คงจะปฏิเสธไปไม่ได้ว่า ข่าวนี้ถือเป็นข่าวใหญ่ที่สุดในวงการการ์ตูนโลก ในรอบปี 2024 ที่หลายคนน่าจะนึกถึงเป็นเรื่องแรก ไปกับความโศกเศร้าแก่คอการ์ตูนทั่วทุกมุมโลก ในทุกเจน กับการเสียชีวิตของ อ.Akira Toriyama นักเขียนมังงะเจ้าของผลงานดังอย่าง Dragon Ball , Dr.Slump , Sand Land ฯลฯ ที่ได้จากโลกนี้ไป ด้วยวัยเพียง 68 ปี จากอาการเลือดคั่งในสมองฉับพลัน เมื่อ 1 มิ.ย. 2024

โดย อ.Toriyama ได้รับการยกย่องว่า เป็นนักเขียนการ์ตูนอัจฉริยะ ผู้ดีเด่นในด้านการนำเสนอเรื่องราวอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และ แสดงออกถึงไอเดียความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ อย่างบรรเจิด โดยได้แจ้งเกิดจากมังงะที่เน้นตลก อย่าง Dr.Slump ก่อนจะมาประสบความสำเร็จอย่างสูงจาก Dragon Ball ที่ต่อยอดมาจากวรรณกรรมจีน ไซอิ๋ว ก่อนจะเสริมเติมแต่งโลกของ Dragon Ball ให้ใหญ่ออกไปเรื่อยๆ จากมังงะเน้นผจญภัย-เบาสมอง ไปเป็น มังงะแนวต่อสู้สุดเข้ม ที่ได้ริเริ่มนำเสนอหลายสิ่งหลายอย่าง ที่จัดว่าว้าวมากในยุคสมัยนั้น ทั้ง ทัวร์นาเม้นต์ชิงจ้าวยุทธภพ, เผ่าพันธุ์ต่างๆ นอกเหนือจากมนุษย์โลก , ท่าไม้ตายของตัวละคร, ท่าปลดปล่อยพลังในระดับต่างๆ อันเป็นเอกลักษณ์ และได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ใครต่อใครมากมาย ทั้ง นักเขียนมังงะยุคหลังๆ รวมไปถึง นักอ่านทั่วไป

และแน่นอน ด้วยความปังของ Dragon Ball ทำให้ Dragon Ball นั้น จัดเป็นแฟรนไชส์มังงะ-อนิเม ที่สร้างปรากฏการณ์ อิทธิพล และ ประสบความสำเร็จมากที่สุด ในประวัติศาสตร์ป๊อปคัลเจอร์ญี่ปุ่น และถูกนำไปต่อยอดดัดแปลงในรูปแบบอื่นๆมากมาย

จากข้างต้นนี้ อีกอย่างหนึ่งที่ถือเป็นจุดเด่นของ อ.Toriyama นั่นคือ ความสามารถในการออกแบบตัวละครให้เป็นที่จดจำของแฟนๆ นอกเหนือจากการออกแบบตัวละครในมังงะของเขาแล้ว เขายังเป็นผู้ออกแบบตัวละครให้กับเกมวีดีโอซีรี่ย์ดัง หลากหลายซีรี่ย์ อาทิ Dragon Quest , Chrono Trigger, และ Blue Dragon เป็นต้น รวมไปถึง งานออกแบบมาสค็อตอีกเล็กน้อย
.
.
.
การจากไปอย่างกระทันหันของเขา ได้สร้างความเศร้าให้แก่แฟนๆทั่วโลกมากมาย ทำให้แฟนคลับผลงานของ อ.Toriyama ในหลายประเทศ ต่างออกมาแสดงออกเพื่อเป็นการไว้อาลัยนักเขียนการ์ตูนผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้ ทั้ง การชูมือส่งพลังบอลเกงกิ เอย หรือไม่ก็ ทำท่าปล่อยพลังคลื่นเต่า หรือจะเป็นการวาดภาพผลงานคาแร็คเตอร์ที่ อ.Toriyama เป็นผู้สร้าง หรือจะเป็นการโพสต์ความประทับใจที่มีต่อ อ. Toriyama เป็นต้น


