ปี 2020 ที่เพิ่งผ่านพ้นไปไม่นาน ได้เกิดเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นมากมาย หลังจากที่เราได้สรุปข่าวคราวเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในวงการการ์ตูนตลอดทั้งปี 2020 กันไปแล้ว ในตอนที่ 2 นี้ เรามาว่ากันต่อ ด้วยเรื่องราวของการ สรุปข่าวสาร LC ที่เกิดขึ้นในบ้านเรา รอบปี 2020 ทั้งในส่วนของผลงานของสนพ.ต่างๆในบ้านเรา ในรอบปีที่ผ่านมา แล้วก็ ความเคลื่อนไหวด้าน LC อนิเม หนังอนิเม และ อนิเมที่ฉายตามฟรีทีวี และอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในบ้านเราในรอบปีที่ผ่านมาอีกเล็กน้อย เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น เราไปทบทวนกันเลยครับ!!!
(สำหรับ ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับคนแสดงจากมังงะ-อนิเม ที่เราได้ทำการสรุปในทุกปีนั้น จากการที่ปีที่ผ่านมา เจอวิกฤติโควิด ส่งผลทำให้หนังคนแสดงออกฉายน้อย รวมไปถึง ไทม์ไลน์ของเราที่ค่อนข้างบีบในช่วงเวลานี้ ซะจนไม่สะดวกในการเรียบเรียงตรงส่วนนี้ เราจึงตัดสินใจที่จะงดการสรุปข่าว Live-Action ในรอบปีที่ผ่านมา ครับ)
สำหรับความเคลื่อนไหวของสนพ.การ์ตูนต่างๆ ในปีหนูที่ผ่านมา ก็เรียกได้ว่าเป็นปีที่ยากลำบากของหลายสนพ. อันเนื่องมาจากการระบาดของ COVID-19 จนส่งผลกระทบต่อรายได้ของพวกเขา ที่เดิมทีก็ซบเซาอยู่แล้ว โดยเฉพาะในช่วงล็อคดาวน์นั้น ก็มีร้านเช่า-ร้านหนังสือการ์ตูนที่ยังหลงเหลืออยู่ ต้องปิดให้บริการซะเป็นส่วนใหญ่ ทำให้สนพ.ต้องขาดรายได้ยอดขายไปจำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ดี ในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ก็ทำเอาสนพ.ต่างๆต้องปรับตัว ด้วยการงัดกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อดึงดูดให้นักอ่านหันมาจับจ่ายมังงะในรูปแบบอีบุ๊ค ซึ่งเป็นช่องทางที่กำลังได้รับความนิยม (และมีราคาถูกกว่าแบบพิมพ์) กันให้มากยิ่งขึ้น นำไปสู่การเกทับในเรื่องโปรโมชั่นอีบุ๊คระหว่างสนพ.ต่างๆ
ในส่วนมังงะแบบพิมพ์เป็นรูปเล่มนั้น ปรากฏว่า เราได้เข้าสู่ยุคที่หนังสือการ์ตูนทยอยปรับราคาขึ้นสูงจนเฉียดเลข 3 หลัก กันมากขึ้น แสดงให้เห็นว่า สนพ.ต่างๆ มีแนวโน้มที่จะจัดทำหนังสือรูปเล่ม แบบเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นพวกนักอ่านสายสะสม สายเปย์หนัก โดยเฉพาะ .....ซึ่งหากมองในแง่ดี ราคาหนังสือที่เพิ่มขึ้นนี้ ก็ช่วยให้นักอ่านได้ตัดสินใจในการพิจารณาเลือกซื้อกันมากขึ้น ซึ่งมีตั้งแต่ การเปลี่ยนไปซื้อหนังสือแบบอีบุ๊คที่ประหยัดตังค์มากกว่า หรือไม่ก็ ยังคงซื้อหนังสือรูปเล่มตามเดิม แต่เลือกซื้อเฉพาะบางเรื่อง ที่ตัวเองชื่นชอบ-ติดตาม อย่างจริงๆจังๆ มากกว่า เป็นต้น
ตลอดปี 2020 ที่ผ่านมา ค่ายหนังสือยักษ์ใหญ่จากฝั่งลาดพร้าว ออกจะขยันรีปริ้นท์มังงะซีรี่ย์เรื่องเก่า คลาสสิค เอาอกเอาใจคอการ์ตูนรุ่นเก่าที่มีพลังเปย์สูงพอ ที่จะหาซื้อหนังสือมาเก็บสะสมกับตัว เสียมากกว่า ซึ่งมีตั้งแต่ผลงานมังงะระดับตำนานของค่าย ยันจนถึง เรื่องเก่าที่ทางค่ายได้คว้า LC แบบเน้นจัดทำในรูปแบบสะสม อัพราคาซะสูงปรี้ด อาทิ ซามูไรพเนจร, อิตโต้, Rookies, ฤทธิ์ดาบไร้ปราณี, What 's Michael, Sanctuary, Evangelion, ARMS หัตถ์เทพมืออสูร , ปรสิต ภาคแรก , ผลงานมังงะโชโจของ อ.Shinohara Chie เป็นต้น
