FB สำนักข่าว K-D News
K-D 's twitter
หากนำบทความจากเราไปใช้ ก็ขอความกรุณาให้เครดิตกับทาง kartoon-discovery.com ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
ติดตามเพจ FB หลัก (ใหม่) กันได้ที่ KDNewsNEO
สรุปข่าววงการการ์ตูนประจำปี 2563 (1) :
เหตุการณ์ ปรากฏการณ์ ข่าวสำคัญ วงการการ์ตูนประจำปี 2563
ปี 2020 ที่ได้จะผ่านพ้นไป แล้วนั้น ถือเป็นปีไม่สู้ดี สำหรับเราๆท่านๆ ที่ต้องเผชิญกับเรื่องหนักหน่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับวิกฤติการระบาดไปทั่วโลกของไวรัส COVID-19 ที่ได้ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรง ทั่วถึงทุกวงการ ทำเอาเศรษฐกิจที่กำลังแย่ กลับทรุดยิ่งไปอีก ไม่เพียงแค่ปัญหาเศรษฐกิจอย่างเดียว เราต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตทางการเมือง อันนำไปสู่ความขัดแย้งอย่างรุนแรง ระหว่างคนต่างรุ่น ผู้มีแนวคิดไม่ตรงกัน ยันจนถึง ความวิปริตของคนส่วนหนึ่ง อันสะท้อนถึงความเสื่อมทางจิตใจในสังคม จนนำมาซึ่งเหตุระทึกขวัญ ชิงทรัพย์ ยึดห้าง กราดยิงชาวบ้าน ทำร้ายร่างกายผู้บริสุทธิ์ในที่สาธารณะ จนกลายเป็นเหตุการณ์เศร้าสลดของใครต่อใคร และได้แต่คิดว่า บ้านเราคงยากที่จะเหมือนเดิม.............ซึ่งตรงนี้ ก็ได้แต่ให้กำลังใจตัวเอง ในการต่อสู้ชีวิต รับมือกับโรคระบาด และ ผลกระทบต่างๆ ที่ตามเข้ามาเป็นขบวน ....รวมถึง ต้องช่วยส่งกำลังใจให้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ มากมายเป็นพิเศษ เพราะกลุ่มคนเหล่านี้ คือ หน้าด่านสำคัญในการต่อสู้กับไวรัสวายร้ายชนิดนี้ และการต่อสู้ของพวกเขา เริ่มที่จะสัมฤทธิ์ผล จากการที่ได้ทยอยผลิตวัคซีนออกมา และหวังว่าจะเข้าถึงผู้คนบนโลกทุกคน
ในส่วนของข่าวคราวในวงการการ์ตูน รอบปี 2020 ก็มีเรื่องราวต่างๆเกิดขึ้นหลายอย่าง ก่อนหน้านี้ เราได้ลงสรุปข่าวตอนพิเศษ ที่นำเสนอเรื่องราวอย่างละเอียดเกี่ยวกับ มหันตภัย COVID-19 ที่มีต่อววงการมังงะ-อนิเม และ ปรากฏการณ์ความฮ็อตไม่เลิกของ ดาบพิฆาตอสูร เป็นต้น (หลักๆ คือ เนื้อข่าวของสองหัวข้อนี้ มันยาวเกิน) ที่นี้ เราก็เลยจะขอทบทวนเรื่องราวต่างๆ ที่ได้เกิดขึ้นในวงการการ์ตูน รอบปี 2020 อีกจำนวนนับสิบกว่าเรื่อง มาสรุปกันให้ได้รับทราบพอสังเขป (จะพยายามจะเขียนให้สั้นๆ เข้าใจกันได้มากที่สุด) ซึ่งในตอนนี้ ถือเป็นการสรุปข่าวประจำปีตอนหลักที่แท้ทรู!!!!!!
เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น เราไปทบทวนกันเลยครับ!!!
เหตุการณ์ ปรากฏการณ์ ข่าวสำคัญ วงการการ์ตูนประจำปี 2563
# มหันตภัย COVID-19 สร้างความป่วน ทั่ววงการมังงะ-อนิเม
ถือเป็นข่าวใหญ่ที่สุด และส่งผลกระทบอย่างหนักหน่วงรุนแรง ไปทั่ววงการการ์ตูน และ อนิเมชั่นโลก จากการแพร่ระบาดไปทั่วโลกของไวรัส Covid-19 / Coronavirus สร้างความปั่นป่วนให้แก่กระบวนการผลิตมังงะและอนิเมของญี่ปุ่น ซึ่งมักจะทำงานกับแบบอนาลอก ที่เน้นการรวมตัวของผู้คนในสถานที่แคบ ต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับวิถี New Normal เน้นรักษาระยะห่าง, ทำงานจากที่พัก ,ประชุมพูดคุยงานผ่านระบบทางไกล และด้วยการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้เอง ก็ส่งผลทำให้ มังงะ จำนวนหนึ่ง ต้องเลื่อนการตีพิมพ์ - ออกวางจำหน่าย เช่นเดียวกับ อนิเมญี่ปุ่นจำนวนอีกหลายเรื่อง ต้องเลื่อนฉายข้ามซีซั่น ข้ามปีกันเลยทีเดียว
ไม่เพียงเท่านั้น การระบาดของ COVID-19 ยังส่งผลกระทบต่องานอีเว้นต์ คอนเสิร์ต ละครเวที ที่เกี่ยวข้องกับการ์ตูน จำนวนหลายงาน ต้องสูญเสียรายได้ และต้องทยอยยกเลิกการจัดงานตามสถานที่จริง ปรับเปลี่ยนไปจัดในรูปแบบออนไลน์แทน เช่นเกียวกับ สถานที่ต่างๆ อย่างสวนสนุก พิพิธภัณฑ์ ต้องปิดให้บริการ หรือ จำกัดผู้เข้าชมให้น้อยลง เป็นต้น
ในส่วนรายละเอียดเพิ่มเติม ที่เกี่ยวกับผลกระทบต่างๆที่เกิดขึ้นกับ มังงะ , อนิเม , ภาพยนตร์ , งานอีเว้นต์ อันเนื่องมาจากวิกฤตไวรัสชนิดนี้ สามารถอ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ กับ บทความพิเศษ ของเราครับ!!
# Kimetsu no Yaiba - เพ่งจิตรวมปราณอย่างฟีเวอร์ ไม่หยุดหย่อน แห่งปี 2020
Kimetsu no Yaiba หรือ ดาบพิฆาตอสูร มังงะแนวแอ็คชั่น ย้อนอดีตไปยังยุคไทโชของญี่ปุ่น ที่ได้นำเสนอเรื่องราวการต่อสู้ของเด็กหนุ่ม ทันจิโร่ ที่ได้ฝึกฝนตัวเองให้กลายเป็นนักดาบแห่งหน่วยพิฆาตอสูร เพื่อช่วยเหลือ เนซึโกะ น้องสาวของเขา ให้หลุดพ้นจากการเป็นอสูร กลับมาเป็นสาวน้อยน่ารักธรรมดาๆ ซึ่งก็ได้สร้างความตราตรึงใจให้แก่แฟนๆมานักต่อนัก นับตั้งแต่มังงะซีรีย์ ยันจนถึง อนิเมทีวี ที่ได้สร้างปรากฏการณ์มากมายให้แก่วงการการ์ตูนญี่ปุ่นในยุค พ.ศ. นี้
ซึ่งความร้อนแรงดั่งเพ่งจิตรวมปราณของพวกเขา ยังคงยิงยาวมาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่า มังงะต้นฉบับของเรื่องนี้จะจบลงไปแล้วก็ตาม แต่ถึงกระนั้น ก็ไม่ได้ทำให้กระแสความปังของเรื่องนี้ลดลงแต่อย่างใด แต่กลับฟีเวอร์ไปทั่วบ้านทั่วเมืองมากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ!!! จนนำไปการสร้างสถิติอันลื่อลั่น ซะจนหลายคนต้องยอมซูฮกให้จริงๆ
นับตั้งแต่ ฉบับมังงะรวมเล่ม แล้วก็ฉบับนิยายจากเรื่องนี้ ที่ขายดิบขายดีไปซะทุกเล่ม จนครองอันดับ 1 มังงะและนิยายขายดีที่ญี่ปุ่น ประจำปี 2020 ทั้งซีรี่ย์ และ ตามเล่ม แบบเรียบอาวุธ ขณะเดียวกัน หนังอนิเมจากเรื่องนี้อย่าง Kimetsu no Yaiba : The Movie - Mugen Train / ดาบพิฆาตอสูร เดอะ มูฟวี่ - ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ ก็โกยรายได้หนังอย่างถล่มทลาย แบบไม่สน COVID-19 ซะจนครองสถิติ อันดับที่ 1 หนังตลอดกาลของญี่ปุ่น ทั้งรายได้สูงสุด และ ยอดตั๋วสูงสุด แต่เพียงผู้เดียว ในที่สุด
และจากการที่มังงะ-อนิเม ยังคงขายดิบขายดีต่อเนื่อง ทำเงินอย่างมหาศาล ก็ส่งผลทำให้เรื่องนี้ เป็นแฟรนไชส์ที่ทำรายได้สูงที่สุดในปี 2020 แถมยังสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่นได้สูงถึง 2.7 แสนล้านเยน ด้วยกัน
รายละเอียดอื่นๆ ที่เราได้เจาะลึกปรากฏการณ์ตวามฟีเวอร์ของเหล่านักพิฆาตอสูร ในด้านต่างๆ รวมถึง กระแสของเรื่องนี้ในบ้านเรา สามารถติดตามอ่านต่อกันได้ กับ บทความพิเศษ ของเราครับ!!
