สรุปข่าววงการการ์ตูนประจำปี 2564 (1) :
เหตุการณ์ ปรากฏการณ์ ข่าวสำคัญ วงการการ์ตูนประจำปี 2564

ปี 2021 ที่กำลังจะผ่านพ้นไป ก็ยังคงเป็นปีแสนสาหัสของใครหลายคน นับตั้งแต่ วิกฤต COVID-19 ที่ยังไม่จบไม่สิ้น จากการที่ตัวเชื้อโรคก็ขยันอัพเกรดแพตช์เก่งไรเก่ง ซะจนเหนื่อยใจ รวมไปถึงการจัดการของภาครัฐ และ ผู้เกี่ยวข้อง ที่ไม่ทันใจนัก ซึ่งส่งผลกระทบต่อทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เพียงแค่เฉพาะเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ก็ยังรวมถึงเรื่องของวิกฤตความขัดแย้งการเมือง ที่ทุกวันนี้ ก็ยังไม่มูฟออน 'สลิ่ม' กับ '3 นิ้ว/กีบ' ซะที และคงยากที่จะจบในรุ่นเรา .....สิ่งที่ทำได้ตอนนี้ ก็ได้แต่ให้กำลังใจตัวเอง ในการต่อสู้ชีวิต รับมือกับโรคระบาด และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด ซึ่งในยามนี้ หากมองในแง่ดี ก็เป็นช่วงเวลาที่ใครหลายคนได้มองเห็นช่องทางใหม่ๆ ในการประกอบอาชีพ , การสร้างรายได้ให้ตัวเอง ผ่านทางเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่มีตั้งแต่ขายของออนไลน์ , เป็นอินฟลูเอนเซอร์ หารายได้จากโฆษณา หรือจะ เป็นการลงทุนเงินคริปโต เงินดิจิตอล ขายผลงานศิลปะผ่าน NFT ที่มีแนวโน้มได้รับความนิยมมากขึ้น

 

ในส่วนของข่าวคราวในวงการการ์ตูน รอบปี 2021 ก็มีเรื่องราวต่างๆเกิดขึ้นหลายอย่าง โดยตอนแรกของบทความนี้ เป็นการทบทวนเรื่องราวต่างๆ ที่ได้เกิดขึ้นในวงการการ์ตูน รอบปี 2021 อีกจำนวนราว 10 กว่าหัวข้อ มาสรุปกันให้ได้รับทราบพอสังเขป .........เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น เราไปทบทวนกันเลยครับ!!!



เหตุการณ์ ปรากฏการณ์ ข่าวสำคัญ วงการการ์ตูนประจำปี 2564

 


  # วงการการ์ตูนโลก ยังมิอาจพ้นภัย Covid-19

Covid-19 / Coronavirus ไวรัสมหันตภัยที่ได้เริ่มสร้างความลำบากให้แก่มนุษยชาติ มาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2019 เป็นต้นมา จนถึงขณะนี้ ไวรัสดังกล่าว ได้แพร่กระจายไปทั่วโลก และมนุษย์เราก็ได้อยู่ร่วมกับมันมาเป็นเวลา 2 ปี แล้ว ซึ่งการระบาดของไวรัสชนิดนี้ ที่เล่นขยันอัพแพตช์ กลายพันธุ์ อย่างเมามันส์ ตั้งแต่ อัลฟ่า , เบต้า ในช่วงต้นปี ยันจนถึง เดลต้า ที่กินเวลาระบาดมายาวนาน แล้วก็ โอไมครอน ที่มาอุบัติขึ้นตอนปลายปีที่ผ่านมา ซะจนสร้างความยากลำบากในการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึง ยังได้พรากชีวิตผู้คนเป็นจำนวนมาก ไม่เว้นแต่ละวัน

จากการมีอยู่ของ Covid-19 ในตอนนี้ ก็ยังคงส่งผลกระทบต่อทุกภาคธุรกิจ ทุกวงการ ไม่เว้นแม้แต่วงการการ์ตูนอนิเมทั้งฝั่งญี่ปุ่น และ ตะวันตก ที่ต้องประสบปัญหาลำบากมากมายที่กินเวลามาตั้งแต่ปี 2020

 

เริ่มจากที่ญี่ปุ่น การระบาดของ Covid-19 ส่งผลทำให้หนังอนิเม , หนังคนแสดงจากการ์ตูน , หนังฮีโร่แปลงร่าง จำนวนหนึ่ง ต้องเลื่อนกำหนดการฉายบนโรงกันให้วุ่น ส่งผลทำให้ Box Office ญี่ปุ่น มีรายได้รวมต่ำสุดในรอบ 20 ปี ที่ 143.285 พันล้านเยน แม้ว่า จะได้หนังอนิเม Kimetsu no Yaiba THE MOVIE Mugen Train / ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่ : ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ จะเป็นเดอะแบกให้กับ Box Office ญี่ปุ่นในยามนี้ ก็ตาม ในส่วนของ TOHO ผู้จัดจำหน่ายหนังรายใหญ่ของญี่ปุ่น กลับมีผลประกอบการช่วงครึ่งปีแรกของปี 2021 ที่เพิ่มขึ้นจากปี 2020 แต่ถ้าเอาไปเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2019 พบว่า ลดลงฮวบถึง 44% ด้วยกัน

เช่นเดียวกับ Bushiroad รวมถึงบริษัทผู้ผลิตอนิเม และมังงะ เจ้าอื่นๆ ต่างก็ประสบปัญหาด้านการเงิน ในช่วงเวลานี้ ซะจนทำเอา อุตสาหกรรมอนิเมญี่ปุ่น มีรายได้ที่ต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีรายงานว่า มีสตูดิโออนิเมอย่างน้อย 1 แห่ง ต้องถูกล็อคดาวน์ เนื่องจากมีการเกิดคลัสเตอร์โควิด 19 เช่นกัน

ในส่วนงานอีเว้นต์ที่เกี่ยวข้องกับ การ์ตูน-อนิเม ในญี่ปุ่น บางงานได้รับอนุญาตให้จัดได้ แต่จากการที่ต้องมีการจำกัดผู้เข้าชมงาน ก็ส่งผลทำให้ผู้จัดงานหลายเจ้า เลือกที่จะยังไม่จัดงานแบบออนไซต์ ในตอนนี้ แต่ยังคงจัดในรูปแบบออนไลน์กันต่อไปยาวๆ หรือไม่ก็แบบไฮบริด ทั้งสถานที่จริง และ ออนไลน์ เช่น World Cosplay Summit 2021 , Jump Festa 2022 เป็นต้น

โดย ญี่ปุ่น มีช่วงการระบาด Covid-19 สูงสุด อยู่ในช่วงของมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2020 ซึ่งก็ทำเอาคนในวงการบันเทิง , คนในวงการอนิเม พากันติดเชื้อ Covid-19 เป็นจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง จะมีแต่เพียง Sonny Chiba นักแสดงรุ่นเก๋าของญี่ปุ่น ที่ได้จากลาโลกนี้ไป ด้วยอาการภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น จากการติดเชื้อไวรัสร้ายนี้

อย่างไรก็ตาม หลังจากรบ.ญี่ปุ่น ได้ยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่น เมื่อสิ้นเดือน ก.ย. 2021 ก็ทำให้สถานการณ์ Covid-19 ที่ญี่ปุ่นเริ่มดีขึ้นตามลำดับ ประกอบกับ การที่ประชาชนของที่นั่น ได้รับวัคซีนโควิดกันมากขึ้น ส่งผลทำให้ รบ.ญี่ปุ่น ไฟเขียว ได้ปรับจำนวนยอดผู้เข้าชมอีเว้นต์ ตามสถานที่จริง จาก 10,000 คน เป็น 50% ของความจุสถานที่จัดงานแทน และจากสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้ทางผู้จัดงาน Comiket / Comic Market เดินหน้าที่จะจัดงาน Comiket 99 ตามสถานที่จริง ณ Tokyo Big Sight กันอีกครั้ง ในช่วงสิ้นปี 2021 ซึ่งก็มาพร้อมกับมาตรการเข้างานที่เข้มงวดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับการให้ผู้เข้าชมงานต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน หรือ แสดงผลการตรวจ PCR-Test ที่มีผลออกมาเป็นลบ เช่นเดียวกับงาน AnmeJapan 2022 เตรียมจะต้อนรับผู้เข้าชมงานครั้งแรกในรอบ 3 ปี ช่วง มี.ค. 2022 (แต่เป็นการจัดงานผสมผสานระหว่างออนไซต์ กับ ออนไลน์)


ข้ามฝั่งไปที่วงการการ์ตูนฝั่งตะวันตก ก็เจอปัญหาคล้ายๆกับที่ญี่ปุ่น ซึ่งมีตั้งแต่การยกเลิกจัดงานอีเว้นต์ตามสถานที่จริง ทั้ง Comic-Con 2021 , ทัวร์นาเม้นต์การแข่งขัน Yu-Gi-Oh! World Championship 2021 เป็นต้น ส่วนบางงาน ก็ยังคงจัดตามสถานที่จริงเหมือนเดิม เพียงแต่มีการขอหลักฐานการฉีดวัคซีนด้วย แต่ถึงกระนั้น ก็เกิดข่าวสะพรึงกลัว จากการที่ หนึ่งในผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ โอไมครอน ในอเมริกา ดันมาเที่ยวชมงาน Anime NYC ในมหานครนิวยอร์ค ซึ่งก็สร้างความหวาดผวาให้แก่ผู้คนที่นั่นไปตามๆกัน

ไม่เพียงเท่านั้น การแพร่ระบาดของ COVID-19 ยังได้ส่งผลกระทบถึง การขาดแคลนสินค้ามังงะ ซึ่งน้อยเกินกว่าความต้องการของนักอ่านชาวอเมริกัน เล่นเอา บรรดาร้านหนังสือ และ ผู้ค้าปลีก และผู้เกี่ยวข้องในวงการนำเข้า สิ่งพิมพ์ ในอเมริกาเหนือ พากันปวดหัวไปตามๆกัน หลักๆนั้น ก็มาจากปัญหาซัพพลายเชน , การขาดแคลนคนขับรถบรรทุก , ความหนาแน่นแออัดของท่าเรือ ,ต้นทุนคอนเทนเนอร์ที่สูงเกินจริง รวมถึง ปัญหาเครื่องพิมพ์ การจัดพิมพ์ ฯลฯ




# One Piece : กับการเดินทางพ้นหลัก 1,000 ตอน ทั้ง มังงะ-อนิเม

One Piece Manga

One Piece มังงะซีรี่ย์โจรสลัดของ อ.Eiichiro Oda ยังคงเป็นมังงะที่มีประเด็นให้แฟนๆได้พูดถึงทุกปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเรื่องราวการผจญภัยของ Luffy และ พรรคพวก นั้น มันช่างกว้างใหญ่ ยาวไกล ที่แฝงมากับปริศนาเรื่องราวต่างๆมากมาย (พร้อมกับประเด็นปัญหาความแข็งแกร่งของตัวละคร ซะจนต้องมาตั้งกระทู้เปรียบเทียบบนเว็บบอร์ดอยู่บ่อยครั้ง 555) จนยากที่จะระบุได้ว่า พวกเขาจะพบเจอ 'One Piece' กันเมื่อใด (แม้ว่า อ.Oda จะออกมาเน้นย้ำว่า มังงะเรื่องนี้จะจบใน 4-5 ปี ตามบทสัมภาษณ์ต่างๆ ในช่วงหลังๆก็ตาม)

ในระหว่างที่ก๊วนหมวกฟางกำลังเดินหน้าต่อสู้กับเหล่าศัตรูที่คอยขวางกั้นอยู่นั้น เรื่องราวของมังงะเรื่องนี้ ก็ได้ผ่านพ้นเรื่อยไป จนถึงตอนที่ 1,000 อย่างเป็นทางการ เมื่อช่วงต้นปี 2021 ซึ่งตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Shonen Jump ฉบับที่ 5-6/2021 ไม่เพียงเท่านั้น เนื้อหาฉบับอนิเมทีวีของพวกเขา ก็ทะลุเกิน 1,000 ตอน เช่นกัน โดย ออกอากาศตอนที่ 1,000 ไปเมื่อ 21 พ.ย. 2021