ส่วน LC การ์ตูนเรื่องใหม่ของค่ายนี้ในรอบปีหนูที่ผ่านมา ก็ถือว่าจัดหามาได้เยอะพอสมควร กระจายไปตามแบรนด์หนัก และ แบรนด์ย่อยอย่าง SIC Dark , Co-Novel , SIC S , SIC DV เป็นต้น ซึ่งหนักไปทางเจาะกลุ่มนักอ่านวัยโต วัยทำงานมากกว่า ส่วนแนวเรื่องนั้น ก็เน้นไปทางแฟนตาซี แอ็คชั่น ทั้งสายมืด หรือ สายต่างโลก เยอะเป็นพิเศษ ผิดกับ มังงะแนวโชเน็น ที่ปีนี้ดูจะน้อยลงถนัดตา อาทิเช่น MF Ghost งานล่าสุดของผู้แต่ง Initial-D , ปรสิต Reversi , Shadow House , Neun , MY HERO ACADEMIA SMASH , ฤทธิ์ดาบไร้ปรานี -บทใหม่- เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ในหมู่ LC เรื่องใหม่ประจำปี 2020 ของพวกเขา ที่เห็นเด่นสุดและเป็นไฮไลต์สุด คงหนีไม่พ้น Spy x Family ที่พวกเขาได้จัดพิมพ์ และ วางขายในบ้านเรา ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2020 รวมถึง สามารถอ่านตอนล่าสุดของเรื่องนี้แบบฉบับแปลไทย ทางเว็บ/แอพ Mangaplus (เช่นเดียวกับ One Piece, My Hero Academia รวมไปถึง Black Clover กับ สุขาวดีอเวจี ที่มีการจัดทำเวอร์ชั่นแปลไทยลง Mangaplus ในภายหลัง )
อย่างไรก็ตาม ในบรรดาหนังสือที่พวกเขามีอยู่นั้น เรื่องที่ถือว่าเป็นไฮไลต์ประจำปีจริงๆ คงหนีไม่พ้น ดาบพิฆาตอสูร ซึ่งก็ต้องบอกว่า กระแสความนิยมอย่างสูงลิ่วในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา ได้ทำให้ค่ายหนังสือแห่งนี้เกิดความคึกคักขึ้น ซะจนเป็นการปลุกชีพสื่อสิ่งพิมพ์ประจำค่ายให้มีความคึกคักขึ้น จนทำให้มังงะเรื่องนี้มียอดตีพิมพ์รวม (ทั้งรูปเล่ม และ ดิจิตอล) รวมกันถึง 1 ล้านเล่มแล้ว และด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เรื่องนี้จึงได้ต่อยอดเอาใจแฟนๆนักพิฆาตอสูร ด้วยการ LC ฉบับนิยายของเรื่องนี้อีก 3 ชุด , นิยายจากหนังอนิเม ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ , หนังสือแฟนบุ๊ค แล้วก็ มังงะรวมเรื่องสั้นของ อ.Koyoharu Gotouge ผู้ให้กำเนิดมังงะซีรี่ย์นักล่าอสูรพลังปราณ เรื่องนี้ และไม่เพียงเท่านั้น พวกเขายังได้ทุ่มทุนจัดทำ ฉบับรวมเล่มที่ 20 และ 21 ของเรื่องนี้ ในแบบ limited edition ที่มีการพ่วงของที่ระลึกพิเศษ อย่าง ชุดโปสการ์ด , ชุดสติ๊กเกอร์ ตัวละคร มากับฉบับรวมเล่ม ตามแบบญี่ปุ่น ออกวางจำหน่ายอีกด้วย (ซึ่งราคานั้นก็สูงขึ้นตามไป)
ในส่วนซีรี่ย์เดอะแบกดั้งเดิมของค่ายนี้ อย่าง One Piece ทาง SIC ได้จัดทำและวางขาย ONE PIECE VIVRE CARD หนังสือแฟนบุ๊คของก๊วนสลัดหมวกฟาง ในแบบฉบับแปลไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรก เช่นเดียวกับ One Piece Red, Grand Characters หนังสือคาแร็คเตอร์หมวกฟาง ที่จัดทำฉบับแปลไทย รวมถึง LC นิยายชุด ONE PIECE novel LAW ขณะที่เดอะแบกของฝั่ง Cartoon Thai Studio เครือการ์ตูนไทยของ SIC อย่าง The EXEcutional ได้มีการจัดทำรวมเล่มแบบ limited edition ซึ่งพ่วงกับเซ็ตโปสการ์ด อันเป็นการเตรียมฉลองที่เรื่องนี้ใกล้จะจบลง ณ เล่ม 50
จากข้างต้น ตลอดปีที่ผ่านมา ทางค่ายได้พยายามจัดทำหนังสือให้มีความพรีเมี่ยมขึ้น ไปพร้อมกับการจัดทำรูปเล่มแบบเวอร์ชั่น limited เอาใจแฟนคลับการ์ตูนเรื่องนั้นๆ แต่ถึงกระนั้น ทางค่ายก็ถูกแฟนๆบนโซเชียล โจมตีอย่างหนัก ในแง่ของระบบการสั่งซื้อ-จัดส่งสินค้า ที่ดูจะไม่เป็นที่พึงพอใจ ไม่ทันใจพวกเขา ซักเท่าไหร่ รวมถึง การตอบคำถามต่างๆของลูกค้า ที่ถามยังไงก็เจอแต่บอทมาตอบ จนเป็นที่หัวเสียและขบขัน ของใครต่อใคร นี่ยังไม่รวมถึง เรื่องของคุณภาพสินค้า ที่ดูจะสวนทางจากราคา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับเรื่อง มหาเวทย์ผนึกมาร (Jujutsu Kaisen) ที่โดนใครต่อใครวิจารณ์อย่างหนักหน่วง (หลายเสียงบอกว่า การแปลเข้าขั้นแย่มาก ซะจนอ่านไม่รู้เรื่องกัน) ขนาดบางเล่มมีการตีพิมพ์ปรับปรุงใหม่ก็แล้ว ก็ยังพบเจอจุดบกพร่องให้แฟนๆได้ติได้ด่ากันอยู่ดี และจากเคสที่เกิดขึ้นกับมหาเวทย์ฯ นำไปสู่การเรียกร้องของแฟนๆโซเชียล ให้ทางสนพ. ดำเนินการปรับปรุงคุณภาพมังงะเรื่องอื่นๆให้ดียิ่งขึ้น ไม่ใช่เน้นจัดทำเพื่อเอาใจแฟนคลับมหาเวทย์ฯ เพียงเรื่องเดียว!!