ถึงตัวของ อ.Toriyama จะจากไป แต่ก็ไม่ได้ทำให้การฉลองครบ 40 ปี ของมังงะ Dragon Ball ในปี 2024 นี้ จะงานกร่อยไปซะทีเดียว เพราะอนิเม Dragon Ball Daima ซึ่งเป็นอนิเมทีวีชุดใหม่ ในรอบ 6 ปี ของเรื่องนี้ ยังคงออกอากาศตามกำหนดการเดิม ในเดือน ต.ค. 2024 ไปพร้อมกับ DRAGON BALL Super Gallery โปรเจ็คปกมังงะ Dragon Ball ที่วาดโดย อ.ท่านอื่นๆ ที่ได้ดำเนินต่อไปจนจบครบสมบูรณ์ในเดือน ม.ค. 2025 (จากปกเล่ม 42 ที่วาดโดย อ.Eiichiro Oda (One Piece)) นอกจากนี้ ยังมีโปรเจ็คสวนสนุก Dragon Ball ที่จะสร้างขึ้นที่ ซาอุดิอาระเบีย อีกด้วย

เช่นเดียวกับ มังงะ Dragon Ball Super ที่ส่งสัญญาณว่า อาจมีต่อ โดยที่ อ.Toyotaro จะเป็นผู้โซโล่เดี่ยว ทั้งวาด กับ แต่งเรื่อง แม้ว่าเนื้อเรื่องหลักจะหยุดตีพิมพ์อย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากการจากไปของ อ.Toriyama ผู้รับหน้าที่แต่งเรื่องให้กับภาคนี้

แต่กระนั้น สิ่งหนึ่งที่ต้องติดตามกันต่อไป นั่นก็คือ ผู้ที่มารับหน้าที่ดูแลและจัดการแฟรนไชส์ Dragon Ball ตัวจริง!! ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้ข้อสรุปที่ลงตัว ระหว่าง Shueisha สนพ.ต้นสังกัดของมังงะเรื่องนี้ , Bandai Namco ผู้จัดจำหน่ายเกมวีดีโอของเรื่องนี้ และ Akio Iyoku อดีตบก.ของ Shueisha ผู้ซึ่งเป็นสต๊าฟผู้ใกล้ชิดกับ อ.Toriyama ที่ปัจจุบันได้เปิดบริษัท Capsule Corporation Tokyo ที่คอยรับหน้าที่จัดการดูแล-จัดจำหน่าย ผลงานที่เกี่ยวข้องของ อ.Toriyama โดยเฉพาะ

ในปี 2024 ก็มีมังงะจำนวนหนึ่งที่ได้ดำเนินเรื่องราวมาถึงบทสรุป พร้อมกับปิดฉากเรื่องราวของตัวเอง หนึ่งในนั้น ได้รวมไปถึงมังงะ 3 เรื่องยอดฮิตของสนพ. Shueisha ของญี่ปุ่น อย่าง My Hero Academia , Jujutsu Kaisen มหาเวทย์ผนึกมาร และ Oshi no Ko เกิดใหม่เป็นลูกโอชิ ที่ได้มาจบไล่เลี่ยกันภายในปี 2024

ทั้ง 3 เรื่องนี้ ต่างดำเนินเรื่องราวช่วงสุดท้ายของตัวเองได้อย่างเข้มข้น จนเป็นที่พูดถึงไปทั่วบนโลกโซเชียล นำไปสู่ความคาดหวังของแฟนๆจำนวนมาก ที่หวังจะได้เห็นบทส่งท้ายดีๆ ของมังงะทั้ง 3 เรื่องนี้......แต่ทว่า มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น !!!

เริ่มจาก My Hero Academia ที่ได้ปิดฉากการต่อสู้กับวิลเลินบนหน้ากระดาษร่วม 10 ปี เมื่อ ส.ค. 2024 โดยตอนจบของพวกเขา ก็ถูกแฟนๆจำนวนหนึ่ง วิจารณ์ว่า ทำออกมาได้ไม่ประทับใจเท่าที่ควร เช่นเดียวกับ Jujutsu Kaisen ผู้ครองแชมป์มังงะซีรี่ย์ขายดีประจำปี 2024 ในญี่ปุ่น ที่ปิดฉากการกางอาณาเขต ร่วม 6 ปี ในอีก 1 เดือนต่อมา แต่กลับนำเสนอบทสรุปได้ไม่น่าจดจำยิ่งกว่า!!!! ในสายตาของนักอ่านจำนวนมาก!!!!! ก่อนจะมาปิดท้ายด้วย Oshi no Ko ที่รูดม่านปิดฉากอย่างจืด ไม่เป็นไปตามความคาดหวังของแฟนๆ