One Piece Anime

นอกจาก มังงะ-อนิเม จะเดินทางมาถึงพันตอนแล้ว ฉบับมังงะรวมเล่มของเรื่องนี้ ก็ได้ทะลุถึง เลข 3 หลัก กับ เล่มที่ 100 ที่วางขายไป เมื่อ ก.ย. 2021 (ดังจะกล่าวเพิ่มเติม ในข่าวข้างล่าง) ซึ่งการมาเล่มที่ 100 ของ One Piece ได้สร้างสถิติน่าสนใจ คือ ฉบับมังงะรวมเล่มแบบตีพิมพ์ ทั้ง 100 เล่มของ One Piece ต่างมียอดขายทะลุเกิน 1 ล้านเล่ม ทุกเล่ม แถม ฉบับรวมเล่ม 51 เล่ม ของ One Piece ที่ติดชาร์ตมังงะขายดีของ Oricon ต่างสามารถทำยอดขายเปิดตัวสัปดาห์แรก ด้วยอันดับ 1 ถึง 50 เล่ม ด้วยกัน (อนึ่ง Oricon ได้เริ่มจัดทำสถิติมังงะขายดีประจำสัปดาห์ ตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา

โดยรวมนั้น เป็นปีที่ One Piece ถูกโฉลกกับเลขฐานสองจริงๆ (ใครที่เรียนคอม , หรือ โปรแกรมมิ่งพื้นฐานมา ก็พอจะเก็ตกับสิ่งที่เราพยายามจะสื่อ) และจากการที่มังงะเรื่องนี้ ตีพิมพ์ถึง 1,000 ตอน นี้เอง ทำให้ สนพ. Shueisha ได้ผุดกิจกรรมเฉลิมฉลองออกมามากมาย หนึ่งในนั้น ก็คือ กิจกรรมที่ให้แฟนๆทั่วโลกได้ร่วมโหวตตัวละครขวัญใจชาวโลกของ One Piece ซึ่งผลที่ออกมานั้น ก็ไม่พลิกโผ เมื่อ Luffy กัปตันของกลุ่มหมวกฟาง สามารถครองใจชาวโลกได้เป็นอันดับ 1

แม้ว่าล่าสุด อ.Oda จะยืนยันเองบนหน้าโฆษณาหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่นว่า มังงะ One Piece ได้เข้าสู่สเตจสุดท้ายแล้ว แต่ถึงกระนั้น แฟนก็ยังคงต้องติดตามเรื่องราวมังงะในช่วงที่เหลืออยู่นี้ อย่างกระชั้นชิด รวมถึง โปรเจ็คอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้ง อนิเมทีวี , หนังอนิเมชุดใหม่อย่าง One Piece Film : Red ที่เพิ่งมีการประกาศไป รวมไปถึง ละครซีรี่ย์คนแสดงตะวันตกของเรื่องนี้ โดย Netflix ที่ได้มีการเผยโฉมหน้าของนักแสดงนำออกมาแล้ว.....

 




# One Piece & Conan ควงคู่ พามังงะรวมเล่ม ผ่านหลักไมล์ เล่มที่ 100 !!


 

One Piece & Conan Vol.100

นอกจากเหล่าโจรสลัดหมวกฟาง One Piece จะสร้างสถิติของตัวเอง ด้วยการตีพิมพ์มังงะ และ ออกอากาศอนิเม ทะลุถึง 1,000 ตอน ในปี 2021 ตามที่เราได้นำเสนอไปข้างต้นนั้น พวกเขาก็ยังได้ออกวางจำหน่าย มังงะ ฉบับรวมเล่มที่ 100 ด้วยเช่นกัน!! ที่น่าสนใจก็คือ One Piece ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องเดียว ที่มีมังงะรวมเล่ม ทะลุถึงเลข 3 หลัก ในปี 2021 แล้ว ก็ยังมี มังงะดังอีกเรื่อง ที่มีแฟนคลับติดตามเป็นจำนวนมาก ไม่หยิ่งหย่อนแพ้กัน นั่นคือ ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน นั่นเอง!!!!!

โดย One Piece วางจำหน่ายเล่มที่ 100 ของตัวเอง เมื่อ 3 ก.ย. 2021 ก่อนที่ Conan จะวางขายเล่มที่ 100 ของตัวเองในญี่ปุ่น ในอีก 1 เดือนต่อมา ซึ่งการมาของเล่มที่ 100 ของทั้งสองเรื่องนี้ ต่างทำให้ One Piece มียอดตีพิมพ์ทั่วโลก 490 ล้านเล่ม ส่วน Conan มียอดตีพิมพ์ทั่วโลก 250 ล้านเล่ม ตามลำดับ โดยฉบับมังงะรวมเล่มที่ 100 ของสองเรื่องนี้ ต่างก็ขายดิบขายดีในญี่ปุ่น ชนิดที่คนญี่ปุ่นอยากเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้น ทำให้ เล่มที่ 100 ของ One Piece และ Conan ต่างสามารถครองอันดับ 1 บนชาร์ตมังงะขายดีประจำสัปดาห์ของ Oricon

หากจะว่ากันตามจริง Conan นั้น ตีพิมพ์ก่อน One Piece ซะอีก โดย อ.Gosho Aoyama เขียน Conan ขึ้นครั้งแรก เมื่อปี 1994 ในนิตยสาร Shonen Sunday ส่วน อ.Eiichiro Oda เขียน One Piece ครั้งแรก เมื่อปี 1997 โดย Conan นั้น ตีพิมพ์ถึงตอนที่ 1,000 ไปเมื่อปี 2017 ( ปรากฏใน ฉบับมังงะรวมเล่มที่ 94 ของ Conan) แต่จากการที่ อ.Aoyama ได้หยุดเขียน Conan บ่อยครั้งขึ้นในช่วงพักหลัง แถมบทจะหยุดที ก็หยุดยาวซะด้วย กว่าที่ Conan จะวางขายเล่มที่ 100 ได้ ก็มาประจวบเหมาะในปี 2021 พอดี

.....และในเมื่อ มังงะดังขวัญใจนักอ่านชาวไทยทั้งสองเรื่อง ต่างออกวางจำหน่ายเล่มที่ 100 ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ทำให้ อ.Oda ผู้แต่ง One Piece ได้ออกมากล่าวแสดงความยินดี อ.Aoyama ผู้แต่ง Conan บนคอลัมน์คอมเม้นต์นักเขียน ที่ปรากฏในนิตยสาร Shonen Jump ฉบับที่ 49/2021

นอกจากทั้งสองเรื่อง จะวางจำหน่ายมังงะเล่มที่ 100 ในปีเดียวกันแล้ว ฉบับอนิเมทีวีของทั้งสองเรื่องนี้ ต่างก็ออกอากาศทะลุหลักพันตอน เช่นกัน!!!!! โดย ตอนที่ 1,000 อนิเมของ Conan ออกอากาศเมื่อ 6 มี.ค. 2021 (เป็นคดี Moonlight Sonata เวอร์ชั่นรีเมคใหม่) ส่วน ตอนที่ 1,000 ของอนิเม One Piece ออกอากาศเมื่อ 21 พ.ย. 2021 ตามลำดับ ..... เรียกได้ว่า เป็นปีที่สมพงษ์กันของทั้งสองเรื่องนี้เลยจริงๆ!!!

 

 


# Evangelion ปิดฉากเรื่องราวสมบูรณ์ สมการรอคอย

Evangelion: 3.0+1.0

เรื่องราวของหนังอนิเมญี่ปุ่น ในรอบปี 2021 นอกจากจะมี Kimetsu no Yaiba THE MOVIE Mugen Train / ดาบพิฆาตอสูร เดอะ มูฟวี่ ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ ที่ยังคงมีกระแสปังข้ามปี แล้ว

หนังอนิเมอีกเรื่องนึง ที่เราจะอดพูดถึงไปไม่ได้ คงหนีไม่พ้น Evangelion: 3.0+1.0: Thrice Upon A Time (Shin Evangelion Gekijō-ban :||) หนังชุดที่ 4 ของโปรเจ็ค Rebuild of Evangelion ที่ถือเป็นการปิดฉากเรื่องราวที่เกิดขึ้นของซีรี่ย์อนิเมไซไฟสุดปรัชญาอย่างสมบูรณ์แบบ หลังจากปล่อยให้แฟนๆรอคอยมาหลายปีดีดัก นับตั้งแต่ Evangelion 3.0 ออกฉายไปเมื่อปี 2012

แต่กว่าที่ Evangelion 3.0+1.0 จะฉายได้นั้น พวกเขาก็ต้องประสบกับอุปสรรคต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ วิกฤตการระบาดของ Covid-19 ในญี่ปุ่น ที่ส่งผลทำให้ตัวหนังต้องเลื่อนฉายแล้วฉายอีก จากเดิมที่จะฉายช่วงกลางปี 2020 จนกระทั่ง ในที่สุด หนังอนิเมความยาว 2 ชั่วโมง 34 นาที ชุดนี้ (เป็นหนังที่ยาวที่สุดของ Evangelion และ หนังอนิเมญี่ปุ่นความยาวมากที่สุด เป็นอันดับ 3) ก็ได้เข้าฉายบนโรงอย่างจริงๆจังๆ กัน เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2021 ซึ่งตรงกับวันจันทร์ (ต่างจากหนังใหม่เรื่องอื่น ที่มักจะเข้าฉายบนโรงวันแรกที่ญี่ปุ่น ในวันศุกร์ หรือ เสาร์) โดยการฉายบนโรงวันแรกของหนังชุดนี้ ได้ทำสถิติ หนังที่ทำรายได้เปิดตัววันแรกสูงสุด ในบรรดาหนังอนิเมของ Evangelion ทุกภาค แถมยังทำสถิติ เป็นหนังที่ทำรายได้เปิดตัวบนโรงหนังในระบบ IMAX ได้สูงที่สุด ในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น เช่นกัน

โดย Eva 3.0+1.0 รั้งอันดับ 1 บน Box Office ญี่ปุ่น ได้ถึง 6 สัปดาห์ (โดยเป็นการครองอันดับ 1 ถึง 5 สัปดาห์แรก) สามารถกวาดรายได้จากการฉายในญี่ปุ่นทั้งสิ้น 1.028 หมื่นล้านเยน จากยอดขายตั๋วมากกว่า 6.69 ล้านใบ ทำสถิติเป็นหนังแฟรนไชส์ Evangelion ที่กวาดรายได้สูงที่สุด และเป็นหนังชุดแรกของแฟรนไชส์นี้ ที่สามารถทำรายได้ทะลุหมื่นล้านเยน รวมไปถึง ยังเป็นหนังที่ทำเงินสูงสุดของ ผกก. Hideaki Anno ด้วยเช่นกัน (รายได้ของตัวหนัง รวมเอาหนังเวอร์ชั่นอัพแพตช์ อย่าง Eva 3.0+1.01 เข้าไปด้วย ) แล้วก็ เป็นภาพยนตร์ที่กวาดรายได้สูงสุดในญี่ปุ่น ประจำปี 2021 นี้ เช่นกัน

หลังจากตัวหนังได้ออกจากโรงหนังขนาดใหญ่ในญี่ปุ่นหลายแห่ง ตัวหนังก็ได้มีการฉายสตรีมมิ่งบน Amazon Prime Video เมื่อเดือน ส.ค. 2021 ซึ่งการมาของหนังชุดนี้ ยังสามารถทุบสถิติยอดวิววันแรกสูงสุดของ Amazon Prime Video ในญี่ปุ่น อีกด้วย

ในช่วงที่ Eva 3.0+1.0 กำลังเข้าฉายบนโรงที่ญี่ปุ่น ได้สร้างกระแส Talk of the Town ไปทั่วเกาะญี่ปุ่น ไปพร้อมกับพฤติกรรมอย่าหาทำจากแฟนๆบางกลุ่ม ทั้งลักลอบอัดเนื้อหาหนังไปเผยแพร่ตามสื่อออนไลน์ หรือ ออกมาข่มขู่แสดงความอาฆาตถึงทีมงานของ Khara สตูดิโอผู้ผลิตหนังชุดนี้ ถึงกระนั้น เกี่ยวกับฟีดแบ็คโดยรวมของหนังชุดนี้ ก็ออกมาค่อนข้างประทับใจ ไปกับเรื่องราวของหนัง ที่เป็นการสรุปเนื้อหาที่เกิดขึ้นใน Rebuild of Evangelion 3 ภาคแรก ได้อย่างลงตัว ประกอบกับ ได้เห็นถึงพัฒนาการของตัวละครหลักที่เติบโตมากขึ้น และแน่นอน ยังแฝงถึงปรัชญาการใช้ชีวิต อย่างล้ำลึก ตามคอนเซ็ปต์ของเรื่องนี้ (แม้จะมึนๆงงๆ ตามสไตล์ของเรื่องนี้ เช่นเคย) จนเรียกได้ว่า เป็นการปิดตำนานซีรี่ย์เรื่องนี้อย่างสมบูรณ์แบบ สมกับที่แฟนๆรอคอยมานานเกือบทศวรรษ