มาถึงทางฝั่งค่ายดังแห่งฝั่งบางนา ที่ทางฝ่ายสื่งพิมพ์การ์ตูนของพวกเขา ดูจะคึกคักสวนทางกับฝ่ายรายการข่าวของพวกเขาที่ต้องเจอดราม่าการเมืองตลอดปี ซะจนมีการผลัดเปลี่ยนคนเกือบยกชุด..... แถมความเคลื่อนไหวบนแฟนเพจของพวกเขา ก็ดูคึกคักคึกครื้น แต่หนักไปทางข่าวสารการ์ตูนของค่ายอื่น มากกว่า ค่ายตัวเอง!!!!!!!?
รอบปีที่ผ่านมา พวกเขาได้ผุดหนังสือแบรนด์ใหม่ กับ NED Pastels ที่จะเน้นมังงะแนวอบอุ่น เยียวยาจิตใจ เอาใจนักอ่านวัยรุ่น วัยทำงาน เป็นหลัก อาทิ ตับอ่อนเธอนั้น ขอฉันหน่อยนะ , มองผ่านก้านอ้อ , ฝันถึงเรื่องนั้นอีกแล้ว เป็นต้น ซึ่งการคว้า LC ของ มองผ่านก้านอ้อ ซึ่งเป็นผลงานการ์ตูนของ อ.Satsuki Yoshino ผู้แต่ง บาระกะมอน เกาะมีฮา คนมีเฮ นั้น ก็ทำให้เรามีโอกาสที่จะได้อ่าน บาระกะมอน ในฉบับแปลไทยกันต่อ (แต่ไม่รู้จะหลุดจากการถนอมอาหารกันตอนไหน) ไม่เพียงเท่านั้น พวกเขายังได้คว้า LC เรื่อง ฮันดะคุง ซึ่งเป็นภาคสปินออฟของบาระกะมอน อีกด้วย (แต่ไม่รู้จะวางขายในช่วงเวลาใด)
ส่วน LC ใหม่ๆ ในรอบปีที่ผ่านมาของค่ายนี้ ก็ต้องบอกว่า หลากเรื่องหลากรส ตั้งแต่มังงะซีรี่ย์ที่กำลังไต่อันดับความนิยมในโชเน็นจัมป์ อย่าง Mission: Yozakura Family กับ Mashle : Magic & Muscle ก็ยังมี BEASTARS มังงะสิงสาราสัตว์ ที่เคยสร้างความฮืออาแก่นักอ่านญี่ปุ่น จากปลายปากกาของลูกสาวผู้แต่งมังงะ บากิ จอมประจัญบาน ,Samurai 8 ผลงานมังงะของผู้แต่ง Naruto , Oda Cinnamon Nobunaga ซีรี่ย์ขุนพลดัง กลับชาติมาเกิดใหม่เป็นสุนัข , รวมถึง LC ที่ต่อยอดมาจากมังงะเรื่องเด่นดังประจำสำนักพิมพ์ เช่น Thus Spoke Kishibe Rohan - มังงะบทโรฮัง จาก JoJo ล่าข้ามศตวรรษ , Super Dragon Ball Heroes: Dark Demon Realm Mission! มังงะดัดแปลงจากเกมชื่อเดียวกันของ ดราก้อนบอล เป็นต้น นอกจากนี้ ก็เน้นการรีปริ้นท์มังงะสุดที่รักที่พวกเขามีอยู่ (รอบที่ล้านกว่า) เช่น Slam Dunk , Dragon Ball , 20th Century Boys เป็นต้น
โดยใน LC ใหม่จำนวนนี้ ก็รวมถึง มังงะซีรี่ยจากซีรี่ย์คู่บุญของค่ายอย่าง เจ้าแมวสีฟ้า Doraemon ที่มีตั้งแต่ ฉบับมังงะของ ไดโนเสาร์ตัวใหม่ของโนบิตะ ที่ดัดแปลงมาจากหนังอนิเมจอเงินปี 2020 ของโดราเอมอน แล้วก็ Doraemon เล่ม 0 มังงะที่เป็นการรวบรวมตอนแรกสุดของพี่ม่อน ที่ตีพิมพ์ลงในนิตยสารเด็กระดับชั้นเรียนต่างๆ พร้อมกับ เกร็ดเล็กน้อย ที่เราจะได้รู้จักกับความเป็นมาของโดราเอมอน รวมถึง มีการจัดพิมพ์โดราเอมอน ทั้ง 45 เล่ม ในรูปแบบพรีเมียม เพื่อเป็นการฉลองครบ 50 ปี ของพี่ม่อนและผองเพื่อน
ไม่ใช่มีแค่ LC ใหม่ เพียงอย่างเดียว ทางค่ายยังได้ปลดล็อคมังงะจำนวนหนึ่ง ที่ไม่ได้วางขายมานาน สามารถเข็นออกมาวางขายบนแผงได้ในที่สุด อาทิ ชินจัง ภาคใหม่กิ๊ก แล้วก็ Claymore 3 เล่มสุดท้าย (25-27) จนจบได้ในที่สุด!!!!! ....ซึ่งเราก็หวังเป็นอย่างยิ่ง ขอให้ทางค่ายทยอยปลดล็อคเรื่องที่ดองมานาน ให้ออกวางจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง แฟนๆจะได้หายห่วง ที่ผลงานมังงะเรื่องรักของพวกเขา จะไม่ถูกแพ อย่างที่กังวลและร่ำลือกัน!!!!!
