คำเตือน :
บทความนี้ มีจุดประสงค์ในการนำเสนอ มุ่งเน้นความบันเทิง และ เป็นการแนะนำมังงะแนวนี้ให้ผู้อ่านได้รู้จัก - ไปหาอ่าน/รับชมกัน
ไม่สนับสนุนให้ผู้อ่าน ก่อพฤติกรรมความรุนแรง ตามเนื้อหาการนำเสนอ ของการ์ตูนแนวดังกล่าว
มังงะแนวแยงกี้ นักเรียน นักเลงตีกัน จัดเป็นมังงะญี่ปุ่นแนวที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง ซึ่งนอกจากจะนำเสนอเรื่องราวการต่อสู้เพื่อก้าวเป็นที่ 1 ของทั้งปวง ไปพร้อมกับเสน่ห์การต่อสู้ปกป้องพวกพ้องแบบเข้มๆ สูบฉีดเลือดลูกผู้ชายแล้ว แล้ว ตัวละครนักเรียนนักเลงแนวนี้ ต่างมีรูปลักษณ์ภาพนอกของพวกเขา ที่ใครๆเห็นแล้วๆ ก็จดจำในความเป็นแยงกี้ทันที ทั้งทรงผมรีเจ้น , ผมตั้ง สวมชุดช่างเครื่อง - กางเกงขาบาน ที่เต็มไปด้วยโลโก้กลุ่ม และ สโลแกนกลุ่ม ,รองเท้าบู้ต แล้วก็ มอเตอร์ไซต์ ที่มีการแต่งเครื่องเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร
มังงะแนวนี้ เป็นการสะท้อนถึงวัฒนธรรมซับคัลเจอร์ Bosozoku หรือ แก๊งซิ่งของญี่ปุ่น ที่ถือกำเนิดขึ้นช่วงยุค 50 ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรม Greaser ของวัยรุ่นอเมริกันในช่วงนั้น และ หนังตะวันตกจำนวนหนึ่ง ก่อนที่ซับคัลเจอร์ดังกล่าว จะมีช่วงเวลาที่รุ่งเรืองสุดขีดในช่วงยุค 80-90 ซึ่งสร้างปัญหาให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้คนใช้รถใช้ถนน เป็นอย่างมาก แน่นอนว่า บรรดาสมาชิกแก๊งซิ่ง ซึ่งล้วนเป็นเยาวชนอายุไม่ถึง 20 ปี จำนวนหนึ่ง ได้เปลี่ยนเวย์วิถีชีวิต ถลำเข้าสู่ด้านมืด ด้วยการก่ออาชญากรรม หรือไม่ก็ ตั้งตนเป็นแก๊งยากูซ่าซะเอง อย่างไรก็ตาม หลังจากยุค 90 สมาชิกแก๊งซิ่งของญี่ปุ่นก็มีจำนวนที่ลดลง จากที่เคยมีจำนวนสูงสุดถึง 42,510 คน เมื่อปี 1982 เหลือเพียง 6,771 คน เมื่อปี 2015
และจากการมาของ Bosozoku นี่เอง ทำให้ 'แยงกี้' (Yankii , Yankee) ศัพท์แสลงที่สื่อถึงบรรดาเด็กโจ๋ , เด็กนักเรียนเกเร ในญี่ปุ่น ก็ได้อุบัติขึ้น ในช่วงปลายยุค 70 ด้วยเช่นกัน
และจากความที่พวกแก๊งซิ่ง แล้วก็พวก แยงกี้ มีช่วงเวลารุ่งเรืองในช่วงช่วงยุค 80-90 ก็ทำให้มังงะแนวแยงกี้ถือกำเนิดมากขึ้นหลากหลายเรื่อง ในช่วงเวลาดังกล่าว นับตั้งแต่ ขุนพลประจัญบาน , BLUES แล้วก็ Crow เรียกเขาว่า อีกา แล้วก็ซึ่งถือเป็นซีรี่ย์มังงะที่บุกเบิกแนวแยงก๊้ ให้เป็นที่รู้จักของนักอ่านในวงกว้าง ก่อนที่จะมีมังงะแนวเดียวกันตามมาอีกหลายเรื่อง จนกระทั่ง มังงะแนวนี้ค่อยๆเสื่อมความนิยม ในช่วงยุค 2000 เป็นต้นมา ก่อนที่ก๊วนโตมัน แห่ง Tokyo Revengers จะมาสร้างความปังไปทั่ว ซะจนทำให้มังงะแนวนี้ กลับมาเป็นที่สนใจในหมู่นักอ่านอีกครั้ง
Otoko Ippiki Gaki Daishou
โดย : Hiroshi Motomiya
สำหรับเรื่องนี้ คงเป็นเรื่องที่นักอ่านบ้านเราไม่คุ้น ไม่ค่อยรู้จักกัน ดีไม่ดี เกิดไม่ทันซะด้วยซ้ำไป....แต่ที่เราหยิบยกเรื่องนี้ มาเขียนเป็นเรื่องแรกนั้น ก็มาจากการที่เรื่องนี้ จัดเป็นมังงะเรื่องแรกๆ ที่บุกเบิกแนวแยงกี้ ยลโฉมสู่สายตานักอ่านญี่ปุ่น เมื่อปี 1968 รวมถึงยังเป็นมังงะซีรี่ย์เรื่องแรกๆ ที่ได้ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Shonen Jump ที่เพิ่งจะถือกำเนิดขึ้นในช่วงเวลานั้น เช่นกัน
