Cartoon Focus -- นินจาคาถาโอ้โฮเฮะ (Naruto)


ผู้แต่ง มาซาชิ คิชิโมโต้
ประเภท แอ็คชั่น
จำนวนเล่ม 72 เล่ม (จบ)
Boruto 1 เล่ม
สำนักพิมพ์ เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนต์ (ไทย)/
Shueisha(ญี่ปุ่น)
ลิขสิทธิ์อนิเม Rose Media
ข้อมูลอ้างอิง http://th.wikipedia.org/naruto
นิตยสารComic Quest ฉบับ 16-17
http://happy.teenee.com/naruto/story


คาถา และ วิชานินจา

ขึ้นชื่อว่า นินจาคาถาโอ้โฮเฮะ จุดเด่นก็คงจะหนีไม่พ้น คาถากระบวนท่าต่างๆที่เหล่าบรรดาตัวละครใช้ในการต่อสู้ ซึ่งล้วนแต่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และ เพิ่มอรรถรสในการอ่านมากขึ้น แต่ก่อนที่จะไปทำความรู้จักกับคาถาต่างๆนั้น เราควรจะทำความรู้จักกับสิ่งนี้ก่อน ซึ่งสำหรับคนที่พึ่งจะมาติดตามเรื่องนี้ ก็มักจะได้ยิน คำๆนี้บ่อยๆ นั่นก็คือ......."จักระ" นั่นเอง

จักระนั้น คือ พลังที่ปรากฏในเนื้อเรื่องแสดงให้เห็นถึงความสามารถพิเศษของตัวละครนินจาเหนือคนธรรมดาทั่วไป ถ้าเทียบกับเรื่องอื่นๆที่อยู่ในเครือเดียวกัน ก็จะคล้ายๆกับ คิ หรือ ซุปเปอร์ไซย่า(ดราก้อนบอล) เซเว่นเซนส์(เซนต์ เซย่า) เน็น(ฮันเตอร์ เอ็กซ์ ฮันเตอร์) หรือ ปลดปล่อยสวัสดิกะ(บลีช) เป็นต้น

จักระ คือศูนย์รวมของพลังงานภายในร่างกายของมนุษย์ มีลักษณะคล้ายจักรที่หมุนในลักษณะตามเข็มนาฬิกาอยู่ตลอดเวลาและหมุนด้วยความถี่ที่แตกต่างกันไป ซึ่งความถี่ในการหมุนของจักระจะมีความเชื่อมโยงและสัมพันธ์กับระบบการทำงานของอวัยวะที่อยู่บริเวณใกล้เคียง เป็นตัวบ่งชี้ถึงสุขภาพของมนุษย์ รวมถึงสัมพันธ์กับอารมณ์และจิตใจของมนุษย์อีกเช่นกัน มนุษย์จะมีจักระจำนวนมากมายอยู่ภายในร่างกาย โยคีเชื่อว่าจักระที่สำคัญของมนุษย์เรานั้นมีอยู่ด้วยกัน 7 ตำแหน่ง จักระในแต่ละตำแหน่งจะดูแลและควบคุมการทำงานของอวัยวะส่วนต่างๆ ภายในร่างกายของคนเราให้ทำงานเป็นปกติ

 

สายวิชานินจา ในเรื่องนารุโตะนั้น ก็จะประกอบด้วยสายวิชาดังต่อไปนี้
-คาถานินจา เป็นการใช้จักระจำนวนมากกับวิชานินจาร่วมกัน เพื่อถ่ายทอดพลังจักระในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีหรือสนับสนุน เช่น คาถาน้ำ คาถาไฟ ของ นินจาในแต่ละแคว้น
-กระบวนท่า เป็นการฝึกฝนร่างกายภายนอกโดยสามารถเอาพลังจักระออกมาเสริมสมรรถภาพร่างกายได้ โดยขึ้นอยู่กับการฝึกฝนให้เชี่ยวชาญ เช่น การต่อสู้พื้นฐาน การขว้างดาวกระจาย การใช้ดาบ
-คาถาลวงตา ใช้จักระในการสร้างภาพลวงตา เพื่อลวงตา หรือ จู่โจมคู่ต่อสู้ โดยเน้นไปที่การสนับสนุนมากกว่า
-คำสาป เป็นวิชาที่ใช้บังคับควบคุมคู่ต่อสู้อีกฝ่าย เช่น ตราสัญลักษณ์ของตระกูลฮิวงะ
-วิชาผนึก เป็นวิชาที่ควบคุม หรือ กักขัง ซึ่งคนที่สามารถจะใช้วิชานี้ได้ จะต้องมีความสามารถสูง เช่น คาถาผนึก 5 วิถี ของโอโรจิมารุใช้ผนึกจักระของนารุโตะ หรือคาถาผนึกมรณะที่รุ่นที่4 ใช้ผนึกรุ่นที่ 1 และ 2 และ แขนของโอโรจิมารุ พร้อมกับสละชีวิตของตนเอง
-วิชาลับ เป็นวิชาที่สืบทอดกันในตระกูลของตนเองเท่านั้น คนอื่นไม่อาจลอกเลียนได้ เช่น วิชาขยายร่าง วิชาเงาเลียนแบบ วิชาจิตป่วนร่าง วิชาเลี้ยงแมลง ฯลฯ
-สืบสายเลือด ไม่จัดเป็นวิชา แต่จัดเป็นคุณสมบัติพิเศษ ที่ถ่ายทอดกันทางสายเลือด ประกอบไปด้วย:

