นิยามศัพท์ในบลีช
ลักษณะตัวละคร และ สถานที่
มนุษย์
มนุษย์ปกติธรรมดาที่ดำเนินชีวิตประจำวันเหมือนกันกับโลกแห่งความเป็นจริง ทุกคนจะอาศัยกายหยาบเพื่อการมีชีวิต วิญญาณกับกายหยาบจะเชื่อมต่อกันด้วย "โซ่แห่งผลกรรม" ที่จะติดอยู่ที่ส่วนอกของวิญญาณกับกายหยาบ และถ้ามีมนุษย์คนใดได้รับผลกระทบจากการกระทำของวิญญาณ ก็อาจจะไปกระตุ้นพลังวิญญาณในตัวของเขาจนสามารถมองเห็นวิญญาณได้ หรืออาจจะมีพลังพิเศษจากพลังวิญญาณได้เช่นกัน
วิญญาณ
เมื่อมนุษย์ตาย วิญญาณเหล่านี้ก็จะเร่ร่อนไปตามสถานที่ที่คุ้นเคย ปรากฏให้เห็นเป็นร่างมนุษย์ โดยโซ่แห่งผลกรรมที่หน้าอกจะขาดออกจากกายหยาบ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "พลัส (Plus)" และตราบใดที่ยังไม่มียมทูตมาพิพากษา พวกเขาก็จะวนเวียนไปเรื่อยๆ และวิญญาณเหล่านี้จะมีตัวตนอยู่ในระดับหนึ่งซึ่งในบางครั้งสามารถสัมผัสได้
วิญญาณดัดแปลง
หรือ มอดโซล เป็นวิญญาณสังเคราะห์ขึ้นจากการค้นคว้าทดลองของนักวิทยาศาสตร์โซลโซไซตี้เช่นกัน โดยออกมาในรูปของเม็ดยาเช่นกัน โดยเอาไปไว้ในร่างของมนุษย์ที่เสียชีวิตไปแล้ว เพื่อเป็นกองทหารต่อกรกับเหล่าฮอลโลว์ซึ่งมีมากเกินกว่าที่ยมทูตจะปราบได้หมด ซึ่งมอดโซลที่สิงในร่างมนุษย์นั้นจะมีความแข็งแกร่งมากกว่าคนธรรมดา แต่ต่อมาแผนดังกล่าวก็ถูกล้มเลิก ทำให้มอดโซลจึงถูกทำลายไปจำนวนมาก ซึ่ง กอนก็เป็นหนึ่งในมอดโซลที่รอดพ้นจากการถูกทำลายไปได้
ในฉบับอนิเม มีตัวละครที่เป็นมอดโซลเหมือนกับกอน ได้แก่ ริริน,คุโรโดะ,โนบะ ซึ่งทั้งสามนั้นถูกสร้างขึ้นมาโดย อุราฮาร่า
ฮอลโลว์(Hollow)
วิญญาณที่โซ่กรรมขาดทำให้เกิดการรุกกินจนหน้าอกเป็นรู ในที่สุดก็จะกลายร่างเป็นอสูรกาย ฮอลโลว์ทุกตนจะมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป แต่ทุกตัวจะสวมหน้ากากไว้เพื่อปิดบังใบหน้าของตนแ และส่วนอกที่จะถูกแทนที่ด้วยรูกลวงสัญลักษณ์ของการเสียดวงจิต(เป็นที่มาของชื่อฮอลโลว์) เหล่าฮอลโลว์จะกินวิญญาณธรรมดาและวิญญาณของคนที่มีพลังวิญญาณสูง ซึ่งทำได้แม้แต่การฆ่าคนเพื่อเอาวิญญาณมาดับความหิวกระหาย ไม่ก็ดับความทรมาณของตนเอง โดยเหล่าฮอลโลว์แม้คนธรรมดาจะมองไม่เห็น แต่ก็มีตัวตนสัมผัสได้ โลกที่เหล่าฮอลโล่ว์มารวมกันและอาศัยอยู่คือ "ฮูเอโก้ มุนโด้" ส่วนฮอลโลว์ชั้นสูงจะถูกเรียกว่า "เมนอส" ซึ่งในหมู่เมนอสเองแล้ว ก็สามารถแบ่งได้อีก 3 ประเภทเช่นกัน คือ