# My Hero Academia : ชื่อตัวละคร พ้องดราม่า อดีตอันแสนเจ็บปวด
หลังจากเข้าสู่ปีชวด 2020 ได้ไม่ทันไร อ.Kohei Horikoshi กับ กองบก. Shonen Jump ก็เจอทัวร์ลงเข้าอย่างจัง จากบรรดาแฟนคลับชาวต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ ชาวจีน ชาวเกาหลี ที่แสดงความไม่พอใจ กับเนื้อหาตอนที่ 259 ของ มังงะซีรี่ย์ My Hero Academia จากการปรากฏตัวของตัวละครตัวร้ายของเรื่องผู้มีนามว่า ดร. Daruma Ujiko
การปรากฏตัวของตัวละครข้างต้นนั้น ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรๆใด แต่ประเด็นกลับอยู่ตรงที่ ชื่อเสียงเรียงนามจริงของตัวละครที่ว่า (ที่มีการเปิดเผยครั้งแรก) นั่นคือ Shiga Maruta ซึ่งคำว่า Maruta ในชื่อตัวละครดังกล่าว ดันไปพ้องกับคำแสลง ที่สื่อถึงเหยื่อจากการทดลองมนุษย์ ของหน่วยที่ 731 แห่งกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น ในระหว่างสงครามจีน-ญี่ปุ่น ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยทหารกลุ่มนี้ จะเรียกเหยื่อทดลอง (ซึ่งประกอบไปด้วย เด็ก , ผู้หญิงท้อง , คนแก่ , คนพิการ) ว่า "maruta" ซึ่งมีความหมายแปลว่า ท่อนซุง ในภาษาญี่ปุ่น และเหยื่อเหล่านี้ ต้องทนทุกข์ทรมาณสาหัสจากการทดลองอันแสนโหดร้ายนี้ ไม่ว่าจะเป็น การฉีดเชื้อโรค , การผ่าตัด , การทำลายกลีบสมอง และ การตัดอวัยวะบางส่วนออก
แม้ว่า ทาง อ.Horikoshi กับ บก. Jump ได้ยืนยันว่า ไม่ได้ตั้งใจที่จะตั้งชื่อตัวละครให้สื่อไปทางนั้น แค่ตั้งชื่อไปตามลักษณะรูปร่างของตัวละครเฉยๆ (คำว่า Maruta ยังสามารถแปลได้ว่า "อ้วน-กลม") แต่ก็ถูกแฟนคลับจีน-เกาหลี พาลูกทัวร์มารุมถล่มบนโซเชียลอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่ง อ.Horikoshi และ Jump ตัดสินใจแก้ไขชื่อจริงของ Dr. Ujiko เสียใหม่ ให้กลายเป็น Kyudai Garaki แทน ทำให้ดราม่าดังกล่าว จบลงแต่โดยดี แต่ก็ต้องแลกกับการที่มังงะเรื่องนี้ถูกยกเลิกเผยแพร่ในจีน รวมถึง เกมมือถือ My Hero Academia: Strongest Hero ที่พัฒนาโดยบริษัทของจีน อาจถูกพิจารณายกเลิก เช่นกัน ......แม้ว่าดราม่าดังกล่าวจะเคลียร์เรียบร้อยแล้ว แต่มิวายยังมีชาวโซเชียลบางส่วน คอยหาเรื่องปั่นให้เกลียดชังเรื่องนี้ โดยโยง GAT PAT สารพัด อยู่เนืองๆ ในช่วงเวลาดังกล่าว
# Act-Age : จากมังงะดาวรุ่งเฉิดฉาย สู่ดาวดับไร้ที่ยืนบนเวที!!
มาถึงกลางปี 2020 สนพ.Shueisha และ Shonen Jump ก็ประสบกับดราม่าใหญ่อีกครั้ง โดยคราวนี้เกิดขึ้นกับ Act-Age ดารายอดอัจฉริยะ มังงะดาวรุ่งแนวเชือดเฉือนประชันทักษะการแสดงบนเวที ประจำนิตยสาร ซึ่งข่าวอื้อฉาวที่เกิดขึ้นกับเรื่องนี้เอง ก็สร้างความช็อคให้แก่นักอ่านและแฟนๆเรื่องนี้กันไปทั่ว เมื่อสื่อหลายสำนักของญี่ปุ่น ได้ประโคมข่าวว่า อ.Tatsuya Matsuki ผู้รับหน้าที่แต่งเนื้อเรื่องให้กับมังงะเรื่องนี้ ถูกจนท.ตำรวจจับกุมตัว ในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศกับเด็กหญิงม.ต้น จำนวน 2 ราย ด้วยกัน
แม้ว่า Matsuki จะรับสารภาพความผิดในทุกข้อหา แต่จากความผิดที่เขาได้เป็นผู้ก่อขึ้นนั้น ถือเป็นความผิดอย่างร้ายแรง ชนิดที่สังคมมิอาจรับได้ โดยคดีดังกล่าว ได้ส่งผลกระทบต่อมังงะ Act-Age ที่กำลังไต่ความนิยมเพิ่มขึ้นอยู่ในขณะนั้น ให้กลายเป็นมังงะที่ สนพ.ต้นสังกัด ไม่อยากจะเอ่ยถึงอีกต่อไป รวมถึง ยังเป็นการสกัดกั้น Kei Yonagi นางเอกแสนสวยประจำเรื่อง ที่กำลังเป็นนักแสดงสาวดาวรุ่งอยู่ดีๆ พลอยหมดอนาคต หมดเวทีที่จะยืนอีกต่อไป อย่างอ้อมๆ อีกด้วย
โดยบทลงโทษที่ Act-Age ได้รับ จากความผิดที่ Matsuki ก่อขึ้น ประกอบด้วย มังงะ Act-Age ถูกตัดจบอย่างเป็นทางการ กับตอนที่ 123 , มังงะฉบับรวมเล่ม จะวางจำหน่ายถึงแค่เล่ม 12 ในญี่ปุ่น และไม่มีการตีพิมพ์ซ้ำอีกต่อไป (ส่วน SIC ต้นสังกัดมังงะเรื่องนี้ ในบ้านเรา วางจำหน่ายฉบับรวมเล่มเรื่องนี้ในบ้านเรา ถึง เล่มที่ 10 เท่านั้น) , มังงะ ถูกถอดออกจากแอพ Mangaplus ทั้งหมด , สื่อโปรโมทที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสินค้าต่างๆ ของเรื่องนี้ ได้ถูกถอดออกจาก Youtube และ ออกจากแผงร้าน Jump Shop ของญี่ปุ่น ไม่เพียงเท่านั้น ยังส่งผลต่อโปรเจ็คละครเวที + กิจกรรมออดิชั่นบท Kei Yonagi ที่เพิ่งประกาศได้ไม่นาน ต้องถูกยกเลิกไปด้วย
จากข้างต้น เรียกได้ว่า ความผิดพลาดที่ Matsuki ได้ก่อขึ้นนั้น ได้ส่งผลกระทบกันไปทั่ว ราวกับ โดมิโน่ล้มครืนระเนระนาด ตั้งแต่ สนพ. , Shonen Jump , ผู้อ่าน ยันรวมไปถึง อ.Shiro Usazaki พาร์ทเนอร์ผู้ร่วมงานของเขา ซึ่งเป็นผู้วาดภาพให้กับมังงะเรื่องนี้ ที่จำต้องยอมให้เรื่องนี้ถูกตัดจบ สร้างความเสียดายให้แก่ตัว อ.Usazaki เอง รวมถึง ผู้ที่ชื่นชอบเรื่องนี้ เช่นเดียวกับ มังงะซีรี่ย์ ที่แม้จะมีเนื้อหาสาระดี แต่กลับไม่ได้ไปต่อ พร้อมกับลงเอยด้วยมลทินความด่างพร้อย ในสายตาของแฟนๆ จากความผิดที่ผู้แต่งเรื่องได้ก่อขึ้น......ซึ่งถือบทเรียนให้กับใครหลายคนว่า จะกระทำการใดๆ ขอให้มีสติ และ คำนึกถึงส่วนร่วมด้วย หากกระทำโดยขาดความยั้งคิด ก็อาจส่งผลเสียหายครั้งใหญ่ เหมือนดั่งเคสนี้
ในขณะที่ Matsuki ต้องชดใช้กรรมจากคดีความผิดที่เขาก่อขึ้น ด้วยการรอลงอาญา เป็นเวลา 3 ปี (แต่ถ้าหากเขากระทำผิดซ้ำในช่วง 3 ปี เขาก็จะถูกจำคุกเป็นเวลา 1 ปีครึ่ง) ..... ทางฝั่ง อ.Usazaki ยังคงได้รับกำลังใจจากแฟนๆและเพื่อนร่วมอาชีพ อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง รวมไปถึง ทางกองบก.Jump ยังคงสนับสนุนเธอต่อไป ด้วยการให้เธอรับหน้าที่วาดภาพโปสเตอร์งานประกวด,ภาพวาดลงนิตยสาร แล้วก็ มังงะเรื่องสั้นชุด Flame-Eyed Cyclops ที่ตีพิมพ์ลงในจัมป์ ช่วงปลายปี 2020 เป็นต้น
# การผลัดใบซีรี่ย์มังงะครั้งใหญ่ อีกระลอก ของ Shonen Jump
ถือเป็นสัจธรรม ในวงการมังงะ ที่ย่อมจะต้องมีเรื่องเก่าที่จบลง และ เรื่องใหม่ที่เข้ามา สลับกันไป แต่สำหรับ นิตยสารการ์ตูน Shonen Jump นั้น ในปี 2020 นี้ จัดเป็นปีที่พวกเขาต้องสูญเสียมังงะซีรี่ย์แม่เหล็กมากมายหลายเรื่อง (มากกว่า ปี 2016 ซะด้วยซ้ำ) ตั้งแต่เรื่องดังที่มีบทสรุปอย่างลงตัว ทั้ง Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร , Yuragi-sou no Yuuna-san ยูรากิโซ ที่นี่ผีน่ารักนะ , The Promised Neverland พันธสัญญาเนเวอร์แลนด์ , Haikyuu!! คู่ตบฟ้าประทาน และ Bokutachi wa Benkyou ga Dekinai เรื่องนี้ตำราไม่มีสอน ไม่เพียงเท่านั้น ยังมี Chainsaw-man ที่ได้ดำเนินเรื่องราว จนจบภาคแรก , Samurai 8 Hachimaruden ผลงานมังงะของ อ.Masashi Kishimoto (Naruto) ที่ฟีดแบ็คไม่เป็นดั่งที่หลายคนคาดหวัง เลยถูกต้นสังกัดตัดจบ , แล้วก็ Act-Age ซีรี่ย์ดาวรุ่งที่ถูกตัดจบ จากคดีฉาวที่ผู้แต่งเรื่องนี้ได้ก่อขึ้น (ตามที่เราได้กล่าวไว้ข้างบน)
ในจำนวนนี้ ที่น่าสนใจก็คือ จากการอวสานลงของ Haikyuu!! นี้เอง ก็ทำให้ Jump ต้องเสียสถิติ ไร้มังงะแนวกีฬาตีพิมพ์ลงในนิตยสาร เป็นครั้งแรก ในรอบ 52 ปี ของพวกเขา!!!!!!