เนตรวงแหวน หรือ เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา เป็นสายเลือดพิเศษของตระกูลอุจิวะ โดยมีความสามารถในการจดจำ วิชานินจา วิชาภาพลวงตา และ การต่อสู้ตัวต่อตัว ได้อย่างแม่นยำ และ สามารถใช้ท่าเเละวิชาเดียวกันได้ นอกจากนี้มีความสามารถในการสะกดจิต และ การมองเห็นภาพลวงตาและ ทำนายการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ (เทพสุดๆ!!!!!)
เนตรที่เหนือขึ้นไปอีกระดับหนึ่งของเนตรวงแหวนคือ เนตรกระจกเงาหมื่นบุปผา จะเกิดขึ้นได้เฉพาะในสายเลือดอุจิวะ และจะเกิดขึ้นเมื่อมีเนตรวงแหวนขั้นที่สอง และ จะต้องฆ่าคนสนิทที่สุด ถึงจะใช้วิชานี้ได้ ซึ่ง เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นปุปผาจะมีอานุภาพเหนือกว่าเนตรวงแหวนธรรมดาหลายเท่าจึงทำให้ผู้ใช้ได้รับผลกระทบไปด้วย

โดย อุจิวะ มาดาระ จะมีเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปฝาที่ไร้เทียมทานสุดๆ คือ สามารถใช้เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นปุปผาได้ไม่มีขีดจำกัด เนื่องจากมีจักระที่ไร้ขีดจำกัดและมีแสงสว่างตลอดเวลา และด้วยเหตุนี้ อิทาจิจึงอยากจะมีความสามารถเนตรวงแหวนเหมือนกับอุจิวะ มาดาระ ด้วยการพยายามที่จะควักตา
ของซาสึเกะออกมา

สำหรับอิทาจินั้น สามารถจับการเคลื่อนไหวของศัตรูด้วยเนตรวงแหวนและโต้ตอบอย่างรวดเร็วด้วยเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา ซึ่งทำให้อิทาจิสามารถใช้วิชาเนตรพิเศษอื่นๆ เช่น
- อ่านจันทรา วิชาคาถาลวงตาที่สร้างความเสียหายทางร่างกายและจิตใจของศัตรูได้
- เทวีสุริยา เรียกเปลวเพลิงสีดำที่ร้อนกว่าดวงอาทิตย์ 10 เท่าและสามารถเผาผลาญได้ทุกสิ่งตามทิศทางที่ดวงตามองเห็น และจะเผาผลาญไม่หยุดจนกว่าเป้าหมายจะดับสิ้น
- สึซานาโอะ วิชาลับขั้นสูงของเนตรพิเศษที่จะอัญเชิญดาบและโล่ของเทพเจ้ามาใช้ในการต่อสู้

เนตรสีขาว หรือเรียก เนตรปีศาจ หรือ เบียะกุงัน เป็นสายเลือดพิเศษในตระกูลฮิวงะ ซึ่งได้แก่ ฮิวงะ ฮินาตะ ฮิวงะ เนจิ โดยสามารถมองเห็นได้ 360 องศา ในขณะที่ต่อสู้ตัวต่อตัว โดยมีจุดบอดอยู่ตรงบริเวณกระดูกสันหลังตรงหน้าอก โดยผู้ใช้สามารถจับการเคลื่อนไหวได้ในระยะ 50 เมตร ซึ่งทำให้ผู้ใช้ได้เปรียบในการต่อสู้ตัวต่อตัว นอกจากนี้เนตรสีขาวยังสามารถมองเห็นได้ในระยะทางที่ห่างออกไปขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้ใช้ด้วย เนตรสีขาวสามารถมองเห็นเส้นวิถีพลังและจุดพลัง ทำให้สามารถอุดจุดพลังเพื่อไม่ให้คู่ต่อสู้ใช้วิชาคาถาได้