กิลเลียน เมนอสที่พวกอิจิโกะเรียกกันว่า "เมนอสกรังเด้" นั้นแท้จริงแล้วคือพวก "กิลเลียน" เป็นเมนอสชั้นต่ำที่สุด ร่างใหญ่ เคลื่อนไหวช้า มีปัญญาราวกับสัตว์ป่าเท่านั้น
แอดจูคาส เมนอสที่มีขนาดเล็กกว่ากิลเลียน มักเป็นผู้นำฝูงของกิลเลียน และมีขนาดเล็กกว่า ฉลาดกว่า
วาสโทรเด้ เมนอสชั้นสูงสุด มีขนาดเท่ากับมนุษย์ มีจำนวนน้อย รวมทั้งหมดในฮูเอโก้ มุนโด้ มีอยู่ไม่กี่ตนเท่านั้น
ยมทูต (Shinigami)
เป็นผู้ปกครองโซลโซไซตี้ ทำหน้าที่ควบคุมปริมาณวิญญาณที่ถ่ายเทระหว่างโลกมนุษย์กับโซลโซไซตี้ อีกทั้งยังทำหน้าที่ ส่งพลัสไปยังโซลโซไซตี้ และการกำจัดฮอลโลว์ ตัวชินิกามิเองนั้นเป็นวิญญาณ ด้วยเหตุนี้คนธรรมดาไม่สามารถมองสัมผัสได้ (เว้นมนุษย์ที่มีประสาทสัมผัสพิเศษ) หากแต่สัมผัสชินิกามิได้ในบางครั้ง ชินิกามิทุกตนมีร่างเป็นมนุษย์ สวมชุดฮากะมะสีดำเป็นเครื่องแบบและมีอาวุธประจำกายเรียกว่า ซัมปาคุโต "ดาบฟันวิญญาณ" สำหรับใช้การต่อสู้ นอกจากนี้ ชินิกามิยังสามารถใช้คิโด "มนต์ดำ", "วิถีมาร" ในการต่อสู้ได้อีกด้วย เเละสำหรับระดับหัวหน้าแล้วยังมีการ"ปลดปล่อยสวัสดิกะ" หรือ บังไค โดยการเรียกชื่อดาบของตน
วิชาการต่อสู้ของยมทูต
- วิชาดาบ (Zanjutsu)
- วิถีมาร (Kidou) แบ่งเป็น
- วิถีพิฆาตหรือวิถีทำลาย (Hadou)
- วิถีผนึก หรือ วิถีพันธนาการ(Bakudou)
- ก้าวพริบตา (Hohou)
- การต่อสู้ด้วยมือเปล่า (Hakuda)
- ชุนโค วิชาที่เอาวิถีมาร กับ การต่อสู้ด้วยมือเปล่ามาผสมกัน เป็นท่าของ โยรุอิจิ กับ ซุยฟง
ควินซี่(Quincy)
ตระกูลนักปราบมารที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วโลก คอยฝึกฝนตัวเองเป็นพิเศษเพื่อให้สามารถต่อสู้กับฮอลโลว์ได้ นอกจากนี้ ควินซี่สามารถดึงอณูวิญญาณรอบๆตัวมาใช้ในการต่อสู้ได้ ซึ่งต่างจากยมทูตที่ดึงเอาพลังวิญญาณของตัวเองมาใช้ในการต่อสู้ เนื่องจากเจตนาของควินชี่ในการกำจัดฮอลโลว์ที่ต่างกันกับเหล่ายมทูต เพราะว่า ควินชี่มุ่งที่จะสังหารฮอลโลว์เท่านั้น ไม่เหมือนกับยมทูตที่ส่งวิญญาณฮอลโลว์ไปสู่โซลโซไซตี้ ทำให้เกิดเหตุการณ์กวาดล้างควินซี่โดยยมทูติ ทำให้ควินซี่ตายไปจนเกือบหมด ปัจจุบันเหลือเพียงแค่ตระกูลอิชิดะเท่านั้นที่ยังคงทำหน้าที่ควินซี่ต่อไป
วิชาการต่อสู้ของควินซี่
- ธนู รวบรวมอณูวิญญาณ แล้วควบแน่นด้วยพลังกดดันวิญญาณ และยิงจู่โจม ออกไปเป็นธนู
- เท้าเหิร คล้ายกับก้าวพริบตาของยมทูต