นอกจากมังงะใน Shonen Jump แล้ว ก็ยังมีมังงะ-ไลท์โนเวลดังจากค่ายอื่นๆ ที่ได้อวสานลงไปในปี 2020 นี้ด้วย ประกอบด้วย :
Gal Gohan / ครัวสาวแกล , Shaman King: Red Crimson , Beastars , เจ้าสาวผมเป็นแฝดห้า , มังงะ Infinite Stratos , "ศึกตำนาน 7 อัศวิน (จบภาค) , เหล่าฆาตกรกับคดีฆาตกรรมปริศนา , Domestic Girlfriend "บทเรียนรักเส้นทางหัวใจ" , ม Kin-iro Mosaic / KINMOZA! ประกายใสวัยฝัน , Fairy Tail: Happy no Daibōken / FAIRY TAIL ภาค แฮปปี้ลุยเอง ,Asahinagu สู้เขาน้องแว่น ,โคโนะโดริ หมอสองชีวิต,Kakushigoto,Tejina Senpai / Magical Sempai ,Toaru Kagaku no Accelerator ,Detective Conan: Private Eye in the Distant Sea ,Weathering With You ,Ōoku: The Inner Chambers , 12 Beast , A-Channel
ไลท์โนเวล"ขอให้โชคดีมีชัยในโลกแฟนตาซี! , ไลท์โนเวล "น้องสาวของผมคืออาจารย์เอโรมังกะ" ,ไลท์โนเวล Date A Live พิชิตรัก พิทักษ์โลก,ไลท์โนเวล Hataraku Mao sama! หรือ ผู้กล้าซึนซ่าส์กับจอมมารสู้ชีวิต ,ไลท์โนเวล Mahōka Kōkō no Rettōsei หรือ พี่น้องปริศนาโรงเรียนมหาเวท
# Jujutsu Kaisen + MAPPA : ผนึกกำลังแผลงอิทธิฤทธิ์อวดผี จนมาแรงแซงโค้ง ช่วงปลายปี 2020
ในปี 2020 หากจะพูดถึงสตูดิโออนิเม ที่มีผลงานดีเด่น นอกจาก ufotable ที่นำพา Kimetsu no Yaiba สร้างความปังไปทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว คงหนีไม่พ้น MAPPA ซึ่งได้สร้างผลงานดีอย่างต่อเนื่องมาหลายปี โดยในปีนี้ MAPPA เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง อนิเมยิมนาสติก Taiso Samurai , รับหน้าที่สานต่อ อนิเมซีซั่นสุดท้ายของผ่าพิภพไททัน ชุด Attack on Titan : Final Season แทนที่ Wit Studio ที่เคยจัดทำมา 3 ซีซั่นก่อนหน้า แล้วก็ เป็นผู้อาสา นำมังงะ Jujutsu Kaisen หรือ มหาเวทย์ผนึกมาร ผลงานมังงะแอ็คชั่นพลังไสยศาสตร์ของ อ.Gege Akutami มาปลุกปั้นในรูปแบบ อนิเมทีวี และมีส่วนสำคัญยิ่ง ที่ทำให้ 3 สหายก๊วนนักเรียนไสยเวทย์ + 1 อาจารย์ (ที่มาแนวคล้ายๆกะ ทีม 7 ของ Naruto) กลายเป็นอนิเมทีวีที่มาแรงแซงโค้ง ในช่วงปลายปี 2020 อยู่ในขณะนี้!!!!
หากจะว่ากันตามตรงเกี่ยวกับกระแสของเรื่องนี้ ก็มาทำนองเดียวกับ ดาบพิฆาตอสูร เลย กล่าวคือ ก่อนที่เรื่องนี้จะได้รับจัดทำเป็นอนิเม มังงะเรื่องนี้ ยังไม่เป็นที่กล่าวถึงมากนัก และมีภาพจำ ในแง่ของลายเส้นที่ไม่ค่อยสวยงามนัก แต่จากความเข้มข้นของเนื้อเรื่อง ที่นำเอาเรื่องราวของไสยศาสตร์มายำรวมกัน ผสมผสานกับสไตล์การนำเสนอ-ตัวละคร ที่ อ.ผู้แต่งได้แรงบันดาลจากมังงะซีรี่ย์รุ่นพี่ ทั้ง Hunter x Hunter , Naruto แล้วก็ Bleach จึงทำให้เรื่องนี้ได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ จนก้าวขึ้นสู่ เสาหลักอีกเรื่องนึงของ Shonen Jump และได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี ในที่สุด
ซึ่งสตูดิโอ MAPPA ก็ไม่ทำให้บรรดาแฟนคลับ ชาวคณะอวดผี ล่าท้าผี กลุ่มนี้ ผิดหวัง ด้วยการจัดทำอนิเมเรื่องนี้ ให้มีภาพสวย คมชัด ยิ่งกว่า มังงะต้นฉบับ ประกอบกับ การนำเสนอที่น่าสนใจยิ่ง จึงทำให้ อนิเมเรื่องนี้โดนใจแฟน กลายเป็น อนิเมยอดนิยมอันดับ 1 ประจำซีซั่นฤดูใบไม้ร่วง 2020 จากแฟนๆอนิเม ผู้ใช้บริการ d-store ไม่เพียงเท่านั้น การมาของอนิเมเรื่องนี้ ยังส่งผลทำให้มังงะต้นฉบับ มียอดตีพิมพ์ที่เพิ่มขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด ราว 400% เมื่อเดือน ต.ค. 2020 และทำให้มังงะซีรี่ย์เรื่องนี้ มียอดตีพิมพ์ถึง 15 ล้านเล่ม จากฉบับรวมเล่ม 14 เล่มด้วยกัน ไม่เพียงเท่านั้น มังงะเรื่องนี้ ยังมียอดขายรวมเล่มแบบก้าวกระโดด จนติด 1 ใน 10 มังงะซีรี่ย์ขายดีประจำปี 2020 ของ Oricon ในที่สุด
และจากผลงานที่ทำให้ Jujutsu Kaisen ออกมาแหล่มขนาดนี้ ทำให้ MAPPA กลายเป็นสตูดิโออนิเม ที่ได้รับการจับตามองจากแฟนๆ กับโปรเจ็คในอนาคตของพวกเขา อีกทั้ง พวกเขาได้เพิ่มดีกรีความคาดหวังจากแฟนๆมังงะเพิ่มเติม จากการที่พวกเขาจะหยิบเอา Chainsaw-man มังงะแอ็คชั่นสุดแนวอาร์ตตัวพ่อ ของ อ.Tatsuki Fujimoto ที่มาจากนิตยสารเล่มเดียวกันกับเรื่องนี้ มาดัดแปลงในรูปแบบอนิเมทีวี
# ว่าด้วยเรื่องของมังงะซีรี่ย์ ม้ามืด น่าจับตามอง ปี 2020
รอบปี 2020 ที่ผ่านมา ก็มีมังงะออกสู่สายตานักอ่านมากมาย นอกจากมังงะกระแสหลักที่ได้รับความสนใจจากนักอ่านอย่างกว้างขวางแล้ว ในจำนวนนี้ ก็มีมังงะซีรี่ย์ดาวรุ่ง ที่กำลังไต่แร้งค์ขึ้นมา กลายเป็นซีรี่ย์น่าสนใจ ที่กำลังได้รับการพูดถึงมากขึ้น (ซึ่งส่วนหนึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า ฉบับอนิเมของแต่ละเรื่องนั้น มีส่วนสำคัญที่ทำให้มังงะต้นฉบับเป็นที่ต้องการมากขึ้น)
- Spy x Family แม้ว่าจะเป็นมังงะที่ได้รับการกล่าวถึง มาตั้งแต่ปี 2019 แต่เรื่องนี้ก็มีกระแสความนิยมที่ดีขึ้นเรื่อยๆ หลังจากคว้ารางวัลมังงะดาวรุ่ง ประเภทหนังสือ Tsugi ni Kuru Manga 2019 ทำให้ซีรี่ย์ครอบครัวสปายจำแลงแสนอบอุ่น เข้าถึงกลุ่มคนทุกเพศ ทุกวัยเรื่องนี้ มียอดตีพิมพ์ฉบับรวมเล่ม โดยเฉลี่ยต่อเล่ม ทะลุเกิน 1 ล้านเล่ม และกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่แฟนๆต่างลุ้นอยากให้มีฉบับอนิเม ซะที
- Chainsaw-Man ซีรี่ย์มังงะที่นำเสนอ การต่อสู้ของเด็กหนุ่ม ที่สามารถแปลงร่างเป็นปีศาจเลื่อย ประกอบการการนำเสนอเนื้อหาอันชวนคาดไม่ถึง คาดเดาได้ยากในทุกตอนๆ ซะจนได้ใจผู้อ่าน จนสามารถคว้าอันดับ 1 Kono Manga ga Sugoi 2021 ในประเภทมังงะโชเน็น จนนำไปสู่การดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี โดย MAPPA ในส่วนมังงะต้นฉบับ อ.ผู้แต่งก็สนองต่อแฟนๆ ด้วยการเตรียมขึ้นภาคใหม่ ใน Shonen Jump +
