดะไปรักษาคาคาชิ ส่วน ไกได้ให้ซึนาเดะไปช่วยรักษาลี แต่ซึนาเดะบอกให้ลีนั้นเลิกเป็นนินจาซะ เพราะ ความปลอดภัยในการผ่าตัดของเขามีเพียง50%เท่านั้น นอกจากนี้โคโนฮะมารุผู้เป็นหลานชายของรุ่นสามยังไม่ยอมให้ซึนาเดะเป็นโฮคาเงะ เพราะกลัวว่าทุกคนในหมู่บ้านจะลืมรุ่นสามแต่พอได้ยินสิ่งที่ซึนาเดะพูดปั้บของก็ยอมลดละแต่โดยดีส่วนไกกับลีก็ระลึกถึงความหลังกันอยู่นี้คือสิ่งที่ลีต้องตัดสินใจเขาจะเข้ารับการผ่าตัดหรือไม่
ทางฝั่งนารุโตะได้คิดแผนการที่จะเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของคาคาชิ แต่ก็ประสบความล้มเหลว


ศึกระหว่างเพื่อน:นารุโตะ vs ซาสึเกะ

หลังจากการสอบจูนิน ซาสึเกะได้ถอนตัวจากหมู่บ้านเพื่อตามหาความแข็งแกร่งที่แท้จริง นารุโตะได้อาสาตามตัวซาซึเกะกลับมายังหมู่บ้านโดยไม่เสียเลือดเนื้อ ซึ่งเมื่อทั้งคู่ได้เจอกันเกิดการต่อสู้กันขึ้น ส่วนซาซึเกะต้องการตามหาความแข็งแกร่งที่แท้จริงเพื่อไปล้างแค้นให้ตระกูลอุจิวะ เมื่อการต่อสู้สิ้นสุดลงซาสึเกะได้จากไป พร้อมทั้งทิ้งที่คาดหัว ไว้ให้กับนารุโตะที่แพ้สลบไป หลายวันต่อมานารุโตะฟื้นขึ้นมาในโรงพยาบาลและได้ออกไปฝึกวิชากับจิไรยะ ส่วนซากุระก็ไปฝึกวิชาการรักษากับซึนาเดะ



การต่อสู้กับกลุ่มแสงอุษา:ช่วยชีวิตกาอาระด่วน!!

สองปีผ่านไป นารุโตะกับจิไรยะกลับมาที่หมู่บ้านโคโนะฮะ นารุโตะได้ร่วมทีมกับคาคาชิและซากุระในฐานะนินจาโคโนะฮะด้วยกันอีกครั้ง คาคาชิ ทดสอบฝีมือของทั้งสองโดยให้แย่งกระพรวน กติกาเหมือนครั้งแรกที่เจอกันตอนที่ทั้งคู่นั้นยังอยู่ในระดับเกะนิน ทั้งนารุโตะและซากุระแย่งกระพรวนมาได้ หลังจากนั้นนารุโตะเจอชิกามารุและเทมาริที่กลับมาจากการติดต่อเรื่องการสอบจูนิน ในระหว่างนั้นกลุ่มแสงอุษาได้ไปที่หมู่บ้านซึนะที่กาอาระได้เป็นคาเสะคาเงะของหมู่บ้าน แสงอุษาจับตัวกาอาระไปและคันคุโร่ได้ตามไปช่วยแต่กลับโดนพิษของศัตรู โฮคาเงะรุ่นที่ 5 ได้สั่งภารกิจใหม่ให้พวกนารุโตะเดินทางไปหมู่บ้านซึนะงาคุเระ เพื่อดูสถานการณ์แล้วรายงานกลับมายังโคโนะฮะ หลังจากนั้นให้ร่วมปฏิบัติการสนับสนุนซึนะงาคุเระภายใต้คำสั่งของพวกเขา


ระหว่างทาง ทั้งสามเจอเทมาริและได้เดินทางไปพร้อมกัน ทันทีที่ไปถึงซากุระก็ช่วยแก้พิษให้คันคุโร่ได้ โฮคาเงะที่ 5 ได้สั่งให้กลุ่ม 8 คือ ครูไก ลี เนจิ และ เท็นเท็น ได้ตามพวกนารุโตะไปที่หมู่บ้านซึนะงาคุเระ ต่อมานารุโตะ ซากุระ ครูคาคาชิ และที่ปรึกษาโจ ของ ซึนะงาคุเระก็ไล่ตามกลุ่มแสงอุษาไป ระหว่างทางนั้น ที่ปรึกษาโจก็ได้เล่าถึงสัตว์หางและบอกว่าสัตว์ หางนั้นมีทั้งหมด 9 ตน โดยมีตั้งแต่ 1 หาง 2 หาง ไปจนถึง 9 หาง.... เมื่อแสงอุษารู้ตัวว่าโดนสกดรอยก็ให้ อิทาจิกับคิซาเมะ แยกกันไปจัดการกับ คาคาชิ และ กลุ่มของไก ส่วนอิทาจิไปจัดการครูคาคาชิ และทั้งสองก็ต้องแพ้กลับไป ต่อมากลุ่มของไกก้ได้ไปถึงหน้าถ้ำของกลุ่มแสงอุษา โดยมีกลุ่มของคาคาชิตามมาสมทบภายหลัง เมื่อทั้งสองกลุ่มมาถึงก็พบว่าไม่สามารถเข้าไปภายในถ้ำได้เนื่องจากมีคาถาผนึกทางเข้าไว้ กลุ่มไกจึงอาสาไปปลดผนึก และเมื่อปลดผนึกสำเร็จ กลุ่มคาคาชิ ก็เข้าไปในภายถ้ำและได้พบกับไดอาระ และ ซาโซริซึ่งนั่งทับร่างของกาอาระอยู่ นารุโตะเห็นเช่นนั้นจึงพยายามเข้าไปช่วย แต่ถูกคาคาชิห้ามไว้

จากนั้น เอดิอาระจึงพาร่างของกาอาระหนีไป โดยมีนารุโตะและคาคาชิตามไป โดยทิ้งซากุระและที่ปรึกษาโจไว้กับซาโซริ ต่อมาโจ และ ซากุระได้ต่อสู้กับซาโซริ ขณะที่ต่อสู้กันอยู่นั้นซาโซริได้บอกเรื่องเกี่ยวโอโรจิมารุให้ซากุระรู้ว่า ตนเองจะไปนัดพบกับโอโรจิมารุที่สะพานแห่งหนึ่งในอีก 7 วันข้างหน้า ก่อนที่ซาโซริจะพ่ายแพ้ให้กับซากุระ

 

 

ส่วนนารุโตะและคาคาชิที่ตามเดอิดาระไปก็ได้ต่อสู้กัน โดยนารุโตะใช้พลังของจิ้งจอกเก้าหางเข้าสู้ และคาคาชิใช้เนตรวงแหวนแบบใหม่เข้าสู้จนเดอิดาระพ่ายแพ้และเสียแขนไปข้างหนึ่ง จากนั้นกลุ่มแสงอุษาที่เหลือจึงถอนตัวหนีไป ต่อมากลุ่มไกและกลุ่มคาคาชิก็มารวมตัวกันโดยนำร่างของกาอาระที่ไร้วิญญาณแล้ว นารุโตะเสียใจมากที่ไม่สามารถช่วยอะไรกาอาระได้ ที่ปรึกษาโจเห็นถึงความลึกซึ้งระหว่างนารุโตะและกาอาระจึงตัดสินใจชุบชีวิตกาอาระขึ้นมาโดยเอาชีวิตตัวเองเข้าแลก กาอาระจึงฟื้นคืนชีพและได้กลับไปซึนะเช่นเดิม


การตามหาซาสึเกะ:พบพานกันอีกครั้ง

หลังจากจบศึกกับกลุ่มแสงอุษาที่หมู่บ้านซึนะ พวกนารุโตะก็ได้รับภารกิจใหม่ แต่คาคาชิบาดเจ็บหนักจึงไม่สามารถเข้าร่วมภารกิจได้ โฮคาเงะรุ่นที่5(ซึนาเดะ) เลยส่ง ยามาโตะ นินจาหน่วยลับมานำทีมแทน ซึ่ง ยามาโตะ เคยเป็นร่างทดลองของโอโรจิมารุ ซึ่งโคลนนิ่งจากสายเลือดและดีเอ็นเอของโฮคาเงะรุ่นที่ 1 จึงสามารถใช้ขีดจำกัดทางสายเลือด วิชาลับของรุ่นที่ 1 คือ สามารถควบคุมไม้ได้ ไม่เพียงแค่ยามาโตะที่ถูกส่งเข้ามาร่วมทีมใหม่ แต่ยังมี ซาอิ นินจาหนุ่มที่ถูกฝึกมาให้ยึดมั่นในภารกิจมากกว่าความรู้สึก ซึ่งการปรากฏตัวครั้งแรกของซาอินั้น ทำเอานารุโตะถึงกับยั๊วไปกับนิสัยอันกวนๆของซาอิเข้าอย่างจัง แถมซาอิยังพูดดูถูกซาสึเกะอีก นารุโตะทนไม่ได้จนต่อยซาอิคว่ำ สร้างความลำบากใจให้กับเพื่อนร่วมทีมอย่าง ซากุระ และ ยามาโตะ

ภารกิจเริ่มต้นขึ้น เมื่อยามาโตะปลอมตัวเป็นซาโซริร่างหุ่นเชิด ไปยืนรอสายลับของซาโซริ โดยให้พวกนารุโตะไปซ่อนตัว และก็เป็น คาบุโตะ มือขวาของโอโรจิมารุ เข้ามายังสถานที่ที่นัดหมายเอาไว้ ระหว่างที่ทั้งสองกำลังสนทนากัน โอโรจิมารุก็ได้เฝ้าดูอยู่อย่างห่างๆ แต่โอโรจิมารุไม่รอช้าเลยเข้าร่วมวงสนทนาด้วย แต่ยามาโตะก็ถูกคาบุโตะกำจัดร่างหุ่นเชิดจนยับเยิน แต่ก็รอดตายมาได้ และก็รู้จุดประสงค์ที่แท้จริงที่โอโรจิมารุมาขอนัดพบกับซาโซริ นั่นคือ โอโรจิมารุหมายจะสังหารซาโซรินั่นเอง โอโรจิมารุสั่งให้ยามาโตะเรียกพวกที่ซ่อนตัวอยู่ออกมา ก็เลยทำให้ นารุโตะ ซากุระ และ ซาอิ ออกมารับมือกับโอโรจิมารุ นารุโตะ เข้าไปโจมตีโอโรจิมารุด้วยความโกรธแค้นโดยใช้จักระจากจิ้งจอกเก้าหาง จนสร้างความเสียหายแก่พื้นที่โดยรอบ โอโรจิมารุจึงหนีออกไป นารุโตะตามโอโรจิมารุไป แต่ซากุระกลับโดนลูกหลงจนหมดสติจะตกสะพาน ซาอิได้วาดภาพนก และเรียกออกมาใช้ เหมือนกับทำท่าจะช่วยเธอ แต่กลับตามโอโรจิมารุไปอีกคน ทำให้ยามาโตะต้องใช้วิชาควบคุมไม้ ช่วยซากุระเอาไว้ได้ และใช้ร่างโคลนที่ทำจากไม้ไล่ตามนารุโตะไป

การต่อสู้ระหว่างนารุโตะกับโอโรจิมารุยังคงดำเนินต่อไป นารุโตะรุกไม่ยัง โอโรจิมารุหาทางหนี แต่ซาอิที่ไล่ตามมาทีหลังก็ส่งจดหมายที่ดันโซมาให้โอโรจิมารุ และได้ติดตามโอโรจิมารุไป ส่วนอีกด้านหนึ่งยามาโตะจึงใช้วิชาลับของรุ่นที่ 1 สะกดจักระจิ้งจอกเก้าหาง จนนารุโตะฟื้นคืนสติกลับมาเป็นเหมือนเดิม และทั้งสามก็ติดตามหาตัวโอโรจิมารุต่อไป พอถึงรังลับของโอโรจิมารุ พวกนารุโตะก็พบว่าซาอิได้นำเอาข้อมูลลับของนินจาโคโนะฮะมาให้โอโรจิมารุ เนื่องจากดันโซ ต้องการคืนสู่อำนาจในโคโนะฮะ จึงขอร้องให้นารุโตะช่วยโจมตีหมู่บ้านโคโนฮะ ส่วนทางนารุโตะที่ต้องการจะช่วยเหลือซาสึเกะให้ได้ จึงมุ่งหน้าต่อไปโดยที่ไม่ฟังคำทัดท้านจากซาอิที่ได้พบกับซาสึเกะก่อนหน้านี้ แต่นารุโตะยังคงมุ่นมั่นที่จะช่วยเพื่อนรักคนนี้ให้ได้ จนซาอินั้นยอมช่วยเหลือนารุโตะอีกแรง เพราะเขาเองก็ต้องการค้นหาความรู้สึกตัวเอง ต่อพี่ชายที่ล่วงลับไปเช่นกัน จนในที่สุดพวกนารุโตะก็บุกเข้าไปในรังโอโรจิมารุและได้เจอกับ ซาสึเกะ เพื่อนรักที่หายไปนาน นารุโตะพยายามเกลี้ยกล่อมซาสึเกะให้กลับไปโคโนฮะ แต่ซาสึเกะกลับปฏิเสธ เพราะเป้าหมายเขาตอนนี้คือฆ่าอิทาจิเท่านั้น และ เขาก็กล่าวอีกว่า เพื่อได้พลังมาเขายอมทุกอย่าง แค่ชีวิต มีเท่าไหร่ฉันก็ยอมให้ได้ และ ซาสึเกะก็จากไป โดยที่นารุโตะยังคงนั่งเจ็บใจ ส่วนซากุระก็ได้แต่ร้องไห้และบอกว่า พวกเราจะต้องแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อหวังที่จะพาเพื่อนรักคนนี้กลับมาให้ได้


โคโนฮะ vs แสงอุษา : ปะทะกับฮิดัน และ คาคุสึ

นารุโตะ อยากจะพาเพื่อนรัก ซาสึเกะกลับมาให้ได้ จึงตัดสินใจฝึกหนักกับคาคาชิ และ ยามาโตะ โดยคาคาชิให้นารุโตะทดสอบหาธาตุของตนนั้นคืออะไร ซึ่งผลที่ออกมานั้น นารุโตะ คือ ธาตุลม คาคาชิจึงเริ่มฝึกให้นารุโตะรู้จักควบคุมธาตุลม โดยการฝึกแบบพื้นฐานจนถึงใช้คาถาแยกเงาพันร่างมาประยุกต์ใช้เพื่อให้ฝึกสำเร็จยิ่งขึ้น การฝึกยังคงดำเนินต่อไป จนกระทั่งการมาเยือนโคโนฮะของสมาชิกแสงอุษา อย่าง ฮิดัน และ คาคุซึ โดยพวกเขาก็ถล่มโคโนฮะซะยับ จนโฮคาเงะรุ่น5(ซึนาเดะ) สั่งให้นินจา 20 หมวดย่อยออกติดตามล่าแสงอุษาถ้าจับเป็นไม่ได้ก็ให้ฆ่าซะทีมของอาซึม่าออกไปตามล่าจนได้ปะทะเข้าสู้กับฮิดัน แต่ก็ไม่สามารภฆ่าฮิดันได้ อาซึม่าจึงขอลุยเดี่ยวกับฮิดัน ซึ่งฮิดันนั้นสามารถส่งความบาดเจ็บของตนเองไปยังคู่ต่อสู้ที่ตนเองได้รับเลือดเข้าไปในร่างได้ ชิกามารุพยายามจะช่วยโดยใช้คาถาเงาหยุดฮิดันเอาไว้ แต่ทว่า คาคุซึก็ออกมาช่วยฮิดันไว้ได้ ทำให้ฮิดันสามารถเอามีดมาแทงหัวใจสังหารอาซึมะจนสิ้นใจ การตายของอาซึมะ ทำให้ศิษย์รักอย่าง ชิกามารุโกรธแค้นมาก จึงตัดสินใจยกทีมไปสู้โดยมีคาคาชิร่วมด้วย ในขณะที่ โฮคาเงะรุ่นที่ 5 ให้นารุโตะ ซาอิ ซากุระ