- Seele Schneider เป็นอุปกรณ์รวบรวมพลังกดดันวิญญาณ เป็น "ลูกศร" ที่มีพลังสูงกว่าลูกศรอณูวิญญาณทั่วไป
-Sprenger การวาดดาวห้าแฉก ใช้การประสานของ ซีเล่ ชไนเดอร์ กับ หลอดเงินทำลายทุกอย่างที่อยู่ในรัศมีของมัน
อารันคาร์(Arrancar)
เหล่าฮอลโล่ว์ที่ถอดหน้ากากและได้รับพลังยมทูต กลายเป็นฮอลโลว์ที่มีทั้งความสามารถของทั้งฮอลโลว์และยมทูต เหล่าอารันคาร์จะมีหน้ากากที่ถอดออกไปส่วนหนึ่งทำให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงในระดับหนึ่ง และจะอยู่ในร่างที่เกือบจะเป็นมนุษย์(แต่จะเป็นร่างมนุษย์แบบสมบูรณ์ถ้าเป็นร่างแปลงของฮอลโลว์ระดับสูง)และยังคงมีรูกลวงตรงกลางอยู่เช่นเดิม เหล่าอารันคาร์จะสวมชุดเสื้อคลุมสีขาว และจะมีดาบฟันวิญญาณเช่นเดียวกับยมทูต การปลดปล่อยดาบของอารันคาร์ คือการกลับคืนสู่ร่างที่แท้จริงและมีพลังเพิ่มขึ้นจากเดิมหลายสิบเท่า
เดิมทีอารันคาร์มีจำนวนน้อยแต่เดิม และเป็นร่างที่ไม่สมบูรณ์ แต่เมื่อได้รับพลังจากโฮเงียวคุของไอเซ็น อารันคาร์จึงพัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด จนถึงระดับสมบูรณ์แบบ
อารันคาร์ที่ถูกคัดเลือก 10 ตน จะถูกเรียกว่า เอสปาด้า ( Espada) เเละจะมีอำนาจปกครอง อารันคาร์ด้วยกันเอง เอสปาด้าเเต่ละตนจะ มีวังอยู่ใน วาสโนเชส ซึ่งเเต่ล่ะวังจะล้อมรอบวังของไอเซ็นเอาไว้ พวกที่ถูกถอดออกจากเอสปาด้าจะกลายเป็น พีวารอน เอสปาด้า (เอสปาด้าตกชั้น) ที่จะอยู่ในกำเเพงด้านนอกของวาสโนเชส
วิชาการต่อสู้ของอารันคาร์
- Cero(ซีโร่) หรือลำแสงศูนย์ ซีโร่ เป็นวิชาพื้นฐานหลักของพวกอารันคาร์(ที่เปลี่ยนผ่านมาจาก ฮอลโลว์ชั้น เมนอส กรังเด้) สามารถปล่อยซีโร่ออกมาตามส่วนต่างๆของร่างกาย เอสปาด้า จะมีซีโร่ที่รุนแรงยิ่งขึ้น เรียกว่า Grand Rei Cero หรือ ลำแสงศูนย์มหาราชันย์
- Sonido(ท่าเท้าความเร็วเสียง) คล้ายกับวิชา "ก้าวพริบตา" ของยมทูต หรือ "เท้าเหิร" ของควินซี่
- Resurreccion การปลดปล่อยดาบฟันวิญญาน'ของอารันคาร์
ไวเซิร์ด(Vizard)
เหล่ายมทูตที่นำเอาพลังฮอลโลว์มาเสริมให้กับตนเองทำให้มีพลังที่ก้าวล้ำเหนือกว่ายมทูตทั่วๆไป โดยเหล่าไวเซิร์ดมีความสามารถในการดึงเอาหน้ากากฮอลโลว์มาสวมยามที่ต้องการใช้พลังฮอลโลวได้ และยังคงมีดาบฟันวิญญาณแบบยมทูตอยู่เช่นเดิม เหล่าไวเซิร์ดถูกขับไล่จากโซลโซไซตี้มานานหลายร้อยปีแล้ว เพราะถือว่ามีความเกี่ยวข้องกับฮอลโลว์