- The Way of the Househusband / Gokushufudo หรือ พ่อบ้านสุดเก๋า มังงะม้ามืดขนานแม้ ที่ว่าด้วยเรื่องราวของ อดีตยากูซ่า ที่กลับกลายมาเป็นพ่อบ้านใจกล้า เรียกเสียงหัวเราะจากผู้อ่านมากมาย จนก้าวสู่รางวัลยอดเยี่ยมระดับนานาชาติ กับ สาขา Best Humor Publication สาขาการ์ตูนตลกยอดเยี่ยม จากเวที San Diego Comic Con 2020 รวมถึง ยังได้รับการดัดแปลงเป็นละครซีรี่ย์คนแสดง แล้วก็ อนิเมซีรี่ย์ฉายบน Netflix ปี 2021
- สะดุดรัก ยัยแฟนเช่า มังงะโรแมนติคคอเมดี้วัยรุ่น ที่นำเสนอความสัมพันธ์วุ่นๆ ระหว่างชายหนุ่มผู้เพิ่งอกหัก กับ สาวเจ้าเสน่ห์ ผู้รับจ๊อบเป็น "แฟนเช่า" จนนำไปสู่เรื่องราวทำนองละครสมัยก่อน รักหลอกอย่าบอกใคร และจากการมาของฉบับอนิเมเรื่องนี้ ได้พลิกชีวิตฉบับมังงะต้นฉบับ ให้กลายเป็นมังงะขาดตลาดในช่วงเวลานั้น โดยสามารถทำยอดขายฉบับรวมเล่ม ทะลุเกิน 5 ล้านเล่ม รวมถึงยังได้รับอย่างดีเยี่ยม จากนักอ่านจีนแผ่นดินใหญ่ ด้วยยอดขายในจีนกว่า 700,000 เล่ม จนนำไปสู่การจัดทำอนิเมทีวี ซีซั่น 2 ต่อ
- Undead Unluck มังงะน้องใหม่ Shonen Jump ที่มาแรงแซงโค้ง กับ การต่อสู้สุดเว่อร์ของคู่หู มนุษย์อมตะ (Undead) กับ สาวน้อยผู้อับโชค (Unluck) ที่จับคู่กันได้อย่างลงตัว จนนำไปสู่การคว้ารางวัล Tsugi ni Kuru Manga Taisho/ Tsugi ni Kuru Manga Awards ประจำปี 2020 และกลายเป็นมังงะซีรี่ย์ ที่กำลังได้รับการผลักดันอย่างสูงจาก บก. Shonen Jump ภายใต้แคมเปญ Boost เฉกเช่นเดียวกับเรื่อง
- Mashle ซีรี่ย์นักเรียนจอมเวทพลังกล้ามเนื้อ ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง ใน Jump เช่นกัน ซึ่งเป็นอีกเรื่องที่ได้รับการผลักดันอย่างสูง จาก บก. Shonen Jump ภายใต้แคมเปญ Boost เช่นเดียวกับ Undead Unluck
- ข้าก้าวผ่าน 1 ล้านชีวิตเพื่อพิชิตเกมมรณะ แม้จะเป็นมังงะแนวต่างโลก ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์นิยม แต่จากการที่เรื่องนี้ถูกสร้างในรูปแบบอนิเมทีวี ทำให้ มังงะต้นฉบับของเรื่องนี้ มียอดขายฉบับรวมเล่มเพิ่มขึ้นถึง 11 เท่า ด้วยกัน!!!! ไม่เพียงเท่านั้น อนิเมเรื่องนี้ ยังได้รับไฟเขียว ให้ไปต่อ ในซีซั่นที่ 2 ด้วย
- Kaiju No.8 มังงะแนวสัตว์ประหลาด จัดเป็นมังงะอีกเรื่องที่กำลังได้รับความนิยมจากแฟนๆ และมีบางส่วนที่เชียร์ให้ได้ลง Jump เล่มหลักเหลือเกิน (มังงะเรื่องนี้ ลงประจำใน Shonen Jump+)
- Record of Ragnarok มหาศึกคนชนเทพ มังงะซีรี่ย์แอ็คชั่นดวลกันตัวตัว ระหว่าง มนุษย์ กับ เทพเจ้า สุดล่ำบึ้ก ที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงจากแฟนๆในบ้านเรา มากกว่าที่คิด และจากการที่มังงะเรื่องนี้ ได้แสดงศักยภาพอันซ่อนเร้น ให้หลายคนได้ประจักษ์ จนนำไปสู่การได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเมทีวี ออกอากาศในปี 2021
# วงการเกมโลก ออกโรงหนุนกระแส Black Lives Matter
จัดเป็นเหตุการณ์ใหญ่สำคัญอีกเหตุการณ์หนึ่ง ในรอบปี 2020 ที่เกิดขึ้น ท่ามกลางการแพร่ระบาดอย่างหนักของไวรัส COVID-19 ในสหรัฐ เมื่อ George Floyd หนุ่มผิวสีชาวอเมริกัน ได้เสียชีวิตลง จากการถูกจนท.ตำรวจ ได้กระทำเกินกว่าเหตุ ด ด้วยการคุกเข่ากดคอร่างของ Floyd สร้างความทรมานให้แก่หนุ่มแอฟริกัน-อเมริกันผู้นี้ จนเสียชีวิตในที่สุด จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นำไปสู่กระแสเรียกร้อง Black Lives Matter หรือ การเรียกร้องความยุติธรรมต่อคนดำ คนผิวสี คนแอฟริกัน-อเมริกัน อย่างเท่าเทียมกัน ของชาวอเมริกันทั้งประเทศ ซึ่งบางพื้นที่ของสหรัฐนั้น มีการประท้วงกันแบบเลยเถิด ซะจนเกิดการจราจลย่อมๆ
นอกจากกระแส Black Lives Matter จะตื่นตัวไปทั่วสหรัฐแล้ว ก็ยังลามไปถึงโลกโซเชียล รวมถึง กลุ่มคน-บริษัท และ องค์กร ในวงการเกม จำนวนหนึ่ง ได้ออกโรงสนับสนุน Black Lives Matter ด้วยการบริจาคเงินทุนจำนวนหนึ่ง อาทิ บริษัทเกม Square Enix , Pokémon Company บริษัทผู้ดูแลลิขสิทธิ์แฟรนไชส์ Pokémon , Niantic บริษัทผู้พัฒนาเกม Pokémon GO รวมถึง บริษัทผู้ผลิตเกมวีดีโอ CAPCOM และ PC Gamer เป็นต้น
ขณะที่แฟนอนิเมบนโลกโซเชียล ต่างพากันแสดงออกถึงเรื่องนี้ ด้วยการติดแฮชแท็กที่เกี่ยวข้องกับ Black Lives Matter พร้อมกับโพสต์ภาพแฟนอาร์ท เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ กระแส Black Lives Matter กำลังครุกรุ่นอยู่นั้น สถานีทีวี NHK ของญี่ปุ่น ได้เจอทัวร์ลงเข้าอย่างจัง อันเนื่องมาจากการนำเสนอข่าว BLM ที่ผิดเพี้ยนไปจากความจริง รวมไปถึง ได้นำเสนอภาพตัวการ์ตูนคนผิวดำ ที่ถูกมองว่า ทางช่องทีวี กำลังดูถูกดูหมิ่นเหยียดสีผิว คนกลุ่มนั้น ร้อนถึง NHK ต้องออกมาขออภัยในการนำเสนอข่าวดังกล่าว ในภายหลัง
และจากเหตุการณ์ Black Lives Matter นั่นเอง นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้น กับ อนิเมชั่นซีรี่ย์เรื่องดังของอเมริกัน The Simpsons ด้วยการตัดสินในยกเลิกให้นักพากย์คนผิวขาว มาพากย์เสียงเป็น ตัวละครผิวสี ในเรื่อง และจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นใน The Simpsons นั่นเอง ก็กลายเป็นประเด็นที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางจากแฟนการ์ตูน เช่นกัน
# ความอลเวงของชาว จ.คางาวะ ไปกับ กฎจำกัดเวลาเล่มเกม
พฤติกรรมการเล่นเกมวีดีโอ เกมมือถือ อย่างไม่รู้จักแบ่งเวลาและขาดสติยับยั้งชั่งใจ ของเด็ก-เยาวชนจำนวนหนึ่ง กำลังสร้างความกลัดกลุ้มให้แก่ผู้ใหญ่ ผู้ปกครองสมัยนี้ ซะจนเกรงว่า พฤติกรรมดังกล่าวข้างต้น จะทำให้บุตร-หลานของตน เป็นโรคติดเกมอย่างหนัก ไม่เป็นอันเรียนอันทำงาน จนนำไปสู่พฤติกรรมก้าวร้าว และ การผลาญทรัพย์โดยใช่เหตุ