....แน่นอนว่า เรื่องนี้จะนำเสนอสังคมของเหล่าเด็กเกในยุคสมัยแห่งการตั้งตัว กับเรื่องราวของคู่หู ม.ต้น Mankichi Togawa กับ Ginji ตาเดียว ที่มาจับคู่กันต่อสู้ เพื่อเป้าหมายการเป็นแก๊งอันดับ 1 ของญี่ปุ่น
Sakigake!! Otokojuku
ขุนพลประจัญบาน , โรงเรียนลูกผู้ชาย
โดย : Akira Miyashita
มาถึง การ์ตูนแนวนักเรียนนักเลง ที่ถือว่าโด่งดังสุดขีดในช่วงยุค 80 ซึ่งก็เข้ากับยุคสมัยที่กลุ่มเด็กโจ๋กำลังอินเทรนด์ในญี่ปุ่น ช่วงเวลาดังกล่าว ไม่เพียงจะโด่งดังแค่ฝั่งญี่ปุ่น เท่านั้น เรื่องนี้ก็ยังได้รับความนิยมในบ้านเรา ในช่วงสมัยมังงะไพเรท หรือ มังงะ ละเมิดลิขสิทธิ์ กำลังครองตลาด ซึ่งมีชื่อไทยอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้ง ขุนพลประจัญบาน , โรงเรียนนายร้อยเดนตาย แล้วก็ โรงเรียนลูกผู้ชาย ชื่อในสมัยที่เรื่องนี้มีลิขสิทธิ์ (LC) อย่างเป็นทางการ โดยค่าย สยามอินเตอร์ฯ (ก่อนจะกลับไปใช้ชื่อ ขุนพลประจัญบาน อีกครั้ง กับ มังงะภาคหลังๆของเรื่องนี้ ที่ค่ายบูรพัฒน์ ไปคว้า LC มา)
เรื่องนี้ ก็นำเสนอเรื่องราวที่เกิดขึ้น ณ โรงเรียน "ลูกผู้ชาย" ที่เป็นศูนย์รวมของเหล่าเด็กเกเรที่ถูกไล่ออกจากโรงเรียนปกติ ซึ่งโรงเรียนแห่งนี้ จัดตั้งขึ้นมาโดย Edajima Heihachi ผอ.โรงเรียน ผู้ขยันประกาศชื่อตัวเองทุกตอน พร้อมหลักสูตรกระบี่ กระบอง การทหาร รวมถึงหลักสูตรสุดขี้โม้อื่นๆ ที่ทำให้เด็กโรงเรียนนี้มีความเข้มแข็ง ฮึกเฮิม ออกไปเป็นเจ้าคนนายคน แต่ก็ต้องแลกกับ การสอนและการลงโทษสุดโหดจากเหล่าคณะครู
ถึงกระนั้น เรื่องนี้มีไฮไลต์เด่นสำคัญตรงที่ Tsurugi Momotaro นักเรียนผู้ซึ่งไม่เกรงกลัวต่อการบูลลี่ของเหล่าครูอาจารย์ จนกลายเป็นไอด้อลของเหล่าเด็กโฉดหน้าลุง ณ โรงเรียนแห่งนี้ ซึ่ง Momotaro ผู้นี้ ยังได้เป็นผู้นำโรงเรียนในการต่อกรกับโรงเรียนคู่แข่ง เช่นกัน
หลังจากจบไป 2 ภาคแรก ทั้งภาค Momotaro และ ภาครุ่นลูกของ Momotaro (มี LC ในไทย โดย SIC) อ.Miyashita ยังคงแต่งเติมเสริมเรื่องราวขยับขยายจักรวาล โรงเรียนลูกผู้ชาย ให้ใหญ่มากขึ้น กับมังงะ Spin-Off สารพัดภาค (ซึ่งล้วนมี LC ในบ้านเรา โดย บูรพัฒน์ )
Rokudenashi Blues
จอมเก BLUES
โดย : Masanori Morita
จัดเป็นการ์ตูนแนวนักเรียนนักเลงเรื่องดังในตำนานของ Shonen Jump ที่โด่งดังควบคู่กับ ขุนพลประจัญบาน ในช่วงปลายยุค 80 จนถึง ต้นยุค 90 และถือเป็นผลงานมังงะที่แจ้งเกิดและสร้างชื่อเสียงให้แก่ อ.Masanori Morita เป็นอย่างมาก
และการมาของเรื่องนี้ ทำให้นักอ่านหลายคน ต่างจดจำกันได้ดี ไปกับวีรกรรมความซ่าของ "มาเอดะ ไทซน" และ แก๊งจตุราชา ทั้ง 4