พวกไวเซิร์ดในอดีต เคยเป็นถึงหัวหน้า รองหัวหน้าหน่วย ในโซลโซไซตี้ แต่พวกเขากลับกลายเป็นหนูทดลองของไอเซ็น ให้ยมทูตกลายเป็นฮอลโลว์ แม้การทดลองดูเหมือนจะล้มเหลวแต่ก็ได้ผลตามที่ไอเซ็นต้องการ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้อุราฮาร่า ถูกเนรเทศออกจากโซลโซไซตี้มาอยู่ที่โลกมนุษย์(ทั้งๆที่โดนเข้าใจผิด) ซึ่งอุราฮาระใช้โฮเงียคุ รักษาไวเซิร์ดให้คงสติไว้ได้
Bount
ปรากฏเฉพาะในอนิเมเท่านั้น โดยปรากฏตัวตั้งแต่เหตุการณ์หลังจากจบภาคโซล โซไซตี้ เบาต์เป็นเผ่าพันธุ์ที่ถือกำเนิดขึ้นจากความผิดพลาดในการทดลองสร้างชีวิตนิรันดร์ของกองวิทยาการแห่งโซลโซไซตี้ วิญญาณที่หลุดรอดไปที่โลกมนุษย์ในตอนนั้นจึงเกิดเป็น Bount ซึ่งมีชีวิตที่ยืนยาวจากการดูดกินวิญญาณมนุษย์เป็นอาหาร และสามารถต่อสู้ได้โดยใช้ "Doll" ซึ่งคล้ายคลึงกับการใช้ดาบฟันวิญญาณของยมทูต และมีความสามารถหลากหลายกันไป แตเมื่อ Doll ตาย Bount ที่เป็นเจ้าของก็จะต้องตายตามไปด้วยเช่นกัน
โซลโซไซตี้
กรรมที่คนคนหนึ่งทำขณะมีชีวิตเป็นตัวกำหนดที่ที่วิญญาณของคนคนนั้นจะไปหลังความตาย วิญญาณของคนดี จะถูกส่งไปที่ โซล โซไซตี้ (Soul Society) ซึ่งคนโดยทั่วไปเรียกว่า "สวรรค์" ส่วนฮอลโลว์ที่ถูกทำลายด้วยดาบฟันวิญญาณ ดาบฟันวิญญาณจะชำระบาปที่ทำไปในระหว่างเป็นฮอลโลว์ให้ หากก่อนตายเป็นคนดีก็ไปโซลโซไซตี้ หากเป็นคนชั่วจะถูกส่งไปยังนรก โซลโซไซตี้ ต่างกับสวรรค์ตรงที่เป็นชุมชนของวิญญาณที่มีสภาพสังคมคล้ายกับประเทศญี่ปุ่นสมัยโบราณ
โซลโซไซตี้ทำหน้าเป็นที่พักของวิญญาณก่อนที่จะไปเกิดเป็นมนุษย์ใหม่อีกครั้ง แบ่งเขตเป็น 2 เขตใหญ่คือ "ลูคอนไก" เป็นสถานที่อาศัยของวิญญาณเร่ร่อน ซึ่งมีเขตการปกครองทั้งหมด 320 เขต แบ่งย่อยออกเป็นทิศละ 80 เขต ซึ่งตัวเลขที่ยิ่งมาก หมายถึงความปลอดภัยที่น้อยลงตามไปด้วย กับ "เซเรยเทย์" ที่อยู่กึ่งกลางของโลกโซลโซไซตี้ ซึ่งเป็นที่อาศัยของเหล่ายมทูตและตระกูลขุนนางในโซลโซไซตี้ พวกที่ไม่ใช่ยมทูตแต่ทำการบุกเข้ามาในเขตของเซยเรเทย์โดยไม่ได้รับอนุญาตจะถูกเรียกว่า "เรียวกะ" ซึ่งหากทาง 13 หน่วยพิทักษ์สามารถควบคุมตัวไว้ได้ เรียวกะจะถูกนำไปพิพากษาโทษหนักหรือเบาตามความผิดที่ได้ก่อไว้กับทางเซเรย์เทย์
