เรื่องราวการต่อสู้ของเด็กหนุ่ม ทันจิโร่ ที่ได้ฝึกฝนตัวเองให้กลายเป็นนักดาบแห่งหน่วยพิฆาตอสูร เพื่อช่วยเหลือ เนซึโกะ น้องสาวของเขา ให้หลุดพ้นจากการเป็นอสูร กลับมาเป็นสาวน้อยน่ารักธรรมดาๆ ได้สร้างความตราตรึงใจให้แก่แฟนๆมานักต่อนัก นับตั้งแต่มังงะซีรีย์ ยันจนถึง อนิเมทีวี ที่ได้สร้างปรากฏการณ์มากมายให้แก่วงการการ์ตูนญี่ปุ่นในยุค พ.ศ. นี้ ซึ่งความร้อนแรงดั่งเพ่งจิตรวมปราณของพวกเขา ยังดำเนินมาอย่างยาวนานต่อเนื่องข้ามปี จนเกิดเรื่องราวอันน่าทึ่งมากมาย ที่เกี่ยวข้องกับพวกเขา ตลอดทั้งปี 2020
เนื่องจากปรากฏการณ์ความปังแบบแรงไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ ของเหล่าชาวคณะนักพิฆาตอสูรกลุ่มนี้ ซะจนพาแฟนๆ ทุกเพศ ทุกวัย พากันติดหนึบ จึงมีเรื่องให้เราเขียน และนำเสนอมากมาย เลยต้องจัดทำแยกออกมาเป็น หนึ่งในตอนพิเศษของ สรุปข่าวการ์ตูนประจำปี 2020 ของเราครับ :
จากความแรงอย่างต่อเนื่องข้ามปีของซีรี่ย์มังงะ-อนิเม Kimetsu no Yaiba หรือ ดาบพิฆาตอสูร ซะจนไม่นึกไม่ฝันว่า เราจะต้องมาเขียนถึงเรื่องนี้ ให้เป็นหนึ่งในหัวข้อสรุปข่าวประจำปีของเรา เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน!!!!!
สำหรับมังงะเรื่องนี้ แม้ว่าจะจบลงแล้ว กับตอนที่ 205 ในนิตยสาร Shonen Jump เมื่อ พ.ค. 2020 แต่ถึงกระนั้น ก็ไม่ได้ทำให้กระแสความปังของเรื่องนี้ลดลงแต่อย่างใด แต่กลับฟีเวอร์ไปทั่วบ้านทั่วเมืองมากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ!!! จนนำไปการสร้างสถิติอันลื่อลั่น ซะจนหลายคนต้องยอมซูฮกให้จริงๆ
เริ่มตั้งแต่มังงะต้นฉบับของเรื่องนี้ ที่สามารถสร้างสถิติใหม่ให้แก่ชาร์ตมังงะขายดีของ Oricon ด้วยการพาฉบับรวมเล่มจากเรื่องนี้ เหมา 10 อันดับแรก ถึง 7 ครั้ง แถมยังเคยพาฉบับรวมเล่มทั้งหมด(ที่กำลังวางจำหน่ายอยู่ในขณะนั้น) ของเรื่องนี้ เหมาครองอันดับบนๆ ชนิดที่ไม่ยอมแบ่งให้ใครได้แทรกเลย!! (ทั้งชาร์ตรายสัปดาห์ และ ชาร์ตประจำปี 2020) ส่งผลทำให้เรื่องนี้ยังคงครองอันดับ 1 มังงะซีรี่ย์ขายดีที่ญี่ปุ่น ประจำปี 2020 ของ Oricon ด้วยยอดขายสูงกว่า 80 ล้านเล่ม ทิ้งห่าง Kingdom ที่ครองอันดับ 2 ในชาร์ต มังงะซีรี่ย์ขายดี ประจำปี 2020 ถึง 8 เท่าด้วยกัน และยังทำให้ฉบับรวมเล่ม ทั้ง 23 เล่มของเรื่องนี้ มียอดขายรวมกันเกินกว่า 100 ล้านเล่ม จาก ยอดตีพิมพ์ทั้งซีรี่ย์ 120 ล้านเล่ม ด้วยกัน!!!!! ขึ้นแท่นมังงะซีรี่ย์ Shonen Jump เรื่องที่ 8 ที่มียอดตีพิมพ์ซีรี่ย์ทะลุถึงระดับนี้