แม้ธีมหลักของมังงะเรื่องนี้ จะเน้นนำเสนอการไฝว้กันของเหล่าวัยรุ่นเป็นหลัก แต่เรื่องนี้ก็มิวายที่จะแทรกธีมเรื่องแนวอื่นๆ มาผสมปนเปกัน ให้ผู้อ่านรู้สึกหลากหลายขึ้น ทั้งกีฬาชกมวย เอย หรือ slice of life แบบตลกๆ เอย บลาๆๆ ..... กับเรื่องราวของ ไทซน เด็กเก๋าโจ๋แห่งโรงเรียน ม.ปลาย เทย์เคน ผู้มีความฝันอยากเป็นแชมเปี้ยนมวย แต่หนทางการเป็นยอดนักมวยของเขา ยังคงห่างไกล จากการที่่เขาและผองเพื่อน ต้องคอยทำศึกยกพวกไปไฝว้ ไปบวกกับ เหล่านักเรียนนักเลงจากรร.คู่อริกัน ตลอดทั้งเรื่อง
หลังจาก BLUES จบลงไปเมื่อปี 1997 อ. Morita ยังคงแฝงกลิ่นอายอารมณ์เด็กโจ๋ ปลุกอารมณ์เดือดพล่านของเหล่าวัยรุ่นลูกผู้ชาย กับ Rookies มังงะแนวเบสบอล ซึ่งเป็นผลงานมังงะเรื่องต่อมา ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงของเขา ด้วยเช่นกัน
Kyō Kara Ore Wa!! คู่ซ่าฮาคูณสอง
โดย : Hiroyuki Nishimori
จัดเป็นผลงานมังงะเด็กโจ๋เรื่องหนึ่งที่โด่งดังมากในญี่ปุ่น ในช่วงปลายยุค 80 - ต้น 90 โดยมีจุดเด่นตรงที่การนำเสนอมุกตลกได้ฮาสะเด็ด พอๆกับ ฉากลุยไฝว้กัน ของคู่หู Takashi Mitsuhashi กับ Shinji Itō ซึ่งทั้งคู่ได้แต่เหล่มองกันที่ร้านทำผม ก่อนที่ทั้งคู่จะมารู้จักและจับคู่กัน จนกลายเป็นคู่หูนักเลงสุดอันตรายของญี่ปุ่น.....ซึ่งเรื่องนี้ เพิ่งจะมีเวอร์ชั่นหนังคนแสดง เข้าโรง เมื่อปี 2020
หลังจากมังงะเรื่องนี้จบลง อ.Nishimori ยังคงสร้างสรรค์ผลงานมังงะเรื่องอื่นๆ ที่ยังคงแฝงธีมแยงกี้ นักเรียนนักเลง เอาไว้ แทบจะทุกเรื่อง
Crows / เรียกเขาว่า อีกา
โดย : Hiroshi Takahashi
มาถึงมังงะแนวนักเลงมัธยมที่โด่งดังอย่างสุดขีด ในช่วงยุค 90 จัดเป็นมังงะซีรี่ย์แม่เหล็ก และเป็นเดอะแบกให้กับ นิตยสาร Shonen Champion เสมอมา จนถึงปัจจุบัน.... ไม่เพียงเท่านั้น เรื่องนี้ ยังได้สร้างแรงบันดาลใจให้แก่มังงะนักเรียนนักเลงเรื่องอื่นๆ ที่ตีพิมพ์ลงใน Champion ด้วย
แม้ว่าปัจจุบัน ภาคหลักของมังงะเรื่องนี้จะจบลงไปแล้ว แต่ อ.Takahashi ยังคงสรรสร้างแต่งเติมจักรวาลเด็กเกแห่ง Suzuran ให้กว้างใหญ่ไพศาลอีก กับ มังงะสปินออฟสารพัดภาค ที่ยังคงมีการเขียนอยู่ทุกวันนี้ ไม่เพียงเท่านั้น ในจักรวาลอีกา ยังรวมถึง มังงะซีรี่ย์อื่นๆของ อ.ท่านนี้ ทั้ง ข้าชื่อ QP แล้วก็ Worst ที่ได้ใช้ตัวละคร กับ สถานที่เดียวกัน แถมยังคอยมาตีข้ามเรื่องกัน ให้คนอ่านฟินอยู่เนืองๆ
จุดเริ่มต้นของตำนานอีกา มาจากการที่ Harumichi Bōya ได้ย้ายเข้ามาเรียน ปี 2 ที่ Suzuran โรงเรียนที่มีสภาพพพ...ไม่เหมือนโรงเรียน จากการที่โรงเรียนแห่งนี้เป็นศูนย์รวมของเหล่าเด็กเก และได้รับขนานนามว่า 'อีกา' อันเนื่องมาจากชุดเครื่องแบบโรงเรียนที่เป็นสีดำล้วน รวมไปถึง บรรยากาศรอบๆโรงเรียนยังดูไม่น่าอภิรมย์ ออกจะไม่เป็นมงคลเอาซะด้วย นำไปสู่เรื่องราวของ Bōya และผองเพื่อน ในการต่อสู้เพื่อก้าวสู่ตำแหน่งสูงสุดของ Suzuran รวมถึง สยบบรรดาแก๊งอริต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับ Housen ซึ่งเป็นศัตรูคู่อาฆาตตลอดกาลของพวกเขา เพื่อขึ้นสู่แก๊งนักเลงอันดับ 1 ทั้งปวง
ข้าชื่อ QP
โดย : Hiroshi Takahashi
