เรื่องราวอื่นๆเกี่ยวกับเนกิมะ
เบื้องหลัง
เบื้องหลังความสำเร็จของการ์ตูนเรื่องนี้นั้น ก็เกิดมาจากการทำงานกันอย่างยากลำบากของ อ.เคน อาคามัตซึ และเหล่าสตาฟฟ์ นอกจากจะต้องมาคิดออกแบบตัวละคร พล็อตเรื่องหลักๆ รวมถึงฉากหลัง โดยในหัวข้อนี้เราจะมาพูดถึงฉากหลังของการ์ตูนเรื่องนี้กัน ซึ่งฉากสถานที่ต่างๆในการ์ตูนเรื่องนี้นั้น หลายคนคิดว่า มันคงมีแต่ในการ์ตูนนะแหละ แต่แท้จริงแล้ว สถานที่ต่างๆในเรื่องนั้น ล้วนดัดแปลงเอามาจากสถานที่ที่มีอยู่จริงในโลก ซึ่ง 1 ในนั้น ก็คือตึกอาคารโรงเรียนมาโฮระ แท้จริงแล้วก็ดัดแปลงมาจากอาคารสถานีรถไฟฟูคายะ(JR Fukaya) จังหวัดไซตามะ (แถมรูปแบบสถาปัตยกรรมของอาคารก็ได้รับอิทธิพลมาจากสถานีรถไฟกรุงโตเกียวด้วยเช่นกัน)* ไม่เฉพาะแค่อาคารเรียน ยังรวมไปถึง ฉากสถานที่ต่างๆที่อยู่ในพื้นที่โรงเรียนมาโฮระ และ ฉากต่างๆในช่วงไปทัศนศึกษาเกียวโต ไม่ว่าจะเป็น วัดคิโยมิซึ อารามหลวงพ่อโต เมืองภาพยนตร์ ต่างก็เอามาจากสถานที่จริงๆทั้งสิ้น
(สามารถดูภาพสถานที่จริงๆที่ใช้ประกอบฉากในเรื่อง เนกิมะ ได้จากเว็บ http://www2u.biglobe.ne.jp/~clown/negima/model.htm)
* แก้ไขล่าสุด 22/10/2550
|
สถานีรถไฟฟูคายะ ซึ่งภายหลังถูกเนรมิตรดัดแปลงให้กลายเป็น โรงเรียนมาโฮระ |
และเกร็ดน่ารู้อีกอย่างหนึ่งเกี่ยวกับฉากหลังของการ์ตูนเรื่องนี้ ในฉบับคอมิคนั้น เชื่อหรือไม่ว่า ฉากหลังที่ปรากฏในเรื่องนั้น ล้วนสร้างมาจากโปรแกรมสร้างภาพสามมิติอย่างlightwave ไม่เฉพาะแค่ฉากเท่านั้น ยังรวมไปถึงสิ่งของบางชนิดที่ปรากฏในเรื่องนี้อีกด้วย
อนิเมชั่นเนกิมะ
คุณครูจอมเวทย์ เนกิมะ! ในฉบับอนิเมชั่นนั้น ได้แพร่ภาพในประเทศญี่ปุ่นทางสถานโทรทัศน์ทีวีโตเกียว ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม - 29 มิถุนายน ปี พ.ศ. 2548 โดยมีความยาวทั้งสิ้น 26 ตอน ความยาวตอนละ 25 นาที เนื้อเรื่องส่วนมากดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนเล่ม 1 ถึงเล่ม 6 โดย XEBEC เป็นทีมที่ทำหน้าที่ดูแลอนิเมชั่นเรื่องนี้ ได้ ฮัตซึเอะ คาโต้ เป็นคนออกแบบตัวละคร อิจิโร่ โอโคชิ ดูแลในบทโทรทัศน์ และ ชินคิชิ มิตซึมุเนะ ดูแลในส่วนดนตรีในเรื่อง
เนื้อเรื่องหลักๆในอนิเมชั่น ก็จะเน้นเรื่องราวความสัมพันธ์ของเหล่าตัวละคร มากกว่าที่จะเน้นเรื่องราวฉากต่อสู้ โดยเฉพาะ ช่วงทัศนาศึกษาที่เกียวโต กลับถูกบีบเหลือแค่ 2 ตอน