และยามาโตะไปเป็นกำลังเสริมโดยมีเงื่อนไขว่านารุโตะต้องฝึกวิชานั้นสำเร็จภายใน24ชั่วโมงหลังจากนั้นเท่านั้น ชิกามารุจัดการฮิดันสำเร็จ แต่ คาคุซึก็ยังคงต่อสู้อยู่กับคาคาชิ โจจิและอิโนะ จนในที่สุดนารุโตะก็ปรากฏตัวโดยเปิดตัวท่าไม้ตายใหม่ "ดาวกระจายวงจักร" จัดการกับคาคุซึตัวต่อตัว และในที่สุดก็จัดการคาคุซึลงได้ในการใช้ท่านี้เป็นครั้งที่สอง หลังจากนั้น นารุโตะรักษาการบาดเจ็บที่แขนขวา ซึนาเดะบอกคาคาชิว่า วิชานี้มีพลังทำลายล้างสูงเกินไป หากนารุโตะยังใช้วิชานี้อีก ก็อาจจะไม่สามารถรีดเร้นจักระได้อีกต่อไป โดยกำชับว่า ห้ามนารุโตะใช้วิชานี้อีกเด็ดขาด พอคาคาชิบอกกับนารุโตะ นารุโตะกลับบอกว่าเขารู้จักร่างกายตัวเองดีที่สุดและไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง


ฟอร์มทีมซาสึเกะ และ ศึกประจันหน้าระหว่าง เดอิดาระ กับ ซาสึเกะ

อีกด้านหนึ่ง เกิดการต่อสู้กันอย่างดุเดือดระหว่าง ซาสึเกะ กับ โอโรจิมารุ ซึ่งซาสึเกะผู้เป็นศิษย์เหนือกว่ามาก และเป็นฝ่ายโอโรจิมารุ ผู้เป็นอาจารย์ต้องประสบความปราชัยไป จากนั้นซาสึเกะ ก็ได้รวมทีมขึ้นมาใหม่ เป็นทีมงู (Heibi) สมาชิกประกอบไปด้วย ซุยเงสึ ที่มีนิสัยชอบดื่มน้ำตลอดเวลาเพราะร่างกายเป็นน้ำ, จูโกะ ผู้เป็นต้นตำรับอักขระต้องสาป, คาริน สาวเพียงคนเดียวในทีม หลงรักซาสึเกะ และ เกลียดชังซุยเงสึสุดๆ

ทางฝั่งของแสงอุษา ได้ส่ง เดอิดาระ กับ โทบิ ไปสู้กับซาสึเกะ ถึงเดอิดาระจะใช้ท่าไม้ตาย ตั้งแต่ C1 ถึง C4 แต่มิอาจต้านซาสึเกะได้ เดอิดาระจึงต้องพลีชีพด้วยการระเบิดตัวเองเพื่อให้ซาสึเกะโดนลูกหลงตายไปด้วย แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะ ซาสึเกะได้อัญเชิญ มันดะออกมากันไว้

อีกด้านหนึ่ง ทีมของนารุโตะ และ ทีมของ คิบะ ออกไปตามหา อิทาจิ เผื่ออาจได้เจอซาสึเกะอีกครั้ง ขณะเดียวกัน จิไรยะ กับ ซึนาเดะ ก็พูดคุยกัน ระหว่างนั้น พวกเขาก็ได้พูดถึง รุ่นที่ 4 หรือ นามิคาเซะ มินาโตะ กับ อุซึมากิ คุชินะ ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของนารุโตะ ตามลำดับด้วยเช่นกัน พอจบการสนทนา จิไรยะก็จากลา ซึนาเดะ เพื่อมุ่งหน้าตรงไปยังหมู่บ้านอาเมะ ซึ่งเป็นที่อยู่ของเพน หัวหน้าของกลุ่มแสงอุษา.........


ลาก่อน จิไรยะ........ลาก่อน อิทาจิ

อีกด้านหนึ่ง เกิดการต่อสู้กันอย่างดุเดือดระหว่าง ซาสึเกะ กับ โอโรจิมารุ ซึ่งซาสึเกะผู้เป็นศิษย์เหนือกว่ามาก และเป็นฝ่ายโอโรจิมารุ ผู้เป็นอาจารย์ต้องประสบความปราชัยไป จากนั้นซาสึเกะ ก็ได้รวมทีมขึ้นมาใหม่ เป็นทีมงู (Heibi) สมาชิกประกอบไปด้วย ซุยเงสึ ที่มีนิสัยชอบดื่มน้ำตลอดเวลาเพราะร่างกายเป็นน้ำ, จูโกะ ผู้เป็นต้นตำรับอักขระต้องสาป, คาริน สาวเพียงคนเดียวในทีม หลงรักซาสึเกะ และ เกลียดชังซุยเงสึสุดๆ

ทางฝั่งของแสงอุษา ได้ส่ง เดอิดาระ กับ โทบิ ไปสู้กับซาสึเกะ ถึงเดอิดาระจะใช้ท่าไม้ตาย ตั้งแต่ C1 ถึง C4 แต่มิอาจต้านซาสึเกะได้ เดอิดาระจึงต้องพลีชีพด้วยการระเบิดตัวเองเพื่อให้ซาสึเกะโดนลูกหลงตายไปด้วย แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะ ซาสึเกะได้อัญเชิญ มันดะออกมากันไว้

อีกด้านหนึ่ง ทีมของนารุโตะ และ ทีมของ คิบะ ออกไปตามหา อิทาจิ เผื่ออาจได้เจอซาสึเกะอีกครั้ง ขณะเดียวกัน จิไรยะ กับ ซึนาเดะ ก็พูดคุยกัน ระหว่างนั้น พวกเขาก็ได้พูดถึง รุ่นที่ 4 หรือ นามิคาเซะ มินาโตะ กับ อุซึมากิ คุชินะ ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของนารุโตะ ตามลำดับด้วยเช่นกัน พอจบการสนทนา จิไรยะก็จากลา ซึนาเดะ เพื่อมุ่งหน้าตรงไปยังหมู่บ้านอาเมะ ซึ่งเป็นที่อยู่ของเพน หัวหน้าของกลุ่มแสงอุษา.........เมื่อถึงหมู่บ้าน จิไรยะ ได้พบกับ เพน และโคนัน อดีตลูกศิษย์ของจิไรยะที่ตอนนี้กลายมาเป็นพวกของแสงอุษา ทั้งสองพยายามขัดขวางจิไรยะ จากนั้น จิไรยะได้ต่อสู้กับเพน ซึ่งเพนก็ได้ใช้"เนตรสังสาระ" ซึ่งสามารถควบคุมร่างอื่นๆรวม 6 ร่าง เข้าโจมตีจิไรยะ จิไรยะเสียเปรียบอย่างหนักจนถึงขั้นต้องเสี่ยงแปลงเป็นอีกร่างหนึ่งที่มีปู่และย่ากบเกาะอยู่บนไหล่ ทั้งสองสู้กันอย่างสูสี จนในที่สุดจิไรยะก็ถูกเพนสังหาร ก่อนตายจิไรยะได้เขียนความลับของเพนลงบนหลังปู่กบให้ไปส่งข้อความให้ทางโคโนฮะรู้

ในขณะเดียวกัน ซาสึเกะ ได้พบกับ อิทาจิ พี่ชายของตนเข้า จึงเป็นโอกาสอันดีที่ซาสึเกะจะได้ล้างแค้นพี่ชายซะที ทั้งสองไม่รอช้าจึงเข้าต่อสู้กัน การต่อสู้เป็นไปอย่างสูสี อิทาจิเกือบควักดวงตาของซาสึเกะได้ แต่ซาสึเกะใช้คาถาลวงตาโต้กลับจึงรอดพ้นไปได้ การต่อสู้ดำเนินต่อไป ทั้งสองต่างก็งัดใช้ท่าไม้ตายสุดยอดออกมา ทว่าในขณะที่อิทาจิกำลังใช้"สุซานาโอะ(เทพีสุริยา)"จู่โจมซาสึเกะที่กำลังหมดหนทางโต้กลับอยู่นั้น อิทาจิกลับสิ้นลมขาดใจตายต่อหน้าซาสึเกะ โดยก่อนตายเขาได้เอานิ้วจิ้มที่หน้าผากของซาสึเกะเป็นการส่งท้าย(จริงๆแล้ว เป็นการส่งมอบวิชาเนตรวงแหวนที่อิทาจิมีทั้งหมดให้กับซาซึเกะ) จากนั้นโทบิ ซึ่งภายหลังก็เปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงคือ อุจิวะ มาดาระ ได้ปรากฏตัวขึ้นและบอกความจริงทั้งหมดให้ซาสึเกะได้รู้ ได้ความว่า อิทาจิต้องการให้ซาสึเกะแก้แค้นแทนตนเอง ที่โดนหมู่บ้านโคโนฮะหักหลัง แถมก่อนตาย เขาก็ถ่ายทอดวิชาเนตรวงแหวนที่เขามีทั้งหมดให้กับซาสึเกะด้วย นอกจากนี้ มาดาระยังบอกอีกว่า อิทาจิได้ช่วยโลกนินจา โคโนฮะ และ ปกป้องซาสึเกะ รวมถึง เรื่องราวในอดีตของตระกูลอุจิวะ และ การปะทะกันของ โฮคาเงะรุ่น 1 และ มาดาระ เมื่อซาสึเกะได้รู้ความจริงทั้งหมด เขาจึงแค้นโคโนฮะนัก และร่วมือกับมาดาระและแสงอุษาในการถล่มโคโนฮะ พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อทีมของซาสึเกะเอง จากทีม"งู" เป็น "เหยี่ยว"


เพน จู่โจมโคโนฮะ : โคโนฮะ ถึงคราวล่มสลายอย่างงั้นเหรอ!?

หลังจากที่ซาสึเกะและพรรคพวกแห่งทีมเหยี่ยว ได้เข้าร่วมกับแสงอุษา ภารกิจแรกของพวกเขา ก็คือ การออกล่าตามจับ "8 หาง" แต่พวกเขาทำภารกิจไม่สำเร็จ ขณะเดียวกันทางฝั่งโคโนฮะ ได้รับทราบข่าวการจากไปของจิไรยะ ทำให้ทุกคนเสียใจมาก โดยเฉพาะกับนารุโตะ อย่างไรก็ดีพวกเขาได้พบกับรหัสลับที่จิไรยะได้ฝากไว้ก่อนตายให้กับ"ปู่กบ" ชิกามารุ กับ นารุโตะ จึงได้ช่วยกันไขรหัส ได้ความว่า เพนไม่มีตัวตนที่แท้จริง อีกด้านหนึ่ง เพน ได้บุกมายังโคโนฮะแล้ว ซึ่งเป้าหมายหลักของเพน คงหนีไม่พ้น "9 หาง" ในตัวนารุโตะ และเพื่อรับมือการบุกของเพน ปู่กบจึงเสนอให้นารุโตะไปฝึกวิชาเพิ่มเติมกับเขา เพื่อให้นารุโตะสามารถดึงพลังจากธรรมชาติ เข้าสู่โหมดเซียนได้ นารุโตะจึงตอบตกลงที่จะฝึกวิชากับปู่กบ..........

ระหว่างที่นารุโตะกำลังฝึกฝนวิชา สถานการณ์โคโนฮะกลับย่ำแย่ เมื่อเพน พร้อมกับร่างของเขาทั้ง 6 ร่าง ได้บุกโจมตีโคโนฮะอย่างหนักหน่วง ซึ่งฝีมือเพนนั้นร้ายกาจมาก นินจาโคโนฮะถูกปราบเรียบ แม้กระทั่งคาคาชิเองก็ยังเอาไม่อยู่ ผลสุดท้ายเพนได้ใช้้พลังมหาศาล ทำลายล้างหมู่บ้านโคโนฮะ จนราบเป็นหน้ากอง ในขณะที่ทุกคนกำลังสิ้นหวังอยู่นั้น นารุโตะก็ปรากฏกายต่อหน้าเพน พร้อมกับฝึกโหมดเซียนได้สำเร็จ นารุโตะที่พาวเวอร์อัพขึ้น สามารถต่อสู้กับเพนได้อย่างสูสี สามารถจัดการเพนได้ 5 ร่าง จนกระทั่งเกิดจุดเปลี่ยนสำคัญเมือ ปู่กบถูกเพนฆ่าตาย แถมนารุโตะเองยังถูกพนใช้แท่งโลหะสีดำที่เป็นตัวรับจักระ แทงไปตามจุดต่างๆ อีกทั้งฮินาตะทีเข้ามาช่วยพร้อมสารภาพความในใจกับนารุโตะ ถูกเพนทำร้ายอีก ทำให้นารูโตะถึงกับบันดาลโทสะ กลายเป็นปีศาจจิ้งจอก 6 หางออกอาละวาด ทว่าภายในตัวของนารุโตะ ได้พบกับ มินาโตะ โฮคาเงะรุ่นที่ 4 และศักดิ์เป็นพ่อบังเกิดเกล้าของนารุโตะ ซึ่งรุ่นที่ 4 ช่วยซ่อมแซมผนึกจิ้งจอกเก้าหางในตัวนารุโตะอีก ทำให้นารุโตะได้กลับไปสู้กับเพนอีกครั้งในโหมดเซียน

การต่อสู้ดำเนินต่อไปจนกระทั่ง นารุโตะได้ใช้แท่งโลหะสีดำแทงใส่ตัวเองที่อยู่ในโหมดเซียนเพื่อส่งจักระของตัวเองย้อนทางกับไปค้นหานางาโตะ หรือ เพน จนพบ และทำให้นารุโตะได้รู้เรื่องในอดีตทั้งหมดของเพน ต่อจากนั้นนารุโตะก็พูดประโยคหนึ่งซึ่งสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจแก่นางาโตะ ทำให้นางาโตะยอมรับในตัวนารุโตะ และใช้วิชาลับชุบชีวิตนินจาโคโนฮะทุกคนที่ได้ฆ่าไป จนกระทั้งนางาโตะสิ้นลม อันเป็นการจบศึกการต่อสู้ในครั้งนี้ โคนันจากลาไป ในขณะที่นารุโตะเดินทางกลับโคโนฮะในฐานะวีรบุรุษ


การประชุมคาเงะ และ เหตุการณ์ต่างๆก่อนสงครามนินจาอุบัติขึ้นอีกรอบ

หลังจากจบสิ้นสงคราม ก็มีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านโคโนฮะ เมื่อ ดันโซ ก้าวสู่ตำแหน่งโฮคาเงะ แทนซึนาเดะ ที่บาดเจ็บหนักจากศึกครั้งที่ผ่านมา และเขาได้เข้าร่วมกับการประชุมของบรรดาคาเงะจากหมู่บ้านอื่นๆด้วย ณ เท็ตสึโนะคุนิ ประเทศแห่งเหล็กที่มีหิมะปกคลุมทั้งปี โดยที่มี คาคาชิ นารุโตะ และ ยามาโตะ ตามไปที่นั่นด้วย โดยมีจุดหมายที่จะพูดคุยกับ A ไรคาเงะ จากคุโมงาคุเระ เพื่อขอร้องให้เขาอภัยในสิ่งที่ซาสึเกะก่อขึ้น ทว่าระหว่างการประชุมของคาเงะทั้ง 5 นั้น ก็ถูกขัดจังหวะโดย ซาสึเกะ และพรรคพวกที่เข้ามาขัดขวาง (โดยที่มีโทบิอยู่เบื้องหลัง) จึงเกิดการต่อสู้กันระหว่างพวกคาเงะทั้ง 5 กับพวกของซาสึเกะ การต่อสู้นั้นดำเนินต่อไป และจบลงด้วย ซาสึเกะเป็นคนสังหารดันโซ หลังจากนั้น ซากุระ ได้เข้ามาพอดี พร้อมกับพยายามขอเข้าร่วมกลุ่มกับซาสึเกะ ซาสึเกะได้ยินดังนั้น ก็สั่งให้เธอสังหารคารินที่กำลังบาดเจ็บหนัก เพื่อเป็นการพิสูจน์คำพูดของเธอ แต่ซากุระไม่ยอมทำตาม โชคดีที่คาคาชิกับตามไปช่วยไว้ทัน และเกิดการต่อสู้กันเองระหว่างครูกับอดีตลูกศิษย์ ซึ่งในช่วงที่สองคนกำลังสู้กัน ซากุระเห็นโอกาสจึงตัดสินใจสังหารซาสึเกะ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ จนกระทั่ง นารุโตะ ปรากฏตัวขึ้นและช่วยเหลือซากุระไว้ และทำให้ นารุโตะ กับ ซาสึเกะ ได้พบเจอกันอีกครั้งและเข้าซัดกันอีกรอบนึง จนกระทั่งศึกนี้จบลงด้วยการที่คาคาชิ กับ เซ็ตสึ เข้ามาห้ามปรามทีล่ะฝ่าย เป็นอีกครั้งหนึ่งที่นารุโตะไม่สามารถพาซาสึเกะกลับไปได้ ซ้ำยังต้องล้มเจ็บ จากการที่ถูกพิษจากมีดของซากุระที่พยายามจะใช้สังหารซาสึเกะอีกต่างหาก

ขณะเดียวกัน โทบิ ได้ส่ง คิซาเมะ ในการตามล่าหา Killer B ผู้มีจิ้งจอก 8 หาง สิงอยู่กับร่าง แล้วก็เกิดการต่อสู้กัน และ B ได้รับการช่วยเหลือจากไรคาเงะ แต่แท้จริงแล้ว คิซาเมะที่มาสู้กับ B นั้น เป็นร่างโคลนของเซ็ตสึ

อีกด้านหนึ่ง คาบุโตะ ได้ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง ด้วยการรวมพลังกับโอโรจิมารุ พร้อมกับกำลังวางแผนอะไรบางอย่าง....ส่วนทางด้าน ซึนาเดะ ก็หายจากอาการเจ็บป่วยเป็นปลิดทิ้ง และกลับเข้ามารับตำแหน่งโฮคาเงะแห่งหมู่บ้านโคโนฮะอีกครั้ง.........