นอกจากตัวหนังจะปังแล้ว ก็ยังส่งผลต่อเพลงประกอบหนัง อย่าง One Last Kiss เพลงประกอบหนังชุดนี้ ที่ขับร้องโดย Hikaru Utada มียอดดาวน์โหลดพุ่งกระฉูด 72,000 ครั้ง ในสัปดาห์แรก และเข้าป้ายอันดับ 1 ในชาร์ตซิงเกิ้ลดิจิตอลประจำสัปดาห์ แถมยอดดาวน์โหลดเพลงนี้ในสัปดาห์แรก ยังสร้างสถิติเป็นเพลงที่มียอดดาวน์โหลดในสัปดาห์แรกสูงสุด ประจำปี 2021 ของ Oricon อีกด้วย

หลังจาก Evangelion จบลงอย่างสมบูรณ์ เราจะได้สัมผัสกับโปรเจ็คใหม่ๆ ของ ผกก.Anno กันต่อไป ในอนาคตอันใกล้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโปรเจ็คตระกูล 'Shin' ที่เขาได้ผุดขึ้นมามากมาย ทั้ง Shin Ultraman , Shin Kaman Rider แล้วก็ Shin Complete Thunderbirds




# Attack on Titan : รูดม่านปิดฉาก "ซาซาเกโย" กว่า 11 ปีครึ่ง อย่างสมบูรณ์

บรรดามังงะซีรี่ย์ที่ได้ปิดฉากเรื่องราวของตัวเองไป ในรอบปี 2021 นี้ เรื่องที่ถือว่าเป็นไฮไลต์เด่นสุดประจำปี คงหนีไม่พ้น Attack on Titan ผ่าพิภพไททัน ผลงานมังงะแอ็คชั่นปีนกำแพงต่อสู้ยักษ์ใหญ่ เรื่องดังของ อ.Hajime Isayama กันอย่างแน่นอน!! หลังจากดำเนินเรื่องราวการต่อสู้อย่างเสียสละของเหล่ากองกำลังนักสำรวจ มายาวนานถึง 11 ปีครึ่ง ในที่สุด อ.Isayama ก็นำพาเรื่องนี้ ผ่านโค้งสุดท้าย เข้าสู่บทสรุปอย่างสมบูรณ์ กับตอนที่ 147 ในนิตยสาร Bessatsu Shonen Magazine ฉบับ พ.ค. 2021 ที่วางจำหน่ายเมื่อ เม.ย. 2021 ก่อนที่ฉบับมังงะเล่ม 34 เล่มสุดท้ายของเรื่องนี้ จะวางจำหน่ายที่ญี่ปุ่น ในเดือน มิ.ย. 2021

โดยตอนจบของเรื่องนี้ ก็มีฟีดแบ็คจากแฟนๆอย่างหลากหลาย ตั้งแต่ชื่นชอบ พอใจ ยันจนถึง ไม่ประทับใจ (จากการเห็นจุดจบของตัวละครเอกของเรื่อง ออกมาเป็นแบบนี้) แต่ถึงกระนั้น ตอนจบของไททัน ได้ทำให้แฟนๆของเรื่องนี้ พากันแห่ซื้อ Bessatsu Shonen Magazine ฉบับดังกล่าว จนเกลี้ยงแผง ซะจนทำให้ สนพ. Kodansha ตัดสินใจตีพิมพ์นิตยสารฉบับดังกล่าว เพิ่มเติม

เท่านั้นไม่พอ Kodansha ได้จัดแคมเปญฉลองตอนจบของไททัน ตลอดทั้งปี ซึ่งมีตั้งแต่ นิทรรศการ , มังงะเล่ม 1 ขนาด 'ไททัน' แบบบิ๊กเบิ้ม จนได้รับรองสถิติ Guinness Book ในฐานะ หนังสือการ์ตูนฉบับตีพิมพ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก , เปิดตัวอนุสาวรีย์หล่อบรอนซ์ของ Levi ฯลฯ เช่นเดียวกับ สนพ. วิบูลย์กิจ ต้นสังกัดมังงะเรื่องนี้ในไทย ก็ได้สั่งลามังงะเรื่องนี้ ด้วยการจัดพิมพ์ Box Set ทั้ง 34 เล่มของเรื่องนี้ อย่างอลังการและจัดหนักจัดเต็มของแถม

แม้การต่อสู้ของกองกำลังนักสำรวจจะจบสิ้นลง แต่แฟนๆก็ยังสามารถติดตามพวกเขากันต่อไป กับ อนิเมทีวี ซีซั่นสุดท้ายของเรื่องนี้ ในช่วงครึ่งหลัง ที่จะออกอากาศกัน ในเดือน ม.ค. 2022 รวมถึง โปรเจ็คหนังฮอลลิวู้ดของเรื่องนี้ ที่ไม่รู้ว่า จะได้รับชมกันเมื่อใด.....ถึงตรงนี้ ก็ขอขอบคุณ อ.Isayama ในการ 'ซาซาเกโย' สร้างสรรค์เรื่องราวของ Eren และผองเพื่อน ในการต่อสู้กับเหล่ายักษา ที่คอยสร้างความวุ่นวายไปทั่วทุกแห่งหน มาโดยตลอด ซะจนได้คว้ารางวัลเกียรติยศต่างๆ จากซีรี่ย์การ์ตูนเรื่องนี้ (ซึ่งรวมถึง รางวัล Noma Publishing Culture Award ครั้งที่ 3)

และหลังจากนี้ ขอให้ อ.Isayama สร้างความสุขให้แก่นักอ่าน กับ ผลงานเรื่องต่อๆไป รวมไปถึง ทำความฝันเปิดโรงอาบน้ำและซาวน่าของตัวเอง ให้เป็นจริง!!

 

 

อนึ่ง นอกจาก ไททัน จะเป็นมังงะซีรี่ย์บิ๊กเนมที่อวสานลงในปี 2021 แล้ว ก็ยังมีมังงะซีรี่ย์เรื่องอื่นๆ ที่จบลงในปี 2021 ก็มีดังนี้ :

Platinum End , DAYS , Hataraku Saibō Black / เซลส์ขยันพันธุ์เดือด Black , Jigokuraku สุขาวดีอเวจี , Mahō Shōjo Tokushūsen Asuka / หน่วยปฏิบัติการพิเศษสาวน้อยเวทมนตร์ Asuka , Ajin สายพันธุ์อมนุษย์ , Horimiya สาวมั่น กับ นายมืดมน , Beast Complex , AMANCHU! สาวน้อย ฟ้าใส กับโลกสีครามใบใหญ่ , New Game! , Phantom Seer หนุ่มน้อยผู้มีสัมผัสวิญญาณ , Witchcraft Works สงครามแม่มด , No Guns Life , Saint Seiya: Saintia Shō , KOI TO USO : จะรักหรือจะหลอก , Runway de Waratte /ถักทอฝันสู่รันเวย์ , Zettai Karen Children/ 3 พลัง(ป่วน)พิทักษ์โลก , Wotaku ni Koi wa Muzukashii / ยากแท้จริงหนอรักของโอตาคุ , Sou-Bou-Tei Kowasu Beshi / ถล่มเรือนอสูร โซโบเทย์ , Deadpool: SAMURAI , Hard-Boiled Cop and Dolphin (Shakunetsu no Niraikanai) , JoJo ล่าข้ามศตวรรษ Part 8 : JoJolion , ใครว่าข้าไม่เหมาะเป็นจอมมาร (ver. มังงะ) , รักอันตรายนายปีศาจคุโรซากิ , GIGANT , Oda Cinnamon Nobunaga , Jagaaan คลั่งล้างคลั่ง , Seitokai Yakuindomo , Kiss x Sis , Aa Shūkatsu no Megami-sama (Ah My Job-Hunting Goddess) , Karneval ล่าทรชน , Yakitate!! Japan Super Real


# Macross & Robotech : สิ้นสุดแห่งมหากาพย์ข้อพิพาทของเหล่าผู้สร้าง กว่า 2 ทศวรรษ

Macross & Robotech

หนึ่งในข่าวเด่นของวงการอนิเมในรอบปี ที่เล่นเอาบรรดาแฟนๆ Macross ทั่วโลก ถึงคราวเฮกันอย่างสุดเสียง อย่างแท้ทรู เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ทศวรรษ หลังจากต้องประสบกับกรณีพิพาทยื้อแย่งลิขสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ Macross นอกญี่ปุ่น ระหว่าง Big West (BW) ของญี่ปุ่น กับ Harmony Gold (HG) ของสหรัฐ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่ HG ได้หยิบเอาอนิเม Macross ภาคแรกสุด รวมถึงอนิเมแนวเมกะ-ไซไฟ อีก 2 เรื่อง ทั้ง Mospeada และ Southern Cross มาตัดต่อยำรวมกัน กลายเป็นอนิเมชั่นซีรี่ย์ Robotech ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่ผู้ชมชาวอเมริกัน ซึ่งทำเอา HG พยายามหาทางกอบโกยรายได้จาก Robotech ไปพร้อมกับเคลมความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ Macross นอกญี่ปุ่น ซึ่งก็ส่งผลกระทบต่อ โปรเจ็คที่เกี่ยวข้องกับแฟรนไชส์ Macross ของญี่ปุ่น ไม่สามารถที่จะเผยแพร่นอกญี่ปุ่นได้ จนนำไปสู่การสู้คดีกันบนชั้นศาล ระหว่าง BW กับ HG รวมถึง ผู้เกี่ยวข้อง ชนิดที่ทำเอาแฟนๆ Macross ทั่วโลก หมดสิทธิ์ที่จะได้สัมผัสกับคอนเท้นท์ต่างๆของ Macross ออกนอกญี่ปุ่น พร้อมกับพากันสรรเสริญสาปแช่ง HG มาตลอด 20 กว่าปี

หลังจาก BW กับ HG ได้ต่อสู้คดีบนชั้นศาลมานาน ซะจนทำเอาแฟนบางส่วนได้แต่ทำใจ จนกระทั่งในที่สุด บริษัทคู่กรณีคู่นี้ สามารถเคลียร์คดีข้อพิพาทได้อย่างลงตัว จากการที่ทั้งสองบริษัทได้เซ็นสัญญาข้อตกลง ที่อนุญาตให้มีการเผยแพร่ Macross ทั้งอนิเมทีวี และ ภาพยนตร์อนิเม ไปทั่วโลก ได้ โดยที่ BW จะไม่เข้ามาขัดขวาง หรือ ก้าวก่าย โปรเจ็คหนังคนแสดงของ Robotech ของ HG และ Sony Pictures รวมถึง ข้อตกลงดังกล่าว ยังเป็นการรับรองลิขสิทธิ์เฉพาะของ HG กับ Tatsunoko ในการนำเอาตัวละคร และ หุ่นเมกะ จาก Macross จำนวน 41 ตัว ไปใช้ประกอบในอนิเมชั่นทีวีซีรีย์ของ Robotech และสินค้าที่เกี่ยวข้องทั่วโลก ยกเว้น ญี่ปุ่น เพียงที่เดียว เท่านั้น โดยข้อตกลงนี้ มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่ 1 มี.ค. 2021 เป็นต้นไป

และจากการเซ็นข้อตกลงร่วมกัน ระหว่าง BW กับ HG ก็ทำให้ Macross ได้รับไฟเขียวให้เผยแพร่คอนเท้นท์ต่างๆที่เกี่ยวข้อง ออกนอกญี่ปุ่น อย่างเป็นทางการ ในปี 2021 นี้....... ซึ่งถือเป็นการปิดฉากความขัดแย้งที่มีมาอย่างยาวนานร่วม 20 กว่าปี แถมยังเป็นการตอบรับกับการเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี ของ Macross ในปี 2022 ที่จะมีโปรเจ็คใหม่ๆผุดขึ้นมา ให้ชาวโลกได้รับชมกัน เร็ววันนี้!!




# อีโวแห่งปี : ยอดรวมเล่มของ "มหาเวทย์ผนึกมาร"

Jujutsu Kaisen

สำหรับซีรี่ย์มังงะเรื่องหนึ่ง การที่ซีรี่ย์ของพวกเขามียอดตีพิมพ์-ยอดวางจำหน่ายฉบับรวมเล่มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยไป ถือเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงกระแสความความนิยมของซีรี่ย์การ์ตูนเรื่องนั้นๆ และยิ่งมังงะเรื่องไหนได้จัดทำเป็นอนิเมซีรี่ย์ อนิเมซีรี่ย์เรื่องนั้นๆ ก็มีส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มยอดฉบับรวมเล่มของมังงะซีรี่ย์เรื่องนั้นๆ ให้พุ่งสูงขึ้นยิ่งไปอีก และยิ่งอนิเมเรื่องไหน ที่ทำออกมาดี จุดกระแสติด จนเกิด Talk of the Town กันไปทั่ว ก็จะช่วยยกระดับยอดมังงะรวมเล่มเพิ่มขึ้นไปอีกเลเวลหนึ่ง!!!!

และทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานี้ ก็มีมังงะหลายเรื่องที่เข้าข่ายแบบนั้น แต่มีอยู่เรื่องหนึ่ง ที่ถือว่ามีความน่าสนใจในเรื่องของยอดตีพิมพ์ฉบับรวมเล่มที่เพิ่มขึ้นมาอย่างไม่หยุดหย่อน อย่างต่อเนื่อง ในตลอดปี 2021 นี้ ก็คงหนีไม่พ้น Jujutsu Kaisen มหาเวทย์ผนึกมาร ผลงานมังงะซีรี่ย์นักสู้ไสยเวทขมังเวท ของ อ.Gege Akutami ที่ยังคงความปังไปยาวๆ นับตั้งแต่ อนิเมทีวีซีรี่ย์ของเรื่องนี้ออกอากาศไปเมื่อ ต.ค. 2020

ก่อนที่อนิเมของเรื่องนี้จะออกอากาศในเดือน ต.ค. 2020 มังงะเรื่องนี้มียอดตีพิมพ์ฉบับรวมเลมเพียง 8.5 ล้านเล่มเท่านั้น แต่พอหลังจากอนิเมเรื่องนี้ได้ออกอากาศไป มังงะเรื่องนี้ ก็ค่อยๆขยับเพิ่มยอดตีพิมพ์มากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ 10 ล้านเล่ม
(29 มี.ค. 2020) , 15 ล้านเล่ม (16 ธ.ค. 2020) และ 20 ล้านเล่ม (13 ม.ค. 2021) ที่น่าสนใจคือ นับตั้งแต่ 13 ม.ค. - 4 มี.ค. 2021 มังงะเรื่องนี้มียอดตีพิมพ์พุ่งอีก 16 ล้านเล่ม กลายเป็น 36 ล้านเล่ม ในช่วงเวลานั้น จนกระทั่งถึง เดือน มิ.ย. 2021 มังงะเรื่องนี้มียอดตีพิมพ์พุ่งทะลุ 50 ล้านเล่ม อย่างเป็นทางการ ก่อนที่ยอดฉบับรวมเล่มของซีรี่ย์มหาเวทย์ฯ จะอัพขึ้นไปเป็น 60 ล้านเล่ม เมื่อสิ้นสุดปี 2021

Jujutsu Kaisen


นอกจากยอดตีพิมพ์ฉบับรวมเล่มของพวกเขา จะเพิ่มขึ้นอย่างอีโว พอๆกับตัวโปเกม่อนแล้ว ยอดขายฉบับรวมเล่มของมังงะเรื่องนี้ ก็ดีเยี่ยมไม่แพ้กัน ด้วยการลงเอยครองแชมป์มังงะซีรี่ย์ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ประจำปี 2021 ของ Oricon (เป็นมังงะซีรี่ย์เรื่องที่ 3 ที่ครองแชมป์ยอดขายซีรี่ย์ประจำปีในญี่ปุ่น ต่อจาก One Piece และ ดาบพิฆาตอสูร ) เช่นเดียวกับ นิยายชุด คิมหันต์ผันผ่าน สารทหวนคืน สามารถทำสถิติเป็นนิยายเล่มที่ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ประจำปี 2021


ที่น่าสนใจคือ หลังจากที่ซีรี่ย์การ์ตูนเรื่องนี้ เตรียมปล่อยหนังอนิเม Jujutsu Kaisen 0 เข้าฉายบนโรงในญี่ปุ่น ช่วงคริสต์มาสอีฟของญี่ปุ่น 2021 จะมีส่วนช่วยในการยกระดับยอดฉบับรวมเล่มเพิ่มเติมได้มากมายแค่ไหนกัน? และที่สำคัญ ยอดซีรี่ย์ของพวกเขา มีโอกาสสูงที่จะทะลุเกิน 100 ล้านเล่ม ด้วยเช่นกัน แต่ที่แน่ๆ ก็ถือเป็นช่วงจังหวะเวลาที่ดีของมหาเวทย์ฯ ในการกอบโกยสิ่งดีๆเข้ามาหาพวกเขาให้ได้มากที่สุด ก่อนที่เรื่องนี้จะเดินทางมาถึงบทสรุป อีกราวๆ 2 ปี ตามที่ อ.Akutami เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้

 




# Tokyo Revengers : มิติใหม่ ของชาวคณะโจ๋ซ่าห้าวเป้ง มาแรงแห่งปี 2021

Tokyo Revengers

ในส่วนของมังงะดาวเด่น ดาวรุ่ง พุ่งแรง ในรอบปีที่ผ่านมา บรรดานักอ่านมังงะตัวยง ก็คงมิอาจปฏิเสธไปกับผลงานความมาแรงของเหล่าวัยรุ่นเลือดร้อนแห่งแก๊งโตมัน จากมังงะ Tokyo Revengers ไปได้ และจากกระแสฉบับอนิเมที่เกิดขึ้นกับมังงะเด็กโจ๋บอยแบนด์ จากผลงานของ อ.Ken Wakui เรื่องนี้ ได้ทำให้เรื่องนี้มียอดตีพิมพ์ฉบับมังงะร่วมเล่มที่พุ่งกระฉูด อย่างก้าวกระโดด ไม่แพ้ Jujutsu Kaisen หรือ มหาเวทย์ผนึกมาร ที่ได้สร้างปรากฏการณ์ความปัง ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2020 เป็นต้นมา

Tokyo Revengers แม้มองจากภายนอก จะเป็นมังงะแนวแยงกี้ เด็กเก เก๋าโจ๋ อันธพาล ยกพวกมาต่อยตีกัน เพื่อชิงอำนาจอิทธิพลอยู่เหนือกว่าใคร แต่หารู้ไม่ว่า เรื่องนี้กลับมีรายละเอียดปลีกย่อย ที่ต่างจากแนวเด็กเกทั่วๆไป ที่ทำให้ได้รับความสนใจจากนักอ่านเป็นจำนวนมาก นั่นคือ มีการเสริมด้วยพล็อตแนวย้อนมิติทะลุเวลา เพื่อแก้ไขอดีตอันเลวร้าย นำไปสู่ปัจจุบันที่ดีขึ้นกว่าเดิม โดยนำเสนอผ่านตัวละคร Takemichi ที่เป็นเพียงชายหนุ่มขี้แพ้คนหนึ่ง ได้ทราบข่าวการจากไปของ Hana แฟนสาวสมัยม.ต้นของเขา ด้วยน้ำมือของแก๊งอันธพาล Tokyo Manji Kai (โตมัน) ซึ่งก็ทำให้เขาถึงกับใจแหลกสลาย คิดฆ่าตัวตาย แต่ทว่า เขาฟื้นขึ้นมาอีกที ก็พบว่า ตนได้ย้อนอดีตไปยังช่วงสมัยที่เขาเป็น เด็กมัธยมเก๋าโจ๋ระดับปลายแถว และจากเหตุการณ์ที่เขาได้พบเจอตัวละครสำคัญในช่วงย้อนอดีต เขาก็พบว่า ไทม์ไลน์ในยุคปัจจุบัน ได้เปลี่ยนแปลงไป นำไปสู่ความพยายามในการย้อนเวลาแก้ไขช่วงเวลาในอดีตของ Takemichi เพื่อที่จะช่วยชีวิต Hana รวมถึง บรรดาพ้องเพื่อง แก๊งโตมัน ให้เดินสู่เส้นทางที่ถูกที่ควร

นอกจากพล็อคเรื่องที่กล่าวมาข้างต้น ที่ทำให้เรื่องนี้ได้รับความสนใจจากนักอ่าน คงจะหนีไม่พ้นคาแร็คเตอร์ตัวละครในเรื่อง ที่ออกแนวเป็นเด็กโจ๋บอยแบนด์ จากการที่ผู้แต่งได้ออกแบบตัวละครหนุ่มในเรื่องได้แบบว่า เท่ห์ หล่อ ดูดี มีเสน่ห์ ถูกใจบรรดาสาวๆคอการ์ตูนเป็นยิ่งนัก ประกอบกับ การดำเนินเรื่อง ที่ได้แฝงแง่คิดดีๆ เกี่ยวกับการต่อสู้ การปกป้องคนรัก คนสำคัญ และการใช้ชีวิตวัยรุ่น ที่ทำออกมาได้โดนใจเช่นกัน ....

โดยจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เรื่องนี้ มีกระแสปังทั่วบ้านทั่วเมือง ก็มาจากการมาของฉบับอนิเมทีวี ที่ออกอากาศไปเมื่อ เม.ย. 2021 ซึ่งก่อนที่อนิเมเรื่องนี้จะออกอากาศ มังงะเรื่องนี้ มียอดตีพิมพ์อยู่ที่ 10 ล้านเล่ม เมื่อ 31 มี.ค. 2021 พอหลังจากที่อนิเมเรื่องนี้ออกอากาศไปไม่นาน ฉบับรวมเล่มของเรื่องนี้ สามารถขายได้โดยเฉลี่ย 2.4 เล่ม ต่อ 1 วินาที (ตามคำกล่าวอ้างโดย สนพ.Kodansha ต้นสังกัดของมังงะเรื่องนี้) จนส่งผลทำให้ชาวแก๊งโตมัน มียอดตีพิมพ์/จำหน่าย ฉบับรวมเล่ม ทะลุเกิน 40 ล้านเล่ม เมื่อ ก.ย. 2021

ไม่เพียงเท่านั้น หนังคนแสดงของเรื่องนี้ ก็มีส่วนร่วมในการช่วยโหมกระแสความฮ็อตของโตมันได้เป็นอย่างดี แม้ว่าตัวหนังจะเข้าโรงที่ญี่ปุ่น ล่าช้ากว่ากำหนด (เนื่องจาก วิกฤตการระบาดของ COVID-19) เมื่อ ก.ค. 2021 แต่ตัวหนังชุดนี้ สามารถกวาดรายได้บน Box Office ญี่ปุ่น ได้ 4.47 พันล้านเยน กลายเป็นหนัง Live Action รายได้สูงสุดของญี่ปุ่น ประจำปี 2021 ไปโดยปริยาย และ บ้านเราได้รับชมหนังชุดนี้กันบนโรงภาพยนตร์ ในเดือน ธ.ค. 2021 เช่นกัน

Tokyo Revengers

โดยความสำเร็จที่เกิดขึ้นของซีรี่ย์นักเรียนนักเลงเรื่องนี้ ส่วนหนึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่า มาจากกลยุทธ์การตลาดด้วยเช่นกัน ซึ่งมีการเปิดเผยจาก Hirofumi Itо̄ โปรดิวเซอร์ของ Pony Canyon ที่ให้สัมภาษณ์กับ Nikkei Entertainment ระบุว่า เนื่องจากซีรีย์เรื่องนี้เป็นแนวนักเรียนนักเลง ซึ่งไม่พบเจอบ่อยในอนิเมช่วงดึก ก็เลยมุ่งเน้นทำการตลาดสตรีมมิ่งเป็นหลัก ประกอบกับ การเลือกออกอากาศตามทางสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นของจังหวัดต่างๆ เพื่อให้รู้สึกว่ามีเด็กเกกระจัดกระจายอยู่จำนวนมาก รวมถึง การใช้เพลงเปิดที่ขับร้องโดย Official HiGE DANdism และ การโปรโมทมีมจากอนิเมเรื่องนี้ (โดยเฉพาะคำพูด "ใครๆก็กลัวรึ" ของ Mikey) ผ่านทาง Tik Tok ก็มีส่วนช่วยทำให้การ์ตูนอนิเมเรื่องนี้ ถูกพูดถึงมากขึ้นแบบปากต่อปาก นำไปสู่ความปังถล่มทลายตลอดทั้งปี ที่เหล่าวันรุ่นโตมันได้สร้างเอาไว้ ส่งผลทำให้พวกเขาครองแชมป์คำค้นหายอดฮิตประจำปี 2021 ของ Yahoo! Japan Search Awards ในประเภทอนิเม ไปครอง รวมถึง ติด 1 ใน 10 รายการทีวี ที่มียอดทวีตสูงสุดทั่วโลก ประจำปี 2021 ของ Twitter ด้วย (เช่่นเดียวกับอนิเม มหาเวทย์ผนึกมาร และ ดาบพิฆาตอสูร)


....อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางกระแสความฮ็อตที่เกิดขึ้นของก๊วนนักเลงบอยแบนด์กลุ่มนี้ ก็ดูเหมือนว่า การต่อสู้ของพวกเขา กำลังจะเหลือเวลาอีกไม่นานนัก จากการที่มังงะเรื่องนี้ ได้เข้าสู่เรื่องราวบทสุดท้ายแล้ว .... ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า ความพยายามของ Takemichi ในการย้อนเวลา เพื่อช่วยเซฟชะตาชีวิตของเพื่อนๆ จะลงเอยอย่างไร? เชื่อว่า นอกจากอนิเมซีซั่น 2 ที่มีการประกาศไปเมื่อ ธ.ค. 2021 แล้ว โปรเจ็คใหม่อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ จะทยอยออกมากันเป็นขบวนในอนาคต เช่นกัน