รอบปีที่ผ่านมาของค่ายดังฝั่งพระโขนง ก็มี LC มังงะใหม่จำนวนหนึ่งที่ไม่ค่อยจะสร้างความฮือฮานัก .......LC ใหม่ที่พอเด่น ก็มี FLYING WITCH (วันธรรมดาของแม่มดว้าวุ่น) , 7 สั้น คัดสรร (รวมเรื่องสั้น ผลงานของอ.ซุซุกิ นาคาบะ ผู้แต่งมังงะ ศึกตำนาน 7 อัศวิน) , Mashima HERO’S , DEAR BOYS Act.4 แล้วก็ ยังตามเทรนด์ ตามกระแส โรคระบาด COVID-19 พร้อมให้ความรู้ในการรับมือป้องกัน ไปกับมังงะ หัตถ์เทวดาเทรุ ~ฝ่าวิกฤตโคโรน่า 2020~ นอกจากนี้ ก็เป็น LC ใหม่จากมังงะลูกรักของค่าย ทั้ง มังงะจากฉบับมูฟวี่ของโคนัน แล้วก็ ผ่าพิภพไททัน ภาค รุ่งอรุณของรีไว (Shingeki no Kyojin Gaiden - Kuinaki Sentaku) ที่มีการจัดพิมพ์ใหม่ ในรูปแบบหน้าสีทั้งเล่ม!!!
ส่วนไฮไลต์เด็ดประจำปีของค่ายนี้นั้น คงหนีไม่พ้น การที่พวกเขาสามารถเคลียร์ใจกับสนพ. Akita Shoten ของญี่ปุ่น เป็นที่เรียบร้อย จึงทำให้มังงะจำนวนหนึ่งของ Akita สามารถกลับมาวางขายบนแผงบ้านเราได้อีกครั้ง หลังห่างหายมานานหลายปี อาทิ โอเคะโนะ มอนโช (คำสาปฟาโรห์) , Worst แล้วก็ โอซาว่า ฮายกครัว , โอซาว่าฮาเรื่อยเปื่อย สองซีรี่ย์มังงะฮาสติสตังแตก จากซีรี่ย์ ครอบครัวตัว ฮ.
นอกนั้น ก็เป็นการนำเอามังงะเก่าๆ มารีปริ้นท์ใหม่ ทั้งรูปพิมพ์ และ ดิจิตอล เช่น Dr.Noguchi , พรอลวน พรหมอลเวง , คู่คนลุยเลอะ , คุโรมาตี้ ภาคแรก รวมไปถึง ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ที่ขยันรีปริ้นท์ อย่างต่อเนื่อง...........แต่ถึงกระนั้น ทางค่ายก็ยังคงโดนวิจารณ์เรื่องเดิมๆ ในแง่ของราคาหนังสือการ์ตูน ที่ทางค่ายอัพสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด ซึ่งไม่สอดคล้องกับมาตรฐานคุณภาพที่ทางค่ายจัดทำซะเท่าไหร่
ค่ายใบไม้นำโชค ยังคงสร้างผลงานในการคว้า LC มังงะเรื่องใหม่ ที่ยังเตะตาผู้อ่านอย่างต่อเนื่อง (โดยเฉพาะกับแนวโรแมนติคคอเมดี้ ที่ถือเป็นไพ่ตายหลักของค่ายนี้มาโดยตลอด) ซึ่งพวกเขาได้จัดทำ ทั้งในแบบฉบับรวมเล่มอย่างเดียว แล้วก็ ฉบับรวมเล่ม + รายตอน(แบบเสียตังค์) บนเว็บ Mangaqube อาทิ TOKYO BABEL , ยากแท้จริงหนอรักของโอตาคุ , SHANGRI-LA FRONTIER , ผลงานมังงะเขย่าขวัญของ อ. Junji Ito , เพลงรักมนุษย์ค้างคาว (Yofukashi no Uta) , รักอลวนคนสลับบ้าน , The King of Fighters ~A New Beginning~ , มังงะซีรี่ย์ Fate/Grand Order -Epic of Remnant- เป็นต้น
เป็นที่น่าสังเกตว่า มังงะเรื่องใหม่ๆของพวกเขา จะหนักไปทาง มังงะซีรี่ย์สดใหม่จากนิตยสาร Shonen Magazine เสียเป็นส่วนใหญ่ ถึงกระนั้น ปีนี้ก็เป็นปีที่หลากหลายของพวกเขา เพราะพวกเขาสามารถคว้า LC การ์ตูนจาก Shonen Jump / Shonen Jump+ มาได้ กับ วัยหวานแห่งยุคเรอเนสซองส์! เดวิดคุง , Kiss x Death และ สาวแกลเมืองเหนือน่าฮักขนาด
ในส่วนมังงะที่พวกเขามีอยู่แล้วนั้น ปีนี้พวกเขาก็ได้สูญเสียซีรี่ย์ทำเงินอย่าง เจ้าสาวผมเป็นแฝดห้า ที่พวกเขาได้จัดพิมพ์จนจบ ถึงกระนั้น พวกเขาก็ได้เดอะแบกรายใหม่ ที่มีชื่อว่า สะดุดรัก ยัยแฟนเช่า ซึ่งทางค่ายได้ออกวางจำหน่ายเร็วได้ใจ และสามารถอ่านแบบรายตอนแบบแปลไทยเสร็จสรรพ ทาง Mangaqube
ถึงกระนั้น พวกเขาก็ต้องเจอทัวร์ลงจากบรรดานักอ่าน จากการที่พวกเขาประสบปัญหาในการจัดสต็อคสินค้า ที่ดันจัดจำนวนหนังสือที่จะวางขาย น้อยกว่าความต้องการของแฟนๆ จนนำมาสู่การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ด้วยการเปิดให้แฟนๆได้สั่งหนังสือแบบ On Demand ขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัญหาการจัดสต็อคหนังสือของพวกเขา ก็ยังคงสร้างปัญหาให้แก่แฟนๆที่อยากได้หนังสือ แต่กดสั่งซื้อไม่เคยทัน (เพราะของหมดก่อน) กันอยู่เนืองๆ........