ผลงานการ์ตูนซีรี่ย์แนวนักเลงเรื่องถัดจาก อีกา ของ อ.Takahashi ที่ยังคงมีเซ็ตติ้งเดียวกันกับ อีกา .... นำเสนอเรื่องราวของ QP ผู้ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรใดๆ กับ มายองเนส น้ำสลัด แบรนด์หนึ่ง แต่เป็นฉายาของชายหนุ่มนาม Ishida Kotori ผู้ซึ่งตัดสินใจกลับบ้านเกิดอีกครั้ง และ พยายามจะใช้ชีวิตหลีกหนีความรุนแรงที่เขาเคยก่อไว้เมื่อครั้งอดีต แต่จากการที่เขาเคยสร้างวีรกรรมความน่ากลัวให้ใครต่อใครไปทั่ว (ไม่เว้นแม้แต่หน้าตาตัวเอง) ก็ทำให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับความรุนแรงเข้าจนได้ โดยเฉพาะกับ Azuma Ryou อดีตเพื่อนร่วมชั้น ที่กลายเป็นสมาชิกแก๊ง มีแผนการต่างๆ ที่ส่งผลต่ออนาคตของ QP
Worst
โดย : Hiroshi Takahashi
ซีรี่ย์นักเลง ที่ยังคงมีความเกี่ยวเนื่องกับ อีกา ที่ตีพิมพ์ขึ้น ช่วงปี 2001 และมีการขยายเรื่องราว ผ่านซีรี่ย์ภาคแยกต่างๆมากมาย.....นำเสนอเรื่องราวของ Hana Tsukishima ไอ้หนุ่มบ้านนอก ที่ย้ายมาอาศัยอยู่เมืองใหญ่ และจากการที่เขามีความแข็งแกร่งและต่อสู้เก่ง นำไปสู่เป้าหมายสำคัญ นั่นคือ การขึ้นไปเป็นตัวท็อปของ รร. Suzuran โดยเขาได้รับความช่วยเหลือจากพวกพ้องมากมาย ในการฝ่าฟันกับเหล่าแก๊งคู่อริ
สำหรับมังงะเรื่องนี้ เป็นเรื่องหนึ่งที่ติดมหากาพย์การดองเค็มจากสนพ.ต้นสังกัดในบ้านเรามาหลายปี อันเนื่องมาจากปัญหาไม่ลงรอยกันระหว่าง สนพ.ต้นสังกัด ของญี่ปุ่น และ บ้านเรา ก่อนที่จะมาเคลียร์ใจกันได้เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ มังงะเรื่องนี้ออกวางตลาดในบ้านเรา จนถึง เล่มจบ ในที่สุด
Shonan Junai Gumi คู่คนลุยเลอะ
โดย : Tohru Fujisawa
ซีรี่ย์ปฐมบทแห่งจักรวาล GTO (Great Teacher Onizuka) ของคุณครูขวัญใจวัยโจ๋ Onizuka ได้เริ่มต้นขึ้น กับ เรื่องนี้.....ซึ่งก็เป็นการเล่าเรื่องราวย้อนวัย สมัย Eikichi Onizuka ยังเป็นนักเลงเด็กแว้นผู้ยิ่งใหญ่แห่งย่าน Shonan โดยเขาได้จับคู่กับ Ryuji Danma เพื่อนซี้ของเขา ในการตะลุยกับแก๊งนักเลงคู่อริ อย่างไม่กลัวเกรง จนกลายเป็นวีรกรรมที่บรรดาใครต่อใคร ไม่กล้าหือไปกับ คู่หู Oni-Baku คู่นี้
ก่อนที่ทั้งคู่จะลามือจากการเป็นนักเลง เพื่อไปต่อกับสายทางอาชีพของพวกเขา กับ ซีรี่ย์ GTO สารพัดภาค ซึ่ง Onizuka ได้ตัดสินใจไปเป็นครูคอยกำราบแก้ปัญหาลูกศิษย์เจ้าปัญหามานักต่อนัก ส่วน Ryuji ก็ยังมีบทบาทในซีรี่ย์ GTO ในฐานะช่างซ่อมมอเตอร์ไซต์ และ เพื่อนซี้ผู้คอยปรับทุกข์แก่ Onizuka (แต่มักถูก Onizuka สร้างปัญหาแทบจะทุกครั้ง)
หลังจากคู่คนลุยเลอะ ตีพิมพ์มาซักพัก อ.Fujisawa ได้เขียนมังงะเรื่อง Bad Company ที่นำเสนอเรื่องราวการพบกันครั้งแรกของคู่หู Oni-Baku ในสมัย ม.ต้น (หากเรียงจากไทม์ไลน์เนื้อเรื่อง Bad Company จะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อน คู่คนลุยเลอะ)
Chameleon ตูมันเตี้ย
โดย : Atsushi Kase