ทั้งๆที่ในคอมิคนั้น เนื้อเรื่องในช่วงนี้จะอยู่ราวๆเล่ม 4 - 6 ใช้เวลาถึง 3 เล่มเลยทีเดียว รวมไปถึงในอนิเมชั่นยังได้ตัดฉากวาบหวิวซึ่งในคอมิคมีฉากเหล่านี้อยู่มากพอสมควร ออกไปจำนวนมาก เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายเพิ่มไปยังกลุ่มเด็กๆด้วย
หลังจากที่อนิเมชุดนี้ได้แพร่ภาพออกไปที่ญี่ปุ่น ก็เกิดเสียงวิจารณ์ในทางลบขึ้นเกี่ยวกับอนิเมชั่นเรื่องนี้ จากบรรดาผู้ชม ยังรวมไปถึง เคน อาคามัตซึ ผู้แต่งการ์ตูนเรื่องนี้ ก็ไม่ค่อยจะพอใจผลงานอนิเมเรื่องนี้เท่าใดนัก โดยจุดด้อยของอนิเมชุดนี้ ก็คงจะหนีไม่พ้น เนื้อเรื่องที่ดัดแปลงจากของเดิมมากเกินไป (แถมดันเขียนบทให้อาซึนะตายซะอีก) การดีไซน์ตัวละครที่ค่อนข้างน่าผิดหวัง นอกจากหน้าตาตัวละครจะบวมๆแล้ว แถมสีผมของตัวละครก็ยังแตกต่างจากคอมิคเกินไป เช่น ผมของจิซาเมะ เป็นสีเขียว แทนที่จะเป็นสีส้ม ,ผมของยูนะกลายเป็นสีน้ำตาลอ่อนทั้งๆที่ผมของเธอต้องเป็นสีดำ เป็นต้น อย่างไรก็ดี ทางXEBEC รับปากว่าจะปรับปรุงคุณภาพของภาพยนตร์การ์ตูนก่อนจะจัดจำหน่ายในรูปแบบดีวีดี เมื่อเปรียบกันแล้วพบว่าเวอร์ชันดีวีดีมีคุณภาพดีขึ้นบางในบางฉาก โดยมีสีสันสดใสกว่า อีกทั้งโครงหน้าและรูปร่างของตัวละครก็ดูสมส่วนขึ้น
ถึงอนิเมชั่นในภาคแรกจะจบลงพร้อมกับคำวิจารณ์อันน่าผิดหวัง แต่อย่างไรก็ตาม อนิเมชั่นในภาคที่สองก็เสร็จสมบูรณ์ โดยใช้ชื่อว่า Negima!? ซึ่งในภาคสองนี้ ก็จะมีการเปลี่ยนทีมที่ดูแลอนิเมจากXEBEC ไปเป็น Shaft (Tsukuyomi -MOON PHASE) และ เปลี่ยนคนออกแบบตัวละครใหม่ยกชุด โดยเนื้อเรื่องนั้น น่าจะเรียกว่าเป็นภาคคู่ขนานจากภาคแรกเลย เพราะ เริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น ตั้งแต่เนกิมาเยือนมาโฮระเป็นครั้งแรก ไม่ได้มีเนื้อเรื่องต่อจากภาคแรกแต่อย่างใด
ข้อแตกต่างระหว่างอนิเมภาค2กับภาคแรก ของเนกิมะ นอกจากจะเดินเรื่องเร็วกว่าเดิมแล้ว เนื้อเรื่องก็จะเน้นไปทางแอ็คชั่นมากกว่าภาคแรกที่ดูจะเน้นเรื่องราวสบายๆระหว่างเนกิกับสาวๆ รวมไปถึงในภาคนี้ ก็มี Pactio Card แบบใหม่ที่เรียกว่า Neo Pactio Card โดยมีถึง 3 ชนิด ได้แก่ Armor Card ,Cosplay Card และ Suka Card หรือ การ์ดเสีย (ที่เพิ่มมากขึ้น หลักๆก็คือกะขายของมากขึ้น นั่นแล)