แต่ที่แน่ๆ ชาวด้อมโตมันในบ้านเรา ก็ได้สุขสันต์ไปกับ ฉบับมังงะเรื่องนี้ ทั้งเล่มใหม่ล่าสุด ที่มีการวางจำหน่ายถี่ขึ้น รวมไปถึง เล่มเก่าในแบบฉบับรีปริ้นท์ เปลี่ยนปกใหม่ - กระดาษใหม่ (+ ถือโอกาสอัพราคาสูงขึ้นไปในตัว 555) โดย สนพ. วิบูลย์กิจ

 




# อิหยังวะแห่งปี : ซีนต่อสู้ ของ อนิเม มหาศึกคนชนเทพ ซีซั่นแรก

 

Record of Ragnarok

เรื่องราวต่างๆ หรือ โมเม้นต์สำคัญอันน่าจดจำ ที่เกิดขึ้นในมังงะ-อนิเม ในรอบปีที่ผ่านมา ก็คงจะมีหลายอย่าง ที่มิอาจสาธยายได้หมด แต่ในจำนวนนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในบรรดาโมเม้นต์ที่เกิดขึ้นนี้ ก็ย่อมมีสิ่งที่เล่นเอาหลายคนพากันอุทาน "อิหยังวะ" , "What the F_ck" ด้วยเช่นกัน!!! ซึ่งหลักๆนั้น ก็มาจากความบ้งที่เกิดขึ้น ในมังงะ-อนิเม เรื่องหนึ่งๆ โดยบังเอิญ หรือ ตั้งใจ ที่เล่นเอาใครต่อใครพากันพูดถึงกันบนโซเชียล และเชื่อว่า คงจะเป็นโมเม้นต์ที่ถูกแฟนๆพูดถึงและพากันขยี้ไปอีกยาว

ซึ่งความอิหยังวะดีเด่นสุด ประจำปีวัว 2021 นี้ ก็คงจะหนีไม่พ้น ซีนแอ็คชั่นที่ปรากฏขึ้นในอนิเมซีซั่นแรกของ Record of Ragnarok / Shūmatsu no Walküre หรือ มหาศึกคนชนเทพ ที่ฉายบน Netflix นั่นเอง ซึ่งตลอด 12 ตอน ของอนิเมชุดนี้ ได้นำเสนอเรื่องราวการต่อสู้ชี้ชะตาระหว่างมนุษย์ กับ เทพเจ้า ซึ่งแน่นอนว่า ผู้ชมที่เคยสัมผัสการต่อสู้สุดมันส์ที่เกิดขึ้นในมังงะ ต่างก็คาดหวังถึงอรรถรสในเวอร์ชั่นอนิเมที่จะต้องออกมามันส์ไม่แพ้กัน แต่กลับกลายเป็นว่า เอาเข้าจริง ส่วนหนึ่งของฉากแอ็คชั่นการต่อสู้ที่มีการนำเสนอในอนิเมชุดนี้ ดันกลับทำออกมาอย่างฉาบฉวย กลายเป็นเพียงภาพนิ่ง หลายๆภาพ มาต่อกัน แทนที่จะเป็นภาพเคลื่อนไหวต่อเนื่อง ซึ่งก็ทำเอาแฟนอนิเมจำนวนหนึ่ง เห็นความ WTF ทำนองงานเผาที่เกิดขึ้นกับฉากนี้ ก็พากันวิพากษ์วิจารณ์มากมาย .....

แม้ว่าฉากต่อสู้ที่เกิดขึ้นจะยอดแย่แค่ไหน แต่อย่างน้อย ฉากการปรากฏตัวของอีฟ ที่มาพร้อมกับชายหนุ่มกล้ามโต 2 คน ขนาบข้าง ได้กลายเป็นมีมให้บรรดาคอการ์ตูนสายนักวาด ได้จัดทำเป็นภาพล้อไปตามๆกัน!! แต่ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานี้ ก็ไม่ส่งผลใดๆต่อทีมงานผู้สร้างอนิเมเรื่องนี้ ที่ได้เริ่มเดินหน้าจัดทำอนิเมซีซั่น 2 ต่อ ซึ่งแฟนๆได้แต่หวังว่า จะไม่บังเกิดฉากต่อสู้อย่างเผาๆ เกิดขึ้นอีกแล้ว ในอนิเมซีซั่นต่อไป

ส่วนโมเม้นต์อิหยังวะ รองลงมา เราก็ขอยกให้กับ มังงะแนวต่างโลกชุด Isekai Tenseisha Koroshi - Cheat Slayer (Killing the People Reincarnated into Another World - Cheat Slayer) ที่เขียนโดย อ.Homura Kawamoto ผู้ซึ่งเป็นผู้แต่งเนื้อเรื่องให้มังงะ Kakegurui โคตรเซียนโรงเรียนพนัน ถูกตัดจบอย่างรวดเร็ว หลังจากตีพิมพ์ไปได้แค่ตอนเดียวเท่านั้น อันเนื่องมาจาก ตัวละครตัวร้ายในเรื่อง ต่างดัดแปลงมาจากบรรดาตัวละครเอกจากซีรี่ย์แนวต่างโลกเรื่องอื่นๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานเรื่องนั้นๆ ซึ่งทำเอาเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่นักอ่าน อย่างไรก็ตาม อ.Kawamoto ก็มีผลงานเรื่องใหม่ทันควัน และยังเป็นมังงะแนวต่างโลก เช่นเคย กับ Isekai no Hime to no Koi Bakuchi ni, Jinrui no Sonbо̄ ga Kakkatemasu (Humanity's Existence Depends on Love Gambling with Another World's Princess)




   # ufotable : เดอะแบก นักพิฆาตอสูร & บทสรุปคดีฉาว ของอดีตประธานสตูฯ

สตูดิโอ ufotable ยังคงเป็นสตูดิโออนิเมที่สร้างผลงานโดดเด่นในสายตาแฟนๆ ในรอบปี 2021 ซึ่งก็มาจากผลงานการสร้างสรรค์และปลุกปั้นอนิเม Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร ให้โด่งดังไปทั่วบ้านทั่วเมือง และมีส่วนสำคัญในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่นในยุคโควิด ซึ่งหลักๆนั้น ก็มาจากผลงานของหนังอนิเมของพวกเขา ชุด Kimetsu no Yaiba- The Movie: Mugen Train (ดาบพิฆาตอสูร ศึกรถไฟสู่นิรันดร์) ที่สามารถสร้างสถิติเป็นหนังทำเงินสูงที่สุดอันดับ 1 ตลอดกาลของญี่ปุ่น รวมถึง เป็นหนังอนิเมสัญชาติญี่ปุ่นที่กวาดรายได้ทั่วโลกสูงสุดตลอดกาล เช่นกัน และจากความสำเร็จที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้สตูดิโอยังเดินหน้าทำเงินจากแฟรนไชส์ดาบพิฆาตอสูรต่อไป ด้วยการประกาศทำอนิเมทีวีซีซั่น 2 ของเรื่องนี้ ที่ดัดแปลงมาจากบทสถานเริงรมย์จากมังงะ ก่อนที่จะนำเอาเนื้อหาของหนังศึกรถไฟฯ มาตัดต่อจัดทำ ในรูปแบบอนิเมทีวี 7 ตอนจบ

แม้ว่าสตูดิโอจานบินแห่งนี้จะสร้างสรรค์ผลงานมาสเตอร์พีซให้แฟนๆอนิเมได้ประทับใจ แต่ถึงกระนั้น สตูดิโอแห่งนี้ กลับต้องประสบกับข่าวอื้อฉาวที่มีอย่างยาวนาน อันเป็นผลมาจากการที่ Hikaru Kondo ผู้ก่อตั้งสตูดิโอแห่งนี้ มีความผิดในข้อหายักยอกเงินรายได้จากร้านคาเฟ่ของสตูดิโอ และ กระทำการแจ้งภาษีเป็นเท็จ เมื่อปี 2015,2017 และ 2018 โดยปกปิดภาษีเงินได้เป็นจำนวนเงินรวมกัน 441 ล้านเยน ก่อนที่ Kondo และ ufotable จะถูกทาง สำนักงานสรรพากรเขตภูมิภาคโตเกียว ฟ้องดำเนินคดี จากการที่ Kondo เลี่ยงการจ่ายภาษีนิติบุคคล และ ผู้บริโภค รวมกันมากกว่า 138 ล้านเยน เมื่อปี 2019

จากคดีฉาวที่เกิดขึ้น Kondo ได้ยอมรับสารภาพว่า กระทำผิดจริง ในระหว่างการไต่สวนบนศาลแขวงโตเกียว เมื่อ ก.ย. 2021 ก่อนที่ศาลจะตัดสินโทษขั้นเด็ดขาด ด้วยการสั่งปรับเงิน ufotable เป็นจำนวน 30 ล้านเยน ส่วน Kondo ถูกตัดสินจำคุกเป็นระยะเวลา 20 เดือน และ รอลงอาญาเป็นเวลา 3 ปี ถึงแม้ว่าทาง Kondo และ ufotable ได้ชำระเงินภาษีที่ค้างกับเจ้าหน้าที่สรรพากรโตเกียว เป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ตาม


 



  

# Tokyo Olympic 2020 : รวมเรื่องวุ่น และ สุขสันต์ ไปกับ Soft Power มังงะ-อนิเม แฝงมหกรรมกีฬา

Tokyo Olympic 2020

มหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2020 กรุงโตเกียว ที่รัฐบาลญี่ปุ่นพยายามทุ่มทุนเงินในการบิดคว้าสิทธิ์เป็นเจ้าภาพ และหวังที่จะใช้มหกรรมดังกล่าวในการสร้างรายได้เข้าประเทศอย่างมหาศาลจากผู้คนทั่วโลก .... แต่จากการมาของ Covid-19 ก็ทำเอาความฝันและแผนการของรัฐบาลญี่ปุ่น กับ กรุงโตเกียว ได้มลายหายไป ทำเอาพวกเขาต้องตัดสินใจเลื่อนจัดการแข่งขันไป 1 ปี ไปเป็นปี 2021 นี้ ซึ่งกว่าที่ญี่ปุ่น จะจัดโอลิมปิกครั้งนี้ ขึ้นมาได้นั้น เรียกได้ว่า ยากลำบากสุดๆ เพราะนอกจากจะต้องลด cost การจัดงาน , ต้องจัดงานย่างประคองตัวท่ามกลาง COVID-19 แล้ว ก็ยังต้องเผชิญกับกระแสการต่อต้านการจัดโอลิมปิก จากคนญี่ปุ่นจำนวนหนึ่ง เพื่อหวังที่ให้ทางภาครัฐใส่ใจกับปัญหาโรคระบาดที่กำลังเกิดขึ้น

นอกจากปัญหาที่เกิดขึ้นข้างต้นแล้ว ก็ดันมาเกิดเหตุอื้อฉาวที่เกิดขึ้น กับบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้ ที่ถูกขุดคุ้ยถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสมในอดีต จนทำให้บุคคลเหล่านี้ต้องทยอยถอนตัวออกไป อาทิ Keigo Oyamada (Cornelius) นักแต่งเพลงจากเกม-อนิเมดัง , Kentaro Kobayashi ผกก.การแสดงพิธีเปิดโอลิมปิก, Hiroshi Sasaki หัวหน้าครีเอทีฟ และ Yoshiro Mori

แม้ว่า อลป.กรุงโตเกียวครั้งนี้ จะพบเจอกับปัญหาหลายประการ แต่ถึงกระนั้น ก็ยังมีสิ่งที่สามารถเรียกรอยยิ้มให้แก่คอเกม คออนิเมได้ ซึ่งก็มาจากพิธีเปิด-ปิด ที่ได้มีการแฝง Soft Power มังงะ-อนิเมญี่ปุ่น เริ่มจากเพลงต้อนรับนักกีฬาจากประเทศต่างๆ ก็ใช้เพลงประกอบจากเกมวีดีโอดัง , ป้ายแนะนำประเทศ ก็ออกแบบในฟีลของมังงะ , ขณะที่ พิธีปิดการแข่งขัน มีการเปิดเพลง Gurenge เพลงเปิดสุดฮิตจากอนิเม Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร ให้คนที่ได้รับชม ร้องว้าวไปตามๆกัน ไม่เพียงเท่านั้น ในช่วงระหว่างการแข่งขันกีฬา ก็มีการเปิดเพลงอนิเมในสนามแข่งขัน รวมถึง ตัวนักกีฬาจากชาติต่างๆ ได้มีการโพสท่าเลียนแบบตัวละครจาก One Piece อีกด้วย