มังงะแยงกี้เรื่องดังช่วงต้นยุค 90 ที่ใครต่อใครอาจลืมเลือนกันไปแล้ว โดยมีชื่อที่รู้จักในหมู่นักอ่านบ้านเราคือ "ตูมันเตี้ย" เป็นมังงะนักเลงสายฮา ที่นำเสนอเรื่องราวของ Eisaku Yazawa ผู้มีความฝันอยากเป็นสมาชิกแก๊งซิ่ง แต่ติดที่ว่ารูปร่างเขานั้น เตี้ยม่อต้อ สมชื่อเรื่อง ซะจนถูกใครต่อใครดูถูก ถึงกระนั้น Yazawa ผู้นี้ก็ไม่ยอมแพ้ และพยายามพิสูจน์ตัวเองว่ามีดีพอที่จะเป็นสุดยอดนักเลง ชนิดลบคำสบประมาทของคนอื่นได้
โดยเรื่องนี้เคยถูกสร้างเป็น OVA จำนวน 6 ชุด และ หนังคนแสดงเมื่อปี 1996 .... แต่น่าเสียดายที่นักอ่านบ้านเรา ไม่ได้สัมผัสเรื่องนี้ครบ 47 เล่มจบ ตามต้นฉบับญี่ปุ่น เพราะ ถูกสนพ.บ้านเรา ลอยแพไปซะก่อน
อย่างไรก็ตาม มังงะเรื่องนี้ ยังมีการเขียนภาคต่อ กับ Chameleon Seven Years After และ Kuro Ageha ตามมา
Hareluya II Boy
โดย : Haruto Umezawa
จัดเป็นหนึ่งในมังงะซีรี่ย์แนวแยงกี้ ที่ได้แจ้งเกิดในช่วงยุค 90 แถมเป็นหนึ่งในมังงะซีรี่ย์รุ่นแรกที่ได้ลงตีพิมพ์ในนิตยสาร BOOM บ้านเรา และได้รับความนิยมในหมู่ผู้อ่านในช่วงเวลานั้น ที่ใครต่อใครต่างจดจำวีรกรรมสุดบ้าบิ่น บ้าระห่ำของ Hibino Hareluya ตัวเอกของเรื่อง ที่มาพร้อมกับคำพูดประจำตัว "ตูข้าจะครองโลก"
นำเสนอเรื่องราวของ Hibino หนุ่มขาลุยผู้พกพาไม้เบสบอล พร้อมที่จะหวด จะบวกกับชาวบ้านชาวช่องทุกเมื่อ ซึ่งที่เขาทำไปนั้น ก็เพื่อช่วยเหลือผู้คนที่อ่อนแอ ให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของเหล่าอันธพาล อีกทั้ง ยังคอยมีเพื่อนพ้องอีก 3 คน คอยสนับสนุนเขาอยู่ตลอด
Angel Densetsu
เทวดาหน้าโฉด
โดย : Norihiro Yagi
ผลงานมังงะแจ้งเกิดของ อ.Norihiro Yagi ผู้สร้างตำนานการต่อสู้ของอัศวินสาว Claymore ที่ใครต่อใครได้ประจักษ์ โดยผลงานดังกล่าว เป็นมังงะเด็กโจ๋สายฮา ที่เล่าเรื่องราวของ Seiichirō Kitano หนุ่มสุดซื่อบริสุทธิ์ แต่มีหน้าตาและบุคลิกที่ชวนคนอื่นหวาดกลัว ซะจนนำพาตัวเองเข้าสู่วังวนวิถีของเด็กเกเร ตลอดทั้งเรื่อง .... ซึ่งเรื่องนี้เคยถูกสร้างเป็น OVA โดย Toei Animation เมื่อปี 1996
Gokusen ครูสาวยากูซ่า
โดย : Kozueko Morimoto
มังงะแนวแยงกี้ ที่หากจะว่ากันจริงๆ บ้านเรารู้จักเรื่องนี้ ในรูปแบบละครซีรี่ย์คนแสดงมากกว่า .... โดยนำเสนอผ่านตัวละครสาว Yamaguchi Kumiko สาวผู้สืบทอดหัวหน้าแก๊งยากูซ่า แต่เธอรักที่จะเป็นครูมากกว่า โดยเธอได้รับการว่าจ้างเป็นครูสอนคณิตศาสตร์ ให้กับ รร.ชายล้วน และเธอนั้น ได้กลายเป็นครูประจำชั้นห้อง 3D ซึ่งเป็นห้องศูนย์รวมนักเรียนเจ้าปัญหา พร้อมที่จะไฝว้ได้ทุกเมื่อ โดย อ.Yankumi จะต้องใช้ทุกวิถีทางในการทำให้บรรดาลูกศิษย์สุดโฉดทั้งหลาย ต้องยอมสยม พร้อมกับปกปิดตัวตนที่แท้จริงของเธอ
Nanba MG5
โดย : Toshio Ozawa
ซีรี่ย์เด็กโจ๋สองบุคลิก ที่จะนำเสนอเรื่องราวของ Nanba Tsuyoshi ชายหนุ่มผู้โตมากับครอบครัวนักเลง แต่เขาเลือกที่จะใช้ชีวิตเป็นเด็กม.ปลายธรรมดาๆ มากกว่า ด้วยการตัดสินใจเข้าเรียนโรงเรียนม.ปลายระดับท็อปของเมือง แต่ถึงกระนั้น ในยามที่พวกพ้องกำลังตกที่นั่งลำบาก เขาได้แปลงโฉมตัวเอง ให้กลายเป็น นักเลงผู้แข็งแกร่งที่สุดประจำเมือง ภายใต้สมญา Nanba MG5.......