จากข้างต้น ทำให้มีผู้หลักผู้ใหญ่ และ ผู้เกี่ยวข้อง พยายามที่จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยหนึ่งในการจัดระเบียบแก้ปัญหาที่ถือเป็นไฮไลต์ประจำปี 2020 นั้น ก็เกิดขึ้น ณ จังหวัดที่มีขนาดเล็กที่สุดของญี่ปุ่น อย่าง จ.คางาวะ ที่ได้ออกกฎบัญญัติควบคุมเวลาเล่นเกม ซึ่งถือเป็นจังหวัดแรกของญี่ปุ่น ที่ได้ออกกฎเกี่ยวกับการจำกัดการเล่นวีดีโอเกมและการใช้มือถือสมาร์ทโฟน ซึ่งได้มีการบังคับใช้ ตั้งแต่ 1 เม.ย. 2020 เป็นต้นมา โดยสาระสำคัญของกฎนี้ จะเป็นการจำกัดเวลาเล่นเกมของเยาวชนอย่างเหมาะสม (ในความคิดพวกเขา) คือ เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี สามารถเล่มเกม-ใช้มือถือได้ 60 นาที ในวันธรรมดา และ 90 นาที ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ รวมถึง ห้ามใช้อุปกรณ์เล่นเกม หลัง 4 ทุ่ม (ขณะที่ เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ห้ามใช้อุปกรณ์เล่นเกม หลัง 3 ทุ่ม ) ซึ่งกฎดังกล่าว ไม่มีบทลงโทษสำหรับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตาม โดยเป็นการขอร้องให้จัดการตามดุลยพินิจของแต่ละครอบครัวแทน
จากกฎข้างต้นนั้น กลับกลายเป็นการสร้างความไม่สบอารมณ์ และ สร้างปัญหา ให้กับคอเกมในจังหวัดดังกล่าวมากขึ้น จากการที่พวกเขามองว่า เป็นกฎที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญด้านเสรีภาพ และ ละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐาน จนมีคนในจังหวัดส่วนหนึ่งออกมาต่อต้าน ซึ่งมีตั้งแต่ แม่ลูกคู่หนึ่ง ที่ออกมาฟ้องดำเนินคดีกับทางจังหวัด พร้อมกับเรียกร้องค่าเสียหาย, นักศึกษาหนุ่มผู้หนึ่ง ได้ส่งอีเมล์แสดงข้อความขู่อาฆาตถึงสมาชิกสภาจังหวัดผู้หนึ่ง ที่ออกโรงสนับสนุนกฎนี้ รวมถึง สำนักทนายความประจำจังหวัด ได้ออกแถลงการณ์ร้องเรียนให้ทางจังหวัดยกเลิกกฎนี้ เป็นต้น
แม้ว่าแถมทางผู้ว่าฯจังหวัด ยังยืนกรานว่า กฎดังกล่าว ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และอ้างว่า ผู้ปกครองเด็กประถมในจังหวัด มากกว่า 80% ต่างสนับสนุนกฎนี้ เช่นกัน ... แต่บทสรุปเกี่ยวกับกฎดังกล่าวนั้น ยังไม่มีความชัดเจน และอยู่ในขั้นตอนการสู้คดีบนชั้นศาล......แต่พูดก็พูดเถอะ ยังไงซะ สุดท้ายแล้ว การที่เราจะติดเกมมากหรือน้อย ก็ขึ้นกับพฤติกรรมของแต่ละคน ว่า มีความสามารถในการแยกแยะ หรือ รู้จักแบ่งเวลา มากน้อยแค่ไหน ส่วนฝั่งผู้ใหญ่ ควรคอยชี้แนะ สอดส่องดูแลบุตรหลาน ในการเล่มเกม ไม่ควรปล่อยปละละเลย และมัวแต่โทษอย่างอื่น แทนที่จะตำหนิความรับผิดชอบของตัวเอง เหมือนที่แล้วๆมา.......
# ฟ้าหลังฝนของ Kyoto Animation หลังผ่านพ้นโศกนาฏกรรม 1 ปี
ย้อนกลับไปเมื่อ 18 ก.ค. 2019 ได้เกิดโศกนาฏกรรมกับสตูดิโออนิเม Kyoto Animation เมื่อถูกลอบวางเพลิงด้วยน้ำมือของชายวัยกลางคน ผู้มีนามว่า Shinji Aoba ซึ่งได้กล่าวหาสตูดิโอแห่งนี้(อย่างมโน)ว่า เป็นคนขโมยผลงานของเขา จนต้องออกมาก่อเหตุรุนแรงขึ้น และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากจะมีผู้เสียชีวิตมากถึง 36 คน บาดเจ็บอีกราว 30 กว่าคน ยังรวมถึง ทรัพย์สินและงานต้นฉบับกระดาษของสตูดิโอแห่งนี้ ได้รับความเสียหายอย่างย่อยยับ จนกลายเป็นข่าวเศร้าของคออนิเมไปทั่วโลก
แม้ว่า KyoAni จะเสียหายอย่างหนัก จนต้องมีการรื้อถอนอาคารสตูดิโอ 1 ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุลอบวางเพลิง (แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ เกี่ยวกับการนำไปใช้สอยพื้นที่ที่เคยเป็นที่ตั้งของสตูดิโอดังกล่าว) ถึงกระนั้น ทางสตูดิโอ ก็สามารถสลัดลัดความโศกเศร้า พร้อมเดินหน้า มูฟออน สร้างสรรค์ผลงานของพวกเขาต่อไป ด้วยการว่าจ้างทีมงานอนิเมเตอร์หน้าใหม่ หลายอัตรา ในการเตรียมจัดทำโปรเจ็คอนิเมใหม่ๆแล้ว ซึ่งมีตั้งแต่ อนิเมซีซั่น 2 Kobayashi-san Chi no Maid Dragon ที่จะออกอากาศในปี 2021 , หนังอนิเมชุดใหม่ของ Free! ปี 2021 แล้วก็ หนังอนิเมจากซีรี่ย์ Tsurune: Kazemai Koukou Kyuudoubu เป็นต้น แต่ถึงกระนั้น พวกเขาก็ยังคงงดจัดการประกวด Kyoto Animation Awards ต่อไปอีกซักพัก
ในส่วนผลงานเด่นของสตูดิโอ ในช่วงที่กำลังบอกช้ำกับโศกนาฏกรรมดังกล่าว Violet Evergarden กลายเป็นอนิเมเดอะแบกของค่ายนี้อย่างแท้ทรู จากผลงานหนังอนิเม Violet Evergarden the Movie ที่สามารถกวาดรายได้เกิน 2 พันล้านเยน กลายเป็นหนังที่ทำรายได้สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของ สตูดิโอ Kyoto Animation (เป็นรอง A Silent Voice / รักไร้เสียง เพียงเรื่องเดียว) รวมถึง เป็นหนังอนิเมชั่นที่ทำรายได้สูงสุด เป็นอันดับ 8 ของโลก ในปี 2020 และจากความสำเร็จของหนังชุดนี้ จึงทำให้กลายเป็นหนังอนิเมเรื่องแรกของญี่ปุ่น ที่ได้เข้าฉายบนโรงในญี่ปุ่น ในระบบ Dolby (ไม่นับหนังอนิเมฉบับตัดต่อ)
ขณะเดียวกัน การดำเนินคดีทางกฎหมายกับ Aoba ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แถลงจับกุมตัวเขาอย่างเป็นทางการ เมื่อ 27 พ.ค. 2020 ภายหลังจากปล่อยให้เขาได้รับการรักษาตัว ฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บอย่างหนักจากการถูกไฟครอก ณ วันก่อเหตุ อย่างเต็มที่ ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ จะฟ้องดำเนินคดีกับเขา จำนวนอีกหลายกระทง เมื่อ ธ.ค. 2020
# ดราม่าสุดวุ่นตลอดปี ของเหล่า Vtuber ญี่ปุ่น
Influencer กลายเป็นกลุ่มคนผู้มีบทบาท และส่งอิทธิพลต่อผู้คนในวงกว้าง บนสังคมโซเชียลมีเดีย ที่เข้ามามีอิทธิพลต่อคนสมัยใหม่มากขึ้น โดย Influencer เหล่านี้ จะมาในหลายรูปแบบ ทั้งคนจริง หรือไม่ก็ ตัวละครสมมติ หรือ เสมือน ที่ได้ใช้มาสค็อต หรือ avatar มาแทนตัวตนของตนเอง เป็นต้น โดยเฉพาะ กับ Vtuber (Virtual YouTuber ) หรือ ผู้จัดรายการบนแพล็ตฟอร์มวีดีโอ YouTube กำลังได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ ในหมู่คอการ์ตูน - อนิเม -เกม จนวงการนี้เติบโตขึ้นมามาก ซะจนมีการมีตติ้งของเหล่า Vtuber อย่างย่อมๆ โดยตลอด รวมถึง ยังมี Vtuber จำนวนหนึ่ง ที่ได้รับโอกาสเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้า หรือ แคมเปญ ต่างๆ อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาสุขสันต์ของเหล่า Vtuber ตลอดปี 2020 ก็มีดราม่าแสนวุ่นวายที่เกิดขึ้นกับ Vtuber ญี่ปุ่น จำนวนหนึ่งด้วย.....