ไม่เพียงเท่านั้น แม้แต่ฉบับนิยายไลท์โนเวลจากมังงะเรื่องนี้ ยังคงขายดิบขายดีไม่แพ้กัน จนสามารถครองอันดับ 1 นิยายไลท์โนเวลขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ประจำปี 2020 ทั้งนับตามซีรี่ย์ และ รายเล่ม จากนิยายชุด ดาบพิฆาตอสูร ดอกไม้แห่งความสุข (ซึ่งนิยายชุดดังกล่าว ติด 1 ใน 10 หนังสือสุดโปรดของเด็กชั้นประถมญี่ปุ่น)
ที่น่าสนใจกว่านั้น ตอนจบของมังงะเรื่องนี้ ที่ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Shonen Jump ฉบับที่ 24/2020 ก็ทำให้นิตยสารเล่มดังกล่าวขายหมดเกลี้ยงบนแผงที่ญี่ปุ่นอย่างไวว่อง !! ส่วนหนึ่งนั้นมาจากการที่นิตยสารฉบับดังกล่าว เตรียมจัดจำหน่ายต้นฉบับตอนจบของเรื่องนี้ ให้แก่แฟนๆด้วย อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่มีการแจ้งว่า ฉบันรวมเล่มที่ 23 เล่มจบของเรื่องนี้ จะตีพิมพ์ตอนจบให้ยาวกว่าเดิม ยังส่งผลทำให้ ฉบับรวมเล่มดังกล่าว สามารถทำยอดขายเปิดตัวในสัปดาห์แรกสูงที่สุด ในประวัติศาสตร์ของ Oricon อีกด้วย!!
หน้าเปิดตอนที่ 205 ตอนอวสานของ ดาบพิฆาตอสูร ฉบับมังงะ
ส่วนทางฝั่งอนิเม แม้จะยังไม่มีอนิเมซีซั่นใหม่ออกมาเลย (นอกจากอนิเมตอนพิเศษที่ตัดต่อเนื้อหาจากทีวีซีรี่ย์) แต่เหล่านักพิฆาตอสูร ได้ส่งฉบับหนังโรงของเรื่องนี้ อย่าง Kimetsu no Yaiba : Mugen Train หรือ ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่ : ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ เข้าฉายบนโรง และการมาของหนังชุดนี้ ยิ่งทำให้กระแสของการ์ตูนเรื่องนี้ แรงขึ้นไปอีกขั้น แถมยังสร้างปรากฏการณ์สนั่นวงการภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่กำลังซบเซาอย่างหนัก ตลอดทั้งปี 2020 ชนิดที่ไวรัส COVID-19 ไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้เลย ด้วยการปลอดปล่อยพลังปราณสารพัดกระบวนท่า ทุบสถิติเป็นหนังที่เปิดตัวแรงที่สุด ทำรายได้ทะลุ 1 หมื่นเยน กับ ยอดตั๋วถึงระดับ 10 ล้านใบ ได้รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น นับจากนั้น Mugen Train ยังคงเดินหน้ากวาดรายได้มหาศาลอย่างต่อเนื่อง และ หลังจากที่หนังเข้าฉายบนโรงที่ญี่ปุ่นกว่า 73 วัน ในที่สุด ตัวหนัง ก็สามารถยืนหนึ่ง กับ สถิติภาพยนตร์ทำรายได้สูงที่สุด ตลอดกาลของญี่ปุ่น อันดับ 1 แต่เพียงผู้เดียว เป็นการส่งท้ายปี 2020 โดยเป็นการโค่นสถิติที่หนังอนิเม Spirited Away ของ ผกก.Hayao Miyazaki ที่เคยรักษาเอาไว้มานานถึง 19 ปี ลงได้ในที่สุด