นักพากย์ไทยในการ์ตูนเรื่องเนกิมะ
สำหรับ คุณครูจอมเวทย์ เนกิมะ! ในฉบับอนิเมชั่นนั้น บริษัท DEX (Dream Express) ได้รับลิขสิทธิ์ให้จัดจำหน่ายการ์ตูนอนิเมชั่น "เนกิมะ" ทั้งรูปแบบของ DVD และ VCD ซึ่งจุดที่แตกต่างเทียบกับต้นฉบับนั้น ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องจำนวนคนพากย์ตัวละครหลักๆ ซึ่ง ทางเรานั้นจะมีคนพากย์ตัวละครสาวๆห้อง 2-A เพียงแค่ 6-7 คน เท่านั้น ผิดกับของต้นฉบับที่มีคนพากย์เสียงตัวละครสาวๆห้อง 2-A ครบ 31 คนพอดี ซึ่งนักพากย์ไทยที่มาพากย์เรื่องนี้นั้น ก็มีรายชื่อดังต่อไปนี้ (พอสังเขป):
- คุณ ศันสนีย์ วัฒนานุกูล (น้านิด) ให้เสียง เนกิ สปริงฟิลด์ ,นารุทากิ ฟูมิกะ
- คุณ วิภาดา จตุยศพร (น้าเปียก) ให้เสียง คากุระซากะ อาซึนะ,นางาเซะ คาเอเดะ,ฮาเซงาวะ จิซาเมะ(ตอนที่ 1),โยทซึบะ ซัทซึกิ
- คุณ อรุณี นันทิวาส (น้าตุ๊ก) ให้เสียง ไอซากะ ซาโยะ,คาซึกะ มิโซระ,โคโนเอะ โคโนกะ , เอวานเจลีน เอเค แม็คโดเวลล์ ,ซาซี่ เรนนี่เดย์,อ.มินาโมโตะ ชิซึนะ
- คุณ ธนาภรณ์ จตุยศพร(พี่มด) ให้เสียง คาราคุริ ชาช่ามารุ,คุกิมิยะ มาโดกะ,ซาโอโตเมะ ฮารุนะ,ซาซากิ มากิเอะ,นาบะ ชิซุรุ,ฮาคาเซะ ซาโตมิ,อาเนีย
- คุณ จารุภา ลิ้มธีระยศ (พี่ตี้) ให้เสียง อายาเซะ ยูเอะ,คาคิซากิ มิสะ,คู เฟย,นารุทากิ ฟูกะ,ฮาเซงาวะ จิซาเมะ (ตั้งแต่ตอนที่ 11 ขึ้นไป),มุราคามิ นัตซึมิ,เนคาเนะ สปริงฟิลด์
- คุณ ศันสนีย์ ติณห์กีรดีศ (พี่สัน) ให้เสียง อาซากุระ คาซึมิ,อิซึมิ อาโกะ, ทัตซึมิยะ มานะ,เจ้า หลินเฉิง,ยูกิฮิโระ อายากะ,อัลเบิร์ต คาโมมิล
- คุณ มนชยา พงษ์เรวี (พี่โอ) ให้เสียง อาคาชิ ยูนะ,โอโคคุจิ อากิระ,ซากุระซากิ เซ็ตซึนะ,ชิอินะ ซากุระโกะ,มิยาซากิ โนโดกะ
- คุณ อิทธิพล มามีเกตุ (พี่จูน) ให้เสียง อ.ทาคาฮาตะ ที ทาคามิจิ ,นากิ สปริงฟิลด์ (ตอนที่ 8 ขึ้นไป)
- คุณ ไกวัล วัฒนไกร (น้าไก) ให้เสียง Thousand Master หรือ นากิ สปริงฟิลด์(ตอนที่ 4),ผอ.โคโนเอะ โคโนเอม่อน
(หากต้องการทราบว่า นักพากย์ของเรานั้น เคยพากย์ตัวละครจากเรื่องไหนมาก่อน คลิ๊กอ่านข้อมูลที่นี่ )