เริ่มตั้งแต่ Akai Haato กับ Kiryu Coco สอง Vtuber สาวชื่อดังแห่งค่าย hololive ของ Cover Corp ได้ถูกต้นสังกัดสั่งลงโทษแบน เป็นเวลา 3 สัปดาห์ จากการที่ทั้งคู่ได้ดำเนินรายการ ด้วยการเผลอเรียก ไต้หวัน เป็น "ประเทศ" จนนำไปสู่ประเด็นความขัดแย้งที่มีมาอย่างช้านาน ระหว่าง ไต้หวัน กับ จีน ไปพร้อมกับการที่ทั้งสองสาว เจอทัวร์ลงขนานใหญ่โดยกลุ่มแฟนๆชาวจีน ที่ออกอาการไม่พอใจ และกล่าวหาว่า ทั้งคู่ ไม่สนับสนุนนโยบายจีนเดียวของพวกเขา
ไม่เพียงเท่านั้น Vtuber สาว Kingyozaka Meiro ได้ถูก NIJISANJI ต้นสังกัด ประกาศยกเลิกสัญญา อันเนื่องมาจาก Vtuber สาวรายนี้ ประพฤติไม่เหมาะสม ทั้งฝ่าฝืนกฎเรื่องของการรักษาข้อมูลลับ ปล่อยให้ข้อมูลต่างๆรั่วไหล รวมไปถึง มีปัญหาขัดแย้งกับ Yuzuki Roa Vtuber สังกัดเดียวกัน ในเรื่องของการใช้น้ำเสียงตัวละครที่ดูจะทับซ้อนกันเกินไป
จากข้างต้น ขอสรุปเลยล่ะกันว่า วงการ Vtuber จะรุ่งหรือจะร่วง ก็ต้องขึ้นกับ ผู้ที่มารับบทบาทเป็นตัวละครเสมือนเหล่านี้ ว่าจะสวมบทบาท มีพฤติกรรมในการนำเสนอ การจัดรายการ อย่างเหมาะสมหรือไม่ ? เพราะอย่าลืมว่า ไม่ว่าคุณจะพูด หรือ จะกระทำอะไรนั้น ก็สามารถสร้างอิทธิพลชี้แนวทางให้แก่ผู้ฟัง ในฐานะของ influencer ด้วย เช่นกัน!!!
# ปีชวด ไม่ชวดสมชื่อ ....เมื่อ คนวงการนักพากย์ - นักร้อง ญี่ปุ่น พากันจูงมือวิวาห์ !!!
รอบปี 2020 ที่กำลังจะหมดไป แม้ว่าจะเป็นปีที่ไม่สู้ดีนัก จากการที่มีไวรัส COVID-19 แพร่ระบาดไปทั่ว ...ถึงกระนั้น โควิด ก็มิอาจจะพรากความรักหวานชื่นของบรรดานักพากย์ และ นักร้องชื่อดังของญี่ปุ่นได้ เพราะมีนักพากย์ และ นักร้องชาวญี่ปุ่นจำนวนหนึ่ง ต่างตัดสินใจสละโสด อยู่กินกับคู่ชีวิตของตน และวางแผนที่จะสร้างครอบครัวด้วยกัน
เริ่มตั้งแต่ช่วงสิ้นปี 2019 - ปีใหม่ 2020 มีนักพากย์ประกาศแต่งงานมากมายถึง 8 คน!!!!! ประกอบด้วย ได้แก่ Nozomi Yamamoto , Haruka Yoshimura , Aya Suzaki , Rei Matsuzaki , Rika Tachibana , Juri Kimura แล้วก็ Sayaka Senbongi กับ Tasuku Hatanaka สองนักพากย์นำจากอนิเม Koutetsujou no Kabaneri ที่ได้จูงมือเข้าประตูวิวาห์กันเอง
หลังจากนั้น ถึงคิวของบรรดานักพากย์เบอร์ใหญ่ระดับต้นของวงการญี่ปุ่น ที่ได้ประกาศแต่งงานบ้าง อย่างเช่น Haruna Ikezawa , Megumi Takamoto , Nana Mizuki ฯลฯ ซึ่งคู่ที่ฮือฮาที่สุด ก็คงหนีไม่พ้นคู่นักพากย์หนุ่ม-สาว คนดัง อย่าง Kensho Ono กับ Kana Hanazawa
ไม่เพียงเท่านั้น นอกจากซ้อ 7 Nana Mizuki ที่เป็นนักร้องสาวที่สมหวังกับชีวิตคู่ในปีนี้ ก็มีนักร้องดังของญี่ปุ่นที่หลายคนรู้จักชื่อและคุ้นเคยมานาน ต่างก็ประกาศสละโสด เช่นกัน อาทิ T.M.Revolution รวมถึง LiSA นักร้องสาวอนิซองมาแรง จากเพลงประกอบอนิเม Kimetsu no Yaiba เป็นต้น
# Hamtaro : แปรเปลี่ยนมุ้งมิ้ง เป็นสัญลักษณ์ต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย ในไทย
ภาพจาก Nikkei
ในบรรดาสรุปข่าวการ์ตูนประจำปี 2020 ทั้งหมดนั้น.....สำหรับข่าวนี้ ขอบอกตรงๆว่า เป็นข่าวที่เรารู้สึกหนักใจในการเขียนที่สุด เพราะรู้ดีว่า เรื่องประเด็นทางเมืองอันเรื้อรังที่เกิดขึ้นในบ้านเรานั้น แต่ละคน ต่างก็มีมุมมองความเห็นที่แตกต่างออกไป ซะจนรู้สึกลำบากใจในการเรียบเรียง ที่จะไม่ให้ไปกระทบฝั่งใดฝั่งหนึ่งนัก (เฮ้อ!!)
......ถึงกระนั้น จากสีสันที่บรรดาผู้ชุมนุมหนุ่มสาวคนรุ่นใหม่ ที่มีทั้ง เด็กนักเรียน นักศึกษา และ คนทำงาน ได้หยิบเอาวัฒนธรรมมังงะ-อนิเม ญี่ปุ่น มาชูเป็นสัญลักษณ์ ในการต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย ในไทย ก็ถือว่าได้รับความสนใจจากใครหลายคน แม้แต่ สำนักข่าวมังงะ-อนิเม ต่างประเทศ ก็ยังนำเสนอข่าวนี้ด้วยเช่นกัน!!!!!!!!
โดยผู้ชุมนุม ในนาม เยาวชนปลดแอก , ประชาชนปลดแอก (ซึ่งต่อมามีการเปลี่ยนชื่ออีกหลายชื่อ เป็น คณะราษฏร์ 2563 , คณะราษฎร ฯลฯ) ได้หยิบเอา Hamtaro ตัวการ์ตูนหนูแฮมสเตอร์ดัง ที่มาจากผลงานมังงะ กับ หนังสือนิทาน ของ อ.Ritsuko Kawai ไปใช้เป็นสัญลักษณ์ในการแสดงออกเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยของพวกเขา ไปพร้อมกับการต่อต้านรัฐบาล และ เรียกร้องให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย ลาออก-ยุบสภา ไม่เพียงเท่านั้น พวกเขายังได้หยิบเอาเพลงเปิดอนิเมของเรื่องนี้ มาดัดแปลงเนื้อเพลง ให้มีใจความเสียดสีรัฐบาลชุดปัจจุบันของไทย ที่กำลังผลาญภาษีประชาชน พร้อมกับเดินขบวนวนรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เลียนแบบฝูงหนูแฮมสเตอร์กำลังวิ่งวนอยู่ในวงล้อ (+ ทำท่าทางวิ่งแบบนินจานารุโตะ 555) ซึ่งสื่อถึงรัฐบาลชุดปัจจุบันของไทย ที่กำลังพายเรือวนอยู่รอบอ่าง
หลังจากนั้น ม๊อบปลดแอกสารพัดชื่อกลุ่มนี้ ได้หยิบเอาหลายสิ่งหลายอย่าง ทั้ง ริบบิ้นขาว , การชู 3 นิ้ว , หมุดคณะราษฎร์ , เป็ดยางสีเหลือง ฯลฯ มาเป็นการแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ เรียกร้อง-ต่อต้านรัฐบาล และปฏิรูปสถาบันเบื้องสูง แม้กระทั่ง ตัวการ์ตูน มินเนียน (Minion) ยังถูกทางผู้ชุมนุมนำไปใช้ ในเชิงเสียดสีฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นกลุ่มที่ออกมาปกป้องสถาบัน
แน่นอนว่า การแสดงออกของผู้ชุมนุมกลุ่มนี้เอง ก็มีทั้งคนที่สนับสนุน แล้วก็ คนที่ไม่เห็นด้วย จนนำไปสู่ การที่ต่างฝ่าย ต่างออกมาแสดงพลัง ตามความเชื่อความศรัทธาของตนเอง ก่อให้เกิดการกระทบกระทั่งกันของกลุ่มคนทั้งสองฝั่ง ไม่ว่าจะเป็นการเผชิญหน้ากันซึ่งๆหน้า หรือ การปะทะคารมทางโซเชียลมีเดีย อย่างไม่รู้จักจบสิ้น... ไม่เพียงเท่านั้น ยังนำไปสู่ การใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ ในการพยายามสลายการชุมนุม จนนำไปสู่การ Call Out จากบุคคลในหลากหลายวงการ
ไม่ว่า วิกฤติการเมืองที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ จะ"จบลงที่รุ่นเรา" หรือไม่ ..........แต่เชื่อว่า หลายฝ่าย ต่างมีความต้องการอยากให้บ้านเมืองนั้นดีขึ้น อยากจะให้ความขัดแย้งทางการเมือง ยุติลงโดยเร็วที่สุด แม้จะคิดต่างกันก็ตาม ฉะนั้น ไม่ว่าใครจะอยู่ฟากฝั่งไหน ควรจะมีเหตุมีผลกัน รับฟังความเห็นต่างกันบ้าง ไม่ใช่เอะอะก็ผลักใสไล่ส่งคนที่เห็นต่างจากตัวเอง หรือ ไปบีบบังคับผู้อื่นให้คิดเหมือนกับตน (ปฏิเสธไม่ได้ว่า ยังไงซะ คงมีจำนวนหนึ่งล่ะ ที่ไม่อยากจะข้องเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้น) และที่สำคัญ อย่าใช้ความรุนแรงในการตอบโต้กันไปมา ซึ่งหากเอาแต่แรงมาแรงกลับ ไป-มาอยู่อย่างนี้ ก็รังแต่จะทำให้ปัญหาต่างๆสะสมขึ้น ค้างคามากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด.......