รายละเอียดข่าวเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม มีการเปิดเผยในภายหลัง โดย Weekly Bunshun ว่า พิธีเปิดโอลิมปิกดังกล่าวนั้น เดิมที จะมาในคอนเซ็ปต์วัฒนธรรม Cool Japan แบบจัดเต็ม โดย มีฉากดริฟต์ซิ่งมอเตอร์ไซค์จากหนังอนิเมชั่น Akira เป็นตัวเปิด รวมถึง มี Mario ซึ่งเคยปรากฏตัว ในพิธีปิดโอลิมปิก ที่ ริโอ ดิ จาไนโร , บราซิล (ตอนนั้น มาในมาดของอดีตนายกญี่ปุ่น Shinzo Abe) จะมาปรากฏตัวในพิธีเปิดโอลิมปิกที่โตเกียว ในฐานะเจ้าบ้าน เช่นกัน ซึ่งสุดท้ายแผนการดังกล่าว ได้เปลี่ยนไป เนื่องจาก วิกฤต COVID-19 รวมไปถึง ปัญหาภายในระหว่างผู้อยู่เบื้องหลังโชว์

ส่วนการเอาตัวละครการ์ตูนญี่ปุ่นไปใช้ในฐานะทูตโอลิมปิก และ กองเชียร์โอลิมปิก ก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ (แบบอิหยังวะ) ในหมู่ของคนที่คัดค้านการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้ โดยเฉพาะ Atom จาก Astro Boy เจ้าหนูปรมาณู และ Usagi จาก Sailor Moon สองตัวละครซึ่งถูกมองว่าเป็นผู้ผดุงความยุติธรรมสูงส่ง แต่กลับต้องมาโปรโมทโอลิมปิกที่กำลังจัดขึ้นท่ามกลางวิกฤติไวรัส COVID-19 ระบาด ในขณะนี้... ซึ่งประเด็นดังกล่าว ก็ทำเอา Rumiko Tezuka ประธานของ Tezuka Productions และเป็นบุตรสาวของ Osamu Tezuka ผู้แต่งมังงะ Astro Boy แสดงความไม่พอใจ บน Twitter ส่วนตัวของเธอ

โดย อลป. โตเกียว 2020 ของญี่ปุ่น ได้ปิดฉากลงอย่างชื่นมื่น ท่ามกลางคำชมจากนานาชาติ เกี่ยวกับการจัดการแข่งขันของญี่ปุ่น ที่แม้จะขาดความพร้อมหลายด้าน อันเนื่องจากปัญหาที่เราเอ่ยไว้ข้างต้น แต่ก็สามารถประคับประคองการแข่งขันตั้งแต่ต้นจนจบได้ ซึ่ง อลป. ปารีส ปี 2024 ก็คงจะได้เห็นอะไรใหม่ๆ และหวังว่าจะเป็นอลป.ที่ผ่านพ้นวิกฤต COVID-19 กันอย่างจริงๆจังๆล่ะ


 



 


  

# ความอลวน อลม่าน ของ อนิเม-เกม ญี่ปุ่น บนแผ่นดินจีน ตลอดปี 2021


จากการที่จีน กลายเป็นตลาดใหญ่สุดของวงการอนิเมญี่ปุ่น ในช่วงเวลานี้ ซึ่งทำเอาสตูดิโอ-บริษัท อนิเม หลายแห่งของญี่ปุ่น ต่างพากันเข้าไปลงทุนในจีนเป็นจำนวนมาก ไม่เพียงเท่านั้น สตูดิโอญี่ปุ่น ยังได้แรงงานชาวจีน คอยเป็น outsource ในการผลิตอนิเมญี่ปุ่นให้สดใหม่ ทันฉายบนบริการสตรีมมิ่งในจีน

แต่ในขณะเดียวกัน อนิเมญี่ปุ่น หรือ คอนเท้นต์อื่นๆของญี่ปุ่น ก็เริ่มที่จะประสบปัญหาบนแดนมังกร อันเนื่องมาจากเนื้อหาที่ขัดกับค่านิยมจริยธรรมของชาวจีน รวมไปถึง การจัดระเบียบสื่อบันเทิงที่เกิดขึ้นโดยรัฐบาลจีน ช่วงปลายปี 2021 ที่ทำเอาการ์ตูน/เกม ญี่ปุ่น พากันโดนหางเลขไปตามๆกัน

 

เริ่มจาก ดราม่าใหญ่ ช่วงต้นปี 2021 เมื่อ bilibili ได้ตัดสินใจยุติการฉายอนิเม Mushoku Tensei หรือ เกิดชาตินี้พี่ต้องเทพ หลังจากสปอนเซอร์รายต่างๆของจีน ต่างพากันถอนตัวจากพวกเขา เนื่องจากอนิเมดังกล่าว มีเนื้อหาไม่เหมาะสมจากผู้ชมชาวจีน แต่ดราม่ายังไม่จบแค่นั้น เมื่อ LexBurner อินฟลูเอ็นเซอร์ชื่อดังของจีน ได้ออกมาโจมตีอนิเมเรื่องนี้ ไปพร้อมกับดูถูกดูแคลนแฟนๆเรื่องนี้ในจีน นำไปสู่สงครามแป้นคีย์บอร์ดในเวลาต่อมา แม้ว่าภายหลัง LexBurner จะออกมากล่าวขออภัย และได้ลบคลิปปัญหาออกแล้ว แต่เขาก็ไม่รอดพ้นจากการถูกลงดาบจาก bilibili
อนึ่ง อนิเมดังกล่าว ยังคงฉายแอพอื่นๆของจีน (นอกเหนือจาก bilibili) ตามปกติ

ส่วนดราม่าอื่นๆ ของอนิเม-เกม ญี่ปุ่น ในจีน ก็มี เกมซีรี่ย์ Mr Love: Queen's Choice เวอร์ชั่นอังกฤษ ได้จัดการปลด Jonah Scott ผู้พากย์เสียงเป็นตัวละคร Victor จากการที่เขาดันไปทวีตว่า ไต้หวันคือประเทศ ซึ่งทำเอา Papergames บริษัทผู้ผลิตที่มาจากจีนแผ่นดินใหญ่ถึงกับควันออกหู เลยตัดสินใจถอดเขาออกจากการพากย์เกมนี้ เท่านั้นไม่พอ จากประเด็นที่เกิดขึ้น ทำให้ Sean Chiplock กับ Joe Zieja ผู้ซึ่งพากย์เสียงเป็นตัวละคร Kiro กับ Gavin ในเกมนี้ตามลำดับ ได้ออกมาแสดงความไม่พอใจกับต้นสังกัด ด้วยการประกาศไม่เผาผีร่วมงานกับต้นสังกัด อีกต่อไป

ส่วนดราม่าที่หนักที่สุดของปี 2021 นี้ คงหนีไม่พ้นการปฏิวัติวัฒนธรรมจีนครั้งใหม่ ที่เป็นการจัดการจัดระเบียบสื่อบันเทิง เนื้อหาอนิเม-เกม อย่างเข้มงวด ให้ถูกจริต ถูกศีลธรรมอันดีของรัฐบาลจีน รวมถึง การออกกฎจำกัดเวลาการเล่มเกมของเยาวชน ที่ลดน้อยลงไป เช่นกัน ซึ่งจากมาตรการดังกล่าว ทำให้เกมวีดีโอในจีนหลายเกม จำต้องปรับเปลี่ยนเนื้อหากันวุ่น เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกรบ.จีน แบน ยกตัวอย่างเช่น เคสที่เกิดขึ้นกับเกม Fate/Grand Order ในเวอร์ชั่นภาษาจีนนั้น เป็นหนึ่งในเกมที่เจอผลกระทบดังกล่าว ด้วยการถอดข้อมูลและรูปภาพของตัวละคร servant ชาวจีน ที่มีชื่อพ้องกับบุคคลในประวัติศาสตร์จริงของจีน ออกไป ให้เหลือแค่ชื่อคลาสกับตัวเลข เท่านั้น

ไม่เพียงแค่สื่อเกมญี่ปุ่นจะโดนหางเลขจากมาตรการจัดระเบียบใหม่ของจีนแล้ว ก็ยังรวมไปถึง อนิเมที่ออกอากาศทางทีวี หรือ สตรีมมิ่งทางสื่อออนไลน์ในจีน จำนวนหนึ่ง ก็เจอพิษจากมาตรการดังกล่าว ทำให้สุ่มเสี่ยงจะถูกแบนแหล่มิแบนแหล่ บนแผ่นดินจีน โดยเคสที่ดังสุด คงหนีไม่พ้น Ultraman Tiga ที่ถูกระงับการออกอากาศ ที่เล่นเอาชาวจีนบนโลกโซเชียล พากันโวยแหลก ก่อนที่ซีรี่ย์ดังกล่าว จะมีการยกเลิกโทษแบน กลับมาออกอากาศในจีน ตามปกติ (แต่มีการตัดทอนเนื้อหา และ ลดจำนวนตอน น้อยลงจากเดิม)
ไม่เพียงเท่านั้น ยังรวมไปถึง การออกกฎแบนสื่อที่มีเนื้อหา ชายรักชาย หรือ Boys-Love ซึ่งรบ.จีน มองว่า เป็นพฤติกรรมทำตัวไม่สมชาย และ เป็น วัฒนธรรมอันเลวร้าย เป็นต้น

 

แม้ว่าอนิเม หรือ คอนเท้นต์ญี่ปุ่น ในจีน จะเจอเรื่องวุ่นวายตลอดปี แต่ถึงกระนั้น ก็ยังมีเรื่องดีๆ และน่าสนใจ ที่เกิดขึ้นบ้าง อาทิ Cells at Work! หรือ เซลส์ขยันพันธุ์เดือด กลายเป็นอนิเมญี่ปุ่นเรื่องแรกในรอบ 14 ปี ที่ได้ออกอากาศบนช่องฟรีทีวีจีน หลังจาก ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน เมื่อปี 2007 , Chibi Maruko-chan กำลังจะถูกนำไปสร้างเป็นหนังอนิเมชั่น 3DCG ของจีน ชุด Chibi Maruko-chan: Kigen Hikki (Chibi Maruko Chan: The Fantastic Notebook) , เปิดตัว Freedom Gundam หุ่นยนต์โมบิลสูท จากอนิเมซีรี่ย์ Gundam Seed ขนาดไซส์จริง ณ ห้างสรรพสินค้า Mitsui Shopping Park LaLaport Jinqiao นครเซี่ยงไฮ้ , การ์ตูนจีนเรื่อง Hyoujin -BLADES OF THE GUARDIANS ถูกดัดแปลงเป็นอนิเมชั่น และเตรียมจะไปเผยแพร่ในญี่ปุ่นและต่างประเทศอื่นๆด้วย

 

ถึงกระนั้น ข่าวที่ฮือฮาสุด ในวงการธุรกิจอนิเมจีน-ญี่ปุ่น คงหนีไม่พ้น การที่ Tencent บริษัทเน็ตเวิร์ครายใหญ่ของจีน ได้เข้าไปซื้อหุ้น บริษัท เกม , อนิเม และ บริษัทยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง รวมถึง การเข้าไปซื้อหุ้นของกลุ่มบริษัท Kadokawa ของญี่ปุ่น ที่ส่งผลทำให้ พวกเขากลายเป็นบริษัทผู้ถือครองหุ้นใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของ Kadokawa ไปโดยปริยาย.....ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า การเข้าถือหุ้นของ Kadokawa ของ Tencent ที่ดูทั้งคู่จะได้ผลประโยชน์ร่วมกันในแง่ของกลยุทธ์ Global Media Mix (สื่อผสมทั่วโลก) แต่จะส่งผลกระทบต่อคอนเท้นต์อนิเม-เกม ของญี่ปุ่น บนแผ่นดินจีน ที่งัดใช้กฎเหล็กอย่างเข้มงวด มากน้อยแค่ไหนกัน?