ซึ่งจากการที่มังงะที่ตีพิมพ์ในรายสัปดาห์นั้น มีระยะเวลาการจัดทำ กับ โควต้าจำนวนหน้าในนิตยสาร ที่ค่อนข้างจะจำกัด เลยส่งผลทำให้ ผู้แต่งทั้ง 3 เรื่องนี้ ไม่สามารถที่จะยัดรายละเอียดต่างๆ ลงไปได้หมดภายในตอนเดียว จึงไม่แปลกใจใดๆ ที่ทำไมทั้ง 3 เรื่องนี้ ต่างจบอย่างกร่อยๆ ไม่ค่อยลงตัวนัก ในรายสัปดาห์...แต่ก็อย่าลืมว่า ทั้ง 3 เรื่องนี้ ยังมีฉบับรวมเล่มอยู่!!!! ซึ่งอย่างที่รู้กันว่า มังงะฉบับรวมเล่มนั้น มักจะมีการแก้ไของค์ประกอบต่างๆเพิ่มเติมจากรายสัปดาห์ รวมไปถึง มีการเพิ่มจำนวนหน้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเพียงพอที่จะนำเสนอคอนเท้นต์ต่างๆ มากขึ้น จนนำไปสู้ความคาดหวังของแฟนๆ(อีกแล้ว) ที่หวังจะเห็นเนื้อหาตอนจบที่มีการเสริมปรุงแต่งให้กลมกล่อมกว่าเดิม ยิ่งกว่าในรายสัปดาห์!!!!

โดย เล่มที่ 42 เล่มจบของ My Hero ได้เพิ่มจำนวนตอน เข้าไปอีก 1 ตอน กับตอนที่ 431 ซึ่งเป็นการเติมเต็มของแฟนๆที่ยังค้างคากับตอนจบรายสัปดาห์ ให้รู้สึกประทับใจกับเส้นทางชีวิตของเหล่านักเรียนฮีโร่ ห้อง 1-A ขึ้นมาหน่อย แม้ว่า อาจมีนักอ่านสายชิปเปอร์บางด้อม ที่ยังคงแสดงความไม่พอใจ จากการที่คู่ชิพของตนไม่ได้ลงเอย ก็ตาม, ขณะที่ ลูกโอชิ มีการเพิ่มจำนวนหน้า กับ ฉบับรวมเล่ม 16 เล่มจบของตัวเอง แต่กลายเป็นว่า กลับลงเอยด้วยความอิหยังวะกว่าเดิม เพราะส่วนที่เพิ่มมานั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตอนจบในรายสัปดาห์ใดๆ ซึ่งก็สร้างความกริ้วในแก่นักอ่านจำนวนหนึ่ง... ก่อนจะปิดท้ายด้วย JJK ที่วางจำหน่าย 2 เล่มสุดท้าย (เล่ม 29 และ 30) ในวันคริสต์มาส ที่ญี่ปุ่น โดยที่ เล่ม 30 ของเรื่องนี้ ได้เสริมเติมแต่งเรื่องราวบทสรุปของตัวละครในเรื่องอีกนิดหน่อย พร้อมกับปิดท้ายด้วยข้อความของ อ.Gege Akutami ผู้แต่งเรื่องนี้ ที่ได้ออกมายอมรับในความบกพร่องของตัวเอง จากการที่เคลียร์เรื่องราวของเรื่องนี้ ได้ไม่ดีพอ

ไม่ว่าใครจะคิดเห็นอย่างไรกับบทสรุปของ 3 เรื่องนี้ในฉบับมังงะ .... แต่แฟนๆก็ยังสามารถติดตามเรื่องราวของ 3 เรื่องนี้กันต่อไปได้ ในรูปแบบที่เหลือ โดย My Hero ยังมี อนิเมทีวีซีซั่น สุดท้าย กับ อนิเมดัดแปลงจาก ภาคสปินออฟ Vigilantes ให้ได้ติดตามในปีหน้า , JJK ยังมีอนิเมซีรี่ย์บทต่อไปให้ติดตาม รวมถึง หนังอนิเมภาคสรุปเนื้อหาย้อนดีต อ.โกะโจ กับ เกะโท แล้วก็ ลูกโอชิ ตอนนี้ มีละครซีรี่ย์ กับ หนังคนแสดง ให้ติดตามชม รวมถึง อนิเมทีวี ซีซั่นต่อๆไป เช่นกัน