ไม่เพียงเท่านั้น Mugen Train ยังได้สร้างสถิติเอาไว้มากมายให้กับวงการหนังญี่ปุ่น ปี 2020 อาทิ ภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่องที่ 2 ที่ทำรายได้ถึงหลัก 3 หมื่นเยน , ภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่องแรก ที่รั้งอันดับ 1 Box Office ญี่ปุ่น 11 สัปดาห์ติดต่อกัน รวมถึง ยังสร้างความฮือฮาระดับโลก ด้วยการเปิดตัวแรงเป็นอันดับที่ 1 Box Office โลก จนทำสถิติเป็น หนังอนิเมชั่นรายได้สูงที่สุดในโลก ประจำปี 2020 ,หนังทำรายได้สูงที่สุดในโลก อันดับที่ 6 ประจำปี 2020 และ เป็นหนังอนิเมที่มียอดผู้ชมสูงที่สุดในโลก อันดับที่ 7 เป็นต้น
โดยความสำเร็จอย่างถล่มทลายของหนังอนิเมนั้น ก็ต้องยกเครดิตให้กับ อนิเมทีวีซีรี่ย์ที่ยังกระแสไม่ตก , สตูดิโอ ufotable ที่สร้างสรรค์ความเนี้ยบให้แก่หนังอนิเมชุดนี้ ได้อย่างดีเยี่ยม ไม่แพ้ อนิเมทีวี รวมไปถึง การตลาดที่เกี่ยวข้อง ที่ชวนให้ผู้คนมาชมหนังชุดนี้อย่างเนืองแน่น ทั้งการแถมสินค้าจากตัวหนัง อย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมไปถึง มังงะ มังงะพิเศษ Rengoku Volume 0 ที่นำเสนอเรื่องราวของ เสาหลักเพลิง Kyojuro Rengoku ตัวเอกประจำหนังชุดนี้ ประกอบกับ การที่ TOHO ได้ผ่อนปรนมาตรการป้องกัน COVID-19 ด้วยการปลดล็อค ให้โรงหนังในเครือ เปิดให้ผู้ชมนั่งชมหนังบนโรงให้เต็มความจุ ช่วง 3 วันแรกของการฉายหนัง เพื่อรองรับผู้ชมที่จะเข้าชมหนังเรื่องนี้โดยเฉพาะ
และจากกระแสหนัง Mugen Train ของเหล่านักพิฆาตอสูร ยังส่งผลทำให้ LiSA นักร้องสาวสายอนิซอง กลายเป็นนักร้องที่มาแรงที่สุดของญี่ปุ่น ในปี 2020 ซึ่งถือเป็นความสำเร็จที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากบทเพลง "ซื้อยาคูลท์" ของเพลง Gurenge ที่ใช้ประกอบอนิเมทีวีเรื่องนี้ รวมไปถึงเพลง Homura ที่ใช้เป็นเพลงปิดของหนัง Mugen Train
โดย Homura สามารถสร้างสถิติ รั้งอันดับหนึ่ง บนชาร์ตซิงเกิ้ลเพลงดิจิตอลประจำสัปดาห์ 11 สัปดาห์ติดต่อกัน แถม MV เพลง Homura ก็มียอดวิวสูงกว่า 10 ล้านวิว อย่างรวดเร็ว เพียงแค่สัปดาห์เดียวเท่านั้น และมียอดวิวทะลุเกิน 100 ล้านวิวแล้วในตอนนี้ ส่งผลทำให้เพลงดังกล่าว คว้ารางวัลสาขาเพลงยอดเยี่ยมประจำปี ของ Japan Record Awards ครั้งที่ 62