ยังคงรักษาความเป็นสนพ.ราคาหนังสือไฮโซ เอาอกเอาใจนักอ่านสายเปย์เยอะ ไม่สนแกลบ เสมอมา สำหรับ ค่ายนกย่าง แห่งนี้ .... โดย LC ในรอบปีที่ผ่านมาของค่ายนี้ ก็มีทั้งหนังสือ-นิยาย เอาใจนักอ่านสาวๆสายจิ้นชิปหนุ่มๆ อย่างเช่น ซาซากิกับมิยาโนะ
ซึ่งก็รวมไปถึง มังงะ-นิยาย แนวต่างโลก ชื่อยาวๆ ประหลาดๆ สารพัด อันเป็นเทรนด์นิยม ที่พวกเขาขยันสรรหาอยู่แล้ว โดยจำนวนนี้ เป็นเรื่องที่ได้รับการจัดทำเป็นอนิเมทีวี หรือ ละครคนแสดง แล้ว อาทิ BOFURI น้องโล่สายแทงก์ แกร่งเกินร้อย , Honzuki no Gekokujou การปฏิวัติของสาวน้อยหนอนหนังสือ , 86 (Eighty-Six), Fate/Grand Order -Epic of Remnant- ซิงกูลาริตี้ย่อย EX แดนสวรรค์ไซเบอร์ทะเลลึก SE.RA.PH, ฉบับมังงะของ Weathering With You , เกิดใหม่เป็นนางร้าย จะเลือกทางไหนก็หายนะ , Unsung Cinderella เภสัชกรสาวหัวใจแกร่ง,นิยายต้นฉบับของ Kusuriya no Hitorigoto (หรือ สืบคดีปริศนาหมอยาตำรับโคมแดง ในชื่อไทยที่ตั้งโดยค่ายนี้)
แต่เรื่องที่ถือว่าเป็นไฮไลต์ประจำปีของพวกเขาอย่างแท้ทรู คงหนีไม่พ้น มหาศึก คนชนเทพ (Record of Ragnarok) มังงะเอาใจขาบู๊ แอ็คชั่นอัดหนัก ระหว่าง มนุษย์ กับ เทพสุดล่ำบึ๊ก ที่ทางค่ายได้คว้า LC ในช่วงคาบเกี่ยวสิ้นปี 2019 - ต้นปี 2020 ซึ่งจากข่าวที่มังงะเรื่องนี้ได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี ก็ทำให้พวกเขาได้มังงะที่สามารถทำเงินให้กับค่าย อย่างจริงๆจังๆ ล่ะนะ!!!
ยังคงเน้นสินค้าเอาใจนักอ่านวาย สายชิป จิ้น หนุ่มๆ หรือ สาวๆ เสมอมา แต่เรื่องที่เด่นสุด คงหนีไม่พ้น Citrus+ ภาคต่อของซีรี่ย์สองศรีพี่น้อง ยูสึ กับ เมย์ !? ส่วน LC มังงะแนวอื่น นอกเหนือจากแนวจิ้น ก็มี คุณหนูฝึกหัดกับผู้ดูแลสุสาน,14 แล้วไง ก็ใจอยากจะรัก
ส่วนมังงะ-นิยายเรื่องอื่นๆ ที่ค่ายนี้มีอยู่แล้ว...ช่วยเป็นกำลังใจให้พวกเขาออกวางขายอย่างต่อเนื่อง ดองให้น้อยที่สุด!!