แต่สำหรับ เนกิมะ !? หรือ เนกิมะ ปี 2 ที่DEXได้ลิขสิทธิ์ในภาคต่อมานั้น(อันเดียวกับที่ฉายทาง True Visions) ก็มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของทีมพากย์ภาษาไทยบางคน และตัวละครหลายตัวก็มีการเปลี่ยนคนพากย์ ทำให้เสียงพากย์กับตัวละครมีความลงตัวมากกว่าภาคที่แล้ว ซึ่งนักพากย์ไทยที่มาพากย์ให้กับ เนกิมะ!? มีรายชื่อดังต่อไปนี้ (พอสังเขป):
- คุณ ศันสนีย์ วัฒนานุกูล (น้านิด) ให้เสียง เนกิ สปริงฟิลด์* ,โอโคคุจิ อากิระ,โยทซึบะ ซัทซึกิ
- คุณ วิภาดา จตุยศพร (น้าเปียก) ให้เสียง อิซึมิ อาโกะ,คากุระซากะ อาซึนะ*,ทัตซึมิยะ มานะ,ฮาเซงาวะ จิซาเมะ
- คุณ อรุณี นันทิวาส (น้าตุ๊ก) ให้เสียง อาซากุระ คาซึมิ,คาคิซากิ มิสะ,คู เฟย,โคโนเอะ โคโนกะ* , เอวานเจลีน เอเค แม็คโดเวลล์ *
- คุณ ฉันทนา ธาราจันทร์(น้าติ๋ม) ให้เสียง คาราคุริ ชาช่ามารุ,ซาโอโตเมะ ฮารุนะ,นางาเซะ คาเอเดะ,เนคาเนะ สปริงฟิลด์
- คุณ จารุภา ลิ้มธีระยศ (พี่ตี้) ให้เสียง อายาเซะ ยูเอะ*,ชิอินะ ซากุระโกะ,นารุทากิ ฟูกะ
- คุณ ศันสนีย์ ติณห์กีรดีศ (พี่สัน) ให้เสียง ไอซากะ ซาโยะ,คุกิมิยะ มาโดกะ,ซากุระซากิ เซ็ตซึนะ,เจ้า หลินเฉิง*,ยูกิฮิโระ อายากะ*
- คุณ มนชยา พงษ์เรวี (พี่โอ) ให้เสียง คาซึกะ มิโซระ,นาบะ ชิซึรุ,นารุทากิ ฟูมิกะ,มิยาซากิ โนโดกะ*
- คุณ ???? ให้เสียง อาคาชิ ยูนะ,ซาซากิ มากิเอะ,ฮาคาเซะ ซาโตมิ,มุราคามิ นัตซึมิ,ซาซี่ เรนนี่เดย์
- คุณ อิทธิพล มามีเกตุ (พี่จูน) ให้เสียง อ.ทาคาฮาตะ ที ทาคามิจิ* ,ผอ.โคโนเอะ โคโนเอม่อน,นากิ สปริงฟิลด์ *
- คุณ ไกวัล วัฒนไกร (น้าไก) ให้เสียง อัลเบิร์ต คาโมมิล (คาโม) ,คนบรรยาย
เพลงประกอบ
เนกิมะเป็นการ์ตูนอีกหนึ่งเรื่องที่จัดว่ามีเพลงประกอบค่อนข้างเยอะ โดยหลักๆก็แบ่งเป็น เพลงประจำคาแร็คเตอร์ของแต่ละคน/กลุ่ม กับ เพลงประจำอนิเมชั่นเรื่องนี้
หมายเหตุ ผู้ที่ขับร้องเพลงแต่ละเพลงนั้น จะขอเรียกตามชื่อตัวละครในเรื่อง ส่วนชื่อคนพากย์ที่เป็นผู้ขับร้องจริงๆนั้น ให้ไปดูได้ในรายละเอียดของตัวละคร
เพลงประจำคาแร็คเตอร์
- Itsudatte Love and Dream
ขับร้องโดย คากุระซากะ อาซึนะ
- Nichiyoubi
ขับร้องโดย โคโนเอะ โคโนกะ
- Invitation Welcome to the Library
ขับร้องโดย มิยาซากิ โนโดกะ,อายาเสะ ยูเอะ,ซาโอโตเมะ ฮารุนะ
- Ponpon ryoute ni are ba Win
ขับร้องโดย คาคิซากิ มิสะ, คุกิมิยะ มาโดกะ,ชิอินะ ซากุระโกะ
- Suki ni natte mo e-yo
ขับร้องโดย ฮาเซงาวะ จิซาเมะ
- Glow Wild