วิชานินจาสายสนับสนุน
  คาถาแยกร่าง จัดว่าเป็นวิชาานินจาสนับสนุนแบบไม่นับระยะ และเป็นวิชาขั้นพื้นฐานเลย อย่างน้อยนินจาฝึกหัดทุกคนต้องใช้ท่านี้ได้ การที่จะใช้สนับสนุนตนเองได้มากน้อยเพียงใดก็ขึ้นกับการฝึกฝน
  คาถาแปลงกาย เป็นวิชานินจาสนับสนุนแบบไม่นับระยะ อย่างน้อยนินจาฝึกหัดทุกคนต้องใช้ท่านี้ได้เช่นกัน เช่น คาถามหารัญจวน ของ นารุโตะ
  คาถาแยกเงา เป็นวิชาแยกร่างขั้นสูงอีกระดับหนึ่ง โดยแยกร่างจริงของตนเองออกมาเลย นารุโตะ เคยใช้วิชานี้เอาชนะ เนจิได้ ในการประลอง ในการสอบจูนินรอบ3
  คาถาซ่อนร่าง จัดเป็นวิชานินจาขั้นพื้นฐานอีกวิชาหนึ่ง หลักๆก็คือการซ่อนตัวโดยไม่ให้ใครจับได้
  คาถาสลับร่าง เป็นวิชาเบสิกของนินจาอีกวิชาหนึ่ง คือ สลับร่างกับตนเอง กับ สิ่งของ (ที่เห็นบ่อยในเรื่องคือ ท่อนไม้) เพื่อป้องกันการจู่โจมของคู่ต่อสู้
  คาถาคลายพันธนาการ เป็นวิชานินจาสนับสนุนแบบไม่นับระยะระดับฝึกหัดเช่นกัน คือ การแก้เชือกที่มัดกับตนไว้ออกมา(คล้ายกับมายากลบางโชว์ที่เราเคยดูกันมาแล้วนะแหละ)

กระบวนท่านินจาภายนอก
  ลูกเตะจักรผันลูกสิงห์ ท่าประจำตระกูลอุจิวะ ของซาสึเกะ ใช้ในการต่อสู้กับ โยโรอิ ในการสอบจูนินรอบ3 เป็นการโจมตีในระยะประชิด
  ลูกเตะจักรผัน ท่าของนารุโตะ ในการพิชิต คิบะ ในการสอบจูนินรอบ3 ลักษณะของท่านั้น คล้ายๆกับซาสึเกะ แต่เสริมอานุภาพของท่าด้วย คาถาแยกเงาพันร่าง
  จิ้มทะลวงข้ามสหัสวรรษ เป็นท่าของคาคาชิ เป็นวิชาประชิดในระดับฝึกหัด
  สลาตันโคโนฮะ เป็นวิชาที่เปี่ยมไปด้วยพลังและความเร็ว เป็นวิชาประชิดขั้นต่ำ
  ระบำสามทิวา ท่าของฮายาเตะ เป็นวิชาประชิดขั้นสุดยอด โดยใช้ คาถาแยกเงาพันร่าง รวมกับเพลงดาบ
  บัวบานภายใน ท่าประจำตัว และ ท่าไม้ตายที่ทุ่มสุดตัว ของ ร็อค ลี เป็นการรีดเอาพลังจักระถึงขั้น 4 มาใช้ เป็นวิชาประชิดขั้นสุดยอด

วิชานินจาที่ใช้จักระเข้าร่วม
  คาถาเพลิง คาถาประจำตัวของซาสึเกะ จัดเป็นวิชาโจมตีระดับกลาง
  คาถาเพลิงนกฟีนิกซ์ - เป็นการปล่อยลูกไฟคล้ายศรไปโจมตีศัตรู ซาสึเกะใช้ในการสอบจูนินรอบสอง
  คาถาเพลิงลูกไฟยักษ์ - เป็นการพ่นไฟลูกยักษ์ออกมาจากปาก
  คาถาเพลิงมังกร - เป็นการพ่นลูกไฟตามเส้นด้ายที่ผูกอยู่กับดาวกระจายใส่ศัตรู และเป็นท่าที่ทำให้โอโรจิมารุยอมรับในตัวซาสึเกะ