ซึ่งฟอร์แม็ตที่เหลือของทั้ง 3 เรื่องนี้ จะมีการปรับเนื้อหาตอนจบให้สมบูรณ์แบบขึ้นกว่าเดิมหรือไม่นั้น ต้องไปลุ้นกันที่หน้างาน ตามระเบียบ!!!!!

ข่าวสะเทือนวงการธุรกิจอนิเมญี่ปุ่นอย่างสุดในรอบปี 2024 ก็คงจะหนีไม่พ้น Kadokawa ผู้ผลิตสื่อมังงะ , อนิเม, ไลท์โนเวล, เกม ฯลฯ รายใหญ่ของญี่ปุ่น ได้ถูกแฮ็คเกอร์ผู้ไม่หวังดี เข้าโจมตีระบบเน็ตเวิร์คขององค์กร ซะจนสร้างความเสียหายให้แก่เว็บไซต์ของพวกเขา ทั้งเว็บไซต์หลัก แล้วก็ เว็บไซต์ของบริษัทอื่นๆในเครือ ต่างไม่สามารถใช้การได้ เมื่อ 8 มิ.ย. 2024

ซึ่งทาง Kadokawa ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยได้ปิดเซิร์ฟเวอร์ที่เกิดปัญหาทันที หลังจากเกิดเหตุ เพื่อปกป้องข้อมูลสำคัญของพวกเขา พร้อมประสานงานผู้เชี่ยวชาญ กับ จนท.ตำรวจ ในการตรวจสอบการรั่วไหลของข้อมูลบนเว็บไซต์ของพวกเขา ซึ่งการแก้ไขปัญหาของพวกเขา ก็ทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆกู้คืนเว็บไซต์จำนวนหนึ่ง กลับมาทำงานได้ปกติ จนกระทั่ง ระบบเน็ตเวิร์ต รวมถึง เว็บไซต์ในเครือบางแห่ง สามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติ เมื่อเดือน ส.ค. 2024 เรียกได้ว่า กว่าจะเคลียร์ได้ ก็ใช้เวลากันถึง 2 เดือนเลย!!!

เหตุการณ์ข้างต้น นอกจากจะสร้างความเสียหายให้แก่เว็บไซต์ของพวกเขาแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของพวกเขาในด้านอื่นๆด้วย อาทิ การผลิต-จำหน่าย สินค้าต่างๆ ที่ล่าช้ากว่ากำหนดการเดิม , การจัดทำระบบบัญชี, รวมไปถึง กิจกรรมการโปรโมทสินค้า ในช่วงเวลาดังกล่าว แต่จากการที่พวกเขาได้ออกมาตรการการทำงานแบบอนาล็อกในบางส่วน ที่เป็นการลดการผลิตกับการจัดส่ง ทำให้พวกเขายังสามารถรักษาระดับการผลิตอย่างปกติสำหรับหนังสือใหม่ ที่ออกวางจำหน่ายในเดือนมิ.ย. 2024

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าว Kyodo ของญี่ปุ่น ได้ออกมาเปิดเผยในภายหลัง เมื่อ ธ.ค. 2024 ว่า Kadokawa ต้องจ่ายเงินเรียกค่าไถ่ ให้แก่ พวกแฮ็คเกอร์ที่เป็นตัวการในการโจมตีทางไซเบอร์ของพวกเขา เป็นสกุลเงินคริปโต ที่คิดเป็นมูลค่าถึง 2.98 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยกัน!!!