โซลโซไซตี้ เป็นมิติที่ประกอบด้วยอนูวิญญาณเป็นพื้นฐาน ไม่ว่าสิ่งก่อสร้าง ต้นไม้ ก้อนหิน หรือพื้นดิน ดังนั้นวิญญาณที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้จึงอยู่ในสภาพของสิ่งมีชีวิตที่มีอนูวิญญาณเป็นพื้นฐาน คล้ายคลึงกับโลกที่มีอนุภาคต่างๆ เป็นพื้นฐานของมวลสารนั่นเอง วิญญาณจึงมีอวัยวะมีเลือดเฉกเช่นเดียวกับร่างกายมนุษย์ต่างกันเพียงอนุภาคมูลฐานเท่านั้น
นรก
สถานที่ซึ่งวิญญาณที่มีบาปในจิตใจจะต้องไป ในเรื่องเทพมรณะนี้ เมื่อเหล่าวิญญาณบาปที่กลายสภาพเป็นฮอลโล่ว์ได้รับการปลดปล่อยแล้ว ประตูนรกก็จะมาปรากฏและดึงวิญญาณดวงนั้นลงสู่ขุมนรกในทันที เพราะดาบฟันวิญญาณของยมทูตจะชำระบาปที่ทำระหว่างเป็นฮอลโลว์ให้เท่านั้น(บาปหลังความตาย) ไม่ได้ชำระบาปที่ทำขึ้นในระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่
ฮูเอโก้ มุนโด้
เป็นโลกที่ซึ่งเหล่าฮอลโล่ว์จำนวนมากเข้ามาอาศัยรวมกันอยู่ ลักษณะของพื้นที่เป็นทะเลทรายสีขาวและขุนเขาน้อยใหญ่กระจายอยู่ทั่ว และปรากฏดวงจันทร์บนฟ้าอยู่ตลอดซึ่งจะแตกต่างจากดวงจันทร์ของโลกโดยสลับซ้ายขวาเหมือนส่องกระจก และบรรยากาศของที่นี่จะมืดสลัวโดยตลอด โดยเมื่อเหล่าฮอลโล่ว์จะเดินทางมายังโลก ก็จะใช้วิธีฉีกห้วงมิติออกมา โดยมี ลาส์ นอเช่ คือสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุด และเป็นที่พำนักของเหล่าเอสปาด้า
ไอเท็มพิเศษ
ซัมปาคุโต (ดาบฟันวิญญาณ)
อาวุธที่จะขาดไปไม่ได้เลยสำหรับเหล่ายมทูต ซัมปาคุโตจะแตกต่างจากดาบธรรมดา ตรงที่ ดาบแต่ละเล่มนั้นสามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้สามแบบ คือ
1.เป็นดาบคะตะนะธรรมดา (คล้ายกับซามูไร) ซัมปาคุโตเกือบทุกเล่มจะคล้ายๆกัน
2.ชิไค (Shikai) ซึ่งซัมปาคุโตทุกเล่มจะแสดงลักษณะเฉพาะตัวของมัน ชิไคของชินิกามิส่วนใหญ่เป็นอาวุธมือที่มีรูปร่างเฉพาะตน บ้างคงรูปดาบญี่ปุ่น บ้างคล้ายดาบจีน บ้างคล้ายดาบเซเบอร์ บ้างเป็นหอก บ้างเป็นมีด เป็นต้น นอกจากนี้ ชิไคแต่ละเล่มยังมีพลังโจมตีเฉพาะตัว เช่น พ่นลูกไฟ พ่นน้ำแข็ง ยึดยาวได้ เป็นต้น
3.บังไค (Bankai) หรือ ปลดปล่อยสวัสดิกะ เป็นรูปแบบขั้นสุดยอดของซัมปาคุโต บังไคมีรูปร่างไม่แน่นอน เช่น บังไคของชินิกามิบางตนเป็นกระดูกงูขนาดยักษ์ บางตนเป็นดาบเล็กๆ นับพันเล่ม บางตนเป็นหุ่นขนาดยักษ์ หรือแม้แต่ดาบซามูไรธรรมดาๆ แต่เพิ่มความเร็ว พลังของผู้ใช้ เป็นต้น บังไคเป็นรูปแบบที่มีพลังโจมตีสูงและสามารถใช้ท่าไม้ตายที่มีความรุนแรงมากได้ มีชินิกามิน้อยตนนักที่สามารถบรรลุบังไคของตัวเอง ผู้ที่ปลดปล่อยบังไคได้เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์เป็นยมทูตในระดับ หัวหน้าหน่วย ใน 13 หน่วยพิทักษ์