# Pop Culture with Thai Society 2020 : เรื่องราวไทยๆ กับ ป๊อปคัลเจอร์มังงะ-อนิเม ญี่ปุ่น และ อนิเมชั่นฝรั่ง รอบปี 2020
* วิชญาณี เปียกลิ่น หรือ แก้ม The Star กลายเป็นศิลปินไทยหนึ่งเดียว ที่ได้ร่วมแสดงโชว์ ในงานประกาศรางวัล Oscar ครั้งที่ 92 โดยคุณแก้ม เจ้าของเสียงภาษาไทยของ Elsa ได้ขับร้องเพลง Into the Unknown เพลงประกอบหนังอนิเมชั่น Frozen 2 ในท่อนภาษาไทย ร่วมกับ ผู้พากย์เสียงเป็น Elsa ในเวอร์ชั่นประเทศต่างๆ
* บรรลือสาส์น ผู้จัดพิมพ์หนังสือการ์ตูนขายหัวเราะ ได้ตามเทรนด์กระแสฮาเฮของเหล่าแฟนบอล Liverpool ที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี ด้วยการเตรียมจัดพิมพ์ ขายหัวเราะ ฉบับพิเศษ กับ Limited Edition : Liverpool เดินไปด้วยกัน ไม่มีวันเดียวดาย
ซึ่งก่อนหน้านั้น เมื่อช่วงต้นปี 2020 ขายหัวเราะ ยังได้ออกฉบับพิเศษ ฉลองครบรอบ ฉบับที่ 1,500 ของพวกเขา อีกด้วย
* ปัญหาข้อพิพาทลิขสิทธิ์ Ultraman ระหว่างญี่ปุ่น กับ ไทย ที่ดำเนินมานานหลายปี ในที่สุด ชัยชนะนั้น ตกเป็นของ Tsuburaya เจ้าของ Ultraman อย่างสมบูรณ์ จากการที่ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินฯไทย ยังคงยึดคำพิพากษาตามศาลอุทธรณ์ ด้วยการให้ Tsuburaya เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ Ultraman ภาคที่เหลือ (ซึ่งเคยถูกตัดสินให้เป็นลิขสิทธิ์ของ บ.ไชโย) ประกอบด้วย Ultraman 1 “Ultra Q”,Ultraman 2 ,Ultraman Seven, Return Ultraman 7, Ultraman Ace และ Ultraman Taro รวมถึง ภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้อง อาทิ Giant VS Jambo ‘A’ (ยักษ์วัดแจ้งพบจัมโบ้เอ), Hanuman and the Seven Ultraman (หนุมาน พบ 7 ยอดมนุษย์) แล้วก็ Jamborg Ace (จัมโบ้ เอ) ไม่เพียงเท่านั้น Tsuburaya ยังสามารถเอาชนะคดีพิพาทเหนือ BlueArc สตูดิโอจีน ผู้สร้างหนัง Dragon Force: So Long, Ultraman ในข้อหาหยิบเอาตัวละคร Ultraman ไปใช้ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพวกเขา
* MindaRyn ยูทูปเบอร์สาวชาวไทย สายโคเวอร์เพลงประกอบอนิเมญี่ปุ่นจำนวนมากมาย ผู้มียอด Subscriber บน Youtube มากกว่า 856,000 คน ได้โกอินเตอร์ เดบิวเป็นนักร้องในสังกัดค่าย Lantis ของญี่ปุ่น ไม่เพียงเท่านั้น ยังได้เป็นผู้ขับร้องเพลง Blue Rose know เพลงปิด ของอนิเมทีวีญี่ปุ่นเรื่อง Kamitachi ni Hirowareta Otoko ที่ได้ออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ พ.ย. 2020 ซึ่งเป็นเพลงเปิดตัวเพลงแรกของเธอ ในฐานะนักร้องที่ญี่ปุ่น ด้วย
* สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ผุดไอเดียจัดทำการ์ตูนชุด Thai League : Battle Ball! ในการโปรโมทฟุตบอลไทยลีก ให้มีความน่าสนใจเพิ่มมากขึ้น ในหมู่เด็ก-เยาวชน ซึ่งได้ คุณหนู - เอกรัฐ มิลินทะภาส นักเขียนการ์ตูนมืออาชีพเจ้าของผลงาน เดโมนิคคอรี่ย์ (สนพ. เนชั่นฯ), แพนดอร่า(สนพ.LET'S COMIC ) รับหน้าที่เขียน
* "เขาเรียกผมว่าเอเรน" บทเพลงลูกทุ่ง-เพื่อชีวิต ผสมกลิ่นอายเพลงร็อคสไตล์อนิเมญี่ปุ่น ที่ขับร้องโดย พีสะเดิด กลายเป็นเพลงฮิตที่สร้างความฮือฮาให้กับคออนิเมบ้านเราในช่วงกลางปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแฟนๆของเรื่อง ผ่าพิภพไททัน ซึ่งที่มาของเพลงดังกล่าว เริ่มต้นมาจากการที่ชาวโซเชียล ได้นำเอารูปโฉมของ Eren Yeager พระเอกของเรื่องนี้ ที่กลายเป็นไอ้หนุ่มผมยาว ไปเปรียบเทียบกับ พีสะเดิด มาก่อนหน้านี้หลายปี ซึ่งคุณพี ก็ได้รับรู้ถึงมีมดังกล่าวนี้ จนนำไปสู่การชาเล้นจ์บน twitter ส่วนตัวของเขา ซึ่งก็ได้ตามเป้า ทำให้คุณพีตัดสินใจแต่งเพลงนี้ขึ้น โดยเอา Eren มาชู ในแง่ของการสร้างแรงบันดาลใจในการลุกขึ้นต่อสู้ จนได้รับแรงศรัทธาจากผู้คน โดยเพลงนี้ คุณพี ได้รับคำชมจากแฟนๆอนิเมบ้านเรา ในแง่ของเนื้อเพลงที่ลึกซึ้งกินใจ และได้อารมณ์ความเร้าใจใกล้เคียงกับเพลงอนิเม จนถึงขณะนี้ เพลงดังกล่าว มียอดวิวบน Youtube บนช่องหลักของ พีสะเดิด มากกว่า 4.6 ล้านวิว แล้ว
* ดราม่า การแคส ดารา-นักแสดง มาร่วมพากย์หนังอนิเมในบ้านเรา อีกครั้ง โดยคราวนี้ เกิดขึ้นกับ ไอซ์ พาริส ผู้ได้รับเลือกจากค่ายหนัง ให้เป็นผู้พากย์เสียงเป็น เซ็นอิตสึ จากหนัง ดาบพิฆาตอสูร : ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ ฉบับพากย์ไทย ซึ่งสร้างความไม่พอใจแก่บรรดาแฟนๆเรื่องนี้เป็นอย่างมาก จนพากันขึ้นแฮชแท็ก #คืนอาชีพให้นักพากย์ จนติดเทรนด์ทวิตเตอร์ไทย (แฮชแท็กดังกล่าว เคยเกิดขึ้น เมื่อครั้งหนังอนิเม One Piece Stampede เข้าฉายในบ้านเรา ซึ่งทางค่ายหนัง ได้เลือกเอายูทูปเบอร์ รวมถึง ผู้มีชื่อเสียงในบ้านเราจำนวนหนึ่ง ร่วมพากย์หนังดังกล่าวด้วย)
* เจ-ชนาธิป สรงกระสินธ์ นักฟุตบอลระดับสตาร์ร่างเล็กทีมชาติไทย เจ้าของฉายา "เมสซี่ เจ" แห่งทีม Hokkaido Consadole Sapporo ของญี่ปุ่น ได้สำแดงฝีเท้าให้ชาวญี่ปุ่นได้ประจักษ์ ประทับใจ ประกอบกับลักษณะนิสัยความเป็นกันเองของเขา จนสามารถเอาชนะใจแฟนบอลเจ้าถิ่นได้ ในที่สุด และจากการที่เขาได้รับการยอมรับจากแฟนๆที่ญี่ปุ่น ทำให้เรื่องราวการต่อสู้บนสังเวียนค้าแข้งในญี่ปุ่น ของ เจ ผู้นี้ ได้ถูกนำไปดัดแปลงในรูปแบบมังงะ ชุด Chanathip Monogatari - Be Ambitious - ซึ่งได้ อ.Tsukasa Oshima ผู้แต่งมังงะ Shoot มารับหน้าที่วาดภาพและแต่งเรื่อง
* 2gether ซีรีส์นิยายแนว BL (Boys' Love) ของไทย ได้ฮิตระบือไกล เข้าถึงเหล่าสาววายญี่ปุ่น ซะจนได้รับการดัดแปลงเป็นมังงะญี่ปุ่น บนเว็บไซต์ News Crunch ของ Wani Books แล้ว! ซึ่งได้ อ.Okushima Hiromasa (Assistant Assassin ,Stay Gold) รับหน้าที่วาดภาพประกอบ