แม้จะเป็นอีก 1 ปีที่ไม่สู้ดีของ Kadokawa แต่อย่างน้อยก็มีข่าวสารอื่นๆที่เกิดขึ้นกับพวกเขาในรอบปีที่ผ่านมา อาทิ ไลท์โนเวล คุณอาเรียโต๊ะข้างๆพูดรัสเซียหวานใส่ซะหัวใจจะวาย ทำสถิติเป็นนิยายโรแมนติคคอเมดี้เรื่องแรกของแบรนด์ Sneaker Bunko ที่มียอดตีพิมพ์ทะลุเกิน 5 ล้านเล่ม แล้วก็ การที่ Sony กำลังจะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุดของพวกเขา อย่างเป็นทางการ ในเดือน ม.ค. 2025
.
.
.
นอกจาก Kadokawa จะเจอปัญหาถูกโจมตีทางไซเบอร์แล้ว ....Crunchyroll เป็นอีกบริษัทหนึ่งที่เจอปัญหาใหญ่ด้านไซเบอร์ไม่แพ้กัน จากการที่อนิเมที่พวกเขาได้สิทธิ์ในการสตรีมมิ่งจำนวนหนึ่ง กลับหลุดรั่วไปทั่วโลกออนไลน์ ก่อนจะฉายจริงอย่างเป็นทางการ ทั้ง Ranma 1/2 ฉบับรีบู้ต , Dandadan , Re:ZERO ซีซั่น 3 , Mononoke: Karakasa ,Terminator Zero เป็นต้น ก่อนที่ภายหลังได้มีการตรวจสอบ และพบว่า ต้นเหตุนั้นมาจาก หนึ่งในบริษัทพาร์ทเนอร์ที่รับผิดชอบด้านโพสต์โปรดักชั่น ได้ใช้ช่องโหว่ที่เกิดขึ้น ในการปล่อยฟุตเทจอนิเมหลายเรื่องให้รั่วไหลทางออนไลน์

จากสิ่งที่เกิดขึ้นกับสองบริษัทดังกล่าว ก็เป็นการส่งสัญญาณเตือนสตูดิโออนิเม รวมถึง บริษัทที่เกี่ยวข้องในด้านการผลิตอนิเม ต้องเพิ่มความระมัดระวังด้านความปลอดภัยในระบบเน็ตเวิร์ค ระบบไซเบอร์ ให้รัดกุมยิ่งกว่าเดิม เพราะหากไม่ระวัง นอกจากจะส่งผลเสียต่อบริษัทแล้ว พนักงาน , ลูกค้าของพวกเขา ก็ยังต้องเจอกับผลกระทบที่เกิดขึ้น อันเนื่องมาจากข้อมูลส่วนตัวต่างๆของพวกเขารั่วไหล เฉกเช่นเดียวกับ คออนิเม ที่อาจเจอผลกระทบที่เกิดขึ้นเช่นกัน....ถ้าหากนำคลิปอนิเมที่รั่วก่อนฉายจริง มาเผยแพร่ต่อ มีโอกาสจะถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์!!!!!!!!!

หนึ่งในข่าวใหญ่ และ ฉาวมาก ในวงการบันเทิงญี่ปุ่น ในรอบปีที่ผ่านมา ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับวงการมังงะญี่ปุ่นไปเต็มๆ อันมาจากการเสียชีวิตของ อ.Hinako Ashihara ผู้แต่งมังงะ Sexy Tanaka-san หรือ คุณทานากะสุดเซ็กซี่ (ชื่อไทย ของ สนพ.บงกช บ้านเรา) ที่ได้จากโลกนี้ไปเมื่อช่วงปลายเดือน ม.ค. 2024 หลังจาก อ.ท่านนี้ได้ระบายความไม่พอใจที่มีต่อละครคนแสดงของเรื่องนี้ ที่ทางผู้สร้างผลิตออกมาโดยไม่เคารพต้นฉบับมังงะของเธอ และ ไม่เป็นไปตามแนวทางที่เธอต้องการ ซึ่งมีตั้งแต่ ฉากเด่นไฮไลต์ในมังงะต้นฉบับ กลับถูกตัดออกซะเหี้ยนในเวอร์ชั่นละคร รวมไปถึง ฉบับละครได้ปรับเปลี่ยนคาแร็คเตอร์ตัวละครให้ต่างไปจากต้นฉบับการ์ตูนมากเกินไป