หลังจาก ซึนาเดะ กลับมารับตำแหน่งโฮคาเงะอีกรอบนึง ก็เกิดการเคลื่อนไหวของฝั่งแสงอุษาขึ้น เมื่อ คาบุโตะ ได้เข้าเจรจาขอร่วมศึกกับพวกของโทบิ ด้วยได้นำเอาบรรดาร่างของอดีตสมาชิกแสงอุษาที่ตายไปแล้วนั้น มาฟื้นคืนชีพและกลายเป็นกำลังรบสำคัญของพวกเขาด้วย ต่อจากนั้น นารุโตะ ถูกส่งให้ไปฝึกควบคุม 9 หาง กับ B และในระหว่างการฝึก ทำให้นารุโตะได้พบกับวิญญาณของ คุชินะ แม่บังเกิดเกล้าของตนเอง พร้อมกับรับรู้เรื่องราวในอดีตตอนที่นารุโตะถือกำเนิดขึ้นมาอีกด้วย อย่างไรก็ตาม หลังจากการฝึก ทั้งนารุโตะ B และ ยามาโตะ ได้พบกับ คิซาเมะ ที่กำลังซ่อนตัวอยู่ในดาบซาเมฮาดะ เข้า จึงเกิดการต่อสู้ไล่จับกัน จนกระทั่ง ไก ที่กำลังเดินทางมาให้กำลังใจนารุโตะนั้น ได้พบคิซาเมะเข้า จึงได้ร่วมตัวสู้กับคิซาเมะด้วย แต่คิซาเมะก็เป็นฝ่ายถูกไกไล่ต้อนอย่างหนัก จนกระทั่งเขาต้องตัดสินใจจบชีวิตตนเอง

อีกด้านหนึ่ง ณ อาเมะงาคุเระ โทบิ ได้เผชิญหน้ากับ โคนัน ซึ่งโทบิมองว่า โคนันเป็นคนทรยศ แต่ยังคงสวมใส่เสื้อฟอร์มของแสงอุษาอยู่เหมือนเดิม โทบิจึงเข้าจู่โจม โคนันพยายามต่อสู้จนถึงที่สุด แต่มิอาจจะรอดชีวิตกลับมาได้ เป็นอันจบสิ้นตำนานของ นางาโตะ ยาฮิโกะ และ โคนัน 3 นินจาแห่งอาเมะงาคุเระ หนึ่งในลูกศิษย์ของจิไรยะ

อีกด้านหนึ่ง ฝั่งแสงอุษาก็มีกำลังรบพร้อมแล้ว และเตรียมจะก่อสงครามโลกนินจาครั้งใหม่อย่างเต็มตัว.......


 

นารุโตะ เวอร์ชั่นภาพยนตร์

นารุโตะ เดอะมูฟวี่ ศึกชิงเจ้าหญิงหิมะ (Naruto the Movie: Ninja Clash in the Land of Snow )
หนังจอเงินภาคแรกของนารุโตะ ออกฉาย ปี 2004 ซึ่งในบ้านเราเข้าฉายในโรงในปีต่อมา ซาสึเกะ นารุโตะ และ ซากุระ ได้ช่วยเหลือ ยูคิเอะ ที่กำลังจะถูกฆ่า นารุโตะเกิดประทับใจในตัวยูคิเอะ จึงได้ติดตามเธอ จนได้ลายเซ็นเธอมา แต่เธอไม่มีทีท่าอยากจะเล่นหนังเรื่อง"เจ้าหญิงฟุอุน"เลย เธอจึงถูกพาไปขึ้นเรือที่ในการแสดงหนังดังกล่าว ณ แคว้นยูกิ ขณะที่กำลังถ่ายทำหนังอยู่นั้น เกิดระเบิดบนภูเขาขึ้น และ ทั้งหมดต้องต่อสู้กับนินจาชั่วร้ายเพื่อปกป้องเธอผู้นี้



นารุโตะ เดอะมูฟวี่ ศึกครั้งใหญ่ ผจญนครปิศาจใต้พิภพ (Naruto the Movie 2: Legend of the Stone of Gelel )
ออกฉาย ปี 2005 ซึ่งในบ้านเราเข้าฉายในโรงในปีต่อมา เช่นเดียวกับภาคแรก กับการทำภารกิจลับของ นารุโตะ ซากุระ และ ชิกามารุ พวกเขาได้ต่อสู้กับศัตรูประหลาด ขณะที่นารุโตะกำลังต่อสู้อยู่นั้น เขาพลาดตกลงหน้าผาพร้อมกับคู่ต่อสู้ นารุโตะได้พบกับป้อมขนาดใหญ่ ซึ่งมีสิ่งลึกลับ รอคอยเขาอยู่...




นารุโตะ เดอะมูฟวี่ เกาะเสี้ยวจันทรา ( Naruto the Movie 3: Guardians of the Crescent Moon Kingdom )
ออกฉาย ปี 2006 เป็นหนังภาคสุดท้ายของนารุโตะภาคแรก กับภารกิจปกป้องเจ้าชายแห่งเกาะเสี้ยวจันทรา ที่กำลังออกเดินทางรอบโลกของ นารุโตะ คาคาชิ ซากุระ และ ร็อคลี แต่ในขณะเดียวกัน ที่เกาะเสี้ยวจันทรากำลังถูกกลุ่มวายร้ายยึดครองอีกเช่นกัน พวกนารุโตะ จึงต้องหยุดเหตุการณ์เลวร้ายลงให้ได้



นารุโตะ ชิปปูเดน เดอะมูฟวี่
ออกฉาย ปี 2007 เป็นหนังภาคแรกของซีรี่ย์ Naruto Shippuden โดยนินจาโคโนฮะ ซึ่งประกอบด้วย นารุโตะ ,ซากุระ ,ร็อคลี,เนจิ ได้รับคำสั่งให้คอยปกป้อง ชิออน ผู้ตกเป็นเป้าหมายการสังหารจาก จอมมารโมเรียว ที่ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งโมเรียวมีความต้องการอยากครองโลก และ ต้องการสร้าง"อาณาจักรพันปี"ให้เป็นจริงให้ได้ นอกจากพวกนารุโตะจะต้องทำภารกิจให้สำเร็จแล้ว พวกเขายังต้องหาทางกำจัดจอมมารผู้นี้ลงให้ได้



นารุโตะ ชิปปูเดน เดอะมูฟวี่ 2 (Naruto Shippuden 2: Bonds )
ออกฉาย ปี 2008 ไฮไลต์สำคัญของภาคนี้ คือ การพบกันอีกครั้งของนารุโตะ กับ ซาสึเกะ โดยที่นารุโตะ ,ซากุระ และ ฮินาตะ ถูกส่งให้ไปทำภารกิจช่วยเหลือคนในหมู่บ้านโคโนฮะที่ถูกจู่โจมจากกลุ่มนินจาที่เรียกตนเองว่า"โซระ" ตามคำขอร้องของคุณหมอชิโน กับ อามารุ ผู้ช่วยของเขา โดยมีทีมของชิกามารุคอยต่อสู้กับกลุ่มนินจากลุ่มนี้ ในขณะที่ภารกิจของนินจาโคโนฮะ ดำเนินต่อไปอย่างทุลักทุเล พร้อมกับรู้ความจริงเกี่ยวกับชิโนที่ได้รับพลังแห่งความมืด ชิโนได้รวมตัวกับปีศาจศูนย์หาง กลายเป็นสัตว์ประหลาด นารุโตะ กับ ซาสึเกะ ที่ได้ปรากฏตัวขึ้นโดยบังเอิญ ต้องช่วยกันหยุดสัตว์ประหลาดตนนี้ให้ได้



นารุโตะ ชิปปูเดน เดอะมูฟวี่ 3 (Naruto Shippuden 3: Inheritors of the Will of Fire)
ออกฉาย ปี 2009 โดยกลุ่มนินจาผู้มีขีดจำกัดทางสายเลือดได้บุกเข้ามาจู่โจมโคโนฮะ ซึนาเดะ จึงสั่งให้คาคาชิช่วยปกป้องหมู่บ้านนี้เอาไว้

 

นารุโตะ ชิปปูเดน เดอะมูฟวี่ หอคอยที่หายสาบสูญ (Naruto Shippuden : The Lost Tower )
นารูโตะ และพวกพ้องได้รับภารกิจให้จับกุมตัวอาชญากรนินจาชื่อ มุคาเดะ ซึ่งคนผู้นี้ได้ปลดผนึกแหล่งพลังงานจักระอันมหาศาลในอาณาจักรโรรัน เมืองร้างที่สาบสูญที่โฮคาเงะรุ่นที่ 4 ได้ เคยผนึกไว้เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ทำให้นารุโตะถูกดูดเข้าไปยังในอดีตเมื่อ 20 ปีก่อน และ ได้พบกับ มินาโตะ ซึ่งได้รับคำสั่ง จากรุ่นที่ 3 ให้มาปิดผนึกพลังลึกลับที่ถูกเรียกว่า "ชีพมังกร" ภารกิจครั้งนี้ นารูโตะ และมินาโตะ จะสามารถป้องกันไม่ให้ชีพมังกรถูกเปิดผนึกและปกป้องอาณาจักรโรรันได้หรือไม่ และในการเดินทางครั้งนี้ จะทำให้เขาได้พบกับความยิ่งใหญ่ของรุ่นที่ 4 ที่เขาไม่เคยรับรู้มาก่อน

 

นารุโตะ ชิปปูเดน เดอะมูฟวี่ คุกสีเลือด (Naruto Shippuden : Blood Prison)
ออกฉาย ปี 2011 นารูโตะ ได้ถูกส่งตัวไปปฏิบัติภารกิจที่แคว้นคุโมงาคุเร ถูกจับตัวไว้เนื่องจากเกิดความเข้าใจผิดว่าไป พยายาม ลอบสังหารไรคาเงะแห่งคุโมงาคุเระ รวมไปถึงการสังหารโจนินจากคิริงาคุเระและอิวางะคุเระ ทำให้นารูโตะถูกส่งตัวไปยังเรือนจำโฮซึคิโจ เรือนจำเลือด เป็นสถานที่ใช้สำหรับจองจำอาชญากรหรือผู้กระทำผิด โดยมีมุอิเป็นผู้ควบคุมดูแลเรือนจำแห่งนี้เขาจะใช้วิชานินจาจองจำขั้นสูงสุดเพื่อปิดผนึกพลังของอาชญากรหรือผู้กระทำผิดทุกคนที่อยู่ที่นี่ ในสถานที่แห่งนี้ มีบางสิ่งจ้องจะเอาชีวิตของนารูโตะอยู่!!! ทำให้นารูโตะและพวกเพื่อนๆของเขาต้องต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนารูโตะและค้นหาความจริงได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ..

 

นารุโตะ ชิปปูเดน เดอะมูฟวี่ พลิกมิติผ่าวิถีนินจา (Naruto Road to Ninja)
ออกฉาย ปี 2012 และเป็นหนังจอเงินนารุโตะที่ทำรายได้สูงที่สุดมากกว่าหนังภาคใดๆ กับการต่อสู้ครั้งใหม่ของนารูโตะในการปกป้องหมู่บ้านโคโนฮะให้รอดพ้น จากองค์กรนินจานามว่าแสงอุษา แต่กลับมีเหตุการณ์ลึกลับบางอย่างที่ทำให้นารูโตะและซากุระ เพื่อนสนิทของเขาต้องหลุดเข้าไปในโลกอีกมิติหนึ่งที่ผองเพื่อนและเหล่า อาจารย์ที่ทั้งสองเคยรู้จักมีนิสัยเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง รวมถึงพ่อแม่ของเขาก็ยังมีชีวิตอยู่การหาความจริงเบื้องหลังของโลกคู่ขนาน พร้อมกับการปกป้องหมู่บ้านจึงบังเกิดขึ้น

 

นารูโตะ เดอะมูฟวี่ ปิดตำนานวายุสลาตัน (The Last: Naruto the Movie)
ฉบับมูฟวี่ ที่จัดทำขึ้นเพื่อฉลองจบมังงะซีรี่ย์นารุโตะ ออกฉายเมื่อปี 2014 โดยเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนตอนจบของมังงะ เมื่อทีมนินจาของนารุโตะ ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติภารกิจหยุดยั้งดวงจันทร์ไม่ให้ตกดิน และ ช่วยเหลือ ฮานาบิ น้องสาวของฮินาตะ ให้รอดพ้นจาก โทเนริ ชายผู้หวังจะแต่งงานกับฮินาตะ และ คิดจะจัดการมนุษย์ผู้ที่ใช้จักระเป็นอาวุธ......จั่วมาขนาดนี้ แน่นอนว่า ตัวหนังเน้นขายโมเม้นต์หวานๆ ระหว่าง นารุโตะ กับ ฮินาตะ เป็นหลัก

 

Boruto: Naruto the Movie
หนังนารุโตะ ที่ให้เหล่าบรรดารุ่นลูกของนารุโตะและผองเพื่อน เป็นตัวชูโรง นำทีมซ่าโดย โบรุโตะ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนสุดหัวร้อนของนารุโตะ โดย พ่อลูกอุซึมากิคู่นี้ จะต้องรับมือกับสองภัยคุกคามใหม่ ที่จะส่งผลกระทบต่อสันติสุขของโลกนินจา ที่มาจากคำเตือนของซาสึเกะ
โดยตัวหนังเข้าฉายบนโรงที่ญี่ปุ่น ปี 2015

......หลังจากภาพยนตร์ชุดนี้จบลง ทีมผู้สร้างยังคงต่อยอดเรื่องราวของโบรุโตะต่อไป ทั้งมังงะ และ อนิเมทีวี ชุด Boruto: Naruto Next Generations