ขณะที่ Animag ยังคงเน้นอัด LC ใหม่ช่วงใกล้งานเทศกาลหนังสือ เหมือนเช่นเคย นำโดยเรื่องเด็ดสุดประจำปี อย่าง นิยาย Shinyaku Toaru Majutsu no Index อินเดกซ์ คัมภีร์คาถาต้องห้าม พันธสัญญาใหม่ , ฉบับมังงะของ Kusuriya no Hitorigoto (ตำรับปริศนา หมอยาแห่งวังหลัง) ,มังงะ หลักสูตรนอกตำรา พี่น้องมหาเวท (Mahouka Koukou no Rettousei - Nyuugaku-hen) , บิเบลีย บันทึกไขปริศนาแห่งร้านหนังสือ ภาคโทบิระโกะ เป็นต้น
แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า นิยายใหม่ที่พวกเขาคว้ามานั้น ส่วนหนึ่งก็มาแนวสร้างเมือง อิงการเมือง อยู่พอสมควร (คงไม่มี Hidden Agenda อะไรหรอกเนอะ) เท่านั้นไม่พอ ปีนี้พวกเขาได้เริ่มบุกเบิกตลาดสาววาย ด้วยมังงะ 30-sai made Doutei da to Mahou Tsukai ni Nareru Rashii
LC ใหม่ของพวกเขาในปีที่ผ่านมา ยังเป็นแนวเดิมๆที่พวกเขาถนัด นั่นคือ แฟนตาซีต่างโลก ชื่อเรื่องอย่าง อิหยังวะ เช่น Potion-danomi de Ikinobimasu! (แค่ขายโพชั่นไปวันๆ ไม่ได้เหรอคะ!) , อย่าตามผมมาผจญภัยได้ไหมคุณแม่!ฯ , ถึงเป็นแค่นักฆ่า แต่ดูยังไงข้าก็เทพกว่าผู้กล้าซะอีก , Monster Breeder เป็นต้น
ส่วน LC ใหม่เรื่องอื่นๆ ก็มี Parallel Paradise งานล่าสุด สุดอิหยังวะ ของผู้แต่ง Elfen Leid , Boku no Kanojo Sensei แนวครูสาวจ้าวเสน่ห์ ออกเรตหน่อยๆ อีกเรื่องหนึ่ง แล้วก็ แนววายอีกนิดๆหน่อยๆ ..........แต่ถึงกระนั้น มังงะที่พวกเขามีอยู่จำนวนหนึ่ง กลับหายต๋อมไปเงียบๆ ซะงั้น
- Dexpress มี LC ใหม่เพียงหยิบมือ (ส่วนหนังสือ ยังออกวางขายช้า ไม่สม่ำเสมอเหมือนเคย) อาทิ เกิดชาตินี้พี่ต้องเทพ ภาคบันทึกของร็อกซี , เส้นทางพลิกผันของราชันอมตะ
- Bongkoch ค่ายเจ้าแม่การ์ตูนตาหวานเมืองไทย ได้ฉลองครบ 25 ปี ของตัวเอง ในปีที่ผ่านมา ซึ่งยังคงเน้นโกย LC มังงะแนวโชโจหลายหลายสิบเรื่องเป็นกระบุง รวมถึง มังงะแนว Y (ภายใต้แบรนด์ BLY) อีกจำนวนหนึ่ง แต่ก็ยังไม่มีเรื่องไหนที่เตะตาเป็นพิเศษ ในรอบปีที่ผ่านมา
- Gift Book มี LC ไลท์โนเวลแฟนตาซีประปราย ส่วนมังงะเล่มล่าสุดของ อิรุมะคุงกับโรงเรียนปิศาจ ก็.....รอคอยอย่างตามมีตามเกิดต่อไป
- Burapat สาละวนอยู่กับ การออกมังงะเรื่องเดิมๆ อย่าง สำนักพยัคฆ์มังกร รวมถึง มังงะสารพัดภาค ในจักรวาลของ "ขุนพลประจัญบาน"
ถือเป็นช่องทางการรับชมอนิเม ที่กำลังได้รับความนิยมสูงสุด ในขณะนี้ อันเนื่องมาจากความสะดวกในการเข้าถึงอย่างรวดเร็ว และได้รับชมอนิเมจากฝั่งญี่ปุ่นอย่างสดใหม่กว่าเดิม ทั้งแบบฟรี หรือ เสียตังค์ (ซึ่งค่าบริการ ราคาไม่แรงนัก) ที่สำคัญ มีอยู่หลายแอพให้ได้เลือกสรรกัน เช่น Line TV , Muse Thailand , AIS Play , Ani-One , Flixer , iQIYI , Bilibili , Pop TV , TrueID , WeTV , Crunchyroll , MonoMax รวมไปถึง Netflix ที่ใครหลายคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว เป็นต้น
อย่างที่บอกไป แอพเหล่านี้ จะสรรหา อนิเมเรื่องใหม่ๆ ประจำซีซั่นล่าสุด รวมถึง อนิเมเรื่องดัง เรื่องอื่นๆ มาให้ได้รับชม โดยจำนวนนี้ ก็มี ดาบพิฆาตอสูร , Black Clover My Hero Academia ฯลฯ ที่สามารถรับชมแบบพากย์ไทย มากกว่า 1 แอพ (แถมบางเรื่องที่ฉายพากย์ไทย ตามแอพต่างๆ ก็ดันใช้เสียงพากย์คนละทีม ซะอีก)
ต่อเนื่องจากข้างบน ก็คงจะอดเขียนถึงไปไม่ได้ สำหรับช่องอนิเม 24 ชม. ซึ่งจากผลงานที่พวกเขาได้สร้างไว้ตลอดทั้งปี 2020 ที่ทำเอาข่าวสาร LC อนิเมบ้านเราที่ซบเซามานานหลายปี กลับมาคึกคักกันอีกครั้ง แม้ว่า ทางช่องได้ปรับเปลี่ยนช่องทางการรับชม จากระบบดาวเทียม ไปเป็น IPTV หรือ รับชมทางออนไลน์ ก็ตาม (แต่ยังสามารถรับชมอนิเมจาก Cartoon Club ได้ ทางช่องทีวี ช่องดาวเทียว ที่พวกเขาได้ไปขอเช่าพื้นที่รายการ ล่ะ)