ไม่เพียงเท่านั้น อ.Ashihara ยังได้เปิดเผยอีกว่า ตัวเธอไม่เคยได้พบเจอ และ พูดคุยกับ สต๊าฟฉบับละครคนแสดงโดยตรง ทั้ง ผกก. และ คนเขียนบทละคร พร้อมกับได้ลงมือเขียนบทละคร 2 ตอนสุดท้ายด้วยตัวเอง หลังจากพบว่า บทละครดั้งเดิมที่เธอเคยร่างเอาไว้นั้น มีการเปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง

การจากไปของ อ.Ashihara ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่ชาวโซเชียลไปทั่ว นอกจาก NTV ช่องทีวีทื่ออกอากาศฉบับละคร กับ Shogakukan สนพ. ต้นสังกัดของ อ.ท่านนี้ แน่นอนว่า ก็รวมไปถึง ประเด็นต่างๆที่อ.ท่านนี้ได้ออกมาแฉ ออกมาระบายบนบลอกส่วนตัว ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ละครชุดนี้ผลิตออกมา ท่ามกลางปัญหาต่างๆที่ปล่อยทิ้งไว้มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับปัญหาความไม่ลงรอยกัน ระหว่าง เจ้าของผลงานมังงะต้นฉบับ กับ ฝั่งผู้สร้างละคร ที่ดูเหมือนต่างฝ่ายต่างมีความต้องการไปกันคนละทิศทาง อย่างสิ้นเชิง

อย่างไรก็ตาม NTV สถานีโทรทัศน์ ผู้สร้างฉบับละครจากมังงะเรื่องนี้ ได้ทำการสอบสวนปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นการภายใน เมื่อ มิ.ย. 2024 และได้ข้อสรุปว่า นอกจากปัญหาการถ่ายทำ ที่มีระยะเวลากระชั้นชิดจนเกินไปแล้ว สาเหตุหลักๆที่ทำให้เกิดปัญหานี้ขึ้น มาจากการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน และ คลาดเคลื่อนกัน มาโดยตลอด ระหว่าง อ.Ashihara เจ้าของผลงาน กับ ทีมผู้สร้างละคร โดยมี สนพ.Shogakukan ต้นสังกัดของ อ.Ashihara เป็นผู้ประสานงานระหว่าง 2 ฝ่าย ....ซึ่งนอกจาก ฝ่ายเจ้าของผลงาน กับ ผู้สร้างละคร ไม่ได้มีการพูดคุยกันโดยตรงแล้ว ทาง Shogakukan เอง กลับไม่ได้บอกข้อมูลสำคัญจากเจ้าของผลงานให้ทีมผู้สร้างละคร ได้รับทราบความต้องการที่แท้จริงของ อ.Ashihara ใดๆ

ผลจากการสอบสวนของ NTV ในเคสที่เกิดขึ้น นำไปสู่การปรับปรุงมาตรฐานการถ่ายทำละครทีวีของพวกเขา เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำรอยอีกต่อไป ซึ่งมีตั้งแต่ การให้เจ้าของผลงาน ได้พบเจอ กับ พูดคุย ผู้สร้างละคร โดยตรง, เพิ่มระยะเวลาการถ่ายทำละครให้นานขึ้น รวมถึง มีการจัดหาทีมงาน กับ ปรับปรุงทรัพยากรบุคคลให้ดียิ่งขึ้น แล้วก็ จัดทั้ง"ทีมงานแก้ปัญหาทางโซเชียลมีเดีย"

ในขณะเดียวกัน Shogakukan ได้วางจำหน่ายฉบับรวมเล่มที่ 8 รวมไปถึง มีแผนจะวางจำหน่ายฉบับรวมเล่มที่เหลือของมังงะเรื่องนี้ เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อ อ.Ashihara ผู้จากไป

จากเคสนี้ ก็คล้ายๆกับเรื่องราวหนึ่งในมังงะ-อนิเม Oshi no Ko เกิดใหม่เป็นลูกโอชิ ที่มีการนำเสนอเนื้อหา การนำ Tokyo Blade มังงะในเรื่องนี้ ไปดัดแปลงเป็นละครเวที ซึ่งกว่าที่ละครเวทีของ Tokyo Blade จะเกิดขึ้นได้นั้น ก็ต้องประสบปัญหามากมายร้อยแปด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ ปัญหาความไม่ลงรอยกัน ระหว่าง เจ้าของผลงานมังงะ กับ ผู้เขียนบทละครเวที ที่ต้องมาสื่อสารกันผ่านคนกลาง (ซึ่งก็คือ สนพ.ต้นสังกัด) ไม่ได้สื่อสารโดยตรง ที่เหมือนกับเคสที่เกิดจริง อย่างเคสนี้!!...เพียงแต่ ปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นในลูกโอชิ กลับจบลงด้วยดี ไม่เหมือนกับเคสนี้ ที่ลงเอยด้วยโศกนาฏกรรม ชนิดที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น.....