ตัวละคร


อุซึมากิ นารุโตะ
นินจาของหมู่บ้านโคโนฮะ ผู้ที่ถูกผนึกจิ้งจอกเก้าหางใว้ในท้องในช่วงที่เกิดใหม่ โดยโฮคาเงะรุ่นที่ 4 ผู้สละชีวิตตัวเองต่อสู้กับปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง นารุโตะเติบโตมากับความโดดเดี่ยวแถมถูกนินจาผู้ใหญ่ในหมู่บ้านเกลียดชัง เนื่องจากหาว่ามีจิ้งจอกเก้าหางที่เคยมาทำลายหมู่บ้านอยู่ในร่างกาย อิรุกะ อาจารย์คนแรกของนารุโตะเป็นคนที่ให้ความสำคัญและดูแลเอาใจใส่นารุโตะเหมือนลูก อิรุกะเข้าใจความรู้สึกของนารุโตะเนื่องจากสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก ลักษณะนิสัยเป็น คนที่ร่าเริง แจ่มใส บ้าๆบอๆ ชอบทำตัวมีปัญหา และ มักใช้คาถามหารัญจวนที่คิดขึ้นมาเอง แปลงร่างเป็นสาวโป๊ ไว้แกล้งชาวบ้านตลอดเวลา แต่เขานั้นไม่เก่งในวิชาอื่นๆรวมไปถึงวิชาแยกเงาซึ่งทำให้นารุโตะสอบตก 3 ครั้งติด แต่สุดท้ายนารุโตะก็สอบผ่านในคราวที่เข้าไปปกป้องอาจารย์ตัวเอง แถมเป็นคนที่เข้าใจอะไรช้า แต่ เขาก็สามารถเรียนรู้วิชานินจาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วเนื่องมาจากจักระของจิ้งจอกเก้าหางที่อยู่ภายในร่างกาย และของโปรดของเขาก็คือ บะหมี่ราเม็ง

ต่อมานารุโตะ ได้รับการฝึกฝนเพิ่มเติมจาก จิไรยะ 1 ใน 3 นินจาในตำนาน อีกทั้งเขาเป็นคนที่รักเพื่อนพ้องมาก โดยเฉพาะกับซาสึเกะนั้น เขาพยายามทุกวิธีทางที่จะทำให้ซาสึเกะยอมกลับมาที่โคโนฮะให้ได้ จึงทำให้เขาต้องฝึกหนักกับคาคาชิ และ ยามาโตะ โดยเฉพาะการควบคุมธาตุลม ซึ่งเป็นธาตุประจำตัวของ นารุโตะ จนได้ท่าไม้ตายใหม่ "ดาวกระจายวงจักร" จัดการกับคาคุซึ แห่งแสงอุษาลงได้



-กระแสข่าวลือ ความสัมพันธ์ของนารุโตะ กับ โฮคาเงะรุ่นที่ 4
นารุโตะ และ โฮคาเงะรุ่นที่ 4 ไม่มีความสัมพันธ์โดยตรงทางสายเลือด แต่ก็มีนักอ่านบางส่วนก็ตั้งข้อสงสัยว่า โฮคาเงะรุ่นที่ 4 อาจเป็นพ่อของนารุโตะ เนื่องจากสีผมสีทอง รวมไปถึงมีตาสีฟ้าซึ่งเหมือนกับนารุโตะอีกเช่นกัน

ความสัมพันธ์ของนารุโตะ กับโฮคาเงะรุ่นที่ 4 ที่ปรากฏในปัจจุบัน มีเพียงแค่โฮคาเงะรุ่นที่ 4 เป็นผู้ผนึกจิ้งจอกเก้าหางไว้ที่ท้องนารุโตะ และวิชาของทั้งสองคนมีความคล้ายคลึงกันเนื่องจากเป็นลูกศิษย์ของจิไรยะเหมือนกัน วิชากระสุนวงจักรเป็นมรดกที่โฮคาเงะรุ่นที่4ทิ้งไว้ให้ เขาเป็นผู้คิดค้นวิชากระสุนวงจักร เขาใช้เวลา 3 ปีในการเป็นมาสเตอร์ในวิชา แต่นารุโตะเรียนเพียง 1 อาทิตย์ก็เป็นมาสเตอร์ในวิชานี้เพราะ มีพลังของจิ้กจอก 9 หางอยู่ในตัวทำให้เขาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว และวิชาคาถาอัญเชิญที่เรียกกบเเดงกามะบุนตะออกมา ที่มีเพียง 2 คนนี้เท่านั้นที่สามารถเรียกออกมาได้ รวมถึง คาถาต้องห้ามอย่างคาถาแยกเงาพันร่าง ก็มีเพียง โฮคาเงะรุ่นสี่ เเละ นารุโตะ เท่านั้นที่ทำได้

จากที่ลือกันมาอย่างยาวนาน ในที่สุด ตอนที่367 (เล่ม 40) นั้น ก็เฉลยออกมาแล้วว่า นารุโตะ เป็นลูกชายของรุ่นที่ 4 จริงๆ โดยเขานั้นมีชื่อว่า นามิคาเซะ มินาโตะ ส่วนภรรยาเขา ชื่อ อุซึมากิ คุชินะ ซึ่งเป็นแม่ของนารุโตะนั่นเอง



อุจิวะ ซาสึเกะ (อุจิฮะ ซาสึเกะ)
ชื่อซาสึเกะตั้งตามมาจากนินจาในตำนาน ซารุโทบิ ซาสึเกะ เขาเป็นนินจาจากหมู่บ้านโคโนฮะและเป็นสมาชิกคนสุดท้ายของกลุ่มอุจิวะ เป็นผู้มีความสามารถในการใช้เนตรวงแหวน โดยความสามารถนี้สามารถใช้ท่าไม้ตายของคู่ต่อสู้เพียงแค่ได้เห็นเพียงครั้งเดียว ซาสึเกะตามล้างแค้นคนที่ฆ่าล้างตระกูลเขา ซึ่งก็คือพี่ชายแท้ๆ ชื่อ อุจิวะ อิทาจิ มีนิสัยเงียบขรึม แต่ก็มีเสน่ห์ จนทำให้ ซากุระ และ อิโนะ นั้น หลงรัก

ในช่วงปลายของภาคแรก ซาสึเกะคิดจะออกจากโคโนฮะ แต่นารุโตะพยายามรั้งเขาไว้ จนเกิดการต่อสู้กัน เขาเป็นฝ่ายเอาชนะนารุโตะ และ ได้รับการฝึกฝนจากโอโรจิมารุ ณ หมู่บ้านโอโตะ จนกระทั่งภาค2 เขาได้พบกับนารุโตะอีกครั้ง ณ รังของโอโรจิมารุ แต่ด้วยความอาฆาตแค้นที่มีต่ออิทาจิ ซาสึเกะจึงไม่ยอมกลับไปโคโนฮะ

หลังจากที่ซาสึเกะล้มโอโรจิมารุแล้ว เขาก็ฟอร์มทีมของเขาขึ้นมา โดยมีชื่อว่า ทีมงู (Heibi) (ภายหลังเปลี่ยนเป็นทีมเหยี่ยว) จากนั้นเขาก็ได้ต่อสู้กับอิทาจิ จนกระทั่งรู้ความจริงเกี่ยวกับอิทาจิทั้งหมดจากปากของมาดาระ เขาจึงตัดสินใจร่วมมือกับมาดาระในการถล่มโคโนฮะ

ฮารุโนะ ซากุระ
เป็นนินจาแห่งหมูบ้านโคโนฮะเป็นคนฉลาดหลักแหลม และ ตกหลุมรักซาซึเกะอย่างมาก หลังจากที่ซากุระได้เดินทางร่วมทุกร่วมสุขกันกับกลุ่ม 7 เธอรู้สึกว่า นารุโตะ นั้นเป็นเพื่อนที่ดีมาก จากเหตุการณ์ที่ ซาซึเกะ ถอนตัวไป นารุโตะก็บาดเจ็บจากการต่อสู้ เธอ เสียใจมากที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย ก็เลยขอเป็นลูกศิษย์ของซึนาเดะ ซึ่งเป็นนินจาแพทย์ที่เก่งที่สุดในเรื่องใช้วิชารักษาคน

ในภาค2 เธอสามารถเอาชนะ ซาโซริ แห่งแสงอุษาได้ ในภารกิจช่วยเหลือกาอาระ ณ ซึนะงาคุเระ


ฮาตาเกะ คาคาชิ
ฮาตาเกะ คาคาชิเป็นนินจาระดับโจนินแนวหน้าของหมู่บ้านโคโนฮะ มีความเป็นอิสระ เป็นตัวของตัวเองสูง ดูเหมือนเขายังมีความเจ็บปวดลึกๆ จากเรื่องในอดีต โดยปกติจะอ่านหนังสือสวรรค์รำไร (อจึ๋ยสวรรค์ ซึ่งมีอยู่ตอนนี้ในปัจจุบัน 3 ภาค คือ อจึ๋ยสวรรค์รำไร อจึ๋ยตกสววรค์ และ อจึ๋ยสวรรค์ระทม) นิยายวาบหวิวตลอดเวลา แถมผิดเวลานัดประจำ
ในอดีตนั้น เขาเคยเข้าสังกัดกองนินจาอันบุ ผมสีขาวของคาคาชิได้รับสืบทอดมาจากพ่อของเขา (ฮาตาเกะ ซาคุโมะ)พ่อของเขามีฉายาว่า"เขี้ยวสีขาวแห่งโคโนฮะ" ซึ่งเป็นหนึ่งนินจาในตำนานของหมู่บ้านโคโนฮะ และได้รับเนตรวงแหวนซึ่งได้รับมาจาก อุจิวะ โอบิโตะ เพื่อนร่วมทีมมอบให้ก่อนที่จะเสียชีวิต โดยได้รับการผ่าตัดจากรินในระหว่างภารกิจ เป็นศิษย์ของโฮคาเงะรุ่นที่4 ที่เป็นคนผนึกจิ้งจอกเก้าหางไว้ในตัวของนารุโตะ


กาอาระ
เกิดมาพร้อมกับชูคาคุ ปีศาจในร่างกาย โดยคาเซะคาเงะรุ่นที่ 4 ผู้เป็นพ่อ และผู้เฒ่าคนอื่นในหมู่บ้านทำพิธีไว้ เพื่อให้กาอาระโตขึ้นมาเป็นอาวุธสำคัญให้กับหมู่บ้าน เขามีพี่น้องไม่แท้คือ เทมาริ และ คันคุโร่ เขามีความสามารในการใช้ทรายเข้าสอบจูนินพร้อมกับ เทมาริ และคันคุโร่ และผ่านรอบสองเป็นกลุ่มแรก โดยไม่มีแม้แต่แผล ในรอบคัดเลือกก่อนเข้ารอบที่ 3 กาอาระได้ต่อสู้กับ ร็อค ลี และเป็นครั้งแรกที่กาอาระโดนโจมตี แต่ก็เอาชนะลีมาได้ ในขณะที่ต่อสู้รอบสุดท้ายกับซาสึเกะ และในขณะเดียวกับที่เป็นแผนการโจมตีหมู่บ้านโคโนฮะ กาอาระไม่สามารถควบคุมปีศาจที่อยู่ในร่างกายได้ จึงต้องถอยตัวออกมา โดยมีพวกนารุโตะตามมา และได้ต่อสู้กัน ต่อมาในการช่วยเหลือ อุจิวะ ซาซึเกะ จากโอริจิมารุ กาอาระและพรรคพวกได้เข้ามาตอบแทนพวกหมู่บ้านโคโนฮะ โดยได้เข้ามาช่วย ร็อค ลี ในการต่อสู้กับ คิมิมาโระ

ภาคที่สอง กาอาระได้โดนพวกกลุ่มแสงอุษาจับตัวไป เพื่อต้องการพลังสถิตร่าง และในตอนนั้นที่ทางหมู่บ้านซึนะ ได้มาขอร้องให้พวกหมู่บ้านโคโนฮะ มาช่วย โดยทีมช่วยเหลือได้แก่ นารุโตะ คาคาชิ และ ซากุระ และ ได้แม่เฒ่าจิโยะจากหมู่บ้านซึนะมาช่วยอีกแรง ภายหลังที่ทุกคนมาถึงได้ช่วยเหลือ ปรากฏว่ากาอาระโดนสูบพลังไปจนเสียชีวิต แม่เฒ่าจิโยะ ได้สละชีวิตตัวเองชุบชีวิตกาอาระขึ้นมา


ฮิวงะ ฮินาตะ
เธอเป็นนินจาสาวที่นิสัยขี้อายมากๆ แอบชอบนารุโตะเวลาเจอหน้านารุโตะเมื่อไร เธอจะเงียบและหน้าแดงทันที เธอเป็นทายาทหญิงแห่งตระกูลหลักของกลุ่มฮิวงะ เมื่อฮินาตะอายุได้ 3 ปี วันเดียวกับที่ ฮิวงะ เนจิลูกพี่ลูกน้องจากตระกูลสาขา อายุ 4 ปี เนจิ ได้ถูกประทับอักขระ"ปักษาในกรง" เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าจะปกป้องตระกูลหลัก โดยเมื่อใดก็ตามที่ทรยศ สัญลักษณ์ปักษาในกรงจะส่งผลให้ผู้ใช้บาดเจ็บและล้มตาย ปักษาในกรงยังเป็นวิธีป้องกันความลับของเนตรสีขาว อักขระจะถูกกระตุ้นให้ทำลายความสามารถเนตรสีขาวในตัวบุคคลนั้น จุดนี่เองที่ทำให้เนจิ เกลียดฮินาตะ เพราะพ่อของเนจิได้ยอมตายเพื่อปกป้องตระกูลฮิวงะ ในการสอบจูนิน ฮินาตะได้ต่อสู้กับเนจิในรอบคัดเลือกเข้ารอบสุดท้าย ฮินาตะได้สู้จนสุดความสามารถและแพ้ไป



ฮิวงะ เนจิ
นินจาจากหมู่บ้านโคโนฮะ ทายาทชายในตระกูลสาขาของกลุ่มฮิวงะ มีความสามารถหลักคือเนตรสีขาว ที่สามารถมองทะลุสิ่งต่างๆ และมองเห็นถึงกระแสจักระภายในร่างกายของนินจาได้ จัดเป็นอัจฉริยะของตระกูลฮิวงะ เมื่อฮิวงะ ฮินาตะ ลูกพี่ลูกน้องในตระกูลหลัก อายุได้ 3 ปี วันเดียวกับที่ ฮิวงะ เนจิ อายุ 4 ปี เนจิได้ถูกประทับอักขระ"ปักษาในกรง" ที่หน้าผาก เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าจะปกป้องตระกูลหลัก และ จุดนี่เองที่ทำให้เนจิ เกลียดฮินาตะ เพราะพ่อของเนจิ ฮิวงะ ฮิซาชิ ได้ยอมเสียชีวิตเพื่อปกป้องตระกูลฮิวงะ

เนจิเข้าร่วมสอบจูนินพร้อมเพื่อนร่วมทีม ร็อค ลี และ เท็นเท็น โดยเนจิได้ชื่อว่าเป็นนินจาที่เก่งที่สุดในรุ่นนั้น ในรอบการต่อสู้การเข้าสู่รอบสุดท้าย เนจิเอาชนะฮินาตะได้ แล้วนารุโตะสัญญาว่าจะโค่นเนจิให้ได้ และในรอบสุดท้าย เนจิได้ถูกจับคู่ให้สู้กับอุซึมากิ นารุโตะ โดยทั้งคู่ต่อสู้กันอย่างดุเดือด ผลสุดท้ายเขาก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้นารุโตะไป ในขณะที่พักรักษาตัว ฮิวงะ ฮิอาชิ ซึ่งเป็นฝาแฝดของพ่อ ได้เข้ามาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงทั้งหมดเกี่ยวกับการเสียชีวิตของพ่อของเนจิ ที่เนจิเข้าใจผิดมาตลอด

ต่อมาเนจิได้ร่วมกับกลุ่มนารา ชิกามะรุ ในการตามตัว อุจิวะ ซาสึเกะ กลับหมู่บ้าน โดยระหว่างทางเนจิได้ต่อสู้กับ คิโดมารุ ผู้ใช้แมงมุม และเขาสามารถเอาชนะคิโดมารุได้ จนตัวเองได้สลบไป