โดยเรื่องนี้ มีการเขียนภาคต่อกับ Nanba Dead End ซึ่งนำเสนอเรื่องราวที่ทวีความวุ่นยิ่งกว่าเก่า จากการที่น้องสาวของ Nanba ดันย้ายมาเรียนม.ปลายที่เดียวกับเขา!! .... ซึ่งล่าสุด มังงะทั้งสองภาคของเรื่องนี้ ได้ถูกนำไปดัดแปลงเป็นละครซีรี่ย์คนแสดง
Drop คนดิบ
โดย : Hiroshi Shinagawa
มาถึงซีรี่ย์แยงกี้สายเบียว ที่นำเสนอเรื่องราวของ Hiroshi Shinanogawa ชายหนุ่มวัยรุ่นผู้ชื่นชอบมังงะแนวนักเรียนนักเลงมากซะจน ตัดสินใจลาออกจากโรงเรียนเอกชนดัง เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ ในฐานะ เด็กโจ๋ สังกัดแก๊งที่คุมโรงเรียน Komae Kita โดยเขาได้ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับ Iguchi Tatsuya หัวหน้าแก๊ง ซึ่งเป็นบุคคลในอุดมคติที่เขาต้องการจะเป็น
ต่อมาเรื่องนี้ มีการเขียนมังงะภาคต่อ กับ Drop OG และ ภาคสปินออฟ ชุด Chikin - "Drop" Zenya no Monogatari
Clover เพื่อนรักขาลุย
โดย : Hirakawa Tetsuhiro
มองปกผ่านๆ นึกว่า เป็นซีรี่ย์เดียวกันกับ Drop....แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ ซึ่งก็มีความดิบเถื่อนไม่แพ้กัน
Misaki Hayato ได้ย้ายกลับมาบ้านเกิด และเข้าเรียนโรงเรียน ม.ปลาย รร.เดียวกันกับเพื่อนสมัยเด็กของเขา 2 คน ทว่า เพื่อนสมัยเด็กของเขาก็ดูจะห่างเหินเกินไป แต่ในขณะเดียวกัน จากการที่บ้านเกิดของเขานั้น มีประชากรนักเลงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เขาจึงตัดสินใจรวมพลังกับเพื่อนรักทั้งสอง ในการต่อสู้กับบรรดาอริที่อยู่รายล้อมเหล่านี้
Zerosen ครูซ่าขาต๊อง
โดย : Atsushi Kase
มังงะกลิ่นอายนักเลง จากผู้แต่ง ตูมันเตี้ย ตามที่เราได้นำเสนอไปแล้วข้างต้น แต่สำหรับเรื่องนี้ ก็มาแนวคล้ายๆกับ Gokusen ที่จะเน้นโฟกัสไปที่ตัวเอกคุณครูมากกว่า กับเรื่องราวของนายทหารหลงยุคสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 นามว่า Asahi Toshizou ที่ได้รับการช่วยเหลือให้ออกจากผลึกน้ำแข็งที่ฝังร่างของเขามานานนับ 60 กว่าปี หลังพ้นจากสภาพจำศีล Toshizou ได้สัมผัสกับชีวิตของญี่ปุ่นยุคสมัยใหม่ และรู้สึกผิดหวังกับเด็กรุ่นใหม่ที่เอาแต่หย่อนยาน ผิดจากทหารกล้าอย่างเขา ซะจนทำให้เขาตัดสินใจไปเป็นครูสอนบรรดาเด็กโจ๋ เพื่อดัดสันดานเด็กเหล่านี้ให้รู้จักกับวินัย
Beelzebub เด็กพันธุ์นรกสั่งลุย
โดย : Ryuhei Tamura
มังงะแอ็คชั่นสไตล์เด็กโจ๋ แยงกี้ โหดเฮ้วฮา ที่เว่อร์สะเด็ดตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง นำเสนอเรื่องราวของ Oga หนุ่มโจ๋ผู้แข็งแกร่งสุดในเมือง ที่ได้พบเจอกับ Beelzebub หรือ หนูเบล ทารกน้อยผู้เป็นทายาทปีศาจ ซึ่งก็ทำเอา Oga ไม่สามารถอยู่ห่างตัวจากเด็กคนนี้ได้ มีเพียงแต่ต้องร่วมด้วยช่วยต่อสู้กันระหว่าง เขา กับ หนูเบล จนได้พลัง-ความสามารถพิเศษ ที่สามารถสยบกับบรรดาแก๊งอริ และ จอมมารนรก มานักต่อนัก.....