  คาถาอัญเชิญ เป็นคาถาโจมตี ป้องกัน สนับสนุน แบบไม่นับระยะในระดับกลาง โดยผู้ใช้จะเรียกสัตว์ที่ทำสัญญาออกมา ผู้ใช้ โฮคาเงะรุ่นที่ 3,4,5 โอโรจิมารุ จิไรยะ อุซึมากิ นารุโตะ ฮาตาเกะ คาคาชิ ฯลฯ (ก่อนจะทำสัญญากับสัตว์สัญญาของตนนั้น จะต้องเขียนตัวอักษรด้วยเลือดตนเอง รวมถึงพลังจักระของตนเองด้วย)
  เงาดาวกระจายแยกร่าง วิชาโจมตีระยะประชิตถึงระยะกลาง จัดเป็นวิชาขั้นสุดยอด ผู้ใช้ท่านี้คือ โฮคาเงะ รุ่นสาม
  แยกเงาพันร่างแบบซับซ้อน เป็นวิชาของนารุโตะ ที่ใช้ในารต่อสู้กับกาอาระ จนเอาชนะได้ โดยใช้พลังจักระจาก จิ้งจองเก้าหางที่อยู่ในตัว เป็นคาถาสนับสนุนไม่นับระยะขั้นสุดยอด
  ตัดสายฟ้า เป็นท่าของคาคาชิ โดยรวบรวมจักระอยู่ที่มือขวา แล้วใช้พุ่งทะลวงร่างของศัตรู เป็นวิชาโจมตีระยะประชิดขั้นสุดยอด และ คาคาชิก็ถ่ายทอดให้กับซาสึเกะ และซาสึเกะนำมาใชในท่าที่เรียกว่า พันปีกปักษา

วิชานินจาของหมู่บ้านอื่นๆ
  ดาบสายลม เป็นท่าของบากิแห่งแคว้นซึนะ ใช้สังหาร ฮายาเตะ เป็นวิชาจู่โจมระยะประชิดถึงระยะกลางขั้นสุดยอด
  คาถาคุกน้ำ เป็นท่าของซาบุสะ แห่ง แคว้นคิริ ที่เคยใช้กับ คาคาชิ จนคาคาชิหมดท่ามาแล้ว วิชาสนับสนุนระยะประชิดถึงระยะกลางระดับกลาง
  วิชาคาไมทะจิ เป็นวิชาของแคว้นซึนะ ที่เทมาริใช้สร้างใบมีดสายลมขนาดเล็กหลายๆอัน วิชาโจมตีระยะประชิดถึงระยะกลางในระดับกลาง
  คาถาดิน สละชีพบั่นศีรษะ เป็นวิชาสนับสนุนระยะประชิดถึงระยะกลางระดับล่าง ผู้ใช้คือ คาคาชิ เป็นวิชาของหมู่บ้านที่ยังไม่ปรากฏในเรื่อง อย่าง อิวะ
  คลื่นตัดสูญญากาศ เป็นวิชาคลื่นเสียงของแคว้นโอโตะ ผู้ใช้คือ อาบุมิ วิชาโจมตีระยะประชิดถึงระยะกลางในระดับกลาง
  คาถานินจาน้ำตกพิฆาต เป็นวิชาสุดยอดของแคว้นคิริ ซึ่งใช้จักระมหาศาลบังคับน้ำขนาดใหญ่เป็นน้ำตกที่สามารถทลายทุกอย่าง ผู้ใช้คือ ซาบุสะ วิชาโจมตีระยะกลางถึงระยะไกลในระดับสุดยอด

โหมดเซียน
  เป็นการใช้พลังอีกระดับหนึ่งของ จิไรยะ และ นารุโตะ หลักการของมันคือ เป็นการรวบรวมพลังธรรมชาติมาใส่ไว้ในร่างกาย ทำให้สามารถใช้จักระไม่มีวันหมด แต่ต้องแลกกับหน้าตาที่ต้องคล้ายกับกบมากขึ้น โดยปกติ โหมดเซียนจะใช้ได้แค่ 5 นาที แต่พอมี ปู่กับย่ากบ คอยเกาะร่างกายใกล้ชิดกันนั้น จะสามารถอยู่ในสภาพนี้ได้ยาวนานยิ่งขึ้น (ปู่-ย่ากบ คอยเป็นตัวสะสมพลังธรรมชาติ เอาไว้)
  ในกรณีของนารุโตะนั้น เนื่องจากในร่างกายมีจิ้งจอกเก้าหางสิงสถิตย์อยู่ จึงไม่สามารถรวมร่างกับปู่-ย่ากบได้ จึงต้องใช้วิชาแยกร่างมาประยุกต์ร่วมกัน คือ ในขณะที่ร่างหนึ่งกำลังใช้โหมดเซียนอยู่นั้น จะมีอีกร่างยก่างหนึ่งที่ยังคอยสะสมพลังธรรมชาติอยู่ จากนั้นจึงเรียกร่างนี้มาแล้วก็สลายร่างแยกออกไป พลังธรรมชาติที่ร่างแยกรวบรวมไว้ก็จะกลับไปร่างจริง ทำให้อยู่ในโหมดเซียนต่อไปได้อีก หากร่างแยกหมด เมื่อพลังธรรมชาติถูกใช้หมด ก็ต้องอยู่นิ่งๆ รวบรวมพลังธรรมชาติใหม่

 

 
free hit counter javascript