จิไรยะ
อดีตศิษย์ของ โฮคาเงะรุ่นที่ 3 พร้อมกับ โอโรจิมารุ และ ซึนาเดะ ที่ซึ่งรู้จักในชื่อ สามนินจาในตำนาน จิไรยะเป็นอาจารย์โดยตรงของ โฮคาเงะรุ่นที่ 4 จิไรยะ รู้จักในชื่อ "เซียนกบ" เขาชอบท่องเที่ยวพจญภัย ในระหว่างการเดินทาง เขาได้แต่งหนังสือ สวรรค์รำไร หรือ อ่าจึ๋ยๆ และได้ฉายาว่า "ตาเซียนซกมก" หรือ "ตาเซียนลามก" ในวัยเด็ก จิไรยะเป็นเกะนินโดยมีอาจารย์คือ โฮคาเงะรุ่นที่ 3 หลายปีผ่านไปจากเหตุการณ์ที่ โอโรจิมารุถอนตัวออกจากหมู่บ้าน เขาก็เริ่มออกเดินทางเช่นกัน เขาออกเดินทางเพื่อเติมเต็มประสบการณ์ในชีวิตของเขา ขณะที่เขาเดินทางเขาก็แต่งหนังสืออ่าจึ๋ยๆ ไปด้วย เมื่อจิไรยะกับมายังโคโนฮะอีกครั้ง นารุโตะได้ใช้คาถายั่วยวนจิไรยะ จนจิไรยะทนไม่ไหวและเขาก็ได้ และได้ออกเดินทางไปพร้อมกับนารุโตะพร้อมทั้งสอนทักษะระดับโฮคาเงะต่างๆ ให้กับนารุโตะ จนกระทั่งเขารู้สึกทึ่งกับความสามารถที่นารุโตะเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้จิไรยะได้ทำสัญญาเลือดกับ กบแดง กามะบุนตะ ต่อมาเขาเสียชีวิตในการต่อสู้กับเพน หัวหน้าของแสงอุษา



ร็อค ลี
เป็นตัวละครที่ได้ บรู๊ซ ลี มาเเป็นต้นแบบ เขานั้นเป็นนินจาสายพลังจากหมู่บ้านโคโนฮะ ถึงแม้ว่าลีมีความสามารถทางด้านพลังสูง แต่ลีไม่มีความสามารถทางด้านวิชานินจาแต่อย่างใด ลีได้มุ่งมั่นฝึกกำลังอย่างหนักและพยายามฝึกฝนตัวเองอยู่ตลอดเวลา โดยได้รับการสั่งสอนจากอาจารย์ มาอิโตะ ไก ผลจากการฝึกอย่างหนักของลี ทำให้ลีมีวิชาไทจุตสุอย่างเหลือเชื่อทดแทนวิชานินจาที่ขาดหายไป โดยสามารถเปิดประตูจักระ ได้ 5 ใน 8 ส่วน
เขามักจะถ่วงน้ำหนักไว้ที่ขาทั้งสองข้างและฝึกฝนตัวเองในด้านต่างๆ และ มีความสามารถในการใช้หมัดเมาได้เก่งอย่างน่าเหลือเชื่อ

ลีได้เข้าสอบจูนินพร้อมกับเพื่อนร่วมทีม ฮิวงะ เนจิ และ เท็นเท็น โดยก่อนเข้าสอบ ลีหลงรักซากุระเข้า ในขณะเดียวกันก็ได้ท้าสู้กับอุจิวะ ซาสึเกะ เพื่อจะทดสอบพลังของตัวเอง แต่อาจารย์ไกมาห้ามไว้ ในช่วงระหว่างการสอบจูนินรอบที่สองในป่า ลีได้เข้ามาช่วยชีวิตซากุระจากนินจาหมู่บ้านโอโตะ ในรอบคัดเลือกเข้ารอบสุดท้าย ลีได้ต่อสู้กับกาอาระ แต่ก็ไม่สามารถชนะกาอาระได้ ผลปรากฏว่า กระดูกสันหลังของลีแหลกละเอียดและเศษกระดูกนั้นฝังลึกลงไปในกระดูกสันหลังจากพลังของตัวเอง ซึ่งทำให้ลีไม่สามารถเป็นนินจาได้อีกต่อไป

ภายหลังจากที่ซึนาเดะได้กลับมาที่หมู่บ้านโคโนฮะมารับตำแหน่งเป็นโฮคาเงะรุ่นที่ 5 และได้บอกกับลีว่าอาการของลีไม่สามารถหายได้ด้วยพลังจักระ ต้องเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งมีผลสำเร็จเพียง 50 เปอร์เซ็นต์ และถ้าไม่สำเร็จ ลีจะเสียชีวิต สุดท้ายลีได้เข้ารับการผ่าตัดกับซึนาเดะ ผลการผ่าตัดลีเป็นไปอย่างไม่มีปัญหา แต่ในขณะที่ลีนอนฟื้นฟูสมรรถภาพในโรงพยาบาลได้ยินเรื่องราวว่ากลุ่มชิกามารุ ได้ออกตามตัวซาสึเกะกลับหมู่บ้าน ลีได้หนีออกจากโรงพยาบาลพร้อมทั้งหยิบขวดยาติดไปหนึ่งขวด ซึ่งปรากฏว่าหยิบผิดเป็นขวดสาเกของซึนาเดะ เมื่อลีตามกลุ่มชิกามารุไปและได้ช่วยนารุโตะต่อสู้กับคิมิมาโร่แทน




เทมาริ
นินจาสาวจากหมู่บ้านซึนะ เป็นลูกพี่ลูกน้องกับ กาอาระและคันคุโร่ มีพัดอันใหญ่ที่สะพายอยู่ด้านหลังเป็นอาวุธ โดยมีความสามารถเกี่ยวกับลม และสามารถอัญเชิญอสูรคาไมทาจิที่ชื่อคามะทะริมาช่วยต่อสู้ได้
ในการสอบคัดเลือกเข้าสู่รอบสุดท้าย ชนะเท็นเท็นอย่างรวดเร็ว และได้ทำให้ร็อค ลีโกรธเมื่อขว้างร่างของเท็นเท็นอัดเข้ากับกำแพง และได้ว่าเท็นเท็นอ่อนแอ ในรอบสุดท้ายสู้แพ้ต่อ นารา ชิกามะรุ แต่ชิกามะรุได้ขอยอมแพ้ภายหลังสู้เสร็จ
ในระหว่างช่วงที่พวกชิกามะรุได้ออกมาตามตัวอุจิวะ ซาสึเกะกลับหมู่บ้าน เทมาริได้เข้ามาช่วยชิกามารุต่อสู้กับทายูยะและได้ปราบทายูยะอย่างง่ายดาย

สามปีต่อมาเทมาริได้รับหน้าที่เป็นกรรมการประสานงานการคุมสอบของหมู่บ้านซึนะ โดยได้เดินทางไปมาระหว่างหมู่บ้านโคโนฮะและหมู่บ้านตัวเอง ภายหลังจากที่ได้รู้ข่าวว่ากาอาระโดนลักพาตัว และคันคุโร่บาดเจ็บสาหัส เทมาริได้กลับไปที่หมู่บ้านและวางแผนไปช่วยกาอาระกลับมาพร้อมเมื่อคันคุโร่หายป่วย



ยามานากะ อิโนะ
อิโนะ นินจาแห่งหมู่บ้านโคโนฮะ มีความสามารถในการสิงร่างคนอื่นวิชานินจาของตระกูลยามานากะ และสามารถบังคับให้ร่างที่โดนสิงปฏิบัติตามที่ตัวเองต้องการ แต่มีข้อเสียคือเมื่อสิงร่างผู้อ่าน ร่างจริงจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ซึ่งง่ายต่อการตกเป็นเป้าโจมตี และมากกว่านั้นเมื่อร่างที่เข้าไปสิงบาดเจ็บ อิโนะจะบาดเจ็บตามไปด้วย เธฮอยู่ทีม 10 ทีมเดียวกับ ชิกามารุ และ โจจิ แอบชอบ อุจิวะ ซาสึเกะ และเป็นคู่แข่งทางความรักคนสำคัญของฮารุโนะ ซากุระ ทั้งๆที่ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่เด็ก

ในการสอบข้อเขียน อิโนะได้เข้าสิงร่างคนอื่นเพื่อแอบดูข้อสอบ และได้ช่วย ชิกามารุ และ โจจิ เพื่อนร่วมทีมโดยการสิงร่างเพื่อนร่วมทีมเพื่อกาข้อสอบให้ ในการสอบรอบที่สองในป่า อิโนะได้เห็นซากุระถูกรุมทำลายโดนนินจาจากหมู่บ้านโอโตะ อิโนะตัดสินใจเข้ามาช่วยพร้อมทั้งลากเพื่อนร่วมทีมทั้งสองคน ตอนสอบจูนินรอบคัดเลือกเข้ารอบที่สาม ฮิโนะได้สู้กับซากุระ โดยเกือบจะชนะซากุระโดยการสิงร่างซากุระและจะประกาศยอมแพ้ภายในร่างซากุระ แต่ปรากฏว่าซากุระอีกคนตื่นมาไล่อิโนะออกจากร่าง และได้ต่อยกันสลบทั้งคู่ผลตัดสินให้ทั้งคู่ตกรอบ




โอโรจิมารุ
อดีตนินจาจากหมู่บ้านโคโนฮะ เรียนวิชาจากโฮคาเงะรุ่นที่ 3 พร้อมกับซึนาเดะและจิไรยะ โดยเมื่อสมัยที่ยังอยู่ในโคโนฮะ ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสามนินจาในตำนาน เขาเป็นนินจาที่มีพรสวรรค์พยายามที่จะเรียนรู้วิชานินจาทุกชนิดที่มี และได้ทดลองวิชาต่างๆ กับร่างกายของนินจาคนอื่น รวมทั้งการผ่าตัดศพ เพื่อให้สามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างอมตะ เพื่อสามารถสำเร็จวิชานินจาทุกชนิดที่มีมา จนเมื่อมีการคัดเลือกโฮคาเงะรุ่นต่อมา โอโรจิมารุไม่ได้รับเลือก ทำให้โอโรจิมารุแค้นโฮคาเงะรุ่นที่ 3 และได้หนีออกจากหมู่บ้านไป ต่อมาโอโรจิมารุได้ก่อตั้งหมู่บ้านโอะโตะ และได้เข้าร่วมกับกลุ่มแสงอุษา เพื่อที่จะกลับมาล้างแค้นโฮคาเงะรุ่นที่ 3นอกจากความสามารถทางด้านนินจา โอโรจิมารุ สามารถย้ายร่างของตัวเองไปอยู่ในร่างของคนอื่นได้ ซึ่งเมื่อย้ายร่างแล้วไม่สามารถย้ายได้อีกภายใน 3 ปี และโอโรจิมารุมีความสามารถในด้านการแพทย์ สามารถผ่าตัดใบหน้าของคนอื่นมาไว้ที่หน้าตัวเองได้ และ มีความสามารถในการอัญเชิญงูยักษ์มาช่วยในการต่อสู้ โดยได้มีการอัญเชิญ เคียวไดจา และ มันดะ

โอโรจิมารุได้แอบเข้าหมู่บ้านโคโนฮะในช่วงการสอบจูนิน โดยปลอมตัวมาโดยการลอกหน้าของนินจาหมู่บ้านอื่นใส่ในหน้าของตัวเอง และได้วางแผนให้นินจาจากหมู่บ้านโอะโตะ เข้ามาสอบในขณะเดียวกันในฐานะอาจารย์นินจาประจำหมู่บ้านโอะโตะ โดยในระหว่างการสอบรอบที่สองในป่า โอโรจิมารุได้มาโจมตีกลุ่มของ นารุโตะ เพื่อต้องการร่างกายของซาสึเกะ ในวันสอบจูนินรอบสุดท้าย โอโรจิมารุได้สังหารคาเซะคาเงะรุ่นที่ 4 ผู้เป็นพ่อของกาอาระ และได้ปลอมตัวเป็นคาเซะคาเงะ เมื่อสัญญาณการโจมตีดังขึ้น โอโรจิมารุได้ต่อสู้กับโฮคาเงะรุ่นที่ 3 โดยมีนินจาจากหมู่บ้านโอะโตะอีก 4 คน ช่วยกางอาคมไม่ให้โฮคาเงะหลบหนีไป โดยในระหว่างการต่อสู้ โอโรจิมารุได้ปลุกร่างของ โฮคาเงะรุ่นที่ 1 และ โฮคาเงะรุ่นที่ 2 มาช่วยต่อสู้ ภายหลังการต่อสู้สิ้นสุดลง โฮคาเงะรุ่นที่ 3 ไม่สามารถเอาชนะโอโรจิมาร์ได้ แถมเสียชีวิตลงอีก พร้อมทั้งผนึกวิชานินจาบนมือทั้งสองข้างของโอโรจิมารุ ซึ่งทำให้ไม่สามารถใช้วิชานินจาได้อีกต่อไป
โอโรจิมารุ ได้ตัดสินใจออกตามหาซึนาเดะ นินจาแพทย์อดีตเพื่อนร่วมทีมเพื่อให้มาช่วยรักษามือทั้งสองข้าง โดยได้ตกลงกับซึนาเดะว่า ถ้ารักษามือทั้งสองข้างให้ จะช่วยปลุกร่างของนาวากิ น้องชาย และ ดัน อดีตคนรักของซึนาเดะ แต่ซึนาเดะได้ปฏิเสธข้อเสนอของโอโรจิมารุ และได้ประกาศจะล้างแค้นให้ทุกคนในหมู่บ้านโคโนฮะ โดยทั้งสองคน รวมทั้ง จิไรยะ ได้เกิดการต่อสู้กัน

สุดท้ายโอโรจิมารุได้ตัดใจและได้เปลี่ยนวิญญาณของตัวเองไปอยู่ในร่างของนินจาคนอื่นเพื่อให้หายจากผนึกของโฮคาเงะรุ่นที่ 3 ในขณะเดียวกันก็รอการเปลี่ยนวิญญาณไปอยู่ในร่างของซาสึเกะ ที่หนีมาจากหมู่บ้านโคโนฮะ และ นารุโตะก็ได้ต่อสู้กับ ซาสึเกะโดยที่นารุโตะไม่ยอมให้ซาสึเกะ ไป จึง ต่อสู้เพื่อห้ามไว้ ถัดมา นารุโตะได้สู้กับ ซาสึเกะ ตัวเองสลบไป แล้วซาสึเกะจึงไปที่หมู่บ้านโอะโตะ เพื่อให้โอโรจิมารุสอนวิธีเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองหรือให้ตัวเองเก่งขึ้น แต่ไม่วายเขาก็เพลี่ยงพล้ำแก่ซาสึเกะในภายหลัง



ซึนาเดะ
หลานสาวของของโฮคาเงะรุ่นที่ 1 ลูกศิษย์ของโฮคาเงะรุ่นที่ 3และเป็นหนึ่งในสามนินจาในตำนานของหมู่บ้านโคโนฮะ ซึนาเดะเป็นคนใจร้อน และเลือดร้อน ชอบท้าพนันและมักจะแพ้อยู่ทุกครั้ง ซึนาเดะมีอายุประมาณ 50 ปีแต่มีวิชานินจาที่สามารถคงความสาวสวยไว้ได้หลังจากที่ซึนะเดะสูญเสียน้องชายและแฟนในช่วงสงครามนินจา ซึนาเดะได้ชื่อว่าเป็นแพทย์นินจาที่เก่งที่สุดในดินแดนนินจา ภายหลังสงครามนินจาจบ ซึนาเดะจึงได้ออกจากหมู่บ้าน และได้ใช้เวลาของตัวเองไปกับการพนัน คู่กับชิซึเนะ
ภายหลังจากโฮคาเงะรุ่นที่ 3 เสียชีวิต จิไรยะและนารุโตะ ได้ออกตามหาตัวซึนาเดะ เพื่อให้กลับมาเป็นโฮคาเงะของหมู่บ้านโคโนฮะและรักษานินจาที่บาดเจ็บจากการต่อสู้ ในขณะเดียวกันโอโรจิมารุ ผู้สังหารโฮคาเงะรุ่นที่ 3 มีบาดแผลที่มือไม่สามารถใช้วิชานินจาได้ และต้องการให้ซึนาเดะรักษา โดยโอโรจิมารุให้ข้อเสนอแลกเปลี่ยนกับการรักษา โดยการชุบชีวิตแฟนและน้องชายของซึนาเดะขึ้นมา หลังจากที่ปฏิเสธโอโรจิมารุ ซึนาเดะได้กลับมาหมู่บ้านรับตำแหน่งโฮคาเงะรุ่นที่ 5 และได้กลับมารักษา ลี คาคาชิ และซาซึเกะที่บาดเจ็บจากการต่อสู้ก่อนหน้าที่โฮคาเงะรุ่นที่ 3 เสียชีวิต