นอกจากนี้ พวกอารันคาร์ก็ใช้ดาบฟันวิญญาณเหมือนกัน ต่างกันตรงที่ การปลดปล่อยดาบของพวกอารันคาร์จะมีอยู่ขั้นเดียว(ยกเว้นอุลคิโอร่า ที่สามารถปลดปล่อยได้ 2 ขั้น) เรียกว่า Resurreccion เมื่อปลดปล่อยดาบแล้ว ผู้ใช้จะมีลักษณะกลับคืนสู่ร่าง
เดิม(หรือ กึ่งร่างเดิม) แต่มีพละกำลังมากขึ้น
** การปลดปล่อยดาบขั้นสองของอารันคาร์ เรียกว่า "รีเซอเร็คชั่น เซกุนด้า เอต้าป้า"
โซเคียคุ
ง้าวขนาดยักษ์ ที่ตั้ง ณ ลานประหาร มีพลังราวกับดาบฟันวิญญาณหลายร้อยเล่ม เมื่อปลดปล่อยดาบออกไป กลายเป็น "คิโคโอ" นกฟินิกซ์ไฟขนาดยักษ์ พุ่งเข้าไปทะลุร่างนักโทษที่กำลังจะถูกประหาร
ยาถอดวิญญาณ (Soul Candy)
เป็นยาที่ถอดวิญญาณออกจากกายหยาบ ทำออกมาในลักษณะลูกกวาด เรียกว่า Soul Candy เนื่องจากสมาคมยมทูตสตรีเห็นว่า ชื่อ ยาถอดวิญญาณ มันไม่น่ารัก มีบรรจุภัณฑ์หลายรูปแบบ แบบนิยมมากที่สุดคือกระต่ายจัปปี้
กายหยาบ
กายเทียมที่ถูกสร้างขึ้นสำหรับยมทูตที่มีพลังต่ำ
เซ็นไกมง
ประตูผ่านมิติไปยังโซลโซไซตี้ สำหรับมนุษย์ธรรมดานั้น เมื่อผ่านประตูนี้ จะได้รับการเปลี่ยนถ่าย ให้กลายเป็นวิญญาณ
ซันเรย์ชูโต
ถุงมือสะสมพลังอนูวิญญาณของพวกควินซี่ เพื่อก้าวข้ามเหนือระดับควินซี่ทั่วไป ผู้ที่สวมมันห้ามถอดถุงมือนี้เป็นอันขาด หากถอดถุงมือนี้ ผู้ใช้จะมีพลังมหาศาล แต่ต้องแลกกับการสูญเสียพลังควินซี่ไป
เท็นชินไต
(ในฉบับแปลไทยเป็น เด็นชินไต) หุ่นจำลองของเหล่ายมทูต เพื่อเรียกร่างที่แท้จริงของดาบฟันวิญญาณออกมา ใช้สำหรับการฝึกของยมทูต เพื่อก้าวข้ามสู่ระดับ"บังไค"
ยาอภิมนุษย์
ยาของมายูริ มีคุณสมบัติให้ผู้ที่สัมผัสยา มีประสาทสัมผัสของยอดฝีมือ คือ มีประสาทสัมผัสความรู้สึกที่ไวกว่าปกติ ซะจนมองเห็นการเคลื่อนไหวของคนธรรมดาช้าซะจนอืดอาด ทว่าร่างกายตนเองกลับเคลื่อนไหวไม่ได้ตามใจนึกเช่นกัน(คือ เคลื่อนไหวช้าลงนั่นเอง)
เท็นไกเค็ตจู
สิ่งประดิษฐ์ของอุราฮาร่า คุณสมบัติคล้ายๆกับเซ็นไกมง เพียงแต่ เท็นไกเค็ตจูนี้ สามารถสลับสับเปลี่ยน สิ่งที่ถูกเท็นไกเค็ตจูล้อมกับอีกสิ่งที่อยู่ในโซลโซไซตี้ได้ ซึ่งอุราฮาร่าได้ใช้มันในการช่วยย้ายเมืองคาราคุระทั้งเมืองในโลกมนุษย์ ไปสลับสับเปลี่ยนกับ เมืองคาราคุระที่ถูกสร้างจำลองอยู่นอกเขตลูคอนของโซลโซไซตี้ นั่นเอง
|