ขณะที่ Gurenge ยังสามารถครองอันดับ 1 ซิงเกิ้ลดิจิตอลขายดีที่สุด ประจำปี 2020 แล้วก็ อันดับ 1 เพลงคาราโอเกะยอดฮิตประจำปี 2020 ของญี่ปุ่น ทั้งชาร์ตรวม แล้วก็ชาร์ตเพลงอนิเม/โทคุซัตสึ/เกม
.....จากความสำเร็จของเพลงประกอบดาบพิฆาตอสูร ทั้งอนิเมทีวี กับ ภาพยนตร์ ที่มียอดดาวน์โหลดเพลงสูงลิ่ว ทำให้ LiSA สามารถกวาดใบ cer จาก สมาคมแผ่นเสียงญี่ปุ่น (RIAJ) หลากหลายใบด้วยกัน
นอกจากความสำเร็จของมังงะ อนิเม ของเรื่องนี้ ก็ยังพบว่า ทั้งซีรี่ย์ รวมถึง ตัวละครจากเรื่องนี้ ต่างพาเหรดกันครองอันดับ 1 จากโพลหลายสำนัก ด้วยกัน......ประกอบกับ ตัวละครจากเรื่องนี้ (โดยเฉพาะ Tanjiro) กลายเป็นขวัญใจอันดับ 1 ในหมู่เด็กประถม แม้แต่ Yoshihige Suga นายกของญี่ปุ่น ยังหยิบเอาเรื่องนี้มาปล่อยเป็นมุกตลก(แป้ก)กลางสภาด้วย!!!!
ไม่เพียงเท่านั้น จากกระแสความดังของการ์ตูนเรื่องนี้ นอกจากจะกวาดรายได้มหาศาล จากมังงะ กับ ภาพยนตร์ แล้ว ก็ยังส่งผลต่อสินค้าต่างๆที่เกี่ยวข้องของเรื่องนี้ ต่างก็ทำยอดขายได้จำนวนไม่น้อบ ซะจนครองแชมป์แฟรนไชส์ทำเงินสูงที่สุดประจำปี มา 2 ปีซ้อน ซึ่งรายได้แฟรนไชส์ของพวกเขาในปี 2020 นั้น ก็มากกว่าเรื่องอันดับรอง ถึง 10 เท่า ด้วยกัน......จนถึงขณะนี้ แฟรนไชส์ของดาบพิฆาตอสูร สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจญี่ปุ่น มากถึง 2.7 แสนล้านเยน ด้วยกัน!!!!
........ถึงตรงนี้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ดาบพิฆาตอสูร กลายเป็นมังงะมหาแมสของญี่ปุ่นชนไปแล้ว ....... ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานี้ ปัจจัยความสำเร็จของเรื่องนี้นั้น ไม่ได้มีแค่ ufotable สตูดิโอผู้อาสานำมังงะเรื่องนี้มาทำเป็นอนิเมอย่างเดียว ยังต้องยกเครดิตให้กับ อ.Koyoharu Gotouge ผู้แต่งมังงะต้นฉบับของเรื่องนี้ ผู้ซึ่งนำเสนอวีรกรรมการต่อสู้ ความทุ่มเท และเสียสละ ของนักล่าอสูร ให้ออกมาโดนใจ ซาบซึ้ง และอิงความสมจริง ทำให้ใครต่อใครรู้สึกอินไปตามๆกัน ด้วยเช่นกัน และจากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลทำให้ อ. Gotouge คว้ารางวัล Noma Publishing Culture Award ครั้งที่ 2 ในฐานะที่ อ.ท่านนี้ มีส่วนสำคัญ ในการส่งเสริมวงการสิ่งพิมพ์ในญี่ปุ่น ทำให้แฟรนไชส์ของมังงะเรื่องนี้กวาดยอดขายมหาศาล ในขณะนี้......