 


 


# ข่าวเด่นอื่นๆ รอบปี 2021

Days x Liverpool

- รัฐบาลญี่ปุ่น มีแผนจะจัดระเบียบกิจกรรมคอสเพลย์ในญี่ปุ่น ด้วยการแก้กฎหมายคุ้มครองสิทธิ์ ทั้งในส่วนของฝั่งนักคอสเพลเยอร์ รวมถึง เจ้าของลิขสิทธิ์ผลงาน หรือ ตัวละครนั้นๆ ซึ่งตอนนี้ อยู่ในระหว่างการหาข้อสรุปจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

- Daft Punk วงดนตรีดูโอ้แนวอิเล็คทรอนิค จาก ฝรั่งเศส ที่ประกอบด้วยสมาชิก Thomas Bangalter กับ Guy-Manuel de Homem-Christo ซึ่งเคยร่วมงานกับ Leiji Matsumoto จากผลงาน AMV ประกอบเพลงในอัลบั้ม Discovery ได้ประกาศยุบวงอย่างเป็นทางการ เมื่อ 22 ก.พ. 2021 อันเป็นการยุติบทบาท 28 ปี ของดีเจตำรวจอวกาศคู่นี้ อนึ่ง AMV จากอัลบั้ม Discovery ได้ถูกนำไปตัดต่อเป็นหนังอนิเมชุด Interstella 5555 เมื่อปี 2003

- เรื่องราวความรักส่อเตียงหัก ระหว่าง Tatsuhisa Suzuki นักร้องนำหนุ่มของวง OLDCODEX กับ LiSA นักร้องสาวสายอนิซองคนดัง กลายเป็นข่าวใหญ่ของวงการบันเทิงญี่ปุ่นประจำปี 2021 จากการที่มีสื่อหลายแห่งของญี่ปุ่นได้ประโคมข่าวว่า Suzuki กำลังมีความสัมพันธ์ในเชิงชู้สาว ซะจนส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ซึ่งเพิ่งจะเป็นสามี-ภรรยาคู่ข้าวใหม่ปลามันเมื่อต้นปี 2020 และจากข่าวที่เกิดขึ้น ทำให้ Suzuki ประกาศพักงานบันเทิงอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งก็ส่งผลต่อบทบาทการพากย์อนิเมของเขา ที่ต้องมีการสับเปลี่ยนนักพากย์เป็นคนอื่นแทน (ยกเว้น Makoto Tachibana จาก Free! ที่ทางต้นสังกัด ยังยืนยันว่า เขาจะเป็นคนให้เสียงตัวละครนี้ต่อไป)

ขณะที่ LiSA หลังจากเกิดข่าวนี้ ก็ได้หยุดพักงานเพลงในช่วงสั้นๆ ก่อนจะมูฟออนกับข่าวดราม่าที่เกิดขึ้น ด้วยการมีผลงานเพลงอนิเมใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง เช่น เพลงประกอบหนังชุดแรกของ Sword Art Online Progressive และ อนิเม ดาบพิฆาตอสูร ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ ในเวอร์ชั่น TV

- คณะผู้สร้างอนิเม Tokyo Babylon เวอร์ชั่นรีเมค ปี 2021 ได้ประกาศยกเลิกโปรเจ็คอนิเมทีวีดังกล่าวแล้ว อันเนื่องมาจากประเด็นการดีไซน์เสื้อผ้าของตัวละครในเรื่องนี้ ที่ดันไปลอกเลียนแบบจากที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต และหลังจากโปรเจ็คดังกล่าวถูกยกเลิก GoHands สตูดิโออนิเมผู้รับผิดชอบอนิเมเรื่องนี้ ได้ดำเนินการฟ้องร้องคดีทางกฎหมายกับ King Records ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่อยู่ในทีมผู้ผลิตโปรเจ็คอนิเมนี้ โทษฐานไม่ยอมจ่ายค่าโปรดักชั่นให้แก่พวกเขา

- Gundam Seed หนึ่งในซีรี่ย์อนิเมทีวี Gundam ที่โด่งดังที่สุดในช่วงยุค 2000 ได้ประกาศโปรเจ็คเฉลิมฉลอง 20 ปี ของอนิเมชุดนี้ออกมาแล้ว กับ หนังอนิเมชุดใหม่ของเรื่องนี้ ที่หลายคนรอคอยมานาน โดยได้ Mitsuo Fukuda ผกก. Gundam Seed และ ทีมสต๊าฟคนอื่น ช่วยกันสานต่อบทหนังที่ Chiaki Morosawa ได้เป็นผู้เขียนเอาไว้ก่อนจะเสียชีวิต ให้เสร็จสมบูรณ์ นอกจากหนังอนิเมแล้ว ก็ยังมีโปรเจ็ค เกมวีดีโอ แล้วก็ มังงะภาคแยก ชุด Mobile Suit Gundam Seed Eclipse รวมอยู่ด้วย

- พูดถึง Gundam แล้ว นึกขึ้นมาได้ว่า The Gundam Baseร้านจัดจำหน่ายกันพลา (หุ่นโมเดลพลาสติก Gundam) ร้านดังของญี่ปุ่น ได้เปิดสาขาใหม่ในประเทศไทยแล้ว ที่ห้าง Siam Discovery เมื่อ พ.ย. 2021 ที่ผ่านมา

- สนพ. Kodansha ได้เซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรกับสโมสรฟุตบอล Liverpool ของอังกฤษ โดยมีเป้าหมายหลักในการขยายฐานแฟนคลับของทีมหงส์แดงให้กว้างขึ้นกว่าเดิม รวมถึงทาง Kodansha จะมีส่วนร่วมในการสนับสนุนสโมสรแห่งนี้ในทุกช่องทาง เช่นกัน

- มาไวไปไวเสียจริง สำหรับ Antoine Griezmann นักฟุตบอลซูเปอร์สตาร์ทีมชาติฝรั่งเศส ชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ที่ได้รับการแต่งตั้งจาก Konami ให้เป็นทูตประจำการ์ดเกมซีรี่ย์ Yu-Gi-Oh! ในช่วงระหว่างทัวรนาเมนต์ฟุตบอลยูโร 2020 แต่ทว่า หลังจากนั้นไม่นาน ก็ดันมีคลิปฉาวที่เขา และ Ousmane Dembélé เพื่อนร่วมทีมชาติ และ สโมสร Barcelona ไปแสดงกิริยาหยอกล้อเชิงเหยียดเชื้อชาติ ช่างเทคนิคชาวเอเชีย ณ โรงแรมแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ส่งผลทำให้เขาถูกปลดออกจากการเป็นทูตของเกมดังกล่าวทันที ไม่เพียงเท่านั้น เขายังถูก Barca ขายให้กับ Atletico Madrid ทีมต้นสังกัดเก่าของเขา อีกครั้ง

- ส่วน สตูดิโอ MAPPA แม้จะเป็นหนึ่งในสตูดิโอที่ได้รับการยอมรับจากแฟนอนิเมมากมาย จนได้รับหน้าที่ทำอนิเมจำนวนหลายเรื่อง แต่ถึงกระนั้น พวกเขาก็ต้องประสบกับคำครหาที่ว่า ใช้งานอนิเมเตอร์อย่างหนักหน่วง และจ่ายค่าจ้างให้น้อยเกินไป ทำให้ทางสตูดิโอต้องออกมาแก้ข่าว พร้อมรับปากว่า จะพยายามปรับปรุงสภาพแวดล้อมและสภาพการทำงาน สำหรับแต่ละโปรเจ็คอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ พวกเขาได้จัดการเปิดสตูดิโอลูก ที่รองรับการทำงานให้กับโปรเจ็คอนิเมทีวี Chainsaw Man โดยเฉพาะ พร้อมกับมีการปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงานให้ดีเยี่ยม เช่นกัน

- BELLE (Ryū to Sobakasu no Hime/The Dragon and the Freckled Princess) ผลงานหนังอนิเมเรื่องล่าสุดของของ Mamoru Hosoda สามารถสร้างสถิติ เป็นผลงานหนังที่กวาดรายได้สูงที่สุด ของ ผกก.Hosoda โดย สามารถทุบสถิติรายได้ของ Boy and the Beast (Bakemono no Ko) ที่เคยทำไว้ 5.85 พันล้านเยน เมื่อปี 2015

BELLE

- การขายผลงานศิลปะ ผ่าน NFT เริ่มส่งอิทธิพลในหมู่คนในวงการมังงะอนิเมญี่ปุ่น ซึ่งมีรายงานว่า เว็บไซต์ MyAnimeList ได้จับมือกับ Media Do ผู้ผลิตอีบุ๊ค ในการนำเอาภาพจากมังงะ หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ มาวางจำหน่ายบน NFT และขายหมดอย่างรวดเร็ว รวมถึง Tezuka Productions ได้ประมูลผลงานภาพ Astro Boy Mosaic ผ่านทาง NFT แล้วก็ อ. Hiroya Oku ผู้แต่งมังงะ Gantz ได้วาดจำหน่ายผลงานภาพของเขา เมื่อปี 1988 บน NFT เช่นกัน ไม่เพียงเท่านั้น แฟรนไชส์อนิเม Muv-Luv Alternative กับ Yatterman ได้จำหน่ายผลงานภาพ บน NFT อีกด้วย

- สนพ. Shueisha ได้เดินหน้าต่อสู้กับคดีละเมิดลิขสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง ด้วยการพยายามยื่นคำร้องขอให้ Google , Hurricane Electric และ Cloudflare ในการเปิดเผยหลักฐานข้อมูล เพื่อเอาผิดกับผู้ดูแลเว็บไซต์ Manga Bank เว็บไซต์มังงะเถื่อนภาษาญี่ปุ่น ที่มียอดผู้เข้าชมมากกว่า 81 ล้านคน
ไม่เพียงเท่านั้น พวกเขาก็ต้องประสบกับการที่มีคนเอาชื่อสนพ.ของพวกเขาไปแอบอ้าง ทำให้ บัญชี Twitter และ ภาพบน Twitter ที่มีเอี่ยวกับ Shueisha ถูกล็อคและลบไปเป็นจำนวนมาก เมื่อช่วงต้นปี 2021 ทำให้พวกเขาต้องออกมาชี้แจงว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับจะดำเนินคดีทางกฎหมายกับผู้ที่แอบอ้างชื่อของพวกเขา เช่นกัน

- อ.Ken Akamatsu ผู้แต่งมังงะ Love Hina บ้านพักอลเวง , คุณครูจอมเวท Negima และ UQ HOLDER! เตรียมจะลงเล่นการเมืองอย่างจริงๆจังๆ ด้วยการลงสู้ศึกเลือกตั้งราชมนตรีสภา (สภาสูง) ของญี่ปุ่น ในช่วงฤดูร้อน 2022 โดยมีข้อแม้ว่า พรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ได้ตัดสินใจเลือกเขา เข้าสู้ศึกดังกล่าว

- ปิดท้ายด้วย ข่าวฉาวส่งท้ายปี เมื่อ อ.Kenya Suzuki ผู้แต่งมังงะ Please tell me! Galko-chan ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัว ข้อหาฝ่าฝืนกฎหมายศุลกากร ด้วยการนำเข้าหนังสือลามกอนาจารเด็ก จากประเทศเยอรมัน และส่งผลทำให้ผลงานมังงะเรื่องดังกล่าวของเขา ถูกระงับเผยแพร่บนแอพ ComicWalker


# สูญเสียแห่งปี : ผู้แต่ง Berserk & ผู้แต่ง Golgo 13

ในรอบปี 2021 ที่ผ่านมา ได้มีคนในวงการการ์ตูนอนิเม หรือ วงการอื่นๆ ที่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการ์ตูน-อนิเม จำนวนหนึ่ง ได้จากโลกนี้ไป ด้วยสังขาร โรคร้าย หรือ อุบัติเหตุ

 

โดยในจำนวนนี้ ก็มีบุคคลที่ถือว่าเป็นเบอร์ใหญ่ เป็นตำนาน ของวงการมังงะญี่ปุ่น ที่ได้จากไปในปี 2021 นี้ ชนิดที่สร้างความโศกเศร้าให้คอการ์ตูนหลายคนไปตามๆกัน

เริ่มจาก อ.Kentaro Miura ผู้แต่งมังงะ Berserk ที่เขียนมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ปี 1989 และส่อเค้าว่า แฟนๆจะไม่ได้สัมผัสกับตอนจบที่แท้จริงของมังงะเรื่องนี้ จากการที่ อ.Miura ได้เสียชีวิตลง เมื่อ 6 พ.ค. 2021 ที่ผ่านมา และการจากไปของ อ.Miura นั้น เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของคอการ์ตูนทั่วโลก จากการที่ข่าวดังกล่าว มีการรายงานกัน ทั้งจากสื่อญี่ปุ่น สื่อต่างประเทศ รวมถึง สื่อนสพ. บ้านเรา ส่งผลทำให้ Berserk ฉบับมังงะ อยู่ในสถานภาพที่ไม่แน่นอน จากการที่ ขณะนี้ ยังไม่มีการยืนยันเกี่ยวกับอนาคตต่อไปของมังงะเรื่องนี้ใดๆ แม้ว่าเรื่องนี้ ได้มีการตีพิมพ์ตอนใหม่ล่าสุด ในนิตยสาร Young Animal เล่ม 18/2021 และ วางจำหน่ายฉบับรวมเล่มที่ 41 หลังจาก อ.Miura เสียชีวิตไปแล้วก็ตาม