ขับร้องโดย อาคาชิ ยูนะ,อิสึมิ อาโกะ,โอโคคุจิ อากิระ,ซาซากิ มากิเอะ
- Koi no Menseki
ขับร้องโดย เจ้า หลิงเฉิน,ฮาคาเซะ ซาโตมิ,โยทซึบะ ซัทซึกิ
- Kizuna
ขับร้องโดย คู เฟย,ซากุระซากิ เซ็ตซึนะ,ทัตซึมิยะ มานะ,นางาเซะ คาเอเดะ
- Ameagari no Tenshi
ขับร้องโดย ยูกิฮิโระ อายากะ
- Maze of the Dark
ขับร้องโดย ไอซากะ ซาโยะ,คาราคุริ ชาช่ามารุ, เอวานเจลีน เอเค แม็คโดเวลล์
- It's My Life
ขับร้องโดย นารุทากิ ฟูกะ,นารุทากิ ฟูมิกะ,คาซึกะ มิโซระ
- Girls, Be Ambitiousอาซากุระ คาซึมิ,นาบะ ชิซุรุ,มุราคามิ นัตซึมิ,ซาซี่ เรนนี่เดย์
- Shusseki Bangou no Uta (Seat Number Song)
ขับร้องโดย นักเรียนชั้น 2-A
เพลงประจำอนิเมภาคแรก
เพลงเปิด
- Happy Material ver. 1 - Original Version
ขับร้องโดย ไอซากะ ซาโยะ, อาคาชิ ยูนะ, อาซากุระ คาซึมิ ,อายาเสะ ยูเอะ ,อิสึมิ อาโกะ ,โอโคคุจิ อากิระ
- Happy Material ver. 2 - More Rock Version
ขับร้องโดย คาคิซากิ มิสะ, คากุระซากะ อาซึนะ ,คาซึกะ มิโซระ ,คาราคุริ ชาช่ามารุ ,คุกิมิยะ มาโดกะ
- Happy Material ver. 3 - More Happy Version
ขับร้องโดย คู เฟย,โคโนเอะ โคโนกะ,ซาโอโตเมะ ฮารุนะ,ซากุระซากิ เซ็ตซึนะ,ซาซากิ มากิเอะ
- Happy Material ver. 4 - Beloved Version
ขับร้องโดย ชิอินะ ซากุระโกะ,ทัตซึมิยะ มานะ,เจ้า หลิงเฉิน,นางาเซะ คาเอเดะ,นาบะ ชิซุรุ
- Happy Material ver. 5 - Electric Version
ขับร้องโดย นารุทากิ ฟูกะ,นารุทากิ ฟูมิกะ,ฮาคาเซะ ซาโตมิ,ฮาเซงาวะ จิซาเมะ,เอวานเจลีน เอเค แม็คโดเวลล์
- Happy Material ver. 6 - Early Summer Version
ขับร้องโดย มิยาซากิ โนโดกะ,มุราคามิ นัตซึมิ,ยูกิฮิโระ อายากะ,โยทซึบะ ซัทซึกิ,ซาซี่ เรนนี่เดย์
- Happy Material ver. 7 - 31 Girl Version (TV-size only)
ขับร้องโดย นักเรียนห้อง 2-A
- Happy Material ver. 8 - Now and Oldies Version (Full size only)
ขับร้องโดย เนกิ สปริงฟิลด์, เนคาเนะ สปริงฟิลด์,อาเนีย
- Happy Material ver. 9 - Acoustic Version
เพลงจบ
- Kagayaku Kimi e (To The Shining You)
ขับร้องโดย คากุระซากะ อาซึนะ,มิยาซากิ โนโดกะ,โคโนเอะ โคโนกะ,ซากุระซากิ เซ็ตซึนะ
- Oshiete Hoshii zoh, Shishou (I Want You To Teach Me, Master)
ขับร้องโดย อาซากุระ คาซึมิ ,อายาเสะ ยูเอะ,คาราคุริ ชาช่ามารุ,คู เฟย,เอวานเจลีน เอเค แม็คโดเวลล์