แต่จากการที่เรื่องนี้นำเสนอให้ Oga เทพจ๋าอยู่คนเดียว ซะจน ตัวละครรอบกายเขาเป็นเพียงตัวประกอบ ไม่ก็ เป็นตัวนอนให้พระเอกแสดงความเทพ ตลอดเรื่อง ประกอบกับการนำเสนอที่ Go so Big ชนิดที่ผูกเรื่องได้ไม่ดี ซะจนทำเอาเรตติ้งของเรื่องนี้ในนิตยสาร Shonen Jump ออกมาไม่ดีนัก ในช่วงท้ายๆเรื่อง
A-bout! เก๋าเกรดเอ
โดย : Masa Ichikawa
เรื่องราวเริ่มต้น ณ โรงเรียนม.ปลาย Mitsumine ซึ่งเป็นศูนย์รวมของเหล่าวัยรุ่นนักเลงขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ซะจนทำเอาบรรดาครูต่างเกรงกลัวไปตามๆกัน แต่จากการเข้ามาย่างกรายที่รร.แห่งนี้ของ Asagiri Shinnosuke ก็ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไป โดยเขาผู้นี้ ได้ล้มบรรดาเด็กเกตัวเอ้ของรร.ทีล่ะคนๆ และมีเป้าหมายที่จะเป็นที่ 1 ของโรงเรียนแห่งนี้
Tokyo Revengers
โดย : Ken Wakui
มาถึง ซีรี่ย์การ์ตูนนักเลงเก๋าโจ๋ ที่โด่งดังที่สุดแห่งยุคสมัยใหม่ ในช่วงปี 2020 เป็นต้นมา และจากความดังของเรื่องนี้ ก็ช่วยให้มังงะแนวนักเรียนนักเลง กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง หลังจากเงียบหายไปนาน โดยเรื่องนี้ นอกจากจะมีจุดเด่นในแง่การนำเอาเรื่องราวการย้อนมิติเวลามานำเสนอแล้ว ก็ยังมีเสน่ห์หลักๆ ตรงที่การออกแบบตัวละครในเรื่อง ที่ออกมา หล่อ เท่ห์ ดูดี ซะจนทำเอาสาวๆพากันลุ่มหลง ชวนจิ้นมากมาย และยังส่งผลทำให้เรื่องนี้กลายเป็นมังงะแนวเด็กโจ๋ที่กวาดรายได้จาก merch หรือ สินค้าที่ระลึก เป็นจำนวนมาก ซึ่งไม่เคยเห็นมังงะแนวเดียวกัน ที่จะขายของได้มากมายถึงเพียงนี้
กับเรื่องราวของ Takemichi ชายหนุ่มวัย 26 ปี ผู้ทราบข่าวการเสียชีวิตของ Hinata แฟนเก่าของเขาเมื่อตอนม.ต้น ที่ถูกฆาตกรรมโดยแก๊งอาชญากรรม Tokyo Manji Kai (Toman) ทำเอาเขารู้สึกเศร้า จนตัดสินใจปลิดชีพตัวเอง ทว่า เขาฟื้นขึ้นมาอีกที พบว่า ตนได้ย้อนเวลาไปเมื่อ 12 ปีที่แล้ว สมัยที่ตัวเขายังเป็นนักเรียนนักเลงเก๋าโจ๋ระดับปลายแถว และในช่วงเวลาดังกล่าว Takemichi นอกจากจะได้เจอกับ Hina ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่แล้วนั้น เขายังได้พบเจอและผูกมิตรกับ Mikey และ Draken สองสมาชิกหัวแถวของ Toman ซึ่งในตอนนั้นยังเป็นเพียงแก๊งนักเลงที่มีคอนเซ็ปต์ต่างจากที่เขารับรู้มาจากอนาคต..... และด้วยเหตุนี้ เขาจึงใช้โอกาสนี้ในการเปลี่ยนแปลงอดีต เพื่อเปลี่ยนชะตาชีวิตของ Hina และ พวกพ้องที่รักยิ่งของเขา
แต่ถึงกระนั้น ตัว Takemichi เอง ก็ถูกบรรดาคนอ่านวิพากษ์วิจารณ์ ในแง่ของความเป็นพระเอกสุดอ่อนด๋อย ขี้แย สู้กับใครไม่เป็น เป็นเพียงแค่ตัวแท้งก์ กระสอบทรายเคลื่อนที่ เท่านั้น ...แต่จากการที่เขายึดคติไม่ยอมแพ้ มีจิตใจที่ยิ่งใหญ่เกินตัว ในการปกป้องพวกพ้อง ก็ทำให้เขานั้นได้ใจสมาชิกของ Toman ไปตามๆกัน
และจากการที่เรื่องนี้ถูกสร้างเป็นอนิเมทีวี และ หนังคนแสดง ก็ทำให้เรื่องนี้ได้รับความสนใจเป็นวงกว้าง ซะจนช่วยบูสต์ยอดตีพิมพ์ฉบับรวมเล่ม จาก 10 ล้านเล่ม เมื่อ เม.ย. 2021 สู่ 50 ล้านเล่ม เมื่อ ม.ค. 2022