สุดท้ายนี้ มาว่ากันด้วยกระแสของการ์ตูนเรื่องนี้ ในแผ่นดินสยามกันบ้าง ซึ่งก็ต้องบอกว่า มาแรงไม่แพ้ญี่ปุ่นเลย จากการได้เห็นบรรดาแฟนคลับ ต่างพากันคอสเพลย์เป็น เสาหลัก - นักล่าอสูร หรือ สวมเสื้อคลุมลายตารางหมากรุกเขียวดำของ ทันจิโร่ ตามงานอีเว้นต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น อีกทั้ง ฉบับมังงะรวมเล่มของเรื่องนี้ที่วางจำหน่ายในบ้านเรา ก็สร้างความครึกครื้น คึกคัก ให้แก่วงการสิ่งพิมพ์ไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับ สนพ.สยามอินเตอร์คอมิคส์ (SIC) ต้นสังกัดของมังงะเรื่องนี้ในบ้านเรา ที่มีการระบุว่า ฉบับมังงะรวมเล่มของซีรี่ย์เรื่องนี้ มียอดตีพิมพ์ในไทย (ทั้งรูปเล่ม & ดิจิตอล) ทะลุล้านเล่มแล้ว จากการยืนยันโดย คุณ วิชัย ลิ้มศิริโพธิ์ทอง บก.ของSIC ไม่เพียงเท่านั้น ทาง SIC เอง ยังจัดทำมังงะรวมเล่ม ฉบับที่ 20 และ 21 ในแบบ limited edition ที่มีการพ่วงของที่ระลึกจำพวก ชุดโปสการ์ด ชุดสติ๊กเกอร์ ตามแบบฉบับญี่ปุ่น ซึ่งก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้พวกเขาได้คึกคักเยียงนี้
จากกระแสความมาแรงของดาบพิฆาตอสูรในญี่ปุ่น ก็ทำให้แฟนๆเรื่องนี้ในบ้านเรา ต่างได้สัมผัสกับฉบับอนิเมซีรี่ย์ตามแอพสตรีมมิ่งต่างๆสารพัด และแน่นอน ว่า แฟนๆก็ได้รับชมอนิเมเรื่องนี้ ในรูปแบบพากย์ไทย ถึง 2 เวอร์ชั่น โดย TrueID กับ Cartoon Club ..... โดยเฉพาะพากย์ไทยของเวอร์ชั่น Cartoon Club นั้น จัดเป็นอนิเมซีรี่ย์พากย์ไทย ที่ใช้นักพากย์มากที่สุด ราว 20 กว่าคน ด้วยกัน ส่วนกระแสหนัง Mugen Train ในบ้านเรานั้น ก็ดีเยี่ยมไม่แพ้กัน (แม้จะมีดราม่าเล็กๆ ในหมู่แฟนๆ ที่ไม่พอใจกับค่ายหนัง ที่ตัดสินใจเลือก ไอซ์ พาริส มาพากย์เป็น เซ็นอิตสึ ในฉบับหนังดังกล่าว ) โดยสามารถทำรายได้ในไทย ทะลุ 100 ล้านบาท ส่งผลทำให้ หนังอนิเมดาบพิฆาตอสูรชุดนี้ ขึ้นแท่นเป็นหนังอนิเมญี่ปุ่นรายได้สูงที่สุดตลอดกาลในไทย!! และยังเป็นหนังอนิเมญี่ปุ่นเรื่องแรกที่ทำรายได้ทะลุ 100 ล้านบาท ในไทย อีกด้วย!!!!
สำนักข่าว K-D News (kartoon-discovery.com)
สามารถอัพเดทข่าวสารเว็บเราได้ผ่าน Twitter และ Facebook
หากนำข่าวจากเราไปเผยแพร่ที่อื่น รบกวนใส่เครดิตให้กับทางเราด้วยครับ ขอบคุณครับ