โดย ตลอดปี 2020 Cartoon Club ได้มีการซื้อ LC อนิเม ออกเผยแพร่ทางช่องของพวกเขา รวมถึง แอพสตรีมมิ่งต่างๆ อาทิเช่น Black Clover , Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร , My Hero Academia (เฉพาะ Line TV) เป็นต้น รวมไปถึง การคว้าลิขสิทธิ์ หนังอนิเม Digimon Adventure : LAST EVOLUTION KIZUNA ฉายบนโรงในบ้านเราอีกด้วย ซึ่งการคว้า LC ในแต่ละเรื่องนั้นของพวกเขานั้น เรียกได้ว่า พวกเขามีความตั้งใจในการจัดทำอนิเมของพวกเขาให้ออกมามีคุณภาพ ทั้งการคัดสรรแคสติ้งนักพากย์ ให้ได้ใกล้เคียงกับคาแร็คเตอร์ตัวละคร และจัดสรรนักพากย์ในทีม ให้มีจำนวนมากมาย ใกล้เคียงกับระบบการพากย์ของญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ ดาบพิฆาตอสูร ที่พวกเขาได้แคสนักพากย์ระดับอาชีพ ระดับมือใหม่ รวมกันมากกว่า 20 คน ซึ่งถือเป็นอนิเมซีรี่ย์พากย์ไทย ที่ใช้นักพากย์มากที่สุดในประวัติศาสตร์
อย่างไรก็ตาม จากการ LC อนิเมซีรี่ย์ ดาบพิฆาตอสูรของพวกเขา ก็นำมาสู่ดราม่าอุบาทว์แบบอย่าหาทำ ของแฟนอนิเมบางกลุ่ม ด้วยการทำตัวเป็นปลิงดูดเอาไฟล์อนิเมไปลงบนเว็บ/เพจเถื่อน จนทำเอาทาง CC ต้องแก้เกม ด้วยการเผยแพร่อนิเมตอนล่าสุดของเรื่องนี้ บน Line TV ทันที หลังจากฉายตอนล่าสุดทาง CC เรียบร้อยแล้ว
จากการที่แอพสตรีมมิ่งกำลังได้รับความนิยม ก็ทำให้อนิเมที่ฉายทางฟรีทีวี ซึ่งถือเป็นช่องทางการรับชมอนิเมแบบดั้งเดิมของบ้านเรา ก็พลอยซบเซาไปด้วย จึงทำให้ในรอบปีที่ผ่านมานี้ มีอนิเมเรื่องใหม่ๆที่เข้าฉายทางฟรีทีวีบ้านเราเพียงน้อยเรื่อง ส่วนหนึ่งนั้น ก็มาจากการเปลี่ยนแปลงด้านผังรายการทีวี ของช่องทีวีบางช่อง ที่ประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนักจากธุรกิจทีวีดิจิตอล (ขอเขียนเฉพาะช่อง ที่พอมีการอัพเดทอนิเมใหม่ ในรอบปีที่ผ่านมา - หากข้อมูลผิดพลาด ก็ขออภัยด้วย เพราะข้อมูลหายากจริงๆ)
- ช่อง 9 / Modern Nine / MCOT HD มีอนิเมเรื่องใหม่ฉายเพียงหยิบมือ โดยเฉพาะการมาของ Black Clover บนจอช่อง 9 สามารถเรียกเสียงฮือฮาจากแฟนๆได้มากที่สุด นอกจากนี้ ก็มีอนิเมแนวกีฬาวัยรุ่น อย่าง วิ่งตามฝัน , ชมรมฝัน ปั่นสะท้านโลก ปี 2-4 , แล้วก็ โดกิโดกิ! พรีเคียว ซีรี่ย์พรีเคียว ที่เราฉายตามหลังเค้าอยู่เยอะ นอกนั้น ก็เป็นพวกซีรี่ย์มาสก์ไรเดอร์ Zio ทั้งซีรี่ย์ และ หนัง ยันจนถึง ภาค Zero-One แล้วก็ อุลตร้าแมน Taiga
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่บ้านเรากำลัง Lock Down ทั้งประเทศ เนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทางช่อง 9 ได้รีรันอนิเมคู่บุญประจำช่องอย่าง โดราเอมอน ในเวอร์ชั่นปี 1979 แบบมาราธอน ให้น้องๆหนูๆ และแฟนๆตัวยงที่ติดตามพี่ม่อนมานาน ได้รับชมในช่วงอยู่บ้าน (พร้อมมีการนำเสนอเบื้องลึก เบื้องหลัง ของพวกน้าๆนักพากย์ ที่มีต่อ โดราเอมอน ในช่วงท้าย) แล้วก็ การฉายอนิเมโคนัน ในวันหยุดนักขัตฤกษ์
- True4U ฉาย My Hero Academia ซีซั่น 3 ก่อนจะรีรันตอนเก่า ในช่วงปลายปี นอกนั้นก็มีหนังอนิเมโคนัน มาฉายขัดตาทัพ ช่วง 8 โมงเช้า รวมถึง โปเกมอน Sun & Moon ที่ทางช่องได้ฉายอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งถึงภาค Pokemon Journey ที่ได้ย้ายไปฉายบนแอพ TrueID แทน นอกจากนี้ก็มีอนิเมญี่ปุ่น Astro Boy เจ้าหนูปรมาณู แล้วก็ Tamacot อนิเมชั่นสำหรับเด็กวัยเรียนรู้ โดย กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.)
- Thai PBS มี เสือน้อยชิมาจิโร่ ที่ทางช่องได้ออกฉายยาวตั้งแต่ปี 62 จนถึงปี 63 นอกนั้น ก็มีการ์ตูนอนิเมชั่นฝรั่งจำนวนหนึ่ง นำทีมโดย ซีรี่ย์น้องหมีหลากสีเรื่องฮิต Care Bears พร้อมกับเซอร์ไพรส์ที่น้อยคนนักจะรู้ เมื่อ Inazume Eleven - Ares หรือ นักเตะแข้งสายฟ้า ภาค อาเรส ได้มาลงสังเวียนแข้งบนจอช่องนี้ ต้นปี 2564!!!!!!