แต่ถึงกระนั้น ผลงานมังงะเรื่องอื่นๆของ อ.Miura ที่ได้มีการตัดสินอนาคตเรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วย Duranki ที่ตัดจบแต่เพียงเท่านี้ ขณะที่ King of Wolves ได้รับการตีพิมพ์อีกครั้ง ในนิตยสาร Young Animal Zero เพื่อเป็นการรำลึกถึงผลงานมังงะในช่วงแรกเริ่มของ อ.Miura

 

ส่วนอ.อีกท่านหนึ่ง ที่ถือว่าเป็นข่าวช็อคไม่แพ้กัน นั่นคือ อ.Takao Saito ผู้เป็นที่รู้จักจากผลงานมังงะระดับตำนานของญี่ปุ่น เรื่อง Golgo13 ที่เขียนมาอย่างยาวนานถึง 53 ปี นับตั้งแต่ปี 1968 เป็นต้นมา รวมไปถึง ยังมีผลงานมังงะระดับมาสเตอร์พีซ ที่นักอ่านบ้านเราจำนวนหนึ่งรู้จักกัน จากเรื่อง Survival ต้องรอด และ นินจาคว้าเมฆ ได้ถูกโรคร้าย คร่าชีวิตไป เมื่อ 24 ก.ย. 2021 ....อย่างไรก็ตาม แม้ตัว อ.Saito จะจากไป แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่ออนาคตใดๆ ของ Golgo13 จากการที่ Saito Production ทีมงานของ อ.Saito จะรับหน้าที่เป็นผู้สานต่อเรื่องราวของมังงะเรื่องนี้ ตามความปรารถนาของ อ.Saito ก่อนจะสิ้นลม นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เช่นเดียวกับ ผลงานมังงะเรื่อง Onihei Hankachō (Onihei Crime Reports in Edo) ผลงานมังงะของ อ.Saito อีกเรื่อง ที่ได้ทำงานร่วมกับ อ.Sentarō Kubota ที่จะได้รับการสานต่อ โดยทีมงานของเขาต่อไป

โดยก่อนที่ อ.Saito จะเสียชีวิต Golgo 13 ก็มีข่าวสารฮือฮามากมายในรอบปี 2021 นี้ ประกอบไปด้วย การผุดมังงะสปินออฟ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเรื่องนี้ รวมถึง ได้ทุบสถิติ มังงะซีรี่ย์ที่มีจำนวนฉบับรวมเล่มมากที่สุด ที่ 201 เล่ม เมื่อ ก.ค. 2021 (ก่อนที่ Kochikame จะมาทาบสถิติดังกล่าวอีกครั้ง เมื่อวางจำหน่ายเล่มที่ 201 เมื่อ ต.ค. 2021)

 

ในส่วนบุคคลในวงการมังงะ , อนิเม , เกม หรือ วงการอื่นที่เกี่ยวข้อง ผู้ซึ่งได้จากไปในปีวัวนี้ เราก็ได้รวบรวมชื่อมาพอสังเขป เพื่อรำลึกถึงคุณงามความดี รวมไปถึง ผลงานของพวกเขา ที่เคยฝากเอาไว้ ในช่วงที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ :


Shuuichirou Moriyama - นักพากย์อาวุโส ผู้เป็นที่รู้จัก จากบทบาทการพากย์เป็น Porco Rosso จากหนังอนิเมชื่อเดียวกัน ของ Studio Ghibli

Masako Sugaya - นักพากย์หญิงรุ่นเก๋า เจ้าของเสียงพากย์ Kenichi Mitsuba จากนินจา Hattori และอนิเมยุคเก่าหลายเรื่อง

Tasuku Saitō - อดีตโปรดิวเซอร์ Toei Animation และเป็นผู้แต่งเพลง "Yuke! Tiger Mask" เพลงเปิดจากอนิเม หน้ากากเสือ ภาคแรก (ภายใต้นามปากกา Nashio Kidani)

Minako Shiba - อนิเมเตอร์ และ คนออกแบบตัวละคร ให้กับอนิเมหลากหลายเรื่อง อาทิ Noir, Kuroshitsuji / Black Butler, Hikaru no Go, Tsubasa: RESERVoir CHRoNiCLE.

Yasuo Ootsuka - อนิเมเตอร์รุ่นเก๋า ผู้เคยทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่ กับ อนิเมเตอร์รุ่นใหญ่ในวงการอนิเมญี่ปุ่น ทั้ง Hayao Miyazaki และ Isao Takahata มีผลงานเด่นคือ Lupin III ทั้งอนิเมซีรี่ย์ และ หนังอนิเม

Osamu Kobayashi - ผกก.อนิเม Naruto , Beck, Paradise Kiss

Fumio Hisamatsu - นักเขียนการ์ตูน-อนิเมเตอร์รุ่นเก๋า อดีตผู้ช่วยของ อ.Osamu Tezuka

Shunsuke Kikuchi - ผู้แต่งเพลงอนิเม Dragon Ball, Doraemon และซีรี่ย์ Kamen Rider

Asei Kobayashi - นักแสดง, นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และ นักแต่งเพลงประกอบอนิเมยุคคลาสสิค จาก Sally the Witch ,Himitsu no Akko-chan, Ultraman vs. Kamen Rider, Gatchaman, Turn A Gundam

Kayaharuka - ผู้แต่งฉบับมังงะของไลท์โนเวลซีรี่ย์ Maō Gakuin no Futekigōsha ~Shijō Saikyō no Maō no Shiso, Tensei Shite Shison-tachi no Gakkō e Kayō หรือ ใครว่าข้าไม่เหมาะเป็นจอมมาร

Masami Suda - อนิเมเตอร์ และ คนออกแบบตัวละคร ป็นที่รู้จักจากการเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในกับอนิเม Fist of the North Star

Eiichi Yamamoto - ผกก.อนิเม Kimba the White Lion หรือ เลโอ สิงห์ขาวจ้าวป่า ( หรือ สิงห์น้อยเจ้าป่า ในชื่อมังงะลิขสิทธิ์ของ VBK)

Yūshi Suzuki - ผกก.อนิเมทีวี Edens Zero

Koichi Sugiyama - นักแต่งเพลงคู่บุญประจำเกมซีรี่ย์ Dragon Quest มากกว่า 500 เพลง โดยเขา ได้การบันทึกสถิติลง Guinness Book ในฐานะ นักแต่งเพลงประกอบวีดีโอเกม ผู้มีอายุมากที่สุดในโลก เมื่อปี 2016

Daisei Fujii - ดีไซเนอร์ประสบการณ์สูง จากซีรี่ย์เกมวีดีโอ Super Robot Wars

Hiroshi Ono - ศิลปิน Pixel Art ผู้ออกแบบภาพพิกเซล 8 บิต ให้กับเกมวีดีโดดังในยุค 8 บิต ของค่าย Namco (ที่ต่อมา รวมตัวกับ Bandai เป็น Bandai Namco) มากมาย อาทิ Xevious, Galaga, Dig Dug, Mappy, Super Pac-Man, และ Rally-X

Toshihiro Iijima - ผกก. ซีรี่ย์ Ultraman ภาคแรกสุด รวมถึงซีรี่ย์ Ultra Q ซึ่งเป็นซีรี่ย์ไพล็อตต้นฉบับของ Ultraman

Sanpei Shirato และ Tetsuji Okamoto - นักเขียนมังงะ คู่พี่น้อง เจ้าของผลงานมังงะ Legend of Kamui (Kamui Den) หรือ คามุย ยอดนินจา การ์ตูนดังในอดีต เมื่อหลายสิบปีที่แล้ว (Shirato คนพี่ เขียนมังงะภาคแรกของเรื่องนี้ ส่วน Okamoto คนน้อง เขียนมังงะภาคสอง)

Yoshiko Ota - นักพากย์หญิงรุ่นเก๋า เจ้าของเสียงพากย์ตัวละครเอกให้กับอนิเมญี่ปุ่นยุคเก่าเรื่องดัง จำนวนหลายเรื่อง ทั้ง Akko จาก Himitsu no Akko-chan / หนูน้อยอั๊กโกะจัง ver. 1969 , Sapphire จาก Princess Knight, Leo จาก Kimba the White Lion , Nobi Nobita จาก Doraemon ver. 1973 , Sewashi จาก Doraemon ver. 1979 ฯลฯ

Kinji Yoshimoto - ผกก.อนิเม มากความสามารถจาก Machine-Doll wa Kizutsukanai (Unbreakable Machine-Doll), Queen's Blade , Arifureta Shokugyou de Sekai Saikyou / อาชีพกระจอกแล้วไง ยังไงข้าก็เทพ ซีซั่นแรก ฯลฯ

Masayuki Uemura - วิศวกรผู้ให้กำเนิดเครื่องเล่นวีดีโอเกมคอนโซล Famicom (Nintendo Entertainment System / NES) กับ Super Famicom (Super Nintendo Entertainment System / SNES)

Keiko Nobumoto - คนเขียนบทจากอนิเม Cowboy Bebop, Wolf’s Rain , Tokyo Godfather

Masayoshi Yasugi - ผู้แต่งนิยายต้นฉบับของ Exiled From Paradise (Rakuen Tsuihō) ที่ต่อมาถูกสร้างเป็นหนังอนิเมโดย ผกก.Seiji Mizushima และเขียนบทโดย Gen Urobuchi เมื่อปี 2014

Joji Yanami - นักพากย์ และ ผู้บรรยายอนิเม Dragon Ball (ในอนิเม Dragon Ball เขาพากย์เสียง ท่านไคโอ / เจ้าพิภพ)

Hiroshi Hirata - นักเขียนมังงะ แนว gekiga และเป็นผู้ออกแบบโลโก้ให้มังงะ Akira

Sayaka Kanda - นักพากย์สาว เจ้าของเสียงพากย์ Anna จากหนังอนิเมชั่น Frozen เวอร์ชั่นพากย์ญี่ปุ่น , Yuna จาก Sword Art Online และ Kaede Akamatsu จาก Danganronpa V3: Killing Harmony

Jeanette Maus - นักแสดงสาว จากเกมวีดีโอ Resident Evil Village

Ted Koplar - โปรดิวเซอร์ผู้ให้กำเนิดซีรี่ย์ Voltron (ดัดแปลงมาจากอนิเมญี่ปุ่น 2 เรื่อง อย่าง King of Beasts Golion กับ Armored Fleet Dairugger XV ที่นำมาตัดต่อรวมกันเป็นเรื่องเดียว)

Fred Laderman / Fred Ladd - โปรดิวเซอร์ชาวอเมริกัน ผู้มีส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้คนในแถบอเมริกาเหนือ ได้ทำความรู้จักและคุ้นเคยกับอนิเมจากฝั่งญี่ปุ่น โดยเป็นผู้นำเข้าอนิเม Tetsuwan Atom (เจ้าหนูปรมาณู) เข้าฉายในอเมริกาเหนือ ในชื่อของ Astro Boy และจัดเป็นอนิเมญี่ปุ่นเรื่องแรกที่ออกอากาศในภูมิภาคดังกล่าว รวมถึง ยังเป็นผู้นำเข้าอนิเม Gigantor ( Tetsujin 28) และ Kimba the White Lion (Jungle Taitei) เข้าฉายในอเมริกาเหนือ อีกด้วย

สมโพธิ แสงเดือนฉาย - ผกก. ผู้สร้างภาพยนตร์ไทยแนวซูเปอร์ฮีโร่ กลิ่นอายโทคุซัตสุ หรือ หนังสเปเชียลเอฟเฟ็ค แบบญี่ปุ่น จาก ยักษ์วัดแจ้งพบจัมโบ้เอ , หนุมานพบ 7 ยอดมนุษย์ และ หนุมานพบ 5 ไอ้มดแดง


  นี่คือเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวงการการ์ตูนตลอดปี 2021 ซึ่งวงการการ์ตูนในปีขาล หรือ ปีเสือ จะก้าวไปในทิศทางไหนนั้น จะดุดันสมชื่อหรือไม่นั้น ก็ต้องติดตามข่าวคราวกันต่อไปครับ
ขอให้ทุกคนจงมีแต่ความสุข ความโชคดี จะทำอะไรขอให้แคล้วคลาดจาก โควิด หรือ อุปสรรคต่างๆ ทั้งปวง ในตลอดปี พ.ศ. ๒๕๖๕ .......

อ่านต่อ : ตอนที่ 2 , ตอนที่ 3

 


สำนักข่าว K-D News (kartoon-discovery.com)
สามารถอัพเดทข่าวสารเว็บเราได้ผ่าน Twitter และ Facebook
หากนำข่าวจากเราไปเผยแพร่ที่อื่น รบกวนใส่เครดิตให้กับทางเราด้วยครับ ขอบคุณครับ

free hit counter javascript