รอบปีมังกร 2024 ที่ผ่านมานั้น อีกสิ่งหนึ่งที่ถือเป็นเรื่องเด่นประจำปี และสร้างความปลื้มปริ่มให้แก่คอการ์ตูนเด็กหนวด ผู้โตมาในยุค 90 หรือก่อนหน้านั้น จากการที่ปีนี้ พบว่ามีการประกาศโปรเจ็คอนิเมจากการ์ตูนดังในสมัยก่อน ที่บรรดาคอการ์ตูนที่ทันในยุคนั้น ออกมามากมาย ให้แฟนๆการ์ตูนรุ่นเก่าได้หวนคิดถึง รวมถึง ให้คอการ์ตูนรุ่นใหม่ ได้ทำความรู้จัก กับ สัมผัสไปกับเรื่องราวความประทับใจของการ์ตูนเหล่านั้น

เริ่มจาก อนิเมฉบับรีเมคของ Ranma 1/2 ที่เป็นการนำเอามังงะซีรี่ย์น้ำร้อน-เย็น สลับร่าง ของ อ.Rumiko Takahashi มานำเสนอใหม่ ให้ทันสมัยขึ้น ดูไปคิดถึงไป กับ วีรกรรมของรันม่าชาย-หญิง ผู้พยายามจะพิชิตใจ อากาเนะ แบบซึนมาซึนกลับไม่โกง พร้อมกับเหล่าตัวละครสมทบสุดเพี้ยนที่คอยสร้างสีสันตลอดทั้งเรื่อง .... โดยการมาของอนิเมใหม่ของรันม่านี้ มีกระแสการตอบรับอย่างอบอุ่น ทั้งจากผู้ชมที่เป็นคอเมะรุ่นเก่า ยันรวมถึง กลุ่มผู้ชมสมัยใหม่ จนทำให้อนิเมชุดนี้ ได้ไปต่อในซีซั่น 2 แล้วก็

นอกจาก อนิเมรันม่า เวอร์ชั่นใหม่ ได้ออกสู่สายตาผู้ชมแล้ว ก็ยังมีอนิเมเก่าอีกหลายเรื่อง ที่กำลังจ่อคิวออกอากาศให้แฟนๆได้รับชม ตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป อาทิ YAIBA เจ้าหนูซามูไร ฉบับรีเมค จากผลงานมังงะของ อ.Gosho Aoyama (ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับ Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร ) ที่ยังคงได้ Minami Takayama มาพากย์เสียง Kurogane Yaiba เหมือนเดิม, อนิเมซีรี่ย์ชุดใหม่ของ Jigoku Sensei Nube หรือ มืออสูรล่าปีศาจ , อนิเมใหม่ของ Magic Knight Rayearth , หนังอนิเม The Rose of Versailles / กุหลาบแวร์ซายส์ ที่ได้สตูดิโอ MAPPA เป็นผู้จัดทำ รวมไปถึง ฉบับอนิเมของ Hanazakari no Kimitachi e หรือ สับขั้วมาลุ้นรัก มังงะโชโจเรื่องดัง แห่งยุค 2000 เป็นต้น

นอกเหนือจากมังงะเก่าๆ ที่ได้รับการจัดทำในรูปแบบอนิเมใหม่ล่าสุดแล้ว ก็ยังมี มังงะเรื่องดังในสมัยก่อน ที่กลับมาคืนชีพอีกครั้ง กับเรื่องราวภาคใหม่ล่าสุด ซึ่งก็คือ D.N.Angel ที่ อ.Yukiru Sugisaki ตัดสินใจเขียนภาคใหม่ หลังจากจบมังงะภาคแรกไป 3 ปี กับ ภาคที่มีชื่อว่า DDNAngels