- Kagayaku Kimi e Peace (To The Shining You Peace)
ขับร้องโดย นักเรียนห้อง 2-A
ความนิยมที่มีต่อการ์ตูนเรื่องนี้
งานนี้ก็เป็นผลงานล่าสุดของ เคน อาคามัตซึ ผู้แต่ง Love Hina จนโด่งดัง ตัวอ.เคนเองก็ประกาศว่า ผลงานการ์ตูนเรื่องใหม่ของเขา(เนกิมะนะแหละ)จะมีนางเอกถึง 31 คนด้วยกัน !!!! แถมตัวพระเอกนั้นก็เอาอิมเมจมาจาก แฮรี่ พ็อตเตอร์อีกด้วย ซึ่งก็สร้างความอือฮาให้กับคนอ่านพักหนึ่ง ว่า เขาจะแต่งออกมาในรูปแบบไหนกันแน่
หลังจากที่ เนกิมะ ได้ลงในนิตยสาร โชเน็น แมกกาซีน มีหนังสือการ์ตูนรวมเล่ม แถมยัง การ์ตูนอนิเมชั่น อีก ก็สร้างปรากฎการณ์ใหม่ โดยเป็นการ์ตูนที่มีคนพากย์ตัวละครหลักๆมากที่สุดอีกเรื่องหนึ่ง แถมใช้คนพากย์แบบไม่ซ้ำหน้ากันอีกด้วย และแน่นอนว่า นักพากย์ตัวละครสาวๆเหล่านี้ ก็มีหน้าที่ร้องเพลงประกอบอีกด้วย จนทำให้เป็นการ์ตูนอีกเรื่องที่มีเพลงประกอบมากที่สุดอีกเรื่องหนึ่งอีกด้วย (แค่เพลงเปิดอนิเมเพลงเดียวก็ปาไป 7-8 เวอร์ชั่น แถมรวมเพลงประจำตัวของตัวละครแต่ละตัวอีก มันจะเยอะขนาดไหน) นอกจากนี้ ก็ยังมี Pactio Card ของเหล่าตัวละครแถมมากับซิงเกิ้ลเพลง รวมถึง สินค้าคาแรคเตอร์ที่มาจากการ์ตูนเรื่องนี้อีกหลายชิ้น เนกิมะก็เลยกลายเป็นการ์ตูนที่ทำเงินจากสินค้าเหล่านี้มากพอสมควร ณ ญี่ปุ่น
ส่วนหนึ่งที่เนกิมะได้รับความนิยมก็คงจะหนีไม่พ้น การขายคาแร็คเตอร์สาวๆทั้ง31คน ซึ่งน่าจะเป็นการขายฝันให้กับคนอ่านที่เป็นชายหนุ่ม แถมผู้แต่งยังใส่มุขตลกที่ส่วนใหญ่จะเป็นฉากโชว์หวิว นอกจากนั้น เรื่องนี้เป็นการ์ตูนที่น่าจะเรียกได้ว่ารวมการ์ตูนหลากหลายแนว ซึ่งมีทั้ง ตลก โรแมนติก แอ็คชั่น และรวมถึงสายพลังต่างๆในการ์ตูน ทั้ง L (Lolicon),M(Maid),S(Shota),N(Neko),Y(Yuri) ฯลฯ จึงเป็นที่ถูกใจของคอการ์ตูน และมักจะถูกมองว่าเป็นการ์ตูนของเหล่าโอตากุ (ถ้าไม่ใช่โอตากุก็อ่านได้ ไม่เป็นไรหรอก!!!) หลังจากที่ได้รับความนิยมที่ญี่ปุ่น เนกิมะก็เลยถูกตีพิมพ์ไปยังประเทศต่างๆ ทั้งใน ยุโรป อเมริกา และ เอเชีย รวมถึง ในบ้านเรา
Feedback ในบ้านเรา