ช่องการ์ตูนอนิเม เอาใจผู้ชมเด็กโต-วัยรุ่น ของ True Visions ยังคงคัดสรรอนิเมเรื่องเยี่ยม มาให้ได้รับชมกันต่อเนื่อง นอกเสียจากจาก อนิเมโคนัน ที่ได้ไขคดีบนจออย่างเต็มอิ่ม กับอนิเมปีล่าสุด โดยอนิเมใหม่ที่ได้ฉายทาง TSJ ในปีที่ผ่านมา ประกอบด้วย น้องสาวสุดติ่ง อูมารุจัง , ฝากฝันไว้ที่เสียงโคโตะ! ,สาววัยใสหัวใจเชียร์ลีดเดอร์ Anima Yell! , PriPri Chi-chan!! , คุณครูสุดฮา นักเรียนสุดซ่าส์ 100% ,เธอกับฉันเพื่อนกันหนึ่งสัปดาห์ , MAJOR 2nd ถนนนักสู้ สู่ทีมเบสบอล ภาค 2 เป็นต้น โดยในปี 64 True Spark Jump ได้เตรียมฉายเรื่อง Keep Your Hands Off Eizouken! (ไอเดียคือจินตนาการ ผลงานคือโลกจริง ) อนิเมซีรี่ย์ที่สร้างความฮือฮาทั่วทั้งญี่ปุ่น จนได้รับการดัดแปลงเป็นหนังคนแสดงมาแล้ว (ซึ่งฉบับมังงะะของเรื่องนี้ NED ก็เพิ่งคว้าลิขสิทธิ์ไป เช่นกัน)
รอบปีหนูทองที่ผ่านมา คอการ์ตูนบ้านเราต่างได้สัมผัสกับหนังอนิเมจากญี่ปุ่น และ สัญชาติอื่นๆ มามากมายพอสมควร ซึ่งตรงนี้ ก็ต้องให้เครดิตให้แก่บริษัทนำเข้าอนิเม อย่าง JAM , DEX , M-Pictures , สหมงคล ฯลฯ ที่ยังคงสรรหาหนังอนิเมมาฉายบนโรงอย่างต่อเนื่อง ตลอดปี 2020 แม้ว่า ในภาพรวม ก็เป็นปีไม่สู้ดีของวงการหนังในบ้านเรา อันเนื่องมาจากการระบาดของ COVID-19 ส่งผลทำให้ โรงหนังหลายแห่งต้องสูญเสียรายได้เป็นอย่างมาก เพราะต้องปิดทำการ หรือ จำกัดที่นั่งไม่ให้เต็มโรง เพื่อเป็นการป้องกันโรคระบาด อีกทั้งยังมีหนังจำนวนหลายเรื่อง ที่ต้องเลื่อนฉายออกไป ในช่วงที่บ้านเรากำลังล็อคดาวน์
โดยหนังอนิเมที่เข้ามาฉายในบ้านเรา ในปีที่ผ่านมา ประกอบด้วย เทพยุทธเซียน Glory , My Hero Academia : Heroes Rising , ชินจัง เดอะมูฟวี่ ตอนฮันนีมูนป่วนแดนจิงโจ้ ตามหาคุณพ่อสุดขอบฟ้า , Digimon Adventure : LAST EVOLUTION KIZUNA , Akira , หนัง Gundam สารพัดภาค , โดราเอมอน เดอะมูฟวี่ ไดโนเสาร์ตัวใหม่ของโนบิตะ , Fate/stay night: Heaven’s Feel Ⅲ.spring song , Attack On Titan: Chronicle , Kimetsu no Yaiba: The Movie - Mugen Train ดาบพิฆาตอสูร ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ เป็นต้น อีกทั้งทาง JAM ได้เตรียมฉายหนังอนิเม Violet Evergarden The Movie และ หนังชินจังชุด ผจญภัยแดนวาดเขียน กับ ว่าที่ 4 ฮีโร่สุดเพี้ยน ในปี 2021 อีกด้วย
ซึ่งในบรรดาหนังอนิเมที่ได้เข้าฉายบนโรงในบ้านเรา ในรอบปีที่ผ่านมา ดูเหมือนว่า การระบาดของ COVID-19 ก็ไม่ส่งผลต่อรายได้ของหนัง ดาบพิฆาตอสูร ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ ใดๆ เพราะตัวหนังเรื่องนี้ สามารถสร้างสถิติเป็นหนังอนิเมญี่ปุ่นเรื่องแรกที่สามารถทำรายได้ทั่วประเทศไทย มากกว่า 100 ล้านบาท พร้อมกับครองสถิติหนังอนิเมญี่ปุ่นรายได้สูงสุดตลอดกาลในบ้านเรา อีกด้วย
ขณะที่ Tiga ผู้มักจะ LC ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน มาให้แฟนๆได้รับชมกันบนโรงมาตลอด ก็คว้าลิขสิทธิ์อนิเมตอนพิเศษ ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ทัศนศึกษามรณะ (ภาคสีแดงก่ำ-ภาคความรักสีแดง) ฉายบนโรงในบ้านเราช่วงต้นปี 2021 ....ทว่า สำหรับหนังอนิเม The Scarlet Bullet หนังอนิเมจอเงินชุดที่ 24 ของโคนัน ทาง Tiga ออกโรงยืนยันเองว่า พวกเขาไม่ได้ LC หนังในภาคดังกล่าว ซึ่งถือเป็นข่าวที่สร้างความฮือฮาเป็นอย่างมาก สำหรับคนที่ติดตามโคนันเป็นประจำ
สำนักข่าว K-D News (kartoon-discovery.com)
สามารถอัพเดทข่าวสารเว็บเราได้ผ่าน Twitter และ Facebook
หากนำข่าวจากเราไปเผยแพร่ที่อื่น รบกวนใส่เครดิตให้กับทางเราด้วยครับ ขอบคุณครับ