นารา ชิกามารุ
นินจาจากหมู่บ้านโคโนฮะ มีนิสัยขี้บ่น เบื่อง่ายอยู่ตลอดเวลา และไม่ชอบผู้หญิงเป็นอย่างยิ่ง ชิกามารุมักจะโดนพ่อสอนให้เห็นความสำคัญของผู้หญิงอยู่เสมอ แถม ซึนาเดะยังเรียกสองพ่อลูกคู่นี้ว่า "พ่อลูกคู่เซ็ง" หรือ "พ่อลูกตระกูลเซ็ง" ุเป็นคนสบายๆ ออกจะขี้เกียจ ชอบมองดูเมฆเวลานอนพักและอยากที่เป็นลอยไปเรื่อยๆ ได้เหมือนกับเมฆ เขาเป็นคนที่มีการฉลาดสูงในการวางแผน ไม่เคยแพ้โชงิหรือหมากรุกญี่ปุ่น กับอาจารย์ซารุโทบิ อาซึมะ เลยซักครั้งเดียว ชิกามารุมีวิชาพิเศษคือความสามารถในการควบคุมเงา เป็นวิชาที่สืบทอดมาจากตระกูลนารา

ในการเข้าสอบจูนิน เขา ร่วมทีมกับ อาคิมิจิ โจจิ และ ยามานากะ อิโนะ ชิกามารุเป็นนินจาเพียงคนเดียวที่สอบผ่านและได้เลื่อนขั้นเป็นจูนิน ในการสอบรอบที่คัดเลือกเข้ารอบสุดท้าย ชิกามารุได้ต่อสู้กับนินจาหญิงคิน ซึจิ คุโนะอิจิ จากหมู่บ้านโอโตะ และชนะไปอย่างไม่ยากลำบาก และในรอบสุดท้าย สู้ชนะเทมาริ นินจาสาวจากหมู่บ้านซึนะ แต่ได้ประกาศยอมแพ้ภายหลังจากที่สู้ชนะไป แต่อย่างไรก็ตามชิกามารุได้รับความเห็นจากคนคุมสอบทุกคนว่า มีความสามารถมากพอที่จะเป็นจูนิน

ในระหว่างที่มีการโจมตีหมูบ้านโคโนฮะ จากนินจาหมู่บ้านโอโตะและหมู่บ้านซึนะ ชิกามารุได้แกล้งสลบเนื่องจากขี้เกียจจะต่อสู้ ซึ่งเกือบจะทำให้โดนฮารุโนะ ซากุระอัด โดยทั้งสองคนพร้อมทั้งอุซึมากิ นารุโตะและปั๊กคุงสุนัขนินจา ได้ออกตามตัวอุจิวะ ซาซึเกะกลับหมู่บ้าน หลังจากที่ซาซึเกะได้หนีออกจากหมู่บ้านรอบที่สอง ซึนาเดะได้สั่งภารกิจให้ชิกามารุตามตัวซาซึเกะกลับมาอีกครั้ง โดยคราวนี้ซึนาเดะให้ภารกิจในฐานะจูนินและให้เลือกเพื่อนร่วมทีมไปได้อีก 4 คน โดยมี โจจิ เนจิ คิบะ และ นารุโตะ เป็นทีม 5 คน ในระหว่างภารกิจชิกามารุได้ต่อสู้กับนินจาสาวทายูยะ หนึ่งในนินจาจากหมู่บ้านโอโตะที่พาตัวซาซึเกะไป ในช่วงที่เกือบจะแพ้ให้กับทายูยะ เทมาริได้เข้าช่วยชิกามารุจัดการทายูยะอย่างง่ายดาย ภายหลังจากที่ภารกิจล้มเหลวที่ไม่สามารถนำตัวซาซึเกะกลับหมู่บ้านได้ ชิกามารุรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากครั้งแรกในชีวิต

ใน 3 ปีต่อมา ชิกามารุได้รับหน้าที่เป็นกรรมการคุมสอบจูนิน โดยได้เริ่มสนิทกับเทมาริที่เป็นนินจาประสานงานการสอบจูนินจากหมู่บ้านซึนะ




อาบุราเมะ ชิโนะ
นินจาผู้ที่ไม่เคยเผยโฉมหน้าตนเองอีกคน (พอๆกับคาคาชิ) เป็นผู้ใช้และควบคุมแมลง โดยแมลงที่พวกเขาเลี้ยงใว้จะกินจักระของเจ้าของเป็นอาหาร เพื่อแลกเปลี่ยนกับการบังคับแมลงเพื่อใช้ในการต่อสู้ตามที่ต้องการ ในตอนสอบจูนิน อยู่ทีมเดียวกับ ฮินาตะ และ คิบะ


อุจิวะ อิทาจิ
พี่ชายแท้ๆของซาสึเกะ ผู้ซึ่งเป็นคนฆ่าล้างตระกูล อุจิวะ ของตนเอง จนสร้างความแค้นให้กับ ซาสึเกะ ผู้เป็นน้องชายเป็นอย่างมาก โดยอิทาจินั้นก็เป็นสมาชิกคนหนึ่งในกลุ่ม แสงอุษา แท้จริงแล้วเหตุที่อิทาจิเลือกที่จะฆ่าล้างตระกูล แต่ไว้ชีวิตซาสึเกะไว้ ก็เพราะต้องการให้ซาสึเกะแค้นตน เพื่อที่จะให้ซาสึเกะนั้นแข็งแกร่งยิ่งขึ้น เขาสิ้นชีพในระหว่างการต่อสู้กับซาสึเกะ โดยก่อนตายเขาได้มอบวิชาเนตรวงแหวนที่เขามีให้ซาสึเกะ


อุมิโนะ อิรุกะ
อาจารย์คนแรกในชีวิตของ นารุโตะ เป็นคนแรกที่เข้าใจและเอาใจใส่ในตัวนารุโตะ ราวกับลูกชายคนหนึ่ง



ไมโตะ ไก
อาจารย์นินจาของหมู่บ้านโคโนฮะ เป็นคนที่คอยฝึกสอน ร็อค ลี,ฮิวงะ เนจิ และเท็นเท็น เขาไว้ผมทรงเดียวกับ บรู๊ซ ลี ไกรักลีที่เป็นลูกศิษย์อย่างกับลูกในไส้เลยทีเดียว

ยาคุชิ คาบูโตะ
มือขวาคนสนิทของโอโรจิมารุ มีความสามารถด้านการแพทย์สูง

อินุซึกะ คิบะ
นินจาจากโคโนฮะ อยู่ทีมเดียวกับ ฮินาตะ ชิโนะ เขามีสีติดที่แก้ม เพราะเป็นสัญลักษณ์ประจำตระกูล มี อากามารุ เป็นสุนัขคู่ใจ ที่มีความสามารถในการดมกลิ่นสูง

เท็น เท็น
นินจาสาวจากโคโนฮะ อยู่ทีมเดียวกับ เนจิ และ ร็อค ลี เชี่ยวชาญการใช้อาวุธบิน แต่บทบาทยังไม่ค่อยเด่นนัก

อาคิมิจิ โจจิ
นินจาจากโคโนฮะ อยู่ทีมเดียวกับ ชิกามารุ กับ อิโนะ เขาเป็นคนตะกละ ชอบกินไม่เลือกตลอดเวลา จนมีรูปร่างอ้วนท้วม (แต่อย่าพูดว่า อ้วน ต่อหน้าเขาล่ะ) มีของประจำตระกูลคือ ยาสามเม็ด สามสี ที่ช่วยเพิ่มพลัง แต่จะทำให้ชีวิตสั้นลง

ซารุโทบิ อาซึมะ
อาจารย์ของ ชิกามารุ ,อิโนะ และ โจจิ เขาเสียชีวิตจากการต่อสู้กับ ฮิดัน และ คาคุซุ สมาชิกของแสงอุษา

ซาอิ
เป็นตัวละครที่มาปรากฏในภาคสอง เป็นนินจาแห่งหมู่บ้าน โคโนฮะ ร่วมทีมกับ นารุโตะ และ ซากุระ แทน ซาสึเกะที่หายไป เขาเป็นคนที่หน้าตายิ้มแย้มตลอดเวลา จนเป็นที่น่าหมั่นไส้ของนารุโตะ

คาริน
ลูกน้องของโอโรจิมารุ ทำหน้าที่ช่วยในการทดลอง และ เป็นผู้คุมฐานทัพกักขังมนุษย์ทดลองในงานวิจัยของโอโรจิมารุ มีความสามารถในการตามรอยกระแสจักระ จึงได้กลายเป็นสมาชิกทีมงู(Heibi)ของซาสึเกะ เธอหลงรักซาสึเกะมาก แต่ไม่ชอบซุยเงสึซักเท่าไหร่ นอกจากนี้หากใครได้กัดร่างกายของคาริน อาการบาดเจ็บที่เคยมี จะหายเป็นปลิดทิ้ง

ซุยเงสึ
สิ่งมีชีวิตจากการทดลองของโอโรจิมารุ สามารถเปลี่ยนร่างตัวเองให้กลายเป็นน้ำได้ เขาพกกระติกน้ำติดตัวเอาไว้ดื่มตลอดเวลา เพื่อรักษาความสมดุลของน้ำในร่างกาย และ เป็นคนแรกที่เข้าร่วมทีมของซาสึเกะ สามารถใช้ดาบของ ซาบุสะ (หนึ่งในกลุ่มเจ็ดดาบเเห่งคิริงาคุเระ ซึ่งเป็นนินจาที่ใช้ดาบที่เก่งที่สุด)ได้อย่างคล่องแคล่ว

จูโกะ
สมาชิกอีกคนหนึ่งจากทีมงู เป็นเพื่อนซี้ของคิมิมาโร่ เขาเป็นต้นตำรับอักขระต้องสาป เเละ มีความสามารถด้านการแปลงสภาพ และ เมื่อเขากลายร่างสู่ขั้น 2 เขาจะกลายเป็นปีศาจจอมบ้าคลั่งสุดๆ ด้วยความสามารถนี้เอง เขาจึงเคยถูกโอโรจิมารสกัดเลือด เพื่อใช้ในการเปลี่ยนร่างเพิ่มจักระ ให้แก่นินจาคนอื่นๆ

โคโนฮามารุ
หลานชายของโฮคาเงะรุ่นที่ 3 เป็นเพื่อนเล่นของนารุโตะ มีนิสัยเปิ่นๆ เรียนรู้คาถามหารัญจวนจากนารูโตะ


กลุ่มตัวละคร

กลุ่มแสงอุษา
กลุ่มนินจาผู้ร้ายรวมตัวกันโดยนินจาแต่ละคนมีความสามารถระดับสูง โดยสมาชิกแต่ละคนจะสวมแหวนคนละหนึ่ง ซึ่งมีสํญลักษณ์เป็นตัวอักษรคันจิ ที่เป็นชื่อของเทพเจ้าและสัตว์ประหลาดจากตำนานของประเทศญี่ปุ่น สมาชิกได้แก่

อุจิวะ อิทาจิ ดู อุจิวะ อิทาจิ

คิซาเมะ เคยอยู่กลุ่มเจ็ดดาบนินจาแห่งคิริ ใช้ดาบหนังฉลามที่ดูดและกินจักกระได้ และดาบใช้สำหรับถาก หรือการเสียดสี ไม่ได้ไช้ฟัน

เดอิดาระ มีความสามารถในการใช้ดินเหนียว สร้างระเบิดต่างๆ ประกอบด้วย C1 ระเบิดธรรมดา, C2 ระเบิดก้อนกลม, C3 ระเบิดรูปทรงมังกร และ C4 คือ คารูร่า ซึ่งก็คือเดอิดาระไซส์ยักษ์นั่นเอง เสียชีวิตในระหว่างการต่อสู้กับซาสึเกะ

อากาซึนะ โนะ ซาโซริ ฉายาทรายแดงแห่งซึนะ มีความสามารถในการเชิดหุ่น เป็นหลานของย่าโจ ที่ปรึกษาของหมู่บ้าน เขาทรยศต่อหมู่บ้านโดยลักพาตัวคาเสะคาเงะรุ่นที่สามเพื่อไปทำหุ่นเชิด แต่ในที่สุดเขาก็สิ้นชีพในช่วงที่นินจาของโคโนฮะยกพลมาช่วยเหลือกาอาระที่ถูกจับตัวไป

เซตซึ เป็นสมาชิกที่มีกับดักจับคนอยู่รอบตัว

โทบิ คู่หูคนปัจจุบันของเดอิดาระ โดยเขาเป็นสมาชิกกลุ่มนี้เต็มตัวหลังจากการตายของซาโซริ ต่อมาก็เผยตัวจริง เขาคือ อุจิวะ มาดาระ

ฮิดัน และ คาคุซุ สมาชิกคู่หูของแสงอุษา ที่ถูกส่งไปทำภารกิจบุกโคโนฮะ โดยฮิดันสามารถส่งความเจ็บปวดของตนให้กับคู่ต่อสู้ได้ จึงสามารถฆ่า อาสุมะ ครูของชิกามารุลงได้อย่างง่ายดาย แต่ทั้งคู่ก็ไม่วาย ถูก ชิกามารุ กับ นารุโตะ ช่วยกันสังหาร

โคนัน นินจาหญิงคนเดียวในกลุ่มแสงอุษา เธอเป็นผู้ติดตามของเพน ในอดีตเคยรับการฝึกวิชาจากจิไรยะ เช่นเดียวกับเพน มีความสามารถในการควบคุมบังคับกระดาษ หรือเรียกว่า โอริงามิ หลังจบศึกกับนารุโตะ โคนันถอนตัวออกจากกลุ่มทันที

เพน หัวหน้ากลุ่มแสงอุษา เดิมชื่อ นางาโตะ ในวัยเด็กเขาได้สูญเสียพ่อแม่อันเนื่องมาจากศึกสงครามในอาเมะงาคุเระ(หมู่บ้านอาเมะ) เช่นเดียวกับโคนัน และ ยาฮิโกะ ทั้ง 3 ได้รับการดูแลและกลายเป็นลูกศิษย์คนหนึ่งของจิไรยะในขณะนั้น เนื่องจากความแค้นที่สะสมมาตั้งแต่ยังเด็ก เขาจึงสังหารฮันโซ หัวหน้าหมู่บ้านอาเมะ รวมถึงคนที่เกี่ยวข้อง และจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เขาสูญเสียเพื่อนรักยาฮิโกะ และ ได้รับผลจากการอัญเชิญอสูรต้องห้าม ที่เป็นแท่งสีดำพิเศษที่เจาะติดที่ตัวเพนมาจนถึงปัจจุบัน เขาเสียชีวิตหลังจากที่เขาได้ใช้จักระเพียงน้อยนิดที่มีเหลืออยู่ในการใช้คาถาชุบชีวิตผู้คนในหมู่บ้านโคโนฮะ