* ปาล์มมี่ อีฟ ปานเจริญ นักร้องสาวขวัญใจเด็กแนวบ้านเรา ได้รับเลือกจาก Disney ให้ถูกดัดแปลงในรูปแบบตัวการ์ตูน ของหนังอนิเมชั่น Soul ของ Pixar จากผู้สร้างและผู้กำกับหนังอนิเมชั่น Inside Out อย่างไรก็ตาม ปาล์มมี่ ในเวอร์ชั่นการ์ตูนนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งในแคมเปญโปรโมทหนัง Soul ที่ทาง Pixar จะเลือกศิลปินชาวต่างประเทศละคน มาเนรมิตรกลายให้กลายเป็นตัวการ์ตูน ซึ่งจะไม่ได้ปรากฏตัวในเนื้อเรื่องของหนังเรื่องนี้ แต่อย่างใด
# ลิสต์คนวงการการ์ตูน ผู้จากไป ในปี 2020
รอบปีที่ผ่านมา ได้มีคนในวงการการ์ตูนอนิเม หรือ วงการอื่นๆ ที่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการ์ตูน-อนิเม ได้จากโลกนี้ไป จำนวนหนึ่ง ด้วยสังขาร โรคร้าย หรือ อุบัติเหตุ
โดยเราได้รวบรวมชื่อมาพอสังเขป เพื่อรำลึกถึงคุณงามความดี รวมไปถึง ผลงานของพวกเขา ที่เคยฝากเอาไว้ ในช่วงที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ :
Shozo Uehara - คนเขียนบทมือฉมังระดับตำนาน จากซีรี่ย์แนวโทคุซัตสึ หรือ ซีรี่ย์ฮีโร่แปลงร่างญี่ปุ่น จำนวนหลายเรื่อง
Yuji Yamaguchi - ผู้กำกับอนิเมทีวีซีรี่ย์ Fate/stay night และ หนังอนิเมจอเงิน Fate/stay night: Unlimited Blade Works
Junichi Gotou - นักพากย์หนุ่มจากอนิเม Inferno Cop , Uchuu Patrol Luluco และพากย์สมทบให้อนิเมหลายเรื่อง
Kazuhisa Hashimoto - โปรดิวเซอร์ ผู้ให้กำเนิด "Konami Code" สูตรลับครอบจักรวาล ที่มาจากการกดปุ่มบนจอยเกม (บน + บน + ล่าง + ล่าง + ซ้าย + ขวา + ซ้าย + ขวา + B + A + start ) ซึ่งใช้ได้กับเกมวีดีโอ 8 บิต หลากหลายเกมของค่าย Konami
Hiroshi Masuoka - นักพากย์รุ่นดึก ผู้พากย์เสียงเป็นตัวละคร Uncle Jam หรือ คุณลุงแยม จาก Anpanman
Sankichiro Kusube - ประธานกิตติมศักดิ์ของสตูดิโออนิเม Shin-Ei Animation
Keiji Fujiwara - นักพากย์หนุ่มเจ้าบทบาทจากอนิเมหลายต่อหลายเรื่อง เป็นผู้พากย์เสียงเป็น ผู้พัน Hughes (Fullmetal Alchemist), Hiroshi Nohara (Crayon Shinchan)
Kumiko Okae - นักแสดง-นักพากย์สาว ผู้พากย์เสียงเป็น คุณแม่ของ Haru จาก The Cat Returns หนังอนิเมของ Studio Ghibli และ Jenny จากหนังอนิเม Pokémon: Lucario and the Mystery of Mew (เสียชีวิตจาก COVID-19)
Shu Wada - นักแสดงอาวุโส และ นักพากย์จากซีรี่ย์ขบวนการแปลงร่างสไตล์ญี่ปุ่น ยุคคลาสสิค ประกอบด้วย Inazuman, Kikaider 01, และ Himitsu Sentai Gorenger โดย Wada ผู้นี้ เป็น คุณพ่อของ Gen Urobuchi คนเขียนบทอนิเมมือฉมัง จาก Madoka Magica, Psycho-Pass, Fate/Zero (เสียชีวิตจาก COVID-19)
George Akiyama / Yūji Akiyama - นักเขียนมังงะรุ่นเก๋า เจ้าของสไตล์ดิบ-ดาร์ก จากผลงานมังงะเรื่อง Asura กับ Haguregumo
Ai Kamachi - นักเปียโน แต่งเพลง จากอนิเม Clannad, Angel Beats! , Charlotte
Tatsufumi Itou - อนิเมเตอร์ และ ผกก.อนิเม ประสบการณ์สูง ผู้อยู่เบื้องหลังอนิเมดัง ยุค 90 มากมาย
Morishige - ผู้แต่งมังงะเรื่อง Hanaukyo Maid Team หรือ ขบวนการสาวใช้โกลาหล (อนึ่ง Morishige เป็นชื่อนามปากกาของคู่นักเขียนมังงะ ที่เป็นสามี-ภรรยากัน แต่ยังไม่มีการระบุว่า ผู้เสียชีวิต คือ คนหนึ่งคนใด)
Haruma Miura - นักแสดงนำจากหนังคนแสดง Kimi ni Todoke , Attack on Titan
Kenta Watanabe - ผู้สร้าง Dennō Okami Chizuru มาสค็อตสาวงามประจำโรงแรม Ryokan Tsuruya Intaku
Sei Ashina - นักแสดงสาวจาก Kamen Rider Hibiki และ คนแสดงจากมังงะ-อนิเม จำนวนหนึ่ง
Kousei Tomita - นักพากย์รุ่นคุณปู่ ผู้พากย์เสียงเป็น Doraemon คนแรกสุดในประวัติศาสตร์
Izumi Matsumoto - ผู้แต่งมังงะ Orange Road "ถนนสายนี้เปรี้ยว"
Akira Kubodera - นักแสดงละครทีวี , ภาพยนตร์ และ ละครเวที ผู้รับบทเป็น Kanei ใน Kamen Rider Blade และ Kunzite ใน Pretty Guardian Sailor Moon
Hikari Yono - นักพากย์สาวรุ่นใหญ่ ผู้พากย์เสียงเป็น Kaolinite จากอนิเม Sailor Moon Crystal, Samui จาก Naruto และรับหน้าที่บรรยายให้กับหนังอนิเม BURN THE WITCH
Yusuke Okada - ประธานบริษัทในเครือ Toei Group
Eiko Hanamura - นักเขียนมังงะ ผู้ได้รับการยกย่องว่า เป็นผู้ให้กำเนิด มังงะแนวโชโจ หรือ การ์ตูนตาหวานสำหรับนักอ่านวัยรุ่นหญิง รวมไปถึง แนวโจเซย์ ซึ่งเป็นมังงะที่เจาะกลุ่มนักอ่านหญิงวัยทำงาน
Mana Kinjо̄ - นักแสดงสาวจาก Kishiryū Sentai Ryūsoulger
Luis Alfonso Mendoza - นักพากย์ชาวเม็กซิกัน ผู้พากย์เป็น Gohan ตอนโต จาก Dragon Ball เวอร์ชั่นภาษาสเปน
Gene Deitch - ผกก. + อนิเมเตอร์ จาก Tom and Jerry และ Popeye
Chadwick Boseman - นักแสดงนำจากหนังคนแสดง Black Panther
นี่คือเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวงการการ์ตูนตลอดปี 2020 ซึ่งวงการการ์ตูนในปีฉลู หรือ ปีวัว จะก้าวไปในทิศทางไหนนั้น ก็ต้องติดตามข่าวคราวกันต่อไปครับ ซึ่งเราก็ขอให้ทุกคนจงมีแต่ความสุข ความโชคดี จะทำอะไรขอให้แคล้วคลาดจากอุปสรรคทั้งปวง ในตลอดปี พ.ศ. ๒๕๖๔ และที่สำคัญ ขอให้ผ่านพ้นวิกฤติโควิด โดยเร็วที่สุด ได้รับวัคซีนที่เสถียร และทั่วถึงกัน ด้วยเถิด.......
สำนักข่าว K-D News (kartoon-discovery.com)
สามารถอัพเดทข่าวสารเว็บเราได้ผ่าน Twitter และ Facebook
หากนำข่าวจากเราไปเผยแพร่ที่อื่น รบกวนใส่เครดิตให้กับทางเราด้วยครับ ขอบคุณครับ