Yankee-kun to Megane-chan
นายโจ๋ตัวร้าย กับ ยัยแว่นแอ๊บใส
โดย : Miki Yoshikawa
มังงะแนวรอมคอมแจ้งเกิดของ อ.Yoshikawa ที่มีความไฮบริดกันระหว่างธีม นักเรียนไฮสคูลธรรมดา กับ เด็กโจ๋แยงกี้ แต่จะหนักไปทางการใช้ชีวิตของนักเรียนม.ปลายธรรมดาๆมากกว่า กับเรื่องราวของ Shinagawa หนุ่มโจ๋เกเร ไม่ตั้งใจเรียน ซะจนทำเอา Adachi สาวแว่นจอมเป๋อ ท่าทางเนิร์ดๆ ต้องตามมาประกบเขา เพื่อทำให้เขาตั้งใจเรียนมากขึ้น และแล้วเรื่องราวก็ดำเนินต่อไป โดยที่ หนุ่มโจ๋-สาวแว่น และแก๊งเพื่อนซี้ของเขา สามารถยึดพื้นที่สภานักเรียนของโรงเรียนได้ ไปพร้อมกับเฉลยแบ็คกราวด์ที่แท้จริงของคู่พระนาง ที่อดีตนั้น ดันสวนทางกัน กล่าวคือ Shinagawa เคยเป็นเด็กเรียนมาก่อน ส่วน Adachi เคยอยู่สายเด็กโจ๋มาก่อน
แล้วก็อย่างที่บอก จากการที่เรื่องนี้ผสมผสานแนวแยงกี้เข้าไปด้วย แน่นอนว่า เรื่องนี้จะมีซีนบู๊กับเหล่าเด็กเก ออกมาอยู่เนืองๆด้วย!!
Sakigake Cromartie Koukou
คุโรมาตี้ โรงเรียนคนบวม
โดย : Eiji Nonaka
ส่วนเรื่องนี้ ขอเก็บเอาไว้เขียนเป็นเรื่องสุดท้ายของลิสต์ สำหรับ คุโรมาตี้ ซีรี่ย์มังงะที่ดูผิวเผินจะเป็นแนววัยรุ่นเลือดร้อนตีกันอย่างเร่าร้อน แต่พอเปิดอ่านจริงๆ ก็ทำเอาคนอ่านพากันอิหยังวะไปตามๆกัน กับเรื่องราวของ Kamiyama ชายหนุ่มผู้ตัดสินใจเลือกเข้าเรียน โรงเรียนคุโรมาตี้ โรงเรียนที่เป็นศูนย์รวมของเหล่าเด็กเกเร เพื่อหวังที่จะเปลี่ยนคนในโรงเรียน ให้ไปในทิศทางที่ถูกที่ควร...แต่เอาเข้าจริง ความฝันความตั้งใจของ Kamiyama ดูจะห่างไกลไปเรื่อยๆ จากการที่พบเจอเรื่องราวอันชวนเหวอ คาดไม่ถึง ประกอบกับ เหล่านักเรียนย้ายเข้าใหม่ ซึ่งล้วนไม่ธรรมดา(จริงๆ) ที่ทำเอาพี่แกเนียนบ้าไปตามเค้าด้วย!!!!!
อย่างที่บอกไว้ข้างต้น มังงะที่ดูเหมือนจะเป็นแนวเด็กโจ๋ตีกันเรื่องนี้ แท้จริงแล้วกลับกลายเป็นมังงะแก๊กหน้าตาย ท่าทางซีเรียส ที่จะได้เห็นบรรดาตัวละครมาถกประเด็นสุดไร้สาระ ที่แสดงสีหน้ากันอย่างจริงจังสุดๆ ซึ่งก็ทำเอาคนอ่านบางส่วนพากันขำก๊ากไปกับมุกและการนำเสนอ ไปพร้อมกับนักอ่านอีกส่วนหนึ่ง ได้แต่ก่ายหน้าผากกับมุกสุดกริบของเรื่องนี้ เช่นกัน และมุกตลกที่มีการนำเสนอในเรื่อง ได้กลายเป็นมีมล้อไปทั่วเว็บบอร์ด อินเตอร์เน็ต ในหมู่แฟนๆบ้านเรา ในเวลาต่อมา
โดยมังงะเรื่องนี้ มีการเขียนต่อภาคสอง ที่มีการเปลี่ยนตัวเอกของเรื่อง ไปเป็นคุณครู แทน
อนึ่ง ชื่อโรงเรียนที่ปรากฏในเรื่องนี้ ต่างมาจากชื่อนักเบสบอลชาวต่างชาติที่เคยมาเล่นอาชีพที่ญี่ปุ่น ซึ่งครั้งหนึ่ง Warren Cromartie อดีตนักเบสบอลอาชีพชาวอเมริกัน เคยฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้สร้างฉบับหนังคนแสดงของเรื่องนี้ โทษฐานทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียง จากการที่นามสกุลของเขา ไปตรงกับชื่อเรื่องนี้พอดี
สำนักข่าว K-D News (kartoon-discovery.com)
สามารถอัพเดทข่าวสารเว็บเราได้ผ่าน Twitter และ Facebook
หากนำข่าวจากเราไปเผยแพร่ที่อื่น รบกวนใส่เครดิตให้กับทางเราด้วยครับ ขอบคุณครับ