เขาสามารถเบิก เนตร"สังสาระ" สามารถใช้คาถานินจาได้ 6 ธาตุจักระ อีกทั้งเขายังมีร่างจำลองอีก 6 ร่าง โดยเขานั้นสามารถควบคุมร่างต่างๆนั้นได้
ซึ่งแต่ละร่างนั้นก็ใช้ร่างมนุษย์เป็นพื้นฐาน แต่ละร่างมีรูปร่างต่างกัน ทั้งอ้วนบ้าง ผอมบ้าง อาวุธก็แตกต่างกัน



ตระกูลอุจิวะ
เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงเก่าแก่ตระกูลหนึ่งของหมู่บ้านโคโนฮะ ตระกูลอุจิวะเป็นผู้เชี่ยวชาญท่าไม้ตายเกี่ยวกับการใช้ไฟ และเป็นที่รู้จักกับท่าไม้ตายเนตรวงแหวน หลังจากที่คนในตระกูลอุจิวะถูกฆ่าล้างตระกูลโดย อุจิวะ อิทาจิ หนึ่งในผู้สืบสายเลือดของตระกูลอุจิวะ ผู้ที่รอดมาจากเหตุการณ์มีเพียงคนเดียวคือ อุจิวะ ซาสึเกะ ต้องการจะล้างแค้นให้ตระกูล



ตระกูลฮิวงะ
หนึ่งในตระกูลเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงของหมู่บ้านโคโนฮะ เป็นกลุ่มที่สืบทอดวิชาเนตรสีขาว โดยแบ่งแยกออกเป็นตระกูลหลัก และตระกูลสาขา ทายาทของตระกูลสาขาจะถูกประทับอักขระปักษาในกรง ในวันที่ทายาทตระกูลหลักอายุได้ 3ปี สมาชิกตระกูลสาขาเป็นวิธีเพื่อป้องกันความลับของเนตรสีขาว ถ้าสมาชิกตระกูลสาขาทรยศตระกูลหลักหลักหรือถูกฆ่าในสงคราม ความสามารถ เนตรสีขาว อักขระจะกระตุ้นเพื่อทำลายความลับของเนตรสีขาว

รายชื่อนักพากย์ไทยในนารุโตะ....โดยทีมพากย์ ROSE

ชื่อ
ให้เสียงตัวละคร
1.ฉันทนา ธาราจันทร์ นารุโตะ,เทมาริ
2.ศรีอาภา เรือนนาค ซากุระ,ฮินาตะ,โคโนฮามารุ,คุเรไน,ชิซึเนะ,ย่าโจ
3.สุลักษณา เทพหัสดิน ซึนาเดะ,อิโนะ,เท็นเท็น
4.ธวัช รัตตะชัย คาคาชิ,จิไรยะ,อิทาจิ,ชิโนะ,ร็อค ลี,คาบุโตะ,อาซึมะ,โฮคาเงะ รุ่น 3
5.หฤษฏ์ ภูมิดิษฐ์ ซาสึเกะ,คันคุโร่,โจจิ,ซาอิ
6.มนูญ เรืองเชื้อเหมือน ชิกามารุ,กาอาระ,ไก,อิรุกะ,โอโรจิมารุ
7.ปริญญา กีรกะจินดา เนจิ,คิบะ,9หาง
8.กริน อักษรดี ซาโซริ,ยามาโตะ
9.ภคภูมิ ลิ้มมานะสถาพร เดอิดาระ

คาถา และ วิชานินจา

ขึ้นชื่อว่า นินจาคาถาโอ้โฮเฮะ จุดเด่นก็คงจะหนีไม่พ้น คาถากระบวนท่าต่างๆที่เหล่าบรรดาตัวละครใช้ในการต่อสู้ ซึ่งล้วนแต่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และ เพิ่มอรรถรสในการอ่านมากขึ้น แต่ก่อนที่จะไปทำความรู้จักกับคาถาต่างๆนั้น เราควรจะทำความรู้จักกับสิ่งนี้ก่อน ซึ่งสำหรับคนที่พึ่งจะมาติดตามเรื่องนี้ ก็มักจะได้ยิน คำๆนี้บ่อยๆ นั่นก็คือ......."จักระ" นั่นเอง

จักระนั้น คือ พลังที่ปรากฏในเนื้อเรื่องแสดงให้เห็นถึงความสามารถพิเศษของตัวละครนินจาเหนือคนธรรมดาทั่วไป ถ้าเทียบกับเรื่องอื่นๆที่อยู่ในเครือเดียวกัน ก็จะคล้ายๆกับ คิ หรือ ซุปเปอร์ไซย่า(ดราก้อนบอล) เซเว่นเซนส์(เซนต์ เซย่า) เน็น(ฮันเตอร์ เอ็กซ์ ฮันเตอร์) หรือ ปลดปล่อยสวัสดิกะ(บลีช) เป็นต้น

จักระ คือศูนย์รวมของพลังงานภายในร่างกายของมนุษย์ มีลักษณะคล้ายจักรที่หมุนในลักษณะตามเข็มนาฬิกาอยู่ตลอดเวลาและหมุนด้วยความถี่ที่แตกต่างกันไป ซึ่งความถี่ในการหมุนของจักระจะมีความเชื่อมโยงและสัมพันธ์กับระบบการทำงานของอวัยวะที่อยู่บริเวณใกล้เคียง เป็นตัวบ่งชี้ถึงสุขภาพของมนุษย์ รวมถึงสัมพันธ์กับอารมณ์และจิตใจของมนุษย์อีกเช่นกัน มนุษย์จะมีจักระจำนวนมากมายอยู่ภายในร่างกาย โยคีเชื่อว่าจักระที่สำคัญของมนุษย์เรานั้นมีอยู่ด้วยกัน 7 ตำแหน่ง จักระในแต่ละตำแหน่งจะดูแลและควบคุมการทำงานของอวัยวะส่วนต่างๆ ภายในร่างกายของคนเราให้ทำงานเป็นปกติ

 

สายวิชานินจา ในเรื่องนารุโตะนั้น ก็จะประกอบด้วยสายวิชาดังต่อไปนี้

-คาถานินจา เป็นการใช้จักระจำนวนมากกับวิชานินจาร่วมกัน เพื่อถ่ายทอดพลังจักระในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีหรือสนับสนุน เช่น คาถาน้ำ คาถาไฟ ของ นินจาในแต่ละแคว้น

-กระบวนท่า เป็นการฝึกฝนร่างกายภายนอกโดยสามารถเอาพลังจักระออกมาเสริมสมรรถภาพร่างกายได้ โดยขึ้นอยู่กับการฝึกฝนให้เชี่ยวชาญ เช่น การต่อสู้พื้นฐาน การขว้างดาวกระจาย การใช้ดาบ

-คาถาลวงตา ใช้จักระในการสร้างภาพลวงตา เพื่อลวงตา หรือ จู่โจมคู่ต่อสู้ โดยเน้นไปที่การสนับสนุนมากกว่า

-คำสาป เป็นวิชาที่ใช้บังคับควบคุมคู่ต่อสู้อีกฝ่าย เช่น ตราสัญลักษณ์ของตระกูลฮิวงะ

-วิชาผนึก เป็นวิชาที่ควบคุม หรือ กักขัง ซึ่งคนที่สามารถจะใช้วิชานี้ได้ จะต้องมีความสามารถสูง เช่น คาถาผนึก 5 วิถี ของโอโรจิมารุใช้ผนึกจักระของนารุโตะ หรือคาถาผนึกมรณะที่รุ่นที่4 ใช้ผนึกรุ่นที่ 1 และ 2 และ แขนของโอโรจิมารุ พร้อมกับสละชีวิตของตนเอง

-วิชาลับ เป็นวิชาที่สืบทอดกันในตระกูลของตนเองเท่านั้น คนอื่นไม่อาจลอกเลียนได้ เช่น วิชาขยายร่าง วิชาเงาเลียนแบบ วิชาจิตป่วนร่าง วิชาเลี้ยงแมลง ฯลฯ


สืบสายเลือด

ไม่จัดเป็นวิชา แต่จัดเป็นคุณสมบัติพิเศษ ที่ถ่ายทอดกันทางสายเลือด ประกอบไปด้วย:


เนตรวงแหวน หรือ เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา เป็นสายเลือดพิเศษของตระกูลอุจิวะ โดยมีความสามารถในการจดจำ วิชานินจา วิชาภาพลวงตา และ การต่อสู้ตัวต่อตัว ได้อย่างแม่นยำ และ สามารถใช้ท่าเเละวิชาเดียวกันได้ นอกจากนี้มีความสามารถในการสะกดจิต และ การมองเห็นภาพลวงตาและ ทำนายการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ (เทพสุดๆ!!!!!)
เนตรที่เหนือขึ้นไปอีกระดับหนึ่งของเนตรวงแหวนคือ เนตรกระจกเงาหมื่นบุปผา จะเกิดขึ้นได้เฉพาะในสายเลือดอุจิวะ และจะเกิดขึ้นเมื่อมีเนตรวงแหวนขั้นที่สอง และ จะต้องฆ่าคนสนิทที่สุด ถึงจะใช้วิชานี้ได้ ซึ่ง เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นปุปผาจะมีอานุภาพเหนือกว่าเนตรวงแหวนธรรมดาหลายเท่าจึงทำให้ผู้ใช้ได้รับผลกระทบไปด้วย

โดย อุจิวะ มาดาระ จะมีเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปฝาที่ไร้เทียมทานสุดๆ คือ สามารถใช้เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นปุปผาได้ไม่มีขีดจำกัด เนื่องจากมีจักระที่ไร้ขีดจำกัดและมีแสงสว่างตลอดเวลา และด้วยเหตุนี้ อิทาจิจึงอยากจะมีความสามารถเนตรวงแหวนเหมือนกับอุจิวะ มาดาระ ด้วยการพยายามที่จะควักตา
ของซาสึเกะออกมา

สำหรับอิทาจินั้น สามารถจับการเคลื่อนไหวของศัตรูด้วยเนตรวงแหวนและโต้ตอบอย่างรวดเร็วด้วยเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา ซึ่งทำให้อิทาจิสามารถใช้วิชาเนตรพิเศษอื่นๆ เช่น

- อ่านจันทรา วิชาคาถาลวงตาที่สร้างความเสียหายทางร่างกายและจิตใจของศัตรูได้

- เทวีสุริยา เรียกเปลวเพลิงสีดำที่ร้อนกว่าดวงอาทิตย์ 10 เท่าและสามารถเผาผลาญได้ทุกสิ่งตามทิศทางที่ดวงตามองเห็น และจะเผาผลาญไม่หยุดจนกว่าเป้าหมายจะดับสิ้น

- สึซานาโอะ วิชาลับขั้นสูงของเนตรพิเศษที่จะอัญเชิญดาบและโล่ของเทพเจ้ามาใช้ในการต่อสู้

เนตรสีขาว หรือเรียก เนตรปีศาจ หรือ เบียะกุงัน เป็นสายเลือดพิเศษในตระกูลฮิวงะ ซึ่งได้แก่ ฮิวงะ ฮินาตะ ฮิวงะ เนจิ โดยสามารถมองเห็นได้ 360 องศา ในขณะที่ต่อสู้ตัวต่อตัว โดยมีจุดบอดอยู่ตรงบริเวณกระดูกสันหลังตรงหน้าอก โดยผู้ใช้สามารถจับการเคลื่อนไหวได้ในระยะ 50 เมตร ซึ่งทำให้ผู้ใช้ได้เปรียบในการต่อสู้ตัวต่อตัว นอกจากนี้เนตรสีขาวยังสามารถมองเห็นได้ในระยะทางที่ห่างออกไปขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้ใช้ด้วย เนตรสีขาวสามารถมองเห็นเส้นวิถีพลังและจุดพลัง ทำให้สามารถอุดจุดพลังเพื่อไม่ให้คู่ต่อสู้ใช้วิชาคาถาได้

 

วิชานินจาสายสนับสนุน
คาถาแยกร่าง จัดว่าเป็นวิชาานินจาสนับสนุนแบบไม่นับระยะ และเป็นวิชาขั้นพื้นฐานเลย อย่างน้อยนินจาฝึกหัดทุกคนต้องใช้ท่านี้ได้ การที่จะใช้สนับสนุนตนเองได้มากน้อยเพียงใดก็ขึ้นกับการฝึกฝน
คาถาแปลงกาย เป็นวิชานินจาสนับสนุนแบบไม่นับระยะ อย่างน้อยนินจาฝึกหัดทุกคนต้องใช้ท่านี้ได้เช่นกัน เช่น คาถามหารัญจวน ของ นารุโตะ
คาถาแยกเงา เป็นวิชาแยกร่างขั้นสูงอีกระดับหนึ่ง โดยแยกร่างจริงของตนเองออกมาเลย นารุโตะ เคยใช้วิชานี้เอาชนะ เนจิได้ ในการประลอง ในการสอบจูนินรอบ3
คาถาซ่อนร่าง จัดเป็นวิชานินจาขั้นพื้นฐานอีกวิชาหนึ่ง หลักๆก็คือการซ่อนตัวโดยไม่ให้ใครจับได้
คาถาสลับร่าง เป็นวิชาเบสิกของนินจาอีกวิชาหนึ่ง คือ สลับร่างกับตนเอง กับ สิ่งของ (ที่เห็นบ่อยในเรื่องคือ ท่อนไม้) เพื่อป้องกันการจู่โจมของคู่ต่อสู้
คาถาคลายพันธนาการ เป็นวิชานินจาสนับสนุนแบบไม่นับระยะระดับฝึกหัดเช่นกัน คือ การแก้เชือกที่มัดกับตนไว้ออกมา(คล้ายกับมายากลบางโชว์ที่เราเคยดูกันมาแล้วนะแหละ)

 

กระบวนท่านินจาภายนอก
ลูกเตะจักรผันลูกสิงห์ ท่าประจำตระกูลอุจิวะ ของซาสึเกะ ใช้ในการต่อสู้กับ โยโรอิ ในการสอบจูนินรอบ3 เป็นการโจมตีในระยะประชิด
ลูกเตะจักรผัน ท่าของนารุโตะ ในการพิชิต คิบะ ในการสอบจูนินรอบ3 ลักษณะของท่านั้น คล้ายๆกับซาสึเกะ แต่เสริมอานุภาพของท่าด้วย คาถาแยกเงาพันร่าง
จิ้มทะลวงข้ามสหัสวรรษ เป็นท่าของคาคาชิ เป็นวิชาประชิดในระดับฝึกหัด
สลาตันโคโนฮะ เป็นวิชาที่เปี่ยมไปด้วยพลังและความเร็ว เป็นวิชาประชิดขั้นต่ำ
ระบำสามทิวา ท่าของฮายาเตะ เป็นวิชาประชิดขั้นสุดยอด โดยใช้ คาถาแยกเงาพันร่าง รวมกับเพลงดาบ
บัวบานภายใน ท่าประจำตัว และ ท่าไม้ตายที่ทุ่มสุดตัว ของ ร็อค ลี เป็นการรีดเอาพลังจักระถึงขั้น 4 มาใช้ เป็นวิชาประชิดขั้นสุดยอด

 

วิชานินจาที่ใช้จักระเข้าร่วม
คาถาเพลิง คาถาประจำตัวของซาสึเกะ จัดเป็นวิชาโจมตีระดับกลาง
คาถาเพลิงนกฟีนิกซ์ - เป็นการปล่อยลูกไฟคล้ายศรไปโจมตีศัตรู ซาสึเกะใช้ในการสอบจูนินรอบสอง
คาถาเพลิงลูกไฟยักษ์ - เป็นการพ่นไฟลูกยักษ์ออกมาจากปาก
คาถาเพลิงมังกร - เป็นการพ่นลูกไฟตามเส้นด้ายที่ผูกอยู่กับดาวกระจายใส่ศัตรู และเป็นท่าที่ทำให้โอโรจิมารุยอมรับในตัวซาสึเกะ