สำหรับในบ้านเรานั้น กระแสตอบรับของเนกิมะนั้น น่าจะเรียกได้ว่า มีทั้งทางบวกและทางลบเลย โดยผู้ที่นิยมชมชอบในเรื่องนี้นั้น ส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้ที่นิยมผลงานเก่าๆของ อ.เคน อาคามัตซึ อย่าง Love Hina และ บางส่วนก็ชอบ เพราะว่า ตัวละครสาวๆ รวมถึง ตัวเนกินั้น น่ารัก และ มีคาแร็คเตอร์ที่น่าสนใจและหลากสไตล์ หรือจะเป็นพล็อตเรื่องที่มีความพัฒนามากขึ้น จนอาจเป็นการ์ตูนที่โด่งดังไม่แพ้ Love Hina เลย แต่เรื่องนี้ก็โดนคำวิจารณ์ในทางลบพอสมควร ซึ่งก็คงจะหนีไม่พ้นการที่เรื่องนี้ได้ยัดเยียดฉากวาบหวิว โชว์กางเกงใน หรือ แฟนเซอร์วิสอื่นๆ มากจนเกินไป ชนิดที่ว่า ไม่เหมาะสมกับผู้อ่านที่อยู่ในวัยเด็ก จนมีบางส่วนที่อ่านแค่เล่ม 1-2 ก็เลิกอ่านแล้ว เลยถูกข้อครหาว่า ตั้งใจขายตัวละครสาวๆ ขายฉากวาบหวิวมากกว่าที่จะเน้นเนื้อเรื่องมากพอสมควร แถมบางคนก็เรียกติดตลกๆว่า การ์ตูนฮาร์เลม แต่ก็ยังดีที่เรื่องนี้ไม่มีฉากแสดงพฤติกรรมทางเพศ และ ความรุนแรงมาก ผลที่ตามมาก็คือ ฉากวาบหวิวอย่างนั้นก็จะมีตัวอักษรมาเซ็นเซอร์ ปิดไว้ และหลังจากข่าวลือเรื่องการกวาดล้างการ์ตูนลามกของคนกลุ่มหนึ่ง ทางสนพ.ลิขสิทธิ์ในบ้านเราจึงตัดสินใจเซ็นเซอร์ฉากวาบหวิวเพิ่มเติม จนคนอ่านบางคนพาลเซ็ง แต่อย่างน้อยการที่ฉบับรวมเล่ม เล่ม 9ออกมา อย่างน้อยก็ทำให้ข่าวลือการกวาดล้างการ์ตูนนั้นลดน้อยลงไปบ้าง และ ในเล่ม 10 ตอนที่ 85 ทางวิบูลย์กิจก็ลงชื่อสำนักพิมพ์ลงบน ฉากDeep Kiss ระหว่าง เนกิ กับ อาซึนะ อยู่ฉากหนึ่งซึ่งเป็นมุขตลกเซนเซอร์ของ เคน อาคามัตซึ ซึ่งก็สร้างความเข้าใจผิดให้กับคนอ่านมากพอสมควร
การ์ตูนเรื่องนี้ มีอะไรที่มากไปกว่า Fan Service !?
อย่างที่เกริ่นเอาไว้ในหัวข้อ Feedback ในบ้านเรา ถึงแม้ว่าการ์ตูนเรื่องนี้จะได้รับความนิยมมากในหมู่คนอ่านบ้านเราก็จริง แต่ก็มีอยู่หลายคนเหมือนกันที่ไม่ปลื้มการ์ตูนเรื่องนี้ สาเหตุนั้น ก็มาจากการที่ ตัวละครสาวๆในเรื่องนั้นเยอะ ทำให้ฉากวาบหวิว หรือที่เรียกกันว่า Fan Service นั้น เพิ่มขึ้นตามไปด้วย เมื่อเทียบกับ Love Hina ซึ่งเป็นผลงานเรื่องก่อนหน้านี้ของ เคน อาคามัตซึ ทำให้ผู้อ่านบางคนรู้สึกว่า ยัดเยียดฉากพวกนี้มากจนเกินเหตุ จนรู้สึกเบื่อหน่ายน่ารำคาญ หรือ ไม่ก็ การที่คุณครูเนกิเป็นเด็กที่เนื้อหอมมากซะจนสาวๆในเรื่องต่างก็ตกหลุมรักคุณครูหนูน้อยซะเว่อร์จนเกินเหตุ ชนิดที่ว่า พวกเธอไม่คิดจะสนใจเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันเลยหรือ? เลยรู้สึกรำคาญ จนผู้อ่านบางคนทนไม่ไหวจนถึงขั้นเลิกติดตามกันเลย เลยถูกปรามาสว่า ตั้งใจขายคาแร็คเตอร์ตัวละครสาวๆกับฉากวาบหวิวมากกว่าจะเน้นเนื้อเรื่องหลักๆ
สำหรับคนที่เพิ่งอ่านเล่ม1-2 และกำลังลังเลตัดสินใจว่าจะอ่านต่อดีไหม.... ถึง2เล่มแรกอาจเดินเรื่องเอื่อยเฉื่อยไปหน่อย แถมFan Service ก็เยอะเกินทน จนไม่กล้าที่จะซื้อ/อ่านต่อ แต่รับรองว่า การ์ตูนเรื่องนี้มีพล็อตเรื่องน่าสนใจจริงๆ โดยในเล่มแรกๆก็มีการปูพล็อตเล็กน้อย ในแง่ของการตามหาพ่อของเนกิ ซึ่งเนื้อเรื่องนั้นจะเริ่มเข้มข้นและซับซ้อนขึ้น ตั้งแต่เล่ม 3 ขึ้นไป ซึ่งเป็นปฐมบทการต่อสู้ของเนกิ รวมถึงเราจะได้เห็นพัฒนาการต่างๆของเนกิ รวมถึง พัฒนาความสัมพันธ์ของเหล่าตัวละครมากขึ้น (แต่บางคนบอกว่าไม่ต้องลุ้นหรอก ยังไงเนกิ มันคงเหมาหมดทั้งห้องแน่ๆ!!!!!) และ ความลับของเรื่องราวต่างๆที่ผู้แต่งได้ผูกเอาไว้ ก็ทำให้มีความน่าสนใจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ความลับของโรงเรียนมาโฮระ ความลับของต้นไม้โลก หรือจะเป็น ความลับที่ซ่อนอยู่ในตัวละครอย่าง อาซึนะ, เซ็ตซึนะ, โคโนกะ,เอวาเจลีน, Thousand Master ฯลฯ เป็นต้น
จุดเด่นๆในเรื่อง ที่มีคนสนใจเรื่องนี้นั้น ไม่เพียงเพราะ จำนวนสาวๆในเรื่องเยอะ คาแร็คเตอร์หลากหลาย ประกอบกับเนื้อหาเกี่ยวกับความรักระหว่างเด็ก10ขวบกับพี่สาวอายุมากกว่า4-5ปีจำนวนนับ 30กว่าคนแล้ว เรื่องนี้ก็ยังได้แฝงปริศนาต่างๆลงในเนื้อเรื่อง และ แฝงแอ็คชั่นการต่อสู้มากขึ้น เมื่อเทียบกับผลงานเก่าๆ และก็ทำได้ดีเลยทีเดียว การที่เน้นเนื้อเรื่องไปที่การต่อสู้มากขึ้น ทำให้เราได้เห็นถึงพัฒนาการของเหล่าตัวละคร รวมไปถึงมิตรภาพความสามัคคีในการต่อสู้ของลูกผู้หญิง และ สหายศึก มากขึ้น จนน่าจะเป็นจุดขายรองลงมาของการ์ตูนเรื่องนี้เลย และอีกจุดหนึ่งที่ได้รับความนิยม ถึงแม้ว่าอาจเป็นจุดเล็กน้อย นั่นก็คือ ในเรื่องนี้นั้นจะมีการล้อเลียนการ์ตูน หนัง เรื่องต่างๆอีกด้วย (ต้องคอยสังเกตกันดีๆล่ะ ยิ่งเล่ม 9 นี่เยอะมาก) หรือจะเป็นปรัชญาข้อคิดของเหล่าตัวละครในเรื่องนี้ (โดยเฉพาะคำพูดของ ยูเอะ และ เอวาเจลีน) ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น ก็เป็นการสรุปได้ว่า การ์ตูนเรื่องนี้มีอะไรที่มากไปกว่า ฉากวาบหวิว แบบที่ใครหลายคนคิดเอาไว้....
|