คาถาอัญเชิญ เป็นคาถาโจมตี ป้องกัน สนับสนุน แบบไม่นับระยะในระดับกลาง โดยผู้ใช้จะเรียกสัตว์ที่ทำสัญญาออกมา ผู้ใช้ โฮคาเงะรุ่นที่ 3,4,5 โอโรจิมารุ จิไรยะ อุซึมากิ นารุโตะ ฮาตาเกะ คาคาชิ ฯลฯ (ก่อนจะทำสัญญากับสัตว์สัญญาของตนนั้น จะต้องเขียนตัวอักษรด้วยเลือดตนเอง รวมถึงพลังจักระของตนเองด้วย)
เงาดาวกระจายแยกร่าง วิชาโจมตีระยะประชิตถึงระยะกลาง จัดเป็นวิชาขั้นสุดยอด ผู้ใช้ท่านี้คือ โฮคาเงะ รุ่นสาม
แยกเงาพันร่างแบบซับซ้อน เป็นวิชาของนารุโตะ ที่ใช้ในารต่อสู้กับกาอาระ จนเอาชนะได้ โดยใช้พลังจักระจาก จิ้งจองเก้าหางที่อยู่ในตัว เป็นคาถาสนับสนุนไม่นับระยะขั้นสุดยอด
ตัดสายฟ้า เป็นท่าของคาคาชิ โดยรวบรวมจักระอยู่ที่มือขวา แล้วใช้พุ่งทะลวงร่างของศัตรู เป็นวิชาโจมตีระยะประชิดขั้นสุดยอด และ คาคาชิก็ถ่ายทอดให้กับซาสึเกะ และซาสึเกะนำมาใชในท่าที่เรียกว่า พันปีกปักษา

 

วิชานินจาของหมู่บ้านอื่นๆ
ดาบสายลม เป็นท่าของบากิแห่งแคว้นซึนะ ใช้สังหาร ฮายาเตะ เป็นวิชาจู่โจมระยะประชิดถึงระยะกลางขั้นสุดยอด
คาถาคุกน้ำ เป็นท่าของซาบุสะ แห่ง แคว้นคิริ ที่เคยใช้กับ คาคาชิ จนคาคาชิหมดท่ามาแล้ว วิชาสนับสนุนระยะประชิดถึงระยะกลางระดับกลาง
วิชาคาไมทะจิ เป็นวิชาของแคว้นซึนะ ที่เทมาริใช้สร้างใบมีดสายลมขนาดเล็กหลายๆอัน วิชาโจมตีระยะประชิดถึงระยะกลางในระดับกลาง
คาถาดิน สละชีพบั่นศีรษะ เป็นวิชาสนับสนุนระยะประชิดถึงระยะกลางระดับล่าง ผู้ใช้คือ คาคาชิ เป็นวิชาของหมู่บ้านที่ยังไม่ปรากฏในเรื่อง อย่าง อิวะ
คลื่นตัดสูญญากาศ เป็นวิชาคลื่นเสียงของแคว้นโอโตะ ผู้ใช้คือ อาบุมิ วิชาโจมตีระยะประชิดถึงระยะกลางในระดับกลาง
คาถานินจาน้ำตกพิฆาต เป็นวิชาสุดยอดของแคว้นคิริ ซึ่งใช้จักระมหาศาลบังคับน้ำขนาดใหญ่เป็นน้ำตกที่สามารถทลายทุกอย่าง ผู้ใช้คือ ซาบุสะ วิชาโจมตีระยะกลางถึงระยะไกลในระดับสุดยอด

 

โหมดเซียน
เป็นการใช้พลังอีกระดับหนึ่งของ จิไรยะ และ นารุโตะ หลักการของมันคือ เป็นการรวบรวมพลังธรรมชาติมาใส่ไว้ในร่างกาย ทำให้สามารถใช้จักระไม่มีวันหมด แต่ต้องแลกกับหน้าตาที่ต้องคล้ายกับกบมากขึ้น โดยปกติ โหมดเซียนจะใช้ได้แค่ 5 นาที แต่พอมี ปู่กับย่ากบ คอยเกาะร่างกายใกล้ชิดกันนั้น จะสามารถอยู่ในสภาพนี้ได้ยาวนานยิ่งขึ้น (ปู่-ย่ากบ คอยเป็นตัวสะสมพลังธรรมชาติ เอาไว้)
ในกรณีของนารุโตะนั้น เนื่องจากในร่างกายมีจิ้งจอกเก้าหางสิงสถิตย์อยู่ จึงไม่สามารถรวมร่างกับปู่-ย่ากบได้ จึงต้องใช้วิชาแยกร่างมาประยุกต์ร่วมกัน คือ ในขณะที่ร่างหนึ่งกำลังใช้โหมดเซียนอยู่นั้น จะมีอีกร่างยก่างหนึ่งที่ยังคอยสะสมพลังธรรมชาติอยู่ จากนั้นจึงเรียกร่างนี้มาแล้วก็สลายร่างแยกออกไป พลังธรรมชาติที่ร่างแยกรวบรวมไว้ก็จะกลับไปร่างจริง ทำให้อยู่ในโหมดเซียนต่อไปได้อีก หากร่างแยกหมด เมื่อพลังธรรมชาติถูกใช้หมด ก็ต้องอยู่นิ่งๆ รวบรวมพลังธรรมชาติใหม่

โลกของนารุโตะ

ในหัวข้อนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับ สถานที่ แคว้น หมู่บ้านต่างๆ ที่ปรากฏในเรื่องนารุโตะ รวมไปถึงลักษณะทางสังคมนินจาที่เกิดขึ้นในเรื่อง

 

ระดับชั้นนินจา

เกะนิน เป็นนินจาในระดับที่ต่ำที่สุด พวกเขาเป็นนินจาที่จบการศึกษาจากโรงเรียนนินจา โดยทุกคนจะได้รับผ้าคาดหน้าที่มีตราสัญลักษณ์ของหมู่บ้านตนเอง มักจะถูกส่งให้ไปปฏิบัติภารกิจในระดับ D ซึ่งงานส่วนใหญ่จะเป็นพวกแรงงาน หรืองานที่ไม่มีความเสี่ยง หรือ งานในระดับ C ซึ่งเป็นงานที่ไม่มีความเสี่ยงมากนัก
  จูนิน เป็นนินจาที่สามารถทำหน้าที่สอนนินจาคนอื่นๆได้ เช่น อุมิโนะ อิรุกะ หรือ จะเป็นกองกำลังของหมู่บ้าน ปฏิบัติการในระดับ C และ B โดยการจะเป็นนินจาในระดับนี้จะต้องผ่านการทดสอบทั้ง3ขั้นคือ การสอบข้อเขียน การปฎิบัติหน้าที่ และ การต่อสู้ตัวต่อตัว

หมายเหตุ: ในอดีตการสอบจูนินมีการสอบแยกกันไปตามแต่ละหมู่บ้าน หลังจากเกิดสงครามนินจา ทุกหมู่บ้านตัดสินใจจัดการสอบร่วมกันโดยเลือกหมู่บ้านขึ้นมาหมู่บ้านหนึ่ง เพื่อเป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างหมู่บ้าน ขณะเดียวกันเพื่อป้องกันสงครามระหว่างหมู่บ้านอีกทางหนึ่ง โดยจัดสอบ ปีละ 2 ครั้ง
โจนิน เป็นนินจาระดับสูงที่ผ่านประสบการณ์มามาก ปกติจะได้รับภารกิจในระดับ A ซึ่งเป็นภารกิจที่ยากที่สุด และต้องผ่านภารกิจระดับ S ไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง
นักเรียนฝึกหัด กลุ่มเด็กๆที่อยากจะเป็นนินจา จึงเข้าศึกษาในโรงเรียนนินจาเพื่อพัฒนาตนเองในสายวิชาพื้นฐานการเป็นนินจานั่นเอง
คาเงะ ผู้ปกครองหมูบ้าน และ เป็นผู้ที่เก่งกาจที่สุดในบรรดานินจาที่อยู่ตามหมู่บ้านต่างๆ

คาเงะ
หมู่บ้าน
โฮคาเงะ (เงาไฟ)
โคโนฮะ
มิซึคาเงะ (เงาน้ำ)
คิริ
ซึจิคาเงะ ( เงาดิน)
อิวะ
ไรคาเงะ (เงาสายฟ้า)
คุโมะ
คาเซคาเงะ (เงาลม)
ซึนะ


นินจาถอนตัว ( นุเกะนิน) คือ นินจาที่หายออกไปจากหมู่บ้าน ส่วนใหญ่มักจะเป็นพวกที่ทรยศและจะถูกตามล่า

นินจาล่าสังหาร (โอะอินิน) กลุ่มนินจาที่ตามฆ่านินจาถอนตัว ถ้าพบตัวเมื่อไหร่ ก็จะฆ่าทิ้งและทำลายศพทันที

หน่วยลับนินจา( อันบุ) หน่วยนินจาที่จัดตั้งขึ้นมาสำหรับปฏิบัติการพิเศษ ระดับ S ซึ่งปฏิบัติตามคำสั่งของคาเงะ

 

แคว้นต่างๆ

 

แต่ละแคว้นในเรื่องนั้น จะมีหมู่บ้านนินจาหลักๆเป็นศูนย์กลางในแต่ละแคว้น  และ มีคาเงะของแต่ละหมู่บ้าน เป็นหัวหน้าหมู่บ้าน ซึ่งเรียกแตกต่างกันออกไป



ฮิโนะคุนิ
ฮิโนะคุนิ หรือ "แคว้นแห่งไฟ" เป็นแคว้นขนาดใหญ่ที่สุดและมีความอุดมสมบูรณ์ที่สุด มีหมู่บ้านโคโนฮะ(โคโนฮะงาคุเระ หรือแปลตามตัวว่า หมู่บ้านที่ซ่อนอยู่ในใบไม้)เป็นศูนย์กลาง โดยเมื่อ 12 ปีก่อน แคว้นฮิโนะได้ถูกโจมตีโดยปีศาจร้าย จิ้งจอกเก้าหาง (เคียวบิโนะโยโกะ) บ้านเมืองถูกทำร้าย ผู้คนหลายร้อยโดนฆ่า ซึ่งรวมทั้งพ่อแม่ของนินจาในหมู่บ้านปัจจุบันรวมถึง อุมิโนะ อิรุกะ ปีศาจร้ายได้ถูกจัดการโดยหัวหน้าของหมู่บ้านโคโนฮะ โฮคาเงะรุ่นที่ 4 โดยได้เสียสละตัวเองผนึกปีศาจไว้ในร่างของเด็กเกิดใหม่ อุซึมากิ นารุโตะ
หมู่บ้านโคโนฮะนั้นได้ถูกสร้างขึ้นโดย ท่านรุ่นที่ 1 โดยใช้วิชาลับ คือวิชากำเนิดบ้านพฤษา สามารถกำเนิดต้นไม้มาได้ นินจารุ่นเก่าเคยกล่าวไว้ว่าจักระเป็นเหล่งกำเนิดชีวิต จุดเด่นของโคโนฮะคือรูปแกะสลักที่หน้าผา เป็นรูปหน้าโฮคาเงะทั้ง 4 เมือตอนกลางเรื่องรูปแกะสลัดของรุ่น 3 ได้แตกขึ้น นั้นเป็นลางร้าย แต่ตอนหลังนี้ได้มีรูปแกะสลักเพิ่มมา 1 รูป นั่นคือท่านซึนาเดะ หรือ รุ่นที่ 5 นั่นเอง

สถานที่หลักๆในหมู่บ้าน
-โรงเรียนนินจาหมู่บ้านโคโนฮะ เป็นโรงเรียนสอนนินจาของเหล่านินจาในหมู่บ้านแห่งนี้ ตั้งอยู่ด้านในสุดของหมู่บ้าน ติดกับภูเขาแกะสลักรูปใบหน้าของโฮคาเงะทั้ง4
-ประตูหมู่บ้านโคโนฮะ ประตูที่เป็นทางเดินเข้าออกของหมู่บ้าน และเป็นจุดนัดพบสำคัญๆของคนต่างๆ ที่ประตูทางเข้าของหมู่บ้านได้มีตัวอักษรฮิรางานะ (อัน) เขียนไว้(ด้านละตัวอักษร) โดยมีความหมายว่า "ความสงบสุข" หรือ "การถอยทัพ"
-ร้านดอกไม้ยามานากะ เป็นร้านขายดอกไม้ของตระกูลยามานากะ และ เป็นบ้านของอิโนะด้วย
-บ่อน้ำร้อนโคโนฮะ บ่อน้ำร้อนแยกชายหญิง เป็นสถานที่ที่จิไรยะ มาเก็บข้อมูล แต่ง "อะจึ๋ยสวรรค์รำไร"บ่อยๆ
-ร้านอิจิราคุ เป็นร้านบะหมี่ราเม็ง ที่นารุโตะแวะเยือนบ่อยๆ
-โรงน้ำชาอามางุริอาเมะ ร้านน้ำชาและขนมหวาน ที่เหล่าตัวละครมาอุดหนุนเป็นประจำ



มิซึโนะคุนิ
มิซึโนะคุนิ หรือ "แคว้นแห่งน้ำ" อยู่ทางฝั่งตะวันออกของ ฮิโนะคุนิ มีหัวหน้าของหมู่บ้านนี้คือ มิซึคาเงะ เป็นแคว้นแห่งทะเลประกอบด้วยเกาะมากมาย มี หมู่บ้านคิริ(คิริงาคุเระ)เป็นศูนย์กลาง โดยมิซึคุนิ นั้น เป็นแคว้นที่เล็กที่สุดในเรื่อง พวกนารุโตะเดินทางไปปฏิบัติภาระกิจในช่วงแรกของเรื่อง และเป็นแหล่งรวมของนินจานอกรีดจำนวนมาก ทั้ง ซาบุสะ โฮชิคางิ คิซาเมะ วิชานินจาที่ถนัดก็ต้องเป็นคาถานินจาสายที่เกี่ยวกับน้ำนั่นเอง



โอโตะโนะคุนิ
โอโตะคุนิ หรือ "แคว้นแห่งเสียง" มี หมู่บ้านโอโตะ(โอโตะงาคุเระ) เป็นศูนย์กลาง ซึ่งเป็นแคว้นใหม่ที่เพิ่งก่อตั้งโดยโอโรจิมารุ



คาเซะโนะคุนิ
คาเซะโนะคุนิ หรือ "แคว้นแห่งลม" ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของฮิโนะคุนิ หัวหน้านินจาคือ คาเซะคาเงะ มีหมู่บ้านซึนะ (หมู่บ้านแห่งทราย หรือ ซึนะงาคุเระ) เป็นศูนย์กลาง มีภูมิประเทศเป็นทะเลทราย จึงมีอากาศแห้ งแล้งตลอดปี ผู้คนส่วนใหญ่อาศัยอยู่บริเวณโอเอซิส และ ตัวละครที่มาจากแคว้นนี้ก็คือ กาอาระ เทมาริ และ คันคุโร่ วิชานินจาที่แคว้นนี้เชี่ยวชาญก็คือ วิชาเกี่ยวกับสายลม
สำหรับหมู่บ้านซึนะ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของแคว้นนี้ คาเซะคาเงะต้องการที่จะเพิ่มกองกำลัง และได้วางแผนร่วมกับทางกองกำลังจากหมู่บ้านโอโตะ โจมตีหมู่บ้านโคโนฮะ



ซึจิโนะคุนิ
ซึจิโนะคุนิ หรือ "แคว้นแห่งดิน" ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกของฮิโนะคุนิ หัวหน้านินจาคือ ซิจิคาเงะ มีหมู่บ้านอิวะ (อิวะงาคุเระ) เป็นศูนย์กลาง มีภูมิประเทศเป็นภูเขา และ หิน



คามินาริโนะคุนิ
คามินาริโนะคุนิ หรือ "แคว้นแห่งสายฟ้า" ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของฮิโนะคุนิ หัวหน้านินจาคือ ไรคาเงะ มีหมู่บ้านคุโมะ (คุโมะงาคุเระ) เป็นศูนย์กลาง ติดกับชายฝั่งทะเลแทบทุกด้าน มีทิวเขายาว จึงมีเสียงสะท้อนไปมาราวกับฟ้าผ่า ซึ่งเป็นที่มาของชื่อแคว้นนี้